.ถ้าใครไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันนี้ว่าอย่างอย่างไรบ้าง *กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก ... ถอดเทปแถลงขึ้นเวปให้เรียบร้อยแล้วคะ***
26 พ.ย. 56 ณ อาคารรัฐสภา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
เรียน ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ
ดิฉันนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันนี้ก็ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้จะได้ทำหน้าที่ควบคุมติดตามและตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินโดยการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรีและคณะหัวหน้ารัฐบาลผู้บริหารราชการแผ่นดิน ที่ควบคุมกำกับการบริหารโดยภาพรวม ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดิฉันเองก็จะได้มีโอกาสได้ตอบข้อสงสัยและข้อซักถามของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ต้องกราบเรียนท่านสมาชิกฯ ที่เคารพว่า การกล่าวหาต่อดิฉันตามญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปนั้น ดิฉันขอเรียนตามหลักของรัฐธรรมนูญและความรับผิดชอบในหน้าที่นั้น ดิฉันมีความพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทั้งในหลาย ๆ เรื่องที่ได้ปรากฏในเอกสารญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารราชการล้มเหลว การบกพร่องไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถหรืออื่น ๆ วันนี้คงกล่าวไม่หมด ก็ได้มีการเขียนมาประมาณ 2 หน้ากระดาษ ซึ่งตรงนี้ดิฉันพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา แต่สำหรับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของดิฉัน ซึ่งเป็นญัตติอีกประเภทหนึ่งนั้นที่ได้มีการถกเถียงกันก่อนที่จะเริ่มมีการอภิปราย ก็ต้องกราบเรียนว่า ข้อกล่าวหาของดิฉันนั้นถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและไม่เป็นธรรมต่อดิฉัน ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมาตลอด 2 ปีเศษนี้ ซึ่งข้อกล่าวหาที่กล่าวหาในลักษณะของพฤติกรรมที่ส่อไปทางด้านของทุจริตต่อหน้าที่ราชการหรือจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งรายละเอียดก็เพิ่งจะทราบในวันนี้
ต้องกราบเรียนว่าในเนื้อหานั้นตามหลัก ดิฉันเองขออนุญาตอธิบายเป็นอุปมาอุปมัยว่า การชี้แจงเหมือนตำรวจว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาใคร ก็ต้องบอกว่าแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องอะไร แต่สำหรับเอกสารพยานหลักฐานนั้นแน่นอนค่ะ ต้องเก็บไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉะนั้นแน่นอน การกล่าวหาดิฉันโดยเฉพาะในญัตติเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตนั้น หัวข้อต่าง ๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสชี้แจง แต่อย่างไรก็ตามที่ท่านประธานได้อนุญาตให้มีการแจกในญัตตินี้มาให้ ดิฉันเองก็จะทำหน้าที่ที่จะตอบข้อซักถามให้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ตามบทของการอำนวยความยุติธรรมนั้น ผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องรู้ในเนื้อหา ประเด็นที่ผู้กล่าวหานั้นจะได้มีโอกาสได้ชี้แจงอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตามดิฉันก็พยายามที่จะชี้แจงให้ครอบคลุมตามประเด็นที่ท่านสมาชิกได้กล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีโอกาสได้ชี้แจงครบก็คงจะหาโอกาสในลำดับต่อไป
ขอเรียนว่า ในส่วนของการอภิปรายนั้นก็ยังมีหัวข้อต่าง ๆ ขออนุญาตเกริ่นในเบื้องต้นก่อน คงยังไม่ไปตอบในประเด็นทั้งหมด เพื่อที่จะได้รับฟังท่านสมาชิกฯ หลาย ๆ ท่านด้วย ต้องขออนุญาตเรียนชี้แจงในประเด็นในภาพรวมดังนี้
ด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่รัฐบาลนี้ได้เข้ามาบริหารประเทศเราก็เผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก ก็มีผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และเมื่อปี 2556 ก็จะเห็นว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการต่าง ๆ ในเรื่องของการผ่อนคลายการเงินของคิวอีของสหรัฐเมริกา ก็ส่งผลกระทบให้อัตราการแลกเปลี่ยนความผันผวนต่างๆ นั้น โดยเฉพาะค่าเงินบาทนั้นสูงสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งก็มีผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศในภูมิภาค
ต้องกราบเรียนท่านสมาชิกที่เคารพนะคะ การที่ดิฉันต้องมีการพูดอย่างนี้เพราะว่าเนื่องจากว่าในส่วนของเรื่องของการบริหารราชการนั้น เราเองก็ต้องคำนึงถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ แต่แน่นอนเรื่องของการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นก็เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลค่ะ และจากที่ได้ถูกกล่าวหาในเรื่องของการที่จะส่อไปสู่การทุจริตในทุกรูปแบบนั้น ดิฉันก็ขอเรียนว่าดิฉันไม่ได้กระทำการผิดตามที่กล่าวหาค่ะ ก็จะใช้โอกาสในรายละเอียดต่อไปนะคะ
เรียนว่าในส่วนของเศรษฐกิจอย่างที่เรียนว่ามีผลกระทบ แต่แน่นอนในส่วนของการทำงานของรัฐบาลนั้นเราก็เร่งในการที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องค่ะ ก็จะเห็นว่าวันนี้จากการดำเนินการดังกล่าวก็ทำให้จีดีพี ท่านจะทราบว่าวันแรกที่รัฐบาลนี้เข้ามา เกิดปัญหาในเรื่องของวิกฤตในเรื่องของอุทกภัย ซึ่งก็เป็นประเด็นที่ท่านผู้นำฝ่ายค้านได้กล่าวในส่วนของประเด็นเรื่องอุทกภัย แต่อย่างไรก็ตามค่ะ ผลจีดีพีหลังจากที่พบปัญหาวิกฤตนั้นก็สามารถที่จะพ้นปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และทำให้จีดีพีขยายตัว 6.5 เปอร์เซ็นต์ แล้วสิ่งที่เรานอกจากนั้นก็คือทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นค่ะ อย่างในปี 2554 รายได้ต่อหัวประชากรจาก 155,926 ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และล่าสุดในปี 2556 นั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นยอดประมาณ 174,658
ดิฉันขออนุญาตเรียนว่าหลาย ๆ อย่างที่ได้กล่าวหาว่าดิฉันไร้ภาวะผู้นำ ไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบต่อสภาฯ และประชาชน ลอยตัวเหนือปัญหาต่าง ๆ นั้น และรวมถึงการสมรู้ร่วมคิดกับพวกพ้องทำลายและข่มขู่ ก้าวก่ายสถาบันหลักของระบอบประชาธิปไตย ก็เรียนว่าทั้งสถาบันนิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรอิสระนั้นดิฉันเองก็ให้ความเคารพ และตลอด 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลก็ให้ความเคารพในหลักของประชาธิปไตย และปฏิบัติตามกติกาประเพณีมาโดยตลอดค่ะ แม้ว่ามีความคิดเห็นที่ต่าง รัฐบาลก็พยายามในการที่จะให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วม ได้มีโอกาสได้แสดงออกซึ่งความคิดเห็นภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลก็พยายามที่จะดูแลพี่น้องประชาชนด้วยความอดทน ด้วยหลักของข้อกฎหมาย และที่สำคัญหลักของสันติค่ะ ซึ่งเราก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลนี้ก็มีหน้าที่ในการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่ก็คือสิ่งที่เราได้เรียนยืนยันมาตลอดนะคะ
สำหรับเรื่องของปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นอย่างที่เรียนว่า เป็นปัญหาที่รัฐบาลก็ได้มีการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง และเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่ในนโยบายข้อที่ 8 ท่านคงทราบ และในส่วนของการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นก็มีในหลายขั้นตอน ตั้งแต่เรื่องแรก ในส่วนของภาครัฐนั้นเราได้มีการรณรงค์ในเรื่องของการปลูกจิตสำนึกต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ และมีการเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตประจำกระทรวง ซึ่งในช่วงนั้นท่านรองนายกฯ นิวัฒน์ธำรงฯ ก็ได้ดูแล ล่าสุดก็ได้มีการตั้งหัวหน้าศูนย์ มีการที่จะให้หน่วยราชการทุกหน่วยตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อที่จะมีหน่วยงานในการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของราชการ ท่านรองนายกฯ พงศ์เทพฯ ได้เป็นประธานในการดำเนินการนี้ และเรายังเปิดโอกาสให้กับภาคเอกชนซึ่งขณะนี้ได้ให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้หาวิธีการแนวทางที่จะให้เครือข่ายภาคเอกชนนั้นเข้ามาร่วมตรวจสอบและทำงานกับรัฐบาลค่ะ แต่อย่างไรก็ตามนะคะจากดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของประเทศไทยในปี 2554 นั้นเราอยู่ที่ 3.4 แต่ในปี 2555 อยู่ที่ 3.7 ค่ะ และยังมีอีกหลายเรื่องนะคะ
ต้องเรียนว่าอย่างในกรณีที่ได้กล่าวในเรื่องของกรณียึดทรัพย์ที่ถูกกล่าวหานั้น ก็เรียนว่าวันนี้คำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และโดยที่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้นมีผลบังคับใช้และให้เป็นเงินแผ่นดินแล้ว เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วข้อเท็จจริงใด ๆ ที่ใช้ในการต่อสู้เมื่อศาลไม่รับฟังก็จะถือว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จก็คงจะไม่ได้ ดิฉันก็จะไม่กล่าวถึงแม้ว่าอยากจะกล่าวถึงก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะกติกาของบ้านเมืองเราถือว่ายุติโดยคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และกฎหมายนิรโทษที่กล่าวหาก็ไม่ได้มีบทบัญญัติใดที่ให้คืนทรัพย์สินแก่ผู้ใดทั้งนั้น ดังนั้นก็เรียนว่าในส่วนของกฎหมายนิรโทษไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินค่ะ ซึ่งดิฉันเองก็ได้ยืนยันและประกาศเจตนารมณ์แล้ว และปัจจุบันนี้อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิกก็ไม่ได้รับร่างกฎหมายฉบับนี้แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
-----------------------------
26 พ.ย. 56 ณ อาคารรัฐสภา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
http://www.thaigov.go.th/index.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น