ปฏิรูปค้ำคอ รอส่วนผสมใหม่

ลาจอ ห่างจากเมืองไทยหลายวัน
ตามภารกิจที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. นำคณะใหญ่ เหินฟ้าไป เยือนประเทศอังกฤษ และฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายน 2561
เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของผู้นำรัฐบาล คสช. นับตั้งแต่เข้าสู่ตำแหน่ง
แสดงให้เห็นถึงสถานะเครดิตที่ยกระดับขึ้นของ พล.อ.ประยุทธ์ในเวทีสหภาพยุโรป (อียู) จากที่โดนแซงก์ชัน อียูไม่คบค้าสมาคมเลยในช่วงแรกๆของการยึดอำนาจ
แต่เมื่อรัฐบาล คสช.ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่
โดยเฉพาะการใช้อำนาจพิเศษเชิงบวกในการแก้ไขปมปัญหาที่ฝังรากลึกมานาน ทั้งการค้ามนุษย์ที่โยงกับแรงงานประมง หรือการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นระบบ เปลี่ยนไปแบบเห็นหน้าเห็นหลัง
แก้โจทย์ได้ตรงกับที่ชาติตะวันตกตั้งแง่ใส่ นั่นก็ทำให้แรงต้านลดลงไป ก่อนที่อียูจะประกาศฟื้นความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศไทยในทุกมิติ
และโดยการนี้ ก่อนออกเดินทางไป ยังมีชอตสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงผ่านสื่อมวลชน ยืนยันประเทศไทยจะจัดการเลือกตั้งใหญ่ภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เป็นการตอกย้ำความชัดเจน เงื่อนไขสถานการณ์โรดแม็ปไปสู่การเลือกตั้งของประเทศไทยที่แปรผันตามห้วงเวลาพิเศษ ภายใต้บริบทการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อันเป็นที่เข้าใจตรงกันทุกฝ่าย ทั้งในและต่างประเทศ
ด้วยเหตุผลที่อธิบายได้ ผู้นำรัฐบาลไทยได้ตอบโจทย์ของอียูก่อนบินไป นั่นก็เป็นอะไรที่นำมาซึ่งฉากที่นางเทเรซา เมย์ ผู้นำอังกฤษ ได้เปิดทำเนียบ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์
จากที่กำหนดเวลาไว้ 30 นาที แต่คุยจริงเป็นชั่วโมง
พร้อมตอบรับการดำเนินความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เตรียมเจรจาเปิดการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหราชอาณาจักร ยินดีสนับสนุนภาคเอกชนอังกฤษลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และร่วมมือพัฒนาการศึกษาเป็นกลไกพัฒนา ประเทศ
และก็เช่นเดียวกันกับสถานการณ์ที่ประธานาธิบดี “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้การต้อนรับ คณะผู้นำไทย พร้อมเดินหน้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
มันคือโอกาสดีของประเทศไทยที่กลับคืนมาพร้อมกับเครดิตของ พล.อ.ประยุทธ์
แม้จะมีชอตที่สื่อต่างประเทศอย่างไทม์ แมกกาซีน พาดหัวถล่มผู้นำไทย จากการนำบทสัมภาษณ์ “บิ๊กตู่” ไปตัดต่อคำถามนำ เลือกเอาปมลบเขียนบทความโจมตี
“จงใจ” ปล่อยออกมาดิสเครดิตผู้นำไทยในช่วงบินไปยุโรปพอดิบพอดี
มันเป็นอะไรที่น่าสงสัย มีขบวนการคนไทยรู้กับสื่อฝรั่งจ้องบลัฟภาพอินเตอร์ของ “บิ๊กตู่” หรือไม่
อย่างไรก็ดี ตัดฉากกลับมาที่เมืองไทย ก็มีจุดไฮไลต์ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้นัดตัวแทนพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง บ่ายวันที่ 25 มิถุนายนต้นสัปดาห์หน้า

ประเมินตามบรรยากาศ จึงถือเป็นรอบสัปดาห์ที่เกิดความชัดเจนมากที่สุด ในการเดินหน้า กระบวนการเลือกตั้ง ตามโรดแม็ปที่ พล.อ. ประยุทธ์ได้ประกาศสัญญาประชาคมไว้
โดยที่ คสช.ยังค่อยๆปล่อยทีละขยัก
ไม่ปลดล็อกพรวดพราดให้เสี่ยงวุ่นวาย ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงยังต้องเฝ้าจับตาทุกระยะ ภายใต้ภาวะปกติของห้วงอำนาจพิเศษ
แต่นั่นก็ขยับกันคึกคัก นักการเมืองระดับโคตรเซียนขยับตัวพร้อมรับสัญญาณ
เปิดไพ่ หงายแต้มกันแล้ว
ตามปรากฏการณ์ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ขึ้นเครื่องบินไปทาบทาม “ติงลี่” นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรฯ แกนนำ ส.ส.อีสานพรรค เพื่อไทย ถึงถิ่นจังหวัดเลย
ก่อนที่นายปรีชาจะประกาศตัวเลยว่า นายสุริยะกับนายสมศักดิ์มาเชิญให้เข้าร่วมงานกับพรรคการเมืองใหม่ และพร้อมแถลงเปิดตัวเลยถ้าทุกอย่างเคลียร์
มาเร็ว เคลมเร็ว ออกตัวร้อนแรง
จุดเริ่มต้นปฏิบัติการ “รีเทิร์น” สนามการเมืองของ “สุริยะ” อย่างเป็นทางการ
ในฐานะ “คีย์แมน” ของค่ายพลังประชารัฐ
โดยการเชื่อมโยงกับ “ก๊วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อ” ในอดีตพรรคไทยรักไทย อันประกอบด้วย “สมศักดิ์-สุริยะ” และอีกคนที่นั่งหัวโต๊ะก็คือนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กัปตันทีมเศรษฐกิจรัฐบาล
ผู้ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ตีตั๋วต่อนายกรัฐมนตรี
ตามมุมที่มองกันได้ว่า “สุริยะ” คือลูกศรธนูดอกที่สามของ “สมคิด” ในปฏิบัติการก่อกำเนิดป้อมค่ายพลังประชารัฐ เป็นฐานการเมืองสนับสนุน “นายกฯ ลุงตู่” ยกระดับความชอบธรรม กลับมาเบิ้ลเก้าอี้ในฐานะนายกฯ คนในผ่านบัญชีพรรคการเมือง
และก็ได้ผลตามเป้า ด้วยยี่ห้อ “สุริยะ” ในสายตาของนักเลือกตั้งอาชีพคือ “หัวจ่าย” พลังสูง มากด้วยประสิทธิภาพและทรงประสิทธิผลสมัยพรรคไทยรักไทย
การเปิดตัวของ “สุริยะ” จึงกระตุกแรงเหวี่ยง สร้างอิมแพกต์ทางการเมืองอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะแรงตกกระทบที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย
สะท้อนจากอาการที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ออกมายอมรับวิกฤติ “เอาไม่อยู่แล้ว” แนวโน้มพื้นที่อีสานของพรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุดแน่

พรรคใหม่ของเครือข่าย “สามมิตร” ส่อไม่พ้นโดนชาวบ้านหลอก
“รับเงินหมา กาเพื่อไทย”
สถานการณ์ยังโยงไปถึงช็อตที่ “น้องปู” อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาโพสต์โซเชียลฯเป็นครั้งแรก หลังหนีคดีจากเมืองไทย ขอบคุณกองเชียร์ที่ให้กำลังใจในโอกาสวันคล้ายวันเกิด
ในซีนที่ต่อเนื่องกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ปราศรัยย่อยๆในงานฉลองเบิร์ธเดย์น้องสาวที่อังกฤษ ปล่อยมุก “อีสานเขียว” คุยโวพรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส. หมดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คุยเขื่อง เบิ้ลบลัฟ อ้อน ผวา ฝ่อ ปลุกปลอบใจตัวเอง
สารพัดอารมณ์ ที่สะท้อนอาการหวั่นไหวของแชมป์เก่าอย่างพรรคเพื่อไทย
เมื่อเจอไพ่ใบสำคัญ อดีตคนของ “ทักษิณ” อย่างนายสุริยะมาแท็กทีม “สมคิด” เดินหน้าเครือข่าย “สามมิตร” เจาะฐาน ทอนแต้มของพรรคเพื่อไทยตรงกันข้ามกับสถานการณ์คึกคัก เมื่อมวยตัวจริงอย่าง “สุริยะ-สมศักดิ์” เปิดตัวเป็นแม่ทัพในสนามเดินตามที่ “สมคิด” ยิงลูกศรธนู เปิดเกมเรียกแขกอดีต ส.ส.เกรดเอ
หุ้นพลังประชารัฐดีดขึ้นทันทีทันใด
แต่นั่นก็มาพร้อมเครื่องหมายคำถาม ตามรูปการณ์ที่เห็นกันอยู่ว่ามีแต่นักการเมืองเก่า วิธีการเดิมๆ แล้วมันมีตรงไหนที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิรูป
โดยเงื่อนไขสถานการณ์ย้อนแย้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบยาก

“บิ๊กตู่” ต้องแชร์อำนาจให้นักการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมแจม
แม้จะไม่ได้เหนือคาดหมาย โดยระบบนิเวศการเมืองแบบไทยๆ
อีกทั้งไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไป มันก็มีตัวอย่างมาแล้วในยุคก่อกำเนิดพรรคไทยรักไทย “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ใช้โมเดลเดียวกันนี้ ดึงไดโนเสาร์ขี่ดาวเทียมมาสู่ยุคคิดใหม่ทำใหม่
เพียงแต่ยุคนี้ยากกว่า ตรงกระแสการปฏิรูปที่ค้ำคอ พล.อ.ประยุทธ์
ความท้าทายมันอยู่ตรงที่ ด้านหนึ่งก็คือความจำเป็นต้องพึ่งคนเก่าเป็นฐาน อีกด้านหนึ่งก็คือความจำเป็นต้องยึดเงื่อนไขปฏิรูปล้อกระแสคนรุ่นใหม่
ภาพเก่าน้ำเน่าเจืออยู่กับเงื่อนไขปฏิรูป
ต้องรอดูส่วนผสมของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้ง
ทีมหนุน “ลุงตู่” จะเขย่าส่วนผสมยังไงให้ลงตัว.
“ทีมการเมือง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น