PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

เกมภายในแก้ยากกว่า

เกมภายในแก้ยากกว่า



ถึงแม้ติดป้ายแม่ทัพเศรษฐกิจ แต่ล่าสุด “จอมยุทธ์กวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยืนปักหลักให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเมือง ร่ายยาวเรื่องเปิดค่ายตั้งพรรคหนุน “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เลกเชอร์การเมืองสร้างสรรค์ “อย่าเริ่มต้นเข้ามาก็ทะเลาะกัน-ไม่ว่าพรรคไหนก็ดีทั้งนั้น”

เอาเป็นว่ามุมการเมืองสร้างสรรค์ของคีย์แมนคนสำคัญรัฐบาล คสช.ก็ต้องยึดเป็นหลักไว้ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ “ดร.สมคิด” เชิญชวนให้เข้ามาช่วยบ้านเมืองด้วยหลักการที่ไม่ได้ยึดตัวบุคคล

อย่างที่ออกตัว คนเรามีอายุขัย “ผม 65 ปีแล้ว”

ยกเรื่องวัย กั๊กเส้นทางเดินการเมืองต่อ

แต่อีกทางที่แทงเต็งแล้ว ดร.สมคิด ประกาศหนุนคนดี หาก “บิ๊กตู่” ไปต่อสู่เก้าอี้ผู้นำคนนอก นั่นก็สอดคล้องข่าวที่ว่า “กัปตันทีมเศรษฐกิจ” นอกจากเร่งอัดฉีดแก้ปมเศรษฐกิจปากท้องปัจจัยหนุนแผนต่อตั๋ว

ยังควบตำแหน่ง เป็นอีก “ดีลเมกเกอร์การเมือง” ประสานขั้วฝ่ายการเมือง

เริ่มชัดว่า “ดร.สมคิด” มีบทบาทสูงในพรรคการเมืองหนุน “บิ๊กตู่” ที่เพราะปรากฏชื่อ ทั้ง “อุตตม สาวนายน” รมว.อุตสาหกรรม “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พาณิชย์ 2 ขุนพลเอกของ “สมคิด” เดินงาน

ขณะที่ไพร่พลกำลังจากสารพัดก๊วน ทั้งนักการเมืองสมัยร่วมวงไทยรักไทย แยกไปร่วมก่อร่างอีกหลายค่ายใหม่ และมีเครือข่ายส่วนตัว แวดวงวิชาการ คอนเน็กชันธุรกิจยักษ์ เจ้าสัว มหาเศรษฐี

“เฟรนด์ ออฟ สมคิด” ฟอร์มทีม เริ่มเข้ารูปเข้ารอย

นั่นก็เป็นอะไรที่สวนทางค่ายการเมืองคู่แข่งกับ “พรรคหนุนบิ๊กตู่” โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังเช็กยอดกันไม่จบ ขณะที่ส่วนแยกอย่างปีก “ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” นอกจากฝากเลี้ยง แฝงตัวที่ ปชป.

อีกส่วนก็แบ่งทัพ “เทือกสุบรรณบราเธอร์” ไม่กลับค่ายเก่า ยังมีทีม กปปส. หลายรายที่ยังแทงกั๊ก ถ้าหากไม่จับมือบรรดาสมาชิกเสื้อเหลืองกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคเอง เผลอๆ “ลุงกำนัน” อาจเคาะชัดๆอีกครั้ง

มีกระแสข่าว ดีลกับ “จอมยุทธ์กวง” อยู่เหมือนกัน

และที่ยังป่วนไม่รู้จบ ค่ายนายใหญ่ พรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดเช็กยอดแล้วก็เท่านั้น เพราะชัดอยู่แล้วว่ากลุ่มนครปฐม ไม่คัมแบ็ก นิ่งรอดูสถานการณ์ เว้นวรรคหรือไปต่อที่ค่ายสีเขียวลายพรางหรือไม่

ส่วนกลุ่มวาดะห์ กลุ่มการเมือง 3 จังหวัดภาคใต้ มีชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตบิ๊กดีเอสไอ–ศอ.บต. ที่แนบแน่นกับ 2 อดีตนายกฯ ชาย–หญิง ตระกูลชินฯ ร่วมวงด้วย

เช่นเดียวกับพรรคอดีตบิ๊กตำรวจ ที่พลิกท่าที หันมาถล่มรัฐบาล คสช.เป็นรายวัน เดินไลน์เดียวกัน

รวมทั้งน่าจะมีอีกหลายค่าย ทั้งพรรคสีเสื้อ พรรคภูมิภาค ที่มีเงาร่าง “นายใหญ่” อยู่เบื้องหลัง

ทั้งนี้ เป็นเพราะสูตร “แยกร่าง” นอกจากจะช่วยเรื่องความคล่องตัว ลดการเป็นเป้า ยังส่งผลบวกในกฎกติกาใหม่ ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม บอนไซค่ายการเมืองใหญ่

การเปิดค่ายเพิ่ม อย่างน้อยเก็บแต้มจากลำดับรองในเขตเลือกตั้ง เพิ่มเสียงในระบบสัดส่วนได้

“แตกทัพ” บวกแต้ม แก้เกม “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ของขั้วอำนาจพิเศษ

ส่วนปมปัญหาภายในพรรคหลัก ค่ายเพื่อไทย “ศึกเจ๊ๆเฮียๆ” ยังระอุเดือด เจ้าแม่ที่ว่าประกาศล้างมือการเมือง แต่ก็ยังทรงอิทธิพลในพรรค จับมือเฮียๆต้าน “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ให้โต

แต่นางสิงห์ กทม.ได้ “ลูกชายนายใหญ่” หนุนหลัง และยังมีไพ่ใบใหญ่ “จันทร์ส่องหล้า” หนุนเนื่อง
ขณะที่ “นายใหญ่” ใช้ตำรับหวานเจี๊ยบ ใครไปฟ้องก็ฟังใครไปหาก็เออออ “ลอยตัว” กันอยู่

ถึงได้มองกันว่าคิวนี้ “ตระกูลชินฯ” ต้องคุยกันเอง

และคงไม่ใช่เรื่องยาก กับเก้าอี้หัวหน้าพรรค เพราะเอาเข้าจริงก็แค่นั่งเป็นตัวเชิดไว้ประกอบพิธีกรรม

“เจ๊หน่อย” หรือบิ๊กเนมอื่นๆน่าจะเปิดศึกชิงโควตาที่นั่ง เป็น 1 ใน 3 ติด “บัญชีนายกฯ” ของพรรคเพื่อไทย ที่โชว์ขายในสนามเลือกตั้ง

ลุ้นเป็น “นอมินี” ไปชิงเก้าอี้ผู้นำเสียมากกว่า.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: