PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

“หยอง ลูกหยี” เผยโดนยกเลิกงานหลังขึ้นเวทีต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

“หยอง ลูกหยี” เผยโดนยกเลิกงานหลังขึ้นเวทีต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แจงตนไม่ได้มาเชียร์ประชาธิปัตย์ ไม่ได้มาไล่รัฐบาล แต่มาแสดงจุดยืนว่าไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับนี้ จวกถ้าอยากกลับเท่ๆ ก็ให้คิดใหม่ทำใหม่ บอกขอโทษนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เคยสนิท ตอนนี้ตนคิดต่างแล้ว พร้อมไล่พวกจาบจ้วงในหลวงให้ไปอยู่ประเทศอื่น ลั่นไม่กลัว ถึงตนต้องตายก็ตายแบบสง่างา

เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ได้รับผลกระทบจากการแสดงจุดยืนในการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง แต่นักแสดงตลกชื่อดัง “หยอง ลูกหยี” ก็ไม่ได้หวั่นกลัวและไม่เปลี่ยนใจ แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะถูกรายการโทร.มายกเลิกทั้งที่ติดต่อไว้แล้ว ค่ายละคร 2 เรื่องโทร.มาเตือนให้หยุดขึ้นเวทีปราศรัย ห้ามไม่ให้ยุ่งเรื่องนี้อีก แต่เจ้าตัวประกาศลั่นไม่สนผลกระทบอะไรที่จะเกิดขึ้นกับตนทั้งนั้น เพราะสิ่งที่ทำคือการแสดงความจงรักภักดีกับประเทศชาติ และพระมหากษัตริย์ ถึงตนต้องตายก็ตายอย่างสง่างาม

“หลังจากที่ลงจากเวทีสามเสนมาก็มีผลกระทบอยู่ มีรายการที่จองคิวไว้ก่อนหน้านี้เขาก็มาขอดร็อปไว้ก่อน มีละคร 2 เรื่องโทร.มาเตือนให้หยุด อย่าไปยุ่งเลย ผมก็บอกว่าในเมื่อผมออกมาครั้งนี้ผมมาแสดงจุดยืน ผมมาแสดงความจงรักภักดีกับประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ แล้วแนวคิดนี้ผมคิดเหมือนประชาชนอีกหลายล้านคน ถ้าคิดว่าไม่ถูกต้อง เป็นความชั่ว ความเลวของผมก็เชิญตัดผม เชิญเลย”

“ผมไม่สนผลกระทบอะไรกับชีวิตผมอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดกับประเทศชาติ กับในหลวงของผม ผมไม่ยอม เราเป็นคนไทยครับ ผืนแผ่นดินนี้ทุกตารางนิ้วพระองค์ท่านทรงเดินชนปัญหากับพสกนิกรชาวไทย พวกคุณเป็นใครถึงมาจาบจ้วงดูหมิ่นดูแคลนสถาบัน คุณทำกันเป็นกระบวนการ คุณทำให้สถาบันเสื่อม คุณอุปโลกน์เรื่องอะไรกันมาก็ได้เหรอ พวกคุณใช้เงินจ้างคน แต่วันนี้คุณเห็นแล้วนะ มวลอภิมหาประชาชนในวันนี้เขาออกมาเป็นพลังบริสุทธิ์ คนทุกชนชั้นเขาออกมา เขาออกมาทำไมกันครับ เขาออกมาเพื่อประเทศชาติ ถ้ายังปล่อยเขาเอาไว้แบบนี้เขาก็จะยิ่งเหิมเกริม ก็เอาเถอะ จะขนใครมาก็ช่าง”

“ตระกูลผมเป็นตระกูลใหญ่มากทางภาคอีสาน ผมมั่นใจว่าผมมีญาติพี่น้องทั่วหลายจังหวัด มีหลายท่านโทร.มาเตือนเพราะเป็นห่วงเป็นใย กลัวผลจะถูกทำร้าย ผมจะทำมาหากินไม่ได้ เพราะผมรู้ว่าขี้ข้าปัญหาอ่อนมันเยอะ แต่ผมไม่กลัวหรอกนะ ไม่ว่าเวทีจะจบด้วยวิธีไหน จบลงยังไง ผมคนนี้ก็ยังเป็นตลกอยู่เหมือนเดิม ผมยังทำงานเหมือนเดิมถ้าผู้ใหญ่ให้งาน วันนี้ผมเรียนหนังสือ ผมคิดเรื่องพวกนี้อยู่ เรื่องการเมืองมันเป็นเรื่องของอนาคต ไม่ใช่ 1-2 วันนี้ ผมยังต้องศึกษามากกว่านี้ ถ้าผมจะเล่นการเมืองเราต้องดูว่าประชาชนจะได้อะไร เราจะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง เราจะทำคุณให้แผ่นดีได้อย่างไรบ้างให้มากที่สุด”

“วันนี้บุคคลสาธารณะไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้จัดอะไรก็แล้วแต่ที่ออกแสดงจุดยืน ผมเห็นใจพวกเขานะ ดูสิที่จะมาฟ้องกัน เขาจะต้องไปมีปัญหากับสังคมอีกมากมาย ผมอยากให้รวมพลังกัน บอกเลยว่าพวกสื่อรับจ้างอ่ะ ช่องหลายๆ ช่อง ที่เกรงอกเกรงใจรัฐบาลเสียเหลือเกิน คุณกำลังปิดหูปิดตาประชาชน ประเทศนี้มันบอบช้ำมาจะ 10 ปีแล้วนะ มีเหรอคนบ้านหลังเดียวกันคิดกันคนละแบบ สื่อมวลชนแย่งกันคิดเป็น 2 ข้าง”

“ผมอยากจะบอกพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านเลย อย่าปิดหูปิดตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ผมอ่านหนังสือพิมพ์หลายเล่มทุกวัน ผมอ่านผมรู้ เล่นไหมเป็นกลาง เล่นไหนของรัฐบาล และวันนี้ผมขอให้กำลังใจศิลปิน คนบันเทิงผมไม่เคยคิด ผมไม่เคยกังวลกับเรื่องจะไม่มีคนจ้างงาน ผมบอกเลยวันไหนผมไม่มีงานเล่น ผมอดอยากผมแสดงจุดยืนวันนี้ ผมทำความดีให้กับแผ่นดินนี้ ถ้าผมต้องลำบาก ผมต้องตาย ผมก็จะตายแบบสง่างาม ผมลำบาก ครอบครัวผมขายบ้านแล้ว วันนี้ผมขายบ้านได้แล้ว ใช้หนี้หมด ขายบ้านหลังใหญ่ไปอยู่ทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กๆ อยู่แบบพอเพียงจะได้ไม่ต้องแบกภาระหนี้สินอีกต่อไป อยู่แบบพอเพียงตามพ่อสอน”

ให้กำลังใจศิลปินที่ออกมาร่วมต้าน พ.ร.บ.บอกถึงเวลาที่ต้องออกมาแสดงจุดยืนแล้ว พร้อมขอโทษนักการเมืองฝั่งตรงข้ามที่สนิทสนมกันด้วยที่วันนี้ตนคิดต่างแล้ว และตนจะไม่หลุดอยู่แค่ที่เวทีราชดำเนิน เนื่องจากตอนนี้มีหลายจังหวัดเชิญให้ตนไปขึ้นเวที
“ผมจะบอกเลยว่าพี่น้องศิลปินทุกคนหากท่านจะทำสิ่งดีๆ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย วันนี้ท่านมีโอกาสแล้ว ขอให้ท่านออกมาแสดงจุดยืน มันเป็นความดีที่บริสุทธิ์มาก เราคนไทยจะได้กลายเป็นน้ำหยดเดียวกันแล้วก็คิดเหมือนกัน เราทนดูพวกนี้กันมานานแล้ว เราเป็นไทยเฉยกันมานานแล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องแสดงจุดยืน ผมไม่ได้ไปว่าใครนะ ยังไงก็ขอโทษผู้ใหญ่ที่เคารพทุกท่านที่เคยดูแล เคยเมตตาผม พี่ๆ นักการเมืองที่รักผมที่อยู่ฝั่งโน้นก็มีเยอะ ผมก็ขอโทษด้วย ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน อยู่พรรคไหนก็แล้วแต่”

“ผมไม่ได้มาเชียร์ประชาธิปัตย์ ผมไม่ได้มาไล่รัฐบาล แต่ผมมาแสดงจุดยืน ซึ่งจุดยืนของผมก็คือผมรับ พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้ และผมรับไม่ได้กับการจาบจ้วงดูหมิ่นดูแคลนสถาบัน ผมรับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกคุณเป็นใคร คิดใหม่ทำใหม่เถอะนะครับ อยากกลับเท่ๆ วันนี้ออกเท่ๆ ก่อนดีกว่านะ หากพวกคุณไม่รักและเคารพพระเจ้าอยู่หัว ก็ช่วยออกจากพื้นที่ที่เรียกว่าประเทศไทยไปเถอะครับ ก็ต้องขอโทษพี่ๆ นักการเมืองฝั่งโน้นด้วย วันนี้ผมคิดแบบนี้แล้ว”

“แล้วบอกเลยว่าผมไม่ได้รับสคริปต์จากใครทั้งนั้น ผมออกมาด้วยตัวเอง ออกมาด้วยจิตใต้สำนึกของผมเอง ใครจะว่ายังไงผมไม่สนใจ ไปไหนก็ไปคนเดียวเหมือนเดิม ผมไม่ได้มาแค่เวทีนี้เวทีเดียว ผมไปทุกเวทีที่มีการต่อต้าน วันก่อนผมไปพิจิตร สุราษฎร์ธานี โคราช มีอีกหลายจังหวัดครับที่เขาเชิญผมไป แล้วผมก็จะไป ผมไม่กลัวครับ”

แดง กวป.บุกศาล รธน.โวยคำร้องค้านแก้ รธน.มาตรา 190

แดง กวป.บุกศาล รธน.โวยคำร้องค้านแก้ รธน.มาตรา 190 อ้างไม่ตรงกับมาตรา 68 ยันเคยมีคำวินิจฉัยมาตรา 291 แล้ว จี้ “จรัญ-นุรักษ์” ถอนตัว อ้างมีส่วนได้เสีย นัดขนสาวกกดดันหน้าศาล 18 พ.ย.
วันนี้ (14 พ.ย. ) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) นำโดยศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง ในฐานะแกนนำ กวป. และนายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความเสื้อแดง เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ คัดค้านการพิจารณาคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่มีการจำกัดอำนาจรัฐสภาในการพิจารณาให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาที่รัฐบาลต้องการดำเนินการซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องเรื่องดังกล่าวของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไว้วินิจฉัยว่าเข้าข่ายกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้รัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญมาตรา68 หรือไม่ไว้วินิจฉัย

โดยนายหนึ่งดินกล่าวว่า ตนมองว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณานั้น มีความคลาดเคลื่อนกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 อีกทั้งในคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ศาลเคยมีคำวินิจฉัยไว้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว.ไม่ได้เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ดังนั้น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ผ่านวาระ 3 จึงไม่ใช่ร่าง พ.ร.บ.ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่มีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัย ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้ นายจรัญ ภักดีธนากุล และนายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอนตัวจากการเป็นองค์คณะพิจารณาคดีคำร้องที่เกี่ยวข้องในร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทุกฉบับ เนื่องจากบุคคลทั้งสองเคยเป็นอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (ส.ส.ร.) ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ กลุ่ม กวป.จะเริ่มมาปักหลักชุมนุมที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอติดตามการอ่านคำวินิจฉัยในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.ในวันที่ 20 พ.ย.นี้