PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

พบ 600 คนไทย-บิ๊กธุรกิจ-นักการเมืองตั้งบริษัทลับบนเกาะบริติชเวอร์จิ้น-เคย์แมน

04 เมษายน 2556 เวลา 18:16 น.
สำนักข่าวอิศราจับมือเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ (International Consortium of Investigative Journalists: ICIJ) เจาะข่าวการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) พบนักการเมือง มหาเศรษฐี นักร้องดัง หลากอาชีพกว่า 600 ราย เป็นเจ้าของบริษัทในพื้นที่ปลอดภาษีทั่วโลก

การรายงานข่าวครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวอิศรากับ ICIJ (www.icij.org) ซึ่งเป็นเครือข่ายอิสระของผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนจาก 60 ประเทศทั่วโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของข่าวสืบสวนสอบสวนเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตของบุคคลทั่วโลกร่วมกันของผู้สื่อข่าว 86 คนจาก 46 ประเทศ และรายงานผ่านทางสื่อกว่า 30 องค์กรทั่วโลก เช่นหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดี้ยน (The Guardian ) และสถานีโทรทัศน์ บีบีซี ของประเทศอังกฤษ หนังสือพิมพ์ เลอมองด์ (Le Monde ) ของฝรั่งเศส หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐฯ รวมทั้งสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ของประเทศไทย
ที่มาจากข้อมูลในความครอบครองของ ICIJ ในครั้งนี้ ได้มาจากฐานข้อมูลลับของบริษัทนายหน้าให้บริการจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตใหญ่ระดับโลกสองราย  คือ บริษัทพอร์ตคูลลิสต์ ทรัสต์เน็ต (Portcullis TrustNet) ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แต่มีสาขาอยู่ในหลายประเทศ และบริษัทคอมมอนเวลธ์ ทรัสต์ ลิมิดเต็ด (Commonwealth Trust Limited) ที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น โดยข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วยประกอบด้วยไฟล์ทั้งหมด 2.5 ล้านไฟล์ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลและตัวแทนบุคคล 130,000 ราย และบริษัทนอกอาณาเขต 120,000 บริษัท
แม้ว่าการเป็นเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขตซึ่งหมายถึงบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศหรือเขตปกครองที่มีกฏหมายปลอดภาษีและกฏหมายที่เอื้อต่อการปกปิดข้อมูลบริษัท จะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย  แต่ข้อได้เปรียบเรื่องปลอดภาษีและการไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลบริษัท ทำให้โดยอาชญากร นักธุรกิจ และนักการเมืองทั่วโลกใช้บริษัทนอกอาณาเขตในการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่นการเลี่ยงภาษี และการปกปิดการถือครองทรัพย์สิน เป็นต้น
สำหรับประเทศพบว่า มีชื่อบุคคลและบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยกว่า 600 ราย ที่เป็นเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขต พื้นที่ต่างๆทั่วโลก เช่น บริติช เวอร์จิ้น, เมอริเชียส และแกรนด์ เคย์แมน 
ในจำนวนนี้ นอกจากเจ้าของกิจการและผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ แล้ว  ยังมี นักการเมืองและสมาชิกในครอบครัว, ตระกูลนักธุรกิจใหญ่, อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้อยู่ในวงการบันเทิงบางราย เช่น นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย, คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร,  นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์, นาย ประเสริฐ ประคุณศึกษาภัณฑ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดขอนแก่น, นายสุทธิรรม จิราธิวัฒน์, นายอิสระ ว่องกุศลกิจร่วมกับสมาชิกในตระกูลว่องกุศลกิจบางราย และนักร้องชื่อดัง “แอ้ด คาราบาว”
ข้อมูลจากบริษัทพอร์ตคูลลิสต์ ทรัสต์เน็ตชี้ว่า ในปี 2550 คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ได้จดทะเบียนเป็นเจ้าผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวของบริษัท พรีเมี่ยม ซีเล็คท์ อิ้งค์ (Premium Select Inc) ที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น โดยใช้บริการของ UBS AG ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยใช้บริษัทนอมินีที่จดทะเบียนที่เกาะบริติชเวอร์จิ้นสองบริษัท คือบริษัทเอ็กซ์คอร์ป ลิมิดเต็ด (Excorp Limited) และ แชร์คอร์ป ลิมิดเต็ด (Sharecrop Limited) จดทะเบียนผู้อำนายการและผู้ถือหุ้นของบริษัทพรีเมี่ยม ซีเล็คท์ อิ้งค์ตามลำดับ
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีคุณหญิงพจมานได้ใช้ประโยชน์บริษัทพรีเมี่ยม ซีเล็คท์ อิ้งค์หรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตามพบว่าคุณหญิงพจมานไม่ได้จ่ายเงินค่าต่อใบอนุญาตบริษัทในปีถัดมา 
ในขณะเดียวกัน พบว่านายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ เป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ของบริษัท บริษัทที่บริติชเวอร์จิ้น จำนวนสองบริษัท โดยในปี 2547 นายบรรณพจน์จดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ของบริษัท บาวน์ตี้ ฮาร์เวสต์ คอร์เปอเรชั่น (Bounty Harvest Corperation) โดยใช้บริษัทนอมินีเดียวกันกับคุณหญิงพจมานจดทะเบียนเป็นผู้อำนวยการและผู้ถือหุ้น ไม่มีข้อมูลเช่นเดียวกันว่าบริษัทบาวน์ตี้ ฮาร์เวสต์ คอร์เปอเรชั่นทำธุรกิจประเภทใด แต่บริษัทได้ปิดตัวลงในปี 2552
ในปี 2549 นายบรรณพจน์ซื้อบริษัททรอปปิก ออฟชอร์ โฮลดิ้ง อิ้งค์ (Tropic Offshore Holding Inc) และจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม พบว่าชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 255 การจดทะเบียนบริษัททั้งสองบริษัททำผ่านบริการของ UBS AG สิงคโปร์เช่นเดียวกับคุณหญิงพจมาน
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ คุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์ ผ่านทนายความส่วนตัว เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ 
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร กล่าวว่า “ผมไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องนี้ ได้ เพราะรับผิดชอบงานที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเข้าใจว่ามีทนายความคนอื่นดูแลอยู่”
นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย(พท.) ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ของคุหญิงพจมาน กล่าวว่า“ผมรับผิดชอบดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดินรัชดาเท่านั้นคงไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่เท่าที่ทราบข้อมูลที่ระบุว่า คุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์ มีบริษัทอยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้นน่าจะเป็นข้อมูลเก่า”
“เรื่องนี้น่าจะไปสอบถามคุณสมพร (พงษ์สุวรรณ) ทนายความส่วนตัวคุณหญิงพจมานที่รับผิดชอบคดียึดทรัพย์โดยตรงน่าจะดีกว่า”
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสมพร พงษ์สุวรรณ ทนายความส่วนตัวคุณหญิงพจมาน หลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยนายสมพรไม่ติดต่อกลับหลังจากที่ได้ฝากข้อความไว้ที่ บริษัทสมพร แอนด์แอสโซซิเอทส์ จํากัด ซึ่งเป็นสำนักกฎหมายของนายสมพร
นักการเมืองอีกผู้หนึ่งซึ่งมีชื่อในฐานข้อมูลคือนายประเสริฐ ประคูณศึกษาภัณฑ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดของแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเมทัลสิงค์ ไปรเวท ลิมิดเต็ด (Metalsing Private Limited) ที่ประเทศสิงคโปร์ร่วมกับภรรยาและบุตร ซึ่งนายประเสริฐได้รายงานการถือหุ้นบริษัทดังกล่าวในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อเข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกเมื่อ พ.ศ. 2551 อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศราไม่สามารถติดต่อนายประเสริฐเเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ได้
พล ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหมและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท วีเน็ต แคปิตอล อินเตอร์เนชั่นนัล จำกัด (Vnet Capital International Limited) ร่วมกับนักธุรกิจชาวไทยกลุ่มหนึ่ง ในปี 2541 พล ร.อ. บรรณวิทย์เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองซื้อหุ้นบริษัทนี้ในจำนวนไม่มากโดยถือเป็นการลงทุน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารของบริษัทแต่ประการใด
“ผมซื้อหุ้นจำนวนน้อยเป็นการลงทุนส่วนตัว โดยคุณณรงค์ อินทเนตร ซึ่งพบกันในการประชุมกรรมการสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตปทุมวันด้วยกันเป็นคนชวน แต่ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารของบริษัท เข้าใจว่าขณะนี้บริษัทได้แปรสภาพไปแล้ว”  พล ร.อ. บรรณวิทย์กล่าวและยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าบริษัทนี้ตั้งอยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้นใช่หรือไม่ 
นอกจากนักการเมืองแล้ว  ยังพบว่ามีสมาชิกในตระกูลนักลงทุนรายใหญ่ของประเทศไทยจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขต เช่นนายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ที่จดทะเบียนเป็นผู้อำนวยการและผู้ถือหุ้นของบริษัท เดลี่ เลเจ้น อินเวสทเม้นท์ ลิมิดเต็ด (Daily Legend Investment Limited) เมื่อปี 2551 โดยใช้บริการของ โกลด์แมน แซคส์ (เอเซีย) แอลแอลซี ในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม บริษัทนี้ยุติการทำงานในปีถัดมา 
นอกจากนั้นยังพบชื่อนายศักดิ์ชัย จิราธิวัฒน์ และนางสุรางค์รัตน์ จิราฒิวัฒน์ ภรรรยามีบริษัทชื่อ วินเทจ โกลด์ อินเวสต์เม้นท์ ลิมิดเต็ด (Vintage Gold Investment Limited) ที่บริติช เวอรืจิ้น เมื่อปี 2551 โดยบริษัทนี้จดทะเบียนผ่านบริการของ โกลด์แมน แซคส์ (เอเซีย) แอลแอลซี ในฮ่องกงเช่นเดียวกัน 
เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เลขานุการของนายสุทธิธรรมแจ้งว่า นายสุทธิธรรมเดินทางไปต่างประเทศและยังไม่แจ้งกำหนดกลับที่แน่นอน ในขณะที่ผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อนายศักดิ์ชัยและนางสุรางค์รัตน์เพื่อขอสัมภาษณ์ได้ 
สมาชิกตระกูลธุรกิจรายใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขตคือนายอิสระ ว่องกุศลกิจ และสมาชิกในครอบครัวอีก 4 คนซึ่งทั้งหมดเป็นผู้บริหารกลุ่มน้ำตาลมิตรผล โดย ปรากฏชื่อร่วมกันเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ของบริษัท แพน เอเซีย ชูการ์ ฟันด์ ลิมิดเต็ด (Pan-Asia Sugar Fund Limited) ที่เกาะแกรนด์ เคแมน โดยบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนก่อตั้งในปี 2541 ผ่านบริการของบริษัทเบเกอร์แอนด์แม็คเค็นซี่ที่ฮ่องกง 
สำนักข่าวอิศราได้ติดต่อไปยังนายอิสระ ว่องกุศลกิจ เพื่อขอข้อมูลเพืมเติมในการรายงานข่าว ผ่านนางสาว สุภาวี ว่องกุศลกิจ สมาชิกในครอบครัวผู้ทำงานในกลุ่มน้ำตาลมิตรผล แต่ได้รับแจ้งจากนางสาวสุภาวีว่า นายอิศระได้ตัดสินใจไม่ให้ข้อมูล “ผู้ใหญ่ได้ตัดสินในไม่ให้ข้อมูล เพราะเป็นบริษัทส่วนตัว” โดยนางสาวสุภาวีกล่าวว่าบริษัทดังกล่าวไม่เกี่ยวกับบริษัทน้ำตาลมิตรผล ทั้งยังไม่มีกิจกรรมใด (ไม่แอคทีฟ) แล้ว
ฐานข้อมูลของ ICIJ ยังระบุชื่อ นาย ยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” นักร้องนักดนตรีชื่อดัง ว่าได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ของบริษัท ซุเปอร์ป ออฟชอร์ อินเวสต์เม้นท์ จำกัด (Superp Offshore Investment Ltd.) บนเกาะเมอริเชียส เมื่อปี 2551 
บริษัทดังกล่าวยังมีเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ร่วมอีกสองราย คือนายเสถียร เศรษฐสถิตย์ และนางนัฐชมัย ถนอมบุญ  ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวตะวันแดง ร่วมกับนายยืนยง 
สำนักข่าวอิศราพยายามติดต่อนายเสถียรและนายยืนยงไปที่บริษัทคาราบาวตะวันแดงเพื่อขอสัมภาษณ์ไม่ได้รับการติดต่อกลับ
 

พบชื่อ 'เจริญ-วรรณา' สิริวัฒนภักดี-พี่น้อง 'จิราธิวัฒน์' ในฐานข้อมูลปานามาลีก


พบชื่อเจ้าพ่อธุรกิจสุรา  'เจริญ - คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี' พร้อมพี่น้องตระกูลจิราธิวัฒน์ ในฐานข้อมูล 'ปานามาลีก' ซึ่งเปิดเผยรายชื่อบุคคลและองค์กรผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) 
piooefffffffffffdfddf5 4 16
กรณีเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (International Consortium of Investigative Journalists: ICIJ) ร่วมกับหนังสือพิมพ์ Suddeutsche Zeitung ของประเทศเยอรมัน เปิดเผยข้อมูลบุคคลและหน่วยงานผู้มีรายชื่อเป็นเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขต (offshore companies) ทั่วโลก

(อ่านประกอบ : 'ICIJ' เผยเอกสาร 'ปานามาลีก'!เจ้าสัวไทยติดโผตั้งบ.ลับเกาะบริติชเวอร์จิ้น)

ข้อมูลดังกล่าวระบุรายชื่อผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขตทั่วโลกที่ใช้บริการจดทะเบียนบริษัทของสำนักกฎหมาย มอสแซก ฟอนเซก้า (Mossack Fonseca) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศปานามา และมีสาขาในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย โดยข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่โดย หนังสือพิมพ์ ซูดดอยช์เซตุง(Süddeutsche Zeitung) ประเทศเยอรมัน ร่วมกับเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (International Consortium of Investigative Journalists: ICIJ) ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 4 เมษายน ตามเวลาในประเทศไทย
สำนักกฎหมาย มอสแซก ฟอนเซก้า มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย โดย ICIJ รวบรวมสถิติล่าสุดพบว่ามอสแซก ฟอนเซก้าสาขาประเทศไทย มีลูกค้าผู้เข้าใช้บริการในประเทศไทยมีทั้งหมด 21 ราย เป็นทั้งบุคคลและองค์กรสัญชาติไทยและต่างประเทศ โดยทั้ง 21 รายใช้บริการจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตไปแล้ว 963 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้กระจายไปตามที่ต่างๆซึ่งเป็นสวรรค์ปลอดภาษีเช่น หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หรือเคย์แมน เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัททั้ง 963 บริษัท มีผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นทั้งในรูปบุคคลและบริษัทรวม 757 ราย และผู้รับผลประโยชน์ 40 ราย
สำหรับบุคคลหรือองค์กรสัญชาติไทยนั้น พบว่ามีการใช้บริการจดทะเบียนบริษัทผ่านสาขา มอสแซก ฟอนเซก้า ในประเทศไทยและในต่างประเทศ เช่น นายเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี จดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทนอกอาณาเขตที่บริติชเวอร์จินจำนวนหนึ่ง ผ่านบริการของมอสแซก ฟอนเซก้า สาขาบริติชเวอร์จิน ในขณะที่สมาชิกตระกูลจิราธิวัฒน์ใช้บริการจดทะเบียนสาขาประเทศไทย โดยถือครองบริษัทนอกอาณาเขตในที่ต่างๆ เช่นที่เนวาดา เป็นต้น ซึ่งสำนักข่าวอิศราซึ่งร่วมมือกับสมาชิก ICIJ ประเทศไทย จะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าบุคคลและกลุ่มธุรกิจทั้งสองกลุ่มนี้ ได้ใช้บริษัทนอกอาณาเขตของตนในทางที่ขัดแย้งต่อกฎหมายแต่ประการใด
การเปิดเผยข้อมูลระดับโลกครั้งนี้ สร้างผลสะเทือนอย่างรวดเร็วในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศตะวันตกเนื่องจากปรากฏชื่อผู้นำ นักการเมือง และญาติมิตรของนักการเมืองสำคัญหลายราย โดยภายในหนึ่งวันหลังจากการเผยแพร่ข่าวนี้ ผู้นำรัฐบาลและหน่วยงานตรวจสอบด้านภาษีและการฟอกเงินในบางประเทศได้ออกแถลงการณ์สัญญาว่าจะเร่งรัดในการตรวจสอบปัญหาการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่เป็นปัญหา
ทั้งนี้ ในการนำเสนอข้อมูลครั้งนี้ มีการจัดทำแผนที่ลูกค้าปานามาลีก แบ่งตามประเทศไว้ด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ โดยกดเข้าไปที่จุดสีส้มบนแผนที่ประเทศต่างๆ  (ดูตัวอย่างการใช้งานตามรูปประกอบ) https://briankilmartin.cartodb.com/viz/54ddb5c0-f80e-11e5-9a9c-0e5db1731f59/embed_map
pioudcccddccd5 4 16
สำหรับประเทศไทย มีรายงานข่าวว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้ว โดยพล.ต.สรรเสริญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอก เงิน หรือ ปปง. คงมีการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการ หากพบว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องและกระทำผิดจริงจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะรัฐบาลนี้ถือว่าการปราบปรามคอร์รัปชันและถือเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง 
ในช่วงปีที่ผ่านมาเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ หรือ ICIJ ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขต ซึ่งได้มาจากแหล่งข้อมูลอื่นๆมาแล้ว โดยสำนักข่าวอิศราได้ร่วมมือในการตรวจสอบครั้งใหญ่เช่นข่าวพบคนไทย 600 คนถือครองบริษัทนอกอาณาเขต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูล “ปานามาลีก” ในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเผยครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา โดยข้อมูลมหาศาลที่มีอยู่ครองคลุมระยะเวลา 40 ปี และเป็นข้อมูลล่าสุดถึงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศ จะได้รับการนำเสนอโดยผู้สื่อข่าวสมาชิก ICIJ ผ่านองค์กรสื่อในประเทศนั้นๆ ในกรณีของประเทศไทยสามารถติดตามได้ที่สำนักข่าวอิศรา --><iframe src="//cloudfront-1.publicintegrity.org/widgets/syndication/node/19492" width="0" height="0" frameBorder="0" style="border: none; background: transparent; width: 0px; height: 0px;"></iframe>(อ่านประกอบ : นักข่าวสืบสวนนานาชาติเปิดข้อมูล“บริษัทลับ”บนเกาะสวรรค์1 แสนราย-เศรษฐีไทยอื้อ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 5 เม.ย.59 ได้ติดต่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เพื่อให้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งเหมือนกันว่า ไม่มีใครทราบข้อมูลเรื่องนี้  และขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะเป็นข้อมูลที่ลึกมาก ถ้าได้ข้อมูลอะไรแล้วจะติดต่อกลับมา

"บิ๊กตู่"ติง"จ่านิว-นศ"ป่วน เวทีปาฐกถา รธน "มีชัย" เตรียมตรวจสอบใครอยู่เบื้องหลัง



"บิ๊กตู่"ติง"จ่านิว-นศ"ป่วน เวทีปาฐกถา รธน "มีชัย" เตรียมตรวจสอบใครอยู่เบื้องหลัง เชื่อมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ขู่ลงโทษ เพราะปล่อยมาหลายครั้งแล้ว "ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นบ้านนี้เมืองนี้จะมีกม.ไว้ทำไมเล่า เอาไว้ขังมดขังปลวกรึไง ประเทศชาติจะสงบสุขได้ต้องอาศัยกม.เท่านั้น"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักศึกษาเข้าไปป่วนเวทีเสวนาขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บรรยายเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ
นายกฯกล่าวย้อนถามว่า มันสมควรหรือไม่ หลายคนก็เป็นนักศึกษามาก่อน ถ้าเอาทุกเรื่องไปเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งหมดอย่างนี้มันได้หรือไม่
" อย่าลืมว่าวันนี้คือวันสัญญา-ธรรมศักดิ์ ก็ต้องให้เกียรติคนซึ่งเป็นเจ้าของงานเขาบ้าง "
"เดี๋ยวผมก็จะสอบทางลึกแล้วกันว่าใครอยู่เบื้องหลังในการทำแบบนี้ สังคมต้องแยกแยะให้ออก อย่าไปร่วมมือมันต้องมีใครสักคน กลุ่มไหนสื่อรู้กันหรือไม่ว่ากลุ่มไหน เป็นกลุ่มคนดีหรือเปล่า กลุ่มคนที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลหรือเปล่า มันก็มีเบื้องหลังทั้งสิ้น ทุกคนก็รู้กันอยู่ ทำไมต้องให้ผมบอกหรือตอบให้ชัดเจนว่าเป็นใคร"
เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายจะเชิญตัวเข้าอบรมตามหลักสูตรของคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาพิจารณากันเอง แต่พอทำแล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า นักศึกษาเป็นผู้บริสุทธิ์ต้องให้อภัย ไม่รู้จะเอาอะไรกับผม บ้านเมืองก็จะให้อยู่อย่างปกติสุข แต่กฎหมายก็บังคับใช้ไม่ได้ คนฝ่าฝืนกฎหมายก็ไปเห็นอกเห็นใจกัน แล้วมันจริงหรือเปล่าที่บอกว่าเจตนาบริสุทธิ์ ถ้าทุกคนมีเจตนาบริสุทธิ์จริง ผมก็พร้อมให้อภัยทุกครั้ง แต่ชักทำหลายครั้ง อันนี้ก็แสดงว่าไม่บริสุทธิ์แล้ว
"ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นบ้านนี้เมืองนี้จะมีกฎหมายไว้ทำไมเล่า เอาไว้ขังมดขังปลวกหรืออย่างไร ประเทศชาติจะสงบสุขได้ต้องอาศัยกฎหมายเท่านั้น ด้วยการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เที่ยงธรรม เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ต้องปรับปรุงตนเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่คนใดทำความผิด ไม่ว่าตำรวจหรือทหารก็ต้องถูกลงโทษทั้งสิ้น ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้พูด ว่าได้ปลดหรือย้ายใครไปบ้างไม่ว่าจะ 5 เสือ 5 สิงห์ กระทิง แรด ก็โดนไปหลายพื้นที่แล้ว บางครั้งการเป็นผู้ใหญ่ในการบังคับบัญชาคน ถ้าไปพูดอะไรมากก็จะกลายเป็นเรื่องไปประจานคน มันก็ไม่ค่อยดีเพราะคนที่เหลืออยู่จะเสียกำลังใจ จึงต้องพูดกลางๆ ออกไป คนดีจะได้พอมีกำลังใจ ถ้าพูดอะไรแย่ๆ กล่าวร้ายตลอดเวลา คนดีก็จะเสียขวัญ คนดีก็ไม่กล้าทำอะไร อยู่เฉยๆ ดีกว่า ชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฎ อยู่ไปแบบนั้น วันนี้ยืนยันว่าเราลงโทษทั้งหมด บ่อนการพนันต่างๆ อย่างพื้นที่ดอนเมือง ไม่เคยมีใครจับได้ก็จับหมดแล้ว ย้ายทั้งหมด สอบสวนทั้งหมด ทุกคดีมีหรือไม่ที่ยังจับไม่ได้ในขณะนี้ ส่วนใหญ่ก็จับได้ ที่เหลือก็ตามสืบอยู่ อย่างเหตุการณ์ภาคใต้ก็สามารถจับกุมได้ การทำงานต้องทำแบบนี้อยากถามว่า ที่ผ่านมามีใครกำกับดูแลแบบนี้บ้าง ก็มีแต่รัฐบาลนี้ที่รองนายกฯ รัฐมนตรีสั่งการแล้ว นายกฯ ก็ต้องสั่งอีก ก็ดูว่าจะมีใครไม่ทำหรือไม่ ก็ทำกันทั้งหมด มันอยู่ที่การเอาใจใส่ของผู้บริหาร เพราะมันมีกฎหมายอยู่แล้ว

นายกฯขู่ ตร.ทุกท้องที่-ทุกจังหวัด ห้ามปล่อย หญิง-กะเทย เต้นเปิ๊ดสะก๊าด ท้ายกระบะ แต่งโป๊ เล่นน้

นายกฯขู่ ตร.ทุกท้องที่-ทุกจังหวัด ห้ามปล่อย หญิง-กะเทย เต้นเปิ๊ดสะก๊าด ท้ายกระบะ แต่งโป๊ เล่นน้ำสงกรานต์. จับทันที ลั่นเจ้าของรถโดนด้วย อย่าสาดแป้ง ยัน ไม่มีประกาศวันหยุดเพิ่มช่วงสงกรานต์ เตรียมหาตัวคนปล่อยข่าวลงโทษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงการเผยแพร่ประกาศวันหยุดราชการ ช่วงวันหยุดสงกรานต์เพิ่มในวันที่ 12 เม.ย.ว่า ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวลือผ่านทางโซเชียลมีเดีย จะต้องนำตัวมาลงโทษ ซึ่งวันหยุดราชการก็ตามที่ได้มีประกาศไว้ตามประเพณี ไม่มีวันหยุดเพิ่มเติม ซึ่งปีนี้หยุดตั้งแต่วันที่ 13-17 เม.ย. รวมเป็น 5 วันก็เพียงพอแล้ว งานการต้องทำกันบ้างประเทศชาติหยุดได้ที่ไหน ขนาดทำงานกันอย่างนี้ยังไม่เรียบร้อยเลย เพราะว่าพื้นฐานไม่เรียบร้อยก็ต้องแก้ไข ปัญหามีไว้เผชิญหน้าและแก้ให้ไปได้ ซึ่งตนเองไม่ได้มองเป็นปัญหาที่ทำให้ท้อแท้ หรือเป็นอุปสรรค แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายที่ตนเองต้องทำให้สำเร็จ และท้าทายสำหรับประชาชนคนดี จะต้องร่วมมือกับตนเองทำให้ประเทศชาติไปให้ได้สำเร็จ อย่าไปเชื่อถือคำพูดที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
นายกฯ กล่าวอีกว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นตนไม่สามารถใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ได้ เพราะไม่มีกฎหมายไหนที่จะห้ามคนเสียชีวิต หรือเจ็บได้ ซึ่งวันนี้ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บล้มตายช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ 1.ความปลอดภัย ซึ่งคสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตั้งด่านตรวจมากขึ้น ตั้งจุดแจ้งเตือนก่อนที่จะถึงทางโค้ง ทางเบี่ยง จัดคนตรวจสอบแอลกอฮอล์ ตรวจคนขับรถตามท่ารถ ขณะเดียวกันสังคมต้องปฏิเสธคนขับรถที่ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 2.เมื่อคนขับรถมีอาการขับรถด้วยอาการหวาดเสียว ง่วงนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ให้จอดรถแล้วให้นำรถมาเปลี่ยน
"ทุกคนชีวิตฝากไว้กับเขา เหมือนผมที่ต้องไว้ใจพลขับผม เพราะชีวิตผมฝากอยู่กับเขา เพราะฉะนั้นพลขับต้องไม่กินเหล้า แล้วขับรถต้องสุภาพไม่ใช่อะไรก็ได้ หรือขับรถเร็ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะใช้มาตรการยึดรถเหมือนช่วงเทศกาลปีใหม่ เจอใครเมาห็ยึดรถเพื่อให้สงบสติอารมณ์ ถ้าเมามากก็ยึดให้นานหน่อย ลูกเมียที่อยู่ในรถก็ต้องรอ รอจนกว่าจะหายเมา ก็คิดแล้วกันว่าจะเที่ยวสนุกหรือไม่ เลือกสักอย่างถ้าจะกินเหล้าก็ควรอยู่ที่บ้าน สมอง และสติปัญญาก็มีใคร่ครวญบ้าง ทำไมไม่สร้างจิตสำนึกจะทำอย่างไรคนขับจะต้องไม่เมา วันนี้ภาระตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่ทุกเรื่อง ไม่นึกถึงเขาเหรอปีใหม่เขาก็อยากกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง ต้องเสียสละ แล้วก็ทำมาตลอดจนเลิกไม่ได้ ต้องไปกางเต้นท์ นวดให้คนขับ อีกหน่อยจะต้องล้างปาก แปรงฟันให้ด้วยหรือไม่ ขอให้ช่วยเหลือตัวเองไว้ก่อนได้หรือไม่ และขอให้ระมัดระวังการขับรถ และอย่าไปนั่งรถที่คนขับดื่มแอลกอฮอล์"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับความสนุกในช่วงวันสงกรานต์ อยากให้เป็นประวัติศาสตร์ เพราะวันนี้เป็นปีสงกรานต์สากล ที่จัดร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา กัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน ส่วนในประเทศก็อย่าเอาตามสากลหรือวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามากเกินไป และเบื้องต้นได้สั่งการไปแล้วว่า จะต้องไม่มีผู้หญิง หรือสาวประเภทสอง ที่แต่งกายไม่เรียบร้อย ไปเต้นเปิ๊ดสะก๊าดอยู่บนรถ จะต้องจับทันทีรวมถึงเจ้าของรถด้วย
อย่างไรก็ตามระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้หยอกล้อสื่อมวลชนว่า "พวกเธอต้องระวังอย่าไปเดินแถวนั้น แต่ดูแล้วรอดทุกคน เพราะดูดีเกินไป สวย

“นิพิฏฐ์” ซัด “วันชัย” เหมือนหมาจนตรอก ถามไม่อายลูก-เมียบ้างหรือ

“นิพิฏฐ์” ซัด “วันชัย” เหมือนหมาจนตรอก ถามไม่อายลูก-เมียบ้างหรือ ยัน ขนาด “มีชัย” ยังระบุข้อเสนอขัดหลักการ เตือนผู้มีอำนาจระวังพวกเชลียร์พาพัง
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ท้าให้ลงสมัคร ส.ว. กทม.แข่งกัน ว่า ตนบอกหลายครั้งแล้วว่า ความเห็นต่างต่อเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญเกิดได้ แต่ต้องใช้เหตุผลพูดกัน อย่าท้าทาย นายวันชัยก็เช่นกัน ซึ่งตนก็ข้องใจจึงพยายามถามว่าเหตุใด จึงเสนอให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯได้ ทั้งที่ในโลกนี้เขาไม่ทำกัน ขนาดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ยังเห็นว่าขัดหลักการของรัฐธรรมนูญ แต่นายวันชัยกลับตอบไม่ได้ แต่มาพูดแบบหมาจนตรอก ท้าทายให้ตนไปลงแข่ง ส.ว.กทม. ถ้าตนพูดแบบไม่มีเหตุผลบ้าง คงท้านายวันชัยกลับไปแล้วว่า มาลงแข่งที่ จ.พัทลุงบ้างเอาหรือไม่ เพราะถ้านายวันชัยอยากจะแข่งกับตนจริง ให้เลือกมาเลยตำแหน่งใดสักตำแหน่งหนึ่งที่สมน้ำสมเนื้อ ให้คนทั้งประเทศเลือกจะดีกว่า ไม่ใช่เจาะจงแค่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งตนพร้อมดีเบตเพื่อจะได้รู้ว่าใครมีเหตุผลมากกว่ากันเรื่อง ส.ว.โหวตนายกฯ
“เห็นชัดว่า เป็นข้อเสนอเอาใจผู้มีอำนาจอย่างน่าเกลียด ผมไม่รู้นายวันชัยมีลูกหรือไม่ แต่แกไม่อายลูกเมียบ้างหรือ ความเห็นแบบนี้ยิ่งกว่าขายตัว ขายจิตวิญญาณของนักประชาธิปไตย นักกฎหมายด้วย บุคลิกของนายวันชัย ก่อนและหลังมีอำนาจเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าชัดเจน ดังนั้นจึงพอจะอนุมานได้ว่า คนอย่างวันชัยใช้ไม่ได้ และเป็นอันตรายต่อสังคม อันตรายต่อผู้มีอำนาจ ให้พึงระวังไว้ มีคนเคยพลาด หล่นอำนาจอย่างเจ็บปวดเพราะพวกเชลียร์นายแบบนี้มานักต่อนักแล้ว” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

3นักเรียน ม.ปลาย บุกชูป้าย ‘อย่าทำร้าย เยาวชน’ ต่อหน้า ‘มีชัย’


วันนี้ (5 เมษายน) ที่สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มีการปาฐกถาพิเศษ เนื่องในวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ในหัวข้อ “กรอบแนวคิดในการร่างรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)” โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ปรากฏว่า ในขณะที่นายมีชัยได้เริ่มบรรยาย ได้มีนักเรียนจำนวน 3 คน ยืนขึ้นกลางห้องประชุม พร้อมชูป้ายที่มีข้อความว่า “อย่าทำร้าย เยาวชน” นำโดย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท สร้างความฮือฮาให้กับผู้เข้าร่วมงาน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยได้มายึดป้าย และเชิญเพนกวินและเพื่อนออกไปจากห้องประชุม ทำให้ต้องยุติการปาฐกถากะทันหัน
ภาพจากกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD)
พริษฐ์ เปิดเผยว่า ตัวเองและเพื่อนต้องการแสดงออก ต่อ กรธ. ไม่เห็นด้วยกับร่างรธน.ล่าสุด โดยต้องการอ่านจดหมายเปิดผนึกถึง นายมีชัย ประธาน กรธ. ต่อกรณีการร่นสวัสดิการเรียนฟรี 12 ปีในร่างรธน. ซึ่งควรขยายระยะเวลาของสวัสดิการเรียนฟรี จาก 12 ปี เป็น 15 ปี หากหวังดีต่ออนาคตของชาติจริง จากนั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่มาเชิญตัวออกไป
ทั้งนี้ นายพริษฐ์เคยแสดงออกทางในการเรียกร้องด้านการศึกษา โดยเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2558 เคยชูป้าย ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในการกล่าวปาฐกถาเนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2558 ที่บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ จนได้ออกหนังสือขอโทษที่ทำให้นายกรัฐมนตรีตกใจ

“บิ๊กตู่” ติง นศ ป่วน เวทีปาฐกถา “มีชัย” เชื่อมีเบื้องหลัง เตรียมเอาผิดคนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์

“บิ๊กตู่” ติง นศ ป่วน เวทีปาฐกถา “มีชัย” เชื่อมีเบื้องหลัง เตรียมเอาผิดคนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ปัด ไม่เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 14.30 น. ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักศึกษาเข้าไปป่วนเวทีเสวนาขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) บรรยายเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวย้อนถามว่า มันสมควรหรือไม่ หลายคนก็เป็นนักศึกษามาก่อน ถ้าเอาทุกเรื่องไปเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งหมดอย่างนี้มันได้หรือไม่ อย่าลืมว่าวันนี้คือวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ก็ต้องให้เกียรติคนซึ่งเป็นเจ้าของงานเขาบ้าง
“เดี๋ยวผมก็จะสอบทางลึกแล้วกันว่าใครอยู่เบื้องหลังในการทำแบบนี้ สังคมต้องแยกแยะให้ออก อย่าไปร่วมมือ มันต้องมีใครสักคน กลุ่มไหน สื่อรู้กันหรือไม่ว่ากลุ่มไหน เป็นกลุ่มคนดีหรือเปล่า กลุ่มคนที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลหรือเปล่า มันก็มีเบื้องหลังทั้งสิ้น ทุกคนก็รู้กันอยู่ ทำไมต้องให้ผมบอกหรือตอบให้ชัดเจนว่าเป็นใคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายจะเชิญตัวเข้าอบรมตามหลักสูตรของคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาพิจารณากันเอง แต่พอทำแล้วจะกลายเป็นว่า นักศึกษาเป็นผู้บริสุทธิ์ต้องให้อภัย ไม่รู้จะเอาอะไรกับตน บ้านเมืองก็จะให้อยู่อย่างปกติสุข แต่กฎหมายก็บังคับใช้ไม่ได้ คนฝ่าฝืนกฎหมายก็ไปเห็นอกเห็นใจกัน แล้วมันจริงหรือเปล่าที่บอกว่าเจตนาบริสุทธิ์ ถ้าทุกคนมีเจตนาบริสุทธิ์จริง ตนก็พร้อมให้อภัยทุกครั้ง แต่ชักทำหลายครั้ง อันนี้ก็แสดงว่าไม่บริสุทธิ์แล้ว ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นบ้านนี้เมืองนี้จะมีกฎหมายไว้ทำไมเหล่า เอาไว้ขังมดขังปลวกหรืออย่างไร ประเทศชาติจะสงบสุขได้ต้องอาศัยกฎหมายเท่านั้น ด้วยการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เที่ยงธรรม เจ้าหน้าที่จะต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ต้องปรับปรุงตนเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่คนใดทำความผิด ไม่ว่าตำรวจหรือทหารก็ต้องถูกลงโทษทั้งสิ้น ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้พูด ว่าได้ปลดหรือย้ายใครไปบ้างไม่ว่าจะ 5 เสือ 5 สิงห์ กระทิง แรด ก็โดนไปหลายพื้นที่แล้ว บางครั้งการเป็นผู้ใหญ่ในการบังคับบัญชาคน ถ้าไปพูดอะไรมากก็จะกลายเป็นเรื่องไปประจานคน มันก็ไม่ค่อยดีเพราะคนที่เหลืออยู่จะเสียกำลังใจ จึงต้องพูดกลางๆ ออกไป คนดีจะได้พอมีกำลังใจ ถ้าพูดอะไรแย่ๆ กล่าวร้ายตลอดเวลา คนดีก็จะเสียขวัญ คนดีก็ไม่กล้าทำอะไร อยู่เฉยๆ ดีกว่า ชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฏ อยู่ไปแบบนั้น วันนี้ยืนยันว่าเราลงโทษทั้งหมด บ่อนการพนันต่างๆ อย่างพื้นที่ดอนเมือง ไม่เคยมีใครจับได้ก็จับหมดแล้ว ย้ายทั้งหมด สอบสวนทั้งหมด ทุกคดีมีหรือไม่ที่ยังจับไม่ได้ในขณะนี้ ส่วนใหญ่ก็จับได้ ที่เหลือก็ตามสืบอยู่ อย่างเหตุการณ์ภาคใต้ก็สามารถจับกุมได้ การทำงานต้องทำแบบนี้ยากถามว่า ที่ผ่านมามีใครกำกับดูแลแบบนี้บ้าง ก็มีแต่รัฐบาลนี้ที่รองนายกฯ รัฐมนตรีสั่งการแล้ว นายกฯ ก็ต้องสั่งอีก ก็ดูว่าจะมีใครไม่ทำหรือไม่ ก็ทำกันทั้งหมด มันอยู่ที่การเอาใจใส่ของผู้บริหาร เพราะมันมีกฎหมายอยู่แล้ว

‘นร.-นศ.’บุกชูป้ายโหวตโน ‘มีชัย’ สวนกลับ บ้านเมืองเดินไม่ได้เพราะเยาวชนขาดวินัย

‘นร.-นศ.’บุกชูป้ายโหวตโน ‘มีชัย’ สวนกลับ บ้านเมืองเดินไม่ได้เพราะเยาวชนขาดวินัย

56
กลุ่ม นร.-นศ. โชว์ป้าย “โหวตโน” ป่วนงาน “สัญญา ธรรมศักดิ์” ทำปาฐกถา กรธ.วุ่นจนเกือบล่ม ด้าน”มีชัย”ชี้ สะท้อนการศึกษาชัดต้องเร่งปฏิรูป ยัน รัฐธรรมนูญร่างให้ถูกใจคนทุกกลุ่มไม่ได้ ยกกลไกทุจริตเป็นปมทำนักการเมืองกลัวจนไม่ยอมรับร่างฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 เมษายน ที่สถาบันเอเชียตะวันนออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จัดงาน”วันสัญญา ธรรมศักดิ์” โดยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมทำพิธีมอบรางวัลนักศึกษากฎหมายดีเด่น ประจำปี 2559 และมอบรางวัลเรียนดี “ธรรมศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์”
จากนั้น นายมีชัยได้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “กรอบแนวคิดในการร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” ตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวตื่นเต้น ยินดี เพราะการกลับมาครั้งนี้เป็นการมาบ้านเก่าเมื่อ 50 ปีที่แล้ว อาจารย์ที่เคารพรักทั้งหลาย ตนมีความผูกพันเป็นพิเศษ รวมถึงศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ช่วงที่ท่านเป็นนายกฯ ก็ได้มีการขอความช่วยเหลือกันมาตลอด ครั้งหนึ่งท่านเคยต่อสายโทรศัพท์หา บอกว่ามีเรื่องให้ช่วย ให้มาหาท่านที่ทำเนียบ ท่านก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นในหัวของตนมีแต่ความว่างเปล่า นั่งรถออกมาผ่านวัดพระแก้ว ก็ไหว้พระขอให้เกิดปาฏิหาริย์ จากนั้นตนก็คิดออก แล้วเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็บอกว่าตนคิดให้ได้ ตั้งแต่นั้นมาเคราะห์กรรมของตนก็ไม่หมดไปเลย คนอื่นอาจจะรู้สึกดี แต่ตนไม่รู้สึกเช่นนั้น สำหรับกรอบการร่างรัฐธรรมนูญ คือ 1. รัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 มาตรา 35 ที่กำหนดกรอบไว้ 10 ประการอย่างชัดเจน และ 2.การรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง ดังนั้น กรธ.ต้องเดินตามกรอบกำหนด เพราะฉะนั้นข้อกำหนดอะไรโหดเหี้ยมจึงไม่ได้เป็นไปตามตั้งใจของ กรธ. ซึ่งใครมาร่างก็เป็นลักษณะนี้ คือ ต้องทำตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่บังคับไว้ สำหรับกรอบรับฟังความเห็น กรธ.พบว่าประชาชนทั่วไป มีความตื่นตัวติดตามการร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างมาก
นายมีชัยกล่าวว่า ในกรอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 35 กลไกการขจัดทุจริต เป็นเรื่องที่คิดว่ามีกลไกควบคุมการใช้อำนาจรัฐ ไม่มุ่งประสงค์อย่างที่เป็นมา ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันเขียนไว้หลายมาตรา ทั้งหมดเป็นกลไกกำจัดทุจริตและการใช้อำนาจรัฐ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง ไม่เหมือนที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ให้ ส.ส.แปรญัตติเอาเงินไปใช้ จึงได้มีการกำหนดแซงก์ชั่นว่า หากพบการกระทำแบบที่ผ่านมา ประชาชนสามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบได้ เรื่องนี้คือเรื่องที่เขากลัวกัน ทำให้โกรธกันมาก เรื่องที่เขารณรงค์ให้คว่ำ ไม่ใช่เรื่องอื่นแต่เป็นเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพราะการกระทำอะไรใหม่ๆ คนอาจจะเจ็บ แต่จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว
45
ประธาน กรธ. กล่าวอีกว่า กลไกป้องกันคนทุจริตไม่ให้คนทุจริตการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง หรือฟอกเงิน กลับเข้ามาสู่การเมืองอีกในหลายมาตราของรัฐธรรมนูญ กำหนดลักษณะต้องห้าม ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรีอย่างเข้มงวด ซึ่งเอาหลักจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากกระทำผิดแล้วศาลตัดสิน หรือรอลงอาญา ก็ไม่สามารถกลับเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองได้อีก กำหนดหน้าที่ ครม. แบบผูกพัน คือ ใช้อำนาจอย่างสุจริต เปิดเผย โปร่งใส คำนึงประชาชนเป็นส่วนรวม และคุ้มครองทุกภาคส่วนให้เกิดความสงบ ซึ่งเป็นบทเรียนจากอดีตที่เรานำมาใส่ในรัฐธรรมนูญ และมีบทบัญญัติออกกฎหมายว่าผู้ดำรงตำแหน่งระดับ รมว.ลงมา ต้องไม่ถูกใครสั่งย้ายแบบข้ามทวีปอีก รวมทั้งกำหนดจริยธรรม คุณธรรม และธรรมาภิบาล
นายมีชัยยังกล่าวด้วยว่า กลไกป้องกันโครงการประชานิยมที่อาจส่งผลเสียหายต่อประเทศ โดยให้ตรวจเงินเผ่นดิน พบเห็นอะไรบอกเหตุว่าโครงการนั้นอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคต คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน สามารถเชิญคณะกรรมการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ป.ป.ช. มาปรึกษาหารือกัน หากพบว่ามีมูลเป็นจริงสามารถรายงานมายังครม. แต่หากรายงานแล้ว ครม.ยังดำเนินการต่อ กระทั่งโครงการนั้นเกิดความเสียหาย ต้องรับผิดชอบ จะอ้างว่า ไม่รู้ ไม่ได้ ทั้งนี้ การป้องกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้แก้ยากกว่าปกติ โดยนำบทเรียนมาจากในอดีตที่เสียงข้างมากไม่ยอมฟังเสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ในการผลักดันให้มีการปฏิรูป เป้าหมายในรัฐธรรมนูญ คือ การศึกษา และการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ระยะแรกจึงเสนอให้ ส.ว.มาจากสรรหา เพื่อผลักดันปฏิรูปเดินไปข้างหน้าสำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ ในการการปฏิรูปการศึกษา ได้กำหนดรัฐจัดการศึกษาก่อนวัยอนุบาล จนกว่าจบตามที่ต้องการ โดยรัฐต้องตั้งกองทุนให้กับเด็กมีสติไปเรียนหยิบยืมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างจัดสัมมนา ได้มีกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้ชูป้ายข้อความที่ระบุว่า “ร่างรัฐธรรมนูญอย่าทำร้ายเยาวชน #เอาม.ปลายฟรีของเราคืนมา” และ “อนุบาลฟรีก็ดี แต่ม.ปลาย/สายอาชีพฟรี ก็ต้องมี ไม่ต้องง้อกองทุน #เอาม.ปลายฟรีของเราคืนมา” ทำให้การปาฐกถาของนายมีชัยหยุดชะงักลง จนอาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้มาเชิญกลุ่มนักเรียนดังกล่าวออกจากห้องไป โดยผู้ร่วมสัมมนาได้ตะโกนต่อว่า พร้อมขับไล่ ว่า “เรียนเตรียมอุดมเสียเปล่า แต่ไม่มีมารยาท” ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ดังกล่าวสงบลง นายมีชัยจึงได้กล่าวปาฐกถาต่อว่า เรื่องนี้สะท้อนชัดเจนว่า เราต้องได้รับการศึกษาเพื่อให้คนมีวินัยและมีความอดกลั้น เพื่อรับฟังความเห็นคนอื่น ซึ่งสำคัญมาก ที่บ้านเมืองไม่ได้เดินหน้าเพราะเยาวชนขาดวินัย การบังคับใช้กฎหมายไม่เคร่งครัด คนผิดไม่ดำเนินการตามกฎหมาย อีกทั้งต้องกำหนดให้พระพุทธศาสนาเถรวาท บังคับจิตใจให้เด็กวินัย ส่วนการปฏิรูปตำรวจในเบื้องต้นใน 1 ปี ให้เป็นไปตามหลักอาวุโส แปลว่า ไม่ต้องวิ่งเต้น ทุกคนเท่ากัน ส่วนหน่วยงานราชการหากทำการปฏิรูปไม่เสร็จ เรากำหนดให้ ย้ายหัวหน้าหน่วยงานหน่วยงานนั้นๆ
“ร่างเบื้องต้น กับร่างปัจจุบันต่างกันมาก มีการแก้ไข เพิ่มเติมเป็น 279 มาตรา เพื่อป้องกันไม่ให้การมีออกกำหนดให้การออกกฎหมายไม่ลิดรอนสิทธิประชาชนเกินความจำเป็น และประชาชนมีสิทธิติดตามทวงถามหากรัฐไม่กระทำตาม และมีสิทธิฟ้องร้องได้ ซึ่งการที่รับฟังความเห็นจากคนทั่วไป นำมาบัญญัติในรัฐธรรมนูญได้ประโยชน์มาก จึงขอเรียนว่า รัฐธรรมนูญเป็นบทบัญญัติใช้กับคนทุกคนทั้งประเทศ เขียนเฉลี่ยเผื่อคนทุกคน และเพื่อความต้องการที่ต่างกัน จึงไม่สามารถทำให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งถูกใจได้ ไม่สามารถทำเพื่อคนทุกคนอย่างสมบูรณ์ได้ หรือ ทำเพื่อความสุขคนกลุ่มเดียว ไม่สามารถทำให้ชอบได้ทุกคน” นายมีชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายมีชัยกำลังกล่าวปาฐกถาอยู่นั้นได้มี “กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย” สวมใส่หน้ากากรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. และ “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่” `นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว มาประท้วงนายมีชัยอีกครั้ง พร้อมชูป้ายข้อความ “อย่าสร้างภาระให้คนรุ่นหลังเถอะลุง” , “สมคบคิดคสช.กดหัวประชาชน” , “หยุดสืบทอดอำนาจ” ,“โหวตโน” และตะโกนว่า “ไม่รับ” ทำให้สถานการณ์เกิดความวุ่นวายหนัก เจ้าหน้าที่รีบออกมาเชิญตัวออกมานอกห้อง กระทั่งนายมีชัยต้องรีบยุติการปาฐกถาโดยกล่าวจบเพียงสั้นๆ ว่า “ความเห็นต่างจะเกิดประโยชน์เสมอก็ต้องรับฟัง วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อพวกเธอโตขึ้นกว่านี้ เธอคงเรียนรู้จากประสบการณ์แล้วจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น”
41

เปิดใจพลทหารฉัตรภิสุทธิ์ ชุมพันธ์ สังกัดร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนัง

ข่าว 3 มิติคืนนี้ เปิดใจพลทหารฉัตรภิสุทธิ์ ชุมพันธ์ สังกัดร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลงโทษ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด แต่มีเหตุทะเลาะกับนายสิบคนหนึ่งที่เชื่อว่าขโมยเงินของพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด จากนั้น ทั้ง 2 คนจึงถูกนำตัวมาซ้อมและทำร้ายร่างกายทั้งเตะ ต่อย ใช้เทียนลน ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.วันที่ 1 -2 เมษายน จนสุด พลทหารทรงธรรม เสียชีวิต ที่ รพ.ยะลา ส่วน พลทหารฉัตรภิสุทธิ์ บาดเจ็บ รักษาตัวที่ รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
ขณะที่พันเอก วินธัย สุวารี โฆษก ทบ.ชี้แจง กรณีการเสียชีวิตของ พลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด สังกัด ร.152 พัน.1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ว่า โดยพบว่า มีสาเหตุมาจากถูกทำโทษปรับปรุงวินัยเนื่องจากได้กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติด
"ทบ.เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้สูญเสีย"
โดย ที่ผ่านมา ทบ.ได้มีการเน้นย้ำ ไปกับหน่วยทุกระดับมาตลอด ต่อการดำเนินการใดๆ กับผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการเท่านั้น ใครฝ่าฝืนจะต้องมีโทษสถานหนัก
สำหรับกรณี ของ พลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด ทบ.ยืนยันจะไม่ปกป้องกำลังพลที่กระทำความผิด ซึ่งทางหน่วยต้นสังกัด พล.ร.15 มีการตั้งกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในทันที
โดยผลสรุปพบว่ามีกำลังพลกระทำผิดจริง เป็นกำลังพลทั้งนายทหาร และนายสิบ รวม 6 นาย ด้วยการทำโทษปรับปรุงวินัยกำลังพลไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามแบบธรรมเนียมทหาร
ซึ่งขณะนี้หน่วยฯ ได้อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางวินัยเพื่อลงโทษกำลังพลที่กระทำความผิดทั้ง 6 นายตามอำนาจที่มีอยู่ขั้นสูงสุด
ส่วนการดูแลเยียวยาญาติ ทางหน่วยต้นสังกัดได้มีการเตรียมการไว้อย่างเรียบร้อยอยู่ในระหว่างประสานกับทางญาติ พลทหาร ทรงธรรม
ทั้งนี้ พลทหาร ทรงธรรม ถูกหน่วยส่งตัวมายัง รพ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 เมย.59 ที่ผ่านมา โดยพลทหารทรงธรรม ไม่รู้สึกตัว และเข้ารับการรักษา ที่ห้องไอซียู รพ.ยะลา
จนล่าสุดเช้านี้ ทางแพทย์ได้แจ้งให้กับญาติรับทราบว่า พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด เสียชีวิตลงแล้ว