PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เครื่องบินทอ.ตก

ทัพฟ้า เศร้า !!

เครื่องบินฝึก L39 ทอ. ตก ขณะฝึกบินโจมตี ทางยุทธวิธี  ที่ ตาก. นักบินเสียชีวิต 1 เจ็บ1  /ขณะ ทอ.เตรียมฉลอง 40 ปีเครื่องบินF5 พรุ่งนี้   ที่อุบลฯและโชว์ F-5 Super Tigris 

พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ เมื่อเวลา 14.50 น. ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบิน ฝึกบิน และฝึกแบบที่ ๑ (L-39 ZA/ART) สังกัดฝูงบิน 411  กองบิน 41  จังหวัดเชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุขณะทำการฝึกบินโจมตีทางยุทธวิธี บริเวณเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก โดยมีนักบินทำการบิน จำนวน ๒ คน คือ

โดยกองทัพอากาศได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางนักบินเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 1 นาย หลังจากดีดตัวออกจากเครื่อง 

สำหรับนักบินที่เสียชีวิตคือ นาวาอากาศตรี เกริกเกียรติ สุวรรณโณ อายุ 36 ปี 

ส่วนนักบินที่ได้รับบาดเจ็บคือ นาวาอากาศเอกจิรศักดิ์ นามวงศ์ศรี อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลัง และไหลขาว มีแผลฉีกขาดบริเวณคาง รับการรักษาอยู่ที่รพ.สามเงา

พลอากาศตรี พงษ์ศักดิ์  กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุกองทัพอากาศ เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้เครื่องบินL 39 ของกองทัพอากาศมีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า 30 ปี และกำลังทยอยปลดประจำการ

กองทัพอากาศได้จัดซื้อเครื่องบินฝึกแบบT-50 THจากเกาหลีใต้มาทดแทน

ไม่เร็วกว่านี้

เลือกตั้ง ไม่มีเร็วไปกว่า กพ.62

"บิ๊กตู่"ตอบ"คนอยากเลือกตั้ง"เรียกร้องได้เรียกร้องไป กม.มีอยู่ ยัน "เลือกตั้ง"ต้นปี 62 ไม่เร็วกว่านั้น

  

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ชุมนุมเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ว่า ก็เรียกร้องไป เรียกร้องได้ซึ่งท่านอ้างว่าเป็นการเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายมีอยู่ ฉะนั้นการให้เรียกร้องได้ ตรงไหนที่ไหน กฎหมายการชุมนุมว่าอย่างไรก็ไปว่ากันมาให้ครบ

"ผมบอกแล้วว่าเป็นไปตามขั้นตอนของผมคือต้นปี 62 ไม่มีเร็วกว่านั้น

ผมก็ต้องยืนยันในหลักการของผม ที่มันล่าช้าไป 3-4 เดือน เป็นเรื่องความพร้อมของกฎหมาย"นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า  มีความเห็นอย่างไรกับกระแสวิจารณ์การที่คสช.แจ้งความดำเนินคดีกับ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย ในขณะที่พรรคและกลุ่มการเมืองอื่นก็มีการจัดแถลงข่าวทำนองเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องของกฎหมายผิดกฎหมายก็คือผิดกฎหมาย แต่เรื่องปลดล็อก ก็คือเรื่องปลดล็อก มันคนละเรื่องกัน อย่าเอาเรื่องนี้ไปพันเรื่องโน้น มันจะยิ่งยุ่งกันใหญ่ จะเป็นการขยายความขัดแย้งไปเรื่อย ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น

ฉะนั้น เรื่องการประท้วงอะไรตอนนี้ก็พยายามผ่อนผันให้ตามที่เราสามารถให้ได้ เราไม่ต้องการจะปิดกั้น 

วันนี้อยากจะบอกว่าผมพูดหลายครั้งแล้วคนเหล่านี้ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นหลายครั้งแล้วรัฐบาลก็รับมาพิจารณาและดำเนินการในสิ่งที่สามารถกระทำได้ แต่เขาก็ยังทำต่อไปเรื่อยๆ 

แต่อย่าลืมว่ากฎหมายมีอยู่ทุกฉบับ พ.ร.บ.ต่างๆเยอะแยะไปหมดแล้ววันนี้ศาลปกครองสูงสุดก็ตัดสินมาแล้วเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย

แล้วจะให้ผมทำอย่างไรถ้าไม่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่ก็โดนละเว้น จะมาอ้างว่าสิทธิเสรีภาพอย่างเดียวคงไม่ได้ผมบอกแล้วเราอย่าทะเลาะเรื่องรัฐธรรมนูญกันต่อไปอีก ทั้งวันนี้และวันหน้า มันเป็นคนละเรื่องกัน ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ใครมาเดินก็ไม่ได้ถ้ามันผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็แล้วแต่จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายทั้งหมด ผมไม่ต้องการให้กลับไปที่เดิม

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ถ้าเรามีการเดินขบวนที่ไม่มีวันสิ้นสุด ภาพรวมเศษรฐกิจที่กำลังเติบโตสิ่งเหล่านี้จะหายไปเรื่อยๆ แล้วจะทำอย่างไร ตัวเลขต่างๆ ก็จะตกลง สิ่งต่างๆก้ไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น ความมั่นคง ปลอดภัย ชีวิตทรัพย์สินสำคัญที่สุด ฝากสื่อช่วยกันพิจารณาตรงนี้ด้วย ผมไม่อยากให้ไปสัมภาษณ์เพราะเป็นการขยายความ ต้องฟังเหตุผลที่รัฐบาลพูดบ้างว่าเราต้องการอะไรกันในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไปปิดกั้น ตอนนี้กำลังไปตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะการ์ดมีคดีความในส่วนตรงไหนหรือไม่

"รัฐบาลจำเป็นต้องใช้กฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเอากฎหมายไปบังคับใช้กับคนที่เห็นต่าง 

เห็นต่างได้แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย จำคำพูดผมไว้นะ ฉะนั้น การดำเนินคดีต่างๆ ก็จะต้องเอาจริงเอาจังให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเราจะเสียหาย ผมให้ประเทศเสียหายไม่ได้ 

อะไรที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นอนาคตของประเทศในวันข้างหน้าทั้งสิ้น ฝากทุกคนไว้ด้วย ผมยืนยันว่าทุกเรื่องรับทราบหมด ใครจะร้องเรียนอะไรต่างๆ เพราะผมติดตามหลายช่องทางด้วยกัน และนำไปสู่การปฏิบัติและแก้ปัญหาสั่งการในครม.ให้ไปหามาตรการที่เหมาะสม นั่นคือรัฐบาลนี้ ฉะนั้น อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วย" 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมระบุว่า ขอบคุณ สวัสดีขอให้รักษาสุขภาพด้วยฝนตกไม่เป็นหวัด

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯระบุว่า 4 ปีแป๊บเดียวยังมีปัญหาต้องแก้อีกเยอะคิดว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีในการแก้ปัญหา นายกฯ กล่าวว่า ให้ไปถามรัฐบาลในวันข้างหน้า

แกล้งมั้ย

"บิ๊กป้อม" แซว "จ่านิว" เป็นลมจริง หรือแกล้ง เป็นลม จริงไม่จริง

พลเอกประวิตร กล่าวว่า  เขื่อว่า การขุมนุมวันนี้"ไม่มีอะไรแล้ว  ไม่มีอะไรต้องกังวล

ผมบอกแล้วว่า ไม่ได้หรอก มันผิดกม ไม่ให้บานปลาย "

ทั้งนี้ รัฐบาล ก็ยืนยัน แล้วว่า จะมีเลือกตั้ง กพ.62 เรามีกรอบ ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเรียกร้อง ให้เรากำหนดกรอบเลือกตั้ง ในมิย. เพราะเรากำหนดไว้แล้ว ว่า เลือกตั้ง กพ.62

ทั้งนี้ ไม่ได้ถือเป็นจุดแข็งของ คสช. ที่ไม่ยอม อ่อนข้อให้ผู้ชุมนุม แต่ดูแลให้เป็นไปตามกม.บ้านเมือง

 "ทางกลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งว่าจะขออ่านแถลงการณ์และจะสลายการชุมนุมในตอนค่ำ"

เมื่อถามถึงที่ระบุว่ามีกลุ่ม ฮาร์ดคอร์ จะผสมโรงนั่น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ออกมาไม่ได้ไง ถ้าออกมาได้ ก็จะไปรู้ได้ยังไง เพราะ จะมีคนมาดักยิง กลางทาง มีการจ้าง 

แต่เมื่อสิ่อถามว่า ใครจ้าง แต่ พลเอกประวิตร ปฏิเศะ ที่จะบอก โดยกล่าวว่า "ไม่บอก"

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ ที่ จ่านิว แกนนำ เป็นลม พลเอกประวิตร กล่าวว่า ผมก็ไม่รู้ว่า เป็นลมจริง หรือแกล้งเป็นลม. เลยไม่รู้ว่า เป็นลมจริงมั้ย

ส่วนการแก้ไขคำสั่ง คสช. ที่53/2560 นั้น พลเอกประวิตร กล้าวว่า ยังไม่มีการพิจารณา ให้ถึงเดิอน มิย.ก่อน

ผมรับผิดชอบเอง

มีคนรอดักยิง กลางทาง

"บิ๊กป้อม" แฉมี คนรับจัาง รอจ้องยิง "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง"  ระหว่างทาง  แต่เมื่อ ไม่ออกเดินมา เขาก็ทำไม่ได้  จึงทำให้ไม่สามารถสร้างสถานการณ์ ได้....เผย ได้รับการแจ้งว่า ค่ำนี้ แกนนำ คนอยากเลือกตั้ง จะอ่านแถลงการณ์ และ จะยุติการชุมนุม...แซว "จ่านิว" เป็นลมจริง หรือแกล้ง เป็นลม จริงไม่จริง

"ไม่มีอะไรแล้ว ไม่กังวล ผมบอกแล้วว่า ไม่ได้หรอก มันผิดกม ไม่ให้บานปลาย เลือกตั้ง กพ.62 เรามีกรอบ ชัดเจนอยู่แล้ว"

ทั้งนี้ ไม่ได้ถือเป็นจุดแข็งของ คสช. ที่ไม่ยอม อ่อนข้อให้ผู้ชุมนุม แต่ดูแลให้เป็นไปตามกม.บ้านเมือง

พลเอกประวิตร กล่าวว่า ออกมาไม่ได้ไง ถ้าออกมาได้ ก็จะไปรู้ได้ยังไง เพราะ จะมีคนมาดักยิง กลางทาง มีการจ้าง แต่ไม่บอกว่า ใครจ้าง "ไม่บอก"

รบไปเจรจาไป

รบไป เจรจาไป !!

"ทีมโฆษกคสช.-ตำรวจ"แถลงยัน จนท.ตำรวจ ต้องบังคับใช้กม.แต่จะไม่ปะทะ กระทบกระทั่ง เชื่อมาไม่ได้ ชี้ใครทำผิด โดนเช็คบิลวันหน้า เปรย จะมีการเจรจาตลอด แนะส่งแค่ตัวแทน มายื่นหนังสือฯได้

พลตรี ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตำรวจฯ แถลงที่ บก.ทบ.

พลตรีปิยพงศ์ กล่าวว่า มีการเจรจากันตลอด โดยข้อเสนอของ "คนอยากเลือกตั้ง" ต้องการเคลื่อนขบวนมา ที่ ประตู5 ทำเนียบฯเพื่อยื่นหนังสือ ถึงนายกฯ และจะปราศรัย ก่อนเลิกกิจกรรม ตอนเที่ยง แต่เรายังไม่ได้รับข้อเสนอ เพราะเขาจะมาทั้งหมด แต่เราจะให้มาแค่ตัวแทน เท่านั้น 

"การพูดคุยกับ ผู้ชุมนุม จะมีตลอดเวลา ตามสถานการณ์" พลตรีปิยพงศ์ กล่าวว่า 

พ.ต.อ.กฤษณะ ยัน เมื่อผู้ชุมนุม ออกมานอก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะถือว่ามีความผืด คำสั่ง คสช. ที่3/2558  ยันจะบังคับใช้กม.ภายหลัง  ยันไม่กลั่นแกล้ง และใช้กม.ปกติ ชี้ ศาลปกครอง ได้ยกคำร้อง แล้ว ดังนั้น ถือว่าตำรวจไม่ลิดรอนสิทธิ์

คะแนนไม่งาม

คะแนนไม่งาม



วันนี้ (22 พ.ค.) ครบ 4 ปีพอดีเป๊ะ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช.ยึดอำนาจการปกครอง ปิดซ่อมประชาธิปไตยชั่วคราว
หลังยึดอำนาจปุ๊บ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศภารกิจเร่งด่วน 4 ประการคือ...
1,ยุติความขัดแย้งทางการเมือง 2,แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน 3,สร้างความสมานฉันท์ปรองดอง 4,ปฏิรูปประเทศไทย (ก่อนเลือกตั้ง) ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม
บัดนี้ ผ่านไป 4 ปี...พี่น้องประชาชนภายใต้การปกครองของรัฐบาล คสช.ยังพึงพอใจ? หรือไม่พึงพอใจ? ยังมีความสุขเพิ่มขึ้น? หรือมีความสุขลดลง?
“นิด้าโพล” กับ “สวนดุสิตโพล” ไปสอบถามความเห็นประชาชนในโอกาสฉลองครบรอบวันเกิด 4 ขวบ ของ คสช. ได้คำตอบตรงกัน
ต่างกันแค่รายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นเอง
“แม่ลูกจันทร์” หยิบผลสำรวจ “นิด้าโพล” มาเสิร์ฟเรียกน้ำย่อยก่อน “สวนดุสิตโพล”
“นิด้าโพล” ถามใจประชาชน 1,253 คน ว่า ครบ 4 ปีการปกครองเบ็ดเสร็จของ คสช.มีความสุขเพิ่มขึ้น? หรือสุขน้อยลง?
ปรากฏว่า ประชาชน 46.85 เปอร์เซ็นต์ ตอบว่า “มีความสุขเท่าเดิม”
เพราะทุกอย่างยังเซมๆ ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
ส่วนประชาชนอีก 27.69 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า “มีความสุขเพิ่มขึ้น” เพราะบ้านเมืองสงบ ไม่มีความวุ่นวายทางการเมือง
และประชาชนอีก 25.46 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า “มีความสุขลดลง” เพราะเศรษฐกิจแย่ลง และถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพมากเกินไป
“นิด้าโพล” วิเคราะห์ว่า เมื่อเอาผลสำรวจความเห็นล่าสุด ช่วง คสช.ครบ 4 ปี ไปเทียบเคียงกับผลสำรวจช่วง คสช.ครบ 3 ปี
พบว่าสัดส่วนของ “ผู้มีความสุขเพิ่มขึ้น” ลดจากปีก่อน 4.95 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่สัดส่วนของประชาชนที่ “มีความสุขเท่าเดิม” เพิ่มจากปีก่อน 4.85 เปอร์เซ็นต์
เช่นเดียวกับสัดส่วนของ “ผู้มีความสุขลดลง” เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.79 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” ขอแหย็มวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า การอยู่ในอำนาจยาวขึ้นย่อมส่งผลให้คะแนนนิยมลดลง เป็นอาการเบื้องต้นของโรคไขข้ออักเสบเรื้อรัง
ทีนี้มาถึงคิว “สวนดุสิตโพล” สอบถามความเห็นประชาชน 1,346 คน ประเด็นเดียวกัน
“สวนดุสิตโพล” ถามใจประชาชนถึงสิ่งที่ประชาชน “สมหวัง” ใน 4 ปีของ รัฐบาล คสช.
ประชาชนส่วนใหญ่ 56.45 เปอร์เซ็นต์ “สมหวัง” ที่บ้านเมืองมีความสงบไม่มีการชุมนุมประท้วงวุ่นวาย
ส่วนสิ่งที่ประชาชน 41.75 เปอร์เซ็นต์ “ผิดหวัง” คือเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจากสินค้าราคาแพง
และสิ่งที่ประชาชนต้องการฝากถึงรัฐบาล คสช.เนื่องในโอกาสฉลองเบิร์ธเดย์ 4 ปีคือ...
1,ขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
2,ขอให้เร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
3,ขอให้เร่งแก้ปัญหาทุจริตอย่างจริงจัง
สุดท้าย...“สวนดุสิตโพล” ถามประชาชนว่า คะแนนเต็ม 10 คะแนน จะให้คะแนนรัฐบาล คสช.เท่าใด??
คำตอบคือ ประชาชนเทให้คะแนนรัฐบาลบิ๊กตู่ 5.42 คะแนน
สอบผ่านคาบเส้นดีกว่าสอบตกนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

ถ้าวัดกันที่เศรษฐกิจ

ถ้าวัดกันที่เศรษฐกิจ



ลุ้นพลิกคว่ำพลิกหงาย ถ้าผ่านเดือนพฤษภาคมไปได้ “นายกฯลุงตู่” ก็ตีตั๋วยาวเลือกตั้งเลย
นี่คือข่าว “วงใน” ที่แกนนำรัฐบาล คสช.ประเมินสถานการณ์กันตั้งแต่ 1–2 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว
ท่ามกลางแนวโน้มเงื่อนไขสถานการณ์ที่เข้าสู่จุดไฮไลต์ เร้าฉากร้อนๆที่ม็อบอยากเลือกตั้งนัดชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ ตั้งท่าบุกเย้ยถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสครบรอบ 4 ปีที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. “รัฐประหารเงียบ” ช่วงบ่ายวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ในจังหวะที่ 8 แกนนำขาใหญ่พรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายนพดล ปัทมะ นายวัฒนา เมืองสุข และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม
เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขัดคำสั่ง คสช.กรณีที่จัดแถลงข่าวเรื่อง 4 ปี โจมตีรัฐบาล คสช.
ตัวละครหน้าเดิมๆป้อมค่ายการเมืองของ “นายใหญ่” กลับเข้าร่วมฉากสถานการณ์เผชิญหน้า
ม็อบอยากเลือกตั้ง นักการเมืองอยากทวงคืนอำนาจ ขยับพร้อมกันยกแผง โยงเงื่อนไขไหลรวมเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ยกระดับสถานการณ์กดดันท้าทายอำนาจ คสช.
ล่าสุดก็เป็นเหลี่ยมเชิงขู่ “เบิ้ลกลับ” ของฝั่ง “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ม็อบ กปปส. ออกมาตั้งโต๊ะแถลงเป็นนัยบอกปัดกระแสพวกแอบอ้างม็อบมวลมหาประชาชนพร้อมสำแดงฤทธิ์ โชว์พลัง ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง ต้องปฏิรูปให้จบก่อน
โจทก์เก่าโผล่ออกมาเสนอหน้ากันสลอน
หัวเชื้อวิกฤติประเทศไทยที่ถูกอำนาจพิเศษกดทับไว้ ส่อระอุคุโชนขึ้นมาใหม่
และก็เหมือนช่วยปั่นดีกรีบู๊ประจันหน้า ตามรูปการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลช่วยกันรัวเกราะเคาะไม้ ตีปี๊บโหมประโคมข่าวใหญ่โต ประเภทเตรียมกองกำลังตำรวจ 20 กองร้อย ไม่นับทหาร
ยกระดับการตั้งท่ารับกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ขนอาวุธ แฝงตัวเข้าก่อเหตุรุนแรงซ้ำรอยปี 2553
“ปลุกผี” ขู่ชาวบ้าน “หลอนตัวเอง” กันจนน่ากลัวไปใหญ่
4 ปีผ่านไป ฝันร้ายกำลังจะกลับมา
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ตื่นตูมไปกับงาน “อีเวนต์” คล้ายมหกรรม “มันนี่เอ็กซ์โป” กระตุกท่อน้ำเลี้ยง นายหน้าเกมมวลชนสร้างฉากปั่นราคา เรียกค่าตัวในเกมโชว์ “สู้แล้วรวย”
วัดกันตามเนื้อผ้า ณ วันนี้เงื่อนไขม็อบเบาลงไปเยอะแล้ว แนวโน้มแบบที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเข็ดขยาด หันมาชอบ “ลุงตู่” ที่ทำให้บ้านเมืองปลอดม็อบป่วนเมืองมาตลอด 4 ปี ใช้ชีวิตทำมาหากินได้อย่างปกติสุข
นี่คือแรงส่งที่จะข้าม “หลุมดำ” ผ่านช็อตพลิกคว่ำพลิกหงายเดือนพฤษภาคมไปได้
และถึงตรงนี้ น่าจะมองข้ามช็อตไปถึงเดือนมิถุนายน ตามโปรแกรมที่ พล.อ.ประยุทธ์วางคิวจะประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง พร้อมแสดงความชัดเจน เปิดตัวลงสนามการเมือง
ตามท้องเรื่อง “ลุงตู่” มั่นใจระดับหนึ่งแล้ว ถึงกล้าลุยในเกมชิง “นายกฯคนใน”
ชัวร์กับการตีตั๋วต่อ เพราะกุมสภาพได้หมดแล้วทั้งการเมือง ความมั่นคง แม้แต่สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่โดนนักการเมืองทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ท่องสคริปต์เดียวกันดิสเครดิตรัฐบาล
ล้อผลโพล สะท้อนเสียงบ่นปัญหาปากท้อง
แต่นั่นก็โดนกันมาทุกรัฐบาล ไม่ใช่แค่ทหารที่โดนด่าเรื่องข้าวยากหมากแพง
เพราะมันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย สภาพความเหลื่อมล้ำของประเทศทุนนิยมเสรีที่ต้องใช้เวลาในการหนีกับดัก “จนดักดาน”
และก็อย่างที่เห็นรัฐบาล “ลุงตู่” พยายามแก้ไขอาการเสพติดประชานิยม เน้นแก้ปัญหาระยะยาวให้เกษตรกรคนจนยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ต้องรอพึ่งรัฐบาลอย่างเดียว
แต่ก็ว่ากันไม่ได้ ในห้วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง มันก็ต้องมีแน่ กับการลุยอัดฉีดงบประมาณลดแลกแจกแถม กระตุกสถานการณ์ปากท้องเรียกแต้มให้รัฐบาล
ทั้งหมดทั้งปวงเลย จุดชี้วัดสำคัญมันอยู่ตรงเศรษฐกิจภาพรวม
กับตัวเลขล่าสุด ประกาศจีดีพีไตรมาสแรกของปี 2561 ดีดขึ้นไปถึงร้อยละ 4.8
โตสุดในรอบ 20 ไตรมาส ตามแนวโน้มที่เติบโตทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะภาคเกษตรโตถึงร้อยละ 6.5 การใช้จ่ายในครัวเรือนร้อยละ 3.6 อุตสาหกรรม ร้อยละ 3.7 ไม่นับการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่ทะลุเกินเป้า
นั่นหมายถึงความเชื่อมั่นจะตามมา ทั้งในส่วนภาคเอกชนไทยและนักลงทุนต่างประเทศ
นี่แหละที่คุยได้เต็มปากเต็มคำ ผลจากความพยายามอย่างหนักของ “นายกฯลุงตู่” กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และทีมเศรษฐกิจ ลากตัวเลขติดลบจากวิกฤติการเมือง กลับมาติดลมบน
แน่นอนคนส่วนใหญ่ที่มองอย่างไม่อคติ ย่อมเห็นความแตกต่างตรงนี้.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน