PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

เสี่ยกำพล ถือหุ้น 2 แห่ง อาบอบนวด โอนเกลี้ยงช่วง เม.ย.60 ใครเจ้าของตัวจริง?

เสี่ยกำพล ถือหุ้น 2 แห่ง อาบอบนวด โอนเกลี้ยงช่วง เม.ย.60 ใครเจ้าของตัวจริง?

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 17 มกราคม 2561 เวลา 20:30 น.
เขียนโดย
isranews


สาวลึกเครือข่ายธุรกิจอาบอบนวด‘วิคตอเรีย ซีเครท’ กลุ่ม‘ศศิธร’ พบชื่อ ‘เสี่ยกำพล’ จ.แพร่ ถือหุ้น 2 แห่ง โอนเกลี้ยงช่วง 30 เม.ย.60 พร้อม‘นิภา วิระเทพสุภรณ์’ ล่าสุด 6 คนเป็นกรรมการ ใครเจ้าของตัวจริง?
picnaewsssss0317 1 18
ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจต่อเนื่อง กรณี สถานบริการอาบอบนวดชื่อดัง ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ที่ตั้ง เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ร่วมกับหลายหน่วยงานเข้าทลายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าเป็นแหล่งค่าประเวณีและค้ามนุษย์ ล่าสุด น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อมรินทร์ออนเซน (AMARIN ONSEN LIMITED PARTNERSHIP) เจ้าของสถานบริการดังกล่าว ถูกออกหมายจับพร้อมพวก 8 คน เจ้าตัวเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเมื่อ ช่วงเย็นวันที่ 16 ม.ค.2561 ที่ผ่านมา
ประเด็นที่ยังเป็นข้อสงสัยคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อมรินทร์ออนเซน เจ้าของ ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ และเครือข่าย รวม 10 แห่ง ใคร เป็นเจ้าของ ตัวจริง? 
เมื่อ 13 ม.ค. 2561 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลรายงานไปแล้วว่า น.ส. ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นใหญ่ 7 แห่ง และมีเครือข่ายเกี่ยวเนื่องอีก 3 แห่ง รวมอย่างน้อย 10 แห่ง ในจำนวนนี้อย่างน้อย 1 แห่ง มีชื่อ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นใหญ่ (ข้อมูลการจดทะเบียนณ วันที่ 29 เม.ย. 2559 ) คือ บริษัท ผมทอง จำกัด (POME THONG LIMITED) อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 203/1-3 ซอยลาดพร้าว 55 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ล่าสุดพบว่า ในจำนวนธุรกิจ 10 แห่งที่มี น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ กับพวก เป็นกรรมการ นั้น นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ เคยปรากฎชื่อถือหุ้นอย่างน้อย 2 แห่ง 
1.บริษัท ผมทอง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 22 ก.ย. 2520 อาบอบนวด ทุน 100,000 บาท ณ วันที่ 30 เม.ย.2550 นายกำพลถือหุ้น จำนวน 430 หุ้น (วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 1 ม.ค.2546) นางนิภา ถือจำนวน 330 หุ้น (วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 1 ม.ค.2546) จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,000 หุ้น ๆละ 100 บาท ขณะมีนายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ เป็นกรรมการ และนายมาตรวงศ์ร่วมถือหุ้น 20 หุ้น (ดูเอกสาร) ต่อมามี น.ส.ศศิธร เป็นกรรมการ 
picnaewsssss0017 1 18
นายกำพล และนายนิภา ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทนี้เรื่อยมา กระทั่ง วันที่ 30 เม.ย.2560 ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้แก่ นายวัชรินทร์ มีสุข และ นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ ทั้งสองคนถือหุ้นคนละ 340 หุ้นและ 330 หุ้น ตามลำดับ นายวัชรินทร์ มีสุข และ นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ นั้น มีชื่อเป็นกรรมการ บริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2547 รวมทั้งถือหุ้นร่วมกับนายกำพลและนางนิภามาก่อน 
picnaewsssss0117 1 18
2.บริษัท แอมบาสซี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 23 พ.ย. 2535 ทุนล่าสุด 2,800,000 บาท เดิมมีผู้ถือหุ้น 11 คน โดยนายอรรถกฤช ริเริ่มกุล นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา และนายสาธิต โอภาสถาพร ถือหุ้นใหญ่คนละ 40 หุ้น นายวัชรินทร์ มีสุข ถือ 20 คน อีก 7 คนๆละ 20 หุ้น , 2 พ.ย.2538 นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ เข้ามาเป็นกรรมการร่วมกับ นายอรรถกฤช ริเริ่มกุล และ นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา , 7 ก.ค.2542 นายวัชรินทร์ มีสุข นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา และ นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ เป็นกรรมการ
15 มี.ค.2552 มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 7 คน ปรากฎชื่อ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นใหญ่ 157 หุ้น นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ 19 หุ้น ที่เหลือ 5 คนๆละ 19 หุ้น (ดูเอกสาร) 
picnaewsssss0217 1 18
กระทั่ง วันที่ 30 เม.ย.2560 นางนิภา และ นายกำพล ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นายวัชรินทร์ มีสุข  และนายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ เช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งสองคนคือคนละ 140 หุ้น และ 112 หุ้น ตามลำดับ และ น.ส.วจี นิ่มนุช 28 หุ้น (ดูเอกสาร) 
picnaewsssss17 1 18
อย่างไรก็ตาม บริษัทนี้ ไม่มีชื่อ น.ส.ศศิธร ร่วมถือหุ้นและเป็นกรรมการ 
ขณะที่ บริษัท เค.เอ็น.วี.เพชรบุรี จำกัด บริการ อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 1549/8-11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อ นายวัชรินทร์ มีสุข นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ ถือหุ้นและเป็นกรรมการ นั้น ก็ไม่มีชื่อ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นและเป็นกรรมการเช่นกัน แต่มี นายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ ซึ่งมีที่อยู่เดียวกับนางนิภา ร่วมถือหุ้น 
ทั้งนี้ บริษัท เค.เอ็น.วี.เพชรบุรี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 21 เม.ย.2551 ทุน 100,000 บาท บริการ อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 1549/8-11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร มีนายวัชรินทร์ มีสุข นายเสรี พฤกสวัสดิ์นนท์ และ นายวิเชียร นาชัยเวียง ถือหุ้นใหญ่ คนละ 332 หุ้น นายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ (ที่อยู่เดียวกับนางนิภา) น.ส.ทัศนีย์ บวรเกียรติไพศาล น.ส.วจี นิ่มนุช และ นายประเสริฐสุข ศรีวณิชชากร คนละ 1 หุ้น รวม 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท นายวัชรินทร์ มีสุข และ นายเสรี พฤกสวัสดิ์นนท์ เป็นกรรมการ หลังจากก่อตั้งไม่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น 
กระทั่งวันที่ 31 ก.ค.2560 นายวัชรินทร์ มีสุข นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ ถือหุ้นใหญ่คนละ 500 หุ้นและ 400 หุ้น ตามลำดับ และ และ น.ส.วจี นิ่มนุช 100 หุ้น นายวัชรินทร์ มีสุข เป็นกรรมการ 
เท่ากับ 
1.ธุรกิจในกลุ่มนี้อย่างน้อย 10 แห่ง ไม่ปรากฎชื่อ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ เป็นกรรมการ แต่เคยถือหุ้น 2 บริษัท ก่อนโอนให้หุ้นส่วนคนอื่นที่เคยถือหุ้นร่วมกันมา 
2. ผู้มีชื่อถือหุ้นและหรือเป็นกรรมการธุรกิจกลุ่มนี้คือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ นายวัชรินทร์ มีสุข นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ นายเสรี พฤกสวัสดิ์นนท์ และ นายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ ซึ่งรายหลังมีที่อยู่เดียวกับนางนิภา วิระเทพสุภรณ์
นายกำพล ระบุที่อยู่ในเอกสารบัญชีผู้ถือหุ้น เลขที่ 4/4 หมู่ 10 ต.แม่จั๊ว อ.เด่นชัย จ.แพร่ นางนิภา ที่อยู่เลขที่ 1251/43 ถ.จันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ที่อยู่ปัจจุบันเลขที่ 88/14 หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี 
น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ เป็นเครือญาติ กับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์  อย่างไรหรือไม่? และใครเป็นเจ้าของตัวจริงในกลุ่มนี้? หากพิจารณาจากฐานข้อมูลข้างต้น อาจพอคาดเดา?
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่านายกำพล หรือ เสี่ยโนอาร์ เคยซื้อกิจการอาบอบนวด 3 แห่งจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เมื่อหลายปีก่อน ต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงจากดีเอสไอกันต่อไป 

ใครคือเจ้าของ ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ อาบอบนวดดัง โยง 10 แห่ง

ใครคือเจ้าของ ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ อาบอบนวดดัง โยง 10 แห่ง

เขียนวันที่
วันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2561 เวลา 17:00 น.
เขียนโดย
isranews

เปิดขุมข่าย ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ อาบอบนวดดัง ก่อนถูก จนท.หลายหน่วยงานยกกำลังนับร้อยทลาย นำหญิงให้บริการกว่าร้อยคนหลายสัญชาติ สอบลอบค้าประเวณี-มนุษย์หรือไม่ แจ้งงบการเงินไม่มีรายได้หลายปี พบ กก. ผู้ถือหุ้น เชื่อมโยงธุรกิจในกลุ่มอีก 9 แห่ง
picseeccc0513 1 18
เป็นประเด็นร้อนฉ่า วันที่ 12 ม.ค.2561 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. ตำรวจ สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 5/2561 เข้าตรวจค้น สถานบริการอาบอบนวด ‘วิคตอเรีย ซีเครท’เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. หลังจากถูกร้องเรียนว่า ลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แอบแฝงค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ควบคุมหญิงให้บริการ 113 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อายุ สัญชาติ และตรวจสอบใบอนุญาตผู้ประกอบการมีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คำถามก็คือใครเป็นเจ้าของ และมีเครือข่ายธุรกิจกี่แห่ง?
จากการตรวจสอบพบว่าสถานบริการอาบอบนวดดังกล่าว เป็นที่ตั้งเดียวกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อมรินทร์ออนเซน เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนพบว่า หจก. อมรินทร์ออนเซน (AMARIN ONSEN LIMITED PARTNERSHIP) จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 30 ก.ย. 2509 ทุน 300,000 บาท ประกอบธุรกิจ บริการอาบอบนวด ระบุ ที่ตั้ง เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 1 ก.ย. 2560 มีหุ้นส่วน 2 คน คือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ลงหุ้นด้วยเงิน 250,000 บาท (83.33%) นายอภิชาติ แซ่แต้ 50,000 บาท (16.66%) น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จากการตรวจสอบการยื่นงบการเงินล่าสุดสิ้นปี 2559 ไม่ระบุว่ามีรายได้ และก่อนหน้านี้ก็แจ้งว่าไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ปี 2559 สินทรัพย์ 174,707 บาท หนี้สิน 5,000 บาท ขาดทุนสะสม 130,292. บาท
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส. ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ มีชื่อเป็นถือหุ้นและหรือเป็นกรรมการอีก 6 แห่ง
1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทอร์เม่ (THERMAE LIMITED PARTNERSHIP) จดทะเบียนวันที่ 9 ธ.ค. 2508 ทุนล่าสุด 2,850,000 บาท ให้เช่าใบอนุญาต ที่ตั้งเลขที่ 555 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร น.ส. ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ลงหุ้น 1,475,000 บาท ( 51.75%) และ น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ ลงหุ้น 1,375,000 บาท (48.24%) น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 รายได้ 864,000 บาท กำไรสุทธิ 607,477 บาท สินทรัพย์ 8,972,143 บาท หนี้สิน 40,479 บาท กำไรสะสม 6,081,663 บาท
2.บริษัท ผมทอง จำกัด (POME THONG LIMITED) จดทะเบียนวันที่ 22 ก.ย. 2520 ทุน 200,000 บาท ประกอบธุรกิจ อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 203/1-3 ซอยลาดพร้าว 55 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ที่ตั้งสำนักงานบัญชีเลขที่ 1549/8-11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 29 เม.ย. 2559นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นใหญ่ 43% นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ 33% นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา นายวัชรินทร์ มีสุข และ นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ คนละ 7% นายมาตรวงศ์ ชนินทราเวศย์ 2% และ นาย เสรี พฤกสวัสดิ์นนท์ 1% น.ส. ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ แจ้งผลประกอบการรอบปี 2559 รายได้ 4,081,121 บาท ขาดทุนสุทธิ 165,571 บาท สินทรัพย์ 2,298,370 บาท หนี้สิน 376,884 บาท กำไรสะสม 1,821,486 บาท
3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวนิสสถานบริการอาบน้ำ นวดอบ (VENIS MASSAGE PARLOR LTD.,PART) จดทะเบียนวันที่ 28 ธ.ค. 2508 ทุน 450,000 บาท ล่าสุด 2 ล้านบาท ให้บริการอาบอบนวด ที่ตั้งเลขที่ 55/5 ซอยอินทามระ 45 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 1 ก.ย. 2560 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ลงหุ้น 1,200,000 บาท (60%) น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ 790,000 บาท (39.50%) นาย สมพงษ์ เขื่อนมั่น 50,000 บาท (0.50%) น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ และ น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ เป็นกรรมการ น.ส.นุชนาช นิลธนากาญจน์ หรือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เป็นกรรมการผูมีอำนาจ แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ขาดทุนสุทธิ 5,372 บาท สินทรัพย์ 133,676 บาท หนี้สิน 5,000 บาท ขาดทุนสะสม ,871,323 บาท
4.บริษัท รัตนชีวะ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 พ.ค. 2532 ทุน 200,000 บาท ประกอบธุรกิจ ไนท์คลับ ที่ตั้งเลขที่ 555 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 20 ก.ค. 2560 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้น 33% นายวรดิศ ธนภัทร 34% นายเจริญชัย แสงทองอร่าม 33% น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ขาดทุนสุทธิ 5,000 บาท สินทรัพย์ 10,296 บาท หนี้สิน 21,000 บาท ขาดทุนสะสม 210,703 บาท
5.บริษัท โรงน้ำชาห้องแอร์สุวรรณ จำกัด (SUWAN TEA ROOM CO.,LTD) ชื่อเดิม บริษัท โรงน้ำชาห้องแอร์ฮอลิเดย์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 ม.ค. 2522 ทุน 700,000 บาท ประกอบธุรกิจ ให้บริการนวดแผนโบราณ อาหารและเครื่องดื่ม ที่ตั้งเลขที่ 55/5 ซอยอินทามระ 45 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 20 ก.ค. 2560 น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้น 3,500 หุ้น (50%) น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ 3,000 หุ้น (42.85%%) นายอนุพงษ์ ธนภัทร 500 หุ้น (7.14%) น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ขาดทุนสุทธิ 5,338 บาท สินทรัพย์ 1,258,563 บาท หนี้สิน 5,000 บาท กำไรสะสม 553,563 บาท
6.บริษัท ลาคอสต้า จำกัด (LA-COSTA CO.,LTD.)ชื่อเดิม บริษัท คอสต้า จำกัด จดทะเบีนวันที่ 14 ต.ค. 2517 ทุนล่าสุด 2,200,000 บาท ประกอบธุรกิจ ให้บริการนวดแผนโบราณ อาหารและเครื่องดื่ม ที่ตั้งเลขที่ 55/5 ซอยอินทามระ 45 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 20 ก.ค. 2560 น.ส.ศศิธร วีระเทพสุภรณ์ ถือ 1,100 หุ้น (50%) น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ 1,000 หุ้น (45.45%) และ นายอนุพงษ์ ธนภัทร 100 หุ้น (4.54%) น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินรอบปี 2559 ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ขาดทุนสุทธิ 5,351 บาท สินทรัพย์ 5,396,222 บาท หนี้สิน 5,000 บาท กำไรสะสม3,191,222 บาท
หากรวม หจก. อมรินทร์ออนเซน ด้วยเท่ากับ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ มีชื่อเป็นกรรมการ 7 แห่ง
ขณะที่ น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ ถือหุ้นและเป็นกรรมการธุรกิจอาบอบนวดอีกแห่งชื่อ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชวาลา อาบ อบ นวด (CHAVALA TURKISHBATH LIMITED PARTNERSHIP) จดทะเบียนวันที่ 26 มี.ค. 2519 ทุน 320,000 บาท ประกอบธุรกิจ อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 55/5 ซอยอินทามระ 45 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 26 มี.ค. 2556 น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ ถือหุ้นใหญ่ 310,000 หุ้น (96.87%) น.ส. ศรีสุดา ธีระตระกูลวัฒนา 10,000 หุ้น (3.12%) แจ้งงบการเงินรอบปี 31 มี.ค.2560 ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน ขาดทุนสุทธิ 12,828 บาท สินทรัพย์ 7,491,549 บาท หนี้สิน 42,000 บาท กำไรสะสม 7,129,549 บาท และยังถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ บริษัท เดวิส ไดมอนด์ สตาร์ จำกัด ทุน 50 ล้านบาท เช่า,น้ำประปา,ไฟฟ้า,โทรศัพท์ ที่ตั้งเลขที่ 555 ถนนริมคลองสามเสน แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 20 ก.ค. 2560 น.ส. ณปภา นิลธนากาญจน์ ถือหุ้นใหญ่ 80% น.ส. จงจิต พูนทอง 18% และกระทรวงการคลัง 2%
ส่วน นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ และ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีก อย่างน้อย 1 แห่ง คือ บริษัท แอมบาสซี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (EMBASSY ENTERTAINMENT CO.,LTD.) จดทะเบียนวันที่ 23 พ.ย. 2535 ทุนล่าสุด 2,800,000 บาท ประกอบธุรกิจ ขายอาหารและเครื่องดื่ม ที่ตั้งเลขที่ 1549/1 ซอยเพชรบุรี 39 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 15 มี.ค. 2559 นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ถือหุ้นใหญ่ 56 % นายกำพล 6.78 % นายสกุล อรุณวัฒนางค์กูล 10% นายถนอมศักดิ์ ชาญศักดิ์วานิช นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา นายวัชรินทร์ มีสุข นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ คนละ 6.78 % นายวัชรินทร์ มีสุข นายวรชัย ธีระตระกูลวัฒนา และ นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินรอบปีสิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. 2559 รายได้ 397,738 บาท กำไรสุทธิ 139,894 บาท สินทรัพย์ 1,413,840 บาท หนี้สิน 47,140 บาท กำไรสะสม 666,699 บาท
สำหรับ นายวัชรินทร์ มีสุข นอกจากเป็นกรรมการ บริษัท ผมทอง จำกัดและ บริษัท แอมบาสซี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด มีชื่อถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ บริษัท เค.เอ็น.วี. เพชรบุรี จำกัด (K.N.V. PETCHBURI CO.,LTD.) จดทะเบียนวันที่ 21 เม.ย.2551 ทุน 100,000 บาท บริการ อาบ อบ นวด ที่ตั้งเลขที่ 1549/8-11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายวัชรินทร์ มีสุข ถือหุ้น 50%นายวินิตย์ เพิ่มสุขารมย์ 40% น.ส. วจี นิ่มนุช 10% นายวัชรินทร์ มีสุข และ นายเสรี พฤกสวัสดิ์นนท์ เป็นกรรมกร
รวมธุรกิจในกลุ่มนี้ประมาณ 10 แห่ง น่าสังเกตว่า ทุนจดทะเบียนเพียงไม่กี่แสนบาท ส่วนใหญ่แจ้งว่าไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน  
อย่างไรก็ตาม การจับกุม‘วิคตอเรียซีเครท’ในครั้งนี้  เจ้าหน้าที่จับกุม นายบุญทรัพย์ อมรรัตนสิริ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาค้าประเวณี ส่วนเจ้าของผู้ขอใบอนุญาตนั้น ไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือ มีส่วนร่วมแต่อย่างใด
ธุรกิจ อาบอบนวด กลุ่ม  ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ และ  ณปภา นิลธนากาญจน์
picseeccc13 1 18
picseeccc0013 1 18
picseeccc0113 1 18

ศาลอนุมัติหมายจับ “เสี่ยกำพล” ค้ามนุษย์อาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” 12 ข้อหา

ศาลอนุมัติหมายจับ “เสี่ยกำพล” ค้ามนุษย์อาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” 12 ข้อหา
Cr:https://mgronline.com/crime/detail/9610000006205
ศาลอนุมัติหมายจับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ในความผิด 12 ข้อหา ฐานค้ามนุษย์อาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” สตม. ประสานด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เฝ้าระวัง ติดตามบุคคลตามหมายจับ ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทหาร ตรวจค้น สถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท และยื่นคำร้องขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ และศาลได้อนุมัติหมายจับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/100 หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง ปทุมธานี จ.ปทุมธานี ตามหมายจับ เลขที่ 113/61 ลงวันที่ 19 ม.ค. 61 และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ หรือ ธีระตรกูลวัฒนา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/88 หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ตามหมายจับ เลขที่ 114/61 ลงวันที่ 19 ม.ค. 61 ในความผิดฐาน
1. กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็ก (บุคคลผู้มีอายุต่ากว่าสิบแปดปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วย วิธีการฉ้อฉล หลอกหลวง หรือใช้อานาจมิชอบ
2. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำความผิด ฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
3. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม
4. ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม
5. ร่วมเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่ถึง 18 ปี ทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย
6. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
7. ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้ กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
8. ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
9. เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้า พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือ ช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
10. ร่วมเป็นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี ทางานในสถานบริการ
11. ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติ เสี่ยงต่อการกระทาความผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก
12. ร่วมกันดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี หรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี รับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนยังได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อสั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวัง ติดตามบุคคลตามหมายจับ ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ

ทุบอ่างโยงการเมืองสั่งสอนกลุ่มอำนาจเก่า?

แม้จะมีคำยืนยันจาก “พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการจับกุมการค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” หลังจากหลายฝ่ายตั้งคำถามทำนอง ถึงการบุกเข้าไปจับกุมครั้งนี้ทำนองว่า...มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่?...
“ยอมรับว่าข้อมูลการข่าวในชั้นสืบสวนพบว่า มีกลุ่มคนระดับเจ้าของ ซึ่งไม่ใช่นอมินี มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองภาคเหนือ และภาคตะวันออกที่กำลังจะตั้งพรรคการเมือง แต่การเข้าจับกุมวิคตอเรีย ซีเครท ไม่มีความเชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมือง คาดว่าข่าวที่ออกมาเป็นเพราะผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับวิคตอเรียซีเครทพยายามเชื่อมโยงไปเองว่าถูกการเมืองเล่นงาน ทั้งที่เป็นคดีที่มีการกระทำผิดกฎหมายจริง”...
ดูเหมือนปฏิบัติการตรวจสอบสถานบริการ ประเภท “อาบอบนวด” จะไม่ได้หยุดแค่ “วิคตอเรีย ซีเครท” ยังลุกลามไปถึงโคปาคาบาน่า ลองบีช เดอะลอร์ด ซึ่งทั้งหมออยู่ในเครือ “เดอะลอร์ด กรุ๊ป” ซึ่งมีข่าวว่า นอมินีของนักการเมืองคนดังดูแลอยู่...
“ผมขายคุณกำพล ผมเจรจากับคุณกำพล ที่ไหนผมขายไปบ้าง ผมขายวิคตอเรียไป ผมขายโคปาคาบาน่าไปที่รัชดา ผมขายฮอนโนลูลู ซึ่งปัจจุบัน คือเลิฟโบ๊ท ที่พระราม 9 ไป คุณกำพลได้ไป 3 - 4 ที่” นายชูวิทย์ระบุ..
เมื่อปรากฏชื่อ “นายกำพล” ขึ้น ทำให้ต้องย้อนไปนึกถึงกระแสข่าว ที่พูดคุยกันหนาหูในช่วงที่ผ่านมาว่า มีนักการเมืองอาวุโส ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในภาคตะวันออกได้ไหว้วานให้นักธุรกิจรายหนึ่ง รับบท “นอมินี” ช่วยดูแลธุรกิจอาบอบนวดให้...
ต่อมาพอนักธุรกิจรายนี้ เริ่มปีกกล้าขาแข็ง ได้ผลกำไรตากธุรกิจค้าบริการ ก็นำเงินส่วนหนึ่งไปสนับสนุนนักการเมืองคนดัง ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในภาคเหนือตอนบน อ้างว่าต้องการสนับสนุนทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง แต่สำคัญมากกว่านั้นคือ นักการเมืองรายนี้มีความใกล้ชิด “อดีตนายกรัฐมนตรี” ซึ่งมีอำนาจเหนือพรรคการเมืองใหญ่...
จึงไม่แปลกที่บางคนเชื่อว่า ปฏิบัติการบุกทะลายเครือข่าย “วิคตอเรีย ซีเครท” เป็นแผน “ทุบหม้อข้าว” นักการเมืองบางคน หรือเป็นยุทธการสั่งสอนให้รู้ว่า...อย่าคิดเหิมเกริม หวังจะกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองอีก!! ...

ด่วน ! สนช.ชงยื้อใช้กม.สส. 90 วัน โรดแมปเลือกตั้งส่อเลื่อนไปต้นปี 62

ด่วน ! สนช.ชงยื้อใช้กม.สส. 90 วัน โรดแมปเลือกตั้งส่อเลื่อนไปต้นปี 62


สนช.ชงยืดใช้กม.สส. 90 วัน เลื่อนโรดแมปเลือกตั้งไปต้นปี 62 สอดรับคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ยันไม่มีใบสั่ง

เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่รัฐสภา นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จทุกมาตราแล้ว และจะมีการแถลงรายละเอียดภาพรวมทั้งหมดในวันที่ 22 มกราคม ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 ของกฎหมายดังกล่าว โดยกำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วันนับแต่วันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา

นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมพิจารณาอย่างรอบด้านและเป็นอิสระ ไม่ได้มีใบสั่งจากคสช. ซึ่งกรรมาธิการฯ เห็นว่าเนื่องจากมีคำสั่งของคสช.ที่ 53/2560 ในการกำหนดกระบวนการทางธุรการของพรรคการเมืองที่จะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม จึงเห็นว่าควรจะต้องมีการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวให้สอดคล้องกับคำสั่งคสช.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเสนอให้ที่ประชุมสนช.พิจารณาในสัปดาห์หน้าอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่

เมื่อถามว่า หากที่ประชุมสนช.เห็นชอบตามเสียงข้างมากของกรรมาธิการฯ ในมาตรา 2 จะมีผลให้การเลือกตั้งขยับออกไปจากกำหนดการเดิมในเดือนพฤศจิกายน 2561 หรือไม่ นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ยอมรับว่าอาจจะต้องมีการขยับออกไปบ้าง โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 ทั้งนี้ ยืนยันว่าการพิจารณาของกรรมาธิการฯ มีหน้าที่เฉพาะในเรื่องเนื้อหาของกฎหมายเป็นหลัก ไม่ได้พิจารณาเชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมืองหรือความมั่นคงแต่อย่างใด

คำนูน ติง ร่างพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ

ปิดจ็อบไปแล้วเรียบร้อย
ร่างพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ผ่านมติสนช.วาระ 2, 3 ไปแล้วบ่ายวันนี้ภายในเวลาหย่อน 2 ชั่วโมงนิดหน่อย โดยมีสมาชิกอภิปรายไม่มาก ผมในฐานะคนนอกสนช.ที่ได้รับเกียรติให้เป็นกรรมาธิการได้สงวนความเห็นไว้ 2 ประเด็นดังที่เล่าไปในโพสต์ก่อนหน้า ได้มีโอกาสลุกขึ้นอภิปรายในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยผู้สงวนความเห็น
ผลการลงมติแพ้ไปทั้ง 2 ประเด็น
ประเด็นขอให้เพิ่มเติมนิยาม 'เงินแผ่นดิน' แพ้ไปด้วยคะแนน 128 - 22 -13
ประเด็นขอให้ตัดบทบัญญัติเปิดช่องให้ออกกฎหมายพิเศษกู้เงินและใช้เงินกู้นั้นตามโครงการโดยไม่ต้องนำส่งคลังและไม่ต้องผ่านกฎหมายงบประมาณรายจ่าย แพ้ไปด้วยคะแนน 128 - 24 - 14
แม้จะแพ้โหวต แต่เป็นไปด้วยความปลอดโปร่งโล่งอกเหมือนได้ปลดเปลื้องภาระหนักบางประการลงไป เพราะได้แสดงจุดยืนที่ยืนอย่างนี้มา 10 ปีครบถ้วนตามสมควรแก่เหตุแล้ว
ที่ยินดีคือความเห็นมุมมองจากมิตรสหายและผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือออกมาในเชิงบวก
ที่ดีใจมากเป็นพิเศษคือเสียงโทรศัพท์จากท่านผู้ที่เป็นเสมือนครูคนสำคัญในเรื่องนี้ของผมตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน เมื่อครั้งขอคำปรึกษาท่านในกรณีร่างกฎหมายกู้เงินสองล้่านล้านบาท
ดร.ปรีชา สุวรรณทัต
ท่านเป็นอาจารย์อาวุโสและนักกฎหมายมหาชนด้านการเงินการคลัง ตำราของท่านยังอยู่ในกระเป๋าเอกสารที่ผมแยกไว้สำหรับประเด็นกฎหมายพิเศษกู้เงินฯของผมโดยเฉพาะจนทุกวันนี้ เมื่อเช้าก็เพิ่งหยิบมาเปิดอ่านบางประเด็น
ท่านบอกว่าชมทีวีรัฐสภาช่วงพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ และจะขอนำคำอภิปรายผมในทั้ง 2 ประเด็นไปประกอบการสอนวิชากฎหมายการคลังทั้งที่นิด้าและธรรมศาสตร์ต่อไป
กราบขอบพระคุณครับอาจารย์
ขอบพระคุณท่านสมาชิกสนช.ทุกท่าน
ผมยังคงทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้ต่อไปเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฉบับใหม่

กลุ่มพิราปขาว2006:คุณทำแบบนี้ นายจะกลับมาได้อย่างไร

แดงซัดกันเอง?! แฉลึก"ชายบุกต่อยเอกชัย” ที่แท้แดงด้วยกัน-พกมีด 3 นิ้ว อ้างไม่พอใจ-พร้อมปล่อยวลีเด็ด"ทำแบบนี้ นาย(ใหญ่)จะกลับมาได้ไง”
ชัดแล้ว-แดงซัดกันเอง?! แฉลึก "ชายบุกต่อยเอกชัย” หน้าทำเนียบขณะบุกยื่นนาฬิกาให้ "บิ๊กป้อม" ที่แท้คนเสื้อแดงด้วยกัน เพราะเคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มพิราบขาว 2006 ซึ่งถือเป็นมวลชนหลักก่อนที่บางส่วนจะกลายมาเป็นคนเสื้อแดง หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 แถมพบเจ้าตัวพกมีดยาว 3 นิ้วติดตัวมาด้วย ส่วนเหตุที่ปรี่เข้าต่อยเอกชัย เจ้าตัวอ้างไม่พอใจแนวทาง เพราะคำพูดก็ชัดแจ้งอยู่แล้วว่า "คุณทำแบบนี้ นายจะกลับมาได้อย่างไร”
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายเอกชัย หงส์กังวาน อดีตผู้ต้องหาคดี ม.112 ถูกชายเสื้อแดงบุกเข้าต่อยหน้าทำเนียบ ขณะเจ้าตัวเดินทางไปยื่นนาฬิกาให้ "บิ๊กป้อม" จากปมนาฬิกาฉาว กระทั่งชายเสื้อแดงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวเอาไว้ทัน และนำตัวไป สน.ดุสิตตามี่สื่อทุกสำนักนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดต่อกรณีนี้ ทราบชื่อชายดังกล่าวคือ "นายฤทธิไกร ชัยวรรณศาสน์" อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 3 ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และจากการตรวจค้นพบนายฤทธิไกร พบมีดพกชนิดพับได้ความยาวประมาณ 3 นิ้วมาด้วย ก่อนนำตัว พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต แจ้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธมีดไปในเมืองสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจได้เชิญตัวนายเอกชัย ไปยัง สน.ดุสิตเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจนั้น นายฤทธิไกร ได้ต่อว่านายเอกชัยทันทีว่า “คุณทำอย่างนี้ แล้วนายจะกลับมาได้อย่างไร”
ข้อมูลระบุว่า สำหรับประวัติของนายฤทธิไกรนั้น เคยร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มพิราบขาว 2006 หลังเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ซึ่งถือเป็นมวลชนหลักของระบอบทักษิณ ก่อนที่บางส่วนจะกลายมาเป็นคนเสื้อแดงในปัจจุบัน
เรียบเรียงโดย
นายอารมณ์ เคนหล้า, สำนักข่าวทีนิวส์
Publisher : 2018-01-19 13:10:52

ลุยสุดตัวโดย


ลุยสุดตัวโดย 

ไทยรัฐฉบับพิมพ์


คิดเร็วต้องทำเร็ว คิดใหญ่ ต้องทำใหญ่

ถ้าคิดจะสืบทอดอำนาจ คสช.ไประยะยาวๆ ต้องรีบลุยระยะสั้นๆให้ทันช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งใหญ่ปลายปี

ถ้าเงินไม่มีก็ต้องกู้เงินมาอัดฉีดเพื่อเนรมิตนโยบายในแผ่นกระดาษให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (ต่อยอดโครงการอีสต์เทิร์นซีบอร์ดยุคป๋าเปรม ติณสูลานนท์)

เป็นโครงการโชว์ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะใช้เป็นใบเสร็จยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยจะก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากถอยยาวๆมาเกือบ 10 ปี

ด้วยการทุ่มทุนกว่า 5 แสนล้านบาท สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมไฮเทคครบวงจร เพื่อดึงดูดกลุ่มธุรกิจทั่วโลกให้แห่เข้ามาลงทุนในเมืองไทย

แถมยกเว้นภาษีระยะยาว พร้อมประเคนสิทธิพิเศษต่างๆให้อย่างจุใจ

เรียกว่าถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ ไม่มีข้อเสนอประเทศไหนจะถึงอกถึงใจเท่าข้อเสนอของไทยแน่นอน!!

“แม่ลูกจันทร์” สนับสนุนโครงการ อีอีซี ของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.ด้วยเหตุผล 3 ประการ

1,โครงการอีอีซีจะพลิกเศรษฐกิจไทยให้แข็งโป๊กในระยะยาว
2, จะยกระดับการแข่งขันของไทยให้ทัดเทียมคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน
3, แม้โครงการอีอีซีต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาล แต่มีความคุ้มค่ากว่าโครง การกระตุ้นเศรษฐกิจอีลุ่ยฉุยแฉกวูบเดียวหมดไปไม่เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน

ฉะนั้น ถ้าประเมินอย่างเป็นกลาง โครงการอีอีซี แม้ไม่เกิดผลสำเร็จรวดเร็วทันใจอย่างที่รัฐบาลฉายหนังโฆษณา

แต่จะเกิดผลดีอย่างชัดเจนตั้งแต่ 5 ปีจากนี้ไป

และจะเป็นน้ำซึมบ่อทรายให้ตักตวงผลประโยชน์ไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 20 ปี 30 ปี!!

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าล่าสุด ดร.สมคิด แม่ทัพเศรษฐกิจของรัฐบาลสั่งอัดฉีดงบลงทุนโครงการก่อสร้างพื้นฐาน 5 โครงการจากวงเงิน 5 แสนล้านบาท เป็น 6 แสนล้านบาทให้สุดๆไปเลย

เพื่อเร่งสปีดโครงสร้างพื้นฐานเขตเศรษฐกิจอีอีซีให้มีความพร้อมที่สุดในเวลา 5 ปีจากนี้ไป ได้แก่...
1,โครงการรถไฟความเร็วสูงระยอง–กรุงเทพฯ เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิสนามบินดอนเมือง–สนามบินอู่ตะเภา
ขีดเส้นตาย ต้องเซ็นสัญญาเริ่มก่อสร้างกลางปีนี้ และต้องเสร็จใน 5 ปี!!
2,โครงการขยายสนามบินอู่-ตะเภา ให้รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี
ขีดเส้นตาย ต้องเซ็นสัญญาในเดือนกันยายนปีนี้ และต้องเปิดบริการใน 5 ปีจากนี้ไป
3,โครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมเครื่องบิน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางซ่อมเครื่องบินพาณิชย์แห่งใหม่ของเอเชียขีดเส้นตาย...จะเร่งประมูลคัดเลือกบริษัทเอกชนในเดือนพฤษภาคมและต้องเสร็จเปิดบริการได้ภายใน 3 ปี
4,โครงการพัฒนาท่าเรือมาบ-ตาพุดระยะ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางทะเล
ขีดเส้นตาย ต้องเริ่มสร้างสิ้นปีนี้ และต้องเสร็จภายใน 6 ปี
5,โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 3 ให้รองรับตู้คอนเทน-เนอร์เพิ่มได้ถึง 15 ล้านบีทียูต่อปี
ขีดเส้นตาย ต้องเริ่มคิกออฟภายในปีนี้และต้องเสร็จภายใน 6 ปี

ทำให้ประเทศไทยมีท่าเรือใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของอาเซียน เท่ากับมาเลเซียและสิงคโปร์

ต้องขีดเส้นตายขู่ไว้...ไม่ให้เช้าชามเย็นชาม.

"แม่ลูกจันทร์"

เริ่มโยนชื่อหยั่งกระแส

เริ่มโยนชื่อหยั่งกระแส


ขนาด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ประกาศย้ำแล้วย้ำอีก ช่วงกลางปีจะประกาศวัน ว. เวลา น. เข้าคูหากาคะแนน ตกราวๆปลายปีนี้

พันธะสัญญาผู้นำชักไม่แน่นอนในสายตานักการเมืองซะอย่างนั้น

ล่าสุดในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ของ สนช. มีรายงานข่าวออกมาว่าเป็นการประชุมลับ มีข้อเสนอให้แก้ไขจุดสำคัญ

“ให้ร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ที่จะประกาศเป็นกฎหมาย มีผลบังคับใช้หลังมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา อีก 90 วัน” โดยเปลี่ยนจากปกติจะให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในวันถัดจากประกาศในราชกิจจาฯ
นั่นก็เท่ากับ “ยืดเวลา” ใช้กฎหมาย กระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปถึงโปรแกรมตามโรดแม็ป
กระทบดีเดย์คืนสู่ประชาธิปไตย ลากไปต้นปี 2562

เรียกเสียงดักคอ “เกมยื้อ” กระหึ่ม

ทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นแค่ข่าวลือลอยลมหรือไม่ เพราะฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาปฏิเสธ ทั้งรัฐมนตรีที่ประสานงาน สนช. โยนเป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐบาลไม่เกี่ยว “แต่ถ้าเป็นจริงต้องชี้แจงสังคมให้เข้าใจได้”

ขณะที่บรรดา กมธ. ออกมาประสานเสียงยืนยัน ไม่มีประชุมลับ ไม่มีการแก้ไขประเด็นดังกล่าว

ถ้ายึดเอาตามที่ กมธ. “ต้นเรื่อง” ยืนยัน ก็ไม่น่าจะมีคิวแทรกซ้อนที่ว่า

เพียงแต่ออกจะแหม่งๆ ข่าวลือดันโผล่ช่วงมีกระแสแรง ถึงโปรแกรมยาวเลือกตั้งไปเดือน มี.ค.2562
คิวแทรกซ้อนโผล่ถี่ในภาวะฝุ่นฟุ้งประเทศไทย

แต่ที่ไม่ค่อยมีการดักคอดักทาง ทั้งที่ถือเป็นอีกไฮไลต์สำคัญก่อนเลือกตั้ง ส.ส.ด้วยซ้ำ ทั้งการเลือก ส.ว. จากกลุ่มสาขาอาชีพ บวกรวมกับลอตบัญชีแต่งตั้ง และ ส.ว.โดยตำแหน่ง

เริ่มมีกระแสข่าว บรรดานักวิ่งเริ่มพุ่งออกจากจุดสตาร์ต ล็อกตัวจัดทำบัญชีกันแล้ว

250 ว่าที่สมาชิกสภาสูง คสช.คอนโทรลเบ็ดเสร็จและชิลๆ

อีกทัวร์นาเมนต์สำคัญ “เลือกตั้งท้องถิ่น” ที่จะมาก่อนทุกคิว น่าจะไม่เกินกลางปี 2561 นี้ โดยอาจเริ่มจากคิวนายก อบจ. ต่อเนื่องไปที่ อบต. เทศบาล เมืองพัทยา รวมทั้งที่จับตาคือ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

เวลานี้เจ้าสนามเมืองหลวง ทั้งแชมป์เก่าอย่างค่ายประชาธิปัตย์ หรือคู่แข่งพรรคเพื่อไทย เริ่มที่จะซาวเสียงหาชื่อ เช่นเดียวกับฝ่ายอำนาจพิเศษ คสช. ขั้วอำนาจสอดแทรกที่ทับซ้อน ปชป.

สำหรับประชาธิปัตย์ นอกจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงที่กระแสเริ่มแผ่วไป ยังมี “องอาจ คล้ามไพบูลย์-กรณ์ จาติกวณิช-สามารถ ราชพลสิทธิ์” ฯลฯ

รวมทั้ง “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน ขายดีมีโอกาสเลือกแบรนด์

จะตีตรา ปชป. หรือลง “อิสระ” เคลือบหรูๆ ด้วย “อำนาจพิเศษ”

เช่นเดียวกับค่ายเพื่อไทย นาทีนี้นายใหญ่ยังไม่เคาะ แต่เปิดโอกาสให้ลูกค่ายเสนอคนเข้าประกวด

ที่มาแรงนอกจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โซเชียลปั่นกระแสพุ่ง จากตราโลกลืมกลายเป็น “แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ในยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ติดลมบนยาว ทั้งอยู่ในโผแคนดิเดตแม่ทัพเพื่อไทย

ล่าสุดแววดีมีกระแสนายใหญ่-นายหญิง เล็งส่งชิงเก้าอี้ที่พลาดเป้ามาตลอด อย่างผู้ว่าฯ กทม.

รวมทั้งที่เริ่มฉายแวว “พิชัย นริพทะพันธุ์” อดีต รมว.พลังงาน ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยืนอยู่แถวหน้าออกโรงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล สไตล์ติเพื่อก่อ แต่โดนเรียกเข้าค่ายทหารมานับ 10 รอบ

เข้าตาคนในค่าย-นอกค่าย กระทั่งบางรายในขั้วอำนาจพิเศษ

ทั้งหมดถูกโยนชื่อมาเช็กแต้ม หยั่งกระแสคนเมืองหลวง

ในห้วงที่ยังไม่ชัด กทม.จะเปิดสนามพร้อมท้องถิ่นอื่นรึเปล่า.


ทีมข่าวการเมือง