PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อาการ"เฉลิม"ยังทรงตัวหมอยังไม่ให้ออก รพ.

ความคืบหน้าอาการป่วยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ที่มีอาการชักเกร็งขณะนั่งประชุมที่กระทรวงแรงงาน และยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษ ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ รพ.รามาธิบดี เป็นวันที่ 5 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายนวรัตน์ อยู่บำรุง สก.เขตหนองแขม น้องชายของ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวหลังจากเข้าเยี่ยมอาการที่ห้องพักฟื้น ว่า จากที่ได้พูดคุยกันดีขึ้นมากแล้ว อาการโดยรวมดีขึ้นทุกอย่าง รับประทานอาหารและเดินได้เป็นปกติ เข้าห้องน้ำเอง แต่แพทย์ยังให้รอดูอาการอีกระยะหนึ่ง คาดว่าอีกไม่กี่วันก็คงออกจากโรงพยาบาล สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่ต้องให้พักผ่อนมากขึ้น เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นคนทำงานมาก ชอบนอนดึก และชอบการออกกำลังกายด้วยการเดินนานๆ บางครั้งเดินท่ามกลางแดดร้อนเกินไป

นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า โดยภาพรวมอาการของ ร.ต.อ.เฉลิม ยังทรงตัว พูดคุย เดิน นอน รับประทานอาหารได้ตามปกติมานานแล้ว แต่ที่ยังต้องนอนฟักฟื้นที่โรงพยาบาลต่อไปอีกระยะหนึ่งเพราะแพทย์ยังต้องปรับยาให้เข้าที่กับตัวคนไข้ ต้องปรับลดหรือปรับเพิ่มยาให้อยู่ในระดับพอดี มีการเจาะเลือดตรวจดูการดูดซึมว่าดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากการดูดซึมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คาดว่าอาจต้องอยู่ฟักฟื้นต่อไปราว 1 อาทิตย์ ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เจ้าของไข้ โรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงไม่ต้องเป็นห่วง แต่คนไข้ต้องดูแลตัวเอง ส่วนหายแล้วจะกลับไปทำงานหนักหรือประชุมเครียดๆ นานๆ ได้หรือไม่ ตนไม่ขอตอบ ต้องไปถามแพทย์เจ้าของไข้


อวสาน “แซม -ยุรนันท์” ป.ป.ช.มติเอกฉันท์จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน


เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 17:02 น.
อวสาน "แซม-ยุรนันท์" ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินกรณีไม่แจ้งการถือครองหุ้นบ.วิลล่า เมดิก้า 14 ล้าน และหุ้นสหกรณ์การบินไทย ภรรยา อีก 3 ล้าน เตรียมส่งเรื่องฟ้องศาลฎีกา ตัดสิทธิห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี
ffffffff
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ได้มีการพิจารณาผลการไต่สวนคดี นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ “แซม” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาว่าจงใจปกปิดไม่แจ้งการถือครองหุ้นบริษัท วิลล่า เมดิก้า (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 14 ล้านบาท ต่อ ป.ป.ช. ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา 
 “โดยเบื้องต้นที่ประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่านายยุรนันท์ จงใจที่จะปกปิดไม่แจ้งการถือครองหุ้น บริษัท วิลล่า เมดิก้า ตามที่ ป.ป.ช. ได้รับการร้องเรียนเข้ามา และจากการตรวจสอบข้อมูลของป.ป.ช. ยังพบว่า นายยุรนันท์ ไม่ได้ยื่นข้อมูลการถือครองหุ้นในสหกรณ์การบินไทย ของภรรยาอีกจำนวน 3 ล้านบาท พร้อมเห็นชอบให้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พ้นจากตำแหน่งและห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ฐานจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน” 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ตนและภรรยา ได้เข้าให้ข้อมูล ต่อ ป.ป.ช. ไปเรียบร้อยแล้ว และ ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลบัญชีทรัพย์ต่อ ป.ป.ช. ตามที่ถูกร้องเรียน แต่ปัญหาเกิดจากเหตุสุดวิสัยบางประการ ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบเอกสาร ที่ติดปัญหาน้ำท่วม รวมถึงการแจ้งข้อมูลเรื่องการลงทุนในบริษัท แต่ไม่ได้แจ้งมูลค่าหุ้น
" เรื่องข้อมูลบริษัท ผมไม่เคยมีเจตนาที่จะปิดบังอะไร เพราะสังคมรับทราบกันดีอยู่แล้วว่า เรามีตำแหน่งอะไรในบริษัท จึงไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องไปปิดบังข้อมูลอะไร"
นายยุรนันท์ ยังระบุด้วยว่า ตนเข้าใจการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. เมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาก็ต้องมีการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงการทำงานของสื่อมวลชน ที่ต้องติดตามข่าวไปจนถึงที่สุด และตนพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่ เพื่อที่สังคมจะได้ไม่มีปัญหาคลางแคลงใจอะไรต่อตนเองอีก
 ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปความเป็นมา กรณีดังกล่าวดังนี้
18 ธันวาคม 2554 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เสนอข่าว จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท วิลล่า เมดิก้า ( ประเทศไทย ) จำกัด ที่นางสาวพริมรตา ติยะจินดา นำส่งต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ระบุผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ปรากฏชื่อนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ถือครอง 144,500 หุ้น (มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ทั้งหมด 940,000 หุ้น)
 และจากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท โทรญ่า จำกัด ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 พบนางมาริษา ภมรมนตรี ภรรยานายยุรนันท์ ถือ 3,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
 ทว่าเมื่อตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายยุรนันท์กรณีรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 31 สิงหาคม 2554 ไม่ได้ระบุ “เงินลงทุน”ทั้งสองรายการ
 9 กุมภาพันธ์ 2555 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ยอมรับว่าไม่ได้แจ้งการถือครองหุ้นดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.จริง เนื่องจากเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการจัดทำเอกสารแจ้งบัญชีทรัพย์สินกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ของตนเองที่ดูรายละเอียดไม่เรียบร้อย
 นายยุรนันท์ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ได้แจ้ง เงินลงทุนบริษัท วิลล่า เมดิก้า ( ประเทศไทย ) จำกัด เป็นเพราะอยู่ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม และตนไปช่วยงานอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ขณะที่บ้านของตนเองและลูกน้องก็ถูกน้ำท่วม ทำให้มีเอกสารบ้างส่วนตกหล่นไป การจัดทำข้อมูลส่วนนี้จึงไม่ครบถ้วน แต่ก็ได้มีการแจ้งข้อมูลว่าตนเองมีตำแหน่งอะไรอยู่ในบริษัทนี้ไปแล้ว จึงไม่ใช่เป็นการปกปิดข้อมูลอะไร
“ในช่วงที่ลูกน้องนำเอกสารแจ้งบัญชีทรัพย์สินมาให้เซ็น ผมมาช่วยงานอยู่ ศปภ. ซึ่งผมได้ย้ำไปว่า ให้ไปตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนนะ อะไรขาดหายไปก็เอามาให้ครบ ถ้าเจออะไรเพิ่มเติม ก็ไปแจ้งเขาให้เรียบร้อย แต่ก็เพิ่งมารู้ในภายหลังว่า ยังขาดข้อมูลส่วนนี้ไป ก็ได้สั่งการให้ลูกน้องไปแจ้ง ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง ในช่วงเดือนธันวาคมก่อนหน้าที่ ป.ป.ช. จะมีหนังสือแจ้งมาให้ชี้แจงอีก โดยอ้างข้อมูลของสื่อมวลชน และผมก็ได้ยืนยันข้อมูลกับป.ป.ช.ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรแอบแฝง ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็เข้าใจดีแล้ว”
 กรณีการไม่แจ้งการถือครองหุ้นบริษัท โทรญ่า จำกัด ของภรรยา นายยุรนันท์ ชี้แจงว่า มาจากความเข้าใจผิดพลาดของตนเองและภรรยา ที่คิดว่าไม่มีหุ้นอยู่ในบริษัทนี้อีกแล้ว เนื่องจากภรรยาของตนได้ขายหุ้นออกไปนานเป็นปีแล้ว แต่ทางบริษัทฯ ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อภรรยาออก เพราะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ จึงทำให้ยังปรากฏชื่อภรรยาอยู่ในบริษัทอีก ทั้งที่ทางพฤตินัย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรอีกแล้ว และปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ ก็ไม่ได้ทำธุรกิจ จึงไม่ได้แจ้งข้อมูลส่วนนี้ไว้ แต่ก็ได้มีการแจ้งข้อมูลส่วนนี้ให้ ป.ป.ช. ทราบแล้วเช่นกัน
 อย่างไรก็ตาม จากคำชี้แจงของนายยุรนันท์ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตั้งข้อสังเกต 5 ประการดังนี้
 ประการแรก นายยุรนันท์เข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ต่อมาได้นำส่งบัญชีทรัพย์สินต่อสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง 1 สำนักงาน ป.ป.ช. วันที่ 11 ตุลาคม 2554 เวลา 14.42 น. ขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ว่า จะเริ่มเตรียมการทั้งหมดตั้งแต่ 08.00 น.วันที่ 8 ต.ค. 2554 เป็นต้นไป เท่ากับนายยุรนันท์นำส่งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. หลังจากที่รัฐบาลประกาศจัดตั้ง (ศปภ.) ประมาณ 3 วัน
 ประการที่สอง สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวชิ้นนี้ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2554 หลังจากนั้นนายยุรนันท์ได้ยื่นรายทรัพย์สินในส่วนที่เป็นเงินลงทุน 2 บริษัทเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช. น่าสังเกตว่าการยื่นเพิ่มเติมของนายยุรนันท์ เกิดขึ้นภายหลังจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2554
 ประการที่สาม นายยุรนันท์กรอกแบบฟอร์มในบัญชีทรัพย์สิน “ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ยื่นในหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานเอกชนอื่น” ระบุ ตำแหน่ง “VICE PRESIDENT” บริษัท วิลล่า เมดิก้า ( ประเทศไทย ) จำกัด ที่ตั้ง เลขที่ 2/55-57 อาคารแบงคอก เมดิเพล็กซ์ ชั้น 3 ซอยสุขุมวิท 42 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 และระบุว่าได้รับเงินเดือนจากบริษัท 1,440,000 บาท อีกทั้งนายยุรนันท์ได้ลงลายมือชื่อกำกับในเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของตนเองที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.ทุกหน้า แต่ทว่ากลับมิได้แจ้งการถือครองหุ้นดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.
 ประการที่สี่ ทรัพย์สินของนายยุรนันท์ ตามที่แจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 90,884,815.29 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุน 2 รายการมูลค่า 90,490.05 บาท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวน 300,000 หุ้น มูลค่า ณ วันแสดงบัญชี 90,488.08 บาท และ บริษัท หลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ มูลค่า 1.97 บาท (มิได้ระบุจำนวนหุ้น) แต่ทว่าทรัพย์สินหุ้นที่นายยุรนันท์มิได้แจ้งการถือครองต่อ ป.ป.ช. มูลค่า 14 ล้าน หรือคิดเป็น 15.40 % ของสินทรัพย์ จำนวน 90.8 ล้านบาท
 ประการที่ห้า บริษัท โทรญ่า จำกัด (ขายเครื่องสำอาง) ที่นางมาริษา ภมรมนตรี ถือครองจำนวน 3,000 หุ้น จากจำนวนทั้งหมด 10,000 หุ้น และไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. นั้น ล่าสุด บัญชีผู้ถือหุ้นวันที่ 25 มกราคม 2556 ไม่ปรากฏชื่อนางมาริษา ร่วมถือหุ้น แต่บริษัทยังคงประกอบกิจการ บริษัท เซลแทค จำกัด ถือหุ้นใหญ่ แจ้งผลประกอบการ ปี 2554 รายได้ 1,799,298 บาท กำไรสุทธิ 245,202 บาท (กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังไม่เปิดเผยงบการเงินปี 2555) มิได้ไม่ได้ประกอบกิจการแต่อย่างใด
 และล่าสุดทางป.ป.ช. ได้ตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายยุรนันท์ ไม่ได้ยื่นข้อมูลการถือครองหุ้นในสหกรณ์การบินไทย ของภรรยา จำนวน 3 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งด้วย

พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง-สุดซอย ครอบคลุม "ทักษิณ-อภิสิทธิ์-สุเทพ"

เปิดเนื้อหาร่างสุดท้ายพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง-สุดซอย ที่ กมธ.นิรโทษกรรม มีมติแก้ไขให้ครอบคลุมถึง "ทักษิณ-อภิสิทธิ์-สุเทพ" และเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ วาระที่ 2 และวาระที่ 3 ต่อไป

---มาตรา 1 พ.ร.บ.นี้เรียกว่า “พ.ร.บ.ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ....”

---มาตรา 2 พ.ร.บ.นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
---มาตรา 3 ให้บรรดาการกระทำใดๆ ทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง หรือบุคคลซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง แต่กระทำการนั้นมีมูลเหตุที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง โดยการกล่าวด้วยวาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีการใดเพื่อเรียกร้องหรือให้มีการต่อต้านรัฐ การป้องกันตน การต่อสู้ขดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือการชุมนุม การประท้วง หรือการแสดงออกด้วยวิธีการใดๆ อันอาจเป็นการกระทำต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นเหตุการณ์สืบเนื่อจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่หรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 รวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.2547 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2554 8 สิงหาคม พ.ศ.2556 ไม่เป็นความผิดต่อไปและให้ผู้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
การกระทำในตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงการกระทำใดๆ ขอประชาชนผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าวผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
---มาตรา 4 เมื่อ พ.ร.บ.นี้มีผลใช้บังคับแล้ว ถ้าผู้กระทำการตามมาตรา 3 วรรคหนึ่ง ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาลหรืออยู่ในระหว่างการสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนผู้ซึ่งมีอำนาจสอบสวนหรือพนักงานอัยการระงับการสอบสวนหรือการฟ้องร้อง หากถูกฟ้องต่อศาลแล้วให้พนักงานอัยการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องระงับการฟ้อง หรือให้ถอนฟ้อง ถ้าผู้นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีไม่ว่าจำเลยร้องขอหรือศาลเห็นเอง ให้ศาลพิพากษายกฟ้องหรือมีคำสั่งจำหน่ายคดี ในกรณีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษบุคคลใดก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าบุคคลนั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดถ้าผู้นั้นในกรณีที่บุคคลใดอยู่ระหว่างการรับโทษ ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงและปล่อยตัวผู้นั้น ทั้งนี้ ให้ทุกองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติต่อผู้กระทำตามมาตรา 3 ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัดต่อไป
---มาตรา 5 การนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอันที่จะเรียกร้องสิทธิ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นอันเกี่ยวเนื่อกับการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง
---มาตรา 6 การดำเนินการใดๆ ตาม พ.ร.บ.นี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิของบุคคลซึ่งไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานของรัฐในการเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง จากการกระทำของบุคคลใดซึ่งพ้นจากความรับผิดตาม พ.ร.บ.นี้ และทำให้ตนต้องได้รับความเสียหา
---มาตรา 7 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตาม พ.ร.บ.นี้ — กับ เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง

ให้คนข่าวระวังการทำหน้าที่ในสถานการณ์ใต้

วันที่ 21 ต.ค. 56 นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย (สนต.) เปิดเผยว่า ทางสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ขอให้ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา ระมัดระวัง ในการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่มีเหตุซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เนื่องจากอาจจะได้รับอันตรายจากการซุ่มโจมตีที่เกิดขึ้น

รวมทั้งขอสื่อสารไปยังขบวนการก่อการร้าย เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่า การปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวเป็นการทำหน้าที่รายงานข่าวที่เกิดขึ้น เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยยึดมั่นในความเป็นกลาง จึงขอให้ขบวนการก่อความไม่สงบอย่าทำร้ายผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เนติวิทย์ โดนจับ ข้อหาดัดแปลงรถ หลังใช้เครื่องขยายเสียงร้องปฏิรูปการศึกษา

เนติวิทย์ โดนจับ ข้อหาดัดแปลงรถ หลังใช้เครื่องขยายเสียงร้องปฏิรูปการศึกษา



เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Netiwit Ntwเฟซบุ๊ก สภาหน้าโดมเฟซบุ๊ก Toto Piyarat Chongthep

           เนติวิทย์ โดนจับ พร้อมเพื่อนที่ สน.ดุสิต ข้อหาดัดแปลงรถ เหตุเพราะใช้เครื่องขยายเสียงร้องปฏิรูปการศึกษา

           วันนี้ (25 ตุลาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จับกุม พร้อมกับเพื่อนนักเรียนอีก 10 คน ในข้อหารถดัดแปลง

           โดยก่อนหน้านี้ นายเนติวิทย์ พร้อมกับเพื่อน ได้เดินทางไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแจกใบปลิวและปราศรัยเรียกร้องการปฎิรูปการศึกษา เพื่อให้บรรดาประชาชนได้รู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการศึกษาไทยให้ดีขึ้น แต่แล้วนายเนติวิทย์ ก็ถูกจับยกคัน ข้อหาปราศรัยโดยใช้รถดัดแปลง เนื่องจากใช้เครื่องเสียงติดรถรณรงค์ปฏิรูปการศึกษา โดยที่เฟซบุ๊ก Toto Piyarat Chongthep ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความว่า ดังนี้..

            ถูกจับยกคัน เอาเรื่อง ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ข้อหารถดัดแปลงรถ

 เนติวิทย์ โดนจับ
         

            ตำรวจพยายามแจ้งข้อหาละเมิด พ.ร.บ. และรถดัดแปลง แต่รถตำรวจก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สรุปถ้านอนคุกขอข้าวและน้ำด้วย

 เนติวิทย์ โดนจับ
          

            นั่งอยู่บนรถตำรวจ กำลังนำตัวไปส่งกระทรวงศึกษาหลังเจรจาปล่อยตัว ตำรวจพิจารณาข้อเรียกร้องไม่เข้าข่ายการเมือง จึงปล่อยตัวแต่ปรับคนขับรถและพยายามจะลงบันทึกประจำวันพวกเรา แต่เราไม่ยินยอม ก็ใช้เวลาอยู่นานจนยอมกัน

 เนติวิทย์ โดนจับ
         

            ภาพสวมหน้ากากและปราศรัย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2556

 เนติวิทย์ โดนจับ

ปัด"ทักษิณ"สั่ง ส.ส.โหวตหนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

"นพดล" โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุ "ทักษิณ"ปัดสั่ง ส.ส.โหวตหนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ย้ำ ฟังความคิดเห็นต่างของทุกฝ่าย

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า ตามที่มีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนบางฉบับ อ้างแหล่งข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้คุยกับ ส.ส.แกนนำเสื้อแดง และบอกว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการแก้ไขโดยกรรมาธิการ ก็สามารถโหวตสวนได้ และบอกว่าคนเสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการคงมีเพียง 1 หมื่นคนนั้นว่า ในวันนี้ผมเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ จึงได้ตรวจสอบข่าวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และขอปฏิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้พูดเช่นนั้น การที่ ส.ส.เพื่อไทยจะโหวตไปในทิศทางใด เป็นเรื่องของพรรคและที่ประชุม ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นคนพิจารณา และโดยปกติ พรรคก็จะรับฟังความเห็นของ ส.ส. และที่สุดก็จะมีแนวทางในการลงมติ ในประเด็นปัญหาสำคัญของบ้านเมืองอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะสั่งการอย่างนั้นอย่างนี้

ส่วนในประเด็นที่บอกว่า พ.ต.ท ทักษิณกล่าวว่าจะมีคนคัดค้านร่างของกรรมาธิการเพียง หมื่นกว่าคนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่เคยพูดเช่นนั้น

"พ.ต.ท.ทักษิณ รับฟังและเคารพความเห็นแตกต่างของทุกฝ่าย เพราะมุมมองทางการเมืองในสังคมประชาธิปไตย ย่อมมองแตกต่างกันได้ แต่อยากให้บ้านเมืองเดินหน้า มีประชาธิปไตยที่แท้จริง และประเทศเกิดความปรองดอง นั่นคือหลักการใหญ่ที่สำคัญ"

ผลสอบคลิปเสียง ผวจ.อุบลราชธานี เรียกรับผลประโยชน์เป็นคลิปตัดต่อ


ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ "วันชัย สุทธิวรชัย" ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม หลังผลสอบคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์ เป็นคลิปที่มีการตัดต่อ


นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ได้ลงนามในหนังสือส่งตัวนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีคำสั่งให้ช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย กรณีมีคลิปเสียงที่พูดในลักษณะการเรียกรับผลประโยชน์ ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีตามเดิม เนื่องจาก กรรมการจากกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกับกรรมการของกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบคลิปเสียงแล้ว ไม่พบว่านายวันชัย มีความผิด คลิปเสียงดังกล่าวเป็นคลิปที่มีการตัดต่อ


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ชื่อว่า anniey arnie โพสต์คลิปเสียงดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ยูทูป

http://www.youtube.com/watch?v=n5-UFGLWzXc