PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

รักลุงตู่นายกต่อไป

จ้ะ !!

“บิ๊กตู่” ยิ้มรับ หลังชาวเพชรบูรณ์ เชียร์ เป็นนายกฯต่อ บอก อย่าให้ใครว่า อย่าให้ใครมาว่า ว่าผมมาหาเสียง ผมมาในฐานะนายกฯ" 

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยจึงขอให้มีหลักการและหลักคิดที่ถูกต้อง ว่าประเทศของเราควรเดินหน้าไปอย่างไรประเทศไทยมีโอกาสมากมาย 

ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักของประเทศไทยที่มี 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าไม่มี 3 สถาบันนี้ ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ เราต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล 

ดังนั้น ประชาชนจึงต้องเตรียมการให้ดีว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้ง ไม่ใช่นอนอยู่บ้านไม่ไปกาบัตรใช้สิทธิ์ หรือทำลายบัตรเลือกตั้ง 

วันนี้เรามี พรป.การเลือกตั้งใหม่ ที่พรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อคนเป็นนายกรัฐมนตรี และนโยบายพรรค ถ้าเรายังไม่รู้ว่าจะเลือกเบอร์ไหนแต่กลับไปถามบ้านข้างๆ แล้วเลือกตามตรงนี้ถือว่าจบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลส่วนใหญ่จะไม่แก้ปัญหาที่แก้ยาก และมีผลกระทบตามมา จะแก้ปัญหาที่ง่ายๆ และได้คะแนนเสียง ทำให้คนรัก แต่รัฐบาลนี้แก้ทุกเรื่อง จึงต้องมีทั้งคนที่ได้และคนที่เสีย

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายภาพกับประชาชน

พร้อมเอ่ย ว่า "การเลือกตั้งอย่าไปเลือกอะไรที่เรื่อยเปื่อย วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงทางการเมือง แต่มาพบกับประชาชน

อย่าให้ใครว่า อย่าให้ใครมาว่า ว่าผมมาหาเสียง ผมมาในฐานะนายกรัฐมนตรี" 

"ในการเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนต้องรู้ก่อนว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากตรงไหน ซึ่งจะมาจากพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด  ซึ่งจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นหลักการที่ทุกคนต้องรู้ 

ผมไม่ได้พูดถึงตัวเอง แต่ทุกพรรคจะต้องเสนอคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอต้อนรับว่า การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ได้ไปใช้สิทธิ์หรือไม่ 

กลุ่มผู้สูงอายุ ตอบว่าไปเลือกตั้ง 

พล.อ.ประยุทธ์ จึงพูดยิ้มๆ เชิงกระเซ้าว่า "แล้วเลือกใคร" 

และมีเสียงชาวบ้านตะโกน ส่งเสียงเชียร์ว่า "รักลุงตู่ อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อไป" 

พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะเดินไป ว่า "จ้ะ"

ทหารจำเป็นต้องมี

“เราไม่ได้มีทหารไว้ให้ ผมปฏิวัติ ผมเข้ามาเพราะเหตุผลความจำเป็น เป็นสถานการณ์ที่ต้องเข้ามา” 

บิ๊กตู่ ยัน ต้องมีทหารเกณฑ์ ไว้ดูแลประชาขน เรียกใช้ได้ตลอด24 ชม.อย่าเชื่อพวก หาเสียง เลิกเกณฑ์ทหาร 

พล.อ.ประยุทธ์ บอก กับ ชาวเพชรบูรณ์  ว่า รัฐบาลนี้อยากจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น 

ประเทศเรามีปัญหา 2 อย่าง คือ การศึกษา และสาธารณสุข ที่ต้องทำให้ดีขึ้นโดยเร็ว 

วันนี้เห็นความก้าวหน้าเรื่องความร่วมมือของหมอครอบครัว ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ที่ทำให้เกิดระบบไพรมารีแคร์ 

ระยะแรกวันนี้เราทำได้จำนวนหนึ่ง ไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะทำให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอนาคตของเราต้องแข็งแรง เพราะฉะนั้นระบบไพรมารีแคร์นั่นสำคัญที่สุด 

และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย

นายกฯ ได้ถามประชาชนว่ารักหมอหรือไม่ ถ้ารักหมอ ทุกคน ก็คงไม่เกลียดนายกฯ เพราะนายกฯ ทำเพื่ออนาคต 

“ คนที่มาบอกว่าจะทำโน้นทำนี่ให้ ถามเขากลับด้วยว่าเอางบประมาณมาจากไหน ใครจะพูดอะไรก็พูดได้หมด รัฐบาลนี้เอาทุกปัญหามาคิดมาทำ ซึ่ง

สิ่งที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันได้ในประเทศนี้คือกฎหมาย 

ขอให้ช่วยกันประเทศไทยอย่าให้ใครมาแบ่งแยก 

สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะไม่สร้างภาระต่อในอนาคต 

ผมพูดด้วยเหตุและผลด้วยกฎหมาย ถ้าผมไม่ทำด้วยกฎหมายผมก็ตาย ติดคุก ไอ้พวกนั้นพูดไป แต่ไม่ได้ทำ

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามประชาชนว่า ดีหรือไม่ที่บ้านเมืองสงบเช่นนี้ วันนี้บ้านเมืองไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง คนไทยมักทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย เราไม่สามารถบังคับใครได้ 

แต่จะต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้ ผมไม่อยากให้พวกเราทะเลาะกันเอง ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรี จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยไม่นึกถึงตัวเอง

"ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ ประเทศนี้ถ้าไม่มีพลเรือน ตำรวจ ทหารก็อยู่ไม่ได้ 

“ไหนใครบอกว่าไม่ต้องมีทหาร แล้วถ้ามีอะไรขึ้นมาแล้วใครจะมาช่วยพวกท่าน เพราะทหารอยู่ในกรม กอง ในกองร้อย เรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบี้ยเลี้ยงก็จ่ายเพียงครั้งเดียว 

ซึ่งทหารส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานของพวกท่านทั้งนั้น เป็นกำลังที่มีความพร้อม 24 ชั่วโมง จึงต้องมีรถ ลา ม้า ช้าง อยู่ในกรมกอง เพราะหน่วยงานอื่นไม่มีคนขนาดนี้ 

เราไม่ได้มีทหารไว้ให้ผมปฏิวัติ ผมเข้ามาเพราะเหตุผลความจำเป็น เป็นสถานการณ์ที่ต้องเข้ามา

ถามว่าถ้าไม่มีทหาร และตำรวจ. ภาคใต้จะเป็นอย่างไร ดังนั้น อย่าไปฟังเวลาที่เขาพูดบิดเบือน พวกนั้นต้ดหองการที่จะแบ่งแยกหรือเปล่าที่บอกว่าให้เอาทหารออกไปจากพื้นที่ ถ้าออกไปเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น อย่าไปเชื่อพวกเขา"

ลุงตู่ไม่บอกอนาคตการเมือง

“บิ๊กตู่” เบี้ยว!!

“บิ๊กตู่” เล่นลิ้น  ไม่ประกาศ อนาคต
ทางการเมือง ภายใน กย.ตามสัญญา  อ้าง  หวั่นโดนด่า แถ จะบอกปีนี้หรือปีหน้าก็ได้  จะพูดเมื่อไหร่ มันก็เรื่องของผม รำคาญสื่อซัก!! ปัด เผยวันะบนักการเมือง “ผมจะพบวันไหนยังไม่รู้  ถึงเวลาผมจะพิจารณาเอง คุณจะมาถามผมเอาอะไร” 

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่  ว่า ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีการพัฒนา มีหลักการทางวิชาการ มีแผนแม่บทและยุทธศาสตร์มาก่อน บ้านเมืองก็คงไม่อยู่แบบนี้ 

ที่ผ่านมามันเลอะเลือนเรื่อยๆทั้งภาคเกษตร การท่องเที่ยวก็กวนกันไป-มา รัฐบาลนี้ก็ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา ถือเป็นความยากง่ายในการทำงาน ขอร้องว่าอย่าให้การเมืองมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายในตอนนี้เลย

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการปลดล็อกการเมือง ภายหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว.ประกาศใช้ ว่า ตนก็รับฟังข้อสังเกตต่างๆเข้ามา

 รวมถึงที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าประชุมมา ก็ได้ข้อสังเกตมาว่า มีการติดล็อกตรงไหนบ้าง ซึ่งเราก็มีมาตรการในการคลายล็อก

ในช่วงนี้ ซึ่งทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ออกมา ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในอีก 90 วันข้างหน้า ก็จะครบกำหนดในประมาณวันที่ 16 ธันวาคม หลังจากนี้ก็จะมีการปลดล็อกให้มีการหาเสียงทำนองนี้

“ ช่วงนี้ผมขอให้บ้านเมืองสงบก่อนได้หรือไม่ ถ้าผมเป็นนักการเมือง ผมว่าสิ่งที่ออกมานั้น ผมทำได้ไม่เห็นจะยากเย็นอะไร ถ้าทุกคนมีเจตนาที่จะทำให้บ้านเมืองปกติสุข 

แต่ทุกคนต้องการเวลาที่จะหาเสียงมากขึ้น แล้วใส่กันไปมา ผมว่าไม่ได้อะไร เวลาที่มีถ้าทุกคนบอกว่าน้อย ทุกคนก็ควรจะแถลงนโยบายของตัวเองออกมาว่าจะทำอะไร สังคมยอมรับได้หรือไม่ จะไปล้มล้างอะไรหรือไม่ ทำนองนี้ สิ่งที่ดีมีอยู่แล้วจะไปยกเลิก ถ้าประชาชนตอบรับประเทศชาติจะยิ่งไปกันใหญ่ ความมั่นคงปลอดภัย ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะไปอยู่ที่ไหนกัน” พล.อ.ประยุทธ์

นายกฯ กล่าวว่า ช่วงนี้การคลายล็อกทางการเมือง โดยส่วนตัวคิดว่าพอเพียงแล้ว ใครที่บอกว่าไม่พอไว้รอเป็นรัฐบาลก็ค่อยไปทำกันเอาเอง 

เมื่อถามว่า นายกฯ จะพบนักการเมืองในช่วงคลายล็อกหรือปลดล็อก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมบอกว่า ต้องปลดล็อกที่จะไปว่ากันโน้น ผมยังไม่พบหรอก แม้ผมไม่พบก็มีคนพบอยู่แล้ว ผมจะพบวันไหนยังไม่รู้  ถึงเวลาผมจะพิจารณาเอง คุณจะมาถามผมเอาอะไร” 

                
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯเคยระบุว่า หากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว.จะมีการประกาศจุดยืนทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวลากน้ำเสียงว่า “จะมาสนใจอะไรกับผม ผมเคยบอกว่าเมื่อหลังพ.ร.ป.ออกมา ตอนนี้หลังหรือยัง ซึ่งหลังจากนี้ไปถึงปีหน้าปีโน้น ก็ถือว่าหลัง หมด ผมจะพูดเมื่อไหร่ก็เรื่องของผม”

เมื่อย้ำถามว่า แสดงว่าต้องเลย 90 วันไปแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า “วันนี้ยังไม่รู้ ผมจะตัดสินใจเอง เรื่องอะไรผมจะออกมาให้โดนด่าตั้งแต่วันนี้เล่า  สื่อก็หาเรื่องผมทั้งวันนั่นแหละ วุ่นวายจริงๆเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นไปนั่งบนรถยนต์เพื่อไปปฏิบัติภารกิจต่อ โดยได้หันมาพูดกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มๆ พร้อมขยิบตา โดยให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเรื่องต่างๆ จากผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเป็นพ่อเมืองตัวเองเป็นรูปเมือง พร้อมกล่าวว่าวันนี้อารมณ์ดี ผู้สื่อข่าวถามว่า สัปดาห์หน้าจะประกาศท่าทีที่ชัดเจนหรือไม่ นายกฯ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ยังไม่บอก ปล่อยไห้งง”

 ///

'คลายล็อก' โผล่ทันที!

'คลายล็อก' โผล่ทันที!



ครม.สัญจรนัดแรก ประเดิมการ “คลายล็อก” ทางการเมือง
คิวล่าสุด “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. นำคณะรัฐมนตรี บินตรวจราชการจังหวัดเลย และประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 17–18 กันยายน
ก็อย่างที่ “ลุงตู่” ออกตัวไว้ ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งต้องเดินสายต่างจังหวัดถี่ขึ้น
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ “นายกฯลุงตู่” คงต้องขนหางเครื่อง ครม.สัญจรต่างจังหวัดแทบจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์ เพราะการเดินหน้า “ขายตรง” เอาของไปเสิร์ฟประชาชนถึงหัวบันไดบ้าน
มันคือวิธีการดีสุด ในการลดแรงเสียดทานภายหลัง “คลายล็อก” กฎเหล็กทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่สัมผัสได้ถึงการ “ยกระดับ” สงครามชิงกระแสเลือกตั้ง
สังเกตได้ด้วยตาเปล่า กับยุทธศาสตร์ทีม “นายใหญ่” ที่ขยับพร้อมกันเป็นแผง
ด้านหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของ “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ใช้เครดิต “คนเดือนตุลา” คราบของนักประชาธิปไตย ไล่บี้ คสช.ให้ “ปลดล็อก” ให้สุดซอยไปเลย
ได้คืบเอาศอก รุกตีกินกระแส กดดันท็อปบูต
อีกด้านก็เป็นภารกิจของ “นางกวัก” อย่าง “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาเคลื่อนไหวในกระดานโซเชียลมีเดีย โพสต์เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม โชว์รูปตัวเองกับพี่ชายไปโผล่ประเทศรัสเซีย ทัวร์ดินแดนยุโรปตะวันออก ตั้งใจบ่งบอกความเคลื่อนไหวให้กองเชียร์ตามกดไลค์ กดแชร์
ยั่วแหย่ เขย่าแรงกระเพื่อมให้ฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยผวา
ตั้งท่า “ย้อนศร” เบิ้ลบลัฟ คสช.ที่ห้ามใช้โซเชียลฯหาเสียง
โดยสถานการณ์มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการ “หายเข้ากลีบเมฆ” ของ “น้องปู” ในห้วงหนีศาลตัดสินคดีจำนำข้าวออกจากเมืองไทย
แม้แต่ข้อความทางไลน์ยังไม่ขยับตลอดเกือบครึ่งปี
มันก็เป็นอะไรที่ชัดเจน “นายใหญ่” ถอย รุก เป็นจังหวะ
“น้องปู” แค่หลบต่ำชั่วขณะ เพื่อลุ้นสถานะผู้ลี้ภัย ไม่ได้หมอบราบคาบแก้วแต่อย่างใด
ถึงจังหวะไหลเข้าเหลี่ยม “เลือกตั้ง” เกมถนัดของ “นายใหญ่”
อดีตผู้นำ 2 พี่น้องเปิดหน้าไพ่ “ตีธง” ส่งสัญญาณถึงลูกข่าย สงครามทวงแค้นอำนาจเริ่มแต่บัดนี้
ท่ามกลางบรรยากาศ “ก่อเตา” เร้าอุณหภูมิไฟ เงื่อนไขสถานการณ์แบบที่น้องเฌอปราง อารีย์กุล ไอดอลสาว กัปตันวง BNK48 ขันอาสาช่วยงานโปรโมตรายการเดินหน้าประเทศไทย
ร่วมช็อตโชว์งานอีเวนต์กับ “นายกฯลุงตู่”
โดน “นักประชาธิปไตยนิยม” อย่าง “รังสิมันต์ โรม” แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง วิพากษ์วิจารณ์แรงๆแกมขู่เป็นนัย หวังว่า จะไม่เห็นเฌอปรางถ่ายรายการของ คสช.อีกต่อไป การเข้าร่วมกับเผด็จการในวันนี้ของคุณจะเป็นตราบาปสำหรับตัวคุณเอง
คุณยังต้องอยู่ในประเทศนี้อีกนาน
อารมณ์เดียวกับ “อั้ม เนโกะ” ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ อาฆาตผ่านโซเชียลฯ หากประชาชนได้อำนาจคืนมาอย่างแท้จริงเมื่อไหร่ เราอาจได้เห็น “ฟ่าน ปิง ปิง เมืองไทย”
“น้องเฌอปราง” ระวัง “โดนอุ้ม” หายเพราะทรยศประชาชน
“อั้ม เนโกะ–รังสิมันต์ โรม” ขบวนการคนนิยมประชาธิปไตย แนวร่วมฝ่ายต้าน คสช.ที่ออกอาการ “คุกคาม” ใส่คนที่ไม่ทำตามอุดมการณ์ฝั่งตัวเอง
ปากก็ร้องโดนทหารข่มเหง คสช.คุกคามสิทธิเสรีภาพ
โดยสภาพการณ์ที่เห็นตรงหน้า มันย้อนแย้งกันเลยกับสิ่งที่ลูกข่าย “ทักษิณ” ช่วยกันตีปี๊บประจาน คสช.ที่ล่าสุดถูกยูเอ็นประจาน “น่าละอาย” ในการคุกคามนักสิทธิมนุษยชน
คนฝั่ง “ทักษิณ” คึกคัก ดีกรีทะลักปรอท
“คลายล็อก” ปุ๊บ ลุยปั๊บ กระตุกเรตติ้งคะแนนนิยมเลือกตั้ง กระชับเกมมวลชน
“ตัวจี๊ด” โผล่กลับมาปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์
บรรยากาศเดิมๆ หัวเชื้อความขัดแย้งเก่าที่ถูกอำนาจพิเศษกลบไว้ เผยอกลับมา
นักการเมืองท้าชนทหาร นักเลือกตั้งอาชีพชิงอำนาจกันเองในพรรค การปลุกกระแสมวลชนกลับมาเป็นเครื่องมือต่อรองอำนาจของขั้วขัดแย้งต่างๆ
ฉากป่วนๆนี้ คือ “ออปชัน” ที่ต้องตีคู่มาพร้อมกับการเลือกตั้ง.
ทีมข่าวการเมือง

‘บิ๊กตู่’ เยือนหล่มสัก​ ขอเลือกรัฐบาลหน้าให้ดี​ อย่าให้ตีกัน​ ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่ถึง​สี่ปี

‘บิ๊กตู่’ เยือนหล่มสัก​ ขอเลือกรัฐบาลหน้าให้ดี​ อย่าให้ตีกัน​ ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่ถึง​สี่ปี



“บิ๊กตู่” เยือนหล่มสัก​ เพชรบูรณ์​ เยี่ยมชมสวนป่าไม้มีค่า​ ลั่น​ไม่หวังสืบทอดอำนาจ​ ขอประชาชนเลือกรัฐบาลหน้าให้ดี​ อย่าให้ตีกัน​ ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่ถึง​สี่ปี

วันที่ 17 กันยายน เวลา 16.25 น.​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า​คณะ​รักษา​ความสงบ​แห่งชาติ​ (คสช.)​ พร้อมคณะ​ อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี​และรัฐมนตรี​ว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​อุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์ เดินทางมาถึงศูนย์เรียนรู้​เศรษฐกิจ​พอเพียง​ห้วยแสนคำ​ ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่สวนป่าของนายชัยศักดิ์​ เกษามูล​ เกษตรกรดีเด่น​ จ.เพชรบูรณ์​ เพื่อเยี่ยมชมการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ โดยเจ้าหน้าที่ได้อธิบายถึงการประเมินมูลค่าไม้มีค่าที่สามารถเป็นทรัพย์สินใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้ เช่น ต้นสักทอง ต้นมะฮอกกานี ต้นประดู่ และต้นมะขาม เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวตอนหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้ไม้มีค่าไม่สามารถทำเป็นหลักค้ำประกันได้ แต่รัฐบาลชุดนี้คิดที่จะทำ​ ประชาชนจึงมีความสุข รัฐบาลคิดทุกอย่าง แต่บางอย่างช้าไปบ้าง และจากนี้ใครมาพูดอะไรที่ไม่มีหลักการและเหตุผล ไม่มีข้อเท็จจริงคงเชื่อลำบาก หลังจากนี้เกษตรกรควรหันมาปลูกพืชผสมผสาน และเราต้องการทำทางน้ำไปยังพื้นที่ต่างๆก็ขอให้มีน้ำใจแบ่งที่ดินของตนเองเพื่อประโยชน์ของคนอื่นด้วย​ ตอนนี้จะมาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้​ รัฐบาลไม่หวังผลประโยชน์อะไรจากประชาชนที่มาวันนี้​ เพียงแต่ต้องการมาเยี่ยมเยียนประชาชน เพราะเป็นรัฐบาลต้องทำให้ทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ของตนไม่ได้หวังประโยชน์อะไร ไม่ได้เอาใจใคร แต่ต้องการช่วยประชาชนในทุกพื้นที่เหมือนๆกัน เพราะการจะพัฒนาประเทศ จะต้องมีความร่วมมือกัน ช่วยกันทำอย่าช่วยซ้ำ อย่าให้ใครมายุยงปลุกปั่นให้เกลียดกัน ตนมาอยู่เพื่อทำงาน​ ไม่ได้จะสืบทอดอำนาจ เพราะไม่รู้จะสืบทอดอำนาจไปทำไม และการจะปรับโครงสร้างอะไรย่อมมีอุปสรรคไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายไปหมดต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ โดยที่ดูแลคนส่วนน้อยไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีการพัฒนา ถนนต้องมีการสร้างไปตามแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีรัฐบาลก็ต้องทำแต่ให้เลือกให้ดี เพราะรัฐบาลหน้ามีอายุ 4 ปีแต่จะอยู่ถึงหรือไม่ ถ้าเลือกมาแล้วตีกันก็อยู่ไม่ถึงอยู่ดี


จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางไปยังโรงแรมอิมพีเรียล ภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์​ เพื่อเยี่ยมชมสินค้าเกษตรปลอดภัย ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “กรีนมาร์เก็ต เพชรบูรณ์” และผลิตภัณฑ์ของดีเพชรบูรณ์ ก่อนที่จะพบผู้แทนเครือข่ายชุมชนเขาค้อ เพื่อสนทนาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาค้ออย่างยั่งยืน และเข้าพักค้างคืนที่โรงแรมอิมพีเรียลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถยนต์ที่นายกฯใช้ในการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ คือรถยนต์โตโยต้า รุ่น อัลฟาร์ด เลขทะเบียน กต 888 เพชรบูรณ์