PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

ผกก.สน.โชคชัยเผย นายทหาร ยศ "พ.อ."ถูกการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะทำร้ายเป็นน้องแท้ๆ บอกเป็นทหารยังยิงไม่หยุด

ผกก.สน.โชคชัยเผย นายทหาร ยศ "พ.อ."ถูกการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะทำร้ายเป็นน้องแท้ๆ บอกเป็นทหารยังยิงไม่หยุด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 เมษายน พันตำรวจเอกธนวัตร วัฒนกุล ผู้กำกับการ สน.โชคชัย เปิดเผยว่า พันเอกวิทวัส วัฒนกุล นายทหาร ที่ถูกการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะ รุมทำร้ายและยิงปืนใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นน้องชายแท้ๆ ของตนเอง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แต่อยู่ระหว่างประสานย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

พันตำรวจเอกธนวัตร เล่าว่า ได้สอบถามอาการน้องชายจากมารดา เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งขณะเกิดเหตุ พันเอกวิทวัส น้องชายเล่าว่าได้ตะโกนบอกการ์ด กปปส.แล้วว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร อย่ายิง แต่ก็ถูกยิงมาต่อเนื่อง ก่อนถูกรุมทำร้าย จนกระทั่งกลุ่มการ์ดเข้าค้นรถยนต์เจอบัตรแสดงตนเป็นทหารจึงได้หยุดทำร้าย และเบื้องต้นทราบว่าพันเอกวิทวัส สามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้ หลังจากนี้จะสอบถามพันเอกวิทวัส อย่างละเอียด ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เปิดเผยว่าได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บถูกสะเก็ดลูกปืนเข้าที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง ส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาแต่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนว่าถูกการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกายตามที่มีกระแสข่าวออกมาหรือไม่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เปิดเผยว่า ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ พันเอกวิทวัส วัฒนกุล รอง ผอ.กวส.สวส.ขว.ทหาร ถูกส่งเข้ามารักษาเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.และไม่ถูกยิงตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ แต่ถูกสะเก็ดลูกกระสุนปืน ฝังที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง คาดว่าคนร้ายอาจยิงปืนลงพื้น แล้วเศษลูกกระสุนปืนจึงฝังในข้อเท้า ซึ่งแพทย์ได้นำออกและทำการรักษาแล้ว ส่วนที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำคาดว่าถูกทำร้ายร่างกายด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้อาการโดยรวมปลอดภัยแล้ว

ด้าน นาวาโท ณัฐพล วัฒนกุล น้องชายพันเอกวิทวัส เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาพี่ชายกำลังจะเดินทางกลับบ้านพักที่เมืองทองธานี แต่พบว่ามีกรวยยางขวางบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ จึงลงจากรถ ไปนำกรวยยางออก ก่อนถูกระดมยิง จากนั้นถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คล้ายการ์ด กปปส.เข้ามารุมทำร้าย ส่วนรายละเอียดขอปรึกษากับพี่ชายก่อนว่าพร้อมที่จะเปิดเผยหรือไม่


มือมืดแขวนระเบิด RGD หน้าประตูบ้านเช่าย่านรามคำแหง


มือมืดแขวนระเบิดหน้าบ้านเช่าในซอยรามคำแหง 184 ตำรวจเผยเป็นชนิดเดียว กับที่ใช้ก่อเหตุระเบิด ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้(24 เม.ย.) ตำรวจสายตรวจ สน.มีนบุรี รับแจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัย หมู่บ้านโชคชัยปัญจทรัพย์ ซ.1 ภายในซ.รามคำแหง 184 เขตมีนบุรี ว่ามีวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ผูกติดกับธงชาติ บริเวณประตูรั้ว หน้าบ้านเลขที่ 37/488 จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้าไปทำการเก็บกู้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นของนายยศ ยังไม่ทราบนามสกุล โดยเจ้าตัว อ้างว่า ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมาประมาณ 13 ปีแล้ว ปัจจุบันเปิดเป็นบ้านเช่า ล่าสุด ผู้เช่าเป็นอาจารย์ รร.นานาชาติ แต่เลิกเช่าไปได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านพ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบระเบิดดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นชนิด RGD 5 ของโซเวียต ซึ่งเป็นชนิดเดียว กับที่ใช้ก่อเหตุระเบิด ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ล่าสุดทำการเก็บกู้ออกจากที่เกิดเหตุแล้ว


เปิดหลักฐาน"ครบชุด"มัด“ยิ่งลักษณ์-ครม."พ้นตำแหน่งทั้งคณะ คดีย้าย"ถวิล"

เปิดหลักฐาน"ครบชุด"มัด“ยิ่งลักษณ์-ครม."พ้นตำแหน่งทั้งคณะ คดีย้าย"ถวิล"

เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 25 เมษายน 2557 เวลา 11:56 น.
เขียนโดย
รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล
เปิดหลักฐานครบชุด มัด "ยิ่งลักษณ์-ครม." พ้นตำแหน่งทั้งคณะ คดีโยกย้ายตำแหน่ง "ถวิล เปลี่ยนศรี" -"ไพบูลย์"ชี้ทั้งคณะต้องรับผิดชอบร่วมกันตามบทบัญญัติรธน.มาตรา 171
PIC-Pnice-12
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติขยายเวลาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมส่งคำชี้แจงคดีการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.โดยมิชอบออกไป 15 วัน โดยให้มีการไต่สวนพยานบุคคลประกอบด้วย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรีทและนายถวิล เปลี่ยนศรี และให้พยานบุคคลดังกล่าวยื่นบันทึกถ้อยคำ ยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นเป็นหนังสือและเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 29 เมษายน 2557
ล่าสุด นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราwww.isranews.org ถึงเอกสาร หลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ คณะรัฐมนตรี มีมติ ในการโยกย้ายนาย ถวิล เปลี่ยนศรี จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันและเป็นข้อเท็จจริงที่ทำให้ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง  ตาม บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 ที่บัญญัติไว้ว่า “คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการ แผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน”  
เปิดหลักฐานมัด-ยิ่งลักษณ์-ครม. กระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ
นายไพบุลย์ กล่าวว่า “ตอนนี้ สิ่งที่ผมจะต้องทำคือยื่นหลักฐานที่เป็นรายงานการประชุม สรุปการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 6 กันยายน ที่ แสดงให้เห็นว่า ครม. ในวันนั้น มีนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นประธานในที่ประชุม โดยที่การประชุมในวันนั้นมีเรื่องการพิจารณาในเรื่องของการโอนข้าราชการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำ ข้าราชการระดับสูง และมีมติที่ประชุมวันนั้นระบุว่า อนุมัติตามที่สำนักนายกฯ เสนอ เหล่านี้คือเอกสารที่ผมจะแสดงเพิ่มต่อศาลรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็มีเอกสารในวันที่ 6 กันยายน ที่มี หนังสือแจ้งเรื่องการโอนข้าราชการ สาเหตุที่เพิ่มหลักฐานเหล่านี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นข้อเท็จจริง เป็นการกระทำผิดร่วมกันจริง"
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่นายไพบูลย์จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีดังต่อไปนี้ 
หลักฐานที่ 1. รายงานการประชุม ครม. กรณีโยกย้ายนายถวิล  
c.tawin
 
เอกสารสรุปรายงานการประชุม มีใจความสำคัญ ระบุว่า 
 “วันที่ 6 กันยายน 2554 วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี 
 จากนั้น นาง ฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี" 
  สำหรับการประชุมดังกล่าว มีทั้งสิ้น 22 หัวข้อ ได้แก่ การพิจารณาร่างกฎหมาย 8 หัวข้อ เศรษฐกิจ 7 หัวข้อ สังคม 3 หัวข้อ ต่างประเทศ 3 หัวข้อ และในประเด็นการแต่งตั้งข้าราชการ มีถึง 21 กรณี
โดยกรณีของนายถวิล อยู่ในลำดับที่ 21 ของประเด็นการประชุมในหัวข้อที่ 22. เรื่องการแต่งตั้ง ดังใจความ ระบุว่า
“22. เรื่องแต่งตั้ง
 21. การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความ   
พ้นจากตำแหน่ง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิม และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว”
หลักฐานที่ 2.  มติคณะรัฐมนตรี
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 6 กันยายน มีมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการโอนย้ายและแต่งตั้งนายถวิล มีใจความโดยละเอียด ดังนี้ 
สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กทม. 10300 
เลขที่ นร 0508 / 18614
วันที่ 6 กันยายน 2554
เรื่อง การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง )
เรียน เลขาธิการการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาหนังสือสำนักเลขาธินายกรัฐมนตรี ลับมาก ที่ นร 0401.2 / 8302 ลงวันที่ 5 กันยายน 2554 
 ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไดด้ขอให้นำเสนอคณะรัฐในตรี พิจารณาอนุมัติรับโอนและแต่งตั้ง นาย ถวิล เปลี่ยนศรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือที่ส่งมาด้วยนี้
 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ขอให้สำนักราชเลขาธิการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ต่อไปแล้ว
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ 
 
ขอแสดงความนับถือ 
 
ลงนามโดย นางสมศรี นาคจำรัสศรี ผู้อำนวยการสำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 
หลักฐานที่ 3. นายกฯ ลงนาม
 
หลังครม.มีมติเห็นชอบ แต่งตั้ง โยกย้าย นายถวิล นางสาวยิ่งลักษณ์ ลงนามใน วันที่ 7 กันยายน ดังใจความโดยละเอียด ระบุว่า
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ 152 / 2554
เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 ( 4 ) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้ 
 
ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง )  สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน 
 
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป  
 
สั่ง ณ วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554
ลงนามโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 
หลักฐานที่ 4. ประกาศสำนักนายกฯ ปลดถวิลพ้นตำแหน่ง เลขา สมช.
30 yingluk
จากนั้น สำนักนายกฯ ดำเนินการขอโปรดเกล้าฯ ให้นายถวิลพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช.  นางสาวยิ่งลักษณ์ ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ใจความโดยละเอียด ดังนี้
ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ข้าราชการพลเรือน สามัญ พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2554 
ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ 
นายกรัฐมนตรี
นายไพบูลย์กล่าวทิ้งท้ายถึงหลักฐานสำคัญทั้ง 4 ฉบับนี้ว่าเป็นเอกสารที่เพิ่มเติมให้เห็นข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ขึ้นว่า
“เหล่านี้ แสดงข้อเท็จจริงว่าที่คุณยิ่งลักษณ์ได้กระทำไป เป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญหลักฐานเหล่านี้ชี้ให้เห็นการกระทำผิดตามหลักของ รัฐธรรมนูญมาตรา 171 ที่เขียนไว้ว่า “คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการ แผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน”  ดังนั้น กรณีการแต่งตั้งและโยกย้ายคุณถวิลนี้คุณ ยิ่งลักษณ์และครม. กระทำการร่วมกัน และต้องรับผิดชอบร่วมกัน สอดคล้องกับคำร้องที่ให้คุณยิ่งลักษณ์ สิ้นสุด ความเป็นรัฐมนตรี และย่อมมีผล ทำให้ คณะรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ” 
ทั้งหมดนี่คือหลักฐานสำคัญ ที่อยู่ในมือนายไพบูลย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทำผิดร่วมกันของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี ทั้งคณะ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการไต่สวนพยานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้

พิเชษฐ์ พันธวิชาติกุล:ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม10%

ทบทวนความจำ

1.รัฐบาล นายอานันท์ ปัณยารชุน
เป็นผู้เปลี่ยนภาษีการค้า เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม อัตราร้อยละ10 เมื่อปี 2534

2.รัฐบาล นายชวน หลีกภัย (2)
เป็นผู้เจรจากับ ไอ.เอ็ม.เอฟ. เมื่อปี 2541 ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 10 เหลืออัตราร้อยละ 7
และคงอัตรานี้มาจนปัจจุบัน

3.กระทรวงการคลังในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ เตรียมเสนอเรื่องขอปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 7 กลับมาเป็นอัตราร้อยละ 10

4.ภาษีมูลค่าเพิ่มปัจจุบันเป็นเงินประมาณปีละ 6 แสนล้านบาท จากอัตราร้อยละ 7 หากเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 3 เป็นร้อยละ10 จะทำให้ภาระภาษีของประชาชนเพิ่มขึ้นประมาณปีละกว่า 260,000ล้านบาท

5.ขณะนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการ จะประกาศเปลียนแปลง นโยบายภาษีเป็นอัตราเช่นนี้ยังไม่ได้ นอกจาก กกต.จะอนุญาต ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือ นอกจากพรรคเพื่อไทย ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
๒๔๐๔๕๗

ทบทวนความจำ

1.รัฐบาล นายอานันท์ ปัณยารชุน
เป็นผู้เปลี่ยนภาษีการค้า เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม อัตราร้อยละ10 เมื่อปี 2534

2.รัฐบาล นายชวน หลีกภัย (2)
เป็นผู้เจรจากับ ไอ.เอ็ม.เอฟ. เมื่อปี 2541 ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 10 เหลืออัตราร้อยละ 7
และคงอัตรานี้มาจนปัจจุบัน

3.กระทรวงการคลังในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ เตรียมเสนอเรื่องขอปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 7 กลับมาเป็นอัตราร้อยละ 10

4.ภาษีมูลค่าเพิ่มปัจจุบันเป็นเงินประมาณปีละ 6 แสนล้านบาท จากอัตราร้อยละ 7  หากเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 3 เป็นร้อยละ10 จะทำให้ภาระภาษีของประชาชนเพิ่มขึ้นประมาณปีละกว่า 260,000ล้านบาท

5.ขณะนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการ จะประกาศเปลียนแปลง นโยบายภาษีเป็นอัตราเช่นนี้ยังไม่ได้ นอกจาก กกต.จะอนุญาต ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้  หรือ นอกจากพรรคเพื่อไทย ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

               พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
                     ๒๔๐๔๕๗