PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

'บิ๊กตู่-เติ้ง-ปู-มาร์ค'ร่วมถวายพระพร

'บิ๊กตู่-เติ้ง-ปู-มาร์ค'ร่วมถวายพระพร
เมื่อเวลา 09.44 น. วันที่ 5 ธ.ค.ค. ที่ศาลาว่าการพระราชวัง ภายในพระบรมมหาราชวังพล.อ.ประยุทธ์ จันทรฺโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2557 นอกจากนี้อดีตนายกฯ อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลด้วย โอกาสนี้ คณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญในหน่วยงานราชการเข้าร่วมถวายพระพรชัยมงคล ฯ เป็นจำนวนมาก อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พล.อ.ดาพงศ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ที่ปรึกษา คสช.
นอกจากนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.พร้อมด้วยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลด้วย อย่างไรก็ตามโดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีบุคคลสำคัญทยอยร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
สำหรับบรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง ในช่วงเช้าประชาชนได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมทำบุญตักบาตรจำนวนมาก และเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ และภริยา เฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. พ.ศ.2557 (ทรงตั้งสมณศักดิ์ และเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา) ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
จากนั้นเวลา 19.19 น. นายกฯ และภริยา ถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวาย ราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง.

ศิริราชแจงพระอาการ

ศิริราชแจง "ในหลวง" งดพระราชกิจ ไม่ทรงประชวร แพทย์ แค่ให้ทรงพักฟื้น
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยืนยัน "ในหลวง" ทรงงดพระราชกิจออกมหาสมาคม ไม่ได้ประชวร คณะแพทย์ต้องการให้พระองค์พักฟื้น ขอประชาชนสบายใจ
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีประกาศแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 11 ที่ระบุการงดพระราชกรณียกิจชองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเดิมมีหมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาโดยเสด็จฯ ออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ว่า หลังจากมีแถลงการณ์อาจทำให้ประชาชนกังวล อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ทรงพระประชวร เพียงแต่คณะแพทย์มีความเห็นว่า ต้องการให้ทรงพักฟื้นพระวรกาย เนื่องจากต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทรงมีพระปรอท (ไข้) และพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) อักเสบ แม้ถวายพระโอสถ จนพระอาการปกติ แต่ตามหลักยังต้องพักฟื้น เนื่องจากด้วยอายุของคนวัย 80 ปี ของผู้สูงอายุทั่วไป ต้องการพักผ่อน การพักฟื้นที่เหมาะสมก็ประมาณ 1 เดือน โดยคณะแพทย์ต้องมีการดูแล พระวรกายในทุกด้านทั้ง ภาวะโภชนาการ และการพักผ่อนให้เพียงพอ
"ขอย้ำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปกติ ไม่ได้ประชวร แต่ต้องการพักผ่อน ขอให้ทุกคนสบายใจได้ และการเสด็จออกมหาสมาคมก็เป็นพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตลอดวันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะไม่มีการเสด็จพระราชดำเนิน แต่หากประชาชนต้องเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายกำลังใจ ถวายพระพรก็สามารถมาได้ที่ รพ.ศิริราช และในช่วงค่ำนี้ทางโรงพยาบาล ก็จะมีกิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพร ในเวลาประมาณ 19.00 น."

พระราชทานเครื่องราชฯ “นิวัฒน์ธำรง-ณัฐวุฒิ” อดีต ครม.ปู “วรเจตน์-เมียสุเทพ” ก็ได้ด้วย

พระราชทานเครื่องราชฯ "นิวัฒน์ธำรง - ณัฐวุฒิ" อดีตครมปู "วรเจตน์ - เมียสุเทพ". ก็ได้ด้วย ***

พระราชทานเครื่องราชฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ พบข้าราชการการเมืองอื้ออดีตครมยิ่งลักษณ์ "นิวัฒน์ธำรง - หมอประดิษฐ". พร้อมกับ "ณัฐวุฒิ" แกนนำแดงอีกด้านพบ "วรเจตน์" อาจารย์ นิติราษฎร์ "ศรีสกุล" ภรรยาพระสุเทพและ "ธ นาวุฒิ" โฆษกนปช. ก็ได้รับเครื่องราชฯ ด้วย
วันนี้ (4 ธ.ค. ) รายงานข่าวแจ้งว่า ประจําปี 2557 วันที่ 5 ธันวาคม 2557 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพล. อ. ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีรวมทั้งสิ้น 11,883 รายเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีหัวหน้าส่วนราชการนายทหารและนายตำรวจระดับสูงผู้ว่าราชการจังหวัดสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีต ส.ว. ข้าราชการการเมืองและอดีตข้าราชการการเมืองอาทินายกฤษ ณ พงศ์กีรติกรรมช. ศึกษาธิการ, พล. อ. สุรเชษฐ์ชัยวงศ์รมช. ศึกษาธิการ, นายนิวัฒน์ธำรงบุญทรงไพศาลอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว. พาณิชย์, นพ . ประดิษฐสิน ธ วณรงค์อดีตรมว. สาธารณสุข, พล. อ. ธีรชัยนาควานิชผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ. ) นายอนุสิษฐคุณากรเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช.) นายดิสทัตโหตระกิตย์เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, นายสมศักดิ์โชติรัตนะศิริผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, นายฉัตรชัยพรหมเลิศ (ปภ.) นายวิเชียรพุฒิวิญญูผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, นายเอนกเหล่าธรรมทัศน์สมาชิกสปช นายวรเจตน์ภาคีรัตน์อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายณัฐวุฒิใสยเกื้ออดีตรมช. พาณิชย์และแกนนำนปช., นายพีระศักดิ์พอจิตรองประธานสนช. คนที่ 2, นายสิงห์ชัยทุ่งทองอดีตส. ว. อุทัยธานี, นางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ภรรยาพระสุเทพปภากโรหรือนายสุเทพเทือกสุบรรณอดีตรองนายกรัฐมนตรี ร. อ. นพ. ยงยุทธมัยลาภโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชลิตรัตน์จันทรุเบกษาอดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิมรุ่งวัฒนจินดาอดีตเลขานุการรมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นาย ธ นาวุฒิวิชัยดิษฐ และโฆษกนปช


พล.อ.ต.ลิลลี่ ลือเสียงดัง ทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร

วันนี้มีสื่ออย่างน้อย 2 ฉบับที่ลงข่าว เกี่ยวกับ พระราชโองการโปรดเกล้ารับโอน พล.อ.ต.ลิลลี่ ลือเสียงดัง ทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ
เรื่องนี้มีคนขี้สงสัยตั้งประเด็นคำถามหลายแง่หลายมุมด้วยความสงสัย เช่นเป็นการแต่งตั้งนอกฤดูกาลบ้างล่ะิเรื่อนี้ ยศทหารนั้นผู้บังคับบัญชาสามารถแต่งตั้งเมื่อไหร่ก็ได้แต่เพื่อมิให้เป็นการรบกวนเยื้องพระยุคลบาท จึงกำหนดขอพระราชทานยศเพียงปีละ 2 ครั้ง
พล.อ.ต.(พลอากาศตรี)ลิลลี่ ฯ แท้จริงแล้วคือ พลอากาศตรี(หญิง)ลิลลี่ ลื่อเสียงดัง เป็นอดีตภรรยา ผม พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี ปัจจุบันคุณหมออายุ 59 ปี คุณหมอแต่งงานกับผมปี 2525 มีบุตรชายด้วยกัน 1 คนแต่เสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคระบบการหายใจล้มเหลวในอ้อมอกคุณหมอ แต่หย่าขาดกับผมเมื่อปี 2531 ด้วยผมเป็นคนผิด คุณหมอเป็นแม่ที่ดีและเป็นแม่บ้านที่ดีครับ
คุณหมอเป็นคนประจวบคีรีขันท์ เรียนประถมและมัธยมต้นที่โรงเรียนเซ็นโยเซฟคอนแวนท์ เป็นเรียนระดับ 10 คนแรก เข้าเตรียมอุดมศึกษา จบแพทย์ศืริราช ในอันดับต้นๆ เข้ารับราชการเป็นแพทย์ทหารอากาศ และเป็นแพทย์ประจำกองบิน 4 ตาคลี นครสวรรค์ (ได้เจอกันกับผมที่นั่น) เรียนแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูกและศัลยกรรมตกแต่งที่แพทย์จุฬาฯ ไปอบรมการแพทย์หู คอ จมูก ที่สหรัฐฯประมาณ 1 ปีด้วยทุนราชการ เคยออกแพทย์อาสาค่ายอพยพเขมรที่อรัญประเทศ 1 ปี
คุณหมอเป็นแพทย์อุดมการณ์ตามวัฒนธรรมศิริราช รักษาตรงไปตรงมา
เปิดคลีนิคที่บ้านแถวดอนเมือง ประหยัด ชอบร้องเพลง
ได้รับคำสั่งกรมแพทย์ทการอากาศไปปฏิบัติแพทย์ประจำในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ ตั้งแต่ประมาณ ปีพ.ศ.2542 และตามเสด็จพระเจ้าหลานเธอฯพระองค์ภาฯอยู่ระยะหนึ่ง
คุณหมอถวายงานทางการแพทย์ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์และรับผิดชอบ
สำหรับความสัมพันธ์กับผมในปัจจุบัน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีกิจกรรมทำบุญให้ลูกด้วยกัน เราปรึกษาหารือกันในทุกเรื่อง เคยส่งลูกศิษย์ไปรักษากับคุณหมอ เคยเชิญคุณหมอมาเป็นวิทยากรมหาวิทยาลัย
ผมจึงขอให้สังคมโซเชียลมีเดียหยุดสงสัยว่าเธอเป็นใครได้แล้ว


หมอบุรีรัมย์ เปิดคลินิกรักษาโรคฟรีปีที่ 19 ถวายในหลวง

หมอบุรีรัมย์ เปิดคลินิกรักษาโรคฟรีปีที่ 19 ถวายในหลวง
Cr:ทีนิวส์
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่คลินิกหมอสนธยา ของนายแพทย์สนธยา วัฒนโกศล ตั้งอยู่ถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้มีประชาชน ทั้งเด็ก คนชรา และผู้ยากไร้ กว่า 1,000 คน โดยส่วนใหญ่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองและสีชมพู เดินทางมาเข้าคิวเพื่อรอรับการให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี ที่มีการเปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี ทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี และในปีนี้เป็นที่ 19 แล้ว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย มีแพทย์-พยาบาลจากทั้งใน จ.บุรีรัมย์จ.สุรินทร์ และ จ.ขอนแก่น มาร่วมให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี ร่วมกับนายแพทย์สนธยาในครั้งนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งวันน่าจะมีประชาชน เดินทางเข้ามารับบริการมากกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางเข้ามารับการตรวจรักษาโรคจะมีตั้งแต่เด็ก คนชรา ผู้ใช้แรงงาน และเกษตรกรที่เจ็บป่วย เนื่องจากการทำงานหนักทั้งอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศของ จ.บุรีรัมย์ เริ่มมีสภาพหนาวเย็น
นอกจากนี้ยังมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาและห้างร้านต่างๆ ทั้งใน จ.บุรีรัมย์ และใกล้เคียง ได้นำอาหาร และเครื่องดื่มมาบริการฟรี แก่ผู้ที่เข้ามารับบริการตรวจรักษาได้ดื่ม และรับประทานฟรีอีกด้วย
สำหรับนายแพทย์สนธยา อดีตเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ และได้ลาออกมาเปิดคลินิกนานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากที่สมเด็จย่าทรงสวรรคต เมื่อปี 2539 และได้เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรี ให้กับประชาชนที่เจ็บป่วยและมีฐานะยากจน ติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง คือทุกวันที่ 18 ก.ค.ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่า และวันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปี ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ โดยใช้งบประมาณส่วนตัวและเพื่อนแพทย์-พยาบาลรวมถึงผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนในการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์.


โปรดเกล้าฯรับโอน "พล.อ.ต.ลิลลี่ ลือเสียงดัง" ทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ "พระบรมฯ" ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ

โปรดเกล้าฯรับโอน "พล.อ.ต.ลิลลี่ ลือเสียงดัง" ทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ "พระบรมฯ" ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ

เว็บไซต์ราชกิจกจนุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในพระองค์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุมัติให้สำนักพระราชวังดําเนินการปรับปรุงการกําหนดตําแหน่งและรับโอน พลอากาศตรีหญิง ลิลลี่ ลือเสียงดัง ข้าราชการทหาร ตําแหน่ง นายทหารปฏิบัติการพิเศษ สํานักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนในพระองค์และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ ตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ราชการบริหารส่วนกลาง สํานักพระราชวัง เป็นพิเศษเฉพาะราย ตั้งแต่วันที่16 พฤศจิกายน 2557
ประกาศ ณ วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี


อบจ.ราชบุรีพันคดีผู้พันกระทิง

ตำรวจบุกจับ ส.อบจ.ราชบุรี พัวพันสังหาร “ผู้พันกระทิง”
Cr:ผู้จัดการ
ราชบุรี - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทึมตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สุวัฒน์ ผลอุดม” ส.อบจ.ราชบุรี มีส่วนพัวพันฆ่า “ผู้พันกระทิง” ตามหมายศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (5 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดรารบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสุวัฒน์ ผลอุดม อายุ 32 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ราชบุรี ตามหมายศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยชุดสืบสวนได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 9 ตำบลหนองปลาหมอ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อเช้าตรู่วันนี้
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ทีมสืบสวนสอบสวนซึ่งทำงานประสานกันระหว่างตำรวจภูธรจังหวัด และระดับภาค มีการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นจับกุม นายสุวัฒน์ ผลอุดม เป็นผู้ต้องหาตามหมายศาล หลังเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา มีคนร้ายหลายคนก่อเหตุยิง พ.ต.อ.วิทูรย์ พรหมประวัติ หรือ “ผู้พันกระทิง” อายุ 78 ปี โดยใช้อาวุธร้ายแรงรุมยิงจนเสียชีวิตถึง 22 นัด ลักษณะก่อเหตุมีความรุนแรง และกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชน และผู้ตายเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ
ที่ผ่านมา พนักงานสืบสวนสอบสวนทั้ง 3 ระดับ ทั้งระดับสถานี ระดับภูธร และระดับภาค ได้ทำงานรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะพิสูจน์ให้ได้ว่าคนร้ายรายนี้เป็นใคร รวมระยะเวลา 8 วันที่ผ่านมา ประจักษ์พยานหลักฐานทุกอย่างชี้มาที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมวันนี้ จึงดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอนชัดเจน นำหมายค้น และหมายจับเข้าตรวจค้นจับกุม
นอกจากจะจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ยังตรวจค้นในบ้านพบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก ซึ่งจากการตรวจสอบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ ลูกกระสุนนั้นมาจากปืนกลทอมสัน ซึ่งฝ่ายสอบสวนจะได้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องต่อการกระทำความผิดในห้วงที่ผ่านมาหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีระบบการตรวจสอบ 2 ชั้น ในระดับภูธรจังหวัด ได้มอบให้ พ.ต.อ.สุพัฒน์ เชยชิด รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ส่วนระดับภาค มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรพัฒน์ วัฒนพิศาล รอง ผบช.ภ.7 รับผิดชอบงานสอบสวน ยืนยันว่าการสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายจะให้ความยุติธรรม เหตุที่เกิดขึ้นมีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน แต่ละคนแบ่งบทบาทกันไป มีการนำอาวุธสงครามมาใช้ก่อเหตุ ดังนั้น ตำรวจจะดำเนินการจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดโดยใช้ความระมัดระวัง
ส่วนผู้ต้องหามีตำแหน่งเป็น ส.อบจ.ซึ่งก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ส่วนประเด็นการสังหารยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว ไม่สามารถจะพูดอะไรได้มาก ส่วนผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด แม้ว่าวันนี้จะไม่สามารถนำตัวมาแถลงได้เพราะมีตำแหน่งหน้าที่เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดติดตัวอยู่ ซึ่งจะขอสอบสวนขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีโดยเร็ว


พสกนิกร เปล่งเสียง ทรงพระเจริญ กึกก้องทั่ว รพ.ศิริราช

พสกนิกรเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้องทั่วรพศิริราช.
Cr: Kapook
วันนี้ (5 ธันวาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราช อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ส่วนใหญ่จับจ้องไปที่ชั้นบนสุด และเปล่งเสียงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


ย้าย ตร.อุดร


สั่งย้าย 14 นายตำรวจเมืองอุดรฯ หลังตั้งด่านไถเงินชาวบ้าน
Cr:ผู้จัดการ
อุดรธานี - ผบช.ภ.4 สั่งย้าย 14 ตำรวจเมืองอุดรธานี ยศ “พ.ต.ต.-ร.ต.อ.-ด.ต.” และ “จ.ส.ต.” ชุดปราบปรามยาเสพติดและอบายมุข ไปปฏิบัติราชการที่ตำรวจภูธรภาค 4 หลังถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมตั้งด่านตรวจเรียกรับเงินเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 4 ที่ 2494/2557 ย้ายตำรวจระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม รองสารวัตร และผู้บังคับหมู่ สภ.เมืองอุดรธานี จำนวน 14 นายให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4
ประกอบด้วย
1. พ.ต.ต.พัฒนวงศ์ จันทร์พล สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
2. ร.ต.อ.สุรบดินทร์ วงศ์รินทอง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
3. ร.ต.อ.ภัทรธน เจริญผล รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
4. ร.ต.อ.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
5. ร.ต.ท.พิเชษฐ์ ปักเคชาติ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
6. ร.ต.ต.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
7. ร.ต.ต.จำลอง ทองเฟื่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
8. ร.ต.ต.วินัย ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี
9. ด.ต.สมประสงค์ พลลาภ
10. ด.ต.ธนู จันทร์ดาเบ้า
11. ด.ต.เสกสรรค์ สุวรรณบุตร
12. ด.ต.ประทุม กรมวงศ์
13. ด.ต.ชัยวัฒน์ ชื่นอิสระ
และ 14. จ.ส.ต.ประเทือง ริยะวงศ์ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมือง อุดรธานี
ทั้งนี้ ตำรวจชุดดังกล่าวที่ถูกสั่งย้ายล้วนเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดนอกเครื่องแบบชุด “อัศวิน” ซึ่งก่อนหน้านี้ทางต้นสังกัดคือตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตั้งกรรมการสอบสวน ภายหลังมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 10 คน เข้าร้องเรียนว่าถูกตำรวจชุดปราบปรามข้างต้นข่มขู่รีดไถ่เงินรายละ 10,000 บาทต่างกรรมต่างวาระ
โดยกลุ่มผู้ร้องเรียนที่ได้รับความเสียหาย ระบุถึงพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ว่ามีการตั้งด่านตรวจบนถนนสายอุดรฯ-ขอนแก่น บริเวณเขตในอำเภอเมือง มีการเรียกตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้วเรียกรับเงิน ซึ่งผู้ร้องเรียนพบเห็นเป็นประจำเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีคำสั่งย้ายดังกล่าวออกมา ได้มีความพยายามปกปิดไม่ให้เป็นข่าว และนายตำรวจระดับบังคับบัญชาเลี่ยงที่จะให้รายละเอียดที่มาที่ไปของการสั่งย้ายครั้งนี้