PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

โดนแล้วที่ราชบุรี! หมายเรียก 10 ชาวบ้านร่วมเปิดศูนย์ปราบโกง ชุมนุมเกิน 5 คน

โดนแล้วที่ราชบุรี! หมายเรียก 10 ชาวบ้านร่วมเปิดศูนย์ปราบโกง ชุมนุมเกิน 5 คน
บริบูรณ์ เกียงวรางกูล หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยชุดแรกที่ถูกหมายเรียกมี 10 คน คาดว่าเขาอารูปหมู่ที่ถ่ายมาดูว่าใครเป็นใครแล้วออกหมายเรียก ขณะนี้ตนยังไม่มีทนายความ และยังไม่รู้ว่าข้อหาแบบนี้จะต้องประกันตัวหรือไม่ ไม่ทราบด้วยว่าหากต้องประกันตัวต้องใช้เงินเท่าไร และชาวบ้านแต่ละคนที่โดนเรียกบางคนก็มีเงิน บางคนก็ไม่มี
"ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าสังคมไม่เป็นธรรมกับคน คนที่เหมือนคนกันทุกคน สังคมไม่มีความเป็นธรรมให้กับคนที่เหมือนคน ฉะนั้นพอเจอรูปนี้ ถึงเวลาเราอาจจะต้องบอยคอตนะ ผมคิดอยู่ว่าถ้าเกิดมันถึงขั้นที่สุดแล้ว เกิดมันทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้เราอาจจะต้องบอยคอต ลงประชามติเราเลือกไป เราก็โดนโกง เพราะเขาไม่ให้เราส่องหาคนโกง ถ้าเราไปลงแล้วเราถูกโกงเราจะไปลงเพื่ออะไร แต่ต้องดูพี่น้องเราก่อนที่โดนกัน เพราะตอนนี้ทุกคนกลัวหมด บางคนโดยแล้วปิดบ้านหนีหายไป ติดต่อไม่ได้" บริบูรณ์ กล่าวและเพิ่มเติมว่า 10 คนแรกที่โดนหมายเรียก หายหน้าไป 4-5 คนแล้ว วันนี้โทรหาก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์ ทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ก็บล็อคหมดเลย เหมือนพวกเขากังวลและกลัวมาก เนื่องจากเขาเป็นเพียงชาวบ้านต่างจังหวัดธรรมดา

“ไพบูลย์” เตือน “บุญชัย” ! อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 189



“ไพบูลย์” เตือน “บุญชัย” !
อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 189
(20 ม.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. กล่าวกับสถานีข่าวสปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัล ช่อง 19 กรณี นายบุญชัย เบญจรงคกุล ออกมาเชิญชวนศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย มาร่วมปฏิบัติธรรมและปกป้องพระธัมมชโย ว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิด
ถ้ามีการขอหมายค้น และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการเป็นครั้งที่ 2 ในห้วงเวลาอีกไม่นานนี้ แล้วปรากฎว่า ประชาชนที่คุณบุญชัยไปเชิญชวนไว้ เขามาตามนั้นในจำนวนหนึ่ง หรือเป็นล้าน ๆ อย่างที่ว่าไว้ จากนั้นมีการขัดขวางเจ้าหน้าที่ ถ้าเกิดเงื่อนไขดังกล่าวนั้น การกระทำของคุณบุญชัยที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ก็จะเป็นผลทำให้ขัดขวางการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ก็จะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 189
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ถ้ามีการชุมนุมกันขึ้นมา โดยการป่าวประกาศของคุณบุญชัย และการดำเนินการนั้นไม่ใช่การปฏิบัติตามศาสนธรรมจริง ๆ คุณบุญชัยก็จะเข้าข่ายเป็นผู้จัดการชุมนุม ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ หากไม่มีการขออนุญาต ก็จะเป็นความผิดตามกฎหมายฉบับนั้นด้วย
"อย่าดูเฉพาะวันที่ 16 มิ.ย. อย่างเดียว ในพฤติการณ์ก็มองออกว่าเป็นการจงใจขัดขวาง แถมยังมีการออกมาแถลงข่าว ถ้อยคำที่แถลงทั้งหลายนั้นก็คือ ไม่ยอมให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วอย่าลืมนะครับ มาตรา 189 นั้น ใช้กรณีไม่ว่าผู้นั้นช่วยเหลือประการหนึ่งประการใด ที่ไม่ให้ผู้ต้องหาถูกจับกุมด้วยประการหนึ่งประการใด จะโดยวาจาหรือการแสดงออก โดยการที่กีดขวางก็สุดแล้วแต่นะครับ ก็อาจจะเข้าข่าย
แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นหมื่น ๆ และเข้าหมดนะครับ ก็คงจะหมายถึงผู้นำ, ผู้ที่เป็นแกนหลัก, คนที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์จริง ๆ นะครับ จำนวนหนึ่งนะครับ ไม่ได้หมายความว่า มาหมื่นคน เป็นหมื่นคน และหลายท่านในนั้นผมก็เชื่อว่า ท่านมาปฏิบัติธรรมจริงนะครับ แต่หลายท่านก็เข้าข่ายขัดขืน หลายท่านในที่นี้มีเป็นหลักสิบหลักร้อยแค่นั้นเองนะครับ"
.............
s.news

บิ๊กป้อมย้ำไม่ให้ตั้งศูนย์ปราบโกง

บิ๊กป้อม บอกแล้วว่า ไม่ให้ตั้ง"ศูนย์ปราบโกงประชามติ" ยันไม่มีหลุดรอด ตั้งได้ไม่ว่าจังหวัดไหน  แนะทาง นปช.ควรจะไปหารือ กกต.ในการขอไปช่วย ปราบโกงมากกว่า ให้ไปคุยดู ถาม"จะทุจริตยังไง ผมยังมองไม่ออกเลย ผมยังไม่รู้เลยว่า จะโกงกันยังไง" ยัน ตามไปเอาผิด พวกโพสต์ในโซเชี่ยลฯ ต่อ/ ยัน มีประชามติ แน่

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการที่ ทหารตามไปปิด ศูนย์ปราบโกงประชามตินั้นว่า ผมก็บอกแล้วว่า ไม่ให้ตั้ง"ศูนย์ปราบโกงประชามติ"

"ถ้าจะตั้ง ให้ไปหารือ กกต.ในการขอไปช่วย ปราบโกงมากกว่า ให้ไปคุยดู ถาม"จะทุจริตยังไง ผมยังมองไม่ออกเลย ผมยังไม่รู้เลยว่า จะโกงกันยังไง"

ส่วนการที่ นปช.อ้างว่า นายกฯ พูดว่า ให้ตั้งได้ แต่แรก แล้ว มาเปลี่ยนทีหลัง พลออกประวิตร ยืนยันว่านายกฯไม่ได้บอกแบบนั้น นายกฯบอกว่า ตั้งไป แต่ไม่มีผลทางกม. แล้วถ้าทำผิดกม.ก็โดน ไม่ใช่ว่า อนุญาตให้ตั้ง. แล้วตัวผมเอง ก็พูดตั้งแต่ต้นแล้วว่า ตั้งไม่ได้

ส่วนการที่ยังมีการโพสต์ภาพในโซเชี่ยลฯว่า ตั้งศูนย์ฯได้ในบางจังหวัด นั้น พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ไม่มีๆ ตั้งได้ไม่ว่าจังหวัดไหน

ส่วนการจะไปจับผิด โดยผ่านทาง ออนไลน์ โชเชี่ยล แทนนั่น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็มี กม.อยู่แล้ว มีจนท.ดูอยู่ เพราะถ้าทำผิดก็โดนแน่นอน

ส่วนการที่ แกนนำ นปช. ยังเชื่อว่า จะไม่มีประชามติ นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า มี มี 7สค. มีการลงประชามตื ร่างรธน. เราต้องเดินหน้าต่อไปตามโรดแมพ

“มีชัย”พอใจผลการลงพื้นที่แจง ครู.ค. ไร้ปัญหา เตรียมสรุปผล 21-22 มิ.ย.นี้

“มีชัย”พอใจผลการลงพื้นที่แจง ครู.ค. ไร้ปัญหา เตรียมสรุปผล 21-22 มิ.ย.นี้ ข้องใจ “กกต.”โยน กรธ.ฟ้องเองหากพบคนบิดเบือนร่างรธน.
เมื่อเวลา11.15 น.วันที่ 20 มิถุนายน ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการอบรมวิทยากรระดับตำบลและหมู่บ้าน (ครู ค.) ว่า วิธีที่จะให้ชาวบ้านเข้าถึงได้ดีที่สุดและเข้าใจง่ายคือการสื่อสารแบบปากต่อปาก ส่วนถ้าครู ค. ลงไปอธิบายแล้วปรากฎว่าชาวบ้านไม่เข้าใจ มองว่าหากเขาติดขัดตรงไหนก็ให้ถามวิทยากรระดับครู ข. หรือ ครู ก. ซึ่งตอนนี้ก็มีศูนย์ที่จะรับฟังปัญหาเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่ามีปัญหาอะไรที่คล้ายกันบ้างก่อนจะได้นำไปแก้ไข ทั้งนี้ การอบรม ครู ค.ทางกรธ.ที่ลงพื้นที่ไปสังเกตุการณ์ก็จะกลับมารายงานให้ทราบในวันที่ 21 -22 มิถุนายนนี้ แต่เท่าที่ไลน์แจ้งให้ทราบ ดูท่าทางจะดี ได้ผล มีบ้างในบางพื้นที่ที่อาจจะย่อหย่อนไปบ้าง ส่วนใหญ่เชื่อว่าพอไปได้
ส่วนข้อกังวลที่เกรงว่าจะเป็นการชี้นำ นายมีชัย ย้อนถามว่า “ชี้นำอย่างไร” ผู้สื่อข่าวตอบว่า เป็นการชี้นำเพื่อให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย กล่าวว่า เราจะต้องทำเพียงบอกว่ารัฐธรรมนูญดีอย่างไร ซึ่งการไปให้ข้อมูลทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่าไปหวังอะไรที่เราไม่ได้เป็นคนทำเอง ก็ต้องรับสภาพ
เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีกลุ่มคนพยายามออกมาก่อกวนทำให้เกิดความกังวลในการลงประชามติหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ต้องเป็นบทเรียนให้กับประชาชนได้เข้าใจ กลไกทางการเมืองในเวลาที่เราจะเดินไปข้างหน้าเพื่อกลับสู่ภาวะปกติแล้วเมื่อมีคนมาก่อกวนจะเกิดอะไรขึ้น บ้านเมืองคงจะรับรู้ไปเอง
เมื่อถามว่า ตอนนี้กลุ่มนปช.ก็มีขบวนการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญกังวลหรือไม่ และเป็นอุปสรรคในการลงประชามติ ประธาน กรธ. กล่าวว่า ถ้าเขาทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็คงจัดการ แต่ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็คงไม่มีใครว่าอะไรได้ ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าทำตัวเป็นอุปสรรคและขัดขวาง เจ้าหน้าที่ก็จะต้องจัดการ เราเองนั้นก็ทำตามกติกาของเรา ซึ่งเป็นกติกาสากลที่ใครๆเขาก็ทำกัน เราก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดแปลกไป
เมื่อถามว่า การออกไปเผยแพร่ข้อมูลของบรรดาครู ค.ระยะนี้ที่มีปัญหาเรื่องฝนตก น้ำท่วม จะเป็นปัญหารือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่เป็นปัญหาเพราะยังมีเวลาอีกหลายวัน อีกทั้งยังไม่ได้ลงมติวันนี้หรือพรุ่งนี้ ยังมีเวลาอีกประมาณ1เดือน เจ้าหน้าที่ที่ไปก็ทยอยไป ไม่ได้ไปกันทีเดียว มีโอกาสเจอกันเมื่อใดก็จะพูดคุยกันเมื่อนั้น เสียงตามสายในแต่ละหมู่บ้านก็เอามาใช้ประโยชน์
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากประชาชนรับฟังเสียงจากมวลชนที่กำลังเคลื่อนไหวกันอยู่ในเวลานี้ นายมีชัย กล่าวว่า ประชาชน เวลานี้ฉลาดขึ้นเยอะ คงไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ เราก็ต้องวางใจอะไรที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จเราก็ต้องคอยแก้ไข สื่อมวลชนเองก็ต้องระวัง ที่ผ่านมาก็มีหนังสือพิมพ์บางฉบับเอาข้อมูลเท็จไปลง
เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลเท็จ บิดเบือนต่างๆนั้น ทางกรธ.จะไปดำเนินการอะไรหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า “ตรงนี้เราพยายามบอก กกต.เพราะเป็นคนดูแล ซึ่งต้องคุยกันเพราะเห็น กกต.ทำท่าเหมือนจะโยน โดยโยนมาให้ กรธ.ไปแจ้งความเอาเอง ซึ่งตรงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กกต.น่าจะเป็นผู้ที่กลั่นกรองได้ เพราะเป็นผู้รักษาการ”
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ศูนย์ปราบโกง ของนปช. ถูกระงับ ห้ามจัดตั้ง แต่อาจจะไปเคลื่อนไหวในรูปแบบอื่น นายมีชัย กล่าวว่า ” ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายก็ไม่มีใครว่าอะไร ถ้าผิดก็ต้องถูกจัดการ “
counter

นายกรัฐมนตรีคุยสายตรงบัน คี มูน ด้าน-นปช. แจงข้อมูลยูเอ็น

นายกรัฐมนตรีคุยสายตรงบัน คี มูน ด้าน-นปช. แจงข้อมูลยูเอ็น
นายกรัฐมนตรีคุยโทรศัพท์สายตรงกับเลขาธิการยูเอ็นชี้แจงเรื่องการทำประชามติ แจ้งให้ทราบว่ามีผู้ไม่หวังดี เผยเลขาธิการยูเอ็นห่วงเรื่องการแสดงความคิดเห็นต่อร่าง รธน. ด้าน นปช.พบเจ้าหน้าที่ยูเอ็น และเตรียมทำหนังสือถึงอียูให้เข้ามาสังเกตการณ์การทำประชามติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.) ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติในเรื่องการทำงานและการเตรียมการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ รวมทั้งการดำเนินงานตามโรดแมปที่วางไว้

สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงให้เลขาธิการยูเอ็นทราบว่ามีผู้ไม่หวังดี ซึ่งเลขาธิการยูเอ็นได้รับทราบและเชื่อว่าจะมีความเข้าใจ ทั้งนี้ เลขาธิการยูเอ็นได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนในขณะนี้ ซึ่งตนชี้แจงให้ ทราบว่ายังมีพรรคการเมืองบางพรรคไม่ให้ความร่วมมือทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เปิดช่องทางให้เข้ามามีส่วนร่วมแล้ว แต่กลับไม่ยอมรับ

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า จะมีการส่งผู้แทนไปชี้แจงทำความเข้าใจกับเลขาธิการยูเอ็นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และไทยพร้อมจะชี้แจงเรื่องนี้กับทุกประเทศ

สำนักข่าวไทยรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) และแกนนำกลุ่ม ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ โดยนายจตุพรระบุว่าได้พูดคุยเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ได้แนะนำให้ทำหนังสือไปยัง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ หากจะเชิญมาสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติในไทย และหากกลุ่ม นปช. พบข้อมูลการละเมิดสิทธิ์เกี่ยวกับการทำประชามติ ก็ให้ส่งข้อมูลมายังยูเอ็นเป็นระยะ
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า ที่ผ่านมายูเอ็น สนใจและติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และได้แสดงความห่วงใยมาถึงรัฐบาลหลายครั้ง ซึ่งกลุ่ม นปช. จะทำหนังสือถึงสหภาพยุโรป หรือ อียู เพื่อขอให้เข้ามาสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติ เพราะมองว่า อียู เป็นองค์กรที่มีประสบการณ์ตรง และมีบทบาทชัดเจน ในการเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้ง หรือการลงประชามติในหลาย ๆ ประเทศ ‪#‎ประชามติ‬ ‪#‎ร่างรัฐธรรมนูญ‬

วีระ ปปช.ลำบากใจ ฟันจีที 200

คดีการทุจริตซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 มันไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรเลย มันก็คือการที่ทหารบกกลุ่มหนึ่งรวมหัวกันทุจริตงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธของกองทัพบก แต่กรณีที่ป.ป.ช.หนักใจ เพราะกลัวทหารบกที่มาเป็นใหญ่ในรัฐบาล คสช.และกลัวว่าประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ที่บิ๊ก คสช.ส่งเข้ามาควบคุม ป.ป.ช.จะไม่พอใจใช่มั้ย ทำไมเวลา ป.ป.ช.ฟันเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ใช่บิ๊ก คสช.ไม่เห็นต้องลำบากใจเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้นเรื่อยๆว่า นอกจาก คสช.จะไม่ได้เข้ามาทำการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆให้ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้เรื่องเลวร้ายที่พวกของตนเองก่อเอาไว้ ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีก นี่แหละชัดเลย เรื่องที่ควรทำกูไม่ทำ แต่เรื่องระยำกูชอบทำนัก

“นปช.” ยื่น UN รายงานสถานการณ์ถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ สั่งห้ามดำเนินการเปิดศูนย์ปราบโกง

“นปช.” ยื่น UN รายงานสถานการณ์ถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ สั่งห้ามดำเนินการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ขอ คสช.หยุดพฤติกรรม
******************************************************************
‪#‎NEWSROOM‬ ‪#‎TV24‬ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เดินทางมายื่นหนังสือต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ OHCHR เพื่อรายงานสถานการณ์การคุกคามของเจ้าหน้าที่รัฐ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังมายังที่ตั้งของศูนย์ปราบโกงประชามติ พร้อมคำสั่งห้ามเปิดศูนย์ โดยอ้างคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2557 รวมถึงเหตุการณ์คุกคามการเปิดศูนย์ปราบโกงในระดับภูมิภาคของจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นการกระทำที่สะท้อนความไม่จริงใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ที่ตระบัดสัตย์ไม่รักษาคำพูด อีกทั้งยังมีการคุกคามแกนนำศูนย์ปราบโกงในระดับภูมิภาค ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ คสช.ทบทวน และยุติการคุกคามประชาชรที่เปิดศูนย์ปราบโกงประชามติในระดับภูมิภาคของทุกจังหวัดในทันที
.
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ได้กล่าวถึงกรณีการจัดสรรเวลาออกอากาศรายการรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่าในผังการออกอากาศระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ไปจนถึง 6 สิงหาคมนั้น เป็นการจัดสรรเวลาให้กับฝ่ายที่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์เพียงด้านเดียว ไปฟังเสียงณัฐวุฒิกันครับ
.
นายณัฐวุฒิ ตอบโต้การที่ถูกกล่าวหาว่าเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ เพื่อปั่นป่วนบ้านเมืองว่า ศูนย์ปราบโกงประชามติของนปช.ไม่มีนัยทางการเมืองในการเคลื่อนไหวใดใด พร้อมกับเห็นว่าการที่บุคคลที่ออกมากล่าวหานั้น ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง แต่ได้ดิบได้ดีจากการยึดอำนาจ ซึ่งก็ไม่ต่างจากผีเน่ากับโลงผุ ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นตายไปแล้วในสายธารประชาธิปไตย
.
นอกจากนี้ แกนนำ นปช.ยังเปิดเผยถึงยอดรวมสถานการณ์การเปิดศูนย์ปราบโกงฯ นปช.ทั่วประเทศเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าสามารถเปิดได้ใน 46 จังหวัด ถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ 22 จังหวัด และไม่สามารถเปิดศูนย์ได้ 30 จังหวัด

บิ๊กตู่ ชี้ฝนตกยังไงก็ท่วม ประเทศจะจม คนหนักแผ่นดินเยอะ ไม่อยากท่วมก็ไปอยู่ที่อื่น

บิ๊กตู่ เหน็บพวกคิดประหลาดตั้งศูนย์ปราบโกง เตือนสติเอาเวลาไปสู้คดี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน ที่ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน CONNEXT ED (The Leadership Program for School Partner) ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐาน และการพัฒนาผู้นำ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตอนนี้โลกเปลี่ยนแปลงเกิดปรากฏการณ์ทางสภาพภูมิอากาศ ที่มีทั้งทำให้ฝนตกยาวขึ้น ตกข้ามปี จึงขอให้เตรียมความพร้อมที่จะรับสถานการณ์หากน้ำท่วม ซึ่งจะไม่ให้เกิดเลยก็ไม่ได้เพราะพื้นที่ประเทศไทยต่ำ โดยเฉพาะกรุงเทพฯยังไงมันก็ท่วม ถ้าไม่อยากให้ท่วมก็ไปอยู่ที่อื่นเพราะทำไม่ทัน ไปหาที่อยู่สูงๆ เอาแล้วกัน คงไม่ไล่ไปดาวอังคารหรอก
“แล้วเดี๋ยวสื่อจะไปพาดหัวข่าวว่านายกฯไล่คนไปนอกประเทศ เป็นพยานให้ด้วยวันนี้ไม่ได้ไล่ แต่ต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศสูงขึ้น เพราะมันต่ำอยู่แล้ว ถ้ามีคนไม่ดีมันก็หนักแผ่นดินมากขึ้น จะจมลงไป เพราะไอ้คนไม่ดีเหล่านี้ รับรองพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) สู้กันอีกวันนี้เตรียมตั้งท่ากันแล้ว ว่าผมพูดเมื่อไหร่ก็ตาม จ้องจะเอามาพูดมาสู้ผม อย่าลืมว่าผมมีอำนาจตามกฎหมายอยู่ วันนี้ไม่ต้องมาพูดเรื่องประชาธิปไตยกำลังทำประชาธิปไตยให้ก็เดินหน้าไปจะมาอะไรกับผมนักหนา” นายกฯกล่าว
จากนั้นนายกฯ ได้หันไปถามพิธีกรดำเนินรายการชายว่า เรียนจบต่างประเทศมาหรือไม่ เมืองนอกเขามีตั้งศูนย์ปราบโกงจับโกงแบบนี้ไหม ถ้าไม่มีแล้วจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นแบบนั้น ไม่ให้มีคนคิดประหลาดแปลกๆ แบบนี้ ทำเพื่อตัวเองกันทั้งสิ้นนั่นแหละ ความใหญ่เยอะแยะไปหมดยังออกมาแสดงปัญญาอีก โน่นไปเตรียมสู้คดีกันโน่น เดี๋ยวคดีใหม่มาอีกก็จะวุ่นวายอีก ประชาชนก็เดือดร้อนอีก บอกว่าถูกชักจูงชักนำมา ส่วนนักเรียนก็บอกว่าครูพามาเพราะฉะนั้นครูก็ต้องไปดู อย่าให้มันเกิดขึ้นผมไม่เชื่อหรอกแต่เคยเห็นในคลิปนะที่สอนเด็กในห้องพูดว่าเผด็จการมีนะบางโรงเรียน เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนแต่ก็ไม่โกรธเพราะโกรธไม่ได้เขาไม่เข้าใจ
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันลดจุดอ่อนเสริมจุดแข็ง ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา รัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรี ที่ช่วยกันขับเคลื่อน เรากำลังเดินหน้าไปด้วยกันทุกคนก็ทำงานไม่มีวันหยุดราชการวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ทำงาน แม้ตนไม่เจอหน้าก็สั่งให้เค้าทำงานทางไลน์ตนไม่ให้เขามีความสุขอยู่แล้วถ้าผมไม่มีความสุข เป็นแบบนี้ทุกกระทรวงผมทราบอะไรก็ส่งให้เป็นเรื่องที่ส่งให้ทราบเฉยๆ ว่าเค้ามองเราอย่างไร ตนเป็นคนละเอียดเลยทำให้ผมหงุดหงิดบ้างเป็นธรรมดาไอ้คนที่ชอบตนก็โอเคอยู่แล้ว ใครก็ชอบถ้ามีใครมาชมแต่นั่นแหละคือสิ่งที่มากดดันตนเพราะเขาคาดหวังให้ตนทำให้เสร็จอย่างที่เด็กบอกว่าพ่อเขาชื่นชม ส่วนหนึ่งผมก็ดีใจแต่อีกส่วนหนึ่ง ตนจะทำให้เขาได้หรือไม่นี่คือสิ่งที่กดดันคือเรื่องความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้คนมาชอบเยอะๆ แล้วมาปรบมือ มันไม่ใช่ตนไม่ใช่คนแบบนั้น แต่วันนี้ตนก็คิดว่าจะมีอะไรดีๆ ที่เกิดขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า ฝากงบการเรียนรู้และความรับผิดชอบต่อสัมคม (ซีเอสอาร์) ด้วย และฝากดูกิจกรรมด้านศึกษารวมถึงสิ่งแวดล้อม ตอนนี้ตนกำลังแก้ไขปัญหาน้ำเสียและขยะอยู่ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นทำไม่ได้ ขณะนี้ตนได้ขับเคลื่อนในหลายๆ โครงการเพราะฉะนั้นปัญหาใดที่ทำไม่ได้ตนจะพยายามหาทางทำให้ได้ แต่หากรัฐบาลทำฝ่ายเดียวคงไม่เกิดผล ส่วนท้องถิ่นต้องลงไปช่วยดู ถ้าไม่อยากใช้ไฟฟ้าราคาถูกก็ต้องเตรียมซื้อไฟฟ้าราคาแพง เพราะวันนี้เราจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะไม่สนับสนุนพลังงานทดแทนแต่ต้นทุนการผลิตติดตั้งพลังงานทดแทนราคาค่อนข้างแพง เมื่อแพงค่าไฟจึงเพิ่มขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำว่า เดี๋ยวหากมีฝนลงตกลงมาแล้วน้ำท่วมรัฐบาลก็โดนอีก ตอนนี้ตนกำลังแก้ไขอยู่ แก้ที่ระบบท่อระบายน้ำเพราะไม่เคยทำติดกันอยู่ที่ท่อระบายน้ำ ติดอยู่ที่อีไอเอมันเลยเดินต่อไปไม่ได้ ช่วยกันดูว่าอะไรจำเป็น
counter

นายกฯ ปรามปลุกระดมศิษย์วัดพระธรรมกายรวมตัว เสี่ยงข้อหาขัดขวางเจ้าหน้าที่

มติชนออนไลน์รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวเตือนถึงกรณีที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายจะรวมตัวกันปกป้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพระธัมมชโยว่า ขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือการรับฟังเหตุและผลซึ่งกันและกัน ไม่วู่วาม ต้องรู้จักใคร่ครวญอย่างมีสติว่าสิ่งใดถูกหรือผิด เพื่อร่วมกันหาทางออกของปัญหาให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีถึงความเลื่อมใสศรัทธาของคณะศิษย์ที่มีต่อพระธัมมชโย แต่อยากให้เปิดใจกว้างอย่างพินิจพิเคราะห์ในเรื่องของกฎหมายบ้านเมืองด้วย เพราะทุกสังคมในโลกล้วนมีกฎกติกา เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเรียบร้อย ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
“กรณีที่มีบุคคลมีชื่อเสียง ออกประกาศเชิญชวนให้ศิษยานุศิษย์มาร่วมปฏิบัติธรรมแผ่เมตตาที่วัดพระธรรมกายให้มากที่สุด เพื่อเรียกคืนความยุติธรรมให้พระธัมมชโยพ้นมลทินนั้น อาจถูกสังคมมองได้ว่าเป็นการปลุกระดมมวลชนที่มีนัยแอบแฝง เมื่อมีคนออกมาจำนวนมากอาจเกิดการกระทบกระทั่งกับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว รัฐบาลเป็นห่วงคณะศิษย์ที่จะเดินทางไปวัดพระธรรมกายในช่วงที่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งศาล เพราะอาจสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการกระทำความผิด เนื่องจากขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวบุคคลและวัดพระธรรมกาย” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายบุญชัย เบญจรงคกุล หรือเจ้าสัวบุญชัย นักธุรกิจชั้นนำและศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ให้สัมภาษณ์รายการข่าวสถานีโทรทัศน์ดีเอ็มซีของวัด โดยเรียกร้องให้ศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศมารวมพลังกันปฏิบัติธรรมและแผ่เมตตาที่วัดพระธรรมกายให้ได้ถึงหลักล้านคน เพื่อให้พระธัมมชโยได้รับความยุติธรรมและพ้นมลทิน
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)