PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

คนไทยในสวิสต์ ต่อต้านยิ่งลักษณ์

ภาพชัดๆ !! คนไทยในดินแดนนาฬิกา ออกมาชูป้ายด่าแหลกผลงาน "ยิ่งลักษณ์" อุ่นหนาฝาคั่งถึงสนามบินซูริค ??

วันนี้ ( 10 ก.ย.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ประชาชนไทยในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้รวมตัวออกมาชูป้ายประจานผลงานผลาญภาษี ของนางสาวยิ่งลักษณ์ย ชินวัตร ถึงสนามบินซูริค หลังนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีภารกิจในการไปเยือนสมาพันธรัฐสวิส  เมื่อเวลา 12.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) โรงแรมปาร์คไฮแอ็ต นครซูริค สมาพันธรัฐสวิส เนื่องจากนายกฯ ไปกล่าวสุนทรพจน์ในงานบิสสิเนส ฟอรัม  สวิสถือเป็นต้นแบบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ

จาก สำนักข่าวTNEWS
ภาพชัดๆ !! คนไทยในดินแดนนาฬิกา ออกมาชูป้ายด่าแหลกผลงา
จาก สำนักข่าวTNEWS




น "ยิ่งลักษ






 อุ่นหนาฝาคั่งถึงสนามบินซูริค ??

วันนี้ ( 10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนไทยในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้รวมตัวออกมาชูป้ายประจานผลงานผลาญภาษี ของนางสาวยิ่งลักษณ์ย ชินวัตร ถึงสนามบินซูริค หลังนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีภารกิจในการไปเยือนสมาพันธรัฐสวิส เมื่อเวลา 12.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) โรงแรมปาร์คไฮแอ็ต นครซูริค สมาพันธรัฐสวิส เนื่องจากนายกฯ ไปกล่าวสุนทรพจน์ในงานบิสสิเนส ฟอรัม สวิสถือเป็นต้นแบบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ

งานวิจัยสื่อไทยก็ตระหนักสังคมเหมือนกัน

ผลวิจัยพบสื่อไทย
ตระหนักต่อสังคม
บ่ายวันที่ 9 ก.ย.56 นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการศึกษา เรื่อง บทบาทของสื่อมวลชนกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR ของสื่อสารมวลชน) ตามโครงการงานวิจัยหัวข้อสื่อสารมวลชนกับการ Build and Design สังคม ว่าในช่วงความขัดแย้งทางการเมือง สื่อมวลชนถูกมองไปทั้งด้านดีและไม่ดี ดังนั้นจึงศึกษาบทบาทของสื่อกับการทำ CSR พบว่าสื่อมวลชนทุกแขนงตระหนักกับความรับผิดชอบต่อสังคมซึ่งนอกจากการที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบ และเสนอแนะแก่สังคมแล้วยังทุ่มงบประมาณ และความเสียสละของผู้บริหาร พนักงานในการออกช่วยเหลือสังคม โดยมีรูปแบบการทำ CSR มีดังนี้
           หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้จัดตั้งมูลนิธิไทยรัฐ ก่อตั้งโดยกำพล วัชรพล ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐคนแรก เป็นมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นที่รู้จักของสังคมในฐานะ หน่วยงานอุปถัมภ์โรงเรียนไทยรัฐวิทยาทั้ง 101 แห่งทั่วประเทศไทย มีนักเรียนเรียนอยู่ขณะนี้ประมาณ 30,000 คน และประมาณว่านับแต่ดำเนินการมามีนักเรียนผ่านโรงเรียนไทยรัฐวิทยาไปแล้วกว่า 400,000 คน ปัจจุบันยังดำเนินการต่อเนื่อง รวมถึงจัดประกวดวิทยานิพนธ์ รางวัลกำพล วัชรพล ที่เป็นประโยชน์ต่อสื่อสารมวลชน เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เคยจัดกองคาราวานไทยรัฐช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อปี 2532 เกิดพายุเกย์ ผอ.กำพล วัชรพล ได้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยจึงจัดกองคาราวานถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัย เป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องกระป๋อง เสื้อผ้า และสิ่งจำเป็น ต่างๆ ได้ทำหลายครั้ง สำหรับในปัจจุบันไม่ได้จัดกองคาราวาน แต่ใช้วิธีบริจาคเงินเข้าองค์กรที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยตรง
                หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล ได้ทำกิจกรรม CSR ด้วยการร่วมกับเครือข่ายการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แพทย์นักศึกษา วปอ.27 และภริยา ให้การตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคเด็ก พร้อมจ่ายยาฟรี อย่างต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นอกจากนั้นในยามที่วิกฤติยังมีกองคาราวานเดลินิวส์ มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล ร่วมช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม และจัดโครงการ เดลินิวส์ฝึกอาชีพ โดยร่วมกับเครือข่ายจัดอบรมอาชีพ ให้กับประชาชน “ฟรี”
                เครือมติชนมติชน-ข่าวสด จัดโครงการ “คลองสวย น้ำใส ร่วมใจบวชคลองเปรมฯ เทิดไท้องค์ราชัน” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยระลึกถึงความสำคัญของแม่น้ำลำคลองและหันมาฟื้นฟูอนุรักษ์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ต่อไป
                เครือเนชั่น มูลนิธิ “ห้องสมุดครอบครัว” ดำเนินโครงการ “รถห้องสมุดเคลื่อนที่” โดยร่วมกับสภากาชาดไทย เพื่อส่งเสริมการศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ให้กับเยาวชนและประชาชนในจังหวัดที่ขาดแคลน มีประวัติความเป็นมาของมูลนิธิห้องสมุดครอบครัว และรถห้องสมุดเคลื่อนที่ บรรณาทร เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นการลงทุนที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศ มหาวิทยาลัยเนชั่น เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งแรกของจังหวัดลำปาง ที่ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพให้แก่สังคม ด้วยกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้นักศึกษาเป็นนักคิด ใฝ่รู้ทั้งในด้านวิชาการและการประยุกต์ใช้กับกิจกรรม ฝึกให้นักศึกษามีประสบการณ์จริงสามารถนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่การงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                ช่อง 3 มูลนิธิครอบครัวข่าว 3 มอบชุดคอมพิวเตอร์ มอบจักรยานน้ำใจไทย ให้โรงเรียนถิ่นทุรกันดาร มอบเครื่องช่วยหายใจ รถรับบริจาคโลหิต ช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ส่งเสริมบุคคลหรือหน่วยงานที่ทำประโยชน์และเป็นตัวอย่างที่ดีของครอบครัวและสังคม หมวดหมู่การบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิครอบครัวข่าว 3 ทุนภัยพิบัติ / ฉุกเฉิน ทุนสังคมและสาธารณะประโยชน์ ทุนสงเคราะห์ผู้ยากไร้ / ด้อยโอกาส ทุนส่งเสริมการศึกษา ทุนสนับสนุนทั่วไป ร่วมเครือข่าย เช่น ดารา ช่อง 3 ไปเลี้ยงอาหารเด็กด้อยโอกาส และปลูกป่าต่างๆ ตลาดนัดดารา และช่อง 3 สัญจร
                ช่อง 5 โครงการ “กองทัพบก โดย ททบ. สร้างห้องน้ำสะอาด เพื่ออนาคตของชาติ” โดย ททบ.     จะสร้างห้องน้ำ 10 ห้อง ต่อโรงเรียน จำนวน 30 โรงเรียน ทั่วทุกภาคของประเทศ   กิจกรรมดังกล่าวเป็นนโยบายของกองทัพบก เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามแผนแม่บท ททบ. พ.ศ.2555-2558 ในยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการทรัพยากร ในการดำเนินการกิจกรรมด้าน CSR แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการสร้างอาคารห้องน้ำให้มีความทันสมัย ถูกสุขลักษณะเป็นโถส้วมนั่งราบที่ได้มาตรฐาน
                ช่อง 7 เครือข่ายร่วมกิจกรรม เช่น ดารา ช่อง 7 ไปเลี้ยงอาหารเด็กด้อยโอกาส และกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ เช่น กิจกรรม “ร่วมใจ ส่งรัก สู่รั้วของชาติ”
                ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ การศึกษา ด้วย MCOT ACADEMY เป็นสถาบันพัฒนาวิชาชีพสื่อสารมวลชน ที่เปิดฝึกอบรมและทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (แบบเสียค่าใช้จ่าย) จิตอาสา MCOT CAMP "ค่ายเยาวชน คนทำดี" ขอเชิญเพื่อนๆ ร่วมสร้างสนามเด็กเล่น จัดทำแปลงเกษตรแบบพอเพียง ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบๆโรงเรียน พร้อมร่วมปลูกต้นไม้ทดแทน และร่วมกันมอบอุปกรณ์สื่อการเรียนให้น้องๆ กิจกรรม "หาเสื้อผ้าใหม่ให้น้อง" โครงการ “เติมยิ้มให้น้องชายแดนใต้” “อสมท สัญจร” ยกทัพความบันเทิงและสาระความรู้ นำความสุขให้คนไทยทั่วไทยอย่างต่อเนื่อง ร่วมเครือข่ายพนักงานมอบทุน-อุปกรณ์กีฬา ตามโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร
                ช่อง 11 เอ็นบีที กรีน โครงการรักสร้างสรรค์ ระดมพลัง สร้างโลกสีเขียว ร่วมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ปลูกกล้าไม้ กับนักเรียนและชาวบ้าน การแสดงคอนเสิร์ต รักสร้างสรรค์ ระดมพลังสร้างโลกสีเขียว และคอนเสิร์ตวัฒนธรรมหมอลำซิ่งต้านภัยเอดส์
                Thai PBS มุ่งมั่นเป็นสถาบันสื่อสาธารณะที่สร้างสรรค์สังคมคุณภาพและคุณธรรม ส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมของประชาชน ในการสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรม มีความกล้าหาญในการรายงานข่าวสารและเสนอประเด็นโต้เถียง โดยยึดถือประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ 2. เป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ เสริมสร้างสติปัญญาและสุขภาวะ แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกระดับอายุ ให้เป็นพลเมืองคุณภาพ 3. สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับสุนทรียภาพให้กับสังคม 4. ส่งเสริมเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม เสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม 5. สะท้อนความหลากหลายของสังคม เป็นพื้นที่ให้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเฉพาะต่างๆอย่างเหมาะสม ทั้งในระดับชุมชนและระดับชาติ 6. เพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ชุมชน ประชาชน และประชาคมโลก
                สนับสนุนความมีส่วนร่วมของผู้ผลิตอิสระ นักข่าวพลเมือง ผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนในพื้นที่และชุมชนต่างๆ ในการบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ "สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ" เพื่อรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากประชาชน รับนักศึกษาเข้าฝึกงาน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเล็งเห็นถึงความสำคัญของการฝึกงานของ นิสิต-นักศึกษา เนื่องจากการอบรมถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยนิสิต-นักศึกษาจะได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการปฏิบัติงานจริง และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษา ในบทเรียนมาประยุกต์ใช้ในการฝึกงาน
                สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน เป็นสื่อกลาง ประสาน รับแจ้งข้อมูล ร้องทุกข์, อุบัติเหตุ, ภัยพิบัติ, การจราจร, เชื่อมโยง สมาชิก อาสาสมัคร เพื่อการเข้าถึงพื้นที่ที่รับแจ้งอย่าง รวดเร็ว ศูนย์บริการสาธารณะร่วมด้วยช่วยกัน 1677 ศูนย์รับเรื่อง 1677 ( Hotline 1677) ศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน CB 245 CH 36 อาสาร่วมด้วยช่วยกัน
                สถานีวิทยุ จส.100 แจ้งสภาพปัญหาจราจร ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือสำนักงาน กปร.ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ เกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ กิจกรรมความคืบหน้าของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดอบรมให้ความรู้ภาคทฤษฎีและสอนเทคนิคการขับรถยนต์ อย่างปลอดภัย และดูแลรถ เพื่อประหยัดพลังงาน
                สถานีวิทยุ สว พ.91 เป็นสถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและรายงานความเคลื่อนไหวการจราจร รายงานเหตุการณ์ไฟไหม้ รายงานอุบัติเหตุ เคลื่อนย้ายผู้ป่วย สกัดจับคนร้าย เหตุด่วนเหตุฉุกเฉิน แจ้งข่าวอาชญากรรม แจ้งอุบัติเหตุ เพลิงไหม้ อุทกภัย แจ้งเบาะแสยาเสพติด การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ แจ้งเด็กพลัดหลง ของหาย คนหาย ช่วยผู้ด้อยโอกาสในสังคม สัตว์เลี้ยงป่วยไร้คนดูแล ตลอด 24 ชั่วโมง บริการตรวจสุขภาพให้กับตำรวจจราจร""ป้องกันควันพิษ ช่วยชีวิตตำรวจจราจร กับ สวพ. 91" มอบผ้าปิดจมูกแก่ตำรวจจราจร บริการผ่าตัดผู้ป่วยโรคต้อกระจก ความปลอดภัยการทำงานของตำรวจจราจร มอบรางวัลตำรวจจราจรยอดขยัน คนดี สวพ.
                สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในจริยธรรมและความเป็นกลาง เพื่อให้เกิดการยอมรับและน่าเชื่อถือในวิชาชีพต่อสังคม พัฒนาการประกอบวิชาชีพ กิจกรรมด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพกิจกรรมด้านการฝึกอบรม สถาบันอิศารา กิจกรรมด้านต่างประเทศ เป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านการประสานเครือข่ายนักหนังสือพิมพ์ทั่วโลก รวมทั้งการมีบทบาทในการสนับสนุนนักข่าวไทยเข้าอบรมและสัมมนาร่วมกับนักหนังสือพิมพ์ในระดับนานาชาติ
                สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ บริการสังคมจัดงานสัมมนาด้านเศรษฐกิจประจำปี ในการสร้างองค์ความรู้ต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจต่อสาธารณชน และมวลสมาชิกสมาคมฯ ที่นำเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจได้อย่างถูกต้องแม่นยำเป็นกลาง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ข้าราชการ และประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับทราบข้อมูลและมุมมอง ที่รอบด้านจากวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์
                สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ยกย่อง คนดี ประเทศไทย เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันโครงการนี้ยกระดับเป็น มูลนิธิคนดี (ประเทศไทย) พัฒนาวิชาชีพ จัดประกวดข่าวสร้างสรรค์สังคมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกวดสุดยอดข่าวอาชญากรรม การรายงานข่าวอาชญากรรมเชิงสถิติ การทำโพล ภายใต้ชื่อ นักข่าวอาชญากรรมโพล กรณีที่เป็นเรื่องในความสนใจ โครงการเตรียมนักข่าวสืบสวนสอบสวน [Pre Press Project] (PPP) ด้วยการประกวดข่าวนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เรียกว่ารางวัลนักข่าวป้ายแดง

พลังแห่งความรักแม้ภูเขายังมิอาจขวาง

นาย Dashrath Manjhi ชาวอินเดียคนนี้
เคยถูกหัวเราะเยาะเย้ย เมื่อเขาเริ่ม ถากถางทาง
เจาะผ่าน Gahlaur Ghati ภูเขา แห่งแคว้นมคธ
อำเภอBihar’s Gaya 150 กิโลเมตร จาก ปัฏนา

เขาใช้เวลา 22 ปี ในการทำถนน
จากสิ่งที่ ครั้งหนึ่งเคยเป็นทางเดินที่แคบ
และอันตราย กว้างแค่เพียง ฝ่าเท้า
จนได้ถนนที่ยาว 360 ฟุต กว้าง 30 ฟุต
โดยทำงานคนเดียว ด้วยเครื่องมื่อเท่าที่มี คือ
สิ่ว ค้อน และ พลั่ว

ขณะนี้ ถนนนี้สามารถรองรับ นักปั่นจักรยาน
และ การขับขี่รถจักรยานยนต์
และถูกใช้โดยคนจากเกือบ 60 หมู่บ้าน
ได้อย่างง่ายดายมาก

ถนนยังช่วยลด ระยะห่างระหว่าง Gaya Atri
และ เขตการปกครอง Vazirganj
จาก 50 km เหลือเพียง 10 km
เด็ก จาก Gahlaur เอง และ หมู่บ้านใกล้เคียงอื่น ๆ
ไม่จำเป็นต้องเดินอ้อม 8 กิโลเมตร
เพื่อจะไปเรียนในโรงเรียน
ตอนนี้พวกเขาเหลือแค่ 3 กิโลเมตร เท่านั้น

ก่อนที่ นายManjhi จะทำทางนี้ขึ้น
ภูเขานี้ กีดขวางการสัญจรระหว่างหมู่บ้าน
กับตลาด และสถานที่สำคัญในตัวเมือง
เพราะการเดินทางที่ยากลำบากและอันตรายนี้
ทำให้ภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากการเดินทางเพื่อจะไปตลาด
และไปทำงานในฟาร์ม
ซึ่งต่อมา ได้เสียชีวิต เพราะเขาไม่สามารถ
พาเธอไปโรงพยาบาลได้สะดวก

วันนั้น ในปี ค.ศ. 1959เขาตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที
ใครๆก็หัวเราะเยาะ และบอกว่า
"มันเป็นไปไม่ได้"
คือ...การทำทางตัดผ่านเนินเขานี้..

ภาระกิจนี้ เขาต้องเดือดร้อนตัวเอง
เพราะได้รับค่าจ้างจากงานประจำน้อยลง
ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน

บางวัน ..เขาไปทำทางโดยที่ไม่มีอาหารตกถึงท้อง

เขากล่าวว่า..
"ความรักที่มีต่อภรรยา" เป็นตัวจุดประกาย
ถึงการกระทำสิ่งที่ยากนี้
เขาปรารถนาที่จะให้คนเป็นพันๆ คน
เดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัย
และไม่ต้องการให้ใครประสบเหตุการณ์แบบเขา

แม้ชาวบ้านส่วนใหญ่ จะหัวเราะเยาะ
มีเพียงไม่กี่คน ที่ให้เครื่องมือ และอาหาร
แต่วันนี้.. ชาวบ้านหลายพันคนจาก 60 หมู่บ้าน
ต่างขอบคุณชายตัวเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ผู้นี้

อย่าดูหมิ่นศักยภาพของมนุษย์ตัวเล็กๆ
โดยเฉพาะเมื่อมันถูกขับเคลื่อนด้วย
พลังแห่ง "ความรัก"

คุณด้วยนะ..!!
คุณมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่อยู่ภายใน
แต่คุณยังไม่เห็น หรือเห็น แต่ใช้มันไม่เป็น

แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช สมบูรณ์แล้ว

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ) กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส) ว่า ตนได้รายงานต่อที่ประชุมมส. ว่า ตามที่ พศ.ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง มส.มีมติเลือก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมส. เป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งได้มรณภาพลงนั้น สำนักราชเลขาธิการได้นำความกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นไปอย่างสมบูรณ์ และลงนาม ในฐานะดังกล่าว ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้งานคณะสงฆ์สามารถเดินหน้าต่อไปได้

นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมมส.ยังมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง,ต่ออายุ เจ้าคณะปกครอง ดังนี้ ตั้งพระราชปัญญาโมลี(จำรัส ทตฺตสิริ) อายุ 57 ปี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภัญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน ,ต่ออายุ พระครูวิสุทธิญาณ(สุพรรณ กนโก) อายุ 80 ปี วัดหนองหญ้าลาด ธรรมยุต อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเจ้าคณะจังหวัดศรีษะเกษอีก 3 ปี,ตั้ง พระครูสิริวีรธรรม(วร สิริธมฺโม)อายุ 73 ปี วัดหินกองน้อย ธรรมยุต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เจ้าคณะตำบลวังชัยเขต 2 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลวังชัยเขต 2,ตั้ง พระครูสุนทรวิหารธรรม(แยง สุขกาโม) อายุ 73 ปี วัดเจติยาคีรีวิหาร ธรรมยุต อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เจ้าคณะตำบลบึงกาฬเขต3 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลบึงกาฬเขต3,ตั้งพระครูอนันตสีลคุณ (อนันต์ พรหฺมจาโร) อายุ 45 ปี วัดป่าดอนหม้อทอง ธรรมยุต อ.เซกา จ.บึงกาฬ เจ้าคณะตำบลเซกา เขต 3 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเซกาเขต 3,ตั้งพระครูมงคลสิทธิธาดา(บัณฑิต ปณฺฑิโต) อายุ 42 ปี วัดไชยาราม ธรรมยุต ต.น้ำจั้น อ.เซกา จ.บึงกาฬ เจ้าคณะตำบลเซกาเขต6 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเซกาเขต 6


9สาเหตุคิดสร้างสรรค์ไม่เป็น

รศ. สุพัตรา สุภาพ อดีตอาจารย์จุฬาลงกรณ์วิทยาลัยได้นำเสนอสาเหตุที่เป็นอุปสรรคดังนี้

1 คิดไม่เป็น (Do not know how to think) – ไม่รู้จักคิดปรับปรุงอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองหรือคนอื่น ๆ รวมถึงงานที่ทำอยู่ ต้องคอยรับคำสั่ง ต้องมีผู้คอยขีดเส้นให้เดินตามเส้น ไม่สามารถที่จะออกนอกเส้นทางได้ ไม่เช่นนั้นจะหลงทาง ทำอะไรไม่ถูก สมองจะไม่มีการคิดอะไรใหม่ ๆ ไม่เกิดการพัฒนาและเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง
2 ไม่มีความรู้ (Uneducated) – ไม่มีความรู้ในที่นี้ หมายถึงความรู้ในเรื่องที่ถนัดหรือเฉพาะเจาะจงหรือเฉพาะทาง มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องมีความสามารถ มีความเก่งที่แตกต่างกันออกไป การที่เราไม่มีวามรู้ในเรื่องที่ทำ หรือความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง จะทำให้ปิดกั้นความสามารถของตนเองโดยสิ้นเชิง
3 ไม่มีวิสัยทัศน์ (Having no vision) – หรือจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนแน่นอน จริงจัง รู้ว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร ไม่ใช่ความคิดที่เพ้อฝัน แต่ต้องสามารถกระทำได้จริง
4 ไม่ปรับปรุงตนเอง (Lack of improvement) – เท่ากับเป็นการลดระดับความสามารถของตนเอง ประเภทการทำงานประจำ (Routine) โดยมิได้มีความคิดหรือการพัฒนาอะไรใหม่ ๆ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ จัดอยู่ในประเภททำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
5 ฉาบฉวย (Casual) – ทำงานไม่จริงจัง ไม่ตั้งใจ จัดในประเภทเก่งแต่พูด ไม่สามารถทำได้ตามที่พูด
6 คดโกง (Incorruptible) – ในใจคิดแต่จะได้ ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องได้ แม้ว่าจะผิดศีลธรรมก็ยอม
7 คับแคบ (Obsolete) มองใกล้ (Short sighted) ใฝ่ต่ำ (Bad tendency) – มองโลกในแง่ร้าย ไม่ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ทำอย่างไรก็ได้ให้ตนเองพ้นจากข้อตำหนิ กล่าวหา เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ ใครจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจ
8 ไม่ทันสมัย (Out of time) – เป็นบุคคลที่ไม่ยอมรับรู้หรือยอมรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใด ๆ สอนแค่ไหน ก็ทำตามอยู่แค่นั้น ไม่มีการพัฒนาหรือต่อยอด ค้นคว้าความรู้ใหม่ ๆ
9 ไม่ยอมรับความจริง (Unrealistic) – ไม่วิเคราะห์หรือขาดกำลังใจ หากประสบปัญหาในการทำงาน เช่น ไม่ได้เลื่อนขั้น เป็นต้น จิตใจอาจจะหดหู่ ไม่อยากคิดอะไรแปลกใหม่


ตำรวจดำเนินคดีม็อบสวนยาง 16 คดี

เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการติดตามด้านการข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา ในวันที่ 14 กันยายนนี้ ยังไม่แน่ชัดว่า จะมีการชุมนุมหรือไม่ เนื่องจากต้องพิจารณาจากเงื่อนไขของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการเพื่อแก้ปัญหายางพารา รวมทั้งความพึงพอใจของกลุ่มเกษตรกร หากทุกฝ่ายพอใจ อาจไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้น แต่สันติบาลยังเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของบุคคลบางกลุ่มที่พยายามยั่วยุให้เกิดความไม่สงบในการชุมนุม ทั้งการปิดถนน หรือสถานที่ราชการ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ติตตามการข่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเร่งรัดการออกหมายจับแกนนำกลุ่มฮาร์ดคอร์ พร้อมรายงานความคืบหน้าภายใน 30 วัน

โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในวันที่ 11-12 กันยายนนี้ ผบ.ตร.จะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจความพร้อมกำลังพล และติดตามสถานการณ์การชุมนุม เพื่อประเมินและปรับแผนรับมือการชุมนุมอีกครั้ง ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 6 กันยายน ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 16 คดี ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 8 คดี จังหวัสุราษฎร์ธานี และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 2 คดี จังหวัดระยอง กระบี่ ตรัง และพัทลุง จังหวัดละ 1 คดี ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีที่มีการรับแจ้งความ และบางส่วนอยู่ระหว่างออกหมายจับ ส่วนใหญ่เป็นข้อหาปิดถนน ปิดทางรถไฟ พ.ร.บ.ทางหลวง และต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม มีภาพปรากฎตัวอยู่ในการชุมนุมและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.ประจวบฯ ด้วย ซึ่งเป็น 1 ใน 16 คดี ที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับอยู่

อัยการคืนสำนวนคดีบีทีเอสให้DSI ระบุเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.

"อัยการ" ฉีกหน้า "ดีเอสไอ" ส่งคืนสำนวนคดีสัมปทานบีทีเอส ระบุเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. 

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่อัยการส่งสำนวนคดีที่ดีเอสไอกล่าวโทษผู้ว่าราชการกทม.และพวกต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายออกไป 13 ปี และการขยายเส้นทางสัมปทานใหม่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าข่ายร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค หรือกิจการรถราง โดยไม่ได้รับอนุญาตกลับคืนให้ดีเอสไอ เพื่อส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ส่งสำนวนฟ้องว่า ดีเอสไอได้รับสำนวนคดีดังกล่าวกลับคืนมาจากอัยการแล้ว และได้ส่งสำนวนไปให้ป.ป.ช.เป็นผู้ไต่สวนแทนดีเอสไอ เนื่องจากอัยการมองว่าคดีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงเป็นอำนาจของป.ป.ช.ในการไต่สวนและพิจารณาสั่งฟ้อง ส่วนป.ป.ช.จะนำไปไต่สวนเพิ่มเติมหรือจะตั้งดีเอสไอร่วมเป็นอนุกรรมการไต่สวน ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม กรณีที่อัยการส่งสำนวนกลับคืนให้ดีเอสไอไม่ได้เป็นปัญหาจากเนื้อหาของสำนวนการสอบสวน แต่อัยการมองว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอำนาจของป.ป.ช.

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอและอัยการที่ร่วมสอบสวนคดีดังกล่าวเห็นตรงกันมากรณีดังกล่าวไม่ใช่การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะอยู่ในอำนาจการสอบสวนของป.ป.ช. แต่เป็นกรณีผู้ว่ากทม.และพวกการกระทำนอกอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปต่อสัญญารวมถึงขยายเส้นทางใหม่ ดีเอสไอจึงไม่ได้แยกสำนวนส่งให้ป.ป.ช.เป็นผู้ไต่สวน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเมื่ออัยการสูงสุดมีความเห็นส่งสำนวนคืนให้ดีเอสไอนำไปมอบให้ป.ป.ช.เป็นผู้ไต่สวนและพิจารณาสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็ต้องปฏิบัติตาม
โดย: เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend

รัฐบาลชะลอทูลเกล้าร่าง พ.ร.บ.งบฯ 57 หลังมีส.ส.-ส.ว.ร้องศาลรธน.

รัฐบาลชะลอทูลเกล้าร่าง พ.ร.บ.งบฯ 57 หลังมีส.ส.-ส.ว.ร้องศาลรธน.

10 ก.ย. 2556 เวลา 15:54:59 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งผ่านมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่ามีส.ส.และส.ว.เข้าชื่อยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในมาตราที่ 27 ที่ว่าด้วยงบประมาณของศาลยุติธรรม และมาตรา 28 ที่ว่าด้วยงบประมาณของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและมีมติร่วมกันว่า ควรจะต้องชะลอการนำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯออกไปก่อน

นายวราเทพ กล่าวว่าการดำเนินงานของรัฐบาล ไม่ขัดกับศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ตัดงบประมาณขององค์กรอิสระ แต่ได้พิจารณาตามความจำเป็นและตามกรอบวงเงินงบประมาณ ทั้งนี้ หากกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นไม่ทันเริ่มปีงบประมาณหน้า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับงบในส่วนของบุคลากรและการดำเนินการ เพราะสามารถดำเนินการตามหลักการงบประมาณเดิมของปีก่อนได้ แต่ทั้งนี้จะกระทบในส่วนของงบลงทุนเท่านั้น ขณะเดียวกันยังไม่ขอประเมินเจตนาของผู้ร้อง แต่เชื่อว่ามีความพยายามใช้กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2557 เสร็จไม่ทันใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม

"แถลงการณ์ ส.ส. หญิง ปชป."ป้อง"อภิสิทธิ์"ไม่ได้ด่านายกฯ

"แถลงการณ์ ส.ส. หญิง ปชป."

1. บนเวทีปราศรัยผ่าความจริง ที่คุณอภิสิทธิ์ได้พูดถึงโครงการสมาร์ทเลดี้ แบบคำต่อคำ ว่า “ทำไมต้องประกวดผู้หญิงฉลาด เพราะเขาบอกว่าถ้าแข่งขันหาอีโง่ไม่มีใครไปแข่งได้”

ความหมายนั้นคือ ไม่ได้มีใครดูถูกสตรี และไม่ได้กล่าวถึงนายกยิ่งลักษณ์เลย ในทางตรงกันข้าม ความหมายอีกนัยหนึ่งเป็นการเปรียบเปรยว่า สตรีไทยไม่มีใครเป็นอีโง่ที่จะเข้าแข่งขัน

2. การที่ ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงข่าวตอบโต้แทนนายกยิ่งลักษณ์ ทั้งๆที่คุณอภิสิทธิ์ ไม่ได้พูดถึงนายกยิ่งลักษณ์เลยนั้น พวกคุณกำลังดูถูกนายกยิ่งลักษณ์เอง และนายกรัฐมนตรีควรมีความสามารถในการชี้แจงโดยการแสดงปฏิภาณไหวพริบ ในการพิสูจน์ความสามารถของตนเอง

3. การที่นายกยิ่งลักษณ์ ให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยออกมาแถลงการณ์แบบนี้ เหมือนกับว่าสตรีนั่นมีความอ่อนด้อย สตรีต้องมีแต้มต่อทางการเมือง นั่นแหละถือเป็นการดูถูกสตรี เพราะผู้หญิงและผู้ชาย แสดงความสามารถได้เท่าเทียมกัน ไม่มีใครดูถูกใครได้ นอกจากการกระทำของบุคคลนั้นเอง

4. หลายๆครั้งที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยออกมาใช้ความเป็นผู้หญิงของนายกยิ่งลักษณ์ เพื่อฉวยโอกาสทางการเมือง เพื่อมาใส่ร้ายผู้อื่น เอาผ้าถุงผู้หญิงมาเป็นเกราะกำบังการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกยิ่งลักษณ์ พวกคุณกำลังนำเรื่องเพศมาทำให้สังคมแบ่งแยก


ครม.เห็นชอบให้ยกเว้นการตรวจลงตรา หรือยกเว้นวีซ่า สำหรับหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างประเทศไทยและมอนเตเนโกร

ครม.เห็นชอบให้ยกเว้นการตรวจลงตรา หรือยกเว้นวีซ่า สำหรับหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างประเทศไทยและมอนเตเนโกร โดยสามารถพำนักได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ด้าน กต.ชี้แจงเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้มีนัยอะไรพิเศษ เพราะบุคคลที่ถือหนังสือเดินทางดังกล่าวจะมีเพียงข้าราชการ ไม่ใช่บุคคลคนธรรมดา #สำนักข่าวไทย


หนุ่มคลั่ง!ซูเปอร์แมน ลงทุนศัลยกรรมกว่า 19 ครั้ง จนเหมือน "คล้าก เคนท์"

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับหนุ่มคนนี้ เฮอร์เบิร์ต ชาเวซ ชาวฟิลิปปินส์ ที่คลั่งซูเปอร์แมนรุ่น คล้าก เคนท์ มาตั้งแต่เด็ก และอยากจะสวมบทบาทเป็น คล้ากในชีวิตจริง ถึงขนาดลงทุนศัลยกรรมไม่รู้กี่ครั้งในช่วงเวลา 16 ปี!! เสียเงินไปกว่า 6,884 ดอลลาร์ นับว่าคุ้มกับความหล่อและชื่อเสียงที่สื่อหลายสำนักมาทำข่าว
โดยเฮอร์เบิร์ต วัย 35 ปี ทำการผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว 19 ครั้ง ตั้งแต่จมูก ปรับผิวให้ขาว ปรับรูปปาก ปรับทรงกราม เพื่อให้กลายมาเป็นซุปเปอร์แมน "ผมรู้สึกเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แม้ว่ามันจะเป็นแค่การแต่งชุด และภารกิจของผมก็ไม่ได้ถึงขนาดช่วยกอบกู้โลก แต่ช่วยด้วยวิธีเล็กๆของผมในการสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆในละแวกชุมชนที่ผมอยู่"
นอกจากนี้หนุ่มวัย 35 ปี มีแผนจะศัลยกรรมเพิ่มเติมโดยต้องการปรับเพิ่มความสูง และปรับรูปทรงบริเวณก้นด้วย
ทั้งนี้เดือนมิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา กินเนสบุ๊คเพิ่งจะบันทึกว่า เฮอร์เบิร์ตเป็นนักสะสมคอลเลคชั่นที่เกี่ยวกับซุปเปอร์แมนมากที่สุดถึง 1,253 ชิ้น แต่จนถึงขณะนี้เฮอร์เบิร์ตบอกว่าของสะสมเกี่ยวกับซุปเปอร์แมนของเขามีราวเกือบ 5,000 ชิ้นแล้ว และตั้งใจจะสะสมให้ได้ถึง 10,000 ชิ้น 
ขอบคุณข้อมูลจากprachachat

"ศาลปค.กลาง เริ่มไต่สวนคดี "รสนา" ฟ้อง เพิกถอนและระงับมติครม.ขึ้นค่าLPG"

ศาลปกครองกลางเริ่มไต่สวนคดีที่ ส.ว.กทม.และพวก ฟ้องนายกฯ ครม. รมว.พลังงาน ขอเพิกถอนมติขึ้นค่าแอลพีจีภาคครัวเรือน ชี้ขัด รธน.เหตุไม่ยอมเปิดข้อมูลจริง ไม่รับฟังความเห็นหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมขอระงับมติชั่วคราว "รสนา" ชงข้อมูลเพิ่ม

วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 09.30 น. นายวุฒิชัย แสงสำราญ ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้นัดไต่สวนในคดีหมายเลขดำที่ 1696/2556 กรณีที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. น.ส.สาลี อ๋องสมหวัง ตัวแทนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และพวกรวม 5 รายฟ้องนายกรัฐมนตรี ครม. คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ รมว.พลังงาน และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี 1 - 5 เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติครม.ที่เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน ขึ้นอีก 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1ก.ย. 56 จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าเป็นมติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 61 ที่กำหนดให้ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองในการได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง5 กลับไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และยังไม่เคยรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการบังคับใช้มติครม.ดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

น.ส.รสนา กล่าวก่อนเข้ารับการไต่สวนจากศาลปกครองว่า วันนี้ทางผู้ฟ้องได้มีข้อมูลเพิ่มที่จะมายื่นต่อศาลเกี่ยวตัวเลข ข้อมูลการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเป็นข้อมูลที่ศาลจะอาจจเรียกข้อมูลจากกระทรวงพลังงานฯ เพื่อนำมาพิจารณารวมด้วย

ด้านผู้ถูกฟ้องได้มีตัวแทนจากกระทรวงพลังงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาเบิกความต่อศาลปกครองแทน

ทั้งนี้ในการไต่สวนครั้งนี้ได้มีประชาชนผู้ที่คัดค้านการขึ้นราคาก๊าซหุ้งต้มมาให้กำลังใจประมาณ 20 คนจะขอเข้าร่วมรับฟังด้วย แต่ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากไม่ใช่คู่กรณีในคดีนี้ และการไต่สวนครั้งนี้ก็ไม่ได้อนุญาตให้มีการถ่ายทอดวงจรปิดให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในคดีได้รับทราบ ทำให้ผู้ที่มาให้กำลังใจก็นั่งเฝ้ารออยู่ ด้านนอกห้องพิจารณา

http://astv.mobi/A9U5Zb9


ศาลฏีกาฯอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตรถ-เรือดับเพลิง ชี้"ประชา - พล.ต.ต.อธิลักษณ์"ผิด พ.ร.บ.ฮั้ว

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
10 กันยายน 2556 14:52 น

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กองทัพสื่อทั้งในและนอกร่วมเกาะติด ล่าสุดมีคำพิพากษาให้"ประชา มาลีนนท์ - พล.ต.ต.อธิลักษณ์"จำเลยที่ 2 และ 4 กระทำผิด พ.ร.บ.ฮั้ว ขณะที่ทั้งสองไม่เดินทางมาศาล ส่วน"โภคิน-วัฒนา-อภิรักษ์"หลักฐานไม่พอว่าทำผิด
 
   
       วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองทัพสื่อมวลชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาเกาะติดการอ่านคำพิพากษา ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม., บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว) และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท

   
       ทั้งนี้นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 11.40 น. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 -3 ช.ม.จึงจะอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น
     
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายประชา จำเลยที่ 2 และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ จำเลยที่ 4 ยังไม่เดินทางมาศาลเพื่อเข้าฟังคำพิพากษาคดีแต่อย่างใด
     
       ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ปี 2542 ลงโทษจำคุก 12 ปี และ 10 ปี ตามลำดับ ส่วนนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดหรือไม่