PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"ประสงค์"โผล่เวทีสวนลุมอัดสภาปฏิรูปซื้อเวลาปฏิวัติข่าวลือ

6 ส.ค.56 เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สวนลุมพินี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ปรึกษากลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เดินทางมายังพื้นที่ชุมนุม เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมและเข้าพบกลุ่มแกนนำ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก ต่างพากันถ่ายรูปและขอจับมือกันอย่างคึกคัก

โดย น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า วันนี้ ตนในฐานะที่ปรึกษากลุ่ม กปท.เดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุม ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนั้น ให้โฆษกเป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า โดยส่วนตัวรับไม่ได้ที่รัฐบาลทำให้บ้านเมืองเสียหาย มีปัญหากลับไม่แก้ แต่กลับไปแก้ปัญหาให้ตนเอง ช่วยคนของตนเองให้พ้นผิด ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งคนส่วนมากไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้ เมื่อมีการสำนึกผิดผ่านกระบวนการยุติธรรม ถึงจะได้รับการอภัยได้ แต่ถ้ายังไม่รู้ตัวว่าผิด คงจะให้อภัยไม่ได้ ซึ่งการปรองดองต้องอาศัยหลักการนี้

น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า ในเนื้อหามาตรา 3 และ 4 ของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการนำเสนอนั้น มีเนื้อหาที่นอกเหนือไปจากผู้ชุมนุม โดยมีการช่วยเหลือผู้ที่ทำผิดดูหมิ่นสถาบันฯด้วย และกฎหมายนี้ เป็นการช่วยเหลือคนเผาบ้านเผาเมือง นอกจากนี้ คนที่ฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ยังจับไม่ได้ ซึ่งกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ต้องได้รับโทษ ส่วนการต่อสู้ของกลุ่ม กปท.ขณะนี้ประชาชนหูตาสว่างแล้ว และเข้าใจว่า คนที่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ มาจากคนที่ถืออำนาจรัฐในขณะนี้ ขณะเดียวกันฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ เขาก็ประกาศแล้วว่าจะสู้ในรัฐสภาอย่างเต็มที่ ถ้าเขาสู้ไม่ได้ก็จะมาต่อสู้ข้างนอกสภา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวลือการทำปฎิวัติ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น และในฐานะที่ตนเองเคยเป็นทหาร ตนเชื่อว่า นายทหารทุกคนมีจิตใจที่รักบ้านเมืองเหมือนกับประชาชน แต่แตกต่างกันที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะทหารมีระเบียบที่ไม่อาจจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

"รัฐบาลไม่ควรจะประมาทการชุมนุมในขณะนี้ และอย่าซื้อเวลาด้วยการจัดตั้งสภาปฎิรูป ถ้าหากรัฐบาลอยากที่จะปรองดอง จะต้องถอนกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปทั้งหมด" น.ต.ประสงค์ ระบุ


ทุ่มทุนสร้าง แบริเออร์2เมตรล้อมทำเนียบกันม็อบบุก

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแบริเออร์คอนกรีตสูง 2 เมตรกั้นโดยรอบทำเนียบฯ พร้อมจัดทำโล่สูงเหนือศีรษะสกัดม็อบโค่นระบอบทักษิณ ติดป้ายไวนิลหรา “พื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด” พร้อม รปภ.เข้ม
       
       วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำแบริเออร์คอนกรีต ความสูงประมาณ 2 เมตร และรั้วลวดหนามมาติดตั้งที่ถนนบริเวณโดยรอบ อาทิ ถนนพิษณุโลก บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถนนราชดำเนินนอก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมติดตั้งป้ายไวนิลบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า “ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ราชการ บุคคลภายนอกห้ามเข้า” “พื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด” และพื้นที่นี้อยู่ภายใต้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง” หลังก่อนหน้านี้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.ได้ปิดถนนหลายสายบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และสถานที่สำคัญ
       




       ส่วนบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณภายในและโดยรอบ เป็นมาตรการที่เข้มงวดอย่างสูงสุด โดยมีการสแกนรถที่เข้าออกทำเนียบรัฐบาลทุกคัน ส่วนยานพาหนะทุกชนิดเปิดให้เข้าออกที่ทางประตูสะพานอรทัยเพียงประตูเดียว และห้ามนำรถที่ไม่มีสติกเกอร์ที่ทางทำเนียบรัฐบาลกำหนดไว้ผ่านเข้าออกโดยเด็ดขาด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 กองร้อย และพร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำการรักษาความปลอดภัยอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล
       
       อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองร้อยควบคุมฝูงชน บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จำนวน 5 กองร้อย กองร้อยละ 150 นาย ได้ตรวจดูการซ้อมแผนปฏิบัติการต่างๆ เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ พร้อมกันนี้ได้จัดทำโล่ความสูงประมาณเหนือศีรษะมาใช้แทนโล่เดิม อย่างไรก็ตาม รอง ผบ.ตร.ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ

“ปชป.”ยื่นกมธ.ป.ป.ช.สอบ “ขุนค้อน –เลขาสภาฯ”ใช้งบส่อทุจริต 4 ปม

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า ตนเตรียมยื่นเรื่องให้ที่ประชุมกมธ.ป.ป.ช.ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ เพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร หลังจากคาดว่ารัฐสภาน่าจะใช้ระบบจัดซื้อ จัดจ้าง ด้วยวิธีพิเศษโดยที่มีแพงกว่าราคาท้องตลาดมากกว่า 50 % 

นายวิลาศ กล่าวว่า ทั้งนี้ตนจะขอให้คณะกมธ.ตรวจสอบใน 4ประเด็น ได้แก่ 1.กรณีเดินทางไปเยือนต่างประเทศของประธานรัฐสภา ซึ่งตามระเบียบประธานสภาผู้แทนราษฏรจะต้องเซ็นรับรองเอกสารการเดินทางภายใน 15 วัน แต่ขณะนี้พบว่าไม่มีการเซ็นต์รับรอง จึงทำให้ข้าราชการมีความผิด 2.กรณีจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงอาคารสถานที่บริเวณรัฐสภา ซึ่งส่วนตัวได้รับแจ้งจากข้าราชการว่าทุกครั้งที่การดำเนินการจะใช้วิธีพิเศษ 3.กรณีใช้งบประมาณต้อนรับแขกต่างประเทศ ปรากฏว่าจัดงานและอาหารรูปแบบเดียวกัน แต่ราคาแตกต่างกัน 4.กรณีอื่นๆ เช่น การซื้อนาฬิกาแขวนผนัง จำนวน 200 เรือน มูลค่า15 ล้านบาท ตกเฉลี่ยเรือนละ 7.5 หมื่นบาทโดยประมาณตามที่มีการร้องเรียน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านาฬิกายี่ห้อดังกล่าวไม่มีขายแล้ว นอกจากนี้พบว่ามีการติดเครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่องที่ห้องเก็บขยะบริเวณด้านหลังอาคารสโมสรรัฐสภา เป็นต้น

"เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรจะต้องมาชี้แจง พร้อมส่งเอกสารมาให้กมธ.ป.ป.ช.เนื่องจากมีพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 ซึ่งแตกต่างในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2557 ที่นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เคยตรวจสอบ”

"นิพิฏฐ์"เผยเวทีผ่าความจริงฯจะมาจัดที่เวทีกองทัพประชาชนฯ

เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ว่า หลังจากได้ขึ้นเวทีปราศรัยนี้ ก็ได้พูดคุยกับแกนนำพรรค แล้วก็มีความคิดว่า ในเร็วๆนี้ เวทีผ่าความจริงของพรรคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อาจจะมาจัดที่นี่ และขอเรียกร้องให้พี่น้องที่มีเลือดสีฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์ และมีหัวใจรักประชาธิปไตย เดินทางมาชุมนุมที่นี่ อย่างไรก็ตามตนขอเชิญชวนให้ผู้กล้าออกมาลองใช้กฎหมายในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยเดินทางไปที่หน้ารัฐสภามาให้กำลังใจตน หากเข้าไม่ได้ เพราะตำรวจสกัดก็ให้โทรศัพท์หาตน เพราะประชาชนสามารถเดินทางไปเข้าฟังการพิจารณากฎหมายในสภาได้ และพ.ร.บ.มั่นคงไม่ได้ห้ามชุมนุมโดยสงบ

นายนิพิฏฐ์ยังฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ตราสัญลักษณ์บนหมวกเรียกว่าตราแผ่นดินที่รัชกาลที่5พระราชทานให้ เพื่อให้รักษาประชาชน และแผ่นดินไว้ หากลืมความหมายดังกล่าวก็ขอให้ถอดหมวกลาออก และไปเป็นยาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนหน้ากากขาวได้ประกาศบนเวทีปราศรัยเรียกมวลชนหน้ากากขาวทั้งในกทม.และต่างจังหวัดให้มารวมตัวในเวลา 12.00 น. และ 17.00 น. ที่สวนลุมพินี และหลังจากนั้นจะมีการเคลื่อนขบวนตามจุดที่ได้กำหนดไ