PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ฮือฮา! เพจปริศนาโผล่ “Thailand News” เพิ่งตั้งไม่นาน แต่ยอดไลค์พุ่งพรวดกว่า 6 แสนไลค์

ฮือฮา! เพจปริศนาโผล่ “Thailand News” เพิ่งตั้งไม่นาน แต่ยอดไลค์พุ่งพรวดกว่า 6 แสนไลค์

posted by   5,312 views
66
งงกันไปหมดในโลกออนไลน์ ที่จู่ๆ ก็มีเพจแปลกๆ เพจหนึ่งชื่อว่า “Thailand News” ซึ่งไม่มีที่มาที่ไป ไม่ปรากฏข้อมูลใดๆ และเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นาน แต่ปรากฏว่ากลับมียอดไลค์ติดตามเพจพุ่งสูงมากกว่า 6 แสนไลค์!! อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากการเข้าไปดูเพจดังกล่าว ซึ่งใช้ภาพโปรไฟล์เป็นรูปธงชาติของประเทศต่างๆ ม้วนตัวเป็นรูปทรงกลมคล้ายรูปโลก ในขณะที่ Cover Photo กลับใช้สัญลักษณ์รูปดอกจำปี สัญลักษณ์ของการบินไทย พร้อมกับคำว่า Thai สีม่วง ในฟ้อนท์เดียวกัน แถมภายในเพจยังไม่มีภาพ วิดีโอ หรือเนื้อหาคอนเท้นต์ใดๆ ปรากฏอยู่เลย
page1
และที่สร้างความฉงนให้กับชาวเน็ตมากที่สุดคือ พบว่ามี users หลายคนได้เข้าไปกดไลค์ ติดตามโดยที่ไม่รู้ตัว และยังไม่แน่ใจว่าได้ไปกดไลค์ หรือกดติดตามเพจดังกล่าวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งสันนิษฐานกันไปหลายทาง บ้างก็ว่าน่าจะเป็นเพราะเคยไปไลค์เพจหนึ่งมาแล้วมีการเปลี่ยนชื่อเพจ บ้างก็ว่าเป็นเพราะแอพฯ ต่างๆ ที่เราเข้าไปอาจทำให้มาโผล่ในนี้ก็ได้ หรือมิเช่นนั้น อาจจะเป็นเพจ click bait ที่เคยพลาดเข้าไปกดดูก็เป็นได้
page5
ทำให้ในโลกออนไลน์ตอนนี้ ต่างก็ช่วยกันแจ้งเตือน และตรวจสอบรายชื่อว่ามีชื่อกดไลค์ติดตามเพจดังกล่าวหรือไม่ “Thailand News”
page4page3
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราาบแน่ชัดว่าเพจดังกล่าวนี้ เป็นเพจอะไรกันแน่.

Copyright © MarketingOops.com

บิ๊กโด่ง ส่ายหน้าบอก เรื่องรอยร้าว เรื่องต้นไม้ มันไม่มีอะไร ก็จะทำให้มันมีให้ได้...



บิ๊กโด่ง ส่ายหน้าบอก เรื่องรอยร้าว เรื่องต้นไม้ มันไม่มีอะไร ก็จะทำให้มันมีให้ได้....

พลเอก อุดมเดช ซัด ณัฐวุฒิ” ไร้สาระ เรื่องเล็กน้อยลานพื้นคอนกรีต"อุทยานราชภักดิ์"ร้าว เรื่องต้นไม้ ไม่มีอะไรก็จะให้มีอะไร เอามาเป็นประเด็น เผยยังไม่เห็นรายงานว่ามีรอยร้าว "แต่ไม่มีสาระ เล็กน้อย อาจเกิดจากหดตัวของปูน แต่ ไม่ใช่ฐานรากทรุด เพราะทหารช่างทำอย่างแน่นหนา มีการตรวจสอบตั้งแต่ต้น และทำด้วยความระมัดระวัง เผย น่ายินดี คนในพื้นที่ จะจัด"สวดมนต์ข้ามปี" ที่อุทยานราชภักดิ์ เป็นเรื่องดี เป็นมงคล ที่คนในพื้นที่ประสานกับ ทาง กองทัพบก ผู้ดูแลสถานที่ เผยจะร่วมทบ.สร้างพิพิธภัณฑ์ ห้องประวัติศาสตร์ ระยะ2 ต่อ เพราะที่หยุดนิ่ง เพราะต้องการให้การตรวจสอบเสร็จสิ้นก่อน ยัน มั่นใจผลสรุปคณะกรรมการของกห. ระบุตนเองไม่ได้ก้าวก่าย เผยตนเองก็ชี้แจง กับกรรมการฯ ไปแล้ว ยันไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆของตนเอง ติง การตรวจสอบของกก.ชุดต่างๆ ควรจะทำให้เสร็จเป็นส่วนๆไป นี่ เข้าติดๆกัน ทำให้กรรมการ"ราชภักดิ์"วิ่งแจงหลายที่ แต่ก็พร้อม

ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช. จะนำข้อมูลพื้นคอนกรีตร้าวในบริเวณอุทยานราชภักดิ์ เสนอต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรน้อยๆ อาจจะเป็นแค่เล็กๆ ถือว่าเนื้อหาสาระน้อยมาก แต่ ส่วนตัวยังไม่เห็นรายงานว่า มีร้าว หรือไม่ แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไ



"เรื่องรอยร้าวอะไรพวกนี้ ผมเห็นว่าไม่ได้มีสาระอะไร แม้ผมจะยังไม่ได้รับรายงาน แต่คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องการหดตัวของปูน ซึ่งคงไม่เกี่ยวกับว่าไม่มีฐานรากทรุดตัว เพราะ เรื่องนี้ทหารช่างสร้างอย่างแน่นหนา และ ได้ดำเนินการอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว" พลเอกอุดมเดช กล่าว



พร้อมกันนี้ พลเอกอุดมเดช เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงปีใหม่ ที่อุทยานราชภักดิ์ จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่อุทยานและคนทั้งประเทศ จึงอยากให้ร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งทางคนในพื้นที่ ได้ประสานกับทางทบ.ในการจัดขึ้น แต่ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เป็นกิจกรรมที่ดีมาก



ส่วนเรื่องการตรวจสอบ ขอให้รอผลจากคณะกรรมการ ผมไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไร ผมก็รอฟังผลอยู่เหมือนกัน แต่มีความมั่นใจ เพราะการดำเนินการต่างๆ ทำด้วยเจตนาอันดี มีการควบคุม คณะกรรมการทุกส่วนที่รับผิดชอบ ตั้งใจและทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ และพยายามป้องกันสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ทำด้วยใจ ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้เป็นประโยชน์ต่อ ประเทศชาติบ้านเมือง ให้ประชาชนมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ระลึกถึงสิ่งที่เป็นคุณูปการต่อชาติบ้านเมืองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน



พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าว ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคน ภาคเอกชน ที่ช่วยกันทำให้อุทยานราชภักดิ์เกิดขึ้นได้ รวมทั้งภาคเอกชนที่ช่วยกันบริจาค เชื่อว่าคงตั้งตารอ ที่จะเห็นการสร้าง ในระยะที่ 2 ของการก่อสร้าง แต่ตอนนี้หยุดนิ่งอยู่ เพราะตนเองต้องการให้มี การตรวจสอบเสร็จสิ้นก่อน

จากนั้น จะมีการก่อสร้างห้องพิพิธภัณฑ์ ที่ใช้เงินค่อนข้างสูง แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้ และเข้าใจว่าประเทศชาติเราอยู่มาถึงปัจจุบันได้เพราะคุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว เมื่อเข้าไปดูแล้ว ก็จะรู้สึกได้ในความสมชื่อว่า “อุทยาน”ตามที่เราได้ตั้งใจ



นอกจากนี้ ยังจะมีการก่อสร้างเกี่ยวกับการให้บริการ เช่น อาคารสุขาขนาดใหญ่ 160 ห้องขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และยังมีอาคารอื่นๆ อีก แต่ยังขึ้นอยู่กับว่า เงินที่เหลือนั้นจะสามารถสร้างได้มากน้อยเพียงใด



เมื่อถามว่า ผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบ จะมีผลต่อการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร แต่ขอให้รอฟัง แล้วแต่ แล้วผมยังมีความมั่นใจว่าสิ่งที่ทำมีความตั้งใจดี บริสุทธิ์ ตรวจสอบได้ การตรวจสอบเป็นสิ่งดี รอผลสบฯ



พลเอกอุดมเดช เผยว่า ตนเองเคยให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้ว ซึ่งมีการจดบันทึกเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว

จากการที่บางคนเรียกร้องในเรื่องเปิดเผยข้อมูลหลักฐาน บัญชีรับบริจาร สื่งของต่างๆ การใช้จ่ายในแผนงานโครงการต่างๆ เราเปิดเผยอยู่แล้ว ทั้งรายละเอียดของบัญชีในการรับสิ่งของบริจาค เงินบริจาค การใช้จ่ายเงินในแผนงานโครงการต่างๆ โดยตนขอให้กรรมการฯได้เปิดเผย

ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม จะต้องสามารถชี้แจง เปิดเผยข้อมูลได้ทุกอย่าง และจะขยายข้อมูลได้มากกว่าที่กองทัพบกได้ชี้แจง และขอขอบคุณกองทัพบกที่ได้ชี้แจงข้อมูล แม้จะขาดการขยายในรายละเอียดก็ตาม



เมื่อถามว่า มั่นใจการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ตั้งโดยกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังตรวจสอบอยู่ เห็นใจคณะกรรมการ โดยเป็นการทำงานคู่ขนานกันไป และเห็นใจคณะทำงานในปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน เพราะน่าจะให้ตรวจสอบเป็นส่วนๆ ไป โดยเมื่อคณะทำงานชุดหนึ่งทำงานเสร็จ คณะทำงานอีกชุดก็เข้ามา อีกชุดหนึ่งก็เข้าต่อ แต่ตอนนี้เป็นการเข้าไปทำงานพร้อมกัน ทำให้คณะกรรมการราชภักดิ์ ต้องไปชี้แจงหลายครั้งติดต่อกัน แต่ไม่เป็นไร เราพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว แล้วการทำลักษณะนี้ก็ถือเป็นสิ่งดี เวลาจะได้กระชับ สาธารณชนจะได้รับทราบ



"ผมได้ชี้แจงไปมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทนหรือค่าอะไรต่างๆ เรื่องต้นไม้ หรือเรื่องอื่นๆ เรียนว่ามันไม่มีอะไร แต่ก็ยังพยายามทำให้มันมีขึ้นมา ทำให้เกิดประเด็นโน้น ประเด็นนี้ ซึ่งไม่เกิดสาระอะไรมากนัก แต่เมื่อสงสัยก็คิดว่าคณะกรรมการสร้างอุทยานราชภักดิ์ ตอบได้ทุกเรื่อง" พล.อ.อุดมเดช กล่

“พลเอกประวิตร” เผย กรรมการฯขอเลื่อน แถลงผลสรุปสอบข้อเท็จจริง “ราชภักดิ์”ไปต้นสัปดาห์หน้า

“พลเอกประวิตร” เผย กรรมการฯขอเลื่อน แถลงผลสรุปสอบข้อเท็จจริง “ราชภักดิ์”ไปต้นสัปดาห์หน้า แต่ผลสรุปคงเสร็จในสัปดาห์นี้ เผยมีสอบสวนเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ระบุเรื่องพื้น ร้าว เรื่องธรรมดา เกิดจากธรรมชาติ ขนาดบ้านผมยังร้าวเลย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ขอเวลาในการสอบสวนเพิ่มเติมอีกหน่อย แต่จะสรุปผลให้ได้ในสัปดาห์นี้ เพื่อรายงานตนเองในฐานะรมว.กลาโหม ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่จะแถลงให้สาธารณชนทราบได้ ตนสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ เมื่อเช้า พลเอกชัยชาญ ช้างมลคล รองปลัดกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้มารายงานผมว่า ทำไปได้เยอะแล้ว แต่ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีก นี่เขาทำงานกันทั้งกลางวันกลางคืน
ส่วนการที่ แกนนำนปช. เปิดเผยข้อมูล พื้นอุทยานราชภักดิ์ ร้าว นั้น พลเอก ประวิตร กล่าวว่า รอยร้าวมันร้าวได้ ขนาดดินยังสไลด์ ได้เลย แผ่นดินเป็นหลุมเป็นบ่อ ถ้าร้าวไป เดี๋ยวเขาทำใหม่ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องคิดมาก
“เรื่องนี้ ถามันเป็นการเมือง ก็จบแล้ว ก็เป็นประเด็นการเมือง ก็การเมือง เรื่องจริงก็เรื่องจริงดิ มันไม่ใช่นะ ร้าวจะทำไง ร้าวเพราะคอรัปชั่นหรือ ทุจริตยังไง เขาทำแข็งแรง แต่ถ้าดินข้างล่างสไลด์ มันจะพังมั้ย อาจเป็นเรื่องดธรรมชาติ บ้านผมยังร้าวเลย” พลเอกประวิตร กล่าวเมื่อถามถึง กรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ส่งข้อมูลให้ก.ยุติธรรม แฉว่า เกิดรอยร้าวขึ้น

“พลเอกประวิตร” ยัน คสช.ไม่คิดสอดไส้ปฏิรูป อยู่นาน20 ปี



“พลเอกประวิตร” ยัน คสช.ไม่คิดสอดไส้ปฏิรูป อยู่นาน20 ปี ใครจะอยู่ถึง ตายก่อน แน่ เผยรัฐบาล คสช. ทำเพื่อชาติ สร้างผลงาน-ของขวัญปีใหม่ เผยกลาโหม-ฝ่ายมั่นคง ให้ของขวัญ เป็นความสงบ ไม่ตอบ เรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ” แก้ทางตันการเมือง/ ยัน นักศึกษา ต้องมารายงานตัว ให้จนท.ดูผ่อนผันได้มั้ย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ของขวัญที่ กระทรวงกลาโหม ฝ่ายความมั่นคงมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนคือ การให้ความปลอดภัยความสงบ ให้ประเทศชาติ ประชาชน ประเทศชาติอยู่ในความสงบ ชอบมั้ย อยากให้ปรองดองในชาติ และอยากให้ประชาชนมีความสุข มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ประเทศไทยเข้มแข็งในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้อง
ส่วนนักศึกษา ที่ไม่ยอมมารายงานตัวตามหมายเรียกนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า เขาปฏิเสธได้มั้ย ในเมื่อมันมีกม.ก็ต้องว่ากันตามกม.
เมื่อถามว่า ไม่ผ่อนปรนให้ นักศึกษาบ้างหรือ พลเอกประวิตร กล่าวว่า แล้วแต่เจ้าหน้าที่ เขามีวิธีการของเขา ผ่อนปรนให้อย่างไร
ส่วนข้อเสนอขอพรรคเพื่อไทย ในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาการเมืองนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ฝ่ายพรรคการเมืองก็คุยกันไป ผมไม่ได้ว่าอะไร ถ้าคุยเพื่อให้เกิดความสงบสุข ผมไม่ใช่นักการเมือง และไม่ใช่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องมาถามผม
พลเอกประวิตร กล่าวว่า อยากให้เห็นว่า เดิมเป็นยังไง ด้านความมั่นคง มาตอนนี้เป็นยังไง และต่อไปปฏิรูปทีละ 5 ปี จนถึง 20ปี จะทำยังไง ไม่ใช่ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ทำ ยาว 20 ปี ไม่ใช่ แต่ทำตามโรดแมพ แต่มีพวกไม่เข้าใจ ว่ารัฐบาลจะอยู่ยาว 20ปี ผมตายไปแล้ว มันพูดไม่ได้ ไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่มาบอกว่า คสช.สอดไส้ ปฏิรูป20 ปี กะจะอยู่20ปี ใครจะอยู่ก็อยู่ไปเถิด ผมตายไปก่อนล่ะ กู๊ดบาย

ทำไม บิ๊กตู่ ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ "เพราะเธอคือประเทศไทย"

อ่าน....ทำไม "บิ๊กตู่” จึงปล่อย ซิงเกิ้ลที่สอง เพลงใหม่ “เพราะเธอคือประเทศไทย”
เผย เหตุผล ที่แต่งเนื้อเอง มาจากประชาชน หวังเป็นของขวัญส่วนตัวให้ประชาชน เน้น หัวใจ ความร่วมมือ
ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ให้เจ้าหน้าที่กองงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำเพลง “เพราะเธอคือ ประเทศไทย” มาเปิดให้สื่อมวลชนฟังระหว่างรอการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี
โดยเพลงดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นผู้เขียนเนื้อเพลงขึ้นมาเอง กองดุริยางค์ทหารบก เรียบเรียงเนื้อร้อง และขับร้องโดย จ.ส.ท.พงศธร พอจิต แห่งวงหัสดนตรี กองดุริยางค์กองทัพบก ที่เคยขับร้องเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย”
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผย ว่า เพลง “เพราะเธอคือประเทศไทย” เป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับประชาชน และที่เขียนเนื้อเพลงที่มีคำว่า “ฉัน” นั้น ไม่ใช่ ฉันคนเดียว แต่หมายถึงสื่อมวลชนด้วย เพราะไม่รู้จะแต่งอย่างไร จะเขียนว่าใจของสื่อก็ไม่ใช่ หากจะเป็นใจของครม. คสช. ก็ไม่คล้องจอง มันก็ต้อง “ฉัน” เพราะทุกคนคือหนึ่งเดียวที่จะต้อง เอาหัวใจลมหายใจ เอาชีวิต มาช่วยกันทำให้บ้านเมืองไปข้างหน้า นี่คือเจตนาของตน
ปีละครั้งที่ตนเขียนและเรียบเรียงออกมา ส่งให้คนไปเรียบเรียงเพิ่ม เพื่อความเพราะพริ้งขึ้น ถือเป็นของขวัญส่วนตัวของตนก็แล้วกัน
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับเนื้อเพลงที่แต่งเองนั้น ถ้าจะให้ตนร้องก็ต้องร้องได้ แต่ไม่อยากร้องโชว์ในตอนนี้ เพลงนี้ชื่อเพราะเธอคือประเทศไทย จึงต้องทุ่มเทหัวใจ ทุกคนอย่าใช้แค่ลมหายใจตัวเอง แต่ต้องใช้สองมือตน และท่านมาร่วมกันไปข้างหน้า ถ้าใช้สองมือและลมหายใจของตนเพียงคนเดียว มันสานต่ออะไรไม่ได้ ฝันก็ไม่สำเร็จ สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นความฝัน เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยได้รับการแก้ไขมาโดยตลอด
"แต่ผมเข้ามาวันแรกก็ฝัน และคิดมาตลอด แม่น้ำ 5 สายจะเดินยังไง และตนก็เดิมมายังไม่ผิด เพียงแต่การสร้างความเข้าใจยังเป็นของเดิมทั้งหมด มันก็มีแรงต่อต้านเยอะ โดยต่อต้านเรื่องการเมือง ประชาธิปไตย การตัดสินประชาชน ที่ตนสั่งมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่คิดเอง แต่มาจากประชาชนทั้งสิ้น ที่ร้องมา ผมก็เก็บมาตั้งเป็นโจทย์ ฟังจากสื่อบ้าง นักการเมืองบ้างแล้วมาคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์มาเป็นหัวข้อนโยบาย และถ่ายทอดไปสู่การขับเคลื่อนปฏิบัติ"
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องสร้างวัฒนธรรมในองค์กรทั้งหมด ทั้งรัฐ ข้าราชการ ประชาชน การมีส่วนร่วมต่างๆต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ คิดเพื่ออนาคต คิดสิ่งที่มีความสลับซับซ้อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นอยู่อย่างนี้ ความขัดแย้งจะเกิดสูง ต้องคิดอย่างใคร่ครวญ ไม่ใช่คิดซ้ายขวา หน้าหลัง สุดโต่งอย่างเดียว จะทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
“ตอนนี้ประเทศเรากำลังเป็นอย่างนั้นอยู่ คือความคิดสุดโต่งทั้งหมด ไม่ซ้ายก็ขวา ไม่ดีก็คิดว่าจะทำอย่างไรจะให้ร่วมมือ เพลงนี้ถึงออก
ทำไมผมถึงออกเพลงในวันนี้ ที่ออกวันนี้เพราะพรุ่งนี้(23ธ.ค.)จะแถลงผลงาน ถ้าไม่เข้าใจวันพรุ่งนี้ ก็ไม่ต้องไปอย่างอื่น มันจะตามไปสู่เรื่องรัฐธรรมนูญ แผนปฏิรูป แผนยุทธศาสตร์ล้มทั้งหมด ผมถามจะทำไปเพื่อใครวะเนี่ย ทำเพื่ออะไรไปคิดเอาแล้วกัน วันนี้อยากให้ช่วยกันสองมือ 70ล้านคู่ หัวใจ70ล้านดวง ลมหายใจ 70 ล้านคน ทำประเทศนี้ไปข้างหน้า เรามีโอกาสมีอนาคตเยอะแยะ แต่มันมีวิกฤตและโอกาสอยู่ด้วย ท่านจะเลือกวิกฤตหรือโอกาสคิดเอาเอง” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อวยพรปีใหม่กันเองก่อน เพื่อจะมีกำลังใจไปทำงานต่อให้ถึงปีใหม่ สัปดาห์หน้าก็จะให้ของขวัญประชาชน จริงๆแล้ว ของขวัญไม่ใช่เป็นเงินเป็นทองหรือลดแลกแจกแถมอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของกฎหมายในอนาคต และสิ่งที่ทำไม่ได้ และมาทำให้ได้ เป็นของขวัญตลอดปี สิ่งที่ทำให้ประชาชนคือของขวัญทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการรับของขวัญของข้าราชการและครม.ก็มีกติกาอยู่แล้ว และอยู่ที่คนให้ด้วย อย่าเอาไปให้แล้วทำให้ผู้รับมีความผิด วันนี้ที่มีการนำของขวัญไปให้เจ้าหน้าที่จราจร คือเป็นน้ำใจที่ให้กัน ตนจะไปว่าได้อย่างไร แต่ถ้าไปเรียกก๊อกอย่างนี้คงไม่ให้ เขาก็เปิดเผยให้ตามถนนหนทางแบบนี้ต้องห้ามด้วยเหรอ ส่วนการให้ของขวัญขวัญในราคาไม่เกิน 3 พันบาทนั้นเป็นกฎหมายเฉพาะครม. ข้าราชการการเมือง

"บิ๊กตู่” เตรียมลงใต้สัปดาห์หน้า สุราษฎร์ฯ-สงขลา


"บิ๊กตู่” เตรียมลงใต้สัปดาห์หน้า สุราษฎร์ฯ-สงขลา ติดตามนโยบายประชารัฐ-ด่านชายแดนสะเดา-บ้านประกอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการลงพื้นที่ภายใต้ในช่วงสัปดาห์หน้า ว่า ตามกำหนดการเดิมตนเองต้องลงพื้นที่ภาคใต้ ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ แต่ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่แทนแล้ว
ส่วนตนเองจะเตรียมตัวลงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีและจ.สงขลาในสัปดาห์หน้า ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อติดตามนโยบายประชารัฐ และโครงการ Rubber City หรือเมืองยางพารา รวมถึงความคืบหน้าการเปิดด่านชายแดนสะเดา และด่านบ้านประกอบ ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ฝ
โดยตนได้เน้นย้ำกับข้าราชการในพื้นที่ว่าต้องการรับฟังรายงานว่าได้ลงมือทำตามนโยบายไปมากน้อยเท่าไหร่ และยังต้องการอะไรเพิ่มเติม แต่ไม่ต้องมานั่งเล่าอะไรที่ทำมาตลอด ถ้าให้เล่าฟังครึ่งวันก็ไม่จบ ตนแค่อยากรู้ว่าสิ่งที่สั่งมาทำอะไรไปแล้วบ้าง มีปัญหาตรงไหน ตรงตามนโยบายที่มอบให้หรือไม่ ถ้าไม่ตรงจะได้สั่งการแก้ไข และตนจะได้หางบประมาณกลางให้

นายกฯ เผยโพลล์ ICTสำรวจวามเห็นประชาขน ให้คะแนน ผลงานรัฐบาลภาพรวมดีส่วนใหญ่

นายกฯ เผยโพลล์ ICTสำรวจวามเห็นประชาขน ให้คะแนน ผลงานรัฐบาลภาพรวมดีส่วนใหญ่ คะแนนพุ่ง 90-95 เปอร์เซ็น รับ ยังแย่เรื่อง เศรษฐกิจ. แจง ศก.ตกทุกประเทศ ขอให้เข้าใจัฐบาลพยายามแก้ปัญหา แจง แถลงผลงานรัฐบาล 1 ปี ต้องการสร้างความเข้าใจกับปชช.วางรากฐานอนาคตสานต่อ 20ปี บอกปท.พัฒนาล่าช้า เหตุติด “กฎหมาย-ประชาพิจารณ์-สิทธิมนุษยชน –เอ็นจีโอ” ที่ต้องร่วมมือ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแถลงผลการดำเนินงาน 1 ปีรัฐบาลและการจัดนิทรรศการระหว่างวันที่ 23 -25 ธ.ค. ว่า ตนให้ความสำคัญในการแถลงผลงานในวันที่ 23 ธ.ค. และต้องการสร้างความเข้าใจ ในลักษณะที่มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะต้องการให้คนที่มาดูและติดตามได้เห็นว่า รัฐบาลสร้างความเชื่อมโยงมาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 มาเป็นคสช. และจนมาเป็นรัฐบาล มีครม. 2 คณะ วันนี้เหลือเวลาอีก 1 ปี 6 เดือน นับจากม.ค. 60 ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่เราจะทำอะไรต่อจากที่เราทำมาแล้วบ้างในระยะแรก ตรงนี้เป็นการปฏิรูประยะที่หนึ่ง ซึ่งจะต้องเกิดความชัดเจน ถ้าทุกคนสงสัยในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ โครงการน้ำ โครงการรถไฟ ว่าทำไมตัวเลขต่างกัน ให้ถามรองนายกฯ หรือกระทรวงที่แถลงได้ในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งตัวเลขมันต่างตรงที่เราเขียนแผนงานไว้ระยะยาว และคิดงบประมาณไว้ล่วงหน้า แต่ตนไม่ได้กู้เงินมาทั้งหมด ทำได้แค่ไหนทำแค่นั้น นั้นแหล่ะคือความแตกต่าง ไปดูสิว่าไส้ในเหมือนกันไหม เช่น เรื่องน้ำอุปโภค บริโภค การเกษตร รวมทั้งพื้นที่ในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทาน ดูสิว่าราบละเอียดแตกต่างกันไหม และทำได้แค่ไหนในรัฐบาลปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายคนเอาตัวเลขของเราไปเปรียบเทียบกับโครงการที่ผ่านมา หลายคนพยายามที่จะทำอย่างนั้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ เรื่องรถไฟ และพยายามที่จะกู้ทั้งระบบทั้งหมดมา แล้วแน่ใจหรือไม่ว่า 4 ปีจะเป็นรัฐบาลตลอดไป นี่คือสิ่งที่สืบทอดอำนาจยิ่งกว่าตน อันนี้ตนไม่ได้สืบทอดอำนาจ เพียงแต่ร่างแผนอนาคตไว้ให้ ใน 20ปีข้างหน้า ในวันที่ 23 ธ.ค.ถามเขาดูสิว่า แต่ละกระทรวงทำอะไรบ้างเพื่อที่จะมองเห็นอนาคตในวันข้างหน้า เราจะมีรถไฟที่ไหนจะเชื่อมโยงกันอย่างไร ที่ทั้งคนมีเงินและมีรายได้น้อยขึ้นด้วยกันได้ แต่ตนทำให้เสร็จอยู่แล้ว ตนจะร่างไว้ให้ จะทำต่อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน เพราะฉะนั้นวันหน้านโยบายการหาเสียง จะต้องเป็นอย่างนี้หรือเปล่าตนไม่แน่ใจ ก็ไปว่ากันมา ไม่ใช่เอาบรรทัดเดียวมานำ แล้วเลือกตั้งกันมาเป็นหางหมด จะต้องชี้แจงว่าจะมีการปฏิรูปกันอย่างไร แล้วปัญหาที่ผิดพลาดมาจะทำอย่างไรต่อไป อนาคตที่ท่านเป็นรัฐบาล 4 ปีเป็นอย่างไร นโยบายพรรคจะบรรทัดเดียวก็เรื่องของท่าน ฉะนั้นรัฐบาลจะต้องมีนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ ทุกประเทศมียุทธศาสตร์ชาติหมด คือภาพโดยรวม คือความมั่นคง คือความเข้มแข็งจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคมก็ว่าไป แต่ในนั้นจะแตกออกมาเป็นยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและจะเดินหน้าการต่างประเทศอย่างไรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์อันใหญ่ จะต้องวาดภาพให้เกิดขึ้นและเดินไปอย่างนั้น งบประจำ รายประจำจะต้องเดินไปอย่างนั้น เอางบกลางเข้าไปเสริม ในส่วนที่เร่งด่วน วันนี้รัฐบาลทำทั้งบริหารราชการแผ่นดิน การบูรณาการคือการปฏิรูประยะที่ 1 และเตรียมส่งต่อรัฐบาลหน้า ตนจะอธิบายในเรื่องนี้แบบนี้ ตนจะพูดถึงเรื่องนโยบายและปัญหาของประเทศ ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องของรองนายกฯ นำสิ่งที่ตนพูดไปขับเคลื่อน ไปแปลงเป็นนโยบายและนำไปปฏิบัติ จะเป็นกลุ่มงานน้ำ ป่าไม้ รวมถึงรองนายกฯ จะพูดในเรื่องงานที่ร่วมกันทำ และงานที่คาบเกี่ยวกันในแต่ละกระทรวง ที่บูรณาการร่วมกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนอยากให้คนไทยทุกคนรู้จะจักคิดวิเคราะห์ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความซับซ้อนของกระบวนการความคิด ที่จะต้องมาจากการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ศึกษาด้วยการเรียนรู้ ตนให้แม่น้ำ 5 สายมีวิปประสานทุกอย่าง เพื่อเชื่อมโยงกัน ไม่ใช่เขาไม่ดี ไม่ใช่ว่าไม่ขยัน แต่เขาขยันกันมาก แต่เกรงว่าที่ผ่านมาแล้วจะทำไม่ได้ เพราะตนยังทำได้ไม่ครบเลย สมมุติว่าเริ่มทำ 20 อย่าง แต่ทำได้ 15 อย่าง เพราะติดกฎหมาย ติดประชาพิจารณ์ คือปัญหาของบ้านเรา รวมถึงสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ ที่จะทำอย่างไรให้ร่วมมือกัน เขาจะเอาที่รองนายกฯ มาขับเคลื่อนในกลุ่มของเขา ที่เราไม่มีความก้าวหน้าทัดเทียม เพราะเราเป็นห่วงเรื่องมลภาวะ ก็ต้องไปถามว่าจะเกิดหรือไม่ ถ้าเกิดแล้วจะทำอย่างไร แต่โรงงานในวันนี้มีมาตรการพอสมควร ถ้าไม่ดีก็ปิดไป แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ทำแบบนี้ ผิดกันแต่แรกแล้ว มันไม่ผ่านมาตรฐาน ในบางโรงงาน เสร็จแล้วก็ปล่อยกันต่อ เป็นเรื่องของผลประโยชน์อีกวุ่นวาย ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่มันจบแล้ว ไม่ต้องไปคิดอะไรตรงนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลทำ 1 ปี 6 เดือนจนถึงก.ค. 60 ต่อไปจะมียุทธศาสตร์ห้วงละ 5 ปี ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 แผน ซึ่งจะจบในปี 79 ซึ่งในปี 79 จะใส่แผนพัฒนาน้ำ แผนพัฒนารถไฟ ในส่วนของการปฏิรูปให้สอดคล้องกับยุทธ์ศาสตร์ แต่ถ้าไม่ทำก็เรื่องรัฐบาลหน้า เพราะตนเริ่มให้แล้ว ฉะนั้นยอดทั้งหมดไม่ใช่ยอดที่ตนใช้เงิน มีคนมาบอกว่า ตนใช้เงินมากกว่าเขา วันหน้าจะเกิดอนาคตไหม เป็นหนี้สินที่เป็นมูลค่าหรือไม่ หรือเป็นหนี้ที่จ่ายให้หมดไป แต่ก็ต้องทำเพื่อการบรรเทาความเดือดร้อน แต่อีกส่วนจะต้องสร้างความเข้มแข็งไปกับการลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของรายได้ รายจ่าย การใช้เงิน การเป็นหนี้เป็นสิ้น ตนถามว่าที่ผ่านมาใครทำแบบที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ ถ้าคิดจะจ่ายเงินเรื่องรัฐสวัสดิการ จะต้องคิดว่าเอาจากที่ไหน ไม่ใช่เอางบประมาณตรงกลางมาโปะไปเรื่อย ๆ การศึกษาฟรี ใช่เป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ต้องหาเงินให้ได้ด้วย มันไม่มีที่มา แล้วจะเอาเงินจากตรงไหน วันนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้สูงขึ้น เพื่อที่จะมาดูแลข้าราชการให้มีเงินเดือนขึ้น เพราะจะต้องขึ้นตามกฎระเบียบของข้าราชการทุก 3 ปี แต่วันนี้รายได้ของประเทศผูกติดกับของเดิม ๆ เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้รายจ่ายก็มาก และต้องเพิ่มขีดความสามารถของประเทศให้เข้มแข็ง รายได้ของประเทศก็จะสูงขึ้น ในวันที่ 23ธ.ค.สื่อต้องช่วยตน เพราะมีคนมาดู แต่อาจจะไม่เข้าใจ เขาก็จะไปพูดอีกทาง ในฐานะที่ท่านเป็นฉันในเพลง “เพราะเธอคือ ... ประเทศไทย” ก็ต้องช่วยกันด้วยแล้วกัน สร้างความเข้าใจแบบนี้ ไม่ใช่ไปคล้อยตามไปจับผิด จับถูก เพราะตนไม่ได้ไปปิดกั้นท่านเลย เพียงแต่ว่าให้ความเป็นธรรมตนหน่อย
“วันนี้หลายคนออกมาพูดหลายช่อง มาบอกว่ารัฐบาลใช้เงินเปลือง ทุจริตคือทุจริต หากทุจริตเขาก็มีกลไก จะมาบอกว่าทุจริตปากเปล่าไม่ได้ จะต้องมีต้นเรื่อง มีคดีความ มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้ากระบวนการทั้งหมด ทุกคดีของรัฐบาลทุกวันนี้ก็มีกระบวนการตรวจสอบกันเอง เพราะว่าเป็นข้าราชการ ฉะนั้นการตรวจสอบทางวินัยเขาก็เริ่มก่อน ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ชัดเจน ประเด็นไหนที่มีความผิดก็ส่งต่อไปที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เขาทำกันอย่างนี้ อย่ามากล่าวอ้างกันเฉย ๆ ทำไม่ได้ มันก็ยุ่งกันไปหมด” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล พ.ศ.2558 และผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน“ ในที่ประชุมครม.ว่า ภาพรวมผลการรายงานก็ดูดี แต่ทีไม่ดีคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งต้องอธิบายว่าเศรษฐกิจจะดีได้ต้องดูภาพรวม ทั้งเศรษฐกิจมหาภาคด้วย แต่วันนี้เศรษฐกิจมหภาคยังตกอยู่ทุกวัน ซึ่งถ้าไปดูตัวเลขประจำเดือนที่สรุปมามีหลายประเทศในอาเซียนตกทั้งหมด 17 เปอร์เซ็น แต่ของเราตก 5 เปอร์เซน ซึ่งต้องดูว่าตกเพราะอะไร เมื่อตกแล้วเรามีแผนการเผชิญความเสี่ยงอย่างไร ประเทศเราอย่างไรก็ต้องตกเพราะฐานเศรษฐกิจมันกว้าง มีการลงทุนเยอะ และการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนขั้นพื้นฐาน ,เทคโนโลยีระดับสูง เครื่องจักรใหม่ ล้วนแต่เป็นการลิตที่เพิ่มมูลค่าน้อยมากมาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นายกฯ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้จึงถือว่าเป็นช่วงการเริ่มต้นแล้วจึงต้องมาขับเคลื่อนกันให้ได้ แล้วขยายไปสู่ความเชื่อมโยงธุรกิจใหม่ ที่มีศักยภาพ สู่ห่วงโซ่การผลิต สร้างอาชีพรายได้ให้คนในประเทศ สร้างความเข้มแข้งให้เอสเอ็มอี ไม่ใช่ซื้อทุกเรื่อง เรื่องนี้ไม่ใช่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอย่างเดียว เช่น การทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะเห็นว่าเชื่อมโยงไปถึงกระทรวงศึกษา กระทรวงแรง มหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเชื่อมโยงหลายกระทรวงการทำงานจึงช้า ซึ่งต้องสั่งงานลงไปแล้ว แล้วเมื่อดูแล้วว่าไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมายก็เร่งอนุมัติลงไป วันนี้ต้องเอาตัวเลขจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒนฯ) มาดูเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจเพื่อนบ้านมาดูด้วยว่าตกไปเพราะอะไร
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับผลงานรัฐบาลเรื่องชอบมากที่สุดคือ เรื่องความมั่นคง สร้างความสงบเรียบร้อยให้สังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และเราได้ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยขึ้น ไม่ให้มีการประท้วง ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ใช้อาวุธ ซึ่งถ้าตนไม่เข้ามาจะมีการใช้อาวุธหรือเปล่าตนก็ไม่รู้ เพราะเรื่องอะไรที่ตนจะไปสร้างความขัดแย้งเอง ไปกล่าวโทษเขา
“ส่วนถ้าถามความพอใจผลงานรัฐบาลนั้น อย่างที่บอกถ้างานมันยังไม่เสร็จก็ยังไม่พอใจ ถ้าเสร็จแล้วจึงจะพอใจ แล้วถึงเวลาที่ผมจะส่งงานต่อให้เขา เมื่อแผนปฏิรูปทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน แม้รัฐธรรมนูญจะมีความแตกต่างอยู่บ้างในบางประเด็น ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มีแผนปฏิรูปทำสออดคล้องกันเดินหน้าไปทุกๆ 5 ปี แบบนี้ทำได้ทั้งหมด แต่จะทำอย่างไร ซึ่งผมจะไม่ไปบังคับเขา จะไปบังคับไม่ได้ รัฐบาลมีอำนาจมาจากประชาชนก็เลือกที่จะทำก็ทำไป ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ตรงนี้แระ ผมจึงบอกว่าอย่ามากังวลกับผม ไปกังวลมาตรการรัฐบาลหน้าที่เลือกกันเข้ามาแล้วกัน ว่าเขาจะทำแบบที่ผมพูดหรือไม่ ทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ให้ทุกจังหวัด ทุกภูมิภาคเท่ากัน ให้ไปตามความเดือดร้อนของประชาชน แล้วจึงไปดูเรื่องนโยบายพรรค คะแนนเสียงก็ว่ากันไป ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่วันนี้ผมไม่มีคะแนนเสียง แต่บอกแล้วว่าต่อให้นิยมชมชอบผมเท่าไหร่ ผมก็อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ไปประเมินมาว่าความสุขของประชาชนเท่าไหร่ ไปถามมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอธิบายอีกว่า คะแนนผลโพลตัวเลขที่เห็นส่วนใหญ่กว่า 90 – 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจคะแนนตกอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ อาจจะเพราะเขาไม่เข้าใจ ส่วนเรื่องของขวัญที่ประชาชนอยากจะได้จากรัฐบาล คือเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งตนก็กำลังแก้ไขอยู่ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค เศรษฐกิจข้ามชาติ การลงทุนต่างๆต้องยึดโยงกันอย่างไร เศรษฐกิจอาเซียนจะรองรับอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยมีความพร้อมในเรื่องเหล่านี้มาก่อน วันนี้ตนเข้ามาแก้เท่าที่ทำได้เต็มที่แล้ว ซึ่งเดี๋ยวปีหน้าจะดีขึ้นเอง วันนี้ไปดูเรื่องคะแนนด้านความเชื่อมั่นก่อนที่มีคะแนนสูงสุดเพิ่มขึ้นนาในรอบ 14 เดือน

สถิติแห่งชาติ เผยคนไทย"99.5%"พอใจผลงานรัฐบาล ได้7.5เต็ม10 สูงสุดเป็นประวัติการณ์!

ครม.รับทราบผลสำรวจความต้องการของประชาชนในช่วงปีใหม่ พบ 99.5 % พอใจการทำงานรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.รับทราบผลการรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.)  ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล พ.ศ. 2559  โดยได้สำรวจประชาชนทั่วประเทศ  ทั้งสิ้นจำนวน 3,900 ราย  ระหว่างวันที่ 2 – 10 พฤศจิกายน 2558  มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. ในรอบปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา ประชาชนร้อยละ 42.1  ระบุว่า  ชุมชน/หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดในเรื่อง สินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง  รองลงมาได้แก่  ผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ ร้อยละ 36.2 ปัญหาหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 28.5   ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 18.4 และการไม่มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ ร้อยละ 16.0  เป็นต้น

2. เรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ในปี พ.ศ. 2559  พบว่า ประชาชนร้อยละ 43.9  ระบุว่าต้องการให้รัฐบาลควบคุมสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้มีราคาแพง มากกว่าเรื่องอื่น  รองลงมา  ได้แก่ การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 35.5   การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ/พยุงราคา ร้อยละ 27.2   การช่วยเหลือ/ดูแล/สนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพให้ผู้ยากจน ร้อยละ 19.2  และการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 13.3  เป็นต้น

3. ประชาชนสูงถึงร้อยละ 99.5  ระบุว่ามีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของรัฐบาล (ซึ่งในจำนวนนี้มีความพึงพอใจมาก – มากที่สุดร้อยละ 53.2  ปานกลางร้อยละ 36.7   น้อยร้อยละ 8.7   และน้อยที่สุดร้อยละ 0.9  มีเพียงเล็กน้อยที่ไม่พึงพอใจเลย ร้อยละ 0.5   ในภาพรวมประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจฯ อยู่ที่ 7.5213 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน

4. ประชาชนสูงถึงร้อยละ 99.3 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล  ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ (ซึ่งในจำนวนนี้มีความเชื่อมั่นมาก – มากที่สุดร้อยละ 53.5   ปานกลางร้อยละ 35.3   น้อยร้อยละ 9.6  และน้อยที่สุดร้อยละ 0.9  มีเพียงเล็กน้อยที่ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 0.7   ในภาพรวมประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ 7.4705 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน

5. สำหรับข้อเสนอแนะต่อการบริหารงานของรัฐบาลพบว่า  ประชาชนประมาณร้อยละ 40 ระบุว่าต้องการให้รัฐบาลควบคุมสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้มีราคาแพง  และการแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ/พยุงราคา ซึ่งมีสัดส่วนที่สูงกว่าเรื่องอื่น  รองลงมาได้แก่  การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 36.8    การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการส่งเสริมการท่องเที่ยว ร้อยละ 28.2  ต้องการให้รัฐบาลอยู่บริหารประเทศต่อไป ร้อยละ 24.8   การแก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 16.2 และการปรับขึ้นเงินเดือน/ค่าจ้าง/เงินบำนาญ ร้อยละ 12.7  เป็นต้น

ดังข้ามคืน!ปูตินตัวปลอม

ดังข้ามคืน!ปูตินตัวปลอม
“ตัวตายตัวแทน?ไม่มี ผมจะเอาตัวแทนผมไปทำไม?”ปูตินกล่าวไว้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากจบงานแถลงข่าวประจำปีที่เรียกได้ว่าแถลงแบบมาราธอนเพราะใช้เวลายาวนานกว่าสามชั่วโมง
หลังจบงาน วลาดิเมียร์ ปูตินประธานาธิบดีรัสเซียก็ถูกนักข่าวยิงคำถามใส่อีกมากมายขณะอยู่ที่หน้าประตูทางออกห้องโถง รวมทั้งคำถามที่ว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่ามีคนหน้าเหมือนท่านด้วย?”พร้อมกับรูปหนึ่งใบที่นักข่าวยื่นให้ปูตินดู เมื่อปูตินเห็นรูปใบนั้นก็ยิ้มออกมานิดหนึ่งพร้อมกล่าวปฏิเสธว่าว่าตนไม่ได้ต้องการคนหน้าเหมือนตัวเองและได้เก็บรูปนั้นไว้ รูปที่ปูตินถือไปคือรูปใครกันแน่?ตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ แต่ทว่าเมื่อกล่าวถึงคนหน้าคล้ายปูติน หลายๆคนคงนึกถึงชื่อชายผู้มีนามว่า อนาโตลี กอร์บูนอฟ(Anatoliy Gorbunov)ก่อนใคร
กอร์บูนอฟเดิมทีอาศัยอยู่ในเมืองวอลโกดันสค์ทางตอนใต้ของรัสเซีย และเป็นเจ้าของบริษัทโทรทัศน์และสถานีวิทยุในระดับภูมิภาค ส่วนเรื่องอายุ ชายคนนี้เด็กกว่าประธานาธิบดีรัสเซียตัวจริงอยู่ถึง 11 ปี แต่มองยังไงก็เหมือนปูติน “เวอร์ชั่นรีเมค” แถมเจ้าหน้าที่ในหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีของรัสเซียที่เคยเห็นหน้านายคนนี้ยังรู้สึกตกใจในความเหมือน
กอร์บูนอฟกล่าวว่าสถานที่ที่มักถูกคนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นประธานาธิบดีรัสเซียบ่อยที่สุดคือกรุงมอสโก มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินเล่นอยู่กับเพื่อนๆก็ถูกผู้คนมารุมล้อมเพราะคิดว่าตัวเองบังเอิญเดินเจอประธานาธิบดี ซึ่งเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธแถมยังเล่นบทปลอมเป็นประธานาธิบดีโดยการพูดถึงเรื่องการจัดลำดับใหม่ของอนาคตของประเทศอีกด้วย
และในขณะที่เขาสวมบทเป็นปูตินอยู่นั้นทุกคนก็เงียบและตั้งใจฟังมากราวกับว่าจะจับคำพูดทุกคำของเขาให้ได้แต่ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบ โดยกล่าวถามออกมาว่า “ท่านประธานาธิบดีครับ นี่ใช่ท่านหรือเปล่า?” จากนั้นกอร์บูนอฟจอมทะเล้นก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปากพร้อมพูดอย่างมีลับลมคมในว่า “ใช่ๆ ผมเอง แต่ว่า...คุณอย่าไปบอกใครนะ.....”

สิ่งที่รัฐบาลโอบามากลัวมากก็เกิดขึ้น

สิ่งที่รัฐบาลโอบามากลัวมากก็เกิดขึ้น:
ข่าวข้างล่างนี้บอกว่า *แกนนำขบวนการก่อการร้ายไอสิสออกมาแฉว่ารัฐบาลมะกันให้เงินจ้างในการฝึกพวกเขามา* ข้อมูลหลายอย่างที่หลุดออกมาทางสื่อก่อนนี้ก็ชี้เช่นนั้น แต่แน่นอนล่ะ รัฐบาลมะกันก็คงต้องออกมาปฏิเสธ
ที่แล้วมา รัฐบาลโอบามาพยายามไม่ประกาศตัวชัดเจนเพื่อรบกับไอสิสเพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือกลัวกลุ่มไอสิสจะออกมาแฉว่าตนคือถุงเงิน ในที่สุด ไอสิสก็ออกมาแฉให้โลกรู้จนได้
ข้อสำคัญก็คือรัสเซียได้รุกเข้าหาสหประชาชาติให้มีมติออกมาแล้วว่าชาติไหนที่พัวพันกับการก่อการร้ายก็ควรจะถูกลงโทษไปด้วย และสหประชาชาติก็มอบหมายให้รัสเซียเป็นผู้นำในการปราบผู้ก่อการร้ายด้วย ดังนั้น ธนาคารของคนตุรกีหลายแห่งในรัสเซียจึงถูกเจ้าหน้าที่จู่โจมทุกธนาคาร พร้อมตั้งข้อหาฟอกเงินและสนับสนุนคนก่อการร้าย
คำถามคือรัสเซียจะเดินหน้าเอาผิดชาติที่พัวพันกับการก่อการร้ายได้มากน้อยขนาดไหน? เมื่อข้อมูลบ่งบอกว่ามะกันสนับสนุนไอสิสอย่างนี้ รัฐบาลมะกันจะโดนด้วยหรือปล่าว?
ที่จริง ข่าวกรองของรัสเซียคงแจ้งรัฐบาลให้รู้ล่วงหน้าแล้วว่ามะกันคือชาติที่หนุนก่อการร้าย ดังนั้น รัสเซียจึงเข้าทางสหประชาชาติ ขอให้สหประชาชาติมีมติออกมาเสียก่อน ตอนนี้แหละ รัฐบาลมะกันคงหนาวๆ ร้อนๆ แน่เลยครับ
22 ธันวาคม 2558
ISIS Leader: We Are Funded By The Obama Administration
SOCIAL.NEWSINC.COM