PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

'สมชาย'แขวะรัฐ ระวัง 2 มาตรฐาน จี้ ครม.ใช้ ก.ม.มั่นคง สกัดแดงชุมนุม

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 17:10 น.

"สมชาย แสวงการ" ส.ว.สรรหา จี้ ครม.ใช้ ก.ม.มั่นคง สกัด "แดง" ชุมนุม 8 พ.ค.นี้ แขวะควรจัดการเหมือนที่ทำกับม็อบ "เสธ.อ้าย" ไม่เช่นนั้น ระวังข้อครหา 2 มาตรฐาน

วันที่ 6 พ.ค. นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีการเสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองวุฒิสภา กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเร่งจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็ก เพื่อประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อให้อำนาจฝ่ายความมั่นคง เข้ามาควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ประกาศระดมคนปิดล้อมศูนย์ราชการ ในวันที่ 8 พ.ค.

ที่ผ่านมา รัฐบาลเคยประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงจัดการกับองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) มาแล้ว โดยแต่งตั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศกว่า 5 หมื่นนาย เข้ามาคุมพื้นที่ ที่สำคัญมีการใช้แก๊สน้ำตาจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ครั้งนี้เห็นว่าการประกาศท่าทีของคนเสื้อแดงเข้าลักษณะเดียวกับองค์การพิทักษ์สยามชุมนุมใหญ่เมื่อปลายปี 2555 ดังนั้น รัฐบาลควรใช้กฎหมายแบบเดียวกัน

นายสมชายกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลไม่ทำ อาจถูกมองได้ว่า 2 มาตรฐาน หรือหากรัฐบาลไม่คิดจะใช้กฎหมายฉบับนี้ ก็ขอให้บอกตามตรงว่าม็อบเสื้อแดงครั้งนี้มีไม่มาก จึงไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายดังกล่าว และอยากฝากถึง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เร่งจัดการกับผู้เผยแพร่ข้อความ และรูปภาพที่มีลักษณะดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่ประกาศจัดการเฉพาะเว็บไซต์หมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ที่ผ่านมา ไอซีที ขอจัดสรรงบประมาณไปกว่า 500 ล้านบาท เพื่อติดตั้งอุปกรณ์จัดการกับผู้กระทำความผิด จึงอยากถามว่าปัจจุบันได้ดำเนินการจัดการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบันไปถึงไหนแล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์

58 ส.ว.เผย รู้อยู่แล้วนายกฯ เบี้ยวแจง สปีช 'มองโกเลีย'

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 19:45 น.

58 ส.ว. เผย รู้อยู่แล้วนายกฯ เบี้ยวแจงสปีช "มองโกเลีย" เล็ง หามาตรการกดดันต่อ อัด "ยิ่งลักษณ์" ไม่ใช่รัฐบาลพลัดถิ่น ถึงต้องถล่มบ้านตัวเอง...

วันที่ 6 พ.ค. นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา หนึ่งในกลุ่ม 58 ส.ว.ผู้รักชาติ ที่ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ คำปาฐกถาโจมตีประเทศไทย กล่าวว่า รู้อยู่แล้วว่า นายกฯ คงไม่ยอมมาชี้แจง ที่เราเชิญไปเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในเมื่อนายกฯ ไปพูดเรื่องระบอบประชาธิปไตย ท่านก็ต้องยอมรับกลไกการทำงานของคณะกรรมาธิการด้วย เราต้องการทราบว่าวัตถุประสงค์การพูดคืออะไร

เมื่อถามว่ารัฐบาลมีท่าทีชัดเจนแล้วว่าจะไม่มาชี้แจง กรรมาธิการของวุฒิสภาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นพ.เจตน์ตอบว่า ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม จะขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ก็ทำไม่ได้ ต้องรอดูท่าทีรัฐบาลต่อไปว่า จะมีการพัฒนาการมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแแดง หากมีการข่มขู่กดดันศาลรัฐธรรมนูญหนักขึ้น โดยที่รัฐบาลไม่ยอมควบคุม เราจะนัดหารือเพื่อออกมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

นพ.เจตน์กล่าวต่อว่า ส่วนที่คนในรัฐบาลระบุว่า กลุ่ม 58 ส.ว.เคลื่อนไหวเพื่อหวังผลการเมืองนั้น ทางกลุ่มมองว่า นายกฯ ทำไม่เหมาะสม ไม่ได้หวังดิสเครดิต เพราะในเวทีระหว่างประเทศโดยปกติ ผู้นำเขา จะพูดแต่ด้านดีของประเทศตัวเอง ไม่เคยมีใครพูดให้ร้ายประเทศ จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ ที่ผู้นำไปใช้เวทีระหว่างประเทศมาโจมตีประเทศตัวเอง เพราะไม่ใช่รัฐบาลพลัดถิ่น

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่มาของ ส.ว. นพ.เจตน์ ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. ตอบว่าขณะนี้พิจารณาเสร็จเกือบทั้งร่างฯแล้ว เหลือเพียงส่วนของบทเฉพาะกาล คงเรียกประชุมอีกนัดเพื่อพิจารณาให้จบ จากนั้นจะเรียกสมาชิกที่เสนอคำแปรญัตติมาชี้แจง ซึ่งในญัตตินี้มีผู้แปรญัตติกว่า 200 คน ไม่นับรวมกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยอีก

ดังนั้น คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร อย่างตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 สมาชิกบางคนใช้เวลาชี้แจงเกือบ 4 ชั่วโมง

โดย ไทยรัฐออนไลน์


'นพดล'โพสต์เฟซฯ'แม้ว'คุย'ราจิบ'ขออำนวยสะดวก'ไทย'คุย'บีอาร์เอ็น'


วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 16:45 น.

"นพดล" โพสต์เฟซฯ"แม้ว"คุย"ราจิบ"ยินดี ชนะเลือกตั้ง ขอ"มาเลย์"อำนวยสะดวกไทยคุย"บีอาร์เอ็น" ยัน ไม่เปลี่ยนนโยบาย แขวะ"มาร์ค"อย่าดูหมิ่นคนไทย ความวุ่นวายการเมืองไม่ได้มาจาก"นายใหญ่"แต่มาจากฝ่ายที่มองไม่เห็น

วันที่ 6 พ.ค. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว Noppadon Pattama ยืนยันว่า พ.ต.ท ทักษิณ ได้ โทรศัพท์ยินดีกับนายนาจิบ ราซัค นายกฯ มาเลเซีย ที่ชนะการเลือกตั้ง ทั้งยังประสานนายนาจิบ เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยกันระหว่าง สมช. กับ บีอาร์เอ็น เพื่อแก้ไขปัญหา ลดความรุนแรง และนำสันติสุขมาสู่ดินแดนภาคใต้ และการพูดคุยระหว่าง สมช. กับ กลุ่มบีอาร์เอ็น ก็คงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพราะนโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกัน ยังตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ว่า ก้าวไม่พ้นและตามไม่ทัน พ.ต.ท.ทักษิณกรณีที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณ ให้ดำเนินการขั้นแตกหัก และบอกว่า ความวุ่นวายทางการเมืองปัจจุบัน เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมันไม่ใช่ความจริง แต่เหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพราะการทำรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ฉีกรัฐธรรมนูญ และใช้กลไกทุกอย่างทำลายฝ่ายตรงกันข้าม โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรม หลักประชาธิปไตย และผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 54 ไม่บอกอะไรนายอภิสิทธิ์บ้างเลยหรือ ว่า ทำไมประชาชน จึงได้สนับสนุนฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด
คำแถลงนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่พรรคอัมโน นำโดยนายนาจิบ ราซัค ชนะการเลือกตั้งทั่วไป ในมาเลเซีย เมื่อวานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายราจิบที่ได้เป็นรัฐบาลอีกสมัยหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายนาจิบ มีความสนิทสนมเป็นอย่างดี เพราะเคยทำงานร่วมกันมา

นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ประสาน นายนาจิบ เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยกันระหว่าง สมช. กับ บีอาร์เอ็น เพื่อแก้ไขปัญหา ลดความรุนแรง และนำสันติสุขมาสู่ดินแดนภาคใต้ และการพูดคุยระหว่าง สมช. กับ กลุ่มบีอาร์เอ็น ก็คงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพราะนโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นายนพดล ปัทมะ กล่าวต่อว่า ที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า การดำเนินการของรัฐบาลปัจจุบัน และคนเสื้อแดง เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณ ให้ดำเนินการขั้นแตกหัก และบอกว่า ความวุ่นวายทางการเมืองปัจจุบัน เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และว่า จะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่สามารถล้างผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นั้น ตนเห็นด้วยกับนายอลงกรณ์ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ก้าวไม่ข้ามและตามไม่ทัน พ.ต.ท.ทักษิณ และก็ไม่เหนือความคาดหมายว่า นายอภิสิทธิ์จะโยนความผิดทุกอย่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่เคยดูการกระทำของตัวเองว่า เป็นเหตุให้เกิดความปัญหา และทำลายความมั่นคงทางการเมืองของประเทศ มาอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการบอยคอตการเลือกตั้งปี 2548 และท่าทีในการขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ตามมาตรา 7 ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญในขณะนั้น ที่นำสู่วิกฤติการทางเมืองก่อนรัฐประหาร

นายอภิสิทธิ์ อย่าดูหมิ่นสติปัญญาของคนไทย ว่าปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ความวุ่นวายของประเทศเกิดขึ้นจากฝ่ายมือที่มองไม่เห็น ไปทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ และใช้กลไกทุกอย่างทำลายฝ่ายตรงกันข้าม โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรม หลักประชาธิปไตย และผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 54 ไม่บอกอะไรนายอภิสิทธิ์บ้างเลยหรือ ว่า ทำไมประชาชน จึงได้สนับสนุนฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด

“การที่นายอภิสิทธิ์พูดว่า เลือกตั้งกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถล้างผิด พ.ต.ท.ทักษิณ แต่นายอภิสิทธิ์ควรรู้ว่า ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารนั้น เกิดจากการสอบสวนของ คตส. ที่คณะรัฐประหารตั้งฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นกรรมการ ซึ่งล้วนขัดหลักนิติธรรมทั้งสิ้น

ทีตัวเองถูกตั้งข้อกล่าวหา ว่า เป็นนายกฯ สองสัญชาติ ใช้เอกสารปลอมในการเข้ารับราชการทหาร และก่อให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลายคน ก็บอกว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตั้งข้อกล่าวหาหลังรัฐประหาร ก็บอกว่า ชอบธรรมแล้ว นี่คือความเลวร้ายของระบบอภิสิทธิ์ชนที่นายอภิสิทธิ์ควรรู้” นายนพดล กล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์

'อนุดิษฐ์'รับเร่งฟันคนด่า'ปู' ปัดเลือกปฏิบัติปล่อยเว็บทำผิดอื่นๆ

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 15:01 น.

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ลั่น เอาผิดคนโพสต์หมิ่นประมาท ไม่ปฏิเสธ "แอ็กชั่น" ป้องนายกฯ "ปู" เร็ว ชี้ เป็นถึงระดับผู้นำประเทศ แนะ ปชช.ร้องเรียนได้ หากเจอคนโพสต์หมิ่นฯ ไม่เฉพาะเรื่องนายกฯ เท่านั้น...

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีการดำเนินการกับผู้โพสต์ข้อความหมิ่นฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามเว็บไซต์ว่า ขณะนี้กระทรวงไอซีทีดำเนินการร่วมกับ สำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ปท.) กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (ปอท.) ติดตามผู้โพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นประมาท โดยหากใช้ชื่อจริง สามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากใช้นามแฝงต้องตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงไอซีทีที่ต้องดำเนินการกับผู้กระทำความผิดทุกคน

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า การดำเนินการเอาผิดกับผู้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท ไม่ได้เป็นกรณีที่กระทรวงไอซีทีดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมากรณีที่เกี่ยวข้อง อาทิ เรื่องเว็บหมิ่นฯ เรื่องพนัน และยาเสพติด ก็มีผลงานอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่ากรณีนายกฯ

“การหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่ถูกคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ พี่สาว น้องสาว อา หรือใครก็แล้วแต่ ย่อมได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม และเป็นภัยที่ต้องเอาผิดกับผู้กระทำ เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกกฎหมาย ไม่ใช่เฉพาะกรณีของนายกฯ เท่านั้น แต่เรื่องของท่านนายกฯ เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

ต่อข้อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของไอซีที เรื่องนายกฯ ที่รวดเร็วกว่ากรณีอื่นๆ นั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า ไม่ปฏิเสธ เพราะนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นถึงระดับผู้นำของประเทศ และยังมีการใช้ข้อความดูหมิ่น ดูแคลน ซึ่งกระทรวงไอซีทีมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการโพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ในลักษณะหมิ่นประมาท สามารถแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนมาที่กระทรวงไอซีทีได้ สำหรับโทษของการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ด่าว่าร้ายผู้อื่น ทำให้เกิดความเสียหายทางเว็บไซต์จะเข้าข่ายมีความผิดข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่ 326 มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม รมว.ไอซีที ยังกล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานที่ผ่านมา มีการประชุมกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ส่งตัวเทน มอบหมายให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ให้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดคดีหมิ่นประมาทและ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับ "ชัย ราชวัตร" คอลัมนิสต์และนักเขียนการ์ตูนชื่อดังของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นกรรมการยุทธศาสตร์ในชุดดังกล่าว จึงไม่ทราบผลสรุป แต่ก็มีความเห็นว่าควรที่จะดำเนินการไปตามกฎหมาย

โดย ไทยรัฐออนไลน์

'จารุพงศ์' ย้ำ 312 ส.ส.-สว.ไม่เข้าแจงศาล รธน.15 พ.ค.นี้

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 12:30 น.

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยัน 312 ส.ส.-ส.ว.ไม่เข้าแจงศาล รธน. 15 พ.ค.นี้แน่ เหตุเชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินการถูกต้อง

วันที่ 6 พ.ค. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี 312 ส.ส. และ ส.ว. จะไม่เข้าไปชี้แจง การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าผิด รธน.ม.68 หรือไม่? วันที่ 15 พ.ค. 2556 นี้

เพราะส่วนตัว เห็นว่า ฝ่ายนิติบัญญัติทำถูกต้องแล้ว และมาตรา 68 ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุด เหมือนกับที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต และเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ตีความ ส่วนศาล รธน.จะตีความออกมาอย่างไร คงไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ เพราะต้องแล้วแต่ศาลพิจารณา และหากต่างฝ่ายต่างคิดว่า ตนเองถูกต้อง ก็ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์

'จรัญ'ยกธรรมะสยบม็อบแดงไล่ ยันรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลัง

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 10:45 น.

'จรัญ ภักดีธนากุล' ระบุใช้ธรรมะสยบม็อบ กปว. ขู่ไล่ 9 ตุลาการศาล รธน. ยืนยันรู้คนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว ย้ำไม่หวั่นไหวเชื่อในผลกรรม...

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยไทยรัฐออนไลน์ถึงกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) จะยกระดับการชุมนุมเรียกร้องให้ตุลาการทั้ง 9 คนหยุดการทำหน้าที่ โดยจะเริ่มจากกดดันตนก่อนนั้น ว่า ไม่ได้สนใจต่อข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนที่จะขับไล่จนไม่ให้มีแผ่นดินอยู่นั้น นายจรัญ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ปล่อยกันไป ไม่อยากไปทะเลาะกับเขา การที่คนกลุ่มนี้กร้าวออกมาขับไล่ตุลาการ ก็ต้องไปถามเจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่ จะมาถามตนในฐานะผู้เสียหายได้ไง

เมื่อถามว่าจะมีการฟ้องร้องหรือผู้ที่ออกมายุยงปลุกปั่นหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า อย่าให้ตนต้องไปฟ้องร้องประชาชน เราจะไปฟ้องร้องประชาชนได้อย่างไร เมื่อถามต่อว่าผู้ที่ออกมาดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญในทางกฎหมายมีความผิดหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า ทางกฎหมายก็ว่ากันไป แต่คนที่ถูกดูหมิ่นใครควรจะต้องเป็นผู้ที่ชี้แจงกับสังคม อย่าให้ตนออกไปทะเลาะกับเลย เขาทำอะไรอย่างไร สังคมเข้าใจว่า และมั่นใจว่าสุจริตชนในประเทศไทยมีสติปัญหาพอที่จะวิเคราะห์ได้ ว่าอะไรเป็นอะไร

"อย่าให้ผมต้องลงไปทะเลาะกับเขาเลย อย่าต้องดึงผมลงไปเลย จะเหมือนเอาน้ำไปสาดกัน ใครทำอะไรทุกคนต้องรับผิดชอบในผลกรรมที่ทำอยู่ของตนแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงไปทะเลาะเบาะแว้ง และในเรื่องนี้ก็ทราบกันอยู่ว่าคนเหล่านี้ที่ออกมามีใครอยู่เบื้องหลัง ผมไม่อยากไปฟาดหรือบาดหมาง ผมไม่อยากหนักข้อ คนพวกนี้ทำเพื่ออะไร ก็ขอร้องอย่าเอาผมไปเป็นเหยื่อเลย" นายจรัญ กล่าว

เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้มีผู้ออกมาให้กำลังใจเยอะหรือไม่ นายจรัญ กลาวว่า คนที่มาให้กำลังใจก็ไม่ได้ช่วยให้เราดีเด่นขึ้น คนที่ทำร้ายเราด่าเราก็ไม่ทำให้เราเลวลง กรรมะคือการกระทำของเราที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเราดีหรือเลวลง อย่าหวั่นไหวกับคำชมกับเสียงด่า ทั้งสรรเสริญแล้วนิทนาเป็นโลกธรรมผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่มีสาระแกนสารอะไร และการกระทำของเขาอย่าทำให้เราผลัดตกลงไปในอกุศล สิ่งยึดเหนี่ยวใจคิดอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้นไม่มีอะไรยอกย้อน.
/////

โดย ไทยรัฐออนไลน์

สุกำพล'ยอมรับ เหตุ 3 จว.ใต้ แรงขึ้นหลังเจรจา 'บีอาร์เอ็น'

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 20:00 น.

"สุกำพล" รมว.กลาโหม เชื่อ "ทักษิณ" หวังดีหากคุย "ฮัสซัน ตอยิบ" จริง รับ เหตุภาคใต้แรงขึ้น หลังเจรจา "บีอาร์เอ็น" ยัน เดินหน้าเจรจาต่อ ระบุ "นาจิบ" ชนะเลือกตั้ง "มาเลเซีย" เป็นผลดีต่อการเจรจา

วันที่ 6 พ.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า ยอมรับว่าตั้งแต่มีการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น รู้สึกว่าเหตุการณ์รุนแรงยังเกิดขึ้น โดยกลุ่มที่ก่อเหตุได้แสดงฤทธิ์เดชออกมา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และช่วงนี้ต้องทำงานกันอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีการพักเจรจาชั่วคราว เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีผลต่อการพูดคุย ส่วนสถานการณ์เผายางหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ถือเป็นการส่งสัญญาณใดๆ เป็นวิธีการก่อกวนที่เหมือนเดิม อะไรที่ทำได้ก็ทำหมด

เมื่อถามว่า ดูเหมือนกลุ่มบีอาร์เอ็นไม่สามารถเจรจากับกลุ่มอื่นๆ ได้ ทำให้สถานการณ์ยังรุนแรง พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกันขนาดนั้น ยังไม่มีการสัญญาว่าต้องให้หยุดก่อเหตุในสิบวัน และผู้ก่อเหตุไม่ใช่แค่กลุ่มบีอาร์เอ็นเท่านั้น มีผู้ก่อความไม่สงบหลายกลุ่ม บีอาร์เอ็น เป็นแค่กลุ่มใหญ่เท่านั้น

เมื่อถามว่า การชนะเลือกตั้งของ นายนาจิบ ราซัค พรรคอัมโน ชนะการเลือกตั้ง และได้กลับมาเป็นผู้นำมาเลเซียอีกครั้ง จะมีผลดีต่อการพูดคุยในการเจรจาให้ต่อเนื่องใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า แน่นอน เพราะเขาเป็นคนริเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมา และต้องมีการทำต่อเนื่องไป เหมือนเชือกที่ต้องขมวดให้มันแน่นขึ้น

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าทักษิณบินไปคุยกับ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ประเทศมาเลเซีย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ และคงไม่สามารถตอบแทนได้หากมีการคุยกันจริง ตนก็ไม่ทราบว่ามีการคุยกันจริง ดังนั้น อย่าไปคาดการณ์ในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับ พ.ต.ท.ทักษิณ บินไปมาเลเซียจริง พล.อ.อ.สุกำพลย้อนถามกลับมาว่า แล้วมีการคุยกันหรือไม่ ซึ่งไม่ได้คุยกัน ดังนั้นอย่าไปคิดหรือคาดการณ์ก่อนล่วงหน้า เพราะทุกคนต่างทำเพื่อเป้าหมายที่ดีทั้งนั้น

เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ บินไปคุยจริงถือเป็นเรื่องดีใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ทุกคนทำเพื่อให้เกิดผลดีทั้งนั้น หากคุยแล้วห่วยลงก็คงไม่มีการคุยหรอก อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณบินไปพบจริงหรือไม่.

โดย ไทยรัฐออนไลน์

'ยิ่งลักษณ์' ตั้ง 'วิม' นั่งโฆษกเศรษฐกิจ

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556, 16:24 น.

"ยิ่งลักษณ์" ตั้ง "วิม" นั่ง โฆษกเศรษฐกิจ เร่งตีปี๊บ พ.ร.บ.กู้เงิน-บริหารน้ำ

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งแต่งตั้งนายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประสานงานและเผยแพร่นโยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ (โฆษกเศรษฐกิจ) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางด้านเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เพื่อให้ได้คุมงานทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมติ ครม.โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ตามร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ...วงเงิน 2 ล้านล้านบาท และโครงการตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำ

โดย ไทยรัฐออนไลน์

การเดินทางของความสุข

การเดินทางของ ความสุข บางครั้ง หาได้อยู่ไกลในการแสวงหา_เพียงแต่เราใช้ ปัญญา ในการทำความเข้าใจ ว่า อันใด คือความสุข สำหรับเรา

แน่นอน ความสุข ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน และบางทีบางครั้ง ในขณะที่เราบอกว่ามีความสุข แต่แท้จริงแล้วในใจหรือบึกลงไปกว่านั้นในระดับ จิตใต้สำนึก เราอาจกำลังทุกข์ จากสภาพที่เราตั้งไว้ที่ ความกลัว การจาา และ การสูญเสีย

สิ่งที่เราทำ_อยู่มีทั้งบวกและลบ ในทางบวกเราไม่แบกรับเอาความเคร่งเครียดจากความทุกข์ในทุกขณะคิด แต่ในทางหนึ่งเราอาจละเลยในการจัดการกับปัญหาที่หากปล่อยล่วงเลย จะกลายเป็น ความทุกข์ ในอนาคต ก็เป็นได้___

เราอาจ หลอกตัวเอง ว่า ในทุกๆวัน ความสุขรายล้อมเรา เราพอแล้ว นั่นคือคิดแบบ ลบ

แต่หากคิดแบบ บวก ชีวิตของมนุษย์ทุกผู้คนล้วนแสวงหา ความสุขที่แท้จริง ดังนั้น อาจคิดได้ว่า สิ่งที่เป็นอยู่ ไมว่าผลมันจะเป็นเข่นไร จะออกมา ลบ หรือ ออกมา บวก มันก็เป็นเช่นที่มันเป็นไป หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง

ในทางคนเฒ่าคนแก่บอกว่า ปลง ในทางธรรมคือ ปล่อยวาง เหมือนกับมีบางคนเปรียบเทียบกับบรรดา ภาพปูนปั้นรอบๆวัดพระแก้ว ที่มีสีหน้ามองไกลๆเหมือนดุทมึงทึง พอมองไกลๆพบว่า สีหน้าของยักษ์ดูจะเหมือน เป็นทุกข์ กับการ ที่ต้องแบกโบสถ์วิหารไว้ด้วยมือสองข้าง โดยที่ไ่ม่สามารถ ปล่อยหรือวางลงได้__

เราๆท่านๆก็อาจคล้ายยักษ์ ที่แต่ละวันมี ภาระแบกบนบ่า จนยากที่จะหยุดปล่อยวางลงได้ เพราะหากวางลง ก็เป็นการละเลยหน้าที่ การงาน หรืออาจหมายถืึงละเลย คนรอบข้างครอบครัว

นี่เป็นเหตุหนึ่งที่หลายคนละเลยตัวเองไม่ดูตัวเองกับน้ำหนักภาระที่กดทับในขณะที่วัตถุน้ำหนักคงสภาพแต่ร่างกายเราหาใช่ปูนปั้นรูปยักษ์ไม่

กว่าจะ รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีแรงแบกน้ำหนักเหล่านั้นไว้ได้อีกต่อไป และสิ่งเหล่านั้นหล่นลงมาทับตัวเองตายในที่สุด หรือ บางคน โชคดีหน่อยละออกมาเมื่อถึงเวลาเหมาะสม ผ่องถ่ายให้คนอื่นๆมาแบกแทน ตรงนี้ก็อาจมีเวลาหายใจหายคอ หรือได้พัก เพื่อ ออกเดินทางไปหา ความสุข บ้าง___

7/5/56