PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

ผบ.ทบ.สั่งหน่วยที่เคยก่อรัฐประหารซ้อมรบในราบ 11

By ดาริกา ชินวัตร

มีความเคลื่อนไหวทางทหาร ที่บรรดาแวดวงนายทหารระดับสูงในกองทัพถือว่า "เคลื่อนไหวผิดปกติ" เมื่อกองทัพบก โดย ศปก.ทบ. สั่งการให้ พล.ม.2 รอ. และ ศม. คง ถ.

พร้อมพลประจำ และให้ พล.ร.2 รอ. คง BTR พร้อมพลประจำ เพื่อทำการฝึก ชุดรบ ร.-ถ. ที่ ร.11 รอ.
ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม - 31 มีนาคม 2557

โดยมี ศม. และ พล.ร.2รอ.รับผิดชอบการฝึก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้น ถูกตั้งข้อสังเกตจากนายทหาร
ที่สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยว่า "เริ่มออกอาการอีกแล้วผบ.ทบ."

สั่งฝึกชุดรบ ร.-ถ.ที่ ร.11 รอ. แสดงถึงแนวคิดที่ไม่เข้าท่า เพียงต้องการ ที่จะคงกำลังพล ที่เคยร่วมในการรัฐประหารไว้ ถึงกับเพิ่มการฝึกพิเศษ ขึ้นมาโดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผล

พร้อมกับให้ข้อสังเกตถึงความไม่เข้าท่าดังนี้

1. การฝึกชุดรบร.-ถ. เป็นการฝึกผสมเหล่าที่ตัองการผสมผสานคุณลักษณะ ของเหล่าที่มีทั้งอำนาจการยิง, ความ
รวดเร็วในการเคลื่อนที่, การดำเนินกลยุทธ, การมีเกราะป้องกันพื้นที่ในการฝึกที่เหมาะสม คือที่สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก ลพบุรีไม่ใช่ร.11 รอ. นอกจากจะเป็นการฝึกการรบในเมือง

2. ระยะเวลาในการฝึกพิเศษประมาณ 40 วัน
>>>>><<<< ไม่เคยมีการฝึกที่ใช้ระยะเวลานานมากขนาดนี้ ทหารบางเหล่าเวลาการฝึกทั้งปี ยังไม่เท่าการฝึกครั้งนี้ครั้งเดียว

3. ไม่เคยมีการฝึกด้วยหน่วยขนาดใหญ่ระดับกองพลมาก่อน เคยมีแต่การฝึก ในระดับ กองร้อย

>>>>>>>>>>>>>>>>>
ความหมายก็คือว่า ยังทำอะไรนายกฯยิ่งลักษณ์ม่ได้ แต่ข่มขู่นายกฯ 40 วัน ในช่วง40 วัน มีอะไรขึ้นมา รัฐประหาร ทันที นี่คือสิ่งที่ ผบ.ทบ. กำลังบอก

“สุเทพ” เชื่อ รบ.ประกาศพรก.ฉุกเฉิน หวังใช้กำลังปราบปรามปชช. ลั่นสู้ต่อ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากรัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เริ่มตั้งวันที่ 22 ม.ค. และมีผลบังคับใช้ 60 วัน ว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจประกาศใช้ เพราะเราต่อสู้อย่างสันติ สงบปราศจากอาวุธ ไม่ได้ก่อเหตุร้ายแต่อย่างใด การประกาศใช้ถือเป็นการตั้งใจใช้กำลังมาปราบปรามกับผู้ชุมนุมมากกว่า ทั้งนี้ ตนเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เราก็ใช้พ.ร.บ.มั่นคงธรรมดา จนกระทั่งกลุ่มนปช.ก่อเหตุร้าย เราก็เห็นว่าเป็นการชุมนุมไม่สงบจึงต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมาช่วยแก้สถานการณ์ แต่การชุมนุมของกปปส.เป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ และเหตุร้ายที่เกิดขึ้นก็เกิดจากฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เราก็จะสู้ของเราต่อไป ถ้ารัฐบาลมีการปราบปรามประชาชนก็จะทำผิดต่อสายตาคนไทยทั้งประเทศและชาวโลก

อำนาจ ของพรก.ฉุกเฉิน

พรก. ฉุกเฉิน เพิ่มอำนาจในการควบคุม ดังนี้ :


พรก.ฉุกเฉินฯ จะให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้มาก สามารถแทรกแซงสิทธิเสรีภาพเรื่องส่วนตัวได้ เช่นการดักฟังโทรศัพท์ บางเรื่องที่ธรรมดาไม่เป็นความผิด แต่กฎหมายฉบับนี้ให้เป็นความผิด เช่นการชุมนุมกันเกินเท่านั้นเท่านี้คน

- เจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่ตาม พรก.ฉุกเฉินฯนี้ ไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย

- หากมีการออกคำสั่งใดๆ ที่เป็นคำสั่งทางปกครอง หรือมีการปฏิบัติหน้าที่โดยเจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วเกิดความเสียหายต่อประชาชน ศาลปกครองไม่มีอำนาจในการพิจารณาพิพากษา

- ห้ามการเดินทางหรือเคลื่อนย้าย ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดหรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด ห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราชอาณาจักร

- ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด

- ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใดๆ ออกคำสั่ง รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ยึดหรืออายัดสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด

- ต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในการซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองสินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด เรียกให้บุคคลใดมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมาให้ถ้อยคำหรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐาน

- ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ถึง 7 วัน และควบคุมไว้ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานีตำรวจ ที่คุมขัง ทัณฑสถาน หรือเรือนจำ

พ.ร.บ. ความมั่นคง กับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มีข้อแตกต่างกันยังไง?

เป็นความรู้

พ.ร.บ. ความมั่นคง กับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มีข้อแตกต่างกัน 4 ข้อ ได้แก่ 

1. พ.ร.บ.ความมั่นคง ประชาชนฟ้องร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ได้ แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฟ้องไม่ได้ 

2. พ.ร.บ.ความมั่นคง ยังอนุญาตให้มีการชุมนมได้ แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่อนุญาตให้ชุมนุม

3. พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจมากกว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติสามารถปิดล้อม-ตรวจค้น-จับกุมได้

4. หลังเสร็จสิ้นการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รัฐบาลต้องทำรายงานไปยังรัฐภา และเปิดให้รัฐสภาสอบถาม ดังนั้นปฏิบัติการต่างๆจึงต้องมีแผนงานชัดเจน แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ไม่จำเป็นต้องรายงานต่อรัฐสภา ซึ่งหากไม่จำเป็นจริงๆ รัฐบาลก็จะไม่นำพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้

สัญญาน จากการมองของฝ่ายแดง



ลางแพ้ เริ่มมาเยือนอ่านหนังสือมา

1.พุทธอิสระเริ่มทวงเงินที่สุเทพยืมมาใช้แต่สุเทพบอกใช้ในการชุมนุมส่อให้เกิดการทะเลาะและผลักพุทธอิสระออกจาก กกปส.

2.กลุ่มทุนเริ่มมองไม่เห็นชัยชนะทั้งที่ลงทุนไปมากมายส่อแววไม่คุ้มทุนทำให้เริ่มสงวนท่าทีเรื่องงบประมาณ มีการขาดสภาพคล่องจนต้องเดินขอรับบริจาคทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่เคยมีเลย และเริ่มมีการเดินขอรับบริจาคบ่อยขึ้นจนคนเริ่มเอือมระอา ซ้ำมีหน้าม้าบริจาคมากกว่าบริจาคจริง

3.มีการสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้ทหารออกมาปฏิวัติทั้งๆที่ ผบ.ตร และ ผบ .เหล่าทัพยังเหนียวแน่นในความเป็นเสาหลักความมั่นคง ทำให้้ทหารนอกแถวเริ่มฝ่อและเริ่มกันตัวเองออกมาจากสนามเพราะภาพลักษณ์หน่วยเสียหายโดยเฉพาะหน่วยชีล ที่มีภาพออกสื่อในด้านลบมาโดยตลอด

4.ยุทธศาสตร์ของตำรวจเข้มแข็งมากและมีการบริหารจุดหลักทั้งกรุงเทพทำให้กองกำลังที่คิดจะรัฐประหารเคลื่อนพลลำบากมีการเสริมสับเปลี่ยนกำลัง ทำให้กำลังไม่ล้า

5.ตำรวจทหารมีการสนับสนุนเสบียงและยุทโธปกรณ์อย่างเต็มที่และมีการต่อต้านปฏิวัติอย่างแพร่หลายของทุกภาคส่วน ผู้นำเหล่าทัพบางคนไม่ต้องการร่วมสังฆกรรม

6.นานาชาติเริ่มให้การโอบอุ้มรัฐโดยการส่งสัญญาณจะแทรกแซงทันทีเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย

7.ท้ายที่สุดสุเทพจะถูกลอบสังหารเนื่องจากล่วงรู้ความลับมากเกินไปจากมือที่มองไม่เห็นและแกนนำทุกคนจะถูกเรียกตัวเข้าพบกลุ่มอำนาจรับทราบข้อกล่าวหาและประเทศจะสงบและตำรวจจะเป็นที่ชื่นชมของประชาชนและการยอมรับในอาชีพจะสูงมาก

ปุจฉา: ทำไมรัฐบาลรักษาการจึงลาออกไม่ได้ ?

วิสัชนา: ไม่ใช่ความลับอะไร คุณสุเทพ ณ กปปส. ได้บอกชัดโต้ง ๆ อยู่แล้วว่าต้องการให้รัฐบาลรักษาการลาออกเพื่อสร้างสุญญากาศทางการเมืองขึ้นมา และสามารถอ้างสถานการณ์พิเศษดังกล่าวเฉไฉออกนอกรัฐธรรมนูญและวิถีทางประชาธิปไตย ยักยอกตัดตอนอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปนอกระบบ ให้ "คนกลาง" ที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งขึ้นมาปกครองแทน และดำเนินการปฏิรูปภายใต้สภาประชาชนแต่งตั้งเต็มร้อยของตนและกปปส.


สรุปคือ: รัฐบาลรักษาการลาออก --> สุญญากาศทางการเมือง --> อ้าง ม. ๓ และ ม.๗ ของรัฐธรรมนูญมาทำการปกครองแบบมั่ว เฉไฉออกนอกรัฐธรรมนูญและวิถีทางประชาธิปไตย --> ฉวยริบเอาอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปตั้งรัฐบาล "คนกลาง" และสภาประชาชนจากการแต่งตั้งเต็มร้อย --> บังคับ "ปฏิรูป" เปลี่ยนแปลงประเทศไทย สถาบันหลักของชาติและชีวิตการเมืองของคนไทยทั้งปวงไปตามใจชอบโดยพลการและไม่ฟังเสียงที่แท้จริงของราษฎร

เพื่อปกป้องประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงเผด็จการเสียงข้างน้อยกปปส.และความขัดแย้งกับประชาชนเสียงข้างมากทั่วประเทศที่จะลุกลามรุนแรงกว้างขวางจนหยุดไม่อยู่ จึงต้องยืนหยัดประคับประคองการต่อสู้ขัดแย้งทางการเมืองให้ดำเนินต่อไปในกรอบกติการัฐธรรมนูญและวิถีทางประชาธิปไตยจนถึงที่สุด ไม่วอกแวกวอแว


รศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ
www.facebook.com/kasian.tejapira


หลังพรก.ฉุกเฉินใช้ สื่อมวลชนนำเสนอข่าวบิดเบือนก็จะมีการเตือน ย้ำไม่ปิดบลูสกาย

เครดิต @winaithornPNC
พล.ท.ภราดร ระบุหลังประกาศ พรก.ฉุกเฉินหากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวบิดเบือนก็จะมีการเตือน ย้ำไม่ปิดบลูสกาย


"ผบ.ทบ." ซัด !! ตู่ จัตุพร ถ้าแน่จริงก็ออกมา อย่าเก่งแต่ปาก !!


เมื่อเวลา 17.10 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบทบ. เผยต่อสื่อมวลชน ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ พยายามยุยงปั่นป่วนสร้างข่าวเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี กองทัพ โดยพูดว่า ทหารจะปฏิวัติ

ในเร็วๆนี้ ตนก็ขอบอกว่า ซึ่งในเรื่องความเป็นจริง กองทัพไม่มีการปฏิวัติอย่างแน่นอน 

ตนขอฝากสื่อมวลชนไปพูดกับนายจัตุพรด้วยนะ ว่าอย่าทำตัวเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ถ้านายจัตุพรแน่จริงก็ออกมา จะเอาแบบไหนก็ว่ามา อย่าเก่งแต่ปาก และจะถามนายจัตุพรอีกสักครั้งว่า ปากนายจัตุพร จะเอาไว้กินข้าวสวย หรือ จะเอาไว้ซดนํ้าข้าวต้มละ

เครดิต สำนักข่าวไทย


พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศอฉ.

รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศอฉ. เริ่มพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) เป็นเวลา 60 วัน

กกต.โยนรัฐบาลขออนุมัติเงินกู้ 1.3 แสนล้านบาท ตัดสินใจและรับผิดชอบกันเอง

17.30น. กกต.มีมติ คำขออนุมัติเงินกู้ 1.3 แสนล้านบาทของรัฐบาล "ไม่อยู่ในอำนาจ กกต." ที่จะพิจารณาตาม รธน.181(3) "ให้รัฐบาลใช้ดุลพินิจตัดสินใจและรับผิดชอบเอง" เครดิต : @Suriyasai / @jin_nation / @phanasGook / @NTRadio_NBC /


พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) ชี้มือบึ้ม 2 จุด โยงชายชุดดำ เปิดเผย มีการขนเขมรเข้ามาอีก 10 คันรถตู้

พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) ชี้มือบึ้ม 2 จุด โยงชายชุดดำ เปิดเผย มีการขนเขมรเข้ามาอีก 10 คันรถตู้ เพื่อเข้ามาก่อกวนประกาศชัด ต่อให้รัฐบาลออกพรก.ฉุกเฉิน เเต่ถ้าสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนเองจะไม่ทำ

พิธีกร ถามว่า : อะไรที่ทำให้ท่านผบ.เชื่อมั่นว่า ไอ้มือบึ้มทั้งที่บรรทัดทอง และที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นฝีมือของชายชุดดำของคนในจัดตั้งของคนเสื้อแดงที่เคยปฏิบัติการในสมัยปี 52-53 ครับ

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : พฤติกรรมลักษณะนะครับ ของการขว้างดูจากวงจรปิด เราเองเราถูกฝึกมาเราจะมองออกว่า พวกเหล่านี้มาจากไหนอะไรอย่างไร

พิธีกร ถามว่า : มั่นใจว่าอยู่ในกลุ่มชายชุดดำปี 52-53

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : ใช่ครับใช่

พิธีกร ถามว่า : ถ้าคิดว่าเป็นฝืมือของคนในจัดตั้งของคนเสื้อเเดง คิดว่าผู้มีอำนาจรัฐปัจจุบัน รู้เห็นเป็นใจด้วยไหม

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : เออตรงนี้ผมว่า ความจริงก็คือความจริง ใครทำอะไรก็รู้อยู่ แก่ใจเอางี้ดีกว่า จะปฏิเสธไปความจริงก็คือว่าจริง เพราะกฎแห่งกรรมที่มันเป็นกรรมที่แท้จริงก็จะตอบสนองพวกเขาเหล่านั้นเอง

พิธีกร ถามว่า : ตามมุมมองท่าน ท่านคิดว่ารู้เห็นด้วยหรือไม่

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : ก็เอางี้ เหตุเกิดเมื่อไม่เท่าไหร่ กำลังพลที่มีหน้าที่ต้องเยอะแยะ คุณทำอะไรกันอยู่ คุณทำอะไรกันอยู่ คิดเป็นตรรกระด้วยเหตุด้วยผล คุณทำอะไรของคุณอยู่ คนอื่นคุณจับได้เยอะไปหมด กับเรื่องแค่นี้คุณทำไม่ได้

พิธีกร ถามว่า : กำลังพูดถึงตำรวจใช่ไหมครับ

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : ก็คนที่มีหน้าที่ เขามีอำนาจไหม คนทั้งประเทศก็ต้องถามอย่างผมนี้แหละ ทุกคนพูดกันหมด แต่ไม่มีโอกาสพูด คุณต้องเข้าใจว่าประชาชนคนไทย เขากินข้าว เขาไม่ได้กินอย่างอื่น และโดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ เขาวิเคราะห์ออกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน เลิกเถอะ คนไทยจะต้องไม่ฆ่ากัน หรือเอาคนอื่นมาฆ่าคนไทย ตนคิดว่ามันไม่ควรจะเกิดในเเผ่นดินไทย

พิธีกร ถามว่า : ผบ.บอกว่าสมัยปี 53 คนเสื้อแดงใช้บริการเขมร ครั้งนี้ มีการใช้บริการเขมรเช่นกัน

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : มีข่าวก่อนหน้านี้ขนเข้ามา และเมื่อคืนนี้มีขนเข้ามาอีก ประมาณ 10 คันรถตู้ จากชายแดนฝั่งตะวันออก ขนเข้ามาเพื่อจะก่อความไม่สงบ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่มีหูตาสัปปะรดมากกว่า อยู่ทุกท้องที่ มีสายสืบเต็มไปหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณปล่อยปะละเลย

พิธีกร ถามว่า : ผู้มีอำนาจรัฐปัจจุบัน จะเล่นเกมแรงในสัปดาห์นี้

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : ก็คุณดูสิ มันแรงมาเรื่อยๆ ถามว่ามวลหมู่ประชาชนเขาทำอะไร เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้เสียหายเลย แม้กระทั่งเขาไปชุมนุม ร้านค้าเขาก็ขายดี เขาไม่เคยไปทำความเสียหาอะไร ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

พิธีกร ถามว่า : หากวันนี้รัฐบาลประชุม แล้วตัดสินใจ ประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในพรก.ฉุกเฉิน ก็ต้องสั่งทหารออก ถ้าเขาสั่ง ผบ. ผบ.จะออกหรือไม่

พล.ร.ต.วินัย ตอบว่า : ออกเป็นการทำตามหน้าที่ แต่เราจะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเรา เรามีวิจารณญาณรู้อยู่แล้ว ถ้ามาสั่งในเรื่องเลว ๆ เราเป็นทหารเราจะทำหรือไม่ ถ้าเขาสั่งมาแต่จะให้ทำในเรื่องที่ไม่ถูกต้องผมก็ไม่ทำ ตรงนี้คือจุดยืนของตน เพราะตนเป็นทหารของชาติ เป็นทหารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นทหารของประชาชน เรากินเงินจากภาษีของประชาชน


ครม.มีมติใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เริ่มพรุ่งนี้ เป็นเวลา 2 เดือน

ครม.มีมติใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เริ่มพรุ่งนี้ เป็นเวลา 2 เดือน โดย นายสุรพงษ์ ยันรัฐบาลจะยึดแนวทางปฏิบัติตามหลักสากล-ไม่ใช้กำลังสลายชุมนุม หลังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กกต.แจงบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจัดส่งเรียบร้อย

วันที่ 21 มกราคม 2557 17:01
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กกต.ยันบัตรเลือกตั้งไม่เสียหายแต่แผงควบคุมแท่นพิมพ์โดนทุบแค่ 1 แผง ชี้บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจัดส่งเรียบร้อย

รายงานข่าวจากกกต.แจ้งว่า จากกรณีที่มีผู้ชุมนุมไปทำการปิดล้อมโรงพิมพ์คุรุสภา ถนนลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่พิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไปนั้น ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่กกต.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจสอบพื้นที่พบว่า บัตรเลือกตั้งไม่ได้รับความเสียหรือถูกทำลายตามที่เป็นกระแสข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งบัตรเลือกตั้งที่อยู่ในโรงพิมพ์ได้ถูกจัดเก็บในที่ปลอดภัยไว้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังพบว่า สิ่งที่ได้รับความเสียหายคือ สายไฟฟัาในโรงพิมพ์ได้ถูกตัด รวมทั้งแผงควบคุมแท่นพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ซึ่งมีจำนวน 4 แผง ได้ถูกทำลายไป 1 แผง โดยได้รับความเสียหายจากการทุบ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบต่อการพิมพ์บัตรเลือกตั้งในส่วนที่เหลือ เพราะใช้เวลาซ่อมแซมไม่เกินครึ่งวันก็น่าจะเรียบร้อย อีกทั้งขณะนี้บัตรเลือกตั้งที่ใช้สำหรับวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่26ม.ค. นี้ ก็ได้ถูกจัดส่งไปไปแต่ละเขตเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เผยขุมเครือข่าย ระบอบทักษิณ

21/1/57 เพจ ของ Chetana Nagavajara มีการ แชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่ามาจาก "อจ.ประพจน์"


อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อเพื่อเปิดโปงออกไปให้มากที่สุด..... ขอบคุณ อจ.ประพจน์ ทีี่ส่งเนื้อความนี้มาแชร์ คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้: "ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก" "คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง" 
๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท.และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณเตรียมขาย กฟผ.จนศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว 

๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย 

(1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย 
(2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น และ 
(3) การรวบเอาที่ดินของรัฐวิสาหกิจมาจัดสรรเองใหม่ พร้อมหลักฐานการจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดย 
(1) ตั้งคนใกล้ชิดเป็นกรรมการเกรดเอ รายชื่อต่อไปนี้ (อย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ธุรกิจครอบครัวชินวัตร) - การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีพล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดาของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร เป็นกรรมการและมีน้องรักพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธานกรรมการ - การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตั้งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล รองกก.ผู้อำนวยการบริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน) และนายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ทนายความพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นกรรมการไปคุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ก็ตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการ - บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด ขุมสมบัติอีกแห่งที่ตั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี อดีต สส.ไทยรักไทย และเพื่อนสนิทพานทองแท้ ไปเป็นประธานกรรมการ ส่วนนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการอิสระ มาจากผู้บริหารบริษัทแคปปิตอลโอเค และบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์และยังได้เป็น กก.ผู้จัดการ ธนาคารอิสลามฯ ก่อนจะมีคดี แล้วต้องเปลี่ยนตัวไม่นานนี้ 

- นอกจากนี้ยังตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อัยการอาวุโสเป็นกรรมการ แต่พอไปดู เหตุใดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงใจป้ำตั้งนายธนพิชญ์ เป็น กรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน),บ. ขนส่ง จำกัด และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 1,348,825.81 บาท อัยการอาวุโสท่านนี้มีประวัติอย่างไร เป็นอัยการที่รับผิดชอบคดีทุจริต จัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ที่ไม่ยอมสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพวกรวม 25 คน ในคดีซีทีเอ็กซ์ และสั่งไม่ฟ้องคดี การอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้ บริษัทเอกชน เช่น กลุ่มเครือกฤษดามหานคร วงเงินหลายร้อยล้านบาท ทั้งที่คตส.และป.ป.ช.ตั้งข้อหา นี่หรือไม่คือสาเหตุ -ขณะที่นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย ก็เปลี่ยนเป็นมารับเงินเดือนในบอร์ดทอท. แทน 

- ในขณะที่ปตท.นอกจากจะตั้ง เบญจา หลุยเจริญ ที่ช่วยให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษีสมัยเป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ก่อนไปเป็นประธานกรุงไทย และเป็น รมช.คลัง - ก็ยังตั้ง อัยการคนเก่งอย่างนาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้สั่งไม่ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีของครอบครัวชินวัตร - ในเหตุผลเดียวกัน ก็ยังพ่วงนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นกรรมการ 

- แต่ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าการส่งนาย วรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องตนเองในธุรกิจครอบครัว มานั่งกุมขุมทรัพย์ที่ ปตท. ส่วนบริษัทลูกของปตท. อย่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ก็มีคำสั่งให้ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความไทยรักไทย ไปคุม คณะกรรมการสลากกินแบ่งรับาล นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีเลี่ยงภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท ของพานทองแท้ และพินทองทา ชินวัตร และเป็นทนายความพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้ตุลาการทั้ง 8 คน เพิกถอนมติรับคำร้องและคำสั่งที่ให้รัฐสภารอการดำเนินการลงมติวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ 

- ที่น่าตะลึงพึงเพริดคือ การตั้ง พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรรมการและผู้อำนวยการกองสลาก ถามว่า หน่วยงานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของหรือ ?? 

ธนาคารกรุงไทย ที่นอกจากจะตั้ง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการแล้ว ยังตั้งลูกน้องในเครือชินคอร์ป อย่าง นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ที่ใครๆก็รู้ว่าคือ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่มีอีกตำแหน่งในฐานะ กรรมการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น

 - ธนาคารออมสิน นอกจากจะตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ผู้บริหารระดับสูง ไทยคม อย่างที่กล่าวแล้ว ยังตั้งนายชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริษัท วินโคสท์อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ให้ไปเป็นกรรมการออมสินเพื่อหวังทำอะไร 

- องค์การเภสัชกรรมเหตุใด จึงตั้งเอานายสมชัย โกวิทเจริญกุล พี่เขยนายกฯเอง (สามี นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (ชินวัตร) กรรมการ และ ผู้ถือหุ้น บริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ 

- แต่ที่น่าสนใจคือ นายสมชัย โกวิทเจริญกุล คือ ผู้ถือหุ้นในบริษัท ฮัวถอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ จากประเทศจีน จึงน่าคิดว่าตั้งให้เข้าไปทำอะไรในองค์การเภสัชกรรม ?? 

- การประปานครหลวง ตั้ง นายเอกราช ช่างเหลา ที่เคยถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งอายัดเงิน และ การทำธุรกรรมการเงินในช่วงชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เนื่องจากศอฉ.เชื่อว่า เป็นท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะพบเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1,200 ล้านบาท 

- ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค ตั้ง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช.และกลุ่มคนเสื้อแดงผู้ถูกออกหมายจับในคดีก่อความวุ่นวายปี’53 ไปนั่งคุม 

- นอกจากนี้ยังตั้ง นางอัมพร นิติสิริ ที่เป็นภรรยา ของ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ไปเป็นกรรมการคุมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองโดยตรง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) 

- และล่าสุดประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแล แต่ด้วยตามกฎหมายการกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็สั่งให้มาเคาะครั้งสุดท้ายบนโต๊ะครม.ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่งที่หัวโต๊ะ ขณะที่ การกระทำตาม (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ และ. 3) การจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่อง อสังหาริมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ นั้นจะได้กล่าวเจาะในตอนต่อไป

นวัตกรรมม็อบ “ศิษย์เก้า วิศวฯ จุฬาฯ” ผลิตแผ่นกันกระสุน! บริจาค ให้ม็อบ 6 เวที

แผ่นกันกระสุน! “ศิษย์เก้า วิศวฯ จุฬาฯ” บริจาค แผ่นกันกระสุน ให้ม็อบ 6 เวที หนุนชุมนุม แผ่นกันกระสุน! ตอนนี้.. มีผู้บริจาค สแตนเลสเหนียว กันกระสุน มาให้เวทีชุมนุม คปท. จำนวน 200 แผ่น จากนาม”

ศิษย์เก่า วิศวฯ จุฬาฯ” โดยได้บริจาคแผ่นกันกระสุนแบบนี้ ผ่านชมรมนักธุรกิจ ให้ที่ อีก 5 เวทีด้วย ได้แก่ อโศก, ปทุมวัน, สีลม, ราชประสงค์ และกระทรวงพลังงาน / ตกแผ่นละ 2พันบาท/ ปกติ มักนิยมใช้ในห้องเย็น (15:40)


อิสสระ ขู่ โกตี๋ หากจ้องป่วนเวทีห้าแยกลาดพร้าวอีก จะคุยด้วยลูกปืน

อิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. ขู่ โกตี๋ เสื้อแดง หากจ้องป่วนเวทีห้าแยกลาดพร้าวอีก จะคุยด้วยลูกปืน ลั่นถ้ามายุ่งอีกไม่ตนก็ โกตี๋ เป็นผีกันไปข้าง

วันนี้ (21 มกราคม 2557) นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. ห้าแยลาดพร้าว กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ที่ผ่านมา นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี จ้องจะยุ่งกับพวกเราที่นี่ และนับจากนี้หากโกตี๋มายุ่งกับพวกเราอีก ไม่ตนก็โกตี๋ เป็นผีกันไปข้างหนึ่ง ตลอดเวลาใครจะทำอะไรก็ทำไป เวลาโกตี๋ชุมนุมตนก็ไม่เคยไปกวน แต่ถ้าวันนี้โกตี๋มายุ่ง หรือเข้ามาใกล้เกินความจำเป็น จะเอาลูกปืนพูดกันดูสักครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่าย ทาง กปปส. ห้าแยกลาดพร้าว ได้แยกย้ายกับพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนทางด้านแกนนำได้เดินตรวจพื้นที่การชุมนุมตั้งแต่หน้าเวทีจนถึงฝั่งธนาคารทหารไทย เพื่อดูความเรียบร้อยในการรักษาความปลอดภัย


"กำนันสุเทพ"โดน ลีน่าจัง โวยปิดกรุงทำธุรกิจเจ๊ง๘พันล้าน

วันนี้(21 ม.ค.) ลีน่าจัง พิธีกรช่องฮอตทีวี ได้เผยกลางรายการไม่พอใจกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณไม่ยอมแตกหักจัดการกับรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาดตามที่ได้มีการประกาศไว้ว่าจะมีการให้มวลมหาประชาชนไปคุมตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาทิตย์หน้า ซึ่งตอนนี้ก็อาทิตย์หน้าตามที่ได้มีการประกาศไว้แต่นายสุเทพ กลับไม่ทำตามคำที่เคยพูด มิหนำซ้ำยังปิดถนนทำให้ประชาชนรวมทั้งตนเดือดร้อน แล้วไม่ทำอะไรสักทีได้แต่เดินขอบริจาคเงินจากประชาชน สร้างภาพว่ากินข้าวกลางถนน แต่แท้จริงแล้วกินข้าวในโรงแรม เปิดห้องในโรงแรมนอนปิดถนนไป 8 วันได้ไปแล้ว 400ล้านบาท แต่พวกตนได้รับผลกระทบเสียหายไปแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท

ซึ่งนายสุเทพ เคยบอกไว้ว่าจะไปปิดธุรกิจของตระกูลชินวัตรแต่กลับมาปิดถนนย่านธุรกิจซึ่งพวกตนไม่ใช่คู่กรณีของนายสุเทพแต่มาปิดล้อมทำไม ตอนนี้เจ๊งหมดแล้ว ตอนนี้ม็อบกลายเป็นธุรกิจไปแล้ว เรียกร้องให้รัฐบาลใช้สไนเปอร์ยิงหัวสุเทพเลย อย่ามาฆ่าประชาชน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แล้วยังไปใส่ร้ายผู้ประกาศข่าวช่องอื่นอีกhttp://news.mthai.com/general-news/304100.html


วินมอไซต์BTSหมอชิตดักคนหน้าบันไดเลื่อนแถมพูดไม่ดี

วันนี้(21 ม.ค.) ชาวสังคมออนไลน์แชร์ภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ @uyakung ซึ่งได้มีการทวิตภาพและข้อความส่งไปถึง จส.100 แฉพฤติกรรมไร้มารยาทของวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต โดยมีลักษณะของการมายืนดักรอตั้งแต่บันไดเลื่อนพร้อมพูดชวนให้ใช้บริการ แต่เมื่อใครไม่ใช่บริการก็มีการพูดไล่หลังแบบไม่ดีใส่ด้วย
“…มอเตอร์ไซค์บีทีเอสหมอชิต รุมขนาดนี้เลย ไม่ไหวค่ะ พอไม่ไปก้อพูดไล่หลัง “งั้นเดินไปเหอะเจ้ “…”
999952_688640304492873_1278676324_n
ทั้งนี้จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและขัตดาวน์กรุงเทพ ทำให้หลายพื้นที่ปิดการจราจร ซึ่งวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้บริการแต่ปรากฎว่าค่าโดยสารถูกปรับขึ้นสูงเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะบริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตที่ปกติค่าโดยสารแพงอยู่แล้ว กลับแพงมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก
แม้กองบังคับการตำรวจจราจร ได้เรียกให้ประธานสมาคมวินมอเตอร์ไซค์ ,หัวหน้าวินจักรยานยนต์รับจ้างทั่ว กทม. มาทำข้อตกลงร่วมกันและทำสัตยบรรณที่จะไม่เรียกค่าโดยสารจากประชาชนเกินราคา  โดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 5,000 บาทแต่มาตรการดังกล่าวยังไม่เป็นผล

แผน…ปฎิวัติตัวเอง?

เพจ ของ"ไพศาล พืชมงคล"นำบทความของ"เสธน้ำเงิน"มาลง อ้างถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเหตุการณ์สถานการณ์การใช้ความรุนแรงช่วงหลายวันที่ผานมากับ ม็อบ กปปส.เพื่อโยงไปถึงแผน ปฏิวัติตัวเองของรัฐบาล...


เปิดโปงแผนโง่…ปฏิบัติการหน้ามืดรัฐแดงให้ชายชุดดำปฎิวัติตัวเอง

20 ม.ค.57 เปิดโปงแผนโง่…ปฏิบัติการหน้ามืดรัฐแดงให้ชายชุดดำปฎิวัติตัวเองแล้วแกล้งแพ้

ข้างในพรรคแดงตอนนี้ดิ้นทุรนทุราย แตกพล่าน งัด "ปฏิบัติการหน้ามืด" ทุกรูปแบบนำมาใช้ ชนิดไม่อายทั้งคน-ทั้งหมา! โดยขณะนี้ความโง่ของพรรคแดงถึงจุดสูงสุด คือ

1. ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนกำหนดเลือกตั้ง สั่งกองกำลังแดงฮาร์ดคอร์ ลอบโจมตี ฆ่า แกนนำ กปปส.ให้ได้ แม้ว่าจะกินแห้วไปแล้วถึง 2 คราในการลอบสังหารสุเทพ และถาวร จุดพลาดของพรรคเผาไทย คือภาพวงจรปิดได้จับใบหน้ากองกำลังแดงฮาร์ดคอร์ ลูกน้องเก่า เสธ.แดงหัวเป็นรูได้

2. ทีมรัฐแดงทำงานปาระเบิดถาวร กปปส.ครั้งนี้มี 6 คน คนลงมือเป็นคนเดียวกับที่เคยถูกจับในการขว้างระเบิดชนิดเดียวกันนี้ตอนเผาเมืองปี 53 นั่นเอง และมันทึ่มขนาดเอาระเบิด RGD-5 รัสเซีย Lot.48 ที่เคยถูกจับปี 53 มาใช้ในปี 57 อีก...ฉลาดไม่ต่างจากปูนายมัน ตอนนี้ทีมสังหารแดงฮาร์ดคอร์ทั้ง 6 คน ถูกรัฐแดงสั่งให้หัวหน้าชายชุดดำจัดทีมสังหาร ตาม “ ฆ่าตัดตอน “ ทุกคนด่วน ก่อนที่จะถูกชายชุดเขียวจับได้และสารภาพเชื่อมมาถึงพรรคเผาไทยเอง

3. เมื่อหลักฐานมันกระชับล้อมใกล้เข้ามา พรรคเผาไทยจึงงัด "ปฏิบัติการหน้ามืด" ขั้นจนตรกอกสุดท้ายแบบคนโง่ธรรมดาคิดไม่ได้ คือ
- เกมส์ลวง ให้แกนนำแดงเผาเมือง และแดงล้มสถาบัน ออกสื่อสร้างข่าวร่วมกับฟรีทีวี สร้างข่าวลวงโลกชวนไปเลือกตั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 57 กันเถอะ
- แกนนำแดงเกือบทั้งหมด และหัวหน้ากองกำลังชายชุดดำ สุมหัวกันที่โรงเรียนชายชุดดำสามพราน วางแผนโง่ร่วมกัน
- ดังนั้นช่วง 17-20 ม.ค. หัวหน้าชายชุดดำ จึงสั่งเคลื่อนกำลังพลจากอีสานเป็นหลัก และจากจังหวัดที่ไว้ใจได้ เช่น เช้า 20 ม.ค. เข้ามาทาง BTS วงเวียนใหญ่ , ถนนสาธร ฯลฯ กะหยิ่มใจว่าจะมาคุมเมืองหลวงให้อยู่หมัด โดยอ้างแบบโง่ขั้นเทพว่า “สับเปลี่ยนกำลัง”
- เกมส์จริง คือ รัฐแดงสั่งให้หัวหน้าชายชุดดำทำการปฏิวัติยึดอำนาจล้างไพ่ Set Zero รัฐแดงตัวเองโดยมีชายชุดเขียวบางคนที่ทรยศพวกตนเองไปสมคบร่วมมือด้วย ดังนั้นเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ปูแดงจึงเดินทางถึงสำนักงานปลัดกระทรวงชายชุดเขียว เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ กะว่าไปนั่งรอกินกาแฟรอเวลา แล้วปูแดงจะแสร้งร้องให้ออกทีวี และรีบสมยอมแพ้แบบเร็วมาก จากนั้นให้ชายชุดดำและชายชุดเขียวทรยศตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ เป็นขี้ข้าพรรคเผาไทยและปูเช่นเดิม เพื่อให้ตัวเองคุมอำนาจอีกครั้ง

4. แต่อนิจจา ฝันของชายดูไบ ปูแดง และอับดุล กลับกลายเป็นฝันเปียกเลอะเป้ากางเกงไปเสียแล้ว เพราะบิ๊กเขียวรู้ทัน ไม่ยอมนำรถเกราะและยุทโธปกรณ์ที่มาสวนสนามวันกองทัพไทย กลับหน่วยที่ตั้งปกติในต่างจังหวัด อ้างว่าให้อยู่ฝึกต่อ เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว จะได้ให้หน่วยอื่นได้ฝึกอาวุธ ศึกษา ลองใช้ที่ราบ 11 ก่อน...ก๊าก แล้วก็เลยจะถือโอกาสนี้รับใช้คนเมืองหลวง ใช้อาวุธหนักนี้ จัดงานวันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ต่อไปเลย

ว่างัยล่ะพรรคเผาไทย ชายดูไบ ปูแดง อับดุล แผน “ ปฏิบัติการหน้ามืด “ แกแตก ถูกเสธ น้ำเงินรู้ทันซะแล้วว่ะ...เปลี่ยนใหม่เหอะว่ะแผนนี้มันเห่ยเกินไป...ไม่แมน

@เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsec

กกต.เตรียมส่ง ศาล.รธน. ตีความชี้ขาดอำนาจการเลื่อนการเลือกตั้งพรุ่งนี้

กกต.เตรียมส่ง ศาล.รธน. ตีความชี้ขาดอำนาจการเลื่อนการเลือกตั้งพรุ่งนี้

updated: 21 ม.ค. 2557 เวลา 16:34:47 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มกราคมนี้ กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตามรัฐธรรมนูญมาตรา 214 ในกรณีที่มีความขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างสองค์กรขึ้นไป เพื่อให้ชี้ขาดเรื่องอำนาจการเลื่อนการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ เห็นว่าการเลื่อนการเลือกตั้งสามารถใช้ช่อง พ.ร.บ.เลือกตั้ง มาตรา 78 กรณีที่หน่วยเลือกตั้ง เกิดเหตุสุดวิสัย หรือเหตุ อื่นใดก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อให้รัฐบาลออก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้

ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับฟ้อง “ธาริต” ย้ายลูกน้องไม่เป็นธรรม!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม21 มกราคม 2557 16:08 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับฟ้อง “ธาริต” ย้ายลูกน้องไม่เป็นธรรม!
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ(แฟ้มภาพ)

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้อง อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ฟ้อง “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อธิบดีดีเอสไอ-รองปลัด ยธ.โยกย้ายไม่เป็นธรรม พร้อมนัดตรวจพยานหลักฐาน 31 มี.ค.นี้
      
       ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (21 ม.ค.) ศาลนัดฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์ คดีที่ พ.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
      
       โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 30 มี.ค.- 8 ต.ค. 2555 ต่อเนื่องกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จำเลยที่ 1 ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ และจำเลยที่ 2 ในฐานะรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการทำหนังสือโยกย้ายโจทก์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดี ซึ่งมีระดับต่ำกว่าเดิม อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยมาแก้ต่างคดี และพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เขตดุสิต กทม.
      
       คดีนี้หลังจากที่ศาลอาญาไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่มีมูลเพียงพอ ให้ยกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลอาญารับฟ้องคดี
      
       โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูล พิพากษากลับให้ศาลอาญารับฟ้องไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3873/2555 พร้อมนัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.