PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เปิดเอกสารสภาพัฒน์ มัด พาณิชย์ ละเมิดมติครม. หมกเม็ดการระบายข้าว

เปิดเอกสารสภาพัฒน์ มัด พาณิชย์ ละเมิดมติครม. หมกเม็ดการระบายข้าว เงินหมุนเวียนในโครงการ สะท้อน สามฤดูกาล ครม.ยิ่งลักษณ์ สุดชุ่ย มั่วเดินหน้าจำนำข้าว โดยไม่มีข้อมูลในมือ !

ผู้สื่อข่่าวรายงานว่า เพจTeam-Korn Chatikavanij Page ได้โพสต์เอกสารของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงวันที่ 7 มิ.ย. 56 เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 2 ของกระทรวงพาณิชย์ มีเนื้อหาที่น่าสนใจ คือ

กระทรวงพาณิชย์ควรจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน การระบายสต๊อกข้าว และกระแสเงินสดของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่มีอยู่ให้คณะรัฐมนตรีรับทราบเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 , 1 พ.ค.2555 และ 31 มีนาคม 2556 เพื่อให้ครม.มีข้อมูลในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ควรจัดทำระบบการกำกับตรวจสอบการดำเนินงานของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทั้งกระบวนการให้มีความรัดกุม

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลอดการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวตลอดสามฤดูกาลที่ผ่านมาคือ โครงการจำนำข้าวนาปี ปี 54/55 นาปรังปี 55 และนาปี ปี 55/56 กระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับการระบายข้าว และเงินหมุนเวียนที่ใช้ในโครงการให้ครม.รับทราบ แม้ว่าจะมีมติครม.ให้กระทรวงพาณิชย์รายงานข้อมูลดังกล่าวถึงสามครั้ง แต่ครม.ก็ยังอนุมัตให้มีการใช้เงินกู้ 5 แสนล้านเพื่อดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อไปและส่าสุดมติครม.วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังอนุมัตให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเพิ่มมาใช้ในโครงการจำนำข้าวเพิ่มจากวงเงินที่ครม.กำหนดได้เป็นกรณีพิเศษโดยตกลงเป็นรายกรณีกับกระทรวงพาณิชย์ อีกทั้งยังให้นำเงินที่ใช้ดำเนินโครงการมาหมุนเวียนข้ามฤดูกาลได้อีกด้วย สะท้อนให้เห็นว่า ทั้ง ๆ ที่ ครม.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการระบายข้าวในสต๊อคและยอดเงินที่ใช้ในโครงการอย่างชัดเจน เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้รายงานตัวเลขต่อ ครม. แต่ ครม.ยิ่งลักษณ์ ยังอนุมัตให้เดินหน้าโครงการต่อโดยลดหย่อนหลักเกณฑ์ให้ใช้เงินเกินกรอบห้าแสนล้านตามมติครม.เดิม และให้นำเงินมาหมุนเวียนข้ามฤดูกาลได้ด้วย แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมิได้พยายามที่จะหยุดยั้งความเสียหายจากโครงการนี้เลย

เซ็นทรัลแจง เป็นกลางทางการเมือง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์19 มิถุนายน 2556 17:35 น.
       ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เซ็นทรัลร่อนหนังสือแจง หลังถูกมองให้ใช้สถานที่ชุมนุมทางการเมือง ยันเป็นกลาง ไม่หนุนหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
      
       วันนี้ (19 มิ.ย.) ฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือชี้แจงประเด็นการชุมนุมทางการเมืองว่า จากกรณีที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่บริเวณศูนย์การค้าในเครือของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ช่วงที่ผ่านมา บริษัทตระหนักดีว่าการชุมนุมทางการเมืองเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงจุดยืนและนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้
      
       1. บริษัทขอยืนยันการดำเนินธุรกิจแบบมืออาชีพ และความเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด โดยไม่สนับสนุนหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยตรงหรือโดยอ้อม
      
       2. บริษัทไม่มีนโยบายคัดค้านการชุมนุมทางการเมือง แต่ไม่สนับสนุนให้กลุ่มใดมาใช้พื้นที่ในการชุมนุม หรือเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกรูปแบบ
      
       บริษัทประสงค์ให้ศูนย์การค้าทุกแห่งของบริษัทเป็นศูนย์กลางของชุมชน ในการที่สุจริตชนจะมาใช้ชีวิตพักผ่อนหย่อนใจอย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และให้ผู้ประกอบการสามารถเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ดำเนินกิจการค้าขาย รวมถึงเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อให้เกิดรายได้และเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน โดยบริษัทเป็นผู้ดูแลพื้นที่ ผู้ประกอบการ และประชาชนที่มาใช้บริการ
      
       ดังนั้น บริษัทจึงขออภัยที่ไม่สามารถอนุญาตให้ผู้ใดใช้พื้นที่ของศูนย์การค้าเพื่อการชุมนุมทางการเมือง หรือผิดไปจากจุดยืนดังกล่าวได้
      
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมากลุ่มหน้ากากขาวขอนแก่นนัดชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่ลานข้าวเหนียว ด้านหลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น นำโดยกลุ่มอีสาน อัพเดท และกลุ่มคนเสื้อแดงร้านลาบก้อย นปช. ข่มขู่ขับไล่ และทำหนังสือถึงผู้บริหารของห้างห้ามให้กลุ่มหน้ากากขาวใช้พื้นที่โดยเด็ดขาด
      
       ในที่สุดกลุ่มหน้ากากขาวขอนแก่นได้รวมตัวกันที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ฝั่งถนนมิตรภาพ โดยผู้บริหารห้างสั่งปิดประตูทางเข้า-ออกด้านหลัง เพื่อป้องกันเหตุปะทะของทั้งสองกลุ่ม