PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561

ผบ.ตร.ใบ้หวย

อีเจี๊ยบ เลียบด่วน
11 ชม.
มาแล้ว มาแล้ว มาอีกรอบ หลังจากไปให้ลูกเพจติวให้เรียบร้อย 55555555555
มีลูกเพจฉลาดก็ดีแบบนี้แหละ ได้ความรู้ใหม่ทุกวัน
จากการที่ ผบ.ตร. ท่านแถลงเรื่องหวย30ล้านไปตะกี้ แล้วหลายคนไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง กูก็ด้วย 55555
เพราะไม่เห็นท่านผบ. พูดออกมาชัดๆ ว่า
หวยเป็นของลุงจรูญโว้ย !!!
เลยทำให้ผมและหลายคน ไม่เก็ท ไม่เข้าใจ
ผู้สื่อข่าวหลายท่านก็ไม่เข้าใจ เลยพยามถามจี้ให้ท่านพูดออกมาชัดๆว่า หวยเป็นของใคร
ซึ่งท่านพูดออกมาแบบนั้นไม่ได้
ท่านก็เลยดูหงุดหงิด ไม่ได้หงุดหงิดเรื่องมีตำรวจเกี่ยวของ แต่หงุดหงิดกะความไม่เก็ทของคนถาม จะจี้ให้พูดอยู่ได้ 555555
เหตุผลเพราะ อีกส่วนนึง
คดีแพ่งเข้าสู้ศาลแล้ว ตำรวจจะมาบอกว่าหวยเป็นของใครไม่ได้ ต้องให้ศาลบอก
ตำรวจมีหน้าที่ทำเฉพาะคดีอาญา
ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาประกาศว่าหวยเป็นของใคร
ตำรวจแค่มีหน้าที่บอกว่า
ครูกะเจ๊แจ้งความเท็จหรือไม่
ซึ่งวันนี้ ก็บอกไปดังๆแล้วว่า เชื่อว่า ครูปรีชาและเจ๊ แจ้งความเท็จ!!!!
การทีี่ตำรวจขอศาลให้ออกหมายจับ และศาลก็ออกให้ ตำรวจก็จับมาเรียบร้อย
การที่ผบ.ตร. เอาฎีกา เอาข้อความของอัยการสูงสุดมาอ่านให้ฟังแล้ว
การที่ผบ.สอบสวนกลางบอกว่า คดีแบบนี้ มีห้าคดี มีคดีเดียวที่ถูกขโมยจริงคือที่สุพรรณ (ไม่ใช่ที่กาญ)
แค่นี้ .... มันก็เป็นการบอกกลายๆแล้ว ว่าหวยเป็นของใคร
แต่ที่พูดไปตรงๆไม่ได้ !!!!
ต้องรอให้ศาลท่านตัดสินเท่านั้น
เอาแบบตรงๆคือ
" กูทำถึงขนาดนี้ กูใบ้กันขนาดนี้ มึงยังไม่รู้อีกเหรอ ไอ้ฟายยย !!" 55555
ตอนนี้ผมรู้แล้วครับท่าน ผมขอโต๊ดดดด ผมโง่
Hair Wrong Gone จริงๆครับท่าน _/\_

อำลากาแฟดำ

‘กาแฟดำ’ ขอกราบอำลาจากที่นี่


เจาะประเด็นร้อน,กาแฟดำ,อำลา,คนบ้าข่าว

‘วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมเป็นพนักงานของเครือเนชั่นที่ผมมีส่วนร่วมก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ 1 กรกฎาคม 1971 หรือ 47 ปีก่อน

 

          พรุ่งนี้จะเป็นวันเริ่มขึ้นชีวิตใหม่ของ “คนบ้าข่าว” ที่ทุกจังหวะเต้นของหัวใจอยู่กับการสร้างเนื้อหาสาระเพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนในกรอบแห่งจริยธรรมและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ในวงการสื่อสารมวลชน

          ยิ่งในภาวะที่เกิดความเปลี่ยนแปลงถึงขั้น “ปั่นป่วน” เพราะเทคโนโลยีก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิถีปฏิบัติเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่รู้, พร้อมปรับตัว, สัตย์ซื่อต่อวิชาชีพและมีทักษะรอบด้านเพื่อทำหน้าที่ที่สังคมคาดหวังได้อย่างเต็มความสามารถ

          หากโครงสร้าง, บรรยากาศและวิธีคิดของสื่อกระแสหลักไม่เอื้อต่อการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างเป็นอิสระ

          หากความเป็นไปรอบด้านไม่สอดคล้องกับการสร้างคนรุ่นใหม่ในโลกที่ถูกวิทยาการใหม่สร้างความปั่นป่วนอย่างรุนแรงที่เรียกว่า disruption ทางเลือกสำหรับผมก็คือการก้าวออกมาสร้างสิ่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง

          ครั้งนี้จะไม่เหมือนการก่อตั้ง The Nation เพื่อให้คนไทยเป็นเจ้าของ, บรรณาธิการ, นักข่าวและผู้แสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษเป็นทางเลือกใหม่ในภาวะขณะนั้นที่มีฝรั่งกำหนดเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ

          ครั้งนี้จะไม่เหมือนการเปิดตัวหนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ที่ต้องการจะบุกเบิกสื่อสิ่งพิมพ์ธุรกิจรายวันเป็นครั้งแรกของประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้ทันกับข่าวสารรวดเร็วลุ่มลึกและรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ไม่น้อยหน้า The Wall Street Journal ของสหรัฐฯหรือ Financial Times ของอังกฤษ

          ครั้งนี้จะไม่เหมือนการก่อร่างสร้างสถานีวิทยุ Nation Radio ที่เป็นบุกเบิกการรายงานข่าว, วิเคราะห์ข่าวและสนทนาข่าวทางหน้าปัดวิทยุในรูปแบบของมืออาชีพที่ผิดแผกไปจาก “ข่าวของทางราชการ” ในยุคนั้น

          ครั้งนี้จะไม่เหมือนการร่วมก่อตั้ง ITV “ทีวีเสรี” ที่สร้างประวัติศาสตร์การทำข่าวทีวีที่เป็นอิสระ, มุ่งมั่น, จริงจังกับการรายงานข่าวโทรทัศน์อย่างที่วงการนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน

          ครั้งนี้จะไม่เหมือนการเปิดตัว Nation Channel จากเคเบิลทีวีที่เป็นการปูพื้นสู่การสร้างทีมข่าวมืออาชีพเพื่อการทำหน้าที่เป็น “สถานีข่าว 24 ชั่วโมง”

          ครั้งนี้ไม่เหมือนปรากฏการณ์ทุกจังหวะที่ผ่านมา เพราะโลกของสื่อสารมวลชนกำลังถูกบังคับให้ปรับให้เปลี่ยนในขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคและภูมิทัศน์แห่งสื่อกำลังเผชิญกับการเขย่าอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

          แต่ที่ไม่เปลี่ยนอย่างแน่นอนคือ จิตวิญญาณของการเป็นคนข่าวที่ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์, อิสระ, มุ่งมั่นและเคารพในจริยธรรมอย่างเคร่งครัดเพื่อปกปักรักษาไว้ซึ่ง “ความน่าเชื่อถือ” ในฐานะ “คนข่าวมืออาชีพ” จนกว่าชีวิตจะหาไม่

          ผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านคอลัมน์ “กาแฟดำ” ใน “กรุงเทพธุรกิจ” มากว่า 30 ปี

          ตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะไม่เจอกันที่มุมนี้อีกแล้ว แต่ขอสัญญาว่า “กาแฟดำ” จะไม่หยุดยั้งที่จะสะท้อนมุมมองของข่าวสารและสาระที่สำคัญต่อคนไทยในทุก ๆ ด้านต่อไปในเวทีและรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความสะดวกในชีวิตประจำวันของท่าน

          การเดินทางบนเส้นทางใหม่ของ “คนบ้าข่าว” เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้

          เราอาจไม่ได้เจอกันที่นี่อีก แต่เราจะพบปะเชื่อมโยงและมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและคึกคักกว่าเดิมอย่างแน่นอน

          ด้วยจิตคารวะอย่างสู