PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"สุเทพ" ดอดพบ "ประวิตร-ประยุทธ์-อนุพงษ์" ที่ ร.1 รอ.

วันอังคารที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ข่าวกองทัพ
"สุเทพ" ดอดพบ "ประวิตร-ประยุทธ์-อนุพงษ์" ที่ ร.1 รอ.

แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา13.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้เดินทางไปหารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ5 จังหวัดภาคตะวันออก และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ. ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร. 1 รอ.) ซึ่งคาดว่าจะเป็นการหารือ เพื่อหาแนวทางออกให้กับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า พราโด้ ไปรับนายสุเทพที่จุดนัดหมายเพื่อเข้ามาภายใน ร.1 รอ. จากนั้นได้ให้รถยนต์คันเดิมกลับออกมาส่งที่จุดนัดหมายในเวลาประมาณ 16.00 น. โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการเข้าพบครั้งนี้

กปปส.ประกาศ “ยิ่งลักษณ์-รัฐบาล” โมฆะ-เล็งหานายกฯ ใหม่"..//

“สุเทพ” อ่านประกาศ กปปส.ชี้นายกฯ-รัฐบาลโมฆะตั้งแต่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หนำซ้ำยุบสภาโดยไม่รอพระราชกฤษฎีกา เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ เตรียมจัดหานายกรัฐมนตรีใหม่ ที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ พร้อมขอให้มั่นใจแนวทางประชาภิวัฒน์ต่อผู้ชุมนุม
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่แยกสวนมิสกวัน เมื่อเวลา 19.15 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้อ่านประกาศ คณะกรรมการ กปปส.ฉบับที่ 1/2556 เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลโมฆะตั้งแต่วันที่ประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

ขณะเดียวกัน การประกาศยุบสภา โดยไม่รอพระราชกฤษฎีกา เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้รัฐบาลยุบสภาแต่ก็ไม่สามารถรักษาการต่อได้ นายกรัฐมนตรีเป็นโมฆะ จึงทำหน้าที่ไม่ได้แล้ว เมื่อรัฐบาลไม่มีอำนาจรักษาการ ขณะนี้จึงเป็นสุญญากาศ เป็นช่องว่างทางอำนาจ จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนในการจัดหานายกรัฐมนตรีใหม่ ที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชาภิวัตน์ครั้งนี้ และจะประกาศความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

มีรายงานว่า นายสุเทพ จะปราศรัยอีกครั้งในเวลา 20.00 น.และเวลา 22.40 น.จะอ่านคำสั่ง กปปส.

รายละเอียด สุเทพ ประกาศคณะกรรมการ กปปส.

เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นอ่านประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ความว่า

ประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556
เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ความว่า "ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.มีสาระสำคัญขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐาน และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อันเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกร้องได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ด้วยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งดังกล่าว ได้แถลงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรีได้นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งที่เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาและกระบวนการแก้ไขไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคห้า ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ให้ต้องปฏิบัติตามเป็นเด็ดขาด และต่อมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2556 นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยยังมิได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร อันมาตรา 108 บัญญัติให้เป็นพระราชอำนาจ นับเป็นการกระทำอันล่วงละเมิดพระราชอำนาจอย่างชัดแจ้งที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังปรากฏตามแถลงการณ์ของสภาทนายความ การกระทำทั้งหลายดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันจงใจกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริต และตั้งต้นอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ตกเป็นโมฆะนับตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการกระทำที่เป็นการจงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยไม่สุจริตดังกล่าว มีความร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่อาจจะให้รัฐบาลชุดนี้ใช้อำนาจในนามของประชาชนได้อีกต่อไป

ดังนั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะได้มีการประกาศยุบสภาไปแล้วก็ตาม ก็ไม่ส่งผลให้รัฐบาลที่สิ้นสภาพไปแล้วรักษาการต่อไปได้ เมื่อกรณีเป็นไปตามความดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าเวลานี้ ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศ เนื่องจากไม่มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว จึงชอบที่จะต้องมีการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 โดยการจัดให้มีนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ เพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตจำนงของมวลมหาประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ ขอให้มวลมหาประชาชนได้มั่นใจกับหลักการประชาภิวัฒน์ ด้วยวิธีสงบ สันติ อหิงสาต่อไป และศรัทธาเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์แห่งมวลมหาประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง และได้ทวงคืนกลับมาไว้ได้โดยสิ้นเชิง และพร้อมที่จะประชาภิวัฒน์ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 10 เดือนธันวาคม พ.ศ.2556

ลงชื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เลขาธิการคณะกรรมการ กปปส.

http://astv.mobi/AgWxkJC
"กปปส.ประกาศ “ยิ่งลักษณ์-รัฐบาล” โมฆะ-เล็งหานายกฯ ใหม่"..//**“สุเทพ” อ่านประกาศ กปปส.ชี้นายกฯ-รัฐบาลโมฆะตั้งแต่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หนำซ้ำยุบสภาโดยไม่รอพระราชกฤษฎีกา เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ เตรียมจัดหานายกรัฐมนตรีใหม่ ที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ พร้อมขอให้มั่นใจแนวทางประชาภิวัฒน์ต่อผู้ชุมนุม
       

       
       วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่แยกสวนมิสกวัน เมื่อเวลา 19.15 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้อ่านประกาศ คณะกรรมการ กปปส.ฉบับที่ 1/2556 เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลโมฆะตั้งแต่วันที่ประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
       
       ขณะเดียวกัน การประกาศยุบสภา โดยไม่รอพระราชกฤษฎีกา เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้รัฐบาลยุบสภาแต่ก็ไม่สามารถรักษาการต่อได้ นายกรัฐมนตรีเป็นโมฆะ จึงทำหน้าที่ไม่ได้แล้ว เมื่อรัฐบาลไม่มีอำนาจรักษาการ ขณะนี้จึงเป็นสุญญากาศ เป็นช่องว่างทางอำนาจ จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนในการจัดหานายกรัฐมนตรีใหม่ ที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชาภิวัตน์ครั้งนี้ และจะประกาศความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
       
       มีรายงานว่า นายสุเทพ จะปราศรัยอีกครั้งในเวลา 20.00 น.และเวลา 22.40 น.จะอ่านคำสั่ง กปปส.
       
       รายละเอียด สุเทพ ประกาศคณะกรรมการ กปปส.
       
       เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นอ่านประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ความว่า
       
       ประกาศคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556
       เรื่อง ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี
       
       ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ความว่า "ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.มีสาระสำคัญขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐาน และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อันเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกร้องได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ด้วยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยแล้วนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งดังกล่าว ได้แถลงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรีได้นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งที่เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาและกระบวนการแก้ไขไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคห้า ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ให้ต้องปฏิบัติตามเป็นเด็ดขาด และต่อมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2556 นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยยังมิได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร อันมาตรา 108 บัญญัติให้เป็นพระราชอำนาจ นับเป็นการกระทำอันล่วงละเมิดพระราชอำนาจอย่างชัดแจ้งที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังปรากฏตามแถลงการณ์ของสภาทนายความ การกระทำทั้งหลายดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันจงใจกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริต และตั้งต้นอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ตกเป็นโมฆะนับตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการกระทำที่เป็นการจงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยไม่สุจริตดังกล่าว มีความร้ายแรงถึงขนาดที่ไม่อาจจะให้รัฐบาลชุดนี้ใช้อำนาจในนามของประชาชนได้อีกต่อไป
       
       ดังนั้น แม้นายกรัฐมนตรีจะได้มีการประกาศยุบสภาไปแล้วก็ตาม ก็ไม่ส่งผลให้รัฐบาลที่สิ้นสภาพไปแล้วรักษาการต่อไปได้ เมื่อกรณีเป็นไปตามความดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าเวลานี้ ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศ เนื่องจากไม่มีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว จึงชอบที่จะต้องมีการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 โดยการจัดให้มีนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ เพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตจำนงของมวลมหาประชาชนต่อไป
       
       ทั้งนี้ ขอให้มวลมหาประชาชนได้มั่นใจกับหลักการประชาภิวัฒน์ ด้วยวิธีสงบ สันติ อหิงสาต่อไป และศรัทธาเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์แห่งมวลมหาประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง และได้ทวงคืนกลับมาไว้ได้โดยสิ้นเชิง และพร้อมที่จะประชาภิวัฒน์ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 10 เดือนธันวาคม พ.ศ.2556
       
       ลงชื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
       เลขาธิการคณะกรรมการ กปปส.

http://astv.mobi/AgWxkJC

พรบ.2ล้านล้านยังไม่ตกตามสภา


"ชัชชาติ"เผยพรบ.2ล้านล้านยังไม่ตกตามสภา เชื่อรัฐบาลใหม่มานำทูลเกล้าฯได้
 
(10/12/56)นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวก่อนการประชุมครม.ถึงการดำเนินการต่อของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน2ล้านล้านบาทภายหลังจากมีการยุบสภาแล้วว่า แม้จะมีการยุบสภาแล้วแต่ครม.ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามว่าพ.ร.บ.2ล้านล้านบาทจะตกไปตามสภาหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าพ.ร.บ.2ล้านล้าน ผ่านสภาวาระที่3เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการทูลเกล้าฯ เนื่องจากต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียก่อน จึงคิดว่ารอให้รัฐบาลใหม่มารอนำทูลเกล้าฯ

อย่างไรก็ตามโครงการต่างๆที่หน่วยงานทำอยู่นั้นก็ยังไม่ได้หยุด ยังคงศึกษารายละเอียดและเตรียมความพร้อมต่อไป หากรัฐบาลใหม่มาก็เข้ามาเดินต่อได้ถึงแม้ว่าอาจจะช้าเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าโครงการต่างๆที่รัฐบาลชุดนี้จะได้สานต่อหรือไม่ รมว.คมนคาม กล่าวว่า ราชการยังเป็นหน่วยงานหลักที่มีข้าราชการชุดเดิมทำอยู่ หลายโครงการที่รัฐบาลชุดนี้ทำก็เป็นโครงการต่อเนื่องจากรัฐบาลก่อน จึงคิดว่าเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ก็ทำต่อเพราะประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อไป


ประมวลภาพ9ธ.ค.56มวลมหาประชาชนเคลื่อน

ประมวลภาพ วันที่ 9/12/56






























ขออีก3วันพี่น้อง

เราต้องจบก่อน 11 พฤศจิกายน
17 พฤศจิกายน เราจบแน่พี่น้อง
24 พฤศจิกายน มวลมหาประชาชนชนะแล้ว
25 พฤศจิกายน เผด็จศึกรัฐบาลพี่น้อง
26,27,28,29 พฤศจิกายน ยึดนั่น ยึดโน่น ยึดนี่ ชนะแน่นอนพี่น้อง
30 พฤศจิกายน ต้องจบภายในวันสองวันนี้พี่น้อง
1-2 ธันวาคม เราชนะแล้วพี่น้องเอ้ยยยย
3-4 ธันวาคม บุกทำเนียบได้ เราชนะขั้นต้นแล้วพี่น้อง
9 ธันวาคม วันนี้เราชนะแล้วพี่น้อง อยู่อีกสามวันถึงวันที่12นะพี่น้อง

ชนะแล้วอยู่ต่อเพื่อ ????




จากFB Nop FireBird Kongsuwan

เฉลิมชาตรี ยุคล:ดูเหมือนประเทศไทยเป็น อนาธิปไตย

วันนี้ดูเหมือนประเทศไทยเป็น อนาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จริงๆครับ

- เราจำกัดพระราชอำนาจในหลวง แต่มักใช้ชื่อพระองค์ในการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ..... ไม่ต้องปกป้องท่านถ้าไม่ได้ทำด้วยเจตนาที่ดี

- การยั่วยุให้คนอื่นทำร้ายกัน หรือการทำร้ายคนอื่นไม่ว่าฝ่ายไหน แค่คุณมีเจตนา มันก็ผิดแล้ว .... ความชอบธรรมของการประท้วง การปราบการประท้วง การรัฐประหาก หรืออะไรก็ตามแต่มันจะหมดไปเมื่อมีคนซักคนเจ็บตัว

- ถ้ายุบสภา แล้วเราจะยกใครเป็นนายกต่อ ? ถ้าแดงไป สีใดจะครองแผ่นดินต่อ ? แล้วใครจะออกแบบกลไกที่จะปกป้องชาติบ้านเมืองจากความโลภ ความโง่ และความต้องการอันไม่สิ้นสุดของคนอีก ? ถ้าไม่มี มันจะไม่เหมือนอียิปต์หรือครับ ? ประเทศที่ประท้วงทุกคนที่ขึ้นมามีอำนาจ ฆ่ากันทุกวัน ไม่มีผู้นำ ใครเห็นขัดใจก็ล้มโต๊ะ ไม่มีกฏหมาย ไม่มีความเคารพในสิ่งใดๆ บ้านเมืองแตกแยกจนสิ้นอารยธรรม

- จะทำลายสาธารณูปโภคทำไม ? บ้านไม่จ่ายภาษีหรือไงครับ ? คุณเป็นกบฏหรือ ? ทุกอย่างสร้างขึ้นจากเงินของประชาชนทุกคนรวมกัน การไปทำลายมันไม่ได้ช่วยให้คนเห็นด้วยกับคุณ เวลาเค้าจะปิดประเทศฆ่ากันเท่านั้นที่จะตัดระบบการสื่อสาร ตัดอินเตอร์เน็ต ....อยากเป็นเกาหลีเหนือ ? อยากทำสงคราม ? ไม่เคยเห็นเวลาอเมริกามันฆ่ากันตายเป็นล้านๆคน ไม่เคยเห็นจีนที่ฆ่ากันตายจนคนแห่มาอยู่เมืองไทยเยอะอย่างทุกวันนี้ ฆ่ากันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่รู้กี่สิบกี่ล้านคน ไม่เคยเห็นบอลเชวิกที่มันฆ่ากันทั้งประเทศมาจนถึงสมัยสตาลินที่ไล่เก็บคนไม่เห็นด้วยทางการเมือง ไม่เคยเห็นโซมาเลียที่ไม่เห็นด้วยก็ฆ่าล้างเผ่าพันธ์กัน .... แค่ไม่เคยมีคนลากพ่อคุณพี่ชายคุณมายิงเป้าหน้าบ้านแล้วลากแม่คุณเมียคุณไปข่มขืนตัดหัวนมแล้วแขวนคอหน้าหมู่บ้านไม่ได้หมายความว่าคุณจะนึกคึกสนุกกับการยกระดับความรุนแรงและสร้างความขัดแย้งในประเทศชาติได้ ....

- เมื่อไหร่จะยอมรับซักทีว่าเราใช้ประชาธิปไตยไม่เป็น ... เราเป็นประเทศลัทธิเสียงข้างมากจากระบอบทุนนิยมสุดขั้ว เชื่อแต่เงิน ... ศาสนาที่เราไหว้กันก็เอาไว้เวลาขอหวยเท่านั้น .... ไอ้คำว่าสันติ ขันติ ปัญญา มันไม่เคยอยู่ในสมองเลย มีแต่บ้าลูกยุ บ้าลูกยอ บ้า Gimmick บ้าๆบอๆ อะไรถูกก็ว่าถูก อะไรผิดก็ว่าผิดสิ .... เราไม่ใช่คนเขียนกฏหมาย ...ชอบหรือไงอนาธิปไตย

- ลูกหลานเหลนโหลนมันเรียนหลักสูตรประวัติศาสตร์ชาติไทย มันจะมองเราวันนี้ยังไง ? เหมือน 6 ตุลาไหม ? เราแตกแยกกันเกินไป ไม่เคยยอมรับความจริง หลายๆคนคอรัปชั่น ชาวบ้านรับเงิน คนมีความเชื่อก็ไม่ยอมรับผู้อื่น นักการเมืองก็โกงกิน เขียนกติกาใหม่ คนไม่ได้ประโยชน์ก็จะล้มโต๊ะอย่างเดียวแต่ไม่สนใจในการสร้างระบบป้องกันมันขึ้นมาใหม่ เราก็จะวนกันแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน ถึงจะหมดยุคคุณทักษิณไปแล้ว ก็จะมีคนใหม่มาแทนอยู่ดี เพราะเราอ่อนแอทางความคิดเกินไป

- เราไม่เชื่อในการทำอะไรในวิธีที่ยาก .... เราไม่เคยทำอะไรแบบที่เยอรมันหรือเกาหลีทำ... ไอ้ความรักชาติมันแปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบการปฏิรูปตัวเอง ปฎิรูปกรอบความคิด กลายเป็นความสามัคคีและการแข่งขันพัฒนาตัวเอง (จนน่ากลัว) แต่บ้านเรากลับไปในทิศทางตรงข้าม รักชาติมากเลยต้องทำลายฝั่งตรงข้ามก่อน รักชาติมากเลยต้องตัดเน็ตตัดไฟไล่ยิงชาวบ้าน .... มันเหมือนอะไรรู้ไม๊ครับ ?.... มันเหมือนตอนนาซีโทษชาวยิวแล้วฆ่าล้างโคตรเขา .... แล้วนี่คือการสร้างโลกประชาธิปไตยหรือไม่ ... เปล่าครับ ... มันเป็นการทำลายบ้านเมืองเราต่างหาก

แค่ให้คุณสุเทพเข้าไปพูดบนเวทีราชมังฯ แล้วเอาคุณณัฐวุฒิไปพูดที่อนุเสาว์รีย์ก็ยังทำไม่ได้เลย .... เพราะเราไม่ยอมรับฟังอะไรกันทั้งนั้น ... หน้ามืดตามัวไปกับกระแสอะไรก็ไม่รู้ 

อยากจะรักชาติ.... ชาติไม่ต้องการเลือดหรือคนบ้าเพิ่มอีกซักคนหรอกครับ .... ชาติต้องการความรู้และสติ ต้องการคนที่พูดตรงไปตรงมา ... รู้ว่าเมื่อไหร่จะลุกขึ้นมาเรียกร้อง เมื่อไหร่ควรจะหยุด เมื่อไหร่จะให้โอกาสผู้อื่นและเมื่อไหร่จะใช้โอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์ต่อชาติเอง

ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มีเลย .... มีแต่คนปิดถนนตีกัน

ที่มา : จาก FB Chalermchatri Yukol 30 พ.ย.56

Thailand’s Military – An Important Independent Institution

ทหารไทยอ่านตรงนี้หน่อย ภัยคุกคามประเทศ ขณะนี้เกิดจากต่างประเทศเข้ามาแทรกแซง และชักใยอยู่เบื้องหลังรัฐบาล เป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องป้องกัน อย่าหวั่นวิตกกับ การวิพากษ์วิจารณ์ หรือวาทกรรม ที่ปั้นแต่งขึ้นมา 

Global Research, December 08, 2013 เสนอบทความ สะกิดทหารไทย ชื่อ Thailand’s Military – An Important Independent Institution เขียนโดย Tony Cartalucci

มูลนิธิเอเชีย หรือ Asia Foundation จัดตั้งขึ้นโดย CIA มูลนิธินี้ละตัวดี เป็นแนวหน้าของ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และมีผลประโยชน์ กับบริษัทการเงินวอลล์สตรีท ลอนดอน องค์กรทั้งสอง พยายามโค่นล้ม สถาบันอธิปไตยของประเทศไทย ด้วยการหนุนหลัง รัฐบาลทักษิณ ซึ่งเรียกร้องให้ดำนินการ สำรวจความเห็นประชาชนไทย เพื่อหา จุดอ่อน จุดแข็ง ทั้งกลุ่มอำนาจเดิม หรือ Thai establishment และรัฐบาลตัวแทน ทักษิณ

จากการทำแบบสำรวจ “การสำรวจความคิดเห็น ของกลุ่มคนระดับชาติ ที่มีต่อการเลือกตั้งทั่วไป” แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับองค์กรทั้งสองและรัฐบาลตัวแทน ไม่น่าพอใจนัก ........ดู chart 7.3

จากร้อยละ 62 ของปี 2552 ความเห็นของคน ที่มีต่อฝ่ายทหาร ในฐานะการเป็นสถาบันอิสระที่สำคัญ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 63 ในจำนวนนี้ ในฐานคะแนนเสียง ของรัฐบาลในชนบท ประชาชนให้การสนับสนุน ถึงร้อยละ 61 ส่วนกลุ่มที่ไม่ให้การสนับสนุนทหาร เป็นกลุ่มส่วนน้อย “แดง” แต่ในกลุ่มเสื้อแดง ได้ให้การสนับสนุนทหารถึงร้อยละ 30

ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า คนไทยที่แสดงตัวว่า เป็นเสื้อแดงสนับสนุนรัฐบาล ถือว่าเป็นตัวแทนของ ชนกลุ่มน้อยขนาดเล็ก ที่มีเพียงร้อยละ 14 ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ คิดว่าตนเองเป็นเพียง “เอียงข้างแดง” ทีสำคัญกว่านั้น คนไทยที่มี จำนวนมากกว่า (แดง) หรือคนไทยร้อยละ62 ยังเชื่อมั่นทหารไทย ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลทักษิณออกจากอำนาจ ในปี 2549 ด้วยการทำรัฐประหาร ที่ไม่เสียเลือดเนื้อ และปราบปรามการก่อจลาจล ของทักษิณถึง 2 ครั้งในปี 2551 และ 2553 ทหารยังคงเป็นสถาบันอิสระที่สำคัญ ในการปกป้องและรักษาความมั่นคงของชาติ

#ขณะที่ตะวันตกและรัฐบาลชินวัตร พยายามสร้างภาพให้ #กองทัพเป็น “ผู้แทรกแซงที่ไม่เป็นประชาธิปไตย” แต่ประชาชนทั่วไปไม่เห็นเช่นนั้น ตะวันตกเองก็ไม่เชื่อว่ากองทัพ “ไม่เป็นประชาธิปไตย” แต่ตะวันตกเชื่อว่า เป็นสถาบันที่อิสระ ที่พวกเขาใช้อิทธิพลเพียงเล็กน้อย และเป็นสถาบันที่ตรวจสอบ และถ่วงดุลท้ายสุดที่ยืนอยู่ระหว่าง ราชอาณาจักรไทย กับวอลล์สตรีทที่ขายชาติ

แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตะวันตกได้รับประโยชน์ จากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด กับกองทัพไทย ผ่านการฝึกรบร่วมประจำปี “Cobra Gold” ดูเหมือนว่าไทย ได้เรียกร้อง ที่ตรงจุดในการให้เสรีภาพ มากกว่าคำสัญญา เงินทุน สิ่งล่อใจที่ตะวันตกให้ แล้วก็ไม่ปฏิบัติตาม เหมือนอย่างชาติอื่น เคยถูกระทำมาแล้ว กองทัพไทย เหมือนกับกองทัพอียิปต์ และปากีสถาน ที่เต็มใจรับเงินทุน การฝึกอบรมและอาวุธ แต่ก็ยังรักษาความเป็นอิสระต่อไป

กองทัพไทยได้ทำการรัฐประหาร โค่นล้มเผด็จการทักษิณ ชินวัตรเมื่อปี 2549 ที่วอลล์สตรีทหนุนหลัง ทักษิณได้ปรากฏตัวต่อ CFR เพื่อรายงานความก้าวหน้า ขณะที่ตะวันตก พยายามโจมตีกองทัพไทยว่า “ไม่เป็นประชาธิปไตย “ แต่ที่จริงแล้ว #กองทัพไทยปฏิบัติหน้าที่ ในการ #ป้องกันประเทศ จาก#ศัตรูทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ความหวังของตะวันตก ที่จะให้มีการติดต่อสายตรง ”ทางโทรศัพท์” กับชนชั้นนำของไทย ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ที่เป็นประวัติศาสตร์ ของประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯ #ยังคงกดดันฝ่ายทหาร ตั้งแต่ปี 2549 ที่โค่นล้มทักษิณ ที่สหรัฐฯ นับเป็นหลักฐาน เพียงพอที่จะทำให้ ทหารระดับสูงและระดับล่าง เข้าใจถึงลักษณะของตะวันตก เป้าหมายสุดท้ายของตะวันตก คือ #การลดบทบาทของทหาร ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ของรัฐบาลตัวแทน ที่พวกเขาจะลดทอน การได้รับการนับถืออย่างแพร่หลาย และการมีบทบาทเป็นหนึ่งเดียวในสังคมไทย

ฝ่ายทหารไทยอาจจะยัง ไม่โดนครอบงำจาก อิทธิพลวอลล์สตรีท เหมือนในกัมพูชา ซึ่งหน่วยทั้งหมด ได้ขายผลประโยชน์ ให้กับต่างประเทศในฐานะ เป็นทหารรับจ้าง เพื่อป้องกันแผ่นดิน ที่ยึดมาจากประชาชนกัมพูชา

ในประเทศไทยทุกวันนี้ มหาอำนาจตะวันตกได้ต่อสู้ เพื่อให้รัฐบาลตัวแทน ได้ครองอำนาจ สื่อตะวันตก ได้กล่าวหาทหารไทยอีกครั้ง โดยพยายามกล่าวว่า เป็นความอัปยศที่ทหารไทย จะดำเนินการใดๆ ที่เป็นการนอกกรอบ แน่นอนว่าสื่อตะวันตก ได้สูญเสียความสำคัญในหลายปี ที่ผ่านมา และพยายามกล่าวหาทหารไทย ไม่ให้ปฏิบัติการใดๆที่เป็นเรื่องสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย ที่ควรจะได้รับรู้ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ 

หลังการรัฐประหาร ทักษิณ #ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากวอชิงตัน วอลล์สตรีท และเครื่องมือการโฆษณาชวนเชื่อ ที่จะทำให้เขากลับคืนสู่อำนาจ
โดย สภาความสัมพันธ์กับต่างประเทศ หรือ Council on Foreign Relations (CFR) ได้ประสานประโยชน์ กับกลุ่มการเงิน และให้การสนับสนุนชินวัตร มานานนับสิบปี ได้ตีพิมพ์บทความชื่อ “Can Thailand Break Its Coup Addiction?”

ถึงแม้ว่าประเทศไทย ถูกปกครองอย่างเปิดเผย โดยทักษิณ ซึ่งถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรคนสำคัญ คนสั่งการสังหารหมู่ นักโทษทักษิณ ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ไม่ได้อยู่ในการลงคะแนนเสียง และแม้กระทั่งไม่ได้ อยู่ในประเทศ CFR ได้แสดงให้เห็นว่าระบอบการปกครอง ในปัจจุบันเป็นถูกต้องตามกฎหมาย "ประชาธิปไตยรัฐสภา” การรัฐประหารเป็นเรื่องล้าสมัย ไม่จำเป็น และทำลายประเทศ ประชาธิปไตย ในเมื่อCFR มีวิธีการของตนเอง ทักษิณก็ไม่ควรบริหารประเทศ ผ่านน้องสาว ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งได้แสดงบทบาท ที่งดงามตามแบบ banana republic-style corruptionไปแล้ว หรือแม้กระทั่งกลับสู่ประเทศไทย และครองอำนาจ เพื่อหาทางจ่ายคืน ให้ตะวันตกที่หนุนหลัง มานานนับสิบปี

แน่นอนว่า CFR ไม่มีทางที่จะพูด ถึงการกระทำ ของมหาอำนาจตะวันตก ที่ถูกต้องทำนองคลองธรรม และไร้จริยธรรม เพื่อสนับสนุน ทักษิณ ดังนั้นทหารไทย จึงไม่ควร ฟังเสียงนกเสียงกา ของพวกที่มาแสวงประโยชน์ ด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้บทบาท ที่ทหารควรจะต้องทำโดนบิดเบือนไป 

#ฝ่ายทหารไม่ว่าชาติใด เป็นผู้มีอำนาจ และมี #ภารกิจในการป้องกันศัตรู ทั้งหลาย ทั้งภายนอกประเทศ และภายในประเทศ ในกรณีของ #วอลล์สตรีท ที่หนุนหลังทักษิณนั้น #ถือว่ามีศักยภาพ ที่เป็น #ภัยคุกคามทั้งภายนอก และ #ภายในประเทศ ผ่านรัฐบาล #รัฐบาลจึงเป็นภัยคุกคาม ที่ประจักษ์แจ้ง หากเป็นไปได้ ฝ่าย #ทหารควรแทรกแซง เพียงเล็กน้อย แต่แทรกแซงเต็มรูปแบบได้ถ้าจำเป็น

ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดี ที่กองทัพชาติอื่น ควรศึกษา เส้นแบ่งระหว่าง การทุจริตที่เลวร้าย กับ โศกนาฏกรรมของชาติ #ฝ่ายทหารสามารถแทรกแซงได้ หาก #ทหารมีความกล้าหาญ และมี#ความมุ่งมั่นกับอนาคตของชาติ มากกว่าผลประโยชน์ ที่ทำให้กระเป๋าตุง ขึ้น แล้วลงมือทำ ก็สามารถข้ามเส้นนั้นได้ อย่างง่ายดาย ประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่จะมันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ถ้ากองทัพกังวลต่อข้อกล่าวหา หรือวาทกรรม ที่เขียนโดย CFR และในสื่ออื่นๆ จนทำให้ประเทศไทย ต้องผิดพลาดที่ดีในที่สุด

ที่มา : FB Siriwanna Jill