PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ปิยะบุตร แสงกนกกุล :ทำไมผมถึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำคำประกาศฝ่ายเดียวรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศโดยทันที?

ทำไมผมถึงเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำคำประกาศฝ่ายเดียวรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศโดยทันที?
๑.) เป็นที่ทราบกันดีว่า นับตั้งแต่ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศประกาศใช้ในปี ๒๐๐๒ ประเทศไทยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้สัตยาบันรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศมาโดยตลอด โดยอ้างว่ากองทัพไม่เห็นด้วย อ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘ เพราะไม่คุ้มกันองค์ประมุขของรัฐ (ซึ่งกรณีรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ กษัตริย์ไม่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มกัน เพราะในระบบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ กษัตริย์ไม่ทำอะไรผิด เพราะกษัตริย์ไม่ได้ทำอะไรเลย จึงไม่ต้องกังวลว่ากษัตริย์จะต้องไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ เว้นแต่พวกที่ไม่สนับสนุนให้สัตยาบันจะคิดว่ากษัตริย์เป็นผู้กระทำการ? ราชอาณาจักรหลายประเทศต่างก็ลงนามให้สัตยาบัน)
การคัดค้านการให้สัตยาบันโดยฝ่ายความมั่นคงและกองทัพ แสดงให้เห็นว่าพวกเขากลัวศาลอาญาระหว่างประเทศ
การทำคำประกาศฝ่ายเดียวรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศจึงเป็นการ "ขู่" พวกกองทัพกลับไปว่า หากจะใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชน ก็จงระวังเอาไว้
๒.) การรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ มีสองวิธี วิธีแรก คือ ให้สัตยาบัน ซึ่งจะเป็นการรับรองเขตอำนาจศาลแบบถาวรตลอดกาลจนกว่าจะถอนสัตยาบัน วิธีที่สอง คือ ทำคำประกาศฝ่ายเดียวตามมาตรา ๑๒.๓ ของธรรมนูญกรุงโรม รับรองเขตอำนาจศาลเฉพาะกรณี เฉพาะช่วงเวลา
การทำคำประกาศฝ่ายเดียวรับเขตอำนาจศาล เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ทำได้เองเลย เขียนหนังสือข้อความสั้นๆ ว่าขอประกาศรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่เท่าไร ก็ส่งผลทางกฎหมายทันที
ไม่ติดขัดเรื่องมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญ
เมื่อลงนามเมื่อไร ก็เกิดผลในทางกฎหมายทันที หากระบบกฎหมายภายในทำลายการลงนาม (เช่น มีผู้หาช่องทางดันไปศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนการลงนามคำประกาศฝ่ายเดียวทิ้งเสีย) ก็ไม่ส่งผลใดๆ ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ ยังคงมีผลอยู่
ประเทศโก๊ตดิวัวร์ เคยใช้วิธีนี้สำเร็จมาแล้ว และอดีตประธานาธิบดี โลร็องต์ บักโบ ก็กำลังถูกพิจารณาคดีโดยศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่
๓.) ในกรณีที่รัฐบาลนี้ยังอยู่ หาก กปปส เห็นว่ารัฐบาลได้ใช้กำลังทำลายชีวิตร่างกายของผู้ชุมนุม กปปส จนเข้าข่ายความผิดอาญาระหว่างประเทศตามธรรมนูญกรุงโรม กปปส ก็มีศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นหลักประกัน
๔.) ในกรณีที่เกิดการรัฐประหารโดยศาล โดยองค์กรอิสระ หรือโดยกองทัพ และประชาชนลุกขึ้นต่อต้าน จนถูกรัฐบาลใหม่ใช้กำลังเข้าเข่นฆ่า ประชาชนก็มีศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นหลักประกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โปรดใช้ความกล้าหาญ ใช้อำนาจของท่านลงนามทำคำประกาศฝ่ายเดียวได้เลย เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกเข่นฆ่าในอนาคต
ยามท่านมีอำนาจ โปรดจงใช้อำนาจนั้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่เสียสละเพื่อปกป้องประชาธิปไตยโดยมิได้อะไรตอบแทน
หากท่านหมดอำนาจไป และคิดหวังจะลงนามก็อาจสายเกินการณ์
จงทำในระหว่างที่มีอำนาจ
โปรดเสียสละด้วย

กองสลากยอมซื้อข้าวเปลือก112ตัน1.3ล้านที่หลวงปู่นำมาเทหน้าสำนักงาน

ตัวแทนกองสลาก‬ ยอมรับซื้อข้าวเปลือกจำนวน 111.2 ตัน ในราคาตันละ 12,000 รวมเป็นเงินประมาณ 1.3 ล้าน ที่ดั๊มอยู่หน้ากองสลาก โดยจะนัดรับเงินไม่เกินวันที่ 26 มีนาคม 2557




ผู้ที่รับผิดชอบต่อความเสียหายในการเลือกตั้งครั้งนี้คือผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง

สดศรี สัตยธรรม อดีต กกต.กล่าวใน การสัมมนาวิชาการ เรื่อง "แช่แข็งประชาธิปไตยไทย" วันนี้ (21 มี.ค.) ตอบคำถามที่ว่า ศาล รธน.ตัดสินเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 โมฆะใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งว่า ศาลวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งดังกล่าว ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 108 วรรคสอง เนื่องจากไม่มีการจัดการเลือกตั้ง สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเหตุผลไม่ได้เกิดจากเหตุธรรมชาติ แต่มีผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง ตั้งแต่การจัดรับสมัคร สส.ก็เกิดเหตุรุนแรงขึ้น กกต.มีหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยดี สามารถเปลี่ยนสถานที่รับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.ได้ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ
สดศรี กล่าวว่า ผู้ที่รับผิดชอบต่อความเสียหายในการเลือกตั้งครั้งนี้คือผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย กกต.ในระดับจังหวัด รวมทั้ง กกต.กลางทั้ง 5 ท่าน ต้องรับผิดชอบ ส่วนรัฐบาลเป็นเพียงแค่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
สดศรี กล่าวให้ข้อมูลด้วยว่า ประเทศไทยเคยมีคำตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 เป็นโมฆะ เนื่องจากในวันเลือกตั้งมีกการหันคูหาออกหน้าหน่วยเลือกตั้ง ทำให้ กกต.ถูกลงโทษ ต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 2,000 กว่าล้าน


Judicial Coup


จาก fb ของมิตรสหายท่านหนึ่ง :
การโมฆะเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 อาจเป็นการเปิดทางเจรจาให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาลงสมัคร ก็อาจจริงบางส่วน (พรรคประชาธิปัตย์อาจประวิงเวลาตัดสินใจ หรืออาจตัดสินใจลงก็ได้ แต่อีกไม่นานก็จะมีกลไกอื่นมาไล่รัฐบาลก่อนอยู่ดี)
ผมเห็นว่ากระบวนการ Judicial Coup เขามองไกลกว่านั้น
นี่เป็นการทำลายการเลือกตั้ง ที่ กกต ถูกกดันว่าต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ ต้องประกาศรับรองผลให้ได้
หากไม่ทำลายในส่วนนี้ Judicial Coup ก็จะไม่สำเร็จ
หากวันใดที่ กกต ประกาศรับรอง สส สัก 1 คน แม้เพียง 1 คน กระบวนการ Judicial Coup ก็ต้องปาดเหงื่อ เหนื่อยหนักขึ้นไปอีก คือ แม้จะเอารัฐบาลออกไปได้ แต่ไอ้ สส 1 นาย นี้จะจัดการกับมันอย่างไร คะแนนที่ประชาชนไปลงมา จะเอาไปทิ้งน้ำอย่างไร
การทำลายการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ช่วยทอดเวลา ขยายเวลา ให้กับกระบวนการขององค์กรอิสระอื่นๆที่จะเข้าจัดการรัฐบาล จนเกิดสุญญากาศ
เพื่อให้ Judicial Coup สำเร็จ

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 การเลือกตั้ง ส.ส. 2 ก.พ.57 ไม่ชอบด้วย รธน. ถือว่าเป็นโมฆะ

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:27:37 น.
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจา ก่อนลงมติมีคำวินิจฉัยในคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (1) ว่า การจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามพ.ร.ฎ.ยุบสภา 2556 เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 การเลือกตั้ง ส.ส. 2 ก.พ.2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นโมฆะ

สาเหตุการเป็นโมฆะ มาจาก ไม่ได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง วันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

ส่วนการที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง หลังวันที่ 2 ก.พ. นั้นก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะจะมีผลทำให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ตุลาการเสียงข้างน้อย 3 เสียง ประกอบด้วย นายชัช ชลวร นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี และนายเฉลิมพล เอกอุรุ
//
รายละเอียด มติของศาลรัฐธรรมนูญ ให้การเลือกตั้ง ๒ ก.พ.๕๗ เป็นโมฆะ ตามคาด





เปิดใจ ‘ทส.ผบ.ทบ.’ เงาสะท้อนตัวตน ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เปิดใจ ‘ทส.ผบ.ทบ.’ เงาสะท้อนตัวตน ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นอกจาก "รศ.นราพร จันทร์โอชา"คู่ชีวิต และลูกสาวฝาแฝดที่น่ารักสองคนแล้ว มีเพียงคนเดียวที่สามารถใกล้ชิด แบบที่เรียกว่า "มองตาก็รู้ใจ" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. คือ พ.ต.อัครพัฒน์ เทพณรงค์ " หรือ "ผู้กองโอม"นายทหารคนสนิท (ทส.) ที่ติดสอยห้อยตามผู้นำสูงสุดของกองทัพบก มายาวนานถึง 9 ปี ทำไม.?เหตุใดที่ผบ.ทบ.ถึงเลือกนายทหารผู้นี้มาอยู่เคียงข้างด้วย

ถาม:มาเป็น ทส.ผบ.ทบ. ได้อย่างไร?

ตอบ:ถึงตอนนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 9 แล้วนะ เวลาผ่านไปเร็วจัง เมื่อปลายปี 49 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับกองพันในขณะนั้น (กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์) ให้ไปรับการคัดเลือกเป็นนายทหารคนสนิท
ซึ่งตอนนั้นท่านเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บังคับกองพันบอกเพียงว่า ให้ลองไปคัดเลือกดูก่อน คงมีไปกันหลายคน ถ้าไม่ได้ก็กลับมาทำงานกับผู้พัน วันรุ่งขึ้นพอไปถึงที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ปรากฎว่า มีพี่คนเดียว มารู้ทีหลังว่าเรียกมาคนเดียว ก็ยังไม่ทราบที่มาจนถึงทุกวันนี้

ถาม:เจอหน้ากันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
ตอบ:ท่านก็ตบไหล่ 1 ที พูดว่ามาแล้วเหรอ เต็มใจไหม..แล้วจะให้พี่ตอบยังไง ทหารเราไม่ได้ถูกสอนมาให้ปฏิเสธอยู่แล้ว ตอนนั้นเพิ่งติดร้อยโท (หัวเราะ)และยังไม่ทราบเลยว่าหน้าที่นี้ต้องทำอะไรบ้าง แล้วก็เพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามที่ อ.ธารโต จ.ยะลา
จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นก็เคยพบท่านครั้งหนึ่ง ตอนที่ท่านร่วมคณะ พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 (ยศในขณะนั้น) ไปตรวจเยี่ยมหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนั้นท่านก็เดินเข้ามาพูดคุยเรื่องสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่
หลังจากนั้นอีก 2 เดือนท่านก็เป็นแม่ทัพภาคที่1 ก็เลยคิดว่าท่านคงดูประวัติการทำงาน ผลการศึกษา ความประพฤติย้อนหลังตอนเป็นนักเรียนทหาร ทั้งโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งพี่ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ไม่เคยถามท่านนะว่าทำไมเลือกพี่

ถาม:หลายคนอาจคิดว่าเป็นทส. งานสบาย เดินตามนาย ยศขึ้นไว
ตอบ:อันนั้นเป็นภาพภายนอกที่คนทั่วไปมอง ถ้าทำแค่นั้นแล้วยศขึ้นไวก็ดีซิ กองทัพบกเรามีมาตรฐาน เรามีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์การพิจารณาในทุกระดับชั้นยศ ซึ่งแท้จริงแล้วกว่าจะเป็นอย่างที่เห็นได้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน อย่างที่พวกเราเห็นที่ผ่านๆมาคนที่ได้รับการคัดเลือกมาทำหน้าที่นี้ก็ผ่านการคัดกรองมาจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในระดับหนึ่งแล้ว พูดง่ายๆคือแต่ละคนก็มีต้นทุนทางสังคมที่ดีเป็นทุนเดิมมาก่อน
เพราะฉะนั้นแล้วการที่บุคคลเหล่านั้นจะเติบโตจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนในกองทัพด้วยกันเอง อยากให้มองลึกๆว่าคนที่มาทำงานตรงนี้ได้แต่ละคนต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งความสามารถ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์การทำงาน วุฒิภาวะล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญทั้งสิ้น
ส่วนตัวพี่มองว่าการที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายงานมากก็เหมืนท่านไว้วางใจและเชื่อมั่นตัวเรามาก ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะต้องพยายามใช้เวลาว่างที่มีอยู่นั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อองค์กร ตัวเราเองก็จะได้พัฒนาตนเองไปด้วย
เพราะสาเหตุนี้พี่จึงพยายามใช้เวลาที่มีอยู่ทั้งเวลาหลังเลิกงานและวันหยุดที่ท่านไม่มีภารกิจให้เป็นประโยชน์ทุกนาที ทั้งในแง่การเพิ่มพูนทักษะความรู้ทางการทหารและ
เรื่องอื่นๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพในอนาคต ในประเด็นของงานในหน้าที่ ทส.นั้น ผู้บังคับบัญชาแต่ละท่านจะมีวิธีการใช้งาน ทส.แตกต่างกัน ทส.คือฝ่ายอำนวยการประจำตัว ซึ่งแต่ละท่านจะมีฝ่ายเสธ.(เสนาธิการ)ประจำตัวอยู่แล้ว การทำงานจึงเป็นลักษณะการประสานงานเป็นหลัก ที่เหลือก็จะเป็นงานที่ท่านมอบหมายเพิ่มเติมเป็นครั้งคราวไป
ซึ่ง ผบ.ท่านนี้ การทำงานกับท่านจะต้องทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง และทันเวลา พี่มีหน้าที่ในการจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมในแต่ละวัน ตั้งแต่การเตรียมการ วางแผนในเรื่องกำหนดการประจำวัน เตรียมเอกสารการประชุม วันนี้เดินทางไปไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ จะต้องเดินทางอย่างไร แต่งเครื่องแบบอะไร อาหารการกินจะเป็นอะไร โดยจะมีฝ่ายเสนาธิการประจำตัวท่าน คอยช่วยเตรียมและหาข้อมูลให้ ถ้ามีอะไรสำคัญ จำเป็นก็จะหาข้อมูลเพิ่มให้
หลักการทำงานของพี่ คือพยายามทำให้ท่านต้องคิดและกังวลเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นเพราะภาระท่านมากพออยู่แล้ว ในส่วนที่เหลือพี่จะคอยดูแลทุกอย่างเพื่อให้ท่านไม่ต้องกังวล ทำงานได้อย่างเต็มที่
ส่วนการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของตัวเองนั้น ก็เป็นไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม คนเราถ้าคิดแต่ว่าอยากจะเป็นอะไร ก็ไม่ได้ทำงานกันพอดี คิดเพียงแต่ว่าทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด มีมาตรฐานในการทำงานและทุ่มเทกับงานให้เต็มที่ก็น่าจะเพียงพอครับ
ผบ.ทบ.ท่านอ่านข่าวหลายฉบับ ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งออนไลน์ แล้วท่านจะถามข้อมูลเยอะ ซึ่งพี่ก็ต้องเตรียมพร้อมก่อนเช่นกัน หลังเลิกงานพี่ก็ต้องมาเตรียมข้อมูลติดตามสถานการณ์ เพราะต้องช่วยคิด ช่วยบอกข้อมูล หากบอกผิดพลาดก็จะทำให้ท่านตัดสินใจผิด เวลาท่านถามพี่จะบอกว่า นี่คือข้อเท็จจริงนะครับ แต่ถ้าพี่ใส่ความคิดเห็นลงไปพี่ก็จะบอกว่านี่คือความคิดเห็นของผมนะครับ
โทรศัพท์พี่ต้องเปิด 24ชม. หลับไม่ค่อยสนิท วันนึงนอนประมาณ 4ชั่วโมง อันไหนเป็นเรื่องด่วน เป็นเรื่องที่ท่านต้องตัดสินใจ พี่ก็ต้องหาวิธีเรียนท่านให้ทราบ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ท่านพักผ่อนแล้วก็ตามเพื่อที่ท่านจะได้รับรู้ ตัดสินใจได้ถูกต้องและทันท่วงที มีหลายท่านพูดว่า ผบ.ท่านนี้เก่ง ฉลาด ตัดสินใจรวดเร็ว กองทัพบกมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน พี่เองแอบอมยิ้มนะครับ
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือตัวท่านเป็นคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา รับทราบข้อมูลหลายด้าน ประกอบกับท่านมีประสบการณ์สูงจึงทำให้ท่านเป็นเเบบนี้ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ พี่เองก็พลอยภาคภูมิใจกับท่านไปด้วยกับความสำเร็จในทุกจังหวะชีวิตที่ผ่านมาของท่านและพี่ได้เป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลานั้น

ถาม:ตัวจริง ผบ.ทบ. เป็นอย่างไร ดุไหมตอบ:อย่าใช้คำว่าดุเลย เอาเป็นว่าท่านเข้มงวดมากกว่า สาเหตุที่ท่านเข้มงวด ก็เพราะท่านจริงจังกับทุกสิ่งที่ท่านได้ดำริไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อประโยชน์ต่อกองทัพบกและประเทศชาติทั้งสิ้น โดยส่วนตัวท่านเป็นคนมีเมตตา รักลูกน้อง เป็นคนเก่งมาก เข้าใจง่าย คิดเร็ว สมองเร็ว เวลาไม่มีงานท่านก็จะออกกำลังกาย ท่านชอบอ่านหนังสือ ดูข่าว ดูหนังภาษาอังกฤษ ท่านชอบอ่านหนังสือพิมพ์ แม็กกาซีนบ้าง พ็อคเกตบุ๊คบ้าง
ถาม:ผบ.ทบ.มีมุมน่ารักๆบ้างหรือไม่ตอบ:ก็มีนะ เช่นวันเกิดพี่ พี่ก็ไม่ค่อยบอกใคร ไม่ได้บอกท่านเพราะดูเหมือนเราไปทวงของขวัญ ไม่อยากให้ท่านลำบากใจก็เลยเฉยๆ แต่ท่านรู้จากคนอื่น ก็จะพูดว่า วันเกิดทำไมไม่บอก แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะ แล้วก็มีการ์ด เขียนอะไรให้เล็กน้อย น่ารักดี (อมยิ้ม)
"เวลาเครียดมากๆ ท่านก็จะนั่งคิด พี่ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ในกองทัพที่วันๆคิดแต่เรื่องแก้ปัญหาให้กองทัพ แก้ปัญหาให้บ้านเมือง จะทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมือง ท่านห่วงกำลังพลทุกระดับ เป็นคน บอร์น ทู บี ผบ.ทบ.มากๆ"
ถาม:สิ่งที่ได้และหายไปกับหน้าที่ ทส. ของ ผบ.ทบ.คนนี้
ตอบ:สิ่งที่ได้คงเป็นประสบการณ์ ได้เห็นการทำงานในระดับใหญ่ๆของกองทัพ เวลาที่ผบ.ทบ.ไปตรวจเยี่ยมหน่วยหรือไปเยือนต่างประเทศก็จะได้เห็นอะไรค่อนข้างเยอะ ซึ่งหากอยู่ในยศร้อยตรี ร้อยโท ร้อยเอก พันตรี ตามตำแหน่งปกติพี่คงไม่มีวันได้เห็น จุดเด่นของแต่ละหน่วยทั้ง 7 ส่วนของกองทัพบก พัฒนาการของแต่ละหน่วยที่ผ่านๆมา เห็นการตัดสินใจในนาทีวิกฤตว่าผู้ใหญ่มีหลักการคิด แก้ปัญหาอย่างไร
พี่อยู่กับท่านประมาณการณ์ว่าเดินทางเป็นล้านกิโลเมตรแล้วมั้ง แต่ถ้าพี่อยู่ที่หน่วยปกติ ยศพี่ก็จะเป็นระดับผู้กอง ก็ทำงานตามหน้าที่ของหน่วย ไม่ได้ยุ่งขนาดนี้ มีลูกน้องคอยดูแล แต่พี่ก็จะมองได้แค่ภาพเล็กๆ ซึ่งพี่มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ทำหน้าที่นี้เพราะถ้าเราใส่ใจและเต็มที่กับงานในหน้าที่ เราก็จะได้อะไรเยอะ
การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และพี่ก็ไม่ใช่คนที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ได้อะไรเลย แต่การคิดและทำแบบนี้ก็ต้องแลกกับความสุขส่วนตัว เวลาและหลายสิ่งหลายอย่างที่นายทหารวัยนี้ควรจะได้รับครับ
สิ่งที่หายไปชัดเจน ก็คือช่วงชีวิตช่วงวัยรุ่น พี่ไม่มีเลย หายไปและย้อนกลับมาไม่ได้ อย่าลืมว่าชีวิตนายทหารก่อนจบมารับราชการจะต้องเป็นนักเรียนประจำทั้งในโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยฯ ส่วนตัวพี่เองเป็นนักเรียนประจำมาก่อนเป็นนักเรียน
เตรียมฯอีก เกินครึ่งชีวิตสำหรับนักเรียนประจำ ไม่ต้องพูดถึงความเป็นส่วนตัวกันเลยนะ พี่แทบไม่มีโอกาสพาพ่อแม่ไปทานข้าว พาพ่อแม่ไปเที่ยว มีเวลาให้ครอบครัวน้อย
แต่พ่อแม่พี่เข้าใจ ท่านเคยพูดกับพี่ตอน ผบ.ท่านเป็นแม่ทัพใหม่ๆว่าดูแลท่านให้ดี ต่อไปท่านจะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง กับเพื่อนๆพี่ก็ไม่ค่อยมีเวลาแฮงเอ้าท์ด้วยกัน บางคนนัดกันเป็นปีกว่าจะได้เจอ ถ้าต้องไปงานเลี้ยงส่วนตัวตอนค่่ำ ประมาณ 5 ทุ่มพี่ก็ต้องขอตัวกลับละ ดื่มแก้วเดียวเดินทั้งงาน จะให้สนุกแบบคนอื่นคงไม่ได้
ตื่นเช้ามาผบ.ทบ.ถามเรื่องงานแล้วมาเบลอๆอยู่ก็คงไม่ใช่ เคยมีครั้งหนึ่งพี่วางแผนจะไปเที่ยวต่างจังหวัด เพราะเสาร์ อาทิตย์นั้นไม่มีงาน ขับรถไปถึงพระปฐมเจดีย์ ปรากฎว่าท่านโทรมาบอกว่ามีธุระให้จัดการ พี่ก็รีบวกรถกลับทันทีโดนไม่ได้บอกท่านว่าอยู่ต่างจังหวัดเพราะคิดว่างานของท่านสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวเสมอ ซึ่งถ้าบอกท่าน ท่านก็คงเข้าใจเพราะท่านมีเมตตา แต่คิดตอนนั้นว่ากลับไปทำเองดีกว่าให้ลูกน้องไปทำ กังวลว่าจะไม่เรียบร้อย
"มันเป็นความภาคภูมิใจของเราที่ได้ดูแลผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่ตลอดเวลาคิดแต่จะทำเพื่อกองทัพบก ทำเพื่อชาติจริงๆ น้อยคนนักที่จะเป็นแบบนี้ มันเป็นความศรัทธาที่เกิดขึ้น ท่านก็เหมือนพ่ออีกคน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าพ่อจริงๆซะอีก บอกท่านว่า ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอดูแลท่านต่อไปไม่ว่าจะเกษียณไปแล้ว หรือเป็นลุงคนนึงก็ตาม"
ถาม:วันนี้ 21 มีนา วันคล้ายครบรอบวันเกิด ผบ.ทบ. อยากอวยพรอะไรเป็นพิเศษไหม.?
ตอบ:วันคล้ายวันเกิดปีนี้ ท่านก็อายุครบ 60 ปีแล้ว ก็อยากให้ท่านมีเวลาพักผ่อนมากกว่าเดิม และขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงแบบนี้ตลอดไปครับ

ถาม:ขอถามเรื่องส่วนตัว ข่าวว่า lucky in game unlucky in love
ตอบ:เคยมีคนนึงนานแล้วคบประมาณ 7-8 ปี พอพี่ไปเรียนที่อเมริกากลับมาก็เลิกกัน ตอนนี้เขาก็มีครอบครัวไปแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเวลา การทำงานแบบนี้ก็มีข้อดีคือมีโอกาสได้เจอคนเยอะ คนที่ดีก็เยอะ บางคนก็คิดว่าพี่เจ้าชู้ เพราะคุยกับคนเยอะแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ พี่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์เรื่องงาน พี่เป็นคนรักเดียวใจเดียว ถ้าคุยกับใครคนใดคนหนึ่งก็จะคุยกับคนนั้นคนเดียวเพราะเราอยากให้เค้าทำกับเราแบบนั้นเหมือนกัน
พี่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีก็ต้องได้ดี ถ้าเราเป็นคนดีเราก็ควรจะเจอคนดีๆ ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพื่อนพี่หลายคนบอกว่าเลือกเยอะ จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น อธิบายลำบาก ประมาณว่าจะต้องหาคนที่เข้าใจเรา ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ พี่ก็จะบอกว่าชีวิตพี่ พี่เลือกที่จะทำงานและเป็นคนที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตอบแทนสังคม
ชีวิตพี่คงจะไม่สบายเหมือนคนอื่น และพี่ก็ต้องหาคนที่พอดีๆ ก็เลยยากหน่อย เพราะเรื่องนี้สำคัญต่อชีวิต ตัวเราเองดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว แต่พี่คิดว่าถ้ามีคนที่เข้ามาอยู่ในชีวิตเราพี่ก็ต้องดูแลคนคนนั้นให้ดี เค้าไม่ควรจะต้องลำบากแบบพี่ เพราะแค่เค้าเข้าใจและอยู่กับเราก็เป็นสิ่งที่มากพอสำหรับพี่แล้ว
ได้ยินแบบนี้ ทส.หนุ่มนักเตรียมทหาร รุ่น 41 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 52 คงทำให้สาวๆหลายคนปลื้มมมมม....แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ที่หัวใจผู้กองฯ "ไม่ว่าง" แล้วจ้า..
ข้อมูลจากเพจ : konkao.net (คนข่าว)


หลวงปู่ บุกกองสลากขายข้าว

10.30 ที่หน้า สำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ "พุทธอิสระ" ยื่น ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ต่อ จนท. สำนักงานสลากฯ ดังนี้
1.ให้กองสลากฯ นำเงินมาซื้อข้าวบนรถจำนวนตันละ 15,000 บาท
2.หากไม่รับซื้อจะเทข้าวด้านหน้าและต้องซื้อที่ราคาตันละ 12,000 บาท
3.ถ้าไม่ซื้อข้าวเลย ให้กองสลากฯ ออกหวยล็อคให้ชาวนา แล้วจะไม่เอาข้าวไปขายที่ไหน จะรอลุ้นหวยอย่างเดียว
ทั้งนี้ ข้าวเปลือกที่นำมาในวันนี้ประมาณ 100 ตัน ราคาประมาณ 2 ล้านกว่าบาท


ผลงานองค์กรอิสระ

สาระ+ภาพ: ย้อนผลงาน ‘องค์กรอิสระ’ ฮีโร่ผ่าทางตันการเมืองไทย

คลิ๊กดูรูปขนาดใหญ่

บทบาทขององค์กรอิสระเป็นที่จับตาอย่างยิ่งในช่วง ‘เดทล็อก’ ทางการเมือง จนดูเหมือนทิศทางประเทศอยู่ในมือคนกลุ่มนี้อย่างสำคัญ ประกอบกับจุดหักเหทางการเมืองหลายต่อหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ทำให้ ‘คนกลาง’ อย่าง องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญทั้งหลายอยู่ในจุดสูงสุดของการถูกตั้งคำถาม

รายงานชิ้นนี้รวบรวมคำวินิจฉัยสำคัญๆ ขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีต่อสถาบันทางการเมืองอย่างพรรคการเมือง รัฐบาล และนโยบายภาครัฐ เพื่อทวนความจำ รวมถึงรายละเอียดที่มาของผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไทยกลุ่มนี้ ซึ่งหลายคนอาจลืมไปแล้ว

 

วันที่ตัดสิน

ประเด็น

ผู้ร้อง

องค์กรผู้พิจารณา

สถานะ

3 ส.ค.44

ร้องให้ตัดสินให้ทักษิณ ชินวัตร รองนายกฯ ขณะนั้น พ้นจากตำแหน่งและไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี กรณีจงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ

ป.ป.ช.

ศาล รธน.

มติ 8:7 ยกคำร้อง

8 พ.ค. 49                                                         

การเลือกตั้ง 2 เม.ย.49 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ?

ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา

ศาล รธน.

มติเสียงข้างมาก ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ให้จัดเลือกตั้งใหม่ เหตุกำหนดวันเลือกตั้งไม่เป็นธรรม, จัดคูหาหันหลัง ทำให้การลงคะแนนไม่เป็นความลับ

30 พ.ค. 50

ทรท.จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง ผิด พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือไม่

ปชป.ยื่น กกต.

กกต.ยื่น อสส.

ตลก.รธน.

ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย, พัฒนาชาติไทย,แผ่นดินไทย + เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 ปี

30 พ.ค. 50

ปชป.จ้างพรรคเล็กใส่ร้าย ทรท. และล้มล้างประชาธิปไตย ผิด พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือไม่

ทรท. .ยื่น กกต.

กกต.ยื่น อสส.

ตลก.รธน.

วินิจฉัยว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความผิดในทุกข้อกล่าวหา/ ตัดสินยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า + เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 ปี เหตุส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่มีสิทธิ

1 พ.ค. 51

พรรคพลังประชาชนเป็นตัวแทนพรรคไทยรักไทยหรือไม่

วีระ สมความคิดและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

กกต.

เสียงข้างมาก ยกคำร้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิด /

สามเสียงเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอว่า พลังประชาชนเข้าข่ายเป็นตัวแทน ทรท. แต่ไม่เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง

9 ก.ย. 51

สมัคร สุนทรเวช นายกฯขณะนั้น จัดรายการชิมไปบ่นไปและยกโขยงหกโมงเช้า เข้าข่ายเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนหรือไม่ ผิด รธน.?

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา และพวก

ศาล รธน.

วินิจฉัยให้ สมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี พ้นตำแหน่งนายกฯ

2 ธ.ค. 51

พรรคพลังประชาชน, ชาติไทย, มัชฌิมาธิปไตย ทุจริตเลือกตั้ง ผิด พ.ร.บ.ประกอบ รธน. ว่าด้วยพรรคการเมือง?

กกต.ยื่น อสส.

ศาล รธน.

สั่งยุบพรรคพลังประชาชน, ชาติไทย, มัชฌิมาธิปไตย + เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 ปี

29 พ.ย.53

ร้องให้ยุบพรรค กรณีปชป.ใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์?

กกต.

ศาล รธน.

ยกคำร้อง เนื่องจากกระบวนการยื่นขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

9 ธ.ค. 53

ร้องให้ยุบพรรค กรณีปชป.รับเงินบริจาค 258 ล้าน จาก บ.ทีพีไอโพลีน ในการเลือกตั้งปี 48 เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบ รธน. ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือไม่

ดีเอสไอ ส่ง กกต. ส่ง อสส.

ศาล รธน.

ยกคำร้อง เนื่องจากกระบวนการยื่นขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

8 ม.ค. 57

การแก้มาตรา 190 ให้จำกัดอำนาจรัฐสภาในการเห็นชอบกรณีฝ่ายบริหารทำสนธิสัญญาต่างประเทศ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่


 

ปชป.

ศาล รธน.

ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการรวบรัดการอภิปรายในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ และเป็นการเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายบริหาร เข้าข่ายล้มล้างการปกครองและลิดรอนอำนาจการตรวจสอบ  

20 มี.ค.57

การแก้ไขรธน.ประเด็นที่มาส.ว. ขัดมาตรา 68 ของรธน.หรือไม่



 

ส.ว. สรรหา+ ตัวแทนปชป.

ศาล รธน.

มติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าขัดมาตรา 68  

20 มี.ค. ป.ป.ช ชี้มูลให้นิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มีความผิด ฐานตัดสิทธิ์ผู้แสดงความคิดเห็นในการอภิปราย 57 คน / ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และรอวุฒิสภาถอดถอน

ส.ส. +ส.ว.308 คน รอป.ป.ช. ชี้มูล

24 ม.ค.57

ขอให้วินิจฉัยว่าการกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่สามารถทำได้หรือไม่ และเป็นอำนาจขององค์กรใด

กกต.

ศาล รธน.

วินิจฉัยว่าสามารถกำหนดขึ้นใหม่ได้  และเป็นอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบร่วมกันของนายกฯ - ประธาน กกต.

12 ก.พ. 57

การเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 เป็นโมฆะหรือไม่ จากการไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร และจากการประกาศพ.ร.บ.ฉุกเฉินทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง

ปชป. ยื่นตามมาตรา 68

ศาล รธน.

ไม่รับคำร้อง

12 มี.ค. 57

พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีเสียบัตรลงคะแนนแทนกัน, ไม่ต้องนำเงินรายได้ส่งคลัง

ปชป.

ศาล รธน.

ตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญ  

?
 

อภิสิทธิ์ และพวก ทุจริตต่อหน้าที่กรณีโครงการระบายข้าวหรือไม่ และร้องขอให้ถอดถอน พรทิวา นาคาศัย อดีต รมว. พาณิชย์  

เพื่อไทย

ป.ป.ช.

รอ ป.ป.ช.มีมติ

?

ยิ่งลักษณ์ มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ กรณีไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว ทั้งๆ ที่มีการทักท้วงว่าทุจริต

ปชป.

ป.ป.ช.

รอป.ป.ช. มีมติ

หาก ป.ป.ช.มีมติว่าเป็นการกระทำความผิด นายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าวุฒิสภาจะมีมติ หรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา

?
 

การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เป็นโมฆะหรือไม่เนื่องจากมีการนับคะแนนหลังการเลือกตั้ง ขัดต่อหลักความเสมอภาคที่การลงคะแนนต้องเป็นไปโดยลับ

รวมทั้งการประกาศพ.ร.ก. ฉุกเฉินที่ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคการเมือง

ผู้ตรวจการแผ่นดิน

ศาล รธน.

รอตัดสิน 21 มี.ค.

 ?
 

สามารถออกพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งใหม่ได้หรือไม่ สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง ใน 8 จังหวัดภาคใต้ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง

กกต.

ศาล รธน.

รอวินิจฉัย


 

ที่มาองค์กรอิสระ

 

คณะกรรมการการเลือตั้ง (กกต.)

 

รัฐธรรมนูญ 2550

กกต. มีวาระ 7 ปี มีจำนวน 5 คน มาจากการสรรหาแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกให้คณะกรรมการสรรหาจำนวน 7 ทำหน้าที่สรรหา กกต. 3 คน แล้วเสนอต่อประธานวุฒิสภา ส่วนที่สองให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา พิจารณาสรรหา กกต. อีก 2 คน แล้วเสนอต่อประธานวุฒิสภา

ให้มีคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระชุด 7 คนประกอบด้วยประธานศาลฏีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และบุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา และที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือกมาฝ่ายละหนึ่งคน โดยต้องไม่ใช่ผู้พิพากษา หรือกรรมการสรรหาองค์กรอิสระอื่น

 

รัฐธรรมนูญ 2540

กกต. มีวาระ 7 ปี มีจำนวน 5 คน มาจากการสรรหาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้คณะกรรมการสรรหาจำนวน 10 คนสรรหาผู้สมควรเป็น กกต. 5 คน และส่วนที่สอง ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสรรหาผู้สมควรเป็น กกต. จำนวน 5 คน เพื่อให้วุฒิสภาเลือกเหลือ 5 คน

คณะกรรมการสรรหา กกต.ในส่วนแรก 10 คนประกอบด้วย ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อธิการบดีของสถาบันอุดมการศึกษาของรัฐเลือกกันเองให้เหลือสี่คน ผู้แทนพรรคการเมืองที่มี ส.ส.เลือกกันเองให้เหลือสี่คน


 

ศาลรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญ 2550

ศาลรัฐธรรมนูญมีวาระ 9 ปี ประกอบด้วยตุลาการ 9 คน มาจาก

1.ผู้พิพากษาในศาลฏีกาซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา จำนวน 3 คน และตุลาการในศาลปกครองสูงสุดซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด จำนวน 2 คน

2.คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำการสรรหา ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านนิติศาสตร์ จำนวน 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารราชการแผ่นดินจำนวน 2 คน (ม.204)

คณะกรรมการสรรหาศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฏีกา ประธานศาลปกครองสูงสุดประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ 1 คน

 

รัฐธรรมนูญ 2540

ศาลรัฐธรรมนูญมีวาระ 9 ปี ประกอบด้วยตุลาการ 15 คน มาจาก

1.ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จำนวน 5 คน และตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด จำนวน 2 คน

2. คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำการสรรหา ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์จำนวน 5 คน และผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ จำนวน 3 คน

คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา คณะบดีคณะนิติศาสตร์ของรัฐเลือกกันเอง 4 คน คณะบดีรัฐศาสตร์ของรัฐเลือกกันเอง 4 คน ผู้แทนพรรคการเมืองในสภาพรรคละหนึ่งคนเลือกกันเองเหลือ 4 คน

****รอยต่อช่วงรัฐประหาร 2549

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 มาตรา 35 ให้ตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน, ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธาน, ผู้พิพากษาในศาลฎีกา ซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา โดยวิธีลงคะแนนลับ จำนวน 5 คน เป็นตุลาการ และตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้รับเลือกโดยทีประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดโดยวิธีลงคะแนนลับ จำนวน 2 คน เป็นตุลาการ โดยให้ทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ

หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 แล้ว ได้จัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้นอีกครั้ง และในบทเฉพาะกาล มาตรา 300 ให้คณะตุลาการดังกล่าวทำหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นการชั่วคราว จนกว่าตุลาการคณะใหม่จะเข้ารับหน้าที่

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ปี 2549-ปี 2553

แต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549
 

รัฐธรรมนูญ 2550

การสรรหาและการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจะต้องคัดสรรโดยให้มีคณะกรรมการสรรหาจำนวน 5 คนประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุดประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ประธานวุฒิสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

****ข้อความในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2550 ให้ กกต. ป.ป.ช. และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน รวมทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ตั้งตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ดังกล่าว ดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดวาระ