PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พล.อ.ประยุทธ์ : มีโอกาสเกิดสงครามกลางเมือง หากทุกฝ่ายไม่เคารพกติกา

"พล.อ.ประยุทธ์" เผย แลกกับอะไรก็ยอม อยากให้บ้านเมืองสงบ ยัน ไม่เคยอยากเป็น นายกฯคนกลาง รมวกห. เชื่อมีโอกาสเกิดสงครามกลางเมือง หากทุกฝ่ายไม่เคารพกติกา เตือนหยุดกระพือข่าวกองกำลังต่างชาติ ไม่ใช่นิยาย แค่นักเลงหัวไม้ ใจกล้า คล้ายปี53

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึง เเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น และโอกาสจะเกิดสงครามกลางเมือง นั่นว่า มีแน่นอน ถ้าทุกฝ่ายไม่เคารพกติกา ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ที่เหตุการณ์จะต้องเกิดขึ้น

"และหากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แกนนำและผู้นำ ต้องรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ " ผบทบ.กล่าว

ผบทบ.กล่าวว่า ทหารทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา แค่เมื่อทำอะไรไป ก็มักถูกตำหนิตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลานี้ทหารคงทำได้แค่เพียงรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น และโดยบทบาทการกระทำของกองทัพ จะทำไปเพื่อประเทศ ประชาชนโดยรวม ไม่ใช่ทำเพื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่จะใช้เป็นประโยชน์ในอนาคต

เมื่อถามว่า กองกำลังต่างชาติมีจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบในกองกำลังนี้ เพราะงานแบบนี้ใช้นักเลงที่ใจกล้า ฝึกอีกเล็กน้อยก็ก่อเหตุได้ กองกำลังต่างชาติจึงไม่มี
"อย่าคิดเป็นนิยาย พวกนี้ก็เป็นพวกที่เคยก่อเหตุในปี 53 เป็นพวกนักเลง ซึ่งหากทราบแน่นอนคงจับได้หมดแล้ว ขอให้ถามตำรวจคงจะทราบอะไรมากกว่าผม"

เมื่อถามว่า เสื้อแดงอยากให้ผบ.ทบ.เป็นรมว.กลาโหม และ นายกรัฐมนตรีคนกลาง นั่น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากเป็นอะไรสักอย่าง แค่อยากให้ประเทศชาติ ประชาชน สถาบัน ปลอดภัยเท่านั้น จะให้แลกด้วยอะไรก็ยอม ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่คงเกลียดคนไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกส่วนตัว ไม่เช่นนั้นคงทำงานไม่ได้ ผมไม่อยากใช้วิธีการแก้ปัญหา โดยการหยุดปัญหาหนึ่ง และก้าวไปสู่อีกปัญหาอย่างไม่วันจบสิ้น

ส่วนสถานการณในอนาคต ผมมั่นใจว่าความดีย่อมชนะความชั่วได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลามากขึ้นในโลกปัจจุบัน

จาก -ทีนิวส์


เสธน้ำเงิน : เปิดโปง..จากคอมมิวนิสต์แดง สู่กองกำลังติดอาวุธ ต่อด้วยการปล้นประเทศ

ที่มา : เพจแฉความลับ
25 ก.พ.57 เปิดโปง..จากคอมมิวนิสต์แดง สู่กองกำลังติดอาวุธ ต่อด้วยการปล้นประเทศ

ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ก่อตั้งมาราว 700 ปี ตั้งแต่เป็นอาณาจักรต่างๆ ที่มีสถาบันเบื้องสูงเป็นผู้นำ สู้รบกับชนชาติอื่นเพื่อขยายอาณาจักร จนรวมตั้งมีศูนย์กลางการปกครองสุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี รัตนโกสินทร์ วิวัฒนาการจากสยาม จนเป็นประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2491 เป็นการผสมผสานวัฒธรรม กับการปกครองอย่างกลมกลืน แตกต่างจากประวัติศาสตร์ประเทศอื่น ประชาชนในประเทศไทยมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ มีความสามัคคีปึกแผ่นมั่นคงเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบทางรัฐสภา และเมื่อ 1 ธ.ค.2485 ได้มีประกาศจัดตั้ง พรรคคอมมิวนิสต์ไทย (มีธงแดงเป็นสัญลักษณ์) เป็นพรรคเล็ก ๆ ประกอบด้วยกลุ่มคนจีน ติดกับประเทศพม่า ต่อมา พ.ศ. 2490 เกิดการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลนายปรีดี สมาชิกพรรคจำนวนมากถูกจับ ทำให้ยุติการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย มุ่งสู่ชนบทเพื่อหาแนวร่วมจากประชาชนระดับล่าง และต่อมา พ.ศ.2495 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)

พคท. เริ่มจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธมาตั้งแต่ พ.ศ. 2506 ในพื้นที่ภาคอีสานที่มีความยากจนมากที่สุดของประเทศ ต่อมาได้ขยายอาณาเขตไปทางภาคเหนือตอนบน ติดกับประเทศพม่า จนวันที่ 7 ส.ค. 2508 "วันเสียงปืนแตก" พคท.ได้ใช้กำลังอาวุธ ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นครั้งแรก ที่หมู่บ้านนาบัว จังหวัดสกลนคร สมัยนั้นใช้นโยบาย “การทหารนำการเมือง” มีการสู้รบกันอย่างรุนแรงทั่วทุกภาค นับจากวันนั้นการต่อสู้ระหว่างคนไทยด้วยกัน แต่ต่างอุดมการณ์ก็ดำเนินเรื่อยมาอีกกว่า 10 ปี

หลังเหตุการณ์ล้อมปราบนักศึกษา ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.19 นักศึกษา ปัญญาชนหลายพันคนได้ตัดสินใจเข้าป่า เข้าร่วมการขววนการกับ พคท.ส่งผลให้พรรคเข้มแข็ง มีพลพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความจริงแล้ว การที่ พคท. เข้มแข็งขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะคนไทยอยากเป็นคอมมิวนิสต์ แต่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ รังแกชาวบ้าน จนเขาทนไม่ได้ จึงหนีไปร่วมกับ ทปท.(กองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย)

ประเมินว่าขณะนั้น พคท.มีกองกำลังติดอาวุธถึง 1 หมื่นกว่าคน และมีสหายแกนนำต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐ เช่น นกแสก เหวง หมอแคนขอนแก่น พรหมมินทร์ จาตุรนต์ ฯลฯ (ต่อมาแกนนำเหล่านี้กลายเป็น นปช.และแกนนำบริษัทเผาไทย)

ต่อมาภายใน พคท.เกิดความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรงระหว่างสมาชิกรุ่นเก่า กับสมาชิกรุ่นใหม่ รัฐไทยช่วงนั้นก็แก้เกมทางการเมืองได้ทันท่วงที โดยหันไปสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ผู้ให้การช่วยเหลือรายใหญ่ของ พคท.ในเวลานั้น ทำให้จีนต้องยุติการช่วยเหลือ

และในที่สุดเมื่อทางการต่อสู้ในสงคราม ในหลายสมรภูมิไม่มีการชนะการแบบเบ้ดเสร็จ รัฐไทยที่มี “นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” เป็นนายกฯ ได้ทีจึงหันมาใช้นโยบาย “การเมืองนำการทหาร” ประกาศนโยบาย 66/2523 ให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อพัฒนาชาติไทย ไม่เอาผิดทางกฎหมายกับคนที่เข้าป่าจับอาวุธสู้กับรัฐ มีการแจกที่ดินทำกินให้แก่ชาวบ้านที่ออกมามอบตัว

ส่งผลให้นักศึกษาและประชาชนออกมามอบตัวกันเกือบหมด ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตกต่ำ และล่มสลายลงในเวลาอันรวดเร็วตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมา สร้างความเจ็บช้ำใจให้แกนนำพรรคสายฮาร์ดคอร์เป็นอย่างมาก ที่ไม่อาจผงาดปล้นประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานไปได้

จนมาช่วง 2544 – 2549 เกิดมีการปกครองโดยทุนนิยมสุดโต่งของชายดูไบ ดูดทรัพยากรชาติส่วนรวมไปเข้าสู่วงศ์ตระกูลตนเองและพรรคพวก

หลังรัฐประหาร 19 กันยา 49 พคท.สายเดิมที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประโยชน์ประชาชน ได้สำนึกได้และก่อรูปอุดมการณ์เป็น "สหายใต้ร่มพระบารมี" อย่างเป็นขั้นเป็นตอน กลายเป็นผู้สนับสนุนก่อให้เกิด "นักรบดาวแดง เพื่อชาติและราชบัลลังก์" ขึ้นมาแบบเหนือฝัน หลังจากการลาออกของ "ลุงดิน" เลขาธิการ พคท. คนเดิม คณะผู้บริหารใหม่ก็นำพาพรรคเข้าร่วมกับ "ฝ่ายไม่เอาชายดูไบ"

ขณะที่สมาชิก พคท. บางส่วนอีกฝ่ายหนึ่งได้แยกสายองค์กรนำออกไป ทิ้งอุดมการณ์สิ้นเกียรติยศ เพราะเงิน เข้าสวามิภักดิ์ต่อทุนนิยม กลายร่างเป็นแย้หางแดงพลพรรคชายดูไบ ที่รวมศูนย์ผูกขาดอำนาจรัฐเผด็จการ จำนวนมาก เช่น นกแสก เหวง หมอแคนอดิสรณ์ พรหมมินทร์ จาตุรนต์ ฯลฯ โดยกลุ่มนี้ได้นำแนวคิดเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ที่ทิ้งอุดมการณ์ ผนวกเข้ากับทุนนิยมบ้าคลั่ง เกิดเป็นระบอบใหม่ คือ “ ระบอบชายดูไบ” ที่กำลังก่ออันตรายต่อชาตินั่นเอง

ตั้งแต่ 2552 เป็นต้นมา กลุ่มนายทุนใหญ่สามานย์ที่ผูกขาดกุมอำนาจรัฐ ที่มีชายดูไบเป็นหัวหน้าแก๊งค์อั้งยี่แดง ได้ก่อวินาศกรรม และสงครามกลางเมือง และล้างสมอง ปลุกปลั่น หลอกลวงประชาชน จนเข้าสู่กลไกอำนาจรัฐที่ผูกขาดอยู่ในมือกอบโกยผลประโยชน์ และความมั่งคั่งของชาติมาเป็นของตนอย่างไร้ยางอาย ทำให้เศรษฐกิจของชาติสู่ความหายนะ และประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เช่น ชาวนา ของแพง ฯลฯ และสร้างความขัดแย้งกับทุกสังคมในชาติของไทยจนมาปัจจุบัน

ตั้งแต่ พ.ย. 2556 เป็นต้นมา ประชาชนทุกชนชั้น ทุกอาชีพ ได้เห็นถึง ภัยต่อความมั่นคงของชาติ คือ จึงก่อรูปพลังสังคมคุณภาพกลายเป็น “มวลมหาประชาชน “ ที่มีกำนัน และเหล่าปราชญ์ผู้มีความรู้ของชาติเป็นแกนนำ สะท้อนอารมณ์ความรู้สึก และสิทธิที่ชอบธรรมของประชาชน เพื่อต้องทำลายการเผด็จการผูกขาดอำนาจรัฐของคอมมิวนิสต์กลายพันธ์ และกลุ่มทุนใหญ่ผูกขาดสามานย์นี้ ให้กลับมาเป็นอำนาจของประชาชนที่แท้จริง ภายใต้ร่มพระบารมี

ปัจจุบันจึง พคท.จึงมี 2 สาย คือ "สายใต้ร่มพระบารมี “ เป็นนักรบดาวแดง เพื่อชาติและราชบัลลังก์ กับ สายคอมมิวนิสต์กลายพันธ์ ที่ไม่สำนึกคุณแผ่นดินที่เรียกว่า “ อั้งยี่แดง“ ภายไต้การสนับสนุนของชายดูไบ และบริษัทเผาไทย ที่กำลังประกาศตัวจับอาวุธขึ้นมา ประกาศสงครามกลางเมืองแบ่งแยกประเทศ และชาย 3 สีที่https://www.youtube.com/watch?v=sVGUFwIqH1Q ) เป็นยุทธการที่เรียกว่า “ปล้นประเทศ “ นั่นเอง

การที่บริษัทเผาไทยกอบโกยผลประโยชน์ชาติต่างๆ อย่างไร้ยางอาย เช่น โกงเงินจำนำข้าวชาวนา โกงสารพัดโครงการ และตั้งเป้าจะกู้ 2.2 ล้านมาโกงซ้ำอีกนั้น เป้าหลักก็คือ ต้องการทำลายประเทศไทยให้เกิดหายนะนั่นเอง จากนั้นก็จะนำทรัพยากรที่ปล้นประเทศไทย และปล้นแบ่งแยกแผ่นดินไทยไปได้ ไปสร้างเขตปกครองตนเอง หรือประเทศใหม่ ทำลายเศรษฐกิจของชาติไทยดิ่งเหวสู่ความหายนะ

1. ระบอบการปกครองที่คอมมิวนิสต์กลายพันธ์ และบริษัทเผาไทย ไฝ่ฝัน จะมีลักษณะคือ
- ปล้นประเทศไทยไปแบ่งเป็นประเทศล้านนา หรือรัฐไทยใหม่ (ไทยเหนือ) ที่มีเมืองหลวงเป็นเชียงใหม่ โดยมีชายดูไบเตรียมสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ครอบครองรัฐ..คล้ายๆ ฮุนเซน ที่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นสมเด็จฮุนเซน ในปัจจุบัน

- เป็นการปกครองระบอบเผด็จการ ไร้ฝ่ายค้าน คล้ายเกาหลีเหนือ โดยเรียกให้พรางตาว่า “สังคมนิยมประชาธิปไตย” มีประธานาธิบดีคนแรก คือ ปูเน่า การสืบทอดตำแหน่งผู้ปกครอง ทั้งนายกฯ, ครม., จะอยู่ภายใต้ตระกูลเดียว และเครือญาติ..เหมือนบรูไนและซาอุ
- การเลือกตั้งจะมีขึ้นเพื่อบังหน้า ผู้ลงสมัครในระดับประเทศ ถึงระดับท้องถิ่น แก๊งค์อั้งยี่แดง ต้องอนุญาตเท่านั้น คู่แข่งห้ามลง ประชาชนต้องเลือกเฉพาะคนที่เขาส่งลงสมัคร ไม่มีสิทธิเลือกตามเสรี และไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุล (เหมือนลาวในปัจจัน)
- ฝ่ายค้านมุ้งเล็ก เช่น ปลาไหลเตี้ย, สุโคราช , ตระกูล ส.ส.เก่าตามจังหวัดต่างๆ , ชนชั้นสูง ที่หลงกลเข้าสวามิภักดิ์ ฯลฯ เมื่อเขาสมประโยชน์แล้ว พวกนี้จะค่อยๆ ถูกสังหารล้างตระกูลจนหมดสิ้น เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามแย่งชิงอำนาจในอนาคต (เหมือนเกาหลีไต้ ที่เขาฆ่าอาตนเอง แค่ดื่มเหล้าในวันสวนสนาม)
- ประชาชนจะถูกล้างสมอง กดขี่อย่างโหดร้าย หมดสิ้นเสรีภาพ ข่าวสารต้องรับจากเขาฝ่ายเดียว คนมีความรู้จะถูกกำจัดจนสิ้นเหมือนสมัยเขมรแดง เพื่อให้ประชาชนในรัฐไทยใหม่ปกครองได้ง่าย
- ระบบการค้า เศรษฐกิจ จะถูกผูกขาดโดยตระกูล และเครือข่ายทั้งหมด เพื่อดูดทรัพยากรส่วนรวมมาไว้ศูนย์กลาง ไม่ให้ฝ่ายอื่นมีกำลังขึ้นมาต่อสู้ทางการเมือง
- นิยาม ความมั่งคั่งของชาติ คือ ความมั่นคงของตะกูลเขา ประชาชนทุยแดงภาคเหนือ และอีสานในรัฐไทยใหม่ จะตกระกำลำบาก ทุกยาก อดอยาก ขาดอาหารให้เด็ก ผู้ใหญ่ต้องกินรากไม้ ไร้การศึกษา เหมือนตกนรกทั้งเป็น (เหมือนเกาหลีเหนือ) ห้ามออกนอกประเทศ และกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย ข้ามพรมแดนมาขออาหาร ตั้งค่ายผู้อพยพ ในประเทศไทยตามตะเข็บแนวชายแดน
- ส่วนประเทศไทย จะเป็นแผ่นดินสีทองผ่องอำไพ มีความเจริญรุดหน้า มีเสรีภาพ การค้า การท่องเทียว เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีการเมืองการปกครองที่มีคุณธรรม ประชาชนเป็นใหญ่ ตรวจสอบถ่วงดุล (เหมือนเกาหลีไต้) ภายไต้พระบรมโพธิสมภารทุกพระองค์

2. จากการข่าวทางลับของขุนพลข่าวอีสาน ขณะนี้ชายดูไบ สั่งเดินหน้าเร่งสถาปนารัฐไทยใหม่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ปูเน่าจะถูกล้อมจับได้ โดยแบ่งเป็น

2.1 ยุทธวิธีเร่งด่วนเฉพาะหน้า..ปูเน่าหนี และสร้างความสับสน

- ให้ปูเน่าหนีขึ้นเหนือไปปักหลักที่เชียงใหม่ทันที ไม่ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาโกงจำนำข้าว ปปช.และไม่ต้องมาขึ้นเปาบุ้นจิ้นทุกคดี โดยวางการคุ้มกันยิ่งลักษณ์ 3 ชั้น (ชั้นนอก ให้อันธพาลแดงเป็นเกราะนอกสุดตายแทนก่อน , ชั้นกลางใช้ชายชุดดำฝ่ายชั่ว + อเวจีแดงฮาร์ดคอร์ และแก๊งค์มือปืน จ.ตาเดียว รับผิดชอบ , ชั้นในสุดใช้ทีมชายชุดดำการ์ดที่รับเงิน 1,000 ล้านบาท รับผิดชอบ
- ภารกิจของ นปช.คือ การโฆษณาชวนเชื่อ (เช่น รณรงค์ไม่ให้นำเด็กมาที่ชุมนุม โดยไม่ตำหนิผู้ยิงหรือปาระเบิด..สังเกตุได้จากพวกจุดเทียนยุติความรุนแรงเมื่อก่อน และแม่มดปวีนา หายเข้ากลีบเมฆไป) สร้างมวลชนเสื้อแดงชั่ว ปลุกระดมมวลชน จูงใจ หลอกลวง คนจนที่รู้ไม่ทัยภัยร้าย ให้เข้าร่วมกับรัฐไทยใหม่ โดยอ้างดื้อๆ ว่าเพื่อรักษาประชาธิปไตย
- ให้ทางวิทยุชุมชน และสื่อสังคมออนไลน์ ปล่อยข่าวลือทำลายสถาบันในแง่มุมต่าง ๆ และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับสถาบัน (จะสามารถสังเกตุเห็น และรับรู้ทั่วไปได้อย่างชัดเจนในช่วงนี้ )

2.2 ยุทธวิธีเร่งด่วนเฉพาะหน้า..การก่อการร้ายและวินาศกรรม

- นายพลแม็คอาเธอร์ ขอกำลังอเวจีแดงเพิ่มจากชายดูไบอีก เพราะแต่ละชุดต้องมีทีมระวังหลัง และทีมสนับสนุน และเงินสนับสนุนต้องมากพอ ที่จะสร้างแรงจูงใจได้
- ชายดูไบ จึงสั่งให้ทีมชายชุดดำทีมใหม่ และอันธพาลแดงทุกทีม รับการสั่งการของฝ่ายยุทธการ มีแม็คอาเธอร์ เป็นหัวหน้า ( แก๊งค์ชายชุดดำของนายพล ช. , แก๊งค์โป๊ะ, แก๊งค์ภาคเหนือ พะเยา (อำเภอ) จุน, ลับแล, การ์ดสวนจตุจักร, กาละแมร์ นนทบุรี )
- ให้กองกำลังผสมระหว่างชายชุดดำฝ่ายชั่ว กับแดงฮาร์ดคอร์ และนักรบรับจ้างเขมร เปิดสงครามกองโจรในพื้นที่กรุงเทพฯ เต็มรูปแบบ
- สายข่าวที่แฝงตัวอยู่ในค่ายทหารเขมร แจ้งมาว่าชายดูไบจ่าย 500 ล้านบาท ให้ฮุนเซน ให้ช่วยส่งทหารรับจ้างเข้ามาช่วยพวกกองกำลังแดง ที่เมืองไทย เหมือนปี 53 ชุดแรกเดินทางเข้ามาแล้วจำนวนหนึ่ง และฮุนเซนกำลังเปิดรับสมัครทหารใหม่จำนวนมาก เร่งรีบทำการฝึกใช้อาวุธ เน้นการยิงปืนและปาระเบิด
- ให้มวลชนอเวจีแดงรับจ้างป่วน ปปช. ขยายพื้นที่โจมตี และก่อวินาศกรรมในกรุงเทพฯ และปริมณทลให้กว้างขึ้น เพื่อให้กำลังชายชุดเขียวจากภาค 1 กระจัดกระจายกำลังให้มากที่สุด เพื่อลดทอนประสิทธิภาพ
- อันธพาลแดงจะซุ่มรวมตัวกันแถวในบ้านร้าง หมู่บ้านเมืองเอก หลังใหญ่หลังหนึ่ง ใช้ปืน อาก้า M16 มีมอเตอร์ไซค์ราว 60 คัน และตระเวณซื้อ Taxi เก่าๆ เตรียมทำ Car bomb หรือใช้เป็นพาหนะโจมตี
- ชายดูไบ ให้คำรับร้องกับสมุนชั่วทั้งหลายว่า ได้สั่งให้ชายชุดดำฝ่ายชั่ว ในเครื่องแบบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้ว ให้กองโจรแดงโจมตีประชาชนได้ตามสะดวก ไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ
- แบ่งแยกกำลังชายชุดเขียวออกเป็นส่วนๆ ย่อยๆ เช่น ให้วาดะเร่งสร้างความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้หนักมากยิ่งขึ้น เน้นผู้อ่อนแอ พระ เด็ก ผู้หญิง ฯลฯ เพื่อตึงกำลังชายชุดเขียวในพื้นที่ให้ขยับไม่ได้ และดึงกำลังกำลังจากส่วนอื่นของประเทศให้ลงไปภาคใต้
** ที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้ คือ การก่อเหตุชายแดนไต้ กลุ่มหลักๆ ที่ทำนั้น รับเงินอุดหนุนชายดูไบ ในรูปแบบกองทุนลับ อ้างว่าสนับสนุนให้ก่อเหตุแยกดินแดน และการเซ็นต์อย่าศึกลวงโลกระหว่าง กอ.รมน.กับแกนนำโจรไต้ ที่มาเลเซียที่ผ่านมาปี 56 คือ “การเซ็นต์กระดาษเปล่า” ที่ไม่มีข้อความใด ๆ ทั้งสิ้นต่อหน้าสื่อ

2.3 ยุทธวิธีเตรียมพื้นที่ปฏิบัติการ แยกเป็น 3 พื้นที่

2.3.1) พื้นที่แนวหลัง..(เขตปลดปล่อย) ใช้เป็นหลังพิงในการต่อสู้ โดยใช้พื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน มีหมอแคนขอนแก่นเป็นแม่ทัพแดงเผด็จการใหญ่ (อนาคตเขาจะถูกชายดูไบสังหารเป็นคนแรกเพื่อป้องกันทรยศ) ให้ทีมงานในพื้นที่ ขึ้นตรงกับหมอแคนนี้ แล้วเขาขึ้นตรงกับแม้วอีกทีหนึ่ง ใช้กองกำลังผสม ตามตำราของคอมมิวนิสต์ดังเดิมดังนี้
- ชายชุดดำแดงในพื้นที่ (อนาคตจะถูกชายดูไบสังหารแกนนำหัวๆ หมด)
- ชายชุดดำบ้าน (ที่ถูกหลอกมาตาย แลกค่าจ้างเพียงเล็กน้อยราว 100-300 บาทต่อวัน )
- อส., ชรบ. (สังกัดคลองหลอด, ที่ถูกหลอกมาตาย)
- อส.พิทักษ์ป่า
- ทุยแดงฮาร์ดคอร์ (อนาคตจะถูกชายดูไบสังหารแกนนำหัวๆ หมดเพื่อกันแข็งข้อ)

** ชายดูไบ และหมอแคนฯ ประเมินกำลังชายชุดเขียวในพื้นที่ภาค 2 และ 3 ว่า มีกำลังพลรบติดอาวุธไม่เกิน 40,000 นาย นอกนั้นเป็นธุรการ จำนวนเพียงแค่นี้ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้หมด

2.3.2) พื้นที่ต้องยึดครอง..ได้แก่ภาคกลางและภาคตะวันออก โดยให้แกนนำแต่ละจังหวัดนำกำลังของตนเองเข้าต่อสู้ ใช้กำลังพลคือฐานเสียงหัวคะแนนของแกนนำแต่ละคน ผสมกับชายชุดดำแดงและทุยแดงที่หลอกมาให้ตาย แล้วให้แกนนำแต่ละจังหวัดทุกคนขึ้นตรงกับชายดูไบ (เขาไม่เคยไว้ใจใคร) โดยเขาจะให้การสนับสนุนทั้งเงิน และคลังอาวุธ

2.3.3) พื้นที่สู้รบ..คือ กรุงเทพฯ และปริมณทล โดยใช้ยุทธวิธีแบบกองโจร หรือ จรยุทธ์ กองกำลังประกอบด้วย
- ชายชุดดำแดงในพื้นที่ (อนาคตจะถูกชายดูไบสังหารแกนนำหัวๆ หมด)
- ทุยแดงฮาร์ดคอร์ (อนาคตจะถูกชายดูไบสังหารแกนนำหัวๆ หมดเพื่อกันแข็งข้อ)
- นักรบรับจ้างจากเขมร

** ให้กองกำลังเหล่านี้ไม่ขึ้นกับบริษัทเผาไทย แต่หลอกให้ชายชุดดำฝ่ายชั่วที่ลดศักดิ์ศรีไปเป็นแค่มือปืนแทน ขึ้นตรงกับนายพลแม็คอาเธอร์อดีตนักรบรับจ้างแทน ที่จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมยุทธการด้วย

2.4 ยุทธวิธีสับขาหลอก สร้างความหวาดกลัว และต่อรอง หน่วงเวลา
- ให้แกนนำคอมมิวนิสต์สายกลายพันธ์ หมอแคนขอนแก่น, นกแสก, เหวง,และอ้วน สร้างความหวาดกลัวให้เกิดกับประชาชนคนไทย และกองทัพไทย ให้กลัวสงคราม, ให้กลัวการแบ่งแยกประเทศ แล้วสุดท้ายต้องบีบให้หันมายอมเจรจา
- โดยต้องยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายแก๊งค์อั้งยี่แดง นั่นคือ คนของระบอบชายดูไบต้องมีอำนาจบริหารประเทศต่อไป เขาและลูกสมุนโกงและเผาประเทศต้องหลุดพ้นความผิดทุกคดี..!!
** เช่น การให้ชายม่านรูด แสร้งทำไปเจรจากับหลวงปู่พุทธอิสระ ฯลฯ

3. เดินหน้าก่อสงครามกลางเมือง..เพื่อแบ่งแยกประเทศ สร้างรัฐไทยใหม่(แบ่งเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้) หลังสรุปแผนกับนายพลแม็คอาเธอร์รับจ้างเสร็จเรียบร้อย

- ในช่วงนี้ให้แกนนำ นปช.ออกเคลื่อนไหว ใช้เงินจ้างปลุกระดม,โฆษณาชวนเชื่อ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายกดดันไปเรื่อยๆ
- สั่งให้นักวิชาการแดง และนักการเมืองสายเผาไทย ออกมาเคลื่อนไหว ออกฟรีทีวี จัดกิจกรรมสร้างความสับสนวุ่นวาย ป่วนอารมณ์ ป่วนสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ
- ให้หมอแคนขอนแก่น เตรียมร่างประกาศพื้นที่ปลดปล่อยแบ่งแยกประเทศ (ภาคเหนือ/ภาคอีสาน) โดยใช้ช่วงเวลา (คาดว่าหลังวันที่ 4 มีนาคม 2557) หลังจากที่เปาบุ้นจิ้นรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์สิ้นสภาพรัฐบาลเทียม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 และ 172
- หรือวันที่ ปปช.สั่งให้ปูเน่าหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินของเปาบุ้นจิ้น , ปปช. หรือองค์กรใดกก็ตามในประเทศนี้..แล้วประกาศแยกตัวออกจากประเทศไทยทันที

4. ความคืบหน้าการสถานการณ์ของแก๊งค์อั้งยี่แดง
4.1 ก่อความรุนแรงเหตุการณ์ปาระเบิด ยิง เด็กเล็ก และประชาชนที่ จ.ตราด
- ก่อนเกิดเหตุมีการประชุมลับกันที่โรงแรมของลูกเปาะที่บางแสน, มีผู้กำกับภาค 2,คัชชา, ดาบแดง, คนตระกูลเปาะ, ตระกูลเฮง, ชายชุดดำพร้อมทั้งผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง
- ผลการประชุมลับ ให้ลอบสังหารแกนนำ กปปส. ภาคตะวันออก ทุกคน งานแรกให้สังหารแกนนำสายลับอีสานแปรพักษ์ ที่จะมาปราศัยที่ จ.ตราด
- โดยมีน้องเปาะที่ผู้ใหญ่บ้านชื่อชา ที่ไปทำธุรกิจที่เกาะกง เขมรกว่านาน 10 ปี นำเอานักรบเขมรรับจ้าง ร่วมทีมกับชายชุดดำฝ่ายชั่วภาค 2 จำนวนหนึ่ง
- แต่ให้อำพรางการสังหารแกนนำสายลับ ไม่ให้ดูจงใจโจ่งแจ้งเกินไป โดยสั่งให้ปาระเบิดใส่เด็กและผู้หญิงก่อน แล้วค่อยกราดยิงไปบนเวทีและผู้ชุมนุม จนทำให้มีเด็กตายและบาดเจ็บ

4.2 ก่อความรุนแรงเหตุการณ์ปะทะ
- ก่อนเหตการณ์นะโม เมีย และพ่อเป็นชายชุดดำ ส่งสัญญาณให้เสื้อแดงแฝงตัวถอนตัวออกมา – คืน 24 ก.พ.57แก๊งค์อั้งยี่แดงจ้างสมุนยิง M79 จากทางขนานรถไฟสามเสน กระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน กระจกแตก รถยนต์เสียหายเล็กน้อย 1 คัน ติดกับพรรคธรณีบีบมวยผม
- เหตุปะทะระหว่างอันธพาลแดงกับนักรบป๊อบคอร์น..หลายจุดใกล้เวทีสีลม-สวนลุม ตั้งแต่ 01.00-05.00 น. นานกว่า 4 ชั่วโมง ยิงต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยอาวุธนานาชนิด และ M79 ราว 20 ลูก , ปะทะบริเวณแยกอังรีดูนัง โดยแท็กซี่สีชมพู , บนสะพานไทย-ญี่ปุ่นผั่งสามย่าน และด้านล่างหลายจุด , ซอยศาลาแดง 2 สีลม, สามแยกไปราชประสงค์ หน้าจุฬาฝั่งสารสิน , ฝั่ง ถ.ราชดำริ
- มีหมาขี้เรื้อนลอบกัดกินข้าวโพดไปเต็มร่างและหัว 4 ตัว กลับบ้านเก่าลากศพกันทุลักทุเล มีการ์ดบาดเจ็บเล็กน้อย 2 เพียงคน
เวทีปทุมวัน จุดหน้าสนามกีฬาฯ มีโยนระเบิด เคลียร์ พื้นที่แล้ว 19.03
- คืน 25 ก.พ.57 เวลา 19.10 น.แก๊งค์มอเตอร์ไซต์โกตี๋ 200 คัน กำลังป่วน เอารถบัสปิดแยกพญาไท..เดี๋ยวคงได้เห็นอะไรดี
- เวลา 19.29 น. หมวด จ.รองโฆษกปูเน่า มาสืบข่าวแต่อ้างว่ามาทำหน้าร้านนิติพลคลินิก สยามสแควร์ ถูกการ์ดกปปส. เชิญไปคุย แต่หมวดเจี๊ยบสบถคำหยาบหลายคำ...เลย..?..?..?
- เวลา 20.39 น. รถอีซูซุดีแม็คสีบลอนเงินมีหลังคาเคลี่บอย ทะเบียน ก.ณ.4095 มาวนเวียนอยู่รอบที่ชุมนุมหลายรอบแล้ว ให้จัดการ !! รถคันนี้ได้เลย

4.3 วัดศรีบุญเรือง จ.เชียงใหม่ ให้ลูกศิษย์ทาสีกำแพงวัดให้ใหม่ เป็นสีแดงเข้มหลังจากเจ้าอาวาส เกจิเสื้อแดง ทำพิธีเพ่งดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า..สะเดาห์เคราะห์ชายดูไบ..ฮา
** ส่วนสมุนแดงก็เรียกขวัญหลอกกันเองใหญ่ว่าชายดูไบ แอบบมาอยู่เชียงใหม่..แต่จริง ๆ เขาเดินควงกุมมือเมียน้อยเสื้อขาวคนเดิม อยู่ที่สิงคโปร์ และโทรศัพท์สั่งการอย่างเคร่งเครียด

การที่รัฐอั้งยี่แดงโจมตีเด็ก และผู้หญิงด้วยอาวุธ ระเบิดและปืนนั้น เขาไม่ได้ยิงพลาด “แต่เขาจงใจ “ เขาต้องการให้ประชาชนป่วนอารมณ์ เครียด สับสน เขาต้องการสร้างความรุนแรงกดดันสังคมให้เหมือนภาคไต้ ที่เขาให้ทุนโจรก่อการร้ายฆ่าพระ เด็ก ผู้หญิง ที่เป็นผู้บริสุทธิ์..มันคือการทำงานจากผู้สั่งการคนเดียว และแก๊งค์เดียวกัน

ช่วงนี้ถ้าประชาชน เจอรถถัง รถเกราะ จรวด ปืนใหญ่ หลายสิบคัน ออกมาเพ่นพ่าน แถวแจ้งวัฒนะ ทุ่งสีกัน...ปวงประชา ไม่ต้องแตกตื่น

ถ้ามีเสียงอึกทึกครึกโครม..ให้เข้าไปในบ้านเสีย

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai


เอกสารข่าวจาก ปปช.ชี้แจง ครหา เร่งคดีจำนำข้าวรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" ดองคดี ประกันราคาข้าว รัฐบาลอภิสิทธิ์

เอกสารข่าวจาก ปปช.ชี้แจง ครหา เร่งคดีจำนำข้าวรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" ดองคดี ประกันราคาข้าว รัฐบาลอภิสิทธิ์