PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สถานการณ์ข่าว7พ.ค.58

Jab07May15

-รัฐธรรมนูญ
-นายกฯถก ครม.,คสช. 19พ.ค รอคุยแม่น้ำ 5 สายปมประชามติ หากสปช.โหวตผ่าน รธน.

นายกฯ ถก ครม. คสช. 19 พ.ค. รอคุยแม่น้ำ 5 สายปมประชามติ หาก สปช.โหวตผ่าน รธน.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ส่วนตัวได้ให้แนวทางแล้ว ซึ่งให้ดำเนินการตามกรอบของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ซึ่งในวันที่ 19 พ.ค. นี้ ทางคณะรัฐมนตรี และ คสช.จะประชุมร่วมกันเพื่อเสนอความเห็นไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มองว่าที่ผ่านมามีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญบ่อยเนื่องจากมีรายละเอียดมากเกินไปหรือไม่ ส่วนเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านการลงคะแนนจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ
หรือ สปช. จะเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ

ทั้งนี้ จะต้องหารือกันในที่ประชุมแม่น้ำ 5 สายว่าจะทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่จะต้องเสียงบประมาณในการดำเนินการกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่ายังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ได้อีก
---------------
"บวรศักดิ์" ให้ความรู้เรื่อง "การปฏิรูปการเมือง : ประเทศไทยหลังรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2558" ย้ำเจตนารมณ์ร่าง รธน. เน้นพลเมืองเป็นใหญ่

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้ความรู้เรื่อง "การปฏิรูปการเมือง : ประเทศไทยหลังรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2558" โดยกล่าวย้ำเจตนารมณ์การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4 ประการ ที่เน้นสร้างพลเมืองเป็นให้เป็นใหญ่ การเมืองใสสะอาดและสมดุล หนุนสังคมเป็นธรรม นำชาติสู่สันติสุข

พร้อมกันนี้ นายบวรศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงระบบการเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ว่า เป็นประโยชน์แก่พรรคใหญ่ ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมต่อพรรคเล็ก และภาครัฐไม่ส่งเสริมภาคพลเมือง ถึงจะมีการสร้างเสถียรภาพขึ้น แต่รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุ่นแรง ที่ นำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเข้ามาพิจารณา จนทำให้ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
----------------------
"บวรศักดิ์" แจงออกแบบ รธน.ฉบับนี้ เพื่อแก้ปัญหาในอดีต ขออย่ากังวลระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม พร้อมฟังเสียงของทุกฝ่าย

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้เหลียวหน้า แลหลัง เพื่อแก้ปัญหาในอดีตและสร้างสังคมไทยในอนาคต ถึงวันนี้

จะไม่มีความขัดแย้ง ที่ใช้อำนาจพิเศษจาก คสช. ที่เหมือนกับใช้ยาพารามาระงับการลดไข้ หากไม่มียาพาราจะทำอย่างไร เพราะแท้จริงแล้ว สังคมยังไม่มีความเป็นธรรม จึงต้องสร้างพลเมือง
ให้เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น พร้อมสร้างจิตสำนึก โดยพลเมืองจะต้องอยู่เคียงคู่กับการบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่ระดับเล็กจนระดับโต ที่อาศัยความศรัทธาของพลเมือง

พร้อมกล่าวว่า อย่ากังวลเรื่องระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม ที่ยังคงมีบัตร 2 ใบ แต่แบ่งเป็น 6 ภาค ทั่วประเทศไทย โดยสามารถเลือก ส.ส.ที่รัก และพรรคที่ชอบ ซึ่งจะได้ ส.ส. ที่สะท้อนความนิยม

ของประชาชน อย่างไรก็ตาม พร้อมฟังเสียงของทุกฝ่าย รวมถึงพรรคการเมือง เนื่องจากตอนนี้ ยังสามารถแก้ไขร่างได้จนถึงวันที่ 23 ก.ค. 2557
-------------------------
"บวรศักดิ์" ยัน ทำประชามติ เป็นขยายเวลาโรดแมป สร้างความเข้าใจแก่ ปชช. - ครม. คสช. ต้องเป็นผู้เห็นชอบ

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวยืนยันว่า การทำประชามติเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่จะต้องขยายเวลาโรดแมปออกไปอีก เนื่องจากจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประประชาชน โดยการพิมพ์เอกสารรัฐธรรมนูญ จำนวน 42 ล้านเล่ม ส่งไปให้ประชาชนได้ศึกษาข้อมูลก่อนลงคะแนนเสียงประชามติ และเผยแพร่ผ่านโทรทัศน์ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ สุดท้ายแล้ว คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ ต้องเป็นผู้เห็นชอบ เพราะจะต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ก่อน

นอกจากนี้ กล่าวถึงเรื่องหมวดการปฏิรูปและการสร้างความปรองดองว่า ต้องการให้สื่อมวลชนและฝ่ายต่างๆ ช่วยดูรายละเอียดและเผยแพร่ในหมวดนี้บ้าง เพราะมีเรื่องของสิทธิประโยชน์ของประชาชนอย่างมาก และในเรื่องควบรวมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าด้วยกัน ว่า ยังรับฟังเสียงทุกฝ่าย รวมถึงอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย
---------------------------
บวรศักดิ์แจงสื่อมีความสำคัญในสังคม ต้องทำหน้าที่อย่างจริงจัง เชื่อสิทธิ ปชช.ที่ได้รับข่าวสารรอบด้านปราศจากอคติเป็นสิ่งสำคัญ

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวเรื่องรัฐธรรมนูญกับสื่อมวลชน ว่า ในขณะนี้สื่อมวลชนกลายเป็นสื่อสารมวลชนเพราะประชาชนไม่เพียงแต่รับสื่อแต่สามารถสื่อสารกันเองผ่านโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการสื่อสารมวลชนจึงมีความสำคัญกับขีวิตของคนในสังคมกับทุกมิติโดยสิ่งที่เห็นได้ชัดคือร่างรัฐธรรมนูญในฉบับนี้เชื่อในสื่อสารมวลชน แต่กลับได้รับความระแวงสงสัยว่าจะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญได้คุ้มครองให้สื่อมีอิสระจากรัฐ ทุนภาครัฐ อำนาจทางการเมือง รวมถึงอิสระออกจากตัวเอง นอกจากมีกฎหมายในการโฆษณาภาครัฐ และกฎหมายว่าด้วยองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนเพื่อปกป้องเสรีภาพสื่อ ส่งเสริมจริยธรรม พิจารณาคำร้องผู้ได้รับผลกระทบจาการทำหน้าที่สื่อ และคุ้มครองบุคคลที่ทำหน้าที่สื่อ

นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าสิทธิประชาชนพลเมืองที่ได้รับข้อมูลข่าวสารรอบด้านโดยปราศจากอคติเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นสื่อต้องกำกับดูแลกันเองอย่างจริงจัง รวมถึงตนเองจะคอยสังเกตว่าสื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ครบถ้วนหรือไม่

//////////////
-ปรับครม./เคลื่อนไหวนายกฯ
-นายกฯชี้บิ๊กจิ๋วลงพื้นที่บประชาชนไม่ใช่หน้าที่ มีการเมืองแฝงขัดคำสั่งคสช./ติงไม่ควรพบชาวนา/ใช้๓พันล้านจะได้อะไร(7)/รธน.กินไม่ได้(6)

นายกรัฐมนตรีติง "บิ๊กจิ๋ว" และนักการเมือง ไม่ควรพบปะประชาชนทางการเมือง ยินดีเปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองประชุมพรรคแต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปฟังด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาชาวโรฮิงยาว่า เป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งต่างชาติกำลังจับตาอยู่ ดังนั้นการนำเสนอข่าวเรื่องนี้มากอาจไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องกระบวนการข้ามชาติ ดังนั้นจะต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง โดยจะต้องมีการหารือกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองลงพื้นที่พบปะกับประชาชนว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ใช่หน้าที่และไม่ควรดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบชาวนานั้น ยืนยันว่ายังมีความเคารพแต่ มองว่า พล.อ.ชวลิตเป็นอดีตนักการเมืองและอยู่ในข่ายเช่นเดียวกัน ส่วนหากพรรคการเมืองจะทำกิจกรรม เช่น การประชุมพรรคการเมือง ก็พร้อมจะจัดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ไปรับฟังด้วยแต่ไม่สามารถไปจัดประชุมอิสระได้
----------------
"พล.อ.ประวิตร" บอกนายกฯ ยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรี เชื่อรัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างดี ยัน คสช.ทำตามโรดแมป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ว่า เป็นปัญหาที่ทุกประเทศในอาเซียนกำลังประสบอยู่ ซึ่งสำหรับประเทศไทยรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข ส่งผลให้ตัวเลขรายได้ขยับดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และแม้ประเทศกำลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีแนวโน้มปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด

ส่วนกรณีพระสุเทพ ปภากโร หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สนับสนุนให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อยู่ทำหน้าต่อไปนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ คสช. ยืนยันจะทำตามโรดแมปที่วางไว้ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายต้องการให้ คสช. เป็นผู้ริเริ่มให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่ต้องหารือกันต่อไป
------------------
นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวงเตรียมชี้แจงผลงาน คสช.ต่อประชาชน เข้มใช้กฎหมายการใช้รถใช้ถนน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงมติในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นกยกรัฐมนตรีหัวหน้า คสช. กล่าวว่า ตามโรดเมปภายใน

ต้นเดือนกันยายน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจะทำการลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จึงสั่งการให้แต่ละกระทรวงและคณะทำงานด้านกฎหมายรวบรวมผลงานตามที่ได้ดำเนินการมาและแผน

งานที่วางในอนาคต โดยให้กำหนดรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อเตรียมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าตลอดระยะเวลา คสช. ได้เข้ามาดำเนินงาน ได้สิ่งใดไปแล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งการเรื่องการบังคับกฎหมายอย่างเข้มข้นในเรื่องการใช้รถใช้ถนนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะ อุบัติเหตุกับรถจักรยาน และสาเหตุที่มาจากการเมาแล้วขับ

พร้อมทำความเข้าใจในการใช้ถนน ระหว่างคนขับรถและผู้ขับขี่จักรยาน ตลอดจนกวดขันเรื่องสถานบริการที่อาจเปิดเกินเวลา นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย

กระทรวงคมนาคมให้ดำเนินการในเรื่องเครื่องกั้นทางเลนจักรยานอีกด้วย
---------------------
"สรรเสริญ" เผย นายกรัฐมนตรี มอบให้ฝ่ายกฎหมายจัดทำเอกสารคู่มือข้อกฎหมายแจกจ่ายทำความเข้าใจกับประชาชน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่า อยาก

ใหประชาชนมีความเข้าใจในเรื่องกฎหมายพื้นฐานที่ประชาชนควรรับทราบ จึงมอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม และให้กระทรวง

ยุติธรรมจัดทำคู่มือฉบับกระทัดรัดในเรื่องของข้อกฎหมายเพื่อนำมาพิจารณาเพื่อแจกจ่ายทำความเข้าใจกับประชาชน

นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่วมกันให้ทุกหน่วยงานราชการชี้แจงรายละเอียดและแนวทางให้ประชาชนทราบ ต่อการใช้อำนาจและดุลยพินิจต่าง ๆ เพื่อเป็น

มาตรฐานขั้นต้น หากมีเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจที่ไม่เหมาะสม นายกรัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พุทธศักรราช 2534 เพื่อยกเลิกการ

ใช้ดุลยพินิจที่ไม่ถูกต้องได้ และใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ดุลยพินิจไปในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม
----------------------
"สรรเสริญ" เผย นายกรัฐมนตรี สอบถามความก้าวหน้ากฎหมายสำคัญ 5 ฉบับ ขณะที่กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ครม.อาจออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อบังคับใช้ก่อน 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประขุมคณะรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้สอบถามความก้าวหน้ากฎหมายสำคัญ 5 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายชุมนุมในที่สาธารณะที่ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเตรียมทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อประกาศใช้ พ.ร.บ.ภาษีมรดก ซึ่งขณะนี้อยู่ในวันสุดท้ายในขั้นกรรมาธิการเพื่อเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.กฎหมายสลากกินแบ่ง ซึ่งขณะนี้ คสช.ได้ออกคำสั่งในการแก้ปัญหาเบื้องต้น และในส่วนร่างกฎหมายนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของกฤษฎีกาในขั้นตอนขั้นสุดท้ายก่อนส่งไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาพ.ร.บ.สำรวจผลิตปิโตรเลียม หลังจะเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรีภานใน 1-2 สัปดาห์นี้ และกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่อาจจะต้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อบังคับใช้ก่อนเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
----------------------------
พล.อ.ไพบูลย์แจงวิษณุมอบรายชื่อ ขรก.พัวพันการทุจริตชุดแรกให้นายกฯ แล้ว - ปชช.มั่นใจส่งรายชื่อเข้ามามากขึ้น

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีรายชื่อข้าราชการที่มีส่วนพัวพันการทุจริต ว่า ขณะนี้ รายชื่อในการดูแลของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย

ซึ่งได้มีการมอบบัญชีรายชื่อชุดแรกให้กับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ตัดสินใจในการลงโทษผู้กระทำความผิด

ส่วนกรณีที่ประชาชนเริ่มมีความมั่นใจในการส่งรายชื่อข้าราชการที่มีการทุจริตเข้ามามากขึ้นนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ได้มีการนำข้อมูลในส่วนนั้นมาพิจารณาต่อไป
-----------------------
/////////////////

-สนช.ถอดถอน
-บุญทรงแถลงปิดคดีถออดถอนฉะ ปปช.ยุติธรรมอำพราง/วิชาชี้อุปโลกน์G2G
สนช.เปิดประชุมรับฟังแถลงปิดสำนวนคดีจีทูจีแล้ว โดย ป.ป.ช.เริ่มแถลงก่อน ตามด้วยผู้ถูกกล่าวหา

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล่าสุด ประธานกดสัญญาณเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมแล้ว เพื่อเตรียมพิจารณากระบวนการถอดถอน นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่า

การกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรับฟังคำแถลงการณ์ปิดสำนวนด้วยวาจา

โดยตามกระบวนการ จะต้องให้ทางฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้เริ่มแถลงปิดสำนวนก่อน จากนั้นฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาจะแถลงโต้แย้งคำแถลงปิดสำนวนของ ป.ป.ช. ทั้งนี้ นายภูมิและนายบุญทรง จะมาแถลงด้วยตนเอง ส่วนนายมนัสแถลงปิดเป็นลายลักษณ์อักษรแทน

ขณะเดียวกัน ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระถอดถอน ที่ประชุมจะรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีให้ถอดถอน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ออกจากตำแหน่ง
-------------------------------
วิชาแถลงปิดสำนวนคดีจีทูจี ย้ำทุจริตระบายข้าวจริง วางอุบายหลีกเลี่ยงตรวจสอบ พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนแถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจา โดยย้ำว่า การระบายขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ระหว่างราชอาณาจักรไทยและบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ได้รับมอบ

หมายจากรัฐบาลจีน ที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีอยู่จริง แต่อาศัยความร่วมมือของข้าราชการประจำที่รู้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อกระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ อีกทั้งยังใช้ความร่วมมือจากเอกชน

ดำเนินการเป็นขบวนการที่เรียกได้ว่าเป็นการวางกลอุบาย พื่อหลีกลี่ยงการตรวจสอบ

ทั้งนี้ 2 บริษัทคู่สัญญาจากจีนที่เข้ามาเจรจาซื้อขายข้าว เดินทางเข้าไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว และกลับเป็นบริษัทที่ค้าเครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าข้าวแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่มี

การค้าขายข้าวตามที่กล่าวอ้าง แต่นำข้าวมาขายเวียนให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีวิธีเปลี่ยนแปลงการเงินชำระมาใช้ในรูปแบบการขายหน้าคลังสินค้า เพื่อมุ่งสร้างความยุ่งยากต่อกระบวนการตรวจสอบถึงที่มาของเงิน

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนที่ปราศจากอคติ รับฟังความทุกฝ่าย และให้ความเป็นธรรมตามกระบวนการ
---------------------
ปิดสำนวนคดีถอดถอนบุญทรงและพวกเแล้ว ปัดทุกข้อกล่าวหา ไม่ได้แสวงหาผลแก่ตนและพวกพ้อง 

บรรยากาศการประชุมสภานิติบัญญัติแห่ชาติ (สนช.) ล่าสุด ผู้ถูกกล่าวหาแถลงปิดสำนวนคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมยืนยันว่าการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี

ปฏิบัติตามแนวโนบายของรัฐอย่างบริสุทธิ์ ไม่ได้แสวงหาผลแก่ตนและพวกพ้อง ซึ่ง นายภูมิ สาระผล กล่าวว่า ในการทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าว ตนมีภารกิจ
ให้ระบายข้าวแบบเร่งด่วน เนื่องจากมีปัญหาสต๊อกข้าวที่ตกข้างมาจากรัฐบาลก่อน จำนวนกว่า 218,900 ต้น ซึ่งราคาขายที่ถูกกล่าวหาว่าตั้งต่ำกว่าราคาตลาดนั้น ตนได้พิจารณาโดยคำนึงถึงโอกาส

และราคาตลาดแล้วว่าราคาดังกล่าวมีความเหมาะสมกับปริมาณการระบายข้าวค้างสต๊อก

ขณะที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กล่าวว่า การกล่าวหาตนได้ร่วมกับผู้อื่นกระทำการทุจริตต่อหน้าที่เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงโดยไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน อีกทั้งในการระบายข้าวแบบจีทูจีใน

รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นไปตามแนวทางเดียวกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และไม่ได้เปลี่ยนบุคลากรในคณะทำงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ ป.ป.ช.กลับพิจารณา 2 มาตรฐาน

พร้อมยังมีการแจ้งข้อกล่าวหากับ บริษัท GSSG คู่ค้าของรัฐบาล ทั้งที่ตนได้แสดงหลักฐานชัดเจนว่าบริษัทดังกล่าวเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริง
/////////////
-โรฮิงญา
-โฆษก ทบ.รับเด้ง พ.อ.จริง ย้ายตรามฤดูกาล ปัดพันโรฮิงญา ยันไร้หมายจับ พ.ต.
-ออกหมายจับคดีโรฮิงญาเพิ่ม 10คนมี ตร.2 เจออีก 30 หลุม ต.ฉลุง อ.รัตภูมิ สงขลา/ตร.เผยออกหมายจับรวม18ราย
----------------
-ประวิตร ปัดงัด ม.44 แก้โรฮิงญา เชื่อ จนท.เอี่ยว ยันนายกฯไม่ปรับ ครม.
"พล.อ.ประวิตร" ปัดใช้ ม.44 แก้ปัญหาโรฮิงยา เชื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าร่วมในกระบวนการ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณีที่มีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานชาวโรฮิงยาเข้า

ประเทศว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบแต่ยังไม่มีการรายงานรายชื่อ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะต้องมีข้าราชการท้องถิ่น หรือผู้ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้าร่วม มิเช่นนั้น
กระบวนการคงไม่สามารถดำเนินได้ ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งตรวจสอบแล้ว และไม่ว่าจะเป็นใคร ตำแหน่งใดก็จะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษทั้งหมด ทั้งนี้

ก็เชื่อว่าปัญหาชาวโรฮิงยาจะไม่กระทบกับการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยมีมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 มาแก้ไข เพราะมีกฎหมายและระเบียบราชการแผ่นดินรองรับอยู่แล้ว
-----------------------
วินธัยยันกองทัพเร่งสอบทหารโยงโรฮิงยา อาจใช้ ม.44

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า มีการระบุทหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีโรฮิงยานั้น ทางกองทัพได้มีการใช้กลไกภายในจัดการอยู่ซึ่งยังไม่ชัดเจน แต่สำหรับข้อมูลเชิง

คดีนั้นมีอยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งทาง ป.ป.ท.ต้องไปชี้มูลและตั้งกรรมการสอบสวนคู่ขนาน หากเป็นการเจตนาบกพร่องต่อหน้าจะมีโทษทางวินัย

ส่วนปัญหาแรงงานต่างด้าวหรือผู้หลบหนีเข้าเมืองนั้น กองกำลังป้องกันชายแดนทำหน้าที่อยู่ และทางผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการกำชับให้ทำงานและแก้ปัญหาทางด้านนี้อย่างจริงจัง

ขณะที่การใช้ ม.44 ออกคำสั่งการแก้ปัญหาชาวโรฮิงยานั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและหัวหน้า คสช.จะตัดสินใจต่อไป
--------------------------
อนุสิษฐแจงคดีโรฮิงยาอยู่ระหว่างสอบสวน รัฐบาลต้องดำเนินการให้ดีที่สุด 

นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวถึงกรณีที่มีการพบค่ายกักกันและสุสานของชาวโรฮิงยา ในจังหวัดสงขลา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผล

เพิ่มเติม ซึ่งเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและขับเคลื่อนการทำงานให้มีประสิทธิภาพในทุกเรื่อง ซึ่งระยะต่อไปอาจมีการสืบสวนสอบสวนในพื้นที่อื่น ๆ และอาจมีความ

เชื่อมโยงเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. เป็นผู้ดูแลในเรื่องดังกล่าว

ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือไม่นั้น นายอนุสิษฐ กล่าวว่า สามารถมองได้ 2 ทาง คือ การรักษาความมั่นคงภายในประเทศเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยมีส่วนเชื่อมโยง

กับเรื่องของสิทธิมนุษยชน จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการให้ดีที่สุด โดยทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องทำงานอย่างเต็มที่และโปร่งใส

ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ ส่วนตัวไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ต้องไปถามทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าต้องมีการปรับ

เปลี่ยนอยู่แล้วเพื่อให้ระบบข้าราชการดีขึ้น
-------------------------
บิ๊กเอก ถกคดีโรฮิงยาต่อเนื่อง ระบุ ยังไม่ทราบนายกฯ สั่งสางคดีใน 10 วัน ยืนยัน ไม่กดดันการทำงาน 

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เตรียมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีพบศพชาวโรฮิงยา บนเทือกเขาแก้ว ติดกับชายแดนไทย-มาเลเชีย ใน

อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมระบุว่า จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่ายังมีผู้ร่วมในขบวนการนี้อีกหลายคน ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มคนมีสีระดับใดนั้น ขอให้เป็นเรื่องของแนวทาง

การสืบสวน ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบรัดกุมที่สุด ทั้งนี้ สำหรับค่ายกักกันชาวโรฮิงยา จนถึงตอนนี้ยังพบแค่ 3 แห่ง โดยแห่งที่ 3 พบผู้เสียชีวิต 6 ศพ อยู่ระหว่างการชันสูตรอย่าง
ละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำวรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. สั่งให้คลี่คลายคดีให้ได้ใน 10 วันนั้น

ส่วนตัวยังไม่ทราบละเอียดดังกล่าว แต่ยืนยันว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ไม่ได้ดันหรือเร่งรัดการทำงานของตำรวจแต่ให้ดำเนินการทุกอย่างให้รอบคอบและตนก็พยายามเร่งรัดคดีอย่างเต็มที่ และไม่

ได้รู้สึกกดดัน หรือกังวลแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทีคำสั่งย้ายนายตำรวจในพื้นที่รวมกว่า 30 นาย มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.แล้ว
--------------------------
โฆษกกองทัพบกเผย พร้อมดำเนินการหากมีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกรณีโรฮิงยา ยืนยันยังไม่มีการออกหมายจับนายทหารยศพันตรี

พันเอก วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก คณะทำงานโฆษก คสช. เปิดเผยผ่าน สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงแนวทางและนโยบายการทำงานของทางกองทัพบก ในกรณีที่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องในส่วนของคดีชาวโรฮิงยา โดยที่แต่ละหน่วยนั้นมีวิธีการดำเนินการอยู่แล้ว เบื้องต้นในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบอยู่ หากมีข้อมูลเพียงพอทางกองทัพบกก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพราะทางผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำในเรื่องนี้มาโดยตลอด

ส่วนในกรณีที่เป็นข่าวนั้น บางส่วนยังเป็นข้อมูลในเชิงการข่าวอยู่ ซึ่งทางกองทัพยังใช้กลไกภายในในการตรวจสอบอยู่ ส่วนทางข้อมูลเชิงคดีในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะนี้คดีได้เข้าสู่กระบวนการแล้ว โดยทางผู้บัญชาการทหารบกก็ได้ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนคู่ขนาน ซึ่งหากพบว่าผู้ใดมีความผิดก็จะต้องโทษทางวินัยด้วย

ในส่วนของปรับเปลี่ยนโยกย้ายการทำงานของนายทหารระดับผู้ใหญ่นั้น เป็นไปตามความเหมาะสม เปลี่ยนผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม จึงไม่อยากให้มองว่านายทหารระดับผู้ใหญ่
ท่านนั้นมีความผิดอะไร ส่วนกรณีนายทหารยศพันตรีที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนั้น เป็นข้อมูลที่ยังคลาดเคลื่อนอยู่ ยืนยันยังไม่มีการออกหมายจับ หรือกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความ ส่วนจะมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 มาใช้ในการดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งซึ่งที่ผ่านมาการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังเป็นที่น่าพอใจ

ขณะเดียวกันปัญหาของแรงงานต่างด้าวและผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่อื่น ๆ ทางกองทัพบกก็ได้ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ในรูปแบบของกองกำลังป้องกันชายแดน โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
----------------------------
ผบ.ตร.ไม่กดดันนายกฯ สั่งสางปมโรฮิงยา 10 วัน ชี้ทำเต็มที่ กำชับสกัดสกั้นทุกช่องทาง ห้ามมีค่ายพักรอในไทย ยันหากพบตำรวจเอี่ยวฟันอาญาไม่เลี้ยง

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกกดดันกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. สั่งการให้คลี่คลายคดีโรฮิงยาภายใน 10 วัน เนื่องจากตำรวจและทหารได้ร่วมมือกันในการแก้ปัญหามาโดยตลอด และทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญส่งผลต่อความมั่นคงและถูกจับตาจากนานาชาติ นายกรัฐมนตรีย่อมเป็นห่วงและให้ความสนใจเป็นพิเศษ พร้อมยืนยันได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังทั้งทางบก ทางน้ำ ทางทะเล ในการสกัดกั้นและป้องกันไม่ให้มีค่ายพักรอในประเทศไทย

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวด้วยว่า จำเป็นต้องโยกย้ายนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ รวมถึง ปคม.ออกนอกพื้นที่ไว้ก่อน เนื่องจากกรณีดัวกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีมานานแล้ว จึงเห็นว่านายตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกพิจารณาย้ายกลับ แต่หากพยานหลักฐานยืนยันว่ามีนายตำรวจคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาโดยไม่ละเว้น

ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้ พลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่ามีนายตำรวจคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ยืนยันว่า การย้ายนายตำรวจจำนวนมากครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลต่อขวัญกำลังใจและการทำงาน พร้อมเตรียมเสนอ พอ.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งข้าราชการตำรวจนอกวาระประจำปี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่มีการโยกย้ายด้วย
------------------------
รมว.พม.กำชับเจ้าหน้าที่เตรียมสถานที่รองรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ หลังพบหลุมฝังศพ จำนวน 30 กว่าหลุม ที่ จ.สงขลา

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมขบวนการขนส่งชาวโรฮิงยาเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียต่อไป โดยมีการเรียกเงินค่าไถ่จากญาติ ซึ่งชาวโรฮิงยาบางคนไม่ได้รับการปล่อยตัว ต่อมามีบางคนได้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามผู้กระทำความผิด ทำให้มีการตรวจพบแคมป์ที่ใช้กักขังชาวโรฮิงยา อยู่บริเวณเทือกเขาแก้วหมู่ที่ 8 หมู่บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งพบว่ามีคนป่วยเป็นชาวบังกลาเทศ 1 คน ผู้เสียชีวิต 1 คน และหลุมฝังศพจำนวน 30 กว่าหลุม

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างเร่งรัดการดำเนินคดี การตรวจสอบอัตลักษณ์จากโครงกระดูกที่พบ พร้อมทั้งสอบสวนและคัดแยกผู้ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา (พมจ.สงขลา) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่รักษาตัวเป็นคนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จังหวัดสงขลา ได้รับเด็กไว้คุ้มครองแล้ว ส่วนผู้หญิงยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและจะส่งเข้ารับการคุ้มครองต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่รองรับผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
-----------------------------
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เชื่อพบหลุมศพชาวโรฮิงยาจำนวนมากในสงขลา ไม่กระทบการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์

นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในกรณีการพบสุสานฝังศพชาวโรฮิงยาในพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตนเองเชื่อว่า

จะไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report ) ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาจัดทำขึ้น เนื่องจาก ตามขั้นตอนปกติสหรัฐฯ จะพิจารณาจากรายงาน

การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่ทางการไทยจัดทำขึ้น โดยขั้นตอนจัดส่งรายงานดังกล่าวของรัฐบาลไทยสิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา
-----------------------------
เลขาฯ ปปง. เผยสามารถดำเนินการอายัดและยึดทรัพย์ขบวนการค้ามนุษย์ได้จำนวนมาก ระหว่างดำเนินการอีก 160 เรื่อง

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ว่า

ปปง.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ด้วยการใช้มาตรการยึดและอายัดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินในคดีความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ซึ่งถือเป็นการทำงานที่สอดรับกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

โดยที่ผ่านมา ปปง.สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินในความผิดฐานค้ามนุษย์ได้รวม 262 เรื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 189 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2543 ก่อนที่จะมีมูลฐานความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์

สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้ 20 คดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 120 ล้านบาท
   
โดยขณะนี้ ปปง.อยู่ระหว่างติตตามตรวจสอบทรัพย์สินกรณีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ตามที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 160 เรื่อง

อย่างไรก็ตาม บางกรณีที่ ปปง.ตรวจสอบไม่พบทรัพย์สินเพื่อยึดและอายัดตามกฎหมายฟอกเงินได้จำนวน 77 เรื่อง แต่ปปง.จะเก็บเป็นฐานข้อมูลซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถเอาผิดในคดีค้ามนุษย์ได้
----------------------------
โฆษก ตร. เผยศาลนาทวีออกหมายจับโยงโรฮิงยาอีก 10 คน มีตำรวจร่วมด้วย 2 คน

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีพบศพชาวโรฮิงยา บนเทือกเขาแก้ว ต.ตะโล๊ะ และ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.

สงขลา เพิ่มอีก 10 คน ประกอบด้วย ด.ต.อัศณีย์รัญ นวดรอด อายุ 46 ปี ดาบตำรวจ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปาดังเบซาร์ และ ร.ต.ท.มงคล สุโร อายุ 58 ปี รองสารวัตรป้องกันและ

ปราบปราม สภ.ปาดังเบซาร์ ผู้ต้องหาฐานกระทำผิด "สนับสนุนการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ และเรียกรับหรือยอมรับจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ถูกลง

โทษ" ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ประกอบด้วย นายชลชาลน์ ไชยมณี อายุ 45 ปี นายพิชัย เอียง อายุ 45 ปี นายสุไหลหมาน หมัดอาค้ำ อายุ 59 ปี นางฝารีต๊ะ ทองแดง อายุ 46 ปี นายสมยศ อังโชติพันธุ์ อายุ

45 ปี นายเจ๊ะมุสา สีสัย อายุ 39 ปี นายสะอารี เซร็ม อายุ 47 ปี นายศักดา ทองแดง อายุ 20 ปี ร่วมกันกระทำผิดฐาน "สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ฯ, ร่วมกัน

ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่"

ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายตำรวจ 2 คน ที่ถูกออกหมายจับ จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าทั้งสองคนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการนำพาชาว

โรฮิงยาเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลา และรู้เห็นการนำชาวโรฮิงยาไปไว้บนเทือกเขาแก้ว
/////////////
-ดินไหว/เนปาล
-แผ่นดินไหว7.1ตต.เฉียงใต้ปาปัวนิวกินี ลึก 10กม.เตือนสึนามิ แม่แจ่ม 2.5ลึก5กม.
เกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน มีโอกาสเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน  แผ่นดินไหว 7.2 ตามมตราริกเตอร์ สั่นสะเทือนทั่วแซิฟิก ระหว่างหมู่เกาะปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเสี่ยงเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามแนวชายฝั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้าน

แผ่นดินไหวกล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ลึกจากแผ่นดิน 22 กิโลเมตรในบางพื้นที่ 149 กิโลเมตร ในปากูนาทางตอนใต้ของปาปัวนิวกินี และ 642 กิโลเมตร จากเมืองหลวงโฮเนียร่าของหมู่เกาะ

โซโลมอน ตามที่สำนักธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงาน

ทั้งนี้ สำนักเฝ้าระวังคลื่นยักษ์สึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ประกาศเตือนสึนามิ แต่คาดว่าความเสี่ยงเกิดคลื่นยักษ์ อาจเป็นไปได้ในรัศมี 300 กิโลเมตร จากจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวตาม

แนวชายฝั่งของหมู่เกาะปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะโซโลมอน
--------------
ศภช. เผย เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.5 บริเวณเกาะยาว จังหวัดพังงา รู้สึกได้ในหลายพื้นที่ 

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงาน เมื่อเวลา00.30น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวในละเล ขนาด 4.5 ความลึก 11 กิโลเมตร บริเวณอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา รู้สึกสั่นไหวหลายพื้นที่ในจังหวัด ภูเก็ต  จ.

กระบี่ จ.พังงา ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์เตือนภัยพิบัติจะรายงานให้ทราบต่อไป
--------------------
สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานแผ่นดินไหว อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ 2.4 ตามมาตราริกเตอร์ ไม่ได้รับรายงานเสียหาย 

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานเมื่อวันที่ 7 พฤกษภาคม 2558 เวลา 11.56 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.4 ตามมาตราริกเตอร์ ความลึก 5 กม. ยังไม่

ได้รับรายงานความเสียหาย
-------------
ศภช.รายงานแผ่นดินไหว ขนาด 7.2 ตามมาตราริกเตอร์ ความลึก 50 กม. บริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) รายงาน วันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค. 58 เวลา 14.10 น. แผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 7.2 ตามมาตราริกเตอร์ ความลึก 50 กม. บริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ไม่มีผลกระทบต่อ

ประเทศไทย หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศภช.จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
--------------------
แผ่นดินไหวพม่า 3.0 ตามมาตราริกเตอร์ ห่างจาก ปางมะผ้า 147 กม. ไร้ผลต่อไทย

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานเมื่อวันที่ 7 พฤกษภาคม 2558 เวลา 13.02 น. เกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่า วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.0 ตามมาตราริกเตอร์ ห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 147 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
-------------
ผอ.สปภ.กทม.เผยมาตรการรับมือแผ่นดินไหวใน กทม. 7 ข้อ ย้ำไม่ประมาท

พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวว่า สปภ.ได้เตรียมความพร้อม
รับมือเหตุแผ่นดินไหวใน กทม. ดังนี้

1. จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2553-2557 เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติงาน ครอบคลุม
สาธารณภัยทุกประเภทรวมถึงภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่ม
2. จัดทำแผนป้องกันและลดผลกระทบจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่มกรุงเทพฯ
3. อบรมและฝึกซ้อมด้านภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่มให้กับเจ้าหน้าที่ กทม.
4. จ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่มในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้
อยู่ระหว่างนำผลการศึกษาไปพิจารณาวางแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่ม
5. กรณีเกิดภัยจะจัดตั้ง “ศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติกรุงเทพมหานคร” เพื่อจัดส่งบุคลากร อุปกรณ์ พร้อมปฏิบัติงานในศูนย์และ
งานภาคสนามเพื่อให้ภัยยุติให้เร็วที่สุด
6. สปภ.จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ ยานพาหนะ พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ช.ม.
7. เผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารแก่ประชาชนให้ทราบให้มากที่สุด
--------------
"สรรเสริญ" เผยยอดเงินบริจาคช่วยเนปาลล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาอยู่ที่ 133,403,924 บาท แนะบริจาคเงินสะดวกกว่าสิ่งของ 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ถึงตัวเลข

ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า ยอดเงินบริจาคเมื่อวานที่ผ่านมาจำนวน 133,403,924 บาท และมีส่วนเพิ่มเติมภายหลังที่รัฐบาลเนปาลได้ประกาศเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่

ผ่านมาว่าได้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากการกู้ภัยกู้ชีพมาเป็นเรื่องของการฟื้นฟูและอยากให้ประชาชนรับทราบว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธในการรับสิ่งของช่วยเหลือ อาทิ เต็นท์ ผ้าปูรอง

นอน ผ้าห่ม ซึ่งหลังจากนี้อาจเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อความสะดวก เพราะการขนส่งสิ่งของในการช่วยเหลือมีข้อจำกัดในเรื่องของค่าขนส่ง และเพื่อช่วยเหลือให้ตรงตามความต้องการของประเทศเนปาล
-----------------------
ไทยส่งทีมแพทย์ชุดที่ 2 ทั้งหมด 24 คน ไปเนปาล เพื่อผลัดเปลี่ยนทีมแพทย์ชุดแรกที่จะเดินทางกลับมา 10 พ.ค. นี้

น.พ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปสนามสุวรรณภูมิเพื่อให้กำลังใจทีมแพทย์ไทย ชุดที่ 2 ทั้งหมด 24 คน ที่จะเดินทางไปประเทศเนปาลด้วยสายการบิน

TG319 เพื่อผลัดเปลี่ยนกับทีมแพทย์ชุดแรก โดยทุกคนได้เตรียมพร้อมในการดูแลผู้ประสบภัยชาวเนปาลอย่างเต็มที่และจะอยู่ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสนาม ต.ซิปปะกัต 2 สัปดาห์

ส่วนการเดินทางครั้งนี้ ได้เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการดูแลรักษาผู้ป่วยไปด้วย อาทิ เปลขนย้ายผู้ป่วย เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องปั่นไฟสำรอง เครื่องกรองน้ำ ผงทำน้ำดื่ม 120,000 ซอง ซึ่ง

ได้รับประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดยทีมแพทย์จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลสนาม และรับมอบงานจากทีมชุดที่ 1 จากนั้นเริ่มปฏิบัติงานตามแผน

ทันที และทีมแพทย์ชุดที่ 1 ทั้ง 19 คน จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้

สำหรับผลการให้บริการรักษาผู้ป่วยประสบภัย ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ถึง 6 พฤษภาคม ยอดสะสมรวม 1,026 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผล แผลอักเสบ ติดเชื้อ ป่วยเป็นไข้หวัด ซึ่งในการปฏิบัติงานของ

ทีมชุดที่ 2 เตรียมให้บริการเชิงรุกเข้าไปในชุมชนให้ได้มากที่สุด ทั้งการฟื้นฟูสุขภาพจิตและการป้องกันการเกิดโรคระบาด

ทั้งนี้ จะต้องปรับปรุงสภาพแหล่งน้ำกินน้ำใช้ให้สะอาด ปลอดภัย โดยวอร์รูมฯ กระทรวงสาธารณสุข จะประสานข้อมูลกับทีมแพทย์ไทยทุกวัน เพื่อจัดส่งสิ่งสนับสนุนตามความต้องการอย่างเต็มที่
------------------------
กระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์เหตุแผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ฉบับที่ 13

กระทรวงการต่างประเทศ ขอแจ้งข้อมูลและพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ดังนี้

ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 7,557 คน บาดเจ็บ 14,536 คน จำนวนบ้านเรือนพังทลาย 200,552 หลัง บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 186,285 หลัง และยังไม่มีนักท่องเที่ยวไทยมาขอความ

ช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุเพิ่มเติม และได้รับการแจ้งจากทางการเนปาลว่าภารกิจการค้นหาและกู้ภัยผู้ประสบภัยในเนปาลนั้นจะสิ้นสุดลงแล้ว เตรียมเปลี่ยนเป้าหมายหลัก

เป็นภารกิจฟื้นฟูและบูรณะความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว โดยฝ่ายทหารจะลดบทบาทและจะมุ่งเน้นให้ฝ่ายพลเรือนดำเนินบทบาทหลัก

กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน C-130 อีก 2 ลำ ไปยังประเทศเนปาล โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานกองทัพอากาศช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ 6 พฤษภาคม เพื่อนำส่งเครื่องทำน้ำประปาพระราชทานจาก

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ จำนวน 2 ตัน โดยเครื่องบินทั้ง 2 ลำได้เดินทางถึงเนปาลในเวลาประมาณ 10.20 น. (เวลาท้องถิ่น) แล้ว และจะรับชุดค้น

หาและกู้ภัยของไทย จำนวน 17 นาย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป

ส่วนการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย หน่วยแพทย์ทหารลงปฏิบัติภารกิจที่หมู่บ้าน Bhim Dhungga ในลักษณะ home visit โดยให้บริการด้านทันตกรรมและตัดผมให้ชาว

บ้านจำนวน 60 คน และคณะแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานผลการปฏิบัติงานที่เขต Sipaghat ในระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2558 หน่วยแพทย์ที่ฐานปฏิบัติการ ได้รักษาคน

ไข้ทั้งสิ้น 482 คน ส่วนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ได้รักษาคนไข้ จำนวนทั้งสิ้น 115 คน

ทั้งนี้ ยอดเงินบริจาคเข้าบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค. 2558 จำนวน 133,403,924.25 บาท
--------------------------
เหยื่อเหตุแผ่นดินไหวเนปาล ไม่นิ่ง ล่าสุดพุ่ง 7,675 ราย เจ็บกว่า 16,000 ทางการเริ่มฟื้นฟูประเทศ หลังเหตุการณ์ผ่าน 12 วัน

สำนักข่าวจีน รายงาน หลังแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงสุดในรอบ 80 ปี แรงสั่นสะเทือน แมกนิจูด 7.9 ผ่านไปเป็นเวลา 12 วัน ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 7,675 ราย ในจำนวนนี้ 7,583 ศพ ถูกส่งมอบคืน

ญาติ ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บมี 16,390 คน อยู่ภายใต้การเข้ารับการรักษา 6,081 คน สูญหาย 384 ราย เป็นชาวเนปาล 271 คน และเป็นชาวต่างชาติ 13 คน ตามที่ รัฐมนตรีว่าการบ้านเมืองของเนปาล

รายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่การช่วยเหลือจากต่างชาติ ยังคงทยอยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านเงินบริจาค สิ่งของช่วยเหลือ สำหรับเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยจากหน่วยงานต่างชาติ เริ่มทยอยเดินทางกลับ

ตามที่ทางการเนปาล ชี้แจงสถานการณ์ในปัจจุบัน สามารถใช้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รับผิดชอบได้

ทั้งนี้ ประชาชนเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือนและดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติได้แล้วบางส่วน เช่นเดียวกับการฟื้นฟูบ้านเมืองที่กำลังเริ่มขึ้น
///////////
-ต้านเซเว่น
-รณรงค์ไม่เข้าเซเว่นวันแรกผู้กองปูเค็มโผล่ชูป้ายแอนตี้ซีพี.

///////////////
สลากรัฐบาล
"ธนวรรธน์" กรรมการสลากฯ เผย ยังไม่ได้รับนัดหมายประชุมบอร์ดสลากนัดแรก แต่เชื่อเตรียมถกเร็วๆ นี้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในขณะนี้กรรมการสลาก ยังไม่ได้รับ

การติดต่อให้ร่วมประชุมคณะกรรมการนัดแรก เนื่องจากปัจจุบันมีกรรมการที่รับแต่งตั้งมาเพียง 4 ราย จากคณะกรรมทั้งคณะที่ต้องมีทั้งหมด 12 ราย ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมนัดแรก
ในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ เชื่อว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาสลากแพงนั้น ทางประธานสำนักงานสลาก มีแนวคิดการดำเนินการไว้อยู่แล้ว เนื่องจากรัฐบาลยืนยันต้องจำหน่ายสลากในราคาไม่เกินฉบับละ 80

บาท ฉะนั้น เหลือเพียงขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการว่า แนวทางในการดำเนินงานตามขั้นตอนที่จะให้ราคาเป็นไปตามที่ตั้งไว้ และแผนที่มีอยู่อย่างไรเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งมาทุกคนจะทำงานในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่อำนาจในการตัดสินใจต่างๆ ขึ้นอยู่กับประธานและผู้อำนวยการสำนักงานสลาก

///////////////
เศรษฐกิจ

รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ชมแบงก์ชาติ ออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายช่วยบาทอ่อนค่า หวังช่วยผลักดันการส่งออกในครึ่งปีหลัง

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในขณะนี้ เป็นผลมาจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ที่ผ่อนคลายมาตรการเงินทุน

เคลื่อนย้าย ทำให้เกิดความสมดุล เพราะที่ผ่านมาประเทศไทย มีเงินดอลลาร์ในระบบมาก จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการค้า แต่มีเมื่อเปิดช่องทางดังกล่าว ทำให้มีการซื้อดอลลาร์
ขายบาท ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเชื่อว่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก เพราะขณะนี้เป็นเพียงการประกาศมาตรการแต่ยังไม่มีการบังคับใช้ ซึ่งจะทยอยอนุมัติมาตรการต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ

การส่งออก ส่วนการส่งออกช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่านี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจในต่างประเทศด้วย แต่การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าในขณะนี้ ก็ทำให้ภาคการส่งออก มีความผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่ง
ถือว่ามาตรการของ ธปท. ที่ออกมามีผลช่วยทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้เป็นอย่างดี
---------------------
หอการค้า เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เม.ย. ต่ำสุดรอบ 10 เดือน แตะระดับ 76.6 ต่ำสุดรอบ 10 เดือน คงเป้า GDP 3-3.5%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน 2558 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่น

ของผู้บริโภคในเดือนเมษายน ปรับตัวลดลงทุกรายการอยู่ที่ระดับ 76.6 ลดลงจากเดือนมีนาคม ที่ระดับ 77.7 และต่ำสุดในรอบ 10 เดือน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อ

ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง. มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง เนื่องจากประเมินว่า เศรษฐกินฟื้นตัวต่ำกว่าคาด การส่งออกยังมีความ

เสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และโครงสร้างการค้าโลก ราคาพืชผลทางการเกษตรทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อโดยรวมยังปรับตัวไม่มากนัก ดังนั้น เห็นว่า กนง. ควรลดอัตรา

ดอกเบี้ยเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจและอุปสงค์ภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม มองว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยังไม่มีการฟื้นตัวยังอยู่ในทิศทางขาลง ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่า การบริโภคจะเริ่มฟื้นตัวได้ ช่วงหลังสงกรานต์ หากรัฐบาลสามารถเร่งเบิกจ่ายงบ

ประมาณได้ในไตรมาสที่ 2 ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หอการค้า ยังคงเป้าไว้ที่ ร้อยละ 3-3.5
--------------------------
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เตรียมปรับลดเป้าส่งออกปีนี้ลง หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ส่งออกข้าวไทย ในช่วงไตรมาสที่ 1/ 2558 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้ในปริมาณ 2.6 ล้านตัน ซึ่งต่ำกว่า

เป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอินเดียที่สามารถส่งออกข้าวได้เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 เนื่องจากราคาข้าวต่ำกว่าไทยถึง 40 เหรียญ

สหรัฐต่อตัน ทำให้ตลาดหลัก อย่าง แอฟริกา หันไปซื้อข้าวจากอินเดียและเวียดนามมากขึ้น ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาข้าวของไทยยังสูง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าในภูมิภาค ประกอบกับสต๊อกข้าว

ของรัฐบาลที่ยังมีปริมาณสูงถึง 10 ล้านตัน จึงทำให้ประเทศผู้ซื้อชะลอการซื้อข้าวจากไทย

อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวไทยขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 390 - 395 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวของประเทศอินเดีย อยู่ที่ประมาณ 360 - 365 เหรียญสหรัฐต่อตัน และข้าวเวียดนาม ราคาอยู่ที่ 350 - 355

เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจากสถานการณ์ราคาข้าวดังกล่าว ทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง ดังนั้น สมาคมจึงเตรียมทำการปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ลงจากเดิมที่คาดว่าจะสามารถส่ง

ออกได้ 10 ล้านตัน เหลือ 8 - 8.5 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 10 - 15 จากเป้าหมายที่วางไว้ โดยสมาคมจะทำการทบทวนตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งหลังจากสิ้นไตรมาส 2
-------------------------
ครม.เห็นชอบรถไฟรางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 4 ปี คาดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ 25,426 ล้านบาท

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายถนนจิระ-ขอนแก่น โดยให้เร่งดำเนิน

การตามแผน เป็นการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ ระยะทาง 187 กิโลเมตร เงินลงทุน 2.6 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณา EIA

แล้ว โดยจะเริ่มโครงการได้ตั้งแต่กลางปี 2558-2561 รวมระยะเวลา 4 ปี จะสามารถเปิดให้บริการได้

โดยประเมินว่าจะสามารถรองรับประชาชนผู้โดยสารได้ จากจำนวน 27,200-38,000 คน/วัน เป็น 55,000 คน/วัน ในปี 2577 หรือ ในอีก 10 ปีข้างหน้า และขนสินค้าได้เพิ่มขึ้นจาก 10,000-11,000 ตัน

เป็น 16,000 ตัน ในปี 2577 และมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ 25,426 ล้านบาท
--------------------------
ครม.เห็นชอบกระทรวงพลังงานลงนามพม่า เพื่อความมั่นคงพลังงานของประเทศ 

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามการเสนอของกระทรวงพลังงานในการลงนามในร่างบันทึกความเข้า

ใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทย และกระทรวงพลังงานเมียนมา ว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานและร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานของไทยกับกระทรวงไฟฟ้าเมียนมาว่าด้วย

ความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน โดยไม่ผูกมัดกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วน

และเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพลังงานไทยและสำนักงานพลังงานประเทศจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ เพื่อประโยชน์ด้านวิชาการ และเพื่อการใช้

พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ
---------------------
ครม. เห็นชอบตามคลังเสนอแก้กฎหมายการบริจาคเพื่อคนพิการ โอนบริษัทในเครือต้องใช้ราคาตลาด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบตามการเสนอของกระทรวงการคลัง ในการเสนอร่างพระ

ราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. .... เป็นมาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งต้องเป็นราคาตลาด
ไม่ทำให้หลีกเลี่ยงภาษี หรือภาษีที่ซ้ำซ้อนได้, มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่กองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ
-------------------------
กบง. รับทราบสถานการณ์น้ำมันผันผวนปรับสูงขึ้น ยันไม่แทรกแซงผู้ค้า มองพรุ่งนี้พุ่ง 50-60 สตางค์

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ซึ่งพบว่า ทิศทางราคา

น้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนและปรับสูงขึ้นในกรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยจะผันผวนในลักษณะเพิ่มขึ้นทำให้ราคาน้ำมันจะไม่ปรับลดลงไปที่ระดับ 30-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
และจะไม่ปรับสูงถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้คาดว่าราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดในประเทศในวันพรุ่งนี้ 8 พ.ค. มีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 50-60 สตางค์ต่อลิตร

เช่นกัน เนื่องจาก กบง. มีมติไม่ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันเป็นบวกอยู่ที่ 34,983 ล้านบาทเข้าไปแทรกแซง โดยจะให้ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขึ้นตามภาวะตลาด  
-------------------------
กบง.ตรึงราคา LPG พ.ค. ที่ 23.69 บาท/กก. พร้อมเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่ม 10 สตางค์ 

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG สำหรับเดือนพฤษภาคม โดยต้น

ทุนเฉลี่ยในการจัดหาแอลพีจีจากแหล่งผลิตและแหล่งจัดหาปรับลดลงประมาณ 9-10 สตางค์ต่อกิโลกรัม แต่เนื่องจากเห็นว่าเป็นอัตราน้อยที่จะปรับลดลง จึงมีมติให้เก็บเงินดังกล่าวส่งเข้ากองทุน

น้ำมันเชื้อเพลิง 10 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากเดิมที่ 53 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็น 63 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันมีรายรับเพิ่มขึ้นประมาณ 35 ล้านบาท/เดือน และส่งผลให้ราคาขายปลีก

LPG จะคงเดิมที่ 23 บาท 96 สตางค์

โดยจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) เป็นต้นไป โดยสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง LPG ล่าสุด ณ วันที่ 3 พฤษภาคม อยู่ที่ 6,735 ล้านบาท
----------------------------
ปตท.-บางจากปรับขึ้นน้ำมันทุกชนิด 50 สต.ต่อลิตร E85 ปรับขึ้น 30 สต.ต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร โดยจะมีผลวัน

พรุ่งนี้ 8 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 05.00 น.

ทั้งนี้ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในสถานีบริการของ ปตท.และบางจาก ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 34.56  บาท แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 29

บาท แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 28.18 บาท E20 อยู่ที่ลิตรละ 26.78 บาท E85 อยู่ที่ลิตรละ 23.28 บาท และดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ลิตรละ 25.99 บาท
---------------------
ครม.ให้พลังงาน MOU พม่า ตกลงความร่วมมือซื้อเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติเหลว 2 ฉบับ ระยะเวลา 3 ปี

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานทำ

ความตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) กับเมียนมา 2 ฉบับ คือ ความร่วมมือในการซื้อเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ระยะเวลา 3 ปี จากปัจจุบันไทยพึ่งพาก๊าซเมียนมาประมาณ

1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และความร่วมมือยังรวมถึงการที่ไทยเตรียมสร้างคลังแอลเอ็นจีในเมียนมา เพื่อรับก๊าซหากแหล่งก๊าซเกิดปัญหา อีกฉบับคือ ความร่วมมือซื้อไฟฟ้าระยะ 10 ปี เพื่อสร้าง

ความมั่นใจให้กับระบบไฟฟ้า

นอกจากนี้ กบง. ยังมีมติให้ดำเนินโครงการนำร่องผลิตไฟฟ้าบนหลังคาบ้านทั่วไป (โซลาร์รูฟท็อป) ลักษณะนำร่อง หลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้เปิดเสรีโซลาร์รูฟท็อป แต่กระทรวง

พลังงานเห็นว่าโครงการนำร่องน่าจะเหมาะสมกว่า
---------------
ครม.รับทราบความคืบหน้าร่าง กม.สำคัญ 5 ฉบับ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานความคืบของร่างกฎหมายที่สำคัญ 5 ฉบับ ที่จะมีการผลักดันภายใน

รัฐบาลนี้ ประกอบด้วยร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และเมื่อได้มีการ

ประการในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีเวลาอีก 30 วันก่อนที่จะมีผลบังคับใช้, ร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการ และหลังจากนั้นจะเข้าสู่การ

พิจารณาของ สนช. ในวาระ 2 และ 3 ต่อไป, ร่าง พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะกรรรมการกฤษฎีกากำลังตรวจรายละเอียดอยู่ในขั้นสุดท้าย คาดว่าสัปดาห์

หน้าจะนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี, ร่าง พ.ร.บ.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ใน 1-2 สัปดาห์หน้า โดยขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายก

รัฐมนตรี กำลังพิจารณาในขั้นสุดท้ายก่อนจะนำเสนอ ครม. ต่อไป และร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยขณะนี้ ครม. อาจจะต้องออกคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ไปพลางก่อน แต่ตัวกฎหมาย

นั้นอาจจะมีการออกเป็น พ.ร.ก.เพื่อช่วยประหยัดเวลาในขั้นตอนต่าง ๆ
--------------------------
ประธานกองทุนสำรองประเมินสถานการณ์ตลาดสหรัฐฯ อยู่ในสถากการณ์น่าห่วง ส่งผลตลาดหุ้นเอเชียร่วงตาม 

สำนักข่าวบีบีซีรายงาน หุ้นเอเชียร่วงลงตามตลาดสหรัฐฯ ซึ่งปิดต่ำลง หลัง ยาเนท เยนเนล ประธานกองทุนสำรอง ประเมินการณ์สถานการณ์หุ้นก่อนแสดงความกังวล โดยระบุว่า การประเมินราคา

ในปัจจุบันสูงมาก แต่ไม่สามารถมองเห็นว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่เพิ่มขึ้น ตลาดนิเคอิของญี่ปุ่น ลดลง 1.22% อยู่ที่ 19,293.26 จุด หลังมีวันหยุดในทุกสัปดาห์ เบนช์มาร์ก S&P/ ASX200 อินเด็กซ์

ออสเตรเลีย ลดลง 0.79% อยู่ที่ 5,647.20 จุด

โดยหุ้นของออสเตรเลีย พบว่า ใน 1 วัน ร่วงลงมากกว่า 2 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความกังวลบางอย่างของธนาคารกลางในประเทศ ซึ่งนักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับ 4 ธนาคารในประเทศ

ที่มีการเติบโตช้าลง

ธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียแห่งใหญ่ รายล่าสุด ประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ระบุผลประกอบการเงินสดปีต่อปี เพิ่มขึ้น 5.4% ในช่วง 6 เดือน จนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ประกาศทุ่มเงิน 5.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อเพิ่มในการบริหารจัดการ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการขายหุ้นรอบใหม่ตลาดในจีน ฮ่องกง เฮงเส็ง อินเด็กซ์ ลดลง 0.5% อยู่ที่ 27,501.63 จุด ขณะที่

เซี่ยงไฮ้คอมโพสิท ลดลง 0.42% อยู่ที่ 4,211.63 จุด รวมเบนช์มาร์กอินเด็กซ์ด้วย ที่ปิดตลาดลดลงเมื่อวานนี้ หลายบริษัทในแผ่นดินใหญ่ประกาศเสนอหุ้นต่อนักลงทุนตลอดสัปดาห์ เพื่อต้องการดึง

เงินจากแหล่งอื่นมาสนับสนุน ส่วนตลาดอื่นอย่าง โคเรียเบนช์มาร์กของเกาหลีใต้ ลดลง 1.24% อยู่ที่ 2078.55 จุดตามการซื้อขายของสหรัฐฯ
----------------------------
องค์กรการเงินระหว่างประเทศยินดีธนาคารลงทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานเอเชียกระจายอำนาจชี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น 

สำนักข่าวซินหัวรายงาน เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารการเงินระหว่างประเทศ ประกาศแสดงความยินดีเกี่ยวกับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย หรือ AIIB ที่ขยาย

อิทธิพลเหนือองค์กรการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มายังตะวันออกกลางและเอเชียกลาง

โดย นายมาซูด อาห์เหม็ด ผู้อำนวยการ IMF ภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียกลาง ระบุว่า ยินดีที่จะเปิดช่องทางการเงินให้ AIIB เข้าไปยังพื้นที่ประเทศที่ต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน พร้อม

กับกล่าวว่าเป้าหมายการดำเนินการของทั้ง 2 องค์กรแตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นสถาบันการให้กู้ยืมเงินเหมือนกันก็ตาม ซึ่ง IMF ไม่ใช่สถาบันการเงินเพื่อการลงทุนในโครงการพื้นฐาน  แต่จุด

ประสงค์ของ IMF คือการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ให้แก่ประเทศสมาชิก ต้องการแหล่งเงินกู้ และสนับสนุนเทคนิคทางการเงินที่จำเป็น  

พร้อมกับทิ้งท้ายสนับสนุนการขยายอิทธิพลของ AIIB เพราะจะช่วยฉุดเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น ทั้งนี้ IMF มีสมาชิกปัจจุบันรวม 188 ประเทศขณะที่ AIIB มีสมาชิก 57 ประเทศ  
////////////////////////
ลุ้น! เลือกตั้งผู้นำอังกฤษหลังผลสำรวจความเห็น ชี้ 2 พรรคใหญ่มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกัน 

สำนักข่าวเอพีรายงาน โพลเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยการลงแข่งขันจะมีผลคะแนนชนิดคาบลูกคาบดอกในชั่วโมงของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมืองและค้นหาวิญญาณของชาติ

กันอย่างบ้าคลั่ง

นายเดวิด แคเมอรอน นายกรัฐมนตรี จากพรรคอนุรักษ์นิยม และ นายเอ็ด มิลลิแบนด์ จากพรรคแรงงาน มีคะแนนสูสีกัน และ คาดว่าต่างฝ่ายต่างจะไม่สามารถเป็นผู้ชนะครอบครองที่นั่งส่วนใหญ่

ในสภา 650 ที่นั่งได้

ขณะที่ผลสำรวจระบุว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะกระจายไปลงเสียงให้กับพรรคอื่น ๆ ทั้งนี้ ข้อมูลสำรวจยังพบด้วยว่าผลโหวตจะเทไปยังพรรคแบ่งแยกชาติสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตชายแดนทางตอน

เหนือ และผลสำรวจยังรายงานผลการต่อต้านพรรคผู้อพยพอังกฤษอิสระด้วย

อย่างไรก็ตาม คะแนนผลการเลือกตั้งจะถูกนับในวันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 07.00 น. จนกระทั่ง 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลคร่าว ๆ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

หลักสูตร 4 ส.6

หลักสูตร 4 ส.6
หลังจากที่ PPTV ได้รายงานข่าวและภาพการปฐมนิเทศ หลักสูตร "ประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข" หรือ 4 ส.รุ่น 6 ซึ่งมีภาพของแกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆอยู่ร่วมกัน ปรากฎว่าก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลายท่านก็เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการเดินหน้าสร้างความปรองดองในสังคมไทย แต่อีกด้านหนึ่งก็มีกระแสโจมตีบุคคลต่างๆในภาพในทำนองว่าหักหลังมวลชน หรือว่ากันถึงขั้นทรยศต่ออุดมการณ์เลยก็มี
จากที่ได้สอบถามบุคคลที่ปรากฎในภาพ ต่างก็ยืนยันว่าไม่ได้หวั่นไหวกับเสียงวิจารณ์ บางคนบอกมีคนมากดดันให้ลาออกจากหลักสูตร แต่ก็ยังทนไหว ในฐานะผู้รายงานข่าวนี้ ก็อดจะหนักใจไม่ได้กับกระแสโจมตีเหล่านี้ ก็เลยอยากจะทำความเข้าใจซักนิด เผื่อบางคนกำลังหามุมถล่มอยู่จะได้ยั้งมือไว้บ้าง
1.หลักสูตร 4 ส.6 นั้นจริงๆไม่ได้มีแค่แกนนำกลุ่มการเมือง แต่ยังมีข้าราชการ นักธุรกิจ เอ็นจีโอ อะไรต่ออะไรสารพัดรวม 90 คนทั้งรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย
2.หลักสูตรนี้ไม่ใช่ห้องปรับทัศนคติ หรือเวทีเจรจาการเมือง อะไรทั้งสั้น แต่เป็นการเรียนรู้วิธีการจัดการความขัดแย้งจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาบรรยายให้ฟังทุกวันศุกร์เท่านั้นเอง
3.เท่าที่คุยกับคนที่ดูแลหลักสูตรนี้ ก็หวังแค่ว่าการที่เอาคนที่คิดต่างขั้วมาเรียนด้วยกัน จะส่งสัญญาณให้สังคมได้เห็นว่าคนที่คิดแตกต่างกันก็สามารถคุยกันได้ ไม่ใช่จ้องจะรบราฆ่าฟันกันอย่างเดียว
4.สมาชิกในรุ่นตกลงกันจะไม่บังคับให้ใครเปลี่ยนอุดมการณ์ความเชื่อที่ตนเคยยึดถือ ฉะนั้น เรื่องที่ว่าใครจะทรยศ หักหลังมวลชน นั้นคงจะไม่มีทาง แค่แกนนำเหล่านี้เปิดใจฟังคนที่มีความคิดต่างขั้วมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยความเชื่อว่าคนคิดต่างสามารถพูดคุยกันได้อย่างสันติ
กลายเป็นปรากฎการณ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เมื่อสถาบันพระปกเกล้าได้สร้าง “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ให้กับวงการการเมือง โดยได้รวบรวมเอาขุนพลต่างสีต่างขั้ว...
PPTVTHAILAND.COM

เผยชื่อ38ตร.ถูกเด้งเซ่นปัญหาค้ามนุษย์โรฮิงญา

เปิดชื่อ 38 ตร.ถูกย้าย เหตุเพราะการปฏิบัติการเกี่ยวกับโรฮิงญา ที่ไม่ประสบผลที่น่าพอใจและบางส่วนถูกครหาความเกี่ยวข้องกับขบวนการ...



มูลนิธิผู้บริโภคหนุนต้านเซเว่น เลิกซื้อสินค้า7-11พ.ค.

มูลนิธิผู้บริโภคหนุนต้านเซเว่น เลิกซื้อสินค้า7-11พ.ค.

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
7 พฤษภาคม 2558 00:16 น.
        ASTVผู้จัดการรายวัน-มูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ร่วม หนุนไม่เข้าเซเวน อีเลฟเวนช่วง 7-11 พ.ค.นี้ หวังนำไปสู่การปรับแก้กฎหมายแข่งขัน เพื่อให้ป้องกันการผูกขาดได้จริง ด้าน CP All โพสต์เฟซโต้ ร้านเซเวนกว่าครึ่งเป็นแฟรนไชส์ เป็นของผู้ประกอบการรายย่อย เจอโต้กลับร้านไหนขายดี เจอร้านจากบริษัทแม่ไปเปิดแข่งทันที 
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 พ.ค.) มูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกรณีสังคมออนไลน์กำลังร่วมรณรงค์งดซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อเซเวน อีเลฟเวน ระหว่างวันที่ 7-11 พ.ค.2558 เพื่อต่อต้านการผูกขาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเกษตรและอาหาร
      
       โดยแถลงการณ์ระบุว่า จากการติดตามปัญหาเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การคุ้มครองผู้บริโภค และอิทธิพลของบรรษัทในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง เห็นร่วมกันว่าขณะนี้ปัญหาการมีอิทธิพลเหนือตลาด และการมีอำนาจในการกำหนดนโยบายของรัฐโดยบริษัทเอกชนขนาดใหญ่บางรายนั้นเกิดขึ้นจริง จนเกิดผลกระทบต่อประชาชน เช่น เมล็ดพันธุ์มีราคาแพง วิสาหกิจชุมชนที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ถูกกลั่นแกล้งจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ การไม่ได้รับความเป็นธรรมและต้องรับภาระความเสี่ยงในการเลี้ยงสัตว์ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาที่บริษัทเป็นผู้ผูกขาดปัจจัยการผลิต กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางถูกกีดกันและเอาเปรียบจากการวางจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น
      
       จึงขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชน และเห็นว่านี่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานทั้งในฐานะผู้บริโภคที่จะตัดสินใจไม่อุดหนุนสินค้า และในฐานะพลเมืองที่ต้องการสื่อสารเพื่อสะท้อนความอ่อนแอของกฎหมายและนโยบายที่อำนวยผลประโยชน์ของบริษัทเอกชนรายใหญ่มากกว่าจะคุ้มครองประโยชน์ของเกษตรกรรายย่อยและผู้บริโภค
      
       แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เราขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกกลุ่มร่วมกันสนับสนุนและเคลื่อนไหวเพื่อให้การรณรงค์นี้ นำไปสู่การแก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา แทบไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเลย
      
       ทั้งนี้ ต้องลดสัดส่วนและอิทธิพลของกลุ่มธุรกิจในคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน กำหนดขอบเขตความหมายของบริษัทที่มีอำนาจเหนือตลาด ร่วมกันออกแบบให้กฎหมายนี้ สามารถดำเนินการและบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งผลักดันกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้สามารถคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนได้ในที่สุด
      
       ทางด้านความเคลื่อนไหวของเซเวน อีเลฟเวน ได้โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ CP All ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกชื่อดัง 7-Eleven โดยได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า "รู้หรือไม่? ร้าน 7-Eleven กว่าครึ่งเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการรายย่อยของพี่น้องคนไทยทุกภูมิภาค"
      
       อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวของเฟซบุ๊ก CP All ก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยจำนวนไม่น้อยต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการปฏิบัติกับแฟรนไชส์ โดยตั้งข้อสังเกตว่า หากร้านแฟรนไซส์ขายดี ก็จะมีร้านสาขาของ 7-Eleven มาเปิดเพิ่มใกล้ๆ กัน หรือฝั่งตรงข้ามทันที ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อแฟรนไชส์จริงหรือไม่ 

จับตารอยเลื่อนคลองมะรุ่ย รอยเลื่อนมีพลัง หลังเหตุแผ่นดินไหว จ.พังงา


 Thu, 07/05/2015 - 09:03

รอยเลื่อนคลองมะรุ่ยกำลังถูกจับตามองว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นรอยเลื่อนที่ปลดปล่อยพลังงานในทะเลอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่มีบางส่วนพาดผ่านบนบกในหลายจังหวัด แต่ไม่พบการปลดปล่อยพลังงานหรือแผ่นดินไหว ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาสรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหววานนี้ (6 พ.ค.2558) หลังเกิดแผ่นดินไหวมีอาฟเตอร์ช็อคตามมา 1 ครั้ง

วานนี้ (6 พ.ค.2558) สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อคขนาด 3.2 เกิดขึ้นช่วง 12.25 น. ในทะเลบริเวณ อ.เกาะยาว จังหวัดพังงา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 เมื่อช่วง 4.18 น.เช้าวานนี้ ซึ่งทำให้มี 3 จังหวัดรับรู้แรงสั่นสะเทือน ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่ถือเป็นแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางไม่ลึกเพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น จึงไม่มีคำเตือนสึนามิ

นายบุรินทร์ เวชบรรเทิง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่าเกิดจากรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังมีพลังในทะลอยู่ไม่ห่างไกลจากภูเก็ตและพังงา แต่แผ่นดินไหวในทะเลครั้งนี้ ไม่เข้าเกณฑ์ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ เพราะอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง และการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนที่บริเวณนี้ไม่ได้เป็นในลักษณะแทนที่น้ำหรือเกิดในแนวดิ่ง แต่เกิดในลักษณะขัดเฉือนกัน ส่วนใหญ่แผ่นดินไหวใหญ่ในทะเลที่เสี่ยงต่อไทย ที่กรมอุตุนิยมวิทยาติดตามอยู่ตลอด 24 ชม. จะเป็นบริเวณเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นแนวมุดตัวของเปลือกโลกทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้

ทั้งนี้นักวิชาการด้านธรณีวิทยาระบุว่ารอยเลื่อนคลองมะรุ่ยเป็นรอยเลื่อนที่ปลดปล่อยพลังงานในทะเลอยูเป็นประจำย่อมส่งผลดีกว่าการก็บสะสมพลังงานไว้ แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาว่าเป็นเพราะเหตุใดจึงปลดปล่อยพลังอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเกิดหลังแผ่นดินไหวใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2555 ซึ่งวัดขนาดได้ 3.2 ซึ่งรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน และมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นอีก 22 ครั้ง

ขณะที่เพจศูนย์เฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์แผ่นดินไหว จ.ภูเก็ต (ภาคประชาชน) รวบรวมสถิติการเกิดแผ่นดินไหวใน จ.ภูเก็ต และบริเวณใกล้เคียง นับข้อมูลตั้งแต่ขนาด 3.0 ขึ้นไป หรือเท่าที่รับรู้การสั่นสะเทือนได้ พร้อมแนวรอยเลื่อนที่ยังคงมีแรง คือ คลองมะรุ่ย ไว้ดังนี้

6   พ.ค. 2558 เวลา 04.18 น. บริเวณตอนนใต้ของเกาะยาว ขนาด 4.6 ความลึก 4 กม.
25 มี.ค. 2558 เวลา 05.32 น. บริเวณเกาะสิเหร่ ขนาด 4.0 ความลึก 23 กม.
20 ก.พ. 2558 เวลา13.15 น. บริเวณตอนใต้ของเกาะยาว ขนาด 4.0 ความลึก 2 กม.
16 ม.ค. 2557 เวลา 12.18 น. บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ขนาด 4.0
16 เม.ย.2555 เวลา 16.44 น. อ.ถลาง ขนาด 4.3 ความลึก 10 กม.

โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่ปี 2555-2558

"ชัยวัฒน์ พสกภักดี"เปิดไอ้โม่งตัวจริงกองสลาก

หลังจากสำนักข่าวออนไลน์นำเสนอข่าวเปิดตัว “ไอ้โม่ง ต้นเหตุสลากเกินราคา” ซึ่งผู้ที่ได้โควตาสลากมากสุดคือ “มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” ตามที่สำนักข่าวไทยพับลิก้านำเสนอไปคือ 14.2 ล้านฉบับ ปรากฏว่าทางมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ชี้แจงว่าทางมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้โควตาสลากกว่า 9 ล้านฉบับเท่านั้น
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องว่ามูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งตั้งขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อะไร มูลนิธินี้เป็นของใคร ผลประกอบการแต่ละปีเป็นอย่างไร และเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง
วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าได้เดินทางไปยังมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตั้งอยู่ด้านข้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ได้มีโอกาสพบนายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วัย 74 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมิได้นัดหมาย ซึ่งนายชัยวัฒน์ได้ให้สัมภาษณ์ทีมงานโดยตอบทุกประเด็นคำถามนานกว่า 1 ชั่วโมง
มูลนิธิสลากกินแบ่ง

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับการจัดสรรโควตาจำนวนเท่าไหร่?

ผมไม่รู้ไปเอาตัวเลขมาจากไหน มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับจัดสรรโควตาแค่ 9 ล้านฉบับ สัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากของมูลนิธิสำนักงานสลากฯ กำลังทยอยสิ้นสุดลง ลอตแรกวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ประมาณ 1 ล้านฉบับ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558 อีก 4 ล้านฉบับ และลอตสุดท้าย 4 ล้านฉบับ สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2558

ไทยพับลิก้า: แล้วมูลนิธิสำนักงานสลากฯ จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มีวัตถุประสงค์อะไร

มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 เป็นช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เจตนาคือต้องการช่วยสำนักงานสลากฯ ทำกิจการบางอย่างที่ส่วนทางราชการทำไม่ได้ เช่น จัดจำหน่ายเครื่องตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับตัวแทนจำหน่าย เท่าที่จำได้นโยบายรัฐบาลในขณะนั้น (พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร) ต้องการที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ งานบางอย่างที่ส่วนราชการทำไม่ได้แต่เอกชนทำได้ก็ควรตัดให้เอกชนรับไปดำเนินการ ซึ่งงานบางอย่างสำนักงานสลากฯ ทำไม่ได้ แต่มูลนิธิทำได้ เราก็รับมาทำ เพราะถือว่าเป็นมูลนิธิที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย

ไทยพับลิก้า: 14 ปีที่ผ่านมา คุณชัยวัฒน์นั่งเป็นประธานมูลนิธิฯ มาตลอดใช่ไหม?

ใช่ ผมเป็นประธานมูลนิธิฯ มาตลอด จริงๆ กรรมการ มูลนิธิฯ มีอายุ 4 ปี พอครบเทอมก็เลือกกรรมการกันใหม่ กรรมการก็เลือกประธานมูลนิธิฯ

ไทยพับลิก้า: ปัจจุบันมีใครเป็นกรรมการบ้าง?

มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีกรรมการ 5 คน ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้บริหารสำนักงานสลากฯ เช่น นายธงชัย เล็กบำรุง อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ มี 2 คน คือนายเจริญ ชุมแสงศรี และนายเจริญชัย งามกิจไพบูลย์ และนายอนุพร กล่อมเกลา อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ไทยพับลิก้า: ทำไมมูลนิธิถึงได้รับการจัดสรรโควตาสลากถึง 9 ล้านฉบับ

มันเป็นเรื่องการเมือง (หัวเราะ) แม้แต่ผมเป็นผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ จะเอาสลากฯ เพียง 1 เล่ม ยังไม่ได้เลย สมัยก่อนการเมืองเน้นเรื่องเงิน คนที่จะได้โควตาสลากฯ คือคนจ่าย มูลนิธิจึงเสมือนเป็นทางผ่าน

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้ส่วนลด 9% ของราคาสลาก 80 บาท ใช่ไหม?

ใช่ ผมได้ส่วนลด 9% แต่ผมหักไว้ 2% ของส่วนลดที่ได้ 9% หมายความว่าสลากราคาคู่ละ 80 บาท ได้ส่วนลด 7.2 บาท ผมหักไว้ 1.6 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ที่เหลือ 5.6 บาท เป็นส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายที่มารับโควตาจากมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไปขาย มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีหน้าที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯ จากนั้นเขา (นักการเมือง) จะบอกโพยมาเลย สมมติ มูลนิธิได้สลากฯ มา 1,000 เล่ม เขาจะสั่งผมให้จ่ายสลากให้นาย ก. กี่เล่ม นาย ข. นาย ค. กี่เล่ม ผมมีหน้าที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯ มา เขาเอาเงินค่าสลากจ่ายให้เรา แล้วเขาก็รับสลากไป

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีสมาชิกในสังกัดกี่คน เงินที่ได้นำไปใช้จ่ายอะไร?

ไม่มีสมาชิกเลย มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือสังคม ส่วนเงินรายได้ 2% ที่มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้รับ (หักจากส่วนลด 9%) นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในรายการที่สำนักงานสลากเบิกไม่ได้ เช่น แจกทุนการศึกษาลูกหลานพนักงาน ใช้ในกิจการกฐินผ้าป่า งานสงกรานต์ ปีใหม่ อย่างเช่น พระพุทธอิสระเอาข้าวมาเทที่สำนักงานสลากฯ มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ก็จ่ายเงินไป 1.3 ล้านบาท ให้สำนักงานสลากฯ เป็นค่าทำความสะอาด และยังมีการบริจาคเงินทั่วไปให้วัดวาอาราม โรงเรียน และที่สำคัญ ทุกวันนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จ่ายเงินให้พนักงานสลากคนละ 9,000 บาท ต่อเดือน บวกเพิ่มจากเงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือน มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีรายได้เดือนละ 14 ล้านบาท นำไปใช้ในการบริจาคเงินทั่วไป 1 ล้านกว่า ค่าบริหารอะไรต่อมิอะไร แต่ละเดือนก็ใช้จ่ายไปประมาณ 14 ล้านบาท ใช้เกือบหมด เพราะถือว่าเงินทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของสำนักงานสลากฯ เอาไปช่วยเป็นทุนการศึกษาของบุตรพนักงานด้วย

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จัดสรรโควตาสลาก 9 ล้านฉบับอย่างไร?

ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าสลากทั้งหมด เจ้าใหญ่ เจ้าเล็ก ก็ไม่รู้ อันนี้เป็นรายการที่นักการเมืองสั่งมา ตั้งแต่รัฐมนตรี ประธานบอร์ด ผู้อำนวยการสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่ผ่านมาหลังจากบอร์ดมีมติออกมาให้สำนักงานสลากฯ จัดสรรโควตาเพิ่ม ก็มีโพยส่งมาให้ผมจ่ายสลากให้ใครบ้าง แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว

ไทยพับลิก้า: หลังจากสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากสิ้นสุด หากมูลนิธิฯ ไม่ได้รับจัดสรรโควตาสลากทำอย่างไร

ไม่มีปัญหา มูลนิธิฯ ของเราอยู่ได้ แต่ว่าปัญหาคือเราจะไม่มีเงินไปจ่ายเป็นทุนการศึกษา สวัสดิการพนักงาน อยากจะยึดโควตาสลากคืนก็สุดแล้วแต่เขา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้แจ้งตัวแทนจำหน่ายที่มารับสลากฯ จากมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไปขายว่าตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2558 ต้องขายสลากคู่ละ 80 บาททั้งหมด หากไม่ให้ความร่วมมือ มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ก็ต้องบังคับ ซึ่งตัวแทนจำหน่ายสลากทุกรายก็โอเคทั้งหมด ส่วนคนที่มารับสลากไปเดินเร่ หากขายเกิน 80 บาทต่อคู่ ตรงนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไม่รับรู้

ไทยพับลิก้า: ทุกครั้งที่แก้ปัญหาสลากเกินราคาไม่ได้ โทษกลุ่ม 5 เสือที่มีโควตามากที่สุด ความจริงเป็นอย่างไร

5 เสืออะไร ก็พูดกันไป มันไม่มีแล้ว สมัยก่อนเวลาพิมพ์สลากการกุศลออกมาจำหน่ายใหม่ๆ ตอนนั้นขายไม่ออก พิมพ์มาไม่มีคนซื้อ ก็เลยแบ่งเป็น 5 กอง กองละ 10,000 เล่ม ใครจะเอาโควตาสลากก็ยื่นเรื่องขอโควตา ปรากฏว่ามีแค่ 5 บริษัท ได้โควตาสลากบริษัทละ 10,000 เล่ม จากนั้นจึงเรียกว่ากลุ่ม 5 เสือเรื่อยมา เพราะสมัยนั้นไม่มีบริษัทไหนได้โควตาสลากมากถึง 10,000 เล่ม แต่ราคาสลากตามท้องตลาดก็ไม่ได้ขายกันในราคาแพงอะไรมากมาย ยิ่งมาในยุคนี้ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) มาบังคับยิ่งแพงหนักกว่าทุกยุค ยกตัวอย่าง สำนักงานสลากฯ ไปบีบให้ตัวแทนจำหน่ายต้องมารับสลากฯ เอง คนอยู่ภาคเหนือ ภาคใต้ ก็ต้องเดินทางมารับสลากฯ ต้นทุนก็สูงขึ้น ยิ่งบังคับ ราคาสลากยิ่งแพง
นายชัยวัฒน์ พสกภักดี ประธานมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วัย 74 ปี
นายชัยวัฒน์ พสกภักดี ประธานมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วัย 74 ปี

ไทยพับลิก้า: ปัญหาขายสลากเกินราคา ควรแก้ไขอย่างไร?

หากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริงๆ คือ เปิดเสรี ยกเลิกระบบโควตา จัดพิมพ์ตามความต้องการของผู้ค้าสลาก ไม่ต้องขายผ่านระบบออนไลน์ด้วย แต่ใช้วิธีพิมพ์สลากแบบปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ผู้ค้าสลากรายใดต้องการสลากไปขายก็มาแจ้งสำนักงานสลากฯ ล่วงหน้าก่อนหวยออก 3 งวด หรือจองโควตาสลากล่วงหน้า แต่ต้องวางเงินประกันอย่างน้อย 10% ถ้าทำแบบนี้แก้ปัญหาสลากเกินราคาได้อย่างเบ็ดเสร็จเลย เพราะสุดท้ายจะเหลือแต่คนขายจริงได้กำไรนิดหน่อย หลักการคือตัดพ่อค้าคนกลางทิ้ง คนเดินเร่ขายสลากรายไหนไม่มีโควตา ต้องไปรับสลากราคาแพงๆ มาเดิน หากซื้อสลากราคาถูกที่ไหนไม่ได้มาที่สำนักงานสลากฯ แจ้งล่วงหน้า 3 งวด วางเงินประกัน 10% รับสลากไปขายได้เลย สมัยที่ผมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสลากฯ เคยทำไป 2 ครั้ง ราคาสลากขายกัน 3 ใบ 200 บาท และที่น่าเสียดายมาก ยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งทีมีแค่จัดตั้งกองทุนรับซื้อคืนสลากอย่างเดียว กองทุนประกันเงินรางวัลก็ไม่มี ยกร่างกฎหมายกันไป ยกร่างกันมาเละเทะ

ไทยพับลิก้า: กองทุนประกันเงินรางวัลหมายถึงอะไร?

กองทุนประกันเงินรางวัล หลักการคือขายสลากไม่หมด กองทุนรับซื้อคืน ช่วยลดต้นทุนให้ผู้ค้าสลาก ไม่ต้องขายสลากเกินราคา และที่สำคัญจ่ายเงินรางวัลได้ไม่อั้น สำนักงานสลากฯ จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาก็ได้ เช่น เปิดหวยบนดิน ผมจ่ายได้ไม่อั้น แต่ร่างแก้ไขกฎหมายปัจจุบันยังกำหนดให้กันเงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก 60% เตรียมไว้จ่ายกับผู้ถูกรางวัล แต่ถ้ามีกองทุนประกันเงินรางวัล สามารถจ่ายไม่อั้น

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ มีรายได้ปีละ 168 ล้านบาท เงินจำนวนนี้นำไปใช้จ่ายจนหมดเลยใช่หรือไม่?

มีกำไรสะสมเหลืออยู่บ้าง อย่างน้อยก็ใช้เป็นหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท แต่ว่ากำไรสะสมส่วนนี้ได้มาในสมัยที่เปิดให้ขายหวยบนดิน ขณะนั้นทั้งนิติบุคคล มูลนิธิ สมาคม ไม่มีใครมารับหวยบนดินไปขาย ทางมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ตัดสินใจเข้าไปรับโควตาหวยบนดินมาจัดจำหน่ายเอง พวกเจ้ามือหวยบนดินรายใหญ่ก็มารับโควตาหวยบนดินจากมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไปขายเป็นเครือข่ายเรา ช่วงที่ขายหวยบนดิน มูลนิธิได้ส่วนลด 3% คิดเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท จากวันนั้นจนถึงวันนี้มีกำไรสะสมเหลืออยู่ 200 บาท ส่วนเงินรายได้จากการขายสลากในปัจจุบัน หามาได้ก็จ่ายออกไป มีกำไรเหลือก็เก็บเป็นทุนสะสมไป

ไทยพับลิก้า: วันนี้หากถูกตัดโควตาสลากมูลนิธิฯ อยู่ได้หรือไม่?

แค่เบิกดอกผลมาใช้ก็อยู่ได้สบาย แต่มูลนิธิจะไม่มีเงินไปจ่ายให้สำนักงานสลากฯ นะ

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ หรือสมาคมอื่นที่ได้โควตาสลากอีกไหม

มีสมาคมพนักงานผู้เกษียณอายุสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กับสหกรณ์บริการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำกัด แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน ทำหน้าที่กันคนละส่วนกัน สมาคมพนักงานผู้เกษียณฯ หาเงินมาได้ก็ไม่ได้ไปช่วยเหลืออะไรสำนักงานสลากฯ หรือบริจาคให้ใคร วัตถุประสงค์เพื่อดูแลเฉพาะพนักงานที่เกษียณเท่านั้น ใครเจ็บป่วยก็มาเบิก

ไทยพับลิก้า: สำนักสลากฯ ไม่มีสวัสดิการดูแลคนเกษียณหรือ?

ใช่ รัฐวิสาหกิจแห่งนี้ พอคุณเกษียณการทำงานก็จบ เบิกค่ารักษาไม่ได้ ไม่มีบำนาญ ได้เป็นบำเหน็จก้อนเดียวจบ หากไม่มีลูกหลานดูแล อยู่ได้ระยะหนึ่ง เงินไม่พอใช้ ก็อยู่ไม่ได้ เพราะมันไม่มีอะไรให้สักอย่าง พนักงานบางคนไม่ได้สร้างอะไรไว้เลย ช่วงที่ทำงานก็อาศัยแฟลตของสำนักงานสลากฯ อยู่ฟรี ไม่ต้องจ่ายอะไร พอเกษียณต้องคืนแฟลตให้สำนักงานสลากฯ ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก

ไทยพับลิก้า: ตกลงมูลนิธิสำนักงานสลากฯ จ่ายเงินเดือนให้พนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 9,000 บาทต่อคนเป็นเรื่องจริง

ใช่ จ่ายให้ทั้งหมด 800 คน จ่ายตั้งแต่พนักงานยันลูกจ้างสำนักงานสลากฯ รปภ. แม่บ้าน out source ทางมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด พนักงานที่เป็นซี ก็จ่ายเป็นรายคน ถือเป็นรายได้เสริมของเขา เหมือนสวัสดิการพนักงาน

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ นี้ไม่ใช่ส่วนราชการหรือองค์กรรัฐใช่ไหม?

ใช่ ไม่เกี่ยวสิ มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จัดตั้งตามกฎหมายมูลนิธิ จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย ผมบริหาร ทำบุญ ทำทาน ว่ากันไป แต่ละวันมีพรรคพวกมาขอเงินบริจาคจำนวนมาก ผมก็ปวดหัวเหมือนกัน ถ้าผมให้ทุกคน ก็หมดตูด เดี๋ยวก็ไปชวนคนนั้นไปชวนคนนี้มาขอเงินบริจาค

ไทยพับลิก้า: มูลนิธิสำนักงานสลากฯ นอกจากเป็นทางผ่านโควตาหวยแล้วทำธุรกิจอื่นอีกไหม?

ขายเครื่องตรวจสอบสลากปลอมให้กับพ่อค้าที่รับซื้อสลากที่ถูกรางวัล เครื่องละ 20,000 บาท มีพ่อค้าซื้อไปประมาณ 200 ราย กระจายอยู่ตามยี่ปั๊ว ช่วยทั้งสำนักงานสลากฯ และพ่อค้าไม่ให้ถูกพวกมิจฉาชีพหลอก

ไทยพับลิก้า: หลังสัญญาตัวแทนจำหน่ายสิ้นสุด มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จะขอโควตาสลากอีกไหม?

ขึ้นอยู่กับสำนักงานสลากฯ ตอนนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้โควตามา เพราะสำนักงานสลากฯ ให้สิทธิผม แต่ต่อไปไม่ต้องมาสั่งให้ผมจัดโควตาให้ใคร ผมจะตั้งจุดขายให้ ห้องแถวของมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ก็มีหลายจุด เราก็จะขายให้ ปัจจุบันผมมีสลาก 9 ล้านฉบับ หากสัญญาสิ้นสุด จัดสรรให้ผม 1-2 ล้านฉบับก็พอแล้ว เพราะทุกวันนี้สำนักงานสลากฯ ให้ส่วนลดมูลนิธิสำนักงานสลาก 9% หรือคู่ละ 7.20 บาท มูลนิธิสำนักงานสลากฯ หักไว้คู่ละ 1.60 บาท ที่เหลือคู่ละ 5.60 บาท เป็นกำไรสำหรับคนที่มารับสลากจากมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไปขาย

ไทยพับลิก้า: จริงๆ พนักงานรัฐวิสาหกิจเงินเดือนสูงไม่ใช่หรือ

ไม่มากเท่าไหร่ สำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจจัดโครงสร้างอัตราเงินพนักงานรัฐวิสาหกิจแบ่งออกเป็น 13 ขั้น ในสมัยผมเป็นผู้อำนวยการได้เงินเดือนสูงสุด 60,000 บาท แต่ในระยะหลังปรับเงินเดือนสูงขึ้น มีลักษณะเป็นแท่ง โดยให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจเป็นผู้พิจารณา

ไทยพับลิก้า: โควตาสลาก 9 ล้านฉบับ มีเจ๊สะเรียง เจ๊แดง และยี่ปั๊วรายใหญ่อื่นๆ มารับไปขายด้วยหรือไม่?

มันก็ต้องทำตามใบสั่ง เจ้าใหญ่ๆ มารับที่นี่หมด เพราะว่าพวกนี้หูไว ตาไว (ถอนหายใจ) มาที่นี่ ผมจะเอาเองสัก 10 เล่ม ผมก็ต้องจ่ายเงินเขา ผมเองก็ไม่มีสิทธิ ไม่ใช่ว่าพรรพวกผมขอโควตาสลากมาผมจัดให้ใครก็ได้ มันไม่ใช่

ไทยพับลิก้า: การจัดสรรโควตาให้ตัวแทนจำหน่ายต้องทำตามใบสั่งการเมืองทั้งหมดหมดเลยใช่ไหม

มันมีมาตั้งแต่โบราณกาล ยังไม่เคยแก้ไขเลย นาย ก. นาย ข. เคยได้โควตาสลากมาตั้งแต่ในอดีต ก็ไม่เคยโละ มีแต่จะได้โควตาเพิ่มขึ้นๆ

ไทยพับลิก้า: สำนักงานสลากฯ ควรจะจัดสรรโควตาสลากอย่างไรให้เป็นธรรม

ประธานมูลนิธิสลากกินแบ่งรัฐบาล-1
กลุ่มที่มาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ 4 แสนราย ก็ไม่ใช่คนขายตัวจริง องค์การบริหารส่วนตำบลไปเกณฑ์คน ทั้งพิการ คนดี ญาติพี่น้อง ยื่นขอโควตาสลาก คราวนี้ไม่ว่าจะสุ่มเลือกอย่างไรมันก็ไม่ได้คนขายสลากจริงๆ ผมเรียน พล.ต. ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ว่า ต้องเร่งทำการสำรวจคนขายจริงทั่วประเทศ ขายจริงเท่าใด ขายงวดละกี่เล่ม มีโควต้ากี่เล่ม อย่างน้อยเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล เมื่อถึงเวลาจัดสรรโควตาใหม่ อย่างมากก็ผิดพลาดนิดหน่อย แต่ไม่ใช่มาขึ้นทะเบียนตัวแทนจำหน่ายแล้วเลิกเลย ต้องเร่งสำรวจคนที่ต้องการขายหวยจริงๆ ด้วย ตอนนี้สำนักงานสลากฯ ไม่รู้ว่าใครคือคนขายหวยตัวจริง พอถามว่าจัดสรรให้ใคร ก็อ้างว่าจัดสรรให้รายย่อยที่มาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ บางคนก็พยุงกันมาเป็นคันรถ ถามว่าคนพวกนี้ใช่คนขายหวยตัวจริงหรือ มันไม่ใช่ สำนักงานสลากฯ ผิดพลาดตรงจุดนี้มานานแล้ว

ไทยพับลิก้า: ควรเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านเครื่องออนไลน์หรือไม่

จริงๆ แล้วควร แต่ว่าต้องมีกองทุนประกันเงินรางวัล รับซื้อคืนเลขไม่สวย เลขซ้ำ หากโควตา 2 ล้านฉบับไปขายผ่านเครื่องออนไลน์ ถามว่าเลข 00 ใครจะซื้อ และถ้าเปิดให้ทุกคนเลือกกดซื้อเลขอะไรจากเครื่องออนไลน์ก็ได้ สมมติว่ามีคนถูกรางวัล 10 เท่า ของเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลาก เอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้ผู้ถูกรางวัล และถ้ากำหนดกติกาว่าแทงเลขซ้ำได้ไม่เกิน 5 ใบ เลขที่เหลือไม่มีคนซื้อ สำนักงานสลากฯ รับซื้อคืนไหวไหม จริงๆ ควรจะเปิดให้เล่นสลากแบบลอตโต้ จัดสรรเงินรางวัลตามยอดที่ซื้อ (ยอดแทง) เงินที่เหลือจะส่งเข้ารัฐหรือหักค่าอะไรก็ว่ากันไป เหมือนที่เคยออกหวยบนดิน

ไทยพับลิก้า: แก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ครั้งนี้ เป้าหมายไม่ได้ต่อสู้หวยใต้ดิน แต่เพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา

นี่ไง ผมถึงได้บอกว่า แก้กฎหมายทั้งที อุตส่าห์คิดค้นเรื่องหวยบนดิน หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มานาน แต่ในทางปฏิบัติเปิดเกมการเล่นใหม่ๆ ไม่ได้เลย แก้กฎหมายครั้งนี้ทำได้แค่รับซื้อคืนเลขไม่สวยเท่านั้น พ่อค้าขายสลากเหลือไม่รับซื้อคืน ทราบข่าวว่าร่าง พ.ร.บ.สลากฯ ฉบับสุดท้าย ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วทำอะไรไม่ได้เลย ร่างกฎหมายฉบับนี้มีการปรับส่วนลดจาก 9% เพิ่มเป็น 15%

ไทยพับลิก้า: บริษัทล็อกซเล่ย์ ยินดีถอนฟ้อง หากสำนักงานสลากฯ ให้ขายสลากออนไลน์

แนวคิดนี้สำนักงานสลากต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคา อย่างที่ผมกล่าวในข้างต้น หากให้บริษัทล็อกซเล่ย์เหมาสลาก 1 ล้านฉบับ ไปขายผ่านเครื่อง เลขไม่สวยขายที่ไหน อย่างไรก็ต้องเหลือ สลากไม่ได้ขายได้ง่ายๆ น่ะ คุณคอยดูวันที่ 16 มิถุนายน 2558 รายย่อย พ่อค้าขาดทุนกันหมด คนเดินเร่ขายหวยไม่มี เพราะกลัวถูกจับ อาจจะมีขายรวมชุด 5 ใบบ้าง แต่ราคาคู่ละ 80 บาทเท่านั้น จริงๆ ถ้าไม่มีคนเดินเร่ขายหวย แจกโควตาไปคนละ 10 เล่ม หรือ 1,000 ฉบับ ขายไม่หมดหรอก หากไม่มีคนกลางมาช่วยทำตลาดก็เจ๊ง
การมีพ่อค้าคนกลางเข้ามาทำหน้าที่รวมโควตาสลาก เพื่อนำมาจัดขายเป็นชุด ชุดละ 5 ใบ ข้อดี คือ ทำให้สลากขายหมดอย่างรวดเร็ว แทนที่จะส่งคนไปเดินเร่ขายทีละใบ ถ้ารวมชุดขาย ครั้งเดียว 5 ใบ คนซื้อบางคนชอบเลขนี้ ซื้อทีเดียว 2 ชุด หรือ 10 ใบ ขายสลากหมดอย่างรวดเร็วทุกวันนี้ เพราะขายรวมชุด คนขายเองก็ชอบ ขายได้ทีละ 5 ใบ 10 ใบ

ไทยพับลิก้า: ถ้ามูลนิธิสำนักงานสลากฯ ไม่ได้รับการจัดสรรโควตา ครั้งนี้ทำอย่างไร

ก็เลิก ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้ามูลนิธิสำนักงานสลากฯ ได้รับการจัดสรรโควตาใหม่ ครั้งนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จะเปิดร้านขายสลากอย่างจริงจัง ทำเป็นเรื่องเป็นราว และจะไม่ยอมใครมาบังคับเราได้อีกต่อไป

ไทยพับลิก้า: จริงๆ ควรจัดสรรโควตาสลากให้ตัวแทนจำหน่ายรายละเท่าไหร่

เป็นเรื่องบอร์ดสลากต้องพิจารณา หากตัวแทนจำหน่ายรายใดได้โควตาเกิน 5 เล่ม ก็ควรลดลงมา นำส่วนเกินไปให้คนที่ไม่มีโควตาขาย ปัญหาคือจะทราบได้อย่างไรใครไม่มีโควตาสลาก แนวคิดของผู้บริหารสำนักงานสลากฯ ขณะนี้ คงจะส่งโควตาสลากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ทำหน้าที่จัดสรรโควตาสลากจังหวัดละ 1,000 เล่ม อีกส่วนจัดสรรให้ผู้ที่มาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ ก่อนหน้านี้