PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

ส.อ.วสันต์ คำวง การ์ด คปท. เสียชีวิตแล้ว จากเหตุซุ่มยิง บนทางด่วน

ส.อ.วสันต์ คำวง การ์ด คปท. เสียชีวิตแล้ว จากเหตุซุ่มยิง บนทางด่วน
14.30น. ขณะที่ขบวน
รถยนต์ของเครือข่ายนักศึกษา
ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กำลังขึ้นทางด่วน
แจ้งวัฒนะ มุ่งหน้ากลับเวที
สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล หลังเสร็จภารกิจมาสมทบกับ
ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.,กปปส.แจ้งวัฒนะ,กปท. พร้อมด้วยกลุ่มชาวนา เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการออกมาร่วมปฏิรูปประเทศและ
ยืนเคียงข้างกับประชาชน เนื่องในวันที่ 1 เมษายน เป็นวันข้าราชการพลเรือนไทย โดยเมื่อขบวนรถยนต์ คปท. วิ่งมาถึงช่วงทางด่วนแจ้ง
วัฒนะ-วัดบัวขวัญก็เกิดเหตุ
ถูกคนร้ายซุ่มยิงใส่ทางด้านซ้ายของขบวนรถยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน รวม5คน ในจำนวนนี้เป็น การ์ดชาย 2 คน โดนยิงบนรถ
6 ล้อเครื่องขยายเสียง
เข้าที่ก้นซ้าย1ราย และโดนยิงบริเวณกกหูถึงหัว บาดเจ็บสาหัส 1ราย ซึ่งต่อมาทราบชื่อภายหลังว่า นายวสันต์ คำวงศ์ อายุ 52 ปี
ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือเป็น
มวลชนที่อยู่ในรถบัส หลังจาก
เกิดเหตุ อมร อมรรัตนานนท์ โฆษก คปท.บนรถ 6 ล้อได้
ประกาศให้ทีมรถจักรยานยนต์
และรถสื่อมวลชนที่อยู่ด้าน
หน้าเร่งความเร็ว เพราะมีคนถูก
ยิงได้รับบาดเจ็บ เมื่อมาถึงด่าน
งามวงศ์วาน จึงจอดรถเพื่อ
เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บทั้งหมด
นำส่งโรงพยาบาลรามา 3 คน และโรงพยาบาลจุฬา 2 คน
นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ทีมโฆษก คปท. ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีทีมการ์ดของ กปปส. แจ้งวัฒนะได้ขึ้นมา
เคลียร์พื้นที่บริเวณด่านแจ้ง
วัฒนะ เพราะ มีกระแสข่าว
กลุ่มเสื้อแดงจะมาลอบก่อเหตุ ซึ่งเมื่อขบวนขึ้นผ่านพ้นแนว
การ์ดตนคิดว่าน่าจะปลอดภัย ทางทีมโฆษกซึ่งประกอบไป
ด้วยตนและนายอมรฯ พร้อมทีมการ์ดจึงขึ้นไปอยู่
บนรถ 6 ล้อ เพื่อควบคุมขบวน
ในขณะเดินทาง แต่เมื่อขึ้นทาง
ด่วนมาได้ไม่ถึง 2 นาทีได้ยิน
เสียงปืนจำนวนหลายนัด จึงพบว่ามีการ์ด คปท. บาดเจ็บ 2 คน โดยมีคนแรกยืนอยู่
บนระหว่างลำโพงเครื่อง
ขยายเสียงด้านหน้ารถ ทำหน้าที่สังเกตการณ์ ได้ล้มลงเนื่องจากโดนยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนอีกคนยืนอยู่ด้าน
หลังของคนแรกเยื้องมาทาง
ซ้าย ซึ่งถูกยิงที่บั้นท้าย จากนั้นคนที่เหลือต้องรีบ
หมอบลง ทั้งนี้ เชื่อว่าวิถีกระสุน
ของการยิงน่าจะบริเวณอาคาร
สูงก่อนถึงวัดบัวขวัญ ตนขอประนามผู้ที่ก่อเหตุใน
ครั้งนี้ ว่าเป็นพวกไม่ใช่คน แต่เหตุการณ์นี้จะไม่สร้างความหวาดหวั่นให้กับตัวเองและ
พี่น้อง คปท. พวกเราจะเดิน
หน้าต่อสู้จนกว่าได้รับชัยชนะ
ต่อมา เวลา 16.00น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. เปิดเผยว่า ส.อ.วสันต์ คำวงศ์ การ์ดอาสา คปท. ผู้ที่ถูกยิงได้
รับบาดเจ็บสาหัส บนรถ 6 ล้อ โดยถูกยิงเข้าที่ศรีษะ เสียชีวิตแล้ว ที่ ร.พ.รามา หลังจากที่แพทย์พยายามปั๊ม
หัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้

ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ จงใจใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ

ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ จงใจใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ กรณีร่วมแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ สว ทั้งการสอดไส้รัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านการลงชื่อ จงใจตัดสิทธิ์ผู้ขออภิปราย กำหนดแปรญัตติรวบรัด แต่ประเด็นลงมติวาระ 3 ระหว่างยื่นศาลรับคำร้องพิจารณาให้ตีตกไปเพราะไม่มีบทบัญญติห้ามไว้ ...ส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาถอดถอน


ตร.ไม่รับแจ้ง จับตุลาการศาล รธน.

ตำรวจปฎิบัติการต่อต้านแม้ว ๑/๔/๕๗
แก๊งแดงวิ่งหนี หางจุกตูด! หลังตร.ไม่รับแจ้ง
จับตุลาการศาล รธน. โว้ยตำรวจลั่น ว่าพวกมึงเปลี่ยนไป !
ทั้งสารพัดขู่ ! จะให้ทักษิณย้าย ตำรวจที่ไม่ช่วยเสื้อแดง
ผอ.วิทยุคนเสื้อแดง นำมวลชนบุกกองปราบฯ กดดัน ตร.แจ้งจับมั่วตุลการศาล รธน. กกต.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปัญญาอ่อนประกาศวันที่ 1 เม.ย.เป็น “วันแจ้งความแห่งชาติ” ไม่ทิ้งสันดานจุดคบไฟประกอบการชุมนุม พนักงานสอบสวนสอนมวยชี้ไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวน ตะเพิดเข้าชื่อยื่นเรื่องต่อวุฒิสภา
วันนี้ (1 เม.ย.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุคนไทยหัวใจเดียวกัน พร้อมด้วยมวลชนกว่า 100 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วิโชติ มีภพ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นายจรูญ อินทรจาร, นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายนุรักษ์ มาประณีต, นายบุญส่ง กุลบุปผา, นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ รวมทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ, ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องมาเป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้แกนนำได้นำรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงและป้ายที่มีข้อความว่า “1 เมษายน 2557 วันแจ้งความแห่งชาติ” พร้อมทั้งปราศรัยโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กกต. และผู้ตรวจการแผ่นดินตลอดเวลา นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อลงชื่อผู้ที่ร่วมแจ้งความดังกล่าว โดยบางส่วนได้มีการจุดไต้หรือคบไฟ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการให้แสงสว่าง พร้อมกับระบุด้วยว่าจะเข้าร้องทุกข์กับหน่วยงานต่างๆ ทุกแห่งเพื่อเอาผิดต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

นายพงษ์พิสิษฐ์กล่าวว่า เหตุที่มวลชนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากทั้ง 6 ได้วินิจฉัยให้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ ซึ่งเป็นการจงใจวินิจฉัยโดยขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 197 วรรคแรก ที่บัญญัติว่าการพิจารณาอรรถคดีเป็นอำนาจศาล ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรม และเป็นการละเมิดสิทธิการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงเข้าข่ายความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าว นอกจากนี้ พวกตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน 3 คน ในความผิดฐานเดียวกัน เนื่องจากได้มีมติเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นโฆฆะ ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิและหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ โว้ยตำรวจลั่น ! เดี้ยวนี้พวกมันเปลี่ยนไป งงๆไม่เข้าใจ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้รับเรื่องพร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น เนื่องจากกรณีการกล่าวโทษองค์กรอิสระ ไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องเข้ายื่นเรื่องต่อวุฒิสภาเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ทั้งหมด

น้องตู่ขึ้นแผงหน้าทบ.

"วลิต-อภิรัชต์"
บิ๊กอู๊ด พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อย1 (ตท.15 )!น้องเลิฟสายบูรพาพยัคฆ์ ของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบทบ.ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แทน พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ที่ขยับเป็น พลเอก ที่ปรึกษาพิเศษทบ. ก่อนเกษียณ กย.นี้
ที่คาดกันว่า จะเป็นแม่ทัพภาค 4 แค่6 เดือน ก่อนจะขยับขึ้น 5 เสือทบ.ในการโยกย้ายปลายปี
พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร(ตท.17) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.โยกมาเป็นแม่ทัพน้อย1 แทน ตัดหน้า บิ๊กโชย พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผช.เสธทบ.ฝยก. รุ่นพี่ ตท.16
ที่สำคัญ คือ เสธ.แดง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ตท.20) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก 15 (ผบ.มทบ.15) เป็น ผบ.พล.1 รอ. และเป็นผบ.กองกำลังทหาร คุมกำลังดูแลความสงบในกทม.ด้วย แทน พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ (ตท.18) ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์(ผบ.พล.1รอ.) ขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ท่ามกลางการจับตาของ คนเสื้อแดง และทหารในกองทัพ
Wassana Wassana J. Nanuam


ด่วน!! อุปฑูตซาอุฯ แถลงติดใจปมเปลี่ยนผู้พิพากษาคดีอัลรูไวรี่ ผิดหวังคำตัดสิน จับตาสัมพันธ์ 2 ปท.

ด่วน!! อุปฑูตซาอุฯ แถลงติดใจปมเปลี่ยนผู้พิพากษาคดีอัลรูไวรี่ ผิดหวังคำตัดสิน จับตาสัมพันธ์ 2 ปท.
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายอับดุลอิลาห์ อัลชุ อัยบี อุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายมาทรุก อัลรูไวรี่ พี่เขยของนายโมฮัมหมัดอัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย และนายอาทิก อัลรูไวลี่ พี่ชายนายโมฮัมหมัด ร่วมแถลงข่าวภายหลังศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้องพลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ พร้อมกับพวกรวม 5 คน จำเลยในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้องในความผิดฐาน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย / ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาฯ จากกรณีการหายตัวไปของ นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่
ทั้งนี้นายอับดุลอิลาห์ เปิดเผยผ่านล่ามว่า ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรในคำพิพากษาวันนี้ และเมื่อทางฝ่ายผู้เสียหายได้รับทราบว่า มีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาในการพิจารณาคดีนี้ ก็มีความกังวลว่าผลคำตัดสินจะไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง และไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายของผู้เสียหาย พร้อมยืนยันว่า ทางการซาอุดิอาระเบีย ผิดหวังในผลคำพิพากษาคดีในวันนี้ และทราบว่าที่ผ่านมา จำเลยในคดีนี้มีความพยายามในการขอเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา ดังนั้นจึงเรียกร้องให้สื่อมวลชนพิจารณาเหตุผลของการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา และเจตนาของฝ่ายจำเลยที่ต้องการให้เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาอย่างเร่งด่วน ย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยกับฝ่ายผู้เสียหายว่า ทำไมการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา ไม่กระทำหลังจากที่การพิจารณาคดีแล้วเสร็จในขั้นตอนศาลชั้นต้น
นายอับดุลอิลาห์ กล่าวว่า ส่วนผลการพิพากษาในคดีนี้ จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศซาอุดิอาระเบียหรือไม่นั้น ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของประเทศ ก็ลุ่มๆดอนๆ อยู่แล้ว และก็เชื่อว่า คงไม่มีสาเหตุอะไรที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศย่ำแย่ลงไปกว่านี้อีก และผลคำตัดสินในวันนี้ ทางสถานฑูตฯจะรายงานกลับไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียต่อไป ซึ่งจะมีผลต่อสัมพันธ์อย่างไรนั้น เป็นเรื่องของอนาคตที่ประเทศซาอุดิอาระเบียจะเป็นผู้กำหนด
ขณะที่นายอาทิก เปิดเผยผ่านล่ามว่า ยอมรับว่าผิดหวังอย่างแรงในคำตัดสินและการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาในคดี ก็ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม