PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

อีเวนต์ การเมือง ณ สนามช้าง ‘บุรีรัมย์’ ใคร ‘กำหนด’ คิว

อีเวนต์ การเมือง ณ สนามช้าง ‘บุรีรัมย์’ ใคร ‘กำหนด’ คิว



คําถามที่เสนอเข้ามาหลังปรากฏการณ์ ณ สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ ที่ว่า ตกลงใคร “เสร็จ” ใคร ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายเนวิน ชิดชอบ
ตอบยาก
ไม่ใช่ตอบ “ยาก” อย่างธรรมดา หากยากอย่างชนิด “ยากส์”
หากดูจาก สีหน้า ดวงตา และกังวานเสียงอันเปล่งออกมาเหมือนกับว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายเนวิน ชิดชอบ ดำรงอยู่อย่างชนิด
win win
เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นประชาชนกว่า 30,000 คนเปล่งเสียงดังก้อง “ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ” กระหึ่มทั้งสนาม
เพราะว่า นายเนวิน ชิดชอบ ได้รับเสียงชมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่งกว่านั้น ยังขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่บุรีรัมย์ได้งบประมาณจาก “ครม.สัญจร” ครั้งนี้ไปกี่หมื่นล้านบาทอีกด้วย
มองจากสถานะแห่งความเป็นนักการเมืองในพื้นที่บุรีรัมย์มาอย่างยาวนาน นับแต่รุ่น นายชัย ชิดชอบ มายังรุ่น นายเนวิน ชิดชอบ
การระดมประชาชนกว่า 30,000 ไม่ยาก
มองจากรากฐานในทาง “เศรษฐกิจ” สามารถควักกระเป๋าเพื่อเป็นเครื่องมือหล่อลื่นได้อยู่แล้ว มองจากรากฐานและความสัมพันธ์ในเครือข่าย “ทางการเมือง” ก็ไม่ลำบาก
“บุรีรัมย์” ก็เหมือนกับ “สุพรรณบุรี” นั่นแหละ
หากถือกันว่าจังหวัดสุพรรณบุรี คือ “บรรหาร-แจ่มใส” หรือเรียกขานกันว่า “บรรหารบุรี” จะแปลกอะไรหากสมญาแห่งบุรีรัมย์คือ “เนวินบุรี” ก็ย่อมได้

เพียงเห็นคำว่า “นครชัยบุรินทร์” ผู้คนก็ร้องอ๋อ
ยิ่งหากตระหนักในความเป็นจริงที่ นายชัย ชิดชอบ เป็นคนสุรินทร์ และอพยพครอบครัวไปอยู่บุรีรัมย์ ยิ่งไม่มีอะไรคลางแคลงสงสัย
ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรอกที่จะได้ ตรงกันข้าม นายเนวิน ชิดชอบ ต่างหากที่รับไปเต็ม-เต็ม จากสถานการณ์ครานี้
ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง
เอากันง่ายๆ เพียงแค่ นายเนวิน ชิดชอบ ปรากฏตัวพร้อมกับกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อยืด ก็รับไปสุดสุดแล้ว ในความเป็นตัวของตัวเอง สำหรับแฟนานุแฟน
นี่ยังไม่ต้องพูดถึง “ผลพวง” อันจะตกกับ “ภูมิใจไทย”
จึงมิใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรอกที่หน้าบาน หาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ต่างหากที่ยิ้มแทบจะฉีกทะลุแก้ม
อานิสงส์ 30,000 กว่าคนนี้แผ่ไปไกล
เป็นการแผ่โดยที่พรรคภูมิใจไทยยังดำรงอยู่อย่างมั่นคง แข็งแกร่ง เป็นการแผ่โดยที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยังเป็นหมายเลข 1 ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นี่เป็นเพราะ “อีเวนต์” การเมืองจากสนามช้าง อารีนา โดยแท้
นี่เป็นเพราะความคล่องแคล่วปราดเปรียวของ นายเนวิน ชิดชอบ โดยแท้
จะเข้าใจบทสรุปนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่งต้องเริ่มจาก “คำตอบ” ของ “คำถาม” ที่ว่าใครเป็นฝ่ายกำหนดวาระและรายละเอียดที่สนามช้าง อารีนา
เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ
ไม่ใช่หรอก เป็น นายเนวิน ชิดชอบ ต่างหาก เป็น นายเนวิน ชิดชอบ ต่างหากที่ชี้แนะต่อมวลชนกว่า 30,000 คน ว่าต้องแสดงออกอย่างไร
ใครกำหนดเกม คนนั้นย่อมชนะ

สถานีต่อไปเชียงใหม่

สถานีต่อไปเชียงใหม่



ไม่มีช็อตโผเข้าซบอก โอบกอดเอว
แบบที่ทำให้ “บรรหาร ศิลปอาชา–ทักษิณ ชินวัตร–อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อ่อนระทวย
ก็ต้องถือว่า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช. ที่แขวนพระ 2–3 พวงใหญ่ ยังพกของดี ไม่หลง “มนต์เขมร” เคลิ้มตามฉากที่ “เสี่ยเน” นายเนวิน ชิดชอบ เจ้าพ่อเซราะกราว เนรมิตอาณาจักรบุรีรัมย์ ต้อนรับ ครม.สัญจร แบบจัดหนักจัดเต็มตามสไตล์
งานนี้ “เนวิน” แบไต๋ หงายไพ่เลย ถ้าไม่มีการก่อกำเนิดพรรค “พลังประชารัฐ” ก็ต้องเป็นป้อมค่ายภูมิใจไทยนี่แหละที่จะกุมดุลอำนาจทหารผ่านการเมือง
ในฐานะพรรคหลักที่หนุน “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ
แต่เมื่อเกมเปลี่ยนไป เซียนเขี้ยวลากดินยี่ห้อ “เนวิน” ก็ต้องพลิกเกมเดินแต้มใหม่ กระโดดลงมากำกับเกมด้วยตัวเอง หวังอาศัยแรงฉุด โหนกระแส “ลุงตู่” ปั่นแต้มตีคู่กับค่ายพลังประชารัฐ
ประคองราคา รักษาดีลตีตั๋วเกาะขบวนรถไฟรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน
สำหรับทีมหนุน “นายกฯลุงตู่” งานนี้มีแต่ได้ ไม่มีเสีย ตามท้องเรื่องที่ถูกปั่นกระแสไล่ตามดูดทีมภูมิใจไทยถึงถิ่นบุรีรัมย์ แต่เอาเข้าจริง การณ์กลับกลายเป็นเจ้าภาพอย่าง “เนวิน” ที่ออกตัวแรง แสดงให้เห็นถึงอาการกระโดดเกาะเอว อยากได้ “ลุงตู่” ไปเสริมเครดิตมากกว่า
ที่แน่ๆยี่ห้อนี้ “แทงหวยแม่น” ชื่อ “เนวิน” เลือกอยู่ฝั่งชนะตลอด
และต้องยอมรับว่า แรงกระเพื่อมที่จังหวัดบุรีรัมย์ทำให้สั่นสะเทือนฐานการเมืองในภาคอีสาน
ปรากฏการณ์ที่นักการเมืองจะกล้าขยับขยายย้ายพรรค ไม่ปักหลักจมอยู่กับกระแสนิยมยี่ห้อ “ทักษิณ” ที่ผูกปีตีกินบุญเก่ากันมานานนับสิบปี
กระแสดี แต่ท่อน้ำเลี้ยงไม่เดิน ส่อเลือดไหลอีกเยอะ
ตามยุทธศาสตร์วงใน แว่วๆค่ายพลังประชารัฐของทีมหนุน “ลุงตู่” มุ่งปักธง
ที่จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี เพื่อลุยเจาะหัวเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ฐานอีสาน ยังไงเพื่อไทยก็ไม่เหลือเท่าเดิม
และเมื่อกำแพงอีสานพังทลายแล้ว ก็ไม่แปลก ถ้าเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อไป ทีมงาน “นายกฯลุงตู่” จะยกพลบุกพื้นที่ภาคเหนือ ตะลุยเจาะปราการฐานที่มั่นสำคัญของ “นายใหญ่”
ล็อกจุดโฟกัสที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองหลวงของตระกูลชิน
ด่านสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของ “ทักษิณ”
ท่ามกลางสถานการณ์แนวรบที่เปลี่ยนแปลงไป สังเกตได้ว่าทีม “บูรณุปกรณ์” เงียบหายไป ไม่ได้แสดงตัวแสดงตนเป็นกองกำลังหลักของ “นายใหญ่” ในเชียงใหม่
ภายหลังเจอวิบากกรรมหนักๆจากบทบาทเบื้องหลังคนเสื้อแดง
แม้แต่ในหมู่พี่น้องชินวัตรเอง ก็ไม่แน่จะเหลือเต็มร้อยแค่ไหน
ในเมื่อชัดเจนแล้วว่า “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ได้ถือธง “นอมินี” นำทัพพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งรอบต่อไปแน่นอน
ภายหลังช็อตที่นายวัน อยู่บำรุง อดีตนายกฯ โพสต์โชว์รูปถ่าย “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ร่วมเฟรมกับอดีต นายกฯทักษิณ และอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์
เคลียร์คิว การันตีพื้นที่ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย
ด่านแรก จิ๊กโก๋ฝั่งธนฯอย่าง “สารวัตรเหลิม” ดันลูกชายสมใจ ยอมหลีกทางให้เจ้าแม่เมืองกรุง ที่มี “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร เป็นหัวคะแนนคนสำคัญ
ได้ตั๋วทั้งฝั่ง “นายใหญ่” และ “นายหญิง”
จบข่าวด่าน “สารวัตรเหลิม” แต่นั่นไม่ได้หมายถึงด่านของ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว “ทักษิณ” ที่วงในพรรคเพื่อไทยรู้กันดีกว่าไม่กินเส้นกันในหมู่เจ๊ๆ
เมื่อไม่ได้คุมเพื่อไทย “เจ๊แดง” จะลงเต็มร้อยหรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม
และตามรูปการณ์ ถ้าเจ้าแม่วังบัวบานไม่เอากับเจ้าแม่เมืองกรุง ไม่ออกแรงเต็มตัว ฐานภาคเหนือของเพื่อไทยมีหวังแกว่งแรงอีกหลายจังหวัด
นี่คือธรรมชาติ หลวมๆกลวงๆที่แฝงอยู่ภายในพรรคเพื่อไทย
ส่อแพ้ภัยตัวเองตั้งแต่ “ลุงตู่” ยังไม่ได้ออกแรง.
ทีมข่าวการเมือง

"ผมเหรอ"?!!

"ผมเหรอ"?!!
"บิ๊กป้อม" ถามกลับ "ผมเหรอ" ที่ " สันธนะ" พาดพิง ว่าเป็นรมต.ในรัฐบาล ที่สั่งค้นตลาดดอนเมือง ยันไม่เกี่ยว ไม่ได้สั่ง ผมจะไปรู้เรื่องอะไร เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เขา ‪ยันไม่เคยรู้จัก สั่งตรวจสอบเป็น มาเฟีย มั้ย ท้าส่งหลักฐานมาเลย‬
ส่วนที่บอกว่า มีรมต.ในรัฐบาลทุจริต นั้น นายกฯก็บอกมาแล้ววว่า ก็บอกมาสิ ถ้ามีข้อมูลให้ส่งมา ให้มีหลักฐานด้วย อย่าพูดลอยๆ
เผย กำลังให้ตรวจสอบว่า เป็นผู้มีอิทธิพล หรือไม่ ว่ามีหลักฐานอะไร. ชี้ เป็นคนเดียว ที่เป็นแบบนี้ อย่าไปสนใจ ยันไม่ต้องเรียกปรับทัศนคติ มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีอยู่แล้ว
ยันไม่เคยรู้จัก แต่ "จักรทิพย์" ตามผมไป บุรีรัมย์ เขาโทรเข้ามา แต่ ผบ.ตร.ไม่รู้ว่า เบอร์ใคร จึงโทรกลับ ยันไม่ได้มีการเจรจาอะไรกัน พูดแป้ปเดียว ก็วางหู

ตรวจสอบเบื้องหลัง

ตรวจสอบเบื้องหลัง
"บิ๊กป้อม" เหน็บ "คนอยากเลือกตั้ง" แกล้งไม่เข้าใจ ยัน เลือกตั้ง กพ.62 ชี้คนอยากเลือกตั้ง มีนิดเดียว คน70ล้าน ยังไม่อยาก / สั่งตรวจสอบเบื้องหลัง ยัน นายกฯไม่ลาออก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แถมปกครองบ้านเมืองดี มา4 ปี/ ขออย่าเดินมา ทำเนียบฯ บี้ แกนนำ มีความผิด หากเกิดวุ่นวาย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง ความเคลื่อนไหวของคนอยากเลือกตั้ง ว่า ไม่เป็นห่วง แต่ไม่เข้าใจ "คนอยากเลือกตั้ง จึงตัองกดดันให้เลือก พย.61 นี้ ที่ห่างไปแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น มีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะยังไง ก็มีการเลือกตั้ง อยู่แล้ว กพ.2562 ถ้าไม่ใช่ปีหน้า และปีไหน
ส่วนทำไมถึงยังเคลื่อนไหว อยากเลือกตั้ง นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า คนอยากเลือกตั้ง มีเพียงนิดเดียว แต่คนตั้ง 70กว่าล้าน ยังไม่อยาก ต้องดำเนินการตามโรดแมพ
เผย กำลังตรวจสอบเบื้องหลัง "คนอยากเลือกตั้ง" ตามที่ นายกฯบอก และดูว่า มีการเมืองหนุนหลัง หรือไม่ เพราะมีคนออกมาพูด แค่ไม่กี่คน ไปดูว่า ใครพูดบ้าง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ชี้หากแกนนำชุมนุม จะ มีความผิด หากเกิดวุ่นวาย
ส่วนข้อเรียกร้อง" คนอยากเลือกตั้ง" ให้ พลเอกประยุทธ์ ลาออก นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ถ้าจะลาออก นายกฯก็ลาออกเอง แต่ว่า ท่านทำอะไรผิด จะต้องลาออก เพราะท่านก็ปกครองบ้านเมืองได้ดี ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า แต่ทำไม จึงไม่เข้าใจ นั่น พลเอกประวิตร กล่าวว่า จริงๆแล้ว เข้าใจ แต่แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ชี้แจงให้เข้าใจ
ส่วนการที่ "คนอยากเลือกตั้ง" จะเดินมาทำเนียบฯ22 พค.นี้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็ขอว่าอย่ามาเลย แต่จะให้ จนท.เจรจา อย่าเดินมาทำเนีย

ยังไม่ได้มีอะไรกันเลย!!

ยังไม่ได้มีอะไรกันเลย!!
"บิ๊กป้อม" ไม่ห่วง "บิ๊กตู่" คบ"เนวิน" ยันไม่ได้ร่วมมือทางการเมือง อย่าไปมอง ถ้าไม่รู้จริง. แค่เจ้าของพื้นที่ มารับ ยันไม่ใช่หาเสียง ปัด อนุมัติงบฯหมื่นล้าน ลง "เนวินซิตี้" แค่หลักการ แต่ที่มีให้เลย แค่พันล้าน / ชี้ ชาวอิสาน ต้อนรับนายกฯดี
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการที่ พลเอกประยุทธ์ นายกฯลงพื้นที่อิสาน ว่า ชาวอิสาน ต้อนรับนายกฯดี นายกฯบอกแล้ว ที่ไหนต้อนรับ ก็ไปที่นั่น
ส่วนการที่ ถูกวิจารณ์ว่า ครม.ทุ่มงบฯกว่าหมื่นล้านให้ บุรีรัมย์ นั้น ครม. อนุมัติไปแค่ พันล้าน เท่านั้น ที่สามารถให้ได้ทันที ส่วน 1.4 หมื่นล้านบาท ก็แค่รับหลักการเท่านั้น ตามกรอบวงเงิน พัฒนาพื้นที่ในระยะ4-5 ปี ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ของรัฐบาล
ส่วนพรรคการเมือง วิจารณ์ ยายกฯหาเสียงก่อนคนอื่น นั้น นายกฯก็ลงพื้นที่แบบนี้ มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งไป ในการไปตรวจเยี่ยมราษฎรในทุกพื้นที่. ไปตลอด ไม่เห็นจะต้องไปหาเสียงเลย
ส่วนที่ห่วง พลเอกประยุทธ์ ไปอยู่กับ นายเนวิน ชิดชอบ ที่อยู่กับใคร หัวหน้าพรรคตายหมด นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะ เนวิน เป็นเจ้าของพื้นที่ ก็ต้องมาต้อนรับ ยังไม่ได้มีอะไรกันเลย
ส่วนที่ มีคนห่วง พลเอกประยุทธ์ ที่จะ ไปร่วมมือทางการเมือง กับนายเนวิน พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ไปเรื่องการเมือง ไปห่วง โดยที่ไม่รู้ คนจะมอง ก็มองไป เรื่องจริง เป็นอย่างไร ยังไม่รู้เลย