PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สถานการณ์ข่าว30ธ.ค.57

สปช.

"สุจิต" แจง อนุ กมธ.ยกร่าง กำลังดำเนินการมั่นใจ 12 ม.ค. ได้เห็นร่างเบื้องต้น รวมรายละเอียคุณสมบัติ ส.ส. - นายกฯ แน่นอน

นายสุจิต บุญบงการ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า รายละเอียดของเนื้อการยกร่างรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งมี นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดูแลเรื่องดังกล่าวโดยตรง ทั้งนี้ คาดว่าช่วงหลังปีใหม่ ในวันที่ 12 ม.ค. 58 จะได้ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น รวมทั้งรายละเอียดคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็น ส.ส. และนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะยังไม่มีการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมา ทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนัก จึงขอพักผ่อนก่อนที่จะเริ่มประชุมอีกครั้งหลังปีใหม่
--------------------------
"นิด้าโพล" ปชช.ร้อยละ 70.74 เห็นด้วย มี ส.ส.450 แบ่งเขต 250 สัดส่วน 200, ร้อยละ 63.36 ค้าน นายกฯ ไม่จำเป็นต้องมาจาก ลต.

"นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง “ที่มา ส.ส. - ส.ว. และนายกรัฐมนตรี” จากประชาชนทั่วประเทศ ทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ ระหว่างวันที่ 26 - 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 1,261 ตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 70.74 เห็นด้วยกับข้อเสนอของ กมธ.ที่กำหนดให้มี ส.ส.จำนวน 450 คน แบ่งเป็นระบบเขตเลือกตั้ง 250 คน และระบบสัดส่วน 200 คน, ร้อยละ 18.87 ไม่เห็นด้วย ระบุมีจำนวนมากเกินไป, ร้อยละ 10.39 ไม่แน่ใจ, ร้อยละ 65.66 เห็นด้วย กับข้อเสนอของ กมธ.ที่กำหนดว่า ผู้สมัคร ส.ส. ไม่จำเป็นต้อง สังกัดพรรคการเมือง, ร้อยละ 30.93 ไม่เห็นด้วย ระบุอาจทำให้การทำงานแก้ปัญหายากลำบาก, ร้อยละ 3.41 ไม่แน่ใจ

ขณะเดียวกัน มีเพียงร้อยละ 34.58 ที่เห็นด้วย กับข้อเสนอของ กมธ. ที่กำหนดว่า นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ส. ในสภาฯ โดยที่ ร้อยละ 63.36
ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 2.06 ไม่แน่ใจ และปิดท้ายที่ ร้อยละ 54.24 เห็นด้วย กับข้อเสนอของ กมธ.ที่กำหนดว่า สมาชิกวุฒิสภา มีจำนวนไม่เกิน 200 คน สรรหา 4 กลุ่ม และเลือกตั้งทางอ้อม 1 กลุ่ม,
ร้อยละ 35.85 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 9.91 ไม่แน่ใจ
----------------------------
"อลงกรณ์" เผย 5-6 ม.ค. 58 สปช. เตรียมพิจารณา 3 เรื่องสำคัญโซลาร์รูฟเสรี, เปลี่ยนแปลงการคิดค่าโทรศัพท์มือถือ และสมัชชาคุณธรรม

นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะเลขานุการกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 5 - 6 ม.ค. 58 สปช. จะมีการประชุมโดยมีวาระพิจารณาเรื่องโซลาร์รูฟเสรี, เรื่องการเปลี่ยนแปลงการคิดค่าโทรศัพท์จากนาทีเป็นวินาที และเรื่องการจัดตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ รวมถึงแนวทางการพิจารณาการปฏิรูปใน 1 ปี ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค

นอกจากนี้ สปช. จะจัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ หรือ เวิร์คช็อปวิสัยทัศน์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19 - 20 ม.ค. 58 ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ โดยเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการระดมความคิดและวิสัยทัศน์ของสมาชิก สปช. 250 คน เพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญจัดทำวิสัยทัศน์และออกแบบอนาคตประเทศ ประมวลรวบรวมความเห็นและวิสัยทัศน์ของสมาชิก สปช. ประชาชน ผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรต่างๆ มาสรุปเป็นกรอบวิสัยทัศน์และการออกแบบประเทศ ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ ให้กับคณะกรรมาธิการปฏิรูป สปช. ทั้ง 18 คณะ พร้อมกับพิจารณาว่าจะให้มีการบรรจุแนวทางการปฏิรูปประเทศ ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในหมวดที่ว่าด้วยการปฏิรูปและการปรองดองด้วย
/////////////
นายกฯ

นายกรัฐมนตรี เตรียมนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรี ส่งท้ายปี 2557 ขณะการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด

บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล เช้านี้ การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยในเวลา 08.00 น. คณะรณรงค์กิจกรรม "กระทรวงวัฒนธรรม ส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ 2558 แก่ประชาชน” เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อประชาสัมพันธ์และมอบสื่อรณรงค์ ณ บริเวณด้านหน้า ตึกบัญชาการ 1 จากนั้น เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี เตรียมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 เช่นกัน ถือเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี ส่งท้ายปี 2557 ขณะที่ ช่วงบ่ายเวลา 14.30 น. คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร
-----------------
นายกฯ เป็นประธานการประชุม ครม. ครั้งสุดท้าย ปี 57 ขณะทำเนียบฯ ประดับดอกกล้วยไม้ตามแนวคิดอยากให้เป็นที่รู้จักของคนไทยและต่างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดสุดท้ายของปี 2557 ในเวลา 09.00 น. โดยบรรยากาศก่อนการประชุมบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 มีคณะรณรงค์กิจกรรม "กระทรวงวัฒนธรรม ส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ 2558 แก่ประชาชน” เข้าพบนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาตรวจดูความเรียบร้อย ทั้งนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงสร้างบรรยากาศในวันประชุมคณะรัฐมนตรี จึงได้ขอความอนุเคราะห์ เจ้าของสวนกล้วยไม้ แอร์ ออร์คิดส์ จ.นครปฐม นำกล้วยไม้มาตกแต่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดอยากให้กล้วยไม้ไทย เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยและชาวต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนำคณะรัฐมนตรีอวยพรนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ด้วย
-----------------------
"อลงกรณ์" ย้ำ สปช. เดินหน้าปฏิรูป ผนึกกำลังแม่น้ำ 5 สาย เพื่อบรรลุผลสำเร็จ ชี้ รธน.ใหม่ คือกุญแจสำคัญ

นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะ โฆษกคณะกรรมาธิการกิจการ สปช. (วิป สปช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN  ว่า การทำงานของ สปช. หลังจากนี้จะเป็นการเดินหน้าตามแผน ปฏิรูปเร็ว , ปฏิรูปใน 1 ปี และการจัดทำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ โดยจะมีการประชุมเพื่อเร่งรัดในด้านต่างทุกวันจันทร์และวันอังคาร รวมถึงจะมีการประชุมเวิร์คช็อป ครั้งที่ 2 เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำงานของ กมธ. ทั้ง 18 คณะ และทำพิมพ์เขียวของแต่ละคณะด้วย

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ยืนยันว่า การทำงานปฏิรูปของ สปช. นั้น จะต้องผนึกกำลังกับแม่น้ำอีก 4 สาย ประกอบด้วย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) , คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) , คณะรัฐมนตรี และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การปฏิรูปบรรลุผลตามเป้าหมาย  รวมถึง เน้นย้ำว่ารัฐธรรมนูญใหม่ที่มีการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน และดำเนินการอย่างรอบคอบจะเป็นกุญแจสำคัญของการปฏิรูปประเทศด้วย
------------------------
ดุสิตโพล เหตุการณ์ที่ ปชช.มีความสุขที่สุด ปี 2557 วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระเจ้าอยู่หัว รองลงมา ฟุตบอลไทย ได้แชมป์ นักการเมืองที่ชอบที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น กรณี "ที่สุดแห่งปี" ซึ่งทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ เป็นปีที่ 17 ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม จากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 6,318 คน ในระหว่างวันที่ 10-29 ธ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า เหตุการณ์ในประเทศไทยที่มี “ความสุข" มากที่สุด ร้อยละ 43.20 วันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระเจ้าอยู่หัว, ร้อยละ 30.44 นักเตะทีมชาติไทย คว้าแชมป์ซูซูกิคัพ 2014, ขณะที่เหตุการณ์ในประเทศไทยที่ “เศร้า” ที่สุด ร้อยละ 43.35 สถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวาย, ร้อยละ 35.15 คดีน้องแก้ม
บนตู้นอนรถไฟ และ ร้อยละ 21.50 เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ขณะ นักการเมือง ที่ชอบมากที่สุด ฝ่ายชาย ร้อยละ 73.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, รองลงมา ร้อยละ 13.94 พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร และร้อยละ 12.40 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฝ่ายหญิง ร้อยละ 44.96 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, ร้อยละ 33.40 นางปวีณา หงสกุล และ ร้อยละ 21.64 "ตั๊น" จิตต์ภัสร์ กฤดากร (ภิรมย์ภักดี)

ส่วนความหวังในปี 2558 ร้อยละ 56.07 ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพลานามัยแข็งแรง, ร้อยละ 22.63 เศรษฐกิจดีขึ้น ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง และ ร้อยละ 21.30 คนไทยสามัคคี ปรองดอง/ ประเทศชาติสงบสุข ปิดท้ายที่ “คำอธิษฐาน” ที่ตัวประชาชนเอง อยากขอในวันปีใหม่ ร้อยละ 44.91 ขอให้การงานเจริญก้าวหน้า ร่ำรวย มีเงินมีทอง, ร้อยละ 32.52 ขอให้ครอบครัวมีความสุขความเจริญ และร้อยละ 22.57 ขอให้บ้านเมืองสงบสุข เศรษฐกิจดี คนไทยรักและสามัคคีกัน
----------------------
นายกรัฐมนตรี นำประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว จับตางบช่วยเหลือช่วยเกษตรกร และเพิ่มเงินเดือนข้าราชการบำนาญ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดสุดท้ายของปี 2557 แล้ว โดยมีวาระที่น่าสนใจหลายเรื่อง อาทิ กระทรวงการคลัง จะเสนอแนวทางการดำเนินการรวมตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2557 และขออนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มเติมโครงการศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมถึงการเพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถในส่วนของค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีได้รับบาดเจ็บ”
---------------------------
นายกฯ เชิญชวนไหว้พระ 9 วัด สวดมนต์ข้ามปี อวยพร ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีหน้า

คณะรณรงค์กิจกรรมของกระทรวงวัฒนธรรม ส่งมอบความสุขของขวัญปีใหม่ ปี 2558 ให้แก่ประชาชน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจัดซุ้มกิจกรรมประชาสัมพันธ์ไหว้พระ 9  วัด สวดมนต์ข้ามปี ปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว โดย นายกรัฐมนตรี เชิญชวนให้หาเวลาไปร่วมสวดมนต์ข้ามคืน จากนั้น รับฟังการขับร้องประสานเสียง เพลง "วันพรุ่งนี้" พร้อมร่วมร้องกับกลุ่มนักเรียนก่อนจะกล่าวว่า ลุงทำแบบนี้ เพื่ออนาคตของพวกหนู พวกหนูทำดีแล้ว ขอให้ขยันตั้งใจเรียน สุดท้ายนายกฯ ได้ปรบมือ พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีหน้า

ขณะเดียวกัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล้วยไม้ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี อยากให้มีตลาดกลางกล้วยไม้ และหลังวันเด็ก จะเปิดตลาดกล้วยไม้ เพื่อส่งเสริมการขาย บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม หน้าทำเนียบรัฐบาล ด้วย
----------------------
"สมชัย" เผย เตรียมเดินหน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เน้นแยกบทบาทของรัฐ ระหว่างการเป็นผู้กำกับการดูแลกับการเป็นเจ้าของกิจการ

นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง กล่าวถึงผลการประชุม ว่า ได้หารือกันในเรื่องของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยสิ่งที่จำเป็นในการปฏิรูป คือ บทบาทของรัฐในการประกอบธุรกิจด้านบริการ โดยรัฐเป็นผู้จัดหาดำเนินการ แต่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการเอง  มีหน้าที่ที่ดูแลให้ประชาชนเข้าถึงบริการนั้นๆ โดยปล่อยให้เป็นหน้าของเอกชน

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการแยกบทบาทของรัฐ ระหว่างการเป็นผู้กำกับการดูแลกับการเป็นเจ้าของกิจการ เพราะที่ผ่านมาเกิดความสับสน จึงจำเป็นต้องมีการทบทวน ว่า อะไรควรทำเองและอะไรให้เอกชนทำ เช่นเดียวกับเรื่องสาธารณูปโภคที่ต้องมีการทบทวน และดูแลเรื่องปัญหาการขาดทุน เพราะสาเหตุของการขาดทุน เกิดการที่รัฐเข้าไปกำหนดราคา ซึ่งควรปล่อยให้เอกชนจัดเก็บราคาตามจริง และรัฐมีหน้าที่สนับสนุนในส่วนที่ขาดทุน โดยการปรับปรุงเปลี่ยนครั้งนี้จะยึดเพื่อให้รองรับการของสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
---------------
พล.อ.ประยุทธ์ ปัดเปิดช่องนายกรัฐมนตรีคนนอกให้ตนเองเข้ามาเป็น ย้ำยึดโรดแมป เร่งจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยาง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมปฏิเสธประเด็นการที่สภา สามารถเสนอชื่อบุคคลนอก เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เป็นการเปิดช่องให้ตนเองเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเท่าที่ติดตามนั้น เพื่อแก้ปัญหาในอดีต ที่เมื่อเกิดวิกฤติบ้านเมือง นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง และวิธีนี้ ถือ

เป็นการนำปัญหาเดิมมาแก้ไข สำหรับการที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กำชับว่า เมื่อเดินหน้าแล้วถอยไม่ได้นั้น ขออย่ากังวลว่า รัฐบาลจะอยู่ยาว แต่จะอยู่เท่าที่อยู่ได้ เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และยืนยันจะยึดตามแผนโรดแมป ทั้งนี้ เชื่อว่า พล.อ.เปรม หวังดีต่อประเทศชาติ และสิ่งชื่นชมการทำงาน ส่วนตัวก็ภูมิใจและจะนำไปเป็นกำลังใจการทำงานต่อไปอย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ได้ส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดให้เบิกจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยาง ให้เรียบร้อย หลังช่วงปีใหม่

////////////////////
ความปลอดภัยเคาน์ดาวน์

ผบ.ทบ. สั่งหน่วยทหารทั่วประเทศ ดูแล อำนวยความสะดวก ปชช. เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่ กำชับ ร.พ.ในสังกัดพร้อมรับมืออุบัติเหตุ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ซึ่งประชาชนชาวไทยและต่างประเทศจะเดินทางไปท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนครอบครัวและเฉลิมฉลองในทุกพื้นที่นั้น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการใช้เส้นทางคมนาคมจำนวนมาก และมักเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเดินทาง ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารของกองทัพบกทั่วประเทศ ร่วมให้การดูแลประชาชนที่สัญจรไปมาอย่างเต็มที่ ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ทหารอำนวยความสะดวกด้านการจราจรหน้าค่ายทหาร ในห้วง 30 ธ.ค. 57 - 5 ม.ค. 58 พร้อมเปิดให้ใช้พื้นที่ในค่ายทหารเป็นจุดพักรถ-พักคน ซึ่งจุดบริการประชาชนของกองทัพบก มีทั้งสิ้น 243 จุดทั่วประเทศ ส่วนโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก ได้จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ พร้อมให้บริการด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเจ็บโดยทันที รวมถึงการประสานกับโรง

พยาบาลสาธารณสุขในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อร่วมกันดูแลผู้ป่วยเจ็บ หากเกิดอุบัติเหตุขนาดใหญ่ รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สำคัญของจังหวัด ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลอง โดยจะมีการประสานและปฏิบัติงานร่วมกันของ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
----------------------------
พล.อ.อ.ประจิน เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ "ปีใหม่ ตายเป็นศูนย์" พร้อมปล่อยแถวตำรวจรถไฟ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ "ปีใหม่ ตายเป็นศูนย์" ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ และ นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา รองว่าผู้การรถไฟแห่งประเทศไทย คอยให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานการดำเนินงาน พร้อมกันนี้ พล.อ.อ.ประจิน ได้เคาะระฆังปล่อยแถวตำรวจรถไฟ ก่อนเดินตรวจเยี่ยมและสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่การรถไฟ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ภายในสถานีด้วย
------------------------------
รมว.คมนาคม ยัน วางมาตรการดูแลความปลอดภัย ปชช. เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถไฟเต็มที่ ย้ำมาตรฐานบริการต้องดีขึ้น

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เตรียมขบวนรถไฟสำหรับสุภาพสตรี ขบวนรถเพื่อผู้พิการ รวมถึงได้มีการปรับปรุงห้องน้ำบริเวณชั้น 2 และ 3 ให้สะอาดมากขึ้น

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้การรถไฟฯ ดูแลความปลอดภัยของประชาชน ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงมาตรฐานการบริการต้องดีขึ้น โดยต้องมีการตรวจแอลกอฮอล์พนักงานขับรถก่อนออกเดินทาง

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้ร่วมกับตำรวจรถในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีการตั้งจุดบริการในสถานีตำรวจรถไฟ 15 สถานี และหน่วยบริการ 38 หน่วยทั่วประเทศ โดยมีตำรวจคอยลาดตระเวนตลอดทั้งเส้นทาง
-----------------------
นายกรัฐมนตรี เผยปีหน้าเร่งบริหารจัดการน้ำ เตรียมรับมือน้ำแล้ง น้ำท่วม ย้ำต้องโปร่งใสทั้งระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาการบริหารจัดการน้ำ ทั้งเรื่องน้ำท่วม ภัยแล้ง ซ้ำซาก ซึ่งได้จัดทำแผนรองรับตั้งแต่ปี 2558-2569 รวมกว่า 10,000 โครงการ ที่มีการใช้งบกลาง อาจต้องหางประมาณเพิ่มเติม โดยจะหารือกับ ทางกระทรวงการคลัง และเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

ทั้งนี้ อยากให้เริ่มดำเนินการในปี 2558 ด้วยความโปร่งใส และหากโครงการใด ที่เกิน 1,000 ล้านบาท จะมีองค์กรต่างประเทศมาร่วมด้วย ขณะเดียวกันหากมีบุคคลใดที่มีข้อมูลการทุจริต ไม่โปร่งใส ให้ส่งข้อมูลมาเพื่อการตรวจสอบ เพราะรัฐบาลต้องให้เกิดความโปร่งใสทั้งระบบตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้ข้าว เพื่อการช่วยเหลือประเทศฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ให้ประเทศละ 500 ตัน และภาคใต้ของไทย อีก 1,300 ตัน ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดย นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในการให้ความช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมและการค้นหาการสูญหาย ซึ่ง ทางการไทย ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกรูปแบบ
--------------------
ปชช. ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา คึกคัก ตั๋วรถไฟขบวนปกติ-ขบวนเสริม ทุกเส้นทางเต็มหมดแล้ว ร.ฟ.ท. เตรียมเสริมตู้เพิ่ม 

บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ล่าสุด ประชาชนทยอยเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เกินกว่าพื้นที่รับรองผู้โดยสารของทางสถานี และยังไม่มีการติดป้ายแจ้งว่า ตั๋วโดยสารหมด ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวดเจ้าหน้าที่และตำรวจรถไฟ คอยเดินตรวจตราและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เข้ามาใช้บริการตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้ นายเฉลียว ไวยกัญหา นายสถานีรถไฟหัวลำโพง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตั๋วโดยสารของขบวนปกติและขบวนที่เสริมในวันนี้ จำนวน 4 ขบวน เต็มเรียบร้อยแล้ว แต่ประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา และยังไม่มีตั๋ว ยังสามารถเดินทางมาซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีได้ เพราะการรถไฟฯ ได้เตรียมตู้เสริมไว้บริการไว้แล้ว
-------------
รมว.มท. เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ ภายใต้แนวคิด "มอบสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนสร้างความปลอดภัยในการเดินทางทุกรูปแบบ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2558 ควบคู่กับการณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนน ภายใต้แนวคิด "มอบสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน" พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นมาตรการ 3 ด้าน ประกอบด้วย การบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด/ ควบคุมการเข้าถึง การดื่ม และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียส่วนใหญ่เกิดจากถนนสายรอง ส่วนยานพาหนะเกิดจากรถจักรยานยนต์ และผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าในชุมชน อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ดูแลคนในชุมชน ไม่ให้ขับรถหลังการดื่มสุรา และประสานสถานที่ราชการ หรือหน่วยงานเอกชน ให้เป็นจุดพักรถด้วย

ซึ่งปีนี้จะไม่มีการเปรียบเทียบสถิติการเกิดอุบัติเหตุหรือตั้งเป้า เพราะทุกชีวิตมีค่าไม่อยากให้เปรียบเทียบและไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย พร้อมกันนี้ ฝากถึงประชาชนทุกคนให้รับผิดชอบต่อสังคมอย่าประมาท และขอรณรงค์ให้ประชาชนกันมาสวดมนต์ปีใหม่แทนการดื่มสุรา
-------------------
อีกแล้ว! ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3254 ระทึก นักบินพบความผิดปกติในห้องเก็บสัมภาระ-ลงจอดด่วน

ฝ่ายสื่อสารองค์กร สายการบินไทยแอร์เอเชีย รานงานว่า เที่ยวบิน FD3254 ดอนเมือง-ขอนแก่น ได้ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 11.10 น. และกำหนดถึงท่าอากาศยานขอนแก่น 11.55 น. ซึ่งเมื่อเครื่องบินได้ออกจากท่าอากาศยานแล้ว นักบินได้พบว่า ได้มีความผิดปกติที่ห้องเก็บสัมภาระ โดยตัดสินใจให้ลงจอดด่วนเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และให้ วิศวกรอากาศตรวจสอบโดยละเอียด

ทั้งนี้ หลังจากการตรวจสอบนั้น พบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ จึงบริการได้อีกครั้ง ในเวลา 12.12 น. ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมประมาณ 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินดังกล่าวได้มี นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ ซิโก้ หัวหน้าสต๊าฟฟ์ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแชมป์เอเอฟซี ซูซูกิ คัพ อยู่ในเครื่องด้วย

/////////////////
38สว.

"เจตน์" เผย ประชุมวิปครั้งหน้า เตรียมนำเรื่องถอดถอน 38 อดีต ส.ว. เข้าพิจารณา ก่อนบรรจุ เป็นวาระประชุม ยันยึดตามขั้นตอน

น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช. เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า สำนวนคดีถอด

ถอนอดีต 38 ส.ว. กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของ ส.ว. ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งมาทาง สนช. แล้ว โดยจะนำเข้าที่ประชุมวิป สนช.ก่อน
ในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อหารือก่อนนำบรรจุเข้าวาระการประชุม สนช. ทั้งนี้ น.พ.เจตน์ กล่าวว่า ในวันที่มีการประชุมเรื่องดังกล่าว สมาชิก สนช. ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะสามารถลงชื่อเข้าร่วม

ประชุมได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ลงมติการถอดถอนได้ เนื่องจากเป็นที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการพิจารณาจะคล้ายกันกับการพิจารณาสำนวนคดีการถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทุกอย่าง
////////////////////////////
คดีพงศ์พัฒน์

ผบ.ตร. ส่งสำนวนคดีเครือข่าย อดีต ผบช.ก. คืน บช.น.แล้ว ชี้สำนวนพร้อมยื่นอัยการ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้ลงนามเซ็นคำสั่งพิจารณาเห็นชอบสำนวนคดีการกระทำความผิดตามมาตรา 112ตามที่คณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เสนอขึ้นมาทั้งหมด 4 สำนวน ตีกลับให้ พนักงานสอบสวนที่ได้รับผิดชอบ ได้แก่ สำนวนคดีกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงข่มขู่ทวงหนี้ จำนวน 37 ล้านบาท ของสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ยังคงเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ที่ยังหลบหนี

ส่วนสำนวนคดีบังคับให้ผู้เสียหายลดหนี้ จากจำนวน 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท ของสถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร มีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี 21 รายนั้น เหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี 2 ราย คือ นายปรีชา ดาราไตร เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถ ผู้จ้างวานและ นายไพรเชษฐ เมธีสริยพงศ์ เจ้าของอู่รถเมล์ร่วมบริการสาย 8 ผู้ร่วมก่อเหตุ ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จะนำสำนวนคดีดังกล่าว ส่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องภายในวันนี้

ด้านคณะพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีมติพิจารณาเห็นชอบสำนวนคดีซื้อขายการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (อดีต ผบช.ก.) และเครือข่ายรวม 6 คน มีความผิดตามมาตรา 157 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรียกรับเงินแต่งตั้งโยกย้าย ทางคณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม จะต้องนำความคืบหน้าดังกล่าวรายงานให้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทราบก่อน เพื่อให้พิจารณาว่า จะนำสำนวนคดีทั้งหมดที่ถูกส่งตีกลับมาส่งสำนวนทั้งหมดพร้อมกัน เนื่องจากยังเหลือสำนวนสรุปสำนวนการจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อน และสำนวนคดีเปิดบ่อนการพนันที่เปิดในสถานบริการย่านรัชดา ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่ อาจจะให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบนำสำนวนส่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องทันทีต่อไป
////////////////////
คดีเอกยุทธ์

ศาลอาญา รัชดา พิพากษา ประหารชีวิตผู้ต้องหา ฆ่า"เอกยุทธ" แต่รับสารภาพ  ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ศาลอาญา รัชดา นัดพิพากษาคดีที่ อัยการ ฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง / นายสุทธิพงศ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร / นายชวลิต หรือ เชาว์ วุ่นชุม / นายทิวากร หรือ ทิว เกื้อทอง / จ่าสิบเอก อิทธิพล เพ็งด้วง และ นางจิตอำไพ เพ็งด้วง บิดา มารดา นายสันติภาพ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ , ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , รับของโจร และข้อหาอื่น ๆ รวม 8 ข้อหา

จากกรณี เมื่อวันที่ 6 - 9 มิถุนายน 2556 นายสันติภาพ อดีตคนขับรถของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี อดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ได้ร่วมกับ นายสุทธิพงศ์  ใช้ปืนและมีด ปล้นเอาทรัพย์และใช้เชือกรัดคอจน นายเอกยุทธ ถึงแก่ความตาย และนำศพไปฝังไว้ในไร่นาสวนผสมทิ้งร้างที่ จังหวัดพัทลุง  โดยมี นายชวลิต และ นายทิวากร ช่วยขุดหลุมฝังศพ ส่วน จ่าสิบเอกอิทธิพล นางจิตอำไพ  ซึ่งเป็นบิดามารดาของ นายสันติภาพ เป็นผู้รับฝากเงินสดของ นายเอกยุทธ ที่ นายสันติภาพ นำมาฝากไว้กว่า 4 ล้านบาท

โดย ศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิต นายสันติภาพ และนายสุทธิพงศ์ แต่ทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วน นายชวลิต พิพากษาจำคุก 13 เดือน และให้บวกโทษในคดีค้างเก่าที่ ศาลจังหวัดพัทลุง รวมเป็น 19 เดือน ส่วน นายทิวากร พิพากษาให้จำคุก 8 เดือน ขณะที่ จ่าสิบเอกอิทธิพล และ นางจิตอำไพ พิพากษาให้จำคุก 1 ปี 4 เดือน

พร้อมกันนี้ให้ นายสันติภาพ และนายสุทธิพงศ์ ร่วมกันชดใช้ทรัพย์ทรัพย์สินคืนให้แก่ทายาทของ นายเอกยุทธ จำนวน 1 ล้าน 9 แสนบาท ภายหลัง นายสันติภาพ ระบุว่า เบื้องต้นจะปรึกษาทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์

ด้าน บุตรชายของนายเอกยุทธ ระบุว่า พอใจกับคำตัดสิน โดยจากนี้จะหารือร่วมกับทนายว่า จะอุทธรณ์คดีหรือไม่
///////////////////
รอง ผบก.ป. เผย จนท.เร่งรวบรวมหลักฐานยักยอกเงิน 1,600 บ.เพิ่ม ชี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม เชื่อผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนียังอยู่ในประเทศ

พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) หัวหน้าชุดสืบสวน เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จนทำให้เกิดความเสียหาย มูลค่า 1,600 ล้านบาท หลังศาลอนุมัติหมายจับ 6 ผู้ต้องหาา หลังการประชุมชุดทำงานเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเร่งรวบรวมหลักฐานพยานต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งในการประชุมทางสถาบัน ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ด้านการออกหมายจับเพิ่มนั้น ยังไม่พบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องมีการสอบพยาน และรวบรวมหลักฐานอีกครั้งก่อน

ด้านการติดตามจับกุม นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และ นางสมบัติ โสประดิษฐ์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตาม โดย นายกิตติศักดิ์ ยังคงหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ส่วน นางสมบัติ เชื่อว่า ยังกบดานอยู่ตามบ้านญาติในประเทศไทย