PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บเม็ดเงินโฆษณาของทั้งโลกในสื่อต่าง ๆ

ตารางกราฟเปรียบเทียบเม็ดเงินโฆษณาของทั้งโลกในสื่อต่าง ๆ เปรียเทียบและคาดการณ์ระหว่างปี 2012 & 2015 จุดสำคัญคือการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่ออินเตอร์เน็ตจะแซงสื่อสิ่งพิมพ์ในปี 2015 ขณะที่สื่ออื่น ๆ ยังมีเม็ดเงินค่อนข้างคงที่...


ผลสำรวจ พบกลุ่มผู้สูงอายุวัย 65 ปีขึ้นไป ชอบส่งข้อความผ่านสมาร์ทโฟน

Cell_Phone_Users_Over_Age_65จากข้อมูลผลสำรวจของ Pew Research Center ได้สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้มือถือ ทุกช่วงอายุในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแบ่งตามกลุ่มอายุ กับกลุ่มประเภทการใช้งานสมาร์ทโฟนในรูปแบบต่างๆ โดยมีผู้ร่วมตอบการสำรวจนี้ 2,076 ราย ซึ่งได้ผลสถิติที่น่าสนใจดังนี้
  • ช่วงผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปชอบส่งข้อความผ่านทางสมาร์ทโฟน มากถึง 35% และเป็นกิจกรรมที่ ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ใช้ผ่านมือถือมากที่สุด
  • กลุ่มอายุ 18-29 ปี และ 30-49 ปี ชอบใช้สมาร์ทโฟนในการส่งข้อความ มากกว่า 90%
  • กลุ่มที่ใช้งานต่ออินเทอร์เน็ต มากสุดยังเป็นกลุ่ม 18-29 ปี และ อันดับ 2 ได้แก่ อายุ 30-49 ปี 
  • กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50-64 ปี ใช้สมาร์ทโฟนในการอัพโหลดวีดีโอ และ เช็คอิน น่้อยมาก 
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 50-64 ปี นิยมรับส่งอีเมล สูงถึง 43% ซึ่งถือว่ามีคนใช้เยอะอยู่ ในขณะที่วัย 65 ปีขึ้นไป ใช้สมาร์ทโฟนในการรับส่งอีเมล เพียง  17%
แล้วคุณใช้สมาร์ทโฟนทำอะไรบ้าง ?
The_Generational_Divide_in_Cell_Phone_Useข้อมูลจาก  Mashable  

เปิดจดหมาย สะมะแอ ท่าน้ำ กับข้อเสนอดับไฟใต้-ดูแลเยาวชน

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ข่าว3จังหวัดชายแดนใต้ เปิดจดหมาย สะมะแอ ท่าน้ำ กับข้อเสนอดับไฟใต้-ดูแลเยาวชน

          ถือเป็นการทำงานอย่างแข็งขันของ ศอ.บต. หรือศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำข้อมูลจากพื้นที่ไปสังเคราะห์และเพิ่มน้ำหนักของฝ่ายรัฐบาลไทยบนโต๊ะพูดคุยกับแกนนำบีอาร์เอ็นที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาคมปาตานีทั้งหมด
          แม้หลายเวที ศอ.บต.จัดอย่างฉุกละหุกและขาดยุทธศาสตร์ไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความตั้งใจที่ดี และได้ฟัง "เสียงจริง" จากประชาชนจำนวนไม่น้อย
          โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสส่งเสียงอย่างผู้ต้องขังในเรือนจำ!
          ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ เดือน มี.ค.2556 ศอ.บต.ได้ประสานกับกรมราชทัณฑ์เพื่อขอให้ย้ายนักโทษเด็ดขาด (ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว) ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับไปคุมขังยังเรือนจำบ้านเกิด ตามระเบียบการย้ายผู้ต้องขังหรือนักโทษคดีเด็ดขาดไปคุมขังยังเรือนจำตามภูมิลำเนาของนักโทษ ซึ่งเรื่องนี้แม้จะไม่ตรงนักตามข้อเรียกร้องข้อ 5 ของบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซัน ตอยิบ ที่ให้ปล่อยตัวนักโทษและยกเลิกหมายจับนักรบปาตานีทั้งหมด แต่ก็นับเป็นสัญญาณหนึ่งของการอำนวยความยุติธรรมจากรัฐ
          และนักโทษเด็ดขาดชุดแรกเฉพาะคดีความมั่นคงจำนวน 2 คนที่ย้ายกลับเรือนจำตามภูมิลำเนาของตน คือเรือนจำจังหวัดยะลา ได้แก่ นักโทษชาย สะมะแอ สะอะ หรือ หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ หรือ นายอิสมาแอล กัดดาฟี อายุ 61 ปี หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธขบวนการพูโล กับ นักโทษชาย บาบอแมบือโด เบตง อายุ 74 ปี ประธานขบวนการพูโล ทั้งคู่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีกบฏแบ่งแยกราชอาณาจักร ตั้งแต่ปลายปี 2554 และก่อนหน้านี้ทั้งคู่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางสงขลา
          หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ เป็นบุคคลที่ ศอ.บต.และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เข้าไปพบปะ เยี่ยมเยียน และขอรับฟังความคิดเห็นหลายครั้ง เพราะเขาคืออดีตนักต่อสู้และนักปฏิวัติที่มีอุดมการณ์สร้างสังคมใหม่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามแนวทางและความเชื่อของตน
          เมื่อเร็วๆ นี้ หะยีอิสมะแอ ท่าน้ำ เขียนจดหมายเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นเรื่องการพัฒนา ภายใต้การทำงานขององค์กรที่ใช้ชื่อว่า "คณะกรรมการสิริมงคลทั่วประเทศ"
          หะยีอิสมะแอ ท่าน้ำ บอกว่า การจะนำความสันติสุขและความมั่นคงกลับคืนมาได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมกันสร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชนให้เกิดขึ้นเสียก่อน เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งและความรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน พร้อมกันนั้นก็ต้องมียุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และดึงทุกฝ่ายมานั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาข้อยุติของความขัดแย้ง
          ประเด็นสำคัญที่ หะยีสะมะแอ เน้นย้ำหลายครั้งในจดหมายก็คือ ต้องมีนโยบายดูแลกลุ่มเยาวชนในพื้นที่อย่างจริงจัง
          สำหรับ "คณะกรรมการสิริมงคลทั่วประเทศ" เขาไม่ได้เสนอมาลอยๆ แต่มีการระบุโครงสร้างมาด้วย ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน มีผู้ช่วย 3 คน มีเลขานุการ มีเหรัญญิก และมีสมาชิกมาจากการแต่งตั้งหรือเลือกตั้งจากทุกฝ่าย ทั้งผู้นำศาสนา นักการเมือง ข้าราชการ ทนายความ นักวิชาการ อดีตผู้นำขบวนการ กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี และตัวแทนผู้นำท้องถิ่น รวมแล้ว 9 คน
          องค์กรนี้ตั้งขึ้นเพื่อระดมสมองหาแนวทางแก้ปัญหาและการเยียวยาในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการเฉพาะ มีนโยบายสำคัญ 3 ด้าน ประกอบด้วย
          นโยบายที่ 1 สามัคคี สันติสุข คือ สวัสดิภาพ ยุติธรรม และความชอบธรรม
          นโยบายที่ 2 ส่งเสริมและสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจพอเพียง คือ เลี้ยงโค แพะ ทั้งเนื้อและนม ไก่เนื้อและไก่พันธุ์ เลี้ยงปลาน้ำจืด ปลาน้ำเค็ม ตัดเย็บ ผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ปลูกพืชผักและไม้ยืนต้น
          นโยบายที่ 3 การศึกษา ปลูกจิตสำนึกสร้างความเข้าใจ เน้นกิจกรรมกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม ทั้งอานาซีด ดิเกฮูลู อ่านกลอน แสดงละคร ยิงธนูวิ่งม้า แข่งเรือ ว่าว ฟุตบอล ชกมวย ปีนภูเขา ทำความสะอาดทะเล รวมทั้งแห่ขบวนช้างขบวนนก
          นอกจากนี้ หะยีสะมะแอ ยังบอกว่า เขาเคยให้ความเห็นกับตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 ในเรื่องของคุณสมบัติผู้นำคนใหม่ของขบวนการ  โครงสร้างองค์การพูโล รวมทั้งรายชื่อคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำพูโล โดยได้เสนอแนะแนวทางการพูดคุยเจรจาอีกด้วย
          "สำคัญที่สุดคือรัฐต้องจริงใจและมุ่งมั่นกับการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่" เขาย้ำ และดูจะเป็นสิ่งที่อดีตแกนนำพูโลรายนี้ต้องการมาตลอดชีวิต
เครือข่ายสตรียกร่างยุทธศาสตร์ผู้หญิงและเด็ก
          พูดถึงการแก้ปัญหาเยาวชน เมื่อเร็วๆ นี้ ศอ.บต.ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง และองค์กรเครือข่ายสตรีที่ปฏิบัติงานด้านเด็ก เยาวชน และสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์คชอป) เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งให้กับเด็ก เยาวชน และสตรี นำเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต.ต่อไป
          ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ที่ตกผลึกร่วมกันมี 8 ข้อ ได้แก่
          1.การสร้างเจตคติด้านความเสมอภาคทางเพศ เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยอมรับบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และความหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่น
          2.การพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสสิทธิทางสังคมของผู้หญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สตรีทุกคน ทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ การถือครองที่ดิน/ทรัพย์สิน ความมั่นคงทางอาหารและอาชีพ การเข้าถึงการศึกษาทุกระดับ รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้หญิง
          3.การพัฒนาสุขภาวะ สิทธิ อนามัยเจริญพันธุ์ คุณภาพชีวิต และการเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตของผู้หญิง เพื่อให้สตรีมีสุขภาพ สุขภาวะ เข้าถึงสิทธิ อนามัยเจริญพันธุ์ และคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิตทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคม
          4.การคุ้มครองสิทธิการเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิง เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงสามารถเข้าถึงความยุติธรรม และได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายบัญญัติ
          5.การพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมทางการเมือง การบริหาร และการตัดสินใจในทุกระดับ เพื่อให้ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโดยอาศัยประสบการณ์ของผู้หญิง รวมถึงศักยภาพในการมีส่วนร่วมทางการเมือง การบริหาร และการตัดสินใจในระดับต่างๆ
          6.ส่งเสริมสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา การศึกษาศาสนา และการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้หญิง/เด็ก เพื่อให้ผู้หญิงสามารถพัฒนาทักษะความรู้ให้มีความก้าวหน้า เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และสามารถนำความรู้มาใช้ในการพัฒนาครอบครัว ชุมชน และสังคม ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับศีลธรรมอันดี
          7.การให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสันติภาพ
          8.การสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนแผนการทำงาน เพื่อทราบความก้าวหน้าในการปฏิบัติตามแผน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ
          น.ส.ธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ชายแดนภาคใต้วันนี้มีโอกาสมากมาย แต่ก็ยังมีสิ่งที่ปิดกั้นอยู่ โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้หญิงถูกกระทำในชุมชน ไม่มีใครกล้าออกมาพูด การจัดทำแผนยุทธศาสตร์จึงคาดหวังว่าจะสามารถเป็นเครื่องมือไปสู่จุดมุ่งหมายคือผู้หญิงได้รับการคุ้มครอง มีการใช้สิทธิเสรีภาพมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือทำให้สังคมสันติสุข
          รอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศอ.บต.ไม่มียุทธศาสตร์ด้านผู้หญิง ทั้งๆ ที่ปัจจุบันเราพบว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีจำนวนประชากรที่เป็นผู้หญิงและเด็กมากกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้หญิงมีภาระมาก มีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเกิดเหตุความไม่สงบตลอด 9 ปีที่ผ่านมา และยังมีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 บือโด เบตง (ซ้าย) สะมะแอ ท่าน้ำ (ขวา)
2 ท้ายจดหมายของ หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ
หมายเหตุ : ใช้เทคนิคพรางภาพเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขัง โดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา


ระทึก ศาลรธน.พิจารณายับยังทูลเกล้าร่างรธน.?

ระทึก ศาลรธน.พิจารณายับยังทูลเกล้าร่างรธน.?
02-10-13 21:03   อ่าน : 695
คอลัมน์ : เจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก
ต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังนายกฯ ลงนามร่างแก้ไขรธน.  ในขณะวันนี้ศาลรธน.ได้มีมติยกคำร้องให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ
ต้อนรับคุณผู้ชมทางทีนิวส์ทีวี และทางสถานีวิทยุชื่นฤทัยในธรรม เอฟเอ็ม 91.25 จ.นครศรีธรรมราช เข้ามาในช่วงเวลาของรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึกประจำวันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556
เรายังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมลงนามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในขณะที่ วันนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มีการประชุมประจำสัปดาห์ โดยหนึ่งในวาระการพิจารณา ก็คือ คำร้องที่ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้า ซึ่งท้ายที่สุด ผลปรากฏว่า ศาลได้มีมติยกคำร้องดังกล่าว
ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กับคณะ และคำร้องของนายสาย กังกเวคิน กับคณะ ที่ขอให้มีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยให้มีคำสั่งห้ามไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อไม่ให้นำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 111, มาตรา 112, มาตรา 115, มาตรา 116 วรรคสอง, มาตรา 117, มาตรา 118, มาตรา 120, มาตรา 241 วรรคหนึ่ง และยกเลิกมาตรา 113 และมาตรา 114 ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย
ซึ่งผลการพิจารณาคำร้องดังกล่าว ศาลให้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ากรณีนี้ เป็นกระบวนการต่อเนื่องกับประเด็นที่ศาลเคยพิจารณาและมีคำสั่งยกคำขอไปแล้วในคราวประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 และวันที่ 27 กันยายน 2556 ประกอบกับข้อเท็จจริงตามคำร้องในขณะนี้ยังไม่มีเหตุจำเป็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวใดๆ ไปยังนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังรับคำร้องของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะ ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ รวมไว้ในสำนวนเดียวกัน และมีคำสั่งให้ ผู้ร้องทำสำเนา จำนวน 312 ชุด ส่งต่อศาลเพื่อส่งให้ ผู้ถูกร้องและให้แจ้งผู้ร้องต่อไป
ขณะเดียวกันในวันนี้ ทางด้านของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐธรรมนูญ ก็ยังคงยืนยันถึงการนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้า ทูลกระหม่อมว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนโดยยึดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลัก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาย้ำอีกครั้งว่ากระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและได้มีหนังสือแจ้งมาว่ารัฐสภาผ่านความเห็นชอบวาระ 3 ซึ่งถือเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ในส่วนของรัฐบาลโดยฝ่ายเลขานุการ ครม.ก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวต้องตรวจสอบ อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเองก็ได้ดำเนินการตรวจสอบในข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่นำเสนอตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ โดยไม่สามารถไปยึดตามหลักอื่นได้ ตนก็ต้องยึดหลักตามข้อกฎหมาย ในส่วนของความเห็นนั้นก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องยึดตามหลักของข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ซึ่งขั้นตอนต่างๆถือว่าเสร็จสมบูรณ์
นายกรัฐมนตรีพยายามอธิบายว่า อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติคืออำนาจของประชาชนและรัฐสภา อำนาจของฝ่ายบริหารก็ต้องแยกกัน และตนเองก็มีหน้าที่ทำตามของรัฐธรรมนูญเท่านั้น
เมื่อถามว่าแต่ กลุ่ม 40 ส.ว.เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญคุ้มครองชั่วคราวชะลอไม่ให้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ระหว่างรอการตีความว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ นั้นขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลยึดหลักตามข้อกฎหมายทั้งหมดว่าในส่วนของรัฐสภาได้ยืนยันมาแล้วว่าได้มีการโหวตวาระ 3 ขณะเดียวกันฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลก็ได้ตรวจสอบแล้วก็คงต้องทำตามในแง่ของรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ
         
เมื่อถามว่าเป็นห่วงผลพวงที่จะตามมาหรือไม่ ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า “ยึดการดำเนินการตามข้อกฎหมายที่กำหนด”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาควรเร่งแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มี ส.ส.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.ส่อไม่ชอบ ทั้งกระบวนการ และเนื้อหา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีระงับการทูลเกล้าฯ แต่เมื่อทูลเกล้าฯ ไปแล้ว นายกรัฐมนตรีจะต้องขอเรื่องกลับคืนมา เพราะยังอยู่ในเงื่อนเวลา 20 วัน ตามรัฐธรรมนูญที่สามารถรอได้

          
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านเตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว หากนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภาไม่ดำเนินการ ก็ถือว่าเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ และต้องรับผิดชอบด้วย
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหาและแกนนำกลุ่ม 40 สว.กล่าวว่า ในวันที่ 3 ต.ค. จะเสนอให้คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ในประเด็นที่ว่าเมื่อมีกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญแล้ว และนายกรัฐมนตรีก็รับทราบแต่ กลับไม่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154
         
ดังนั้น จะเชิญนายกรัฐมนตรี เลขาธิการ ครม. และเลขาธิการกฤษฎีกา มาชี้แจง ทั้งนี้ ถ้าศาลสั่งระงับชั่วคราว ทางนายกรัฐมนตรี คงจะมีปัญหา และก็ต้องหยุดตามที่ศาลสั่ง

เลขา สบอช.ยันสร้างเขื่อนป่าไม่ล่ม

ที่รัฐสภา วันที่ 2 ต.ค.56 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีน.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการคนที่1 ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ได้มีการพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยได้เชิญนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้าชี้แจง แต่เนื่องจากนายปลอดประสพติดราชการสำคัญ จึงมอบหมายให้นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) เป็นผู้ชี้แจงแทน ส่วนนายปราโมทย์ ไม้กลัด รองประธานกรรมการคนที่ 1 มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่คณะกรรมาธิการเชิญเข้าชี้แจงนั้น นายปราโมทย์ ไม่สามารถเข้าชี้แจงได้ เนื่องจากติดราชการสำคัญในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่ได้มอบหมายให้บุคคลใดมาชี้แจงแทน

โดยนายสุพจน์ ชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการว่า เรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน สืบเนื่องมาจากเห็นสมควรดำเนินการเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 54 ซึ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำเราก็ต้องมาดูว่าจุดที่น้ำท่วมเมื่อปี 54 จุดไหนที่ทำให้เสียหายและจะแก้ไขได้อย่างไร โดยคณะทำงานได้ข้อสรุปว่า ต้องมีการปลูกป่า ทำแก้มลิง ขุดลอกคูคลอง ทำอ่างเก็บน้ำเพิ่ม ซึ่งเราก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม และเอาข้อมูลมาดูว่าแต่ละหน่วยงานมีสิ่งที่เราต้องดำเนินการเพิ่มเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ใช้ดำเนินการที่แม่น้ำเจ้าพระยา งบประมาณ 3 แสนล้าน โดยมี 8 ลุ่มน้ำ ส่วนอีก 4 หมื่นล้านใช้ดำเนินการลุ่มน้ำที่เหลือ 17 ลุ่มน้ำทั่วทุกภาค ถึงอย่างไรก็ดี 17 ลุ่มน้ำ เราไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด ซึ่งสามารถแก้ได้บางส่วนที่เป็นวิกฤต ทั้งนี้ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาน้ำถ้าจะให้ปัญหาจบจะต้องใช้งบประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ในคณะกรรมาธิการได้ซักถามถึงเรื่องโบราณคดีในพื้นที่สร้างเขื่อนแม่วงก์ว่ามีการจัดการอย่างไร นายสุพจน์ กล่าวว่า เรื่องโบราณคดีข้อชี้แจงเป็นเอกสารเนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมาก แต่สามารถชี้แจงได้เบื้องต้นว่า โบราณคดีที่มีคล้ายกับวัด เป็นแท่งอิฐขึ้น แต่ไม่ได้เป็นโบราณคดีเกรดเอ ซึ่งสามารถชดเชยได้ ทั้งนี้พื้นที่ที่ใช้สร้างเขื่อนเป็นร่องเขาชนกัน และเขาสบกก ตนขอยืนยันว่าการสร้างเขื่อนจะไม่ทำให้ป่าเสียทั้งทุ่งนเรศวร เหมือนเป็นโดมิโน่ ที่ล้มตัวเดียวแล้วต้องล้มทั้งหมด อย่างไรก็ตามน.พ.เหวง ได้แสดงความคิดเห็นว่า ถ้าโครงการบริหารจัดการน้ำทำ EHIA ไม่ผ่านเป็นเรื่องอันตราย ทั้งนี้มองว่าทางกบอ.ไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลการสร้างเขื่อนแมวงก์ว่ามีผลกระทบมากน้อยแค่ไหนให้ประชาชนทราบ ซึ่งทางกบอ.ต้องมีการแถลงให้ประชาชนทราบ 


อย่างไรก็ตาม ในคณะกรรมาธิการ ได้เสนอว่าภายหลังที่รายการคนค้นฅนเสนอตอน นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียรเดินเท้า ในวันที่ 12 ต.ค.56 ทางช่อง 9 ก็ให้กบอ.ออกชี้แจงทางช่อง 9 ทันทีในวันที่ 13 ต.ค.56

อัยการสั่งฟ้อง "อดีตเณรคำ" คดีล่วงละเมิดแล้ว ประสานดีเอสไอตามล่าตัว

วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:59:53 น. 

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีล่วงละเมิดทางเพศ ของนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ว่าพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีหนังสือแจ้งมายังตน โดยทางพนักงานอัยการ ระบุว่าได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายวิรพล หรือหลวงปู่เณรคำ ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกินสินห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้น จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 , 277 , 279 ,283ทวิ , 317 ทั้งนี้พนักงานอัยการยังได้ร้องขอให้ดีเอสไอ ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมา 

อย่างไรก็ตามดีเอสไอ จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 เพื่อให้การติดตามตัวผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุดต่อไป

โปรดเกล้าสถาปนาและเลื่อนสมณศักดิ์พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาและเลื่อนสมณศักดิ์พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระราชาคณะมีนามว่า พระศากยวงศ์วิสุทธิ์

พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย เป็นชาวสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ซึ่งเดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมในประเทศไทย เมื่อปี ๒๕๑๘ เข้าอุปสมบท เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๒๓ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระอุปัชญาย์ ได้รับนามฉายาว่า ธมฺมสากิโย อันแปลว่า ผู้แกล้วกล้าในพระธรรม


จีนออกคู่มือปชช.ห้ามล้วงแคะแกะเกาในที่สาธารณะ

จีนออกคู่มือแนะประชาชน อย่าแคะขี้มูกในที่สาธารณะ
วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:00:30 น.

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า  เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของจีน ได้เผยแพร่แนวทางปฏิบัติในการเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศของชาวจีน หลังจากภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวจีนดูไม่ดีสำหรับชาวต่างชาติเพราะพฤติกรรมที่ดูไม่ดีและไม่มีมารยาทระหว่างการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆของชาวจีน

  ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ที่มีความยาว 64 หน้า ระบุถึงสิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ ซึ่งมีขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้าวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ในช่วงวันชาติของจีน หรือโกลเด้นวีค ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนจะเคยออกคำแนะนำสำหรับชาวจีนในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมาแล้ว แต่คำแนะนำครั้งนี้มีรายละเอียดที่มากขึ้นไปอีก

 คำแนะนำในคู่มือฉบับใหม่ อย่างเช่น ห้ามแคะขี้มูกในที่สาธารณะ , ควรตัดขนจมูกให้สั้นอยู่เสมอ , ถ้าอยากจะแคะขี้ฟัน ก็ไม่ควรจะใช้นิ้วมือแคะขี้ฟัน รวมทั้งขอให้ชาวจีนอย่าใช้ห้องน้ำสาธารณะเป็นเวลานานเกินไป และไม่ควรจะทิ้งรอยเท้าเอาไว้บนโถส้วม อีกทั้งยังไม่ควรจะปัสสาวะลงในสระว่ายน้ำ ไม่ควรดื่มซุปจากชามโดยตรง ไม่ควรกินก๋วยเตี๋ยวเสียงดัง และเมื่อขึ้นเครื่องบินไม่ควรจะหยิบเสื้อชูชีพที่อยู่ใต้ที่นั่งกลับบ้าน เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆขึ้นผู้ที่มานั่งต่ออาจจะไม่มีเสื้อชูชีพใช้

 นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการปฏิบัติสำหรับบางประเทศโดยเฉพาะ เช่น ชาวจีนที่ไปเที่ยวที่เยอรมนี จะต้องระวังเรื่องการดีดนิ้วเพราะชาวเยอรมันจะดีดนิ้วเฉพาะเวลาเรียกสุนัขเท่านั้น จะไม่ดีดนิ้วเรียกคน หรือถ้าไปญี่ปุ่น เวลารับประทานอาหารห้ามหยิบจับเสื้อผ้าหรือผมขึ้นมาเล่น

  ทั้งนี้ ปัญหาของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของชาวจีนมีเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งชาติยุโรปที่กำลังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ได้ประกาศนโยบายผ่อนปรนด้านวีซ่าแก่ชาวจีน เพื่อดึงดูดให้ชาวจีนไปเที่ยวมากขึ้น แต่ก็มีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องมารยาทของนักท่องเที่ยวชาวจีนก็มีตามมามากมาย

 ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เคยเกิดกรณีหญิงชาวจีนให้ลูกชายปัสสาวะใส่ขวดน้ำขณะอยู่ท่ามกลางผู้คนในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง จนสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก

“ทักษิณ” โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างคุยสายตรง "ผบ.ตร"สั่งแก้ปัญหาส่วยท่องเที่ยว

“ทักษิณ” โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างคุยสายตรง "ผบ.ตร"สั่งแก้ปัญหาส่วยท่องเที่ยว

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 01 ตุลาคม 2556 เวลา 22:48 น.
เขียนโดย
isranews
“ทักษิณ” โพสต์เฟซบุ๊กอยู่ฮ่องกงเตรียมบินไปปักกิ่ง คาดปี 57 ไทย-จีนอาจยกเลิก VISA จี้เร่งขยายสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวทะลัก แนะ ขรก.เกษียณอย่ายึดติด ใช้ชีวิตกับครอบครัว รับคุยสายตรง "ผบ.ตร" สั่งแก้ปัญหา"ส่วย"ท่องเที่ยว ทั้งที่หนีคดีอยู่
thaksin1
 (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภาพจากแฟนเพจ Thaksin Shinawatra)
ช่วงค่ำของวันที่ 1 ต.ค.2556 แฟนเพจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี Thaksin Shinawatra ได้โพสต์ข้อความ มีใจความว่า อยากให้ข้าราชการที่เกษียณ เมื่อหมดหน้าที่ก็ไม่ต้องยึดติด กลับไปให้เวลากับครอบครัว และดูแลสุขภาพของตัวเองที่เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะถ้ามีแรงจะทำอะไรก็ได้ ส่วนข้าราชการที่มารับตำแหน่งใหม่ก็ขอให้ช่วยกันทุ่มเทให้บ้านเมือง เพราะเรายังต้องปรับตัวให้ทันโลก ตนเพิ่งออกจากฮ่องกง มาเก๊า และกำลังเดินทางไปปักกิ่ง โดยปี 2557 จีนกับไทยอาจจะบรรลุข้อตกลงในการยกเลิกวีซ่าต่อกัน จะทำให้นักท่องเที่ยวมากขึ้นอีก จะต้องเร่งขยายสนามบินขนานใหญ่
แฟนเพจของ พ.ต.ท.ทักษิณยังโพสต์ว่า วันก่อนได้คุยกับ ผบ.ตร. ก็บอกว่าตนได้รับการร้องเรียนว่ามีการเก็บส่วยในเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต ทั้งจากตำรวจและไม่ใช่ตำรวจ จึงขอให้ช่วยจัดการด่วน ซึ่ง ผบ.ตร.ก็บอกว่านายกฯ ได้สั่งการมาแล้ว ตนจึงหวังว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้น
สำหรับข้อความทั้งหมดที่โพสต์บนแฟนเพจของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีดังนี้ 
“1 ตุลาคม 2556

วันนี้เป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของประเทศเราเมื่อวานนี้ก็เป็นวันสุดท้ายในการรับราชการของผู้เกษียณและวันนี้ก็เป็นวันเริ่มต้นของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งแทนผู้เกษียณทุกคน ก็ถือเป็นเรื่องปกติทุกปีเพราะก็ต้องมีคนรุ่นใหม่มารับภาระหน้าที่แทนคนรุ่นเก่า

อยากให้คนถือว่าตำแหน่งคือภารกิจหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายเมื่อหมดหน้าที่ก็ไม่ต้องยึดติด กลับไปให้เวลากับครอบครัวลูกหลานและที่สำคัญคือดูแลสุขภาพตัวเองครับพออายุมากๆสุขภาพจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าสุขภาพดีก็มีแรงทำอะไรก็ได้แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ทนทุกข์ทรมาน เสียเงินรักษาจำนวนมาก อยู่ก็ไม่มีความสุขไปไหนมาไหนก็ลำบาก อายุ 60 ก็ยังไม่สายที่จะออกกำลังรับประทานอาหารที่เหมาะสมทางโภชนาการ และรักษาอารมณ์ปล่อยวางที่ดีไม่ว้าวุ่นจากการยึดติดใดๆ ก็ขอให้ผู้เกษียณมีความสุขเพื่อจะได้เอาความรู้ประสบการณ์ที่มีมาถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังต่อไปนานๆ

สำหรับผู้ที่รับตำแหน่งใหม่ก็ขอให้ช่วยกันทุ่มเทให้บ้านเมืองนะครับเรายังต้องปรับตัวให้ทันโลก ทันภูมิภาคอีกเยอะครับถ้าเราไม่เห็นโลกเราก็คิดว่าเราสุดยอดแล้ว แต่ที่ไหนได้เราต้องปรับปรุงตัวเราอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศักยภาพในการแข่งขัน โครงสร้างพื้นฐานและการปรับตัวเข้าสู่การเป็น Creative Economy และ Knowledge Based Economy เพราะหลังจากการเปิด AEC ในปี ค.ศ. 2015 และการแข่งขันการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) เราจะเผชิญกับความท้าทายอีกหลายด้าน

ผมเพิ่งออกจากฮ่องกง มาเก๊าและกำลังเดินทางไปปักกิ่งก็ยังเห็นว่าความเป็นประเทศไทยที่คนไทยมีคุณภาพในการให้บริการสูงจนเป็นที่ติดอกติดใจของผู้มาเยือนทั้งหลายนั้นก็ยังต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อรองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวอีกมากหรือการให้บริการทางการแพทย์ของเราหลังจากฮิตมากก็เริ่มถูกต่อต้านเพราะพาณิชย์มากจนขาดความเหมาะสมต่อจรรยาบรรณทางการแพทย์แล้ว overchange

เดี๋ยวปีหน้าจีนกับไทยอาจจะบรรลุข้อตกลงในการยกเลิก VISA ต่อกันก็จะทำให้นักท่องเที่ยวมากขึ้นอีกสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองจะรองรับไม่ไหว ภูเก็ตเองก็ overload ไปแล้วคงต้องเร่งขยายอย่างหนักเลยครับแต่โรงแรมไทยก็แข่งกันลดราคาจนกลายเป็นว่าเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกค่าที่พักในโรงแรม 5ดาวของไทยถูกที่สุด ถูกเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับฮ่องกง มาเก๊าปักกิ่ง สิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งดูไบ

วันก่อนได้คุยกับท่านผบ.ตร.ผมก็บอกว่าผมได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ขายของทั้งหลายในเมืองท่องเที่ยวเช่นพัทยา ภูเก็ตว่ามีหน่วยงานทั้งหลายในตำรวจและหน่วยงานภายนอกเดินเก็บส่วยกันมากจนเป็น cost ของผู้ประกอบการ และแน่นอนก็จะผ่านไปยังผู้บริโภคทั้งๆที่รัฐบาลได้จัดการปัญหาเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายออกไปอย่างสิ้นเชิง ก็ยังไม่ง่ายเพราะนิสัยที่ชอบเก็บส่วยได้แพร่กระจายเป็นวงกว้างขอให้ช่วยกันจัดการด่วน! ท่านก็บอกว่าท่านนายกฯได้สั่งการมาแล้วครับผมเลยหวังว่าทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นครับ

วันนี้พูดหลายเรื่อง เอาเท่านี้ก่อนครับ ไปอยู่ปักกิ่งแล้วจะมีเวลาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังอีกครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกระบุว่าเป็นนักโทษหนีคดีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ