PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ดูกันชัดๆโฉมหน้า 12แกนนำปิดถนนประจวบฯ ตัดเส้นเลือดใหญ่สายใต้ ทำด้ามขวานอัมพาต


ดูกันชัดๆโฉมหน้า 12แกนนำปิดถนนประจวบฯ ตัดเส้นเลือดใหญ่สายใต้ ทำด้ามขวานอัมพาต
การชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่อ้างว่าเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ในนาม “ภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้” ด้วยการชุมนุมปิดถนนเพชรเกษม ตัดขาดเส้นทางสายใต้ บริเวณ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ 
“ศูนย์ข่าวภาคใต้ พระนครสาส์น”พบว่านอกจากกลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดถนนเพชรเกษม ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว ตามที่ ศูนย์ข่าวภาคใต้ พระนครสาส์น ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ในเรื่อง “ ยิ่งกว่าซ่องโจร!! เปิดชื่อ 12แกนนำม็อบยางฯปิดถนนลงใต้ การ์ดสุดกร่างพกมีด-ระเบิดปิงปอง คึกครื้นตั้งวงดวดเหล้า-เสพยา ” ภายหลังพบว่า ภายในสถานที่ชุมนุมนั้นพบทั้งอาวุูธมีดและระเบิดปิงปอง โดยเฉพาะทีมการ์ดส่วนใหญ่ที่สวมหมวกไอ้โม่งปกปิดอำพรางใบหน้านั้นบางคนได้พกพาอาวุธเข้ามาร่วมกิจกรรมการชุมนุมด้วย ซ้ำร้ายยังพบว่าการ์ดและผู้ชุมนุมบางส่วนก็ยังคงตั้งวงดื่มสุราและเสพสารเสพติดกันอย่างสนุกสนาน
2
โดย “ศูนย์ข่าวภาคใต้ พระนครสาส์น” ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดทั้งวันที่ 26-27 ตุลาคม นอกจากการชุมนุมปิดถนนจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมากแล้ว ยังพบว่าชาวบ้านในพื้นที่ยังต้องประสบปัญหาจาก “ตะปูเรือใบ” ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้โยนทิ้งเอาไว้บริเวณถนนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพบว่าผู้ชุมนุมยังขึง “รั้วลวดหนาม”  ที่นิยมใช้ในกองทัพและการสงคราม ที่เรียกว่า “ลวดหีบเพลง” มากั้นถนนเป็นระยะๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมามากไปกว่าเดิมอีก โดยอ้างกับผู้ชุมนุมและประชาชนบริเวณนั้นว่าเอาไว้ป้องกันตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุม
นอกจากนี้มีรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่26 และ 27 ตุลาคม พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการเสริมทีมการ์ดเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดสังเกต โดยมีข้อมูลพบว่าแกนนำบางส่วนได้ประสานงานไปยังฝ่ายการเมืองเพื่อให้ระดมมวลชนในพื้นที่ภาคใต้มาเพิ่มเติมให้มากขึ้น
สำหรับความชัดเจนเรื่องแกนนำการชุมนุม ตามที่ ได้เปิดเผย “รายชื่อ” ไปแล้วนั้น ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าทั้ง 12 คน คือแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีบทบาทอยู่ในปัจจุบัน ดังนี้ 
1.นายธีระพงศ์ แก้วนวล ประธานเครือข่ายภาคี 16 จังหวัดภาคใต้ เป็นชาว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
2.นายจรูญ พูนยิ้ม แกนนำเครือข่ายฯ ในพื้นที่บ้านธรรมรัตน์ บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
3.นายวิเชียร ศรียุทธไกร แกนนำจังหวัดชุมพร พื้นเพเป็นชาว อ.ปะทิว จ.ชุมพร 
4.นายวิเชียร ศรีนคร แกนนำบางสะพานน้อย  จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
5.นายจำลอง ดีทองอ่อน แกนนำพื้นที่ทองมงคล บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
6.นายอภิรณ บัวสาย แกนนำจ.สงขลา ซึ่งพื้นเพเป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
7.นายมนัส บุญพัฒน์ เลขานุการภาคีเครือข่ายฯ พื้นที่เพชาว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 
8.อี๊ด ควนหนองหงส์ แกนนำจ.นครศรีธรรมราช 
9.นายวัชรพล ควรเพิ่ม กรรมการภาคีเครือข่ายฯ ชาวอ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช 
10.นายสมศักดิ์ หนูรุ่ง แกนนำต.ช้างแรก บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
11.นายทวีศิลป์ ประทีป แกนนำ จ.สงขลา เป็นชาวอ.เทพา จ.สงขลา 
และ 12.ผู้ใหญ่เวช ปากจั่น

444

จริงหรือ ใครๆก็เป็นนักข่าวได้?

ผศ.ดร. วรัชญ์ ครุจิต   เขียน
2013.10.28


          ในยุคของสื่อดิจิทัล เป็นยุคที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม เนื่องจากสื่อดิจิทัลสามารถทำให้ "ใครๆก็เป็นนักข่าวได้" ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร ก็สามารถเป็น "สื่อพลเมือง" หรือ Citizen Journalist ด้วยการสร้างข้อมูลและเผยแพร่ด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่า User-Generated Content ลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter ซึ่งมีความรวดเร็วทันใจกว่าสื่อแบบดั้งเดิมต่างๆอย่างมาก จนสื่อมวลชนต้องหยิบเอาข่าวจาก แต่ความรวดเร็วนี้เองที่หลายครั้งก่อให้เกิดปัญหาการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิดพลาด ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกหรือความเสียหายต่อชื่อเสียงของบุคคลหรือองค์กรที่ถูกพาดพิงถึง

          ในทางวิชาชีพสื่อมวลชน มีการกำหนดจรรยาบรรณ หรือ Code of Ethics สำหรับนักข่าวมืออาชีพเอาไว้อย่างละเอียด ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดมากเกินไปสำหรับประชาชนทั่วไปที่เป็นนักข่าวสมัครเล่น บทความในวันนี้ จึงขอนำเอาหลักจรรยาบรรณที่เรียบเรียงจากหลักการที่สาขาวารสารศาสตร์ Temple University ในประเทศสหรัฐอเมริกา (ซึ่งเป็นสถาบันที่ผู้เขียนเรียนจบในระดับปริญญาเอกทางสาขาสื่อสารมวลชน) ได้เสนอเป็นแนวทางให้กับนักศึกษาสาขาวารสารศาสตร์ได้ยึดถือในขณะที่ยังเรียนอยู่ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้าใจและปฎิบัติตามได้ง่ายกว่าหลักการของนักข่าวมืออาชีพ จึงเหมาะสำหรับใครก็ตามที่มีส่วนในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆในโลกยุคปัจจุบัน โดยแบ่งเป็นข้อที่ "ต้องทำ" และข้อที่ "อย่าทำ" อย่างละ 5 ข้อดังต่อไปนี้

(https://smc.temple.edu/journalism/files/2011/01/TU-ethics-code-web-version.pdf)

 5 ข้อ "ต้องทำ"

          1. ต้องพูดความจริง (DO Tell the Truth)

          ในยุคนี้ การหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะทางออนไลน์ แต่นักข่าวที่ดีจะไม่เผยแพร่ข้อมูลใดๆที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าเป็นเรื่องจริง เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง อย่าหยุดรายงานข้อมูล

เมื่อเหนื่อยหรือเบื่อ แต่หยุดรายงานข้อมูลเมื่อรายงานข้อมูลที่สำคัญอย่างรอบด้านแล้ว และที่สำคัญคือการเข้าใจบริบทหรือสถานการณ์แวดล้อมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย แต่ละเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นเองเดี่ยวๆโดยไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งอื่นๆเลย ดังนั้นต้องให้ข้อมูลที่รอบด้านด้วย

          2. ต้องฟังจากหลายด้าน (DO Hear from Many Voices)

          นักข่าวที่ดีต้องพยายามทำความเข้าใจและนำเสนอความเห็นที่หลากหลายอย่างแท้จริงของกลุ่มบุคคลที่อยู่ในข่าว นอกจากนี้ยังต้องระลึกว่าตนเองมีอคติอะไรบ้างและพยายามก้าวข้ามอคติเหล่านั้นในการรายงานข่าว การสัมภาษณ์ หรือการเขียนและการวิเคราะห์ใดๆก็ตาม และหลีกเลี่ยงการเขียนอย่าง "เหมารวม" และยึดหลักการ "เป็นปากเสียงให้แก่ผู้ไม่มีปากเสียง" ("give voice to the voiceless")

          3. ต้องเป็นตัวของตัวเอง (DO Be Independent)

          นักข่าวที่ดีต้องเป็นอิสระจากความผูกพันทางธุรกิจ องค์กร หรือบุคคลใดๆ ดังนั้นนักข่าวที่ดีจึงควรหลีกเลี่ยงและไม่รับของขวัญ การได้รับการปฎิบัติอย่างเป็นพิเศษเกินพอดี เพื่อให้ได้ลงข่าวหรือลงข่าวในด้านที่ต้องการ นอกจากนั้นการสนิทสนมกับแหล่งข่าวมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุให้นักข่าวเกิดความลำเอียงได้เช่นกัน

          4. ต้องรับผิดชอบงานของตัวเอง (DO Be Accountable For Your Work)

          นักข่าวที่ดีต้องเล่าเรื่องอย่างรอบด้านด้วยความถูกต้อง แต่เมื่อตนเองทำผิด ก็ต้องยอมรับความผิดและแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องให้สาธารณชนรับรู้อย่างเร็วที่สุด

          5. ต้องตั้งคำถามตลอดเวลา (DO Ask Questions)

          การเป็นนักข่าวไม่ใช่เรื่องง่าย หลายครั้งเหตุการณ์อาจซับซ้อนและตอบไม่ได้ง่ายๆว่าสิ่งนี้เหมาะสมทางจรรยาบรรณหรือไม่ ดังนั้นวิธีหนึ่งก็คือการการถามคำถามเหล่านี้กับตัวเอง

          1. ตอนนี้ฉันรู้อะไรบ้าง และฉันต้องรู้อะไรอีกบ้าง

          2. เป้าหมายทางการทำข่าวของฉันคืออะไร

          3. มีเรื่องทางจรรยาบรรณอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง

          4. มีนโยบายขององค์กรต่างๆหรือแนวทางวิชาชีพใดบ้างที่ต้องคำนึงถึง

          5. จะนำคนที่มีความคิดเห็นที่หลากหลายเข้ามาช่วยร่วมตัดสินใจได้อย่างไร

          6. มีใครเป็นผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากการทำข่าวของฉันบ้าง ความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้คืออะไร

          7. ถ้าเหตุการณ์กลับกันจะเป็นอย่างไร ถ้าฉันเป็นคนหนึ่งในข่าว ฉันจะรู้สึกอย่างไร

          8. ผลสืบเนื่องจากการทำข่าวของฉันครั้งนี้คืออะไรบ้าง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

          9. มีทางอื่นๆบ้างหรือไม่ในการเริ่มความรับผิดชอบของฉันในการทำข่าว และลดผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้นได้

          10. ฉันจะสามารถอธิบายเหตุผลในการทำข่าวนี้ได้หรือไม่ ต่อทั้งเพื่อนร่วมงาน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสาธารณชน



5 ข้อ "อย่าทำ"

          1.อย่าสร้างเรื่อง (DON'T Fabricate)

          นักข่าวที่ดีห้ามนำข้อมูลที่เป็นเท็จมานำเสนอว่าเป็นเรื่องจริง ห้ามสร้างข้อมูล แหล่งข่าว คำพูดหรือเนื้อหาอื่นใดขึ้นมาเอง หลีกเลี่ยงการใช้ "แหล่งข่าวที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตน" เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นแหล่งข่าวจริงหรือไม่ แต่คนจะคิดว่าเป็นแหล่งข่าวที่นักข่าวสร้างขึ้นมาเอง

          2. อย่าแอบอ้างผลงานผู้อื่น (DON'T Plagiarize)

          นักข่าวที่ดีจะไม่ใช้ข้อความ ไอเดีย และภาพ เสียง วีดิโอ หรือสิ่งใดๆของผู้อื่นโดยอ้างว่าเป็นของตัวเอง หากจะใช้จะต้องใช้เครื่องหมายระบุว่าแหล่งข้อมูลดั้งเดิมมาจากไหน นอกจากนี้ยังต้อง
ระวังเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วย

          3. อย่าปลอมเป็นผู้อื่น (DON'T Misrepresent)

          อย่าแสดงตนเองว่าเป็นผู้อื่นที่ตนเองไม่ได้เป็น การพยายามทำตัวเป็น "สายลับ" เพื่อสืบข้อมูลลับนั้นอาจนำไปสู่อันตรายและอาจทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ต้องบอกแหล่งข่าวให้ชัดเจนว่าตนเองเป็นใคร มาจากที่ไหน และข้อมูลหรือภาพที่ได้มาอาจเผยแพร่ไปสู่สาธารณะได้

          4. อย่าทำนิสัยเสีย (DON'T Behave Badly)

          อย่าประพฤติตัวในทางที่จะนำความเสียหายมาสู่ตัวเองและต้นสังกัด ควรจะทำตัวเช่นเดียวกับนักข่าวมืออาชีพ ไม่เสียมารยาท หยาบคาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น รวมถึงการแต่ง
กายให้เหมาะสมด้วย

          5. อย่าทนอยู่ในความเงียบ (DON'T Suffer in Silence)

          หากไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดแต่บอกใครไม่ได้ และข้อแนะนำทั้งหมดนี้ก็ช่วยไม่ได้ อย่าทนเก็บอยู่คนเดียว ควรปรึกษาผู้ใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อใจได้

          นี่ก็คือหลักการของการเป็น "นักข่าว" ที่ดี ที่ท่านผู้อ่านก็คงจะเห็นว่าเป็นหลักการพื้นฐานที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายไปกว่า "สามัญสำนึก" เลย ผู้ที่ไม่สามารถทำได้ตามหลักการนี้ จึงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น "นักข่าว" (journalist) อย่างแท้จริงได้ แต่อาจเป็นได้แค่เพียง "ผู้ส่งสาร" (sender) เท่านั้นเอง

http://www.theglobalmoving.com/intellectual_detail.php?id=LzHOSDI6Fne9CaA2

การแสดงของความรัก

การแสดงของความรัก
*********************

ในงานแต่งงานหนึ่ง
มีรักหวานซึ้งบนเวที
ด้านล่างมีคนที่ชูสุดแขน
เพื่อยื้อแย่งดอกไม้จากมือเจ้าสาว
บางคนมีมีบาดแผลเป็นทางยาวจากอดีตหนหลัง
มีคนที่เลิกเชื่อมั่นในความรัก
มีคนที่กลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง
มีคนที่เคยรักกัน แต่ตอนนี้เพียงแค่อยู่ด้วยกันต่อไป
มีคนที่ความหวานเจือจางลง แต่ความผูกพันเพิ่มพูน
มีคู่ที่ความรักถูกผลักไปอยู่กับลูกลูก
มีความรักครั้งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับหลานตัวเล็ก
มีเด็กเด็กที่ยังไม่รู้จักคำว่ารัก
แต่มีคนที่รักพวกเขาคอยวิ่งประคองอยู่ข้างหลัง
มีคนแก่ที่มางานเพียงลำพังและกำลังคิดถึงใครอีกคน
มีคนที่เคยรักกันสมัยเรียน ได้วนเวียนมาเจอกันอีกหน
มีความรักครั้งใหม่เกิดขึ้นท่ามกลางความชุลมุน
มีความรักเก่าคุกรุ่นอย่างเงียบงัน

แสงไฟจับไปที่คู่รักบนเวที
วิดีโอแสดงเส้นทางความรักของพวกเขา
พิธีกรจ่อไมค์ถามไถ่ถึงความรักสุดแสนหวาน
ทว่า ในความมืดที่แสงไม่สาดส่อง
ผู็คนด้านล่างเวที
ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวประกอบของละครฉากนี้
ผู้คน ผู้คน ผู้คน และผู้คน
ล้วนปะปนไปด้วยความรัก ความสวยงาม และความเจ็บปวด

ความรักเกิดขึ้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เช่นกันกับที่มันหมดไปในทุกช่วงเวลา
ผันเปลี่ยน วนเวียน ผันแปร และสับสน

ไร้คนที่ไม่มีรัก
อาจจะมีคนที่ไม่เคยมีคนรัก
แต่ไม่มีคนที่ไม่เคยมีความรัก

ใครกล้าบอกว่า รักข้างเดียวมิใช่ความรัก
เช่นเดียวกับ ใครกล้ายืนยันว่ารักนิรันดร์มีอยู่จริง

แล้วความรักก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนเวที
พนักงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม
เห็นมันทุกวันจนรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา
คล้ายพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
รอเวลาลับขอบฟ้า ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อใด
ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

แล้วผู้คนก็ค่อยค่อยทยอยกันกลับบ้าน
มิตรสหายเมามายดีดดิ้นเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะลากพยุงกันขึ้นรถ

เวทีและห้องโถงใหญ่กลับมาเงียบสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหมือนไม่เคยมีความรักในห้องนี้

กาลครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยมีความรัก
เช่นเดียวกับ
ในหัวใจบางดวง.

ฝึกกล้ามเนื้อท้อง


เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและธุรกิจด้วย 3G และอุปกรณ์โมบาย

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและธุรกิจด้วย 3G และอุปกรณ์โมบาย

smartphone-tablet-notebookคุณใช้อุปกรณ์ไอทีตัวไหนมากกว่ากันระหว่างโทรศัพท์มือถือกับโน๊ตบุ๊ค ?  หากเวลานี้คุณใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าการใช้งานพวกโน๊ตบุ๊คกันแล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อน  เป็นสัญญาณบอกว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคโมบายอย่างเต็มตัว ยิ่งในประเทศไทย มี 3G ให้ใช้แล้ว นอกจากจะเอาสมาร์ทโฟนมาใช้แค่ chat line เช็ค facebook อัพภาพขึ้น Instagram เช็คข่าวผ่านทาง twitter หรือใช้คุยเรื่องส่วนตัวกันแล้ว จะคุ้มค่ายิ่งขึ้น ถ้าเราประยุกต์การทำงานทั้งหลาย ที่เคยทำบนคอม มาอยู่บนอุปกรณ์พกพาเหล่านี้
tip-use-smartphone-for-work-businessในยุคที่คนไทยได้ใช้ 3G แล้วอย่างทุกวันนี้ การประชุมงานก็ไม่จำกัดแค่ในห้องประชุมอีกต่อไป  เราสามารถหารือพร้อมกันหลายๆคนได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอพบนมือถือเช่น Skype หรือ Google Hangouts เป็นต้น
tip-use-smartphone-for-work-business-01หากมีเอกสารที่อยากจะส่งก็ไม่ต้องใช้แฟ็กซ์  เพียงหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพแล้วส่งอีเมล์ไปให้ทันที หรือใช้แอพมาสแกนเอกสารด้วยมือถือ เช่น DocScanner มาช่วยก็ได้….
หากต้องรับ-ส่งไฟล์งานเอกสารขนาดใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแนบไฟล์ผ่านอีเมล์ไม่ได้  เพราะคุณสามารถใช้บริการบน cloud ต่างๆเช่น   Dropbox  , box , ubuntuone เป็นต้น หากคุณใช้ Hotmail , outlook ก็มีบริการ Skydrive รองรับ ให้คุณสามารถส่งภาพความละเอียดสูงปริมาณมากๆ อัพขึ้น Skydrive แล้วส่งลิงค์แชร์ไปยังเพื่อนๆได้  เช่นเดียวกับ Gmail ก็มีบริการ Google Drive ที่สามารถอัพโหลดไฟล์ต่างๆไว้บน Cloud แล้วแชร์หรือส่งให้กับผู้รับ ซึ่งเป็นบริการฟรีด้วย ส่วน Apple ก็มีพื้นที่ส่วนตัวบน cloud อย่าง iCloud ที่เก็บเอกสารพวก iWork บน MAC OS กับ iOS ได้
quickofficeการพิมพ์ แก้ไขงานเอกสาร พวก word, excel ก็ทำบนมือถือได้ เดี๋ยวนี้ก็มีแอพแจกฟรี เช่น Quick Office  ให้ทำงานประเภทสำนักงานได้ทั้งบน cloud และแบบ offline   และยังมีแอพอื่นๆที่สามารถแก้ไขเอกสารได้เช่นกัน เช่น  แอพCloudon ที่ทำเหมือนกับโปรแกรม Office เลย และเมื่อต้องการจะนำเสนองาน เมื่อก่อนต้องพก notebook เดี๋ยวนี้ ก็แค่ใช้แท็บเล็ตหรือมือถือ ต่อสายออกจอโปรเจ็กเตอร์พร้อมใช้แอพ เช่น KeyNote หรือ OfficeSuite มาเป็นตัวช่วยก็ได้แล้ว สะดวกขึ้นเยอะเลย
translateถ้าต้องพบปะกับชาวต่างชาติ ก็ไม่ต้องกลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง แค่ใช้แอพ Google Translate แปลภาษาได้ทันที จะให้ชาวต่างชาติพูดในภาษาของเค้าใส่มือถือ แอพก็จะแปลออกมาเป็นภาษาที่เราต้องการได้ทันที
facebook-pageส่วนการค้าขายก็ไม่จำกัดเวลา สถานที่ แถมก็ทำได้ง่ายด้วย  เพราะเจ้าของธุรกิจสามารถเปิดร้านบนfacebook , Instagram และดูแลได้ทุกที่ผ่านมือถือแล้ว การโอนเงินชำระเงินก็สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์ และแอพของธนาคารบนสมาร์ทโฟนด้วย 
google-mapsการเดินทาง หาที่อยู่บริษัท ร้านค้าต่างๆ ก็เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น คุณสามารถใช้ Google Earth หรือ Google Maps บนอุปกรณ์ของคุณนำทางได้อย่างสะดวก รวมไปถึงการหาร้านอาหารอร่อยๆ ก็ใช้แอพ foursquare ก็เจอร้านอาหารและสถานที่มากมาย พร้อมข้อมูลรีวิวอาหารและสถานที่ต่างๆด้วย
google-searchการค้นหาข้อมูลต่างๆ ก็ค้นหาได้บนอุปกรณ์พกพาอย่างมือถือหรือ tablet ผ่าน search engine อย่าง google ทำให้การทำงาน ไม่สะดุด ไม่ติดขัด และทำได้ทุกที่ทุกเวลา แถมสามารถใช้สั่งการค้นหาด้วยเสียง หรือใช้มือในการเขียนเพื่อค้นหาเว็บไซต์ได้ด้วย
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ประโยชน์จาก mobile internet และอุปกรณ์โมบายที่มีอยู่แล้ว   ดังนั้นหากคุณใช้ประโยชน์และฟีเจอร์ที่มีจากอุปกรณ์พกพาเหล่านี้อย่างเต็มที จะทำให้การทำงานต่างๆของคุณสะดวกสบาย งานดูเป็นเรื่องง่ายขึ้น และสนุกมากขึ้นด้วย
ข้อมูลบางส่วนจาก เว็บไซต์ pawoot.com 

พศ.เสนอ'สมเด็จวัดปากน้ำ'ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช

พศ.เสนอ'สมเด็จวัดปากน้ำ'ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช

พศ.เสนอ'สมเด็จวัดปากน้ำ'ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช ต่อนายกรัฐมนตรีให้ลงนามแล้ว

             28ต.ค.2556 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า วันนี้(28ต.ค.56) ได้เสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ อายุ 88 ปี เป็น"ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช" ต่อนายกรัฐมนตรีลงนามแล้ว มีผลทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา