PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เปิดให้ใช้ฐานข้อมูลออนไลน์ "ปานามา เปเปอร์ส" ขนาดใหญ่ สืบค้นบัญชีซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้มีอิทธิพล

เปิดให้ใช้ฐานข้อมูลออนไลน์ "ปานามา เปเปอร์ส" ขนาดใหญ่ สืบค้นบัญชีซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้มีอิทธิพลได้ทั่วโลก
เครือข่ายนักข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) เผยแพร่ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ทางออนไลน์ ซึ่งบรรจุเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทรัพย์สินที่บรรดาผู้มีอิทธิพล คนดังและเศรษฐีทั่วโลก ซุกซ่อนไว้ในบัญชีลับของบริษัทนอกอาณาเขต โดยฐานข้อมูลนี้ รวบรวมรายละเอียดของบัญชีลับกว่า 200,000 บัญชี ในประเทศและดินแดนที่ยกเว้นภาษี ซึ่งให้บริการซุกซ่อนและฟอกเงินกว่า 20 แห่งทั่วโลก
การเปิดเผยฐานข้อมูลดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ข้อมูลในกรณี "ปานามา เปเปอร์ส" ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้มีข้อมูลออนไลน์ทั้งหมด 2,600 กิกะไบต์ ให้ผู้สนใจสามารถเข้าดูและสืบค้นได้ที่เว็บไซต์offshoreleaks.icij.org
ทางไอซีไอเจระบุว่า ฐานข้อมูลดังกล่าวจะมีลักษณะต่างจากเว็บไซต์วิกิลีกส์ซึ่งทุ่มข้อมูลเอกสารจำนวนมหาศาลมารวมไว้ให้ผู้สนใจสืบค้นเอง แต่ฐานข้อมูลว่าด้วยบัญชีลับนอกอาณาเขตของไอซีไอเจนี้ จะคัดเลือกเพียงข้อมูลบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนมาเผยแพร่เท่านั้น โดยไม่รวมถึงข้อมูลจำพวกเลขบัญชีธนาคารและประวัติการทำธุรกรรมเอาไว้
ก่อนหน้านี้ การเปิดเผยเอกสารลับ "ปานามา เปเปอร์ส" ซึ่งรั่วไหลจากบริษัทให้บริการทางการเงินและกฏหมาย มอสแซค ฟอนเซกา ซึ่งมีฐานในปานามา เผยให้ทราบว่านักการเมืองและผู้นำหลายประเทศได้ซุกซ่อนทรัพย์สินเพื่อหลบเลี่ยงภาษีในบริษัทนอกอาณาเขต ผ่านการให้บริการของ มอสแซค ฟอนเซกา จำนวนมาก นำไปสู่การเรียกร้องให้ตรวจสอบบัญชีของผู้นำเหล่านี้ เช่นในกรณีของนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ ซึ่งต้องลาออกจากตำแหน่ง
ภาพประกอบ: แผนภาพแสดงการเปรียบเทียบขนาดของข้อมูลที่เปิดเผยจากฐานข้อมูลปานามา เปเปอร์ส ว่ามีขนาดใหญ่กว่าฐานข้อมูลที่มีการเปิดเผยกันมาก่อนหน้านี้ เช่น วิกิลีกส์ สวิส ไฟล์ และลักเซมเบิร์ก ไฟล์

"ผู้การไก่".....จากฮีโร่ "ศึกเขาพระวิหาร" สู่ การถูก เชือด เด้งพ้นเขาพระวิหาร

"ผู้การไก่".....จากฮีโร่ "ศึกเขาพระวิหาร" สู่ การถูก เชือด เด้งพ้นเขาพระวิหาร
สังเวย ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เด้งพ้นเก้าอี้ ผบ.ร.6 พ้นการคุมกำลังเขาพระวิหาร เข้ากรุฯ หลังสร้าง"ปราสาทพระวิหารจำลอง"บนผามออีแดง จน มีคำสั่งให้ปิดผ้าดำ รอการทุบทิ้ง.....คาดเพราะไม่รายงาน ผู้บังคับบัญชา ด้วยลายลักษณ์อักษร ตามลำดับชั้นก่อน และหวั่นกระทบสัมพันธ์ ไทย-เขมร
ยิ่งงงกันเข้าไปใหญ่.......ทั้งชาวบ้าน ทั้งทหาร เพราะนอกจาก ทบ.สั่งปิด"ปราสาทพระวิหารจำลอง" บนผามออีแดง ที่ทหารและชาวบ้าน ช่วยกันสร้างเสร็จหมาดๆ และให้รอทุบทิ้งแล้ว ยัง สั่งย้าย"ผู้การไก่" ผบ.ร.6 คนสร้าง และ บริจาคเงิน และรวบรวมสิ่งของบริจาค มาช่วยกันสร้าง เข้ากรุ อีกด้วย
มีรายงานว่า พลเอกธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ได้ลงนาม ในการแต่งตั้งโยกย้ายพิเศษ เพื่อ ย้าย ผู้การไก่ พันเอก ธนศักดิ์ มิตรภานนท์. ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 6 (ผบ.ร.6) มาเป็น นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เมื่อวันที่ 4 พค.ที่ผ่านมา. ถือว่า เป็นการย้ายจากตำแหน่งคุมกำลังรบหลักในพื้นที่เขาพระวิหาร ออกมานอกพื้นที่ เข้ากรุประจำ
หลังจากที่ ผบ.ทบ. สั่งปิด ปราสาทเขาพระวิหารจำลอง บนผามออีแดง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ. ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้เอาเถาวัลย์ ปลูกหญ้า คลุมพราง เพื่อรอการทุบทำลายทิ้ง
ทั้งนี้ ทาง ทบ. เห็นว่า การสร้าง ปราสาทเขาพระวิหารจำลอง นี้ อาจกระทบความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นไปด้วยดี ชายแดนสงบ และ อ้างว่า ทางกระทรวงต่างประเทศ ก็ท้วงติง มาด้วยเช่นกัน พลเอกธีรชัย ผบ.ทบ. จนมีคำสั่งปืด ปราสาทฯ และโยกย้าย พันเอกธนศักดิ์ ในที่สุด
ก่อนหน้านี้ พันเอกธนศักดิ์ ได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ เจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง ร่วมกันบริจาคเงิน และอุปกรณ์ก่อสร้าง ต่างๆ ปูนซีเมนต์ ทรายในการปรับปรุง บังเกอร์ทหาร ในพื้นที่ใหม่ จากกระสอบทราย มาเป็นบังเกอร์ปูน และสร้าง ศูนย์ศึกษาประวัคิศาสตร์ โดยสร้าง "ปราสาทเขาพระวิหาร จำลอง" ขึ้นบน ผามออีแดง
โดยทหาร และทหารพราน ของ หน่วยเฉพาะกิจที่1 กกล.สุรนารี กว่า 100 นาย ได้ตรากตรำ ทำงานกลางแดด ช่วยกันสร้างจนเสร็จ ในเวลา5 เดือน แล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวชม ได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น ทบ.ก็มีคำสั่งให้ปิด ปราสาทจำลอง นี้. เพราะเกรงว่าจะกระทบสัมพันธ์ กัมพูชา โดยนำผ้ามาปิดพราง เอาต้นไม้ เถาวัลย์ มาพราง และให้ปลูกหญ้าและต้นไม้ให้ปกคลุม และรอการทุบทำลายทิ้ง
ทั้งนี้ พันเอกธนศักดิ์ ได้บริจาคเงินเดือนของตนเอง จากการที่ เคยเป็น สมาชิก สปช. และล่าสุด เป็น สมาชิกสปท. ราว 3 ล้านบาท และเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง ในพื้นที่ บริจาค ปูนซีเมนต์ และทราย รวมราคาอีกราว เกือบ2 ล้่านบาท มาช่วยก่อสร้าง ออกมาอย่างสวยงาม ด้วยความตั้งใจ และศรัทธา ของทหาร ที่ต้องการให้เป็นประวัติศาสตร์ และแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ และให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับการท่องเที่ยว ในอนาคต หาก ฝ่ายกัมพูชา เปิดทางขึ้นจากฝั่งไทย ให้ขึ้นไปชม ปราสาทของจริง ในฝั่งกัมพูชา
ท่ามกลาง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทั้งทหาร และชาวบ้าน เพราะ ปราสาทจำลอง นี้ สร้างบนดินแดนไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นทราใกล้เคียงใดๆ กับ พื้นที่ทับซ้อน4.6 ตร.กม. ในพื้นที่เขาพระวิหาร เลยแม้แต่น้อย เพราะผามออีแดง ก็เป็น พื้นที่ประเทศไทย เป็นเขตแดนไทย อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
แทนที่ พันเอกธนศักดิ์ ซี่งทำความดี
จะได้รับเสียงชื่นชม แต่กลับถูก ผู้บังคับบัญชา ลงโทษ.จึงทำให้ทหาร และชาวบ้านในพื้นที่ ต่างเสียใจ ผิดหวัง และสงสัยกัน ว่า พันเอกธนศักดิ์ ผิดตรงไหน จึงถูกโยกย้าย
ทั้งนี้ พันเอกธนศักดิ์. เคยเป็น ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 23 ที่ทำศึกเขาพระวิหารกับ ทหารกัมพูชา เมื่อปี 2554 ที่ทำให้ฝ่ายกัมพูชา สูญเสีย จำนวนไม่น้อย และเป็นนายทหาร ที่ทำงานในพื้นที่มายาวนาน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พันเอกธนศักดิ์ ไม่ได้ รายงาน พลตรี สนธยา ศรีเจริญ ผบ.พล.ร.6 /ผบ.กกล.สุรนารี. ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ก่อน สร้างปราสาทเขาพระวิหารจำลอง
เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ เขาได้ รายงานด้วยวาจา แก่ พลโท วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาค2. ตั้งแต่ตอนเป็น แม่ทัพน้อยที่2 แล้ว. อีกทั้ง ได้นำเรียน ด้วยวาจา กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มาแล้ว แต่ไม่ได้ ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเห็นว่า เป็น โครงการเล็กๆ. แต่ได้ เรียนเชิญ พลเอกประวิตร มาตรวจเยี่ยม ชายแดน เยี่ยมทหาร และ จะมาทำพิธีเปิด ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์ เขาพระวิหาร แห่งนี้ ด้วย
แต่ก็ไม่มีใครคาดคิด แค่ไม่กี่วัน ทบ. ก็สั่งปิด และให้รอการทุบทำลาย. และโยกย้าย พันเอกธนศักดิ์ พ้นการคุมกำลังในพื้นที่ จน ชาวกันทรลักษณ์ ออกมาเรียกร้อง ให้ ทบ. ยกเลิกคำสั่ง ปิด ปราสาทพระวิหารจำลอง

"บิ๊กหมู"ย้ายเรียบ "ผู้การไก่" พันเอกธนศักดิ์ และลูกน้อง ยกทีม พ้นเขาพระวิหาร

"บิ๊กหมู"ย้ายเรียบ "ผู้การไก่" พันเอกธนศักดิ์ และลูกน้อง ยกทีม พ้นเขาพระวิหาร...ลงนาม คำสั่งโยกย้าย8 นายพัน เขาพระวิหาร ทั้ง ทหารราบ ทหารพราน สังเวย การสร้าง ปราสาทพระวิหารจำลอง บนผามออีแดง สะพัด เป็นความขัดแย้งภายใน ด้วย เหตุ ผู้การไก่ ไม่รายงาน ผบ.พล.ร.6 ก่อน แม้รายงาน บิ๊กๆแล้วก็ตาม
พลเอก ธีรชัย นาควาณิช ผบ.ทบ.ลงนาม ในคําสั่งกองทัพบก ที่ 210/2559. เมื่อ4 พค. เรื่อง ให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือน โดยอาศัยอํานาจตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อนและลดตําแหน่ง ข้าราชการกลาโหม พ.ศ.2502 หมวด 2 ข้อ 5 (2) และคําสั่ง ทบ. ที่ 318/2557 ลง 1 ต.ค.57 เรื่อง การกําหนดหน้าที่และการดําเนินงานเอกสารในกองบัญชาการกองทัพบก ฉะนั้น จึงให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือน รวม จํานวน 8 นาย
ผู้การไก่ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 6 (ผบ.ร.6) เข้ากรุ เป็น นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา
โดยให้ พ.อ.จักรพงศ์ จันทร์สุทธิประภา รอง ผบ.ร.6 ขยับเป็น ผบ.ร.6 แทน
พ.อ.วิชิต มักการุณ เสธ.ร.6 เป็นรอง ผบ.ร.6 พ.อ.สุรกิจ กาฬเนตร ผบ.ร.6 พัน 2เป็น เสธ.ร.6. แล้วให้ พ.อ.เกียรติศักดิ์ จารุวัตร รองเสนาธิการ กรมทหารราบที่ 6 เป็น ผบ.ร.6 พัน 2
พ.ท.ชนุดม ปรีวัน รองผู้บังคับการ กรมทหารพราน 23 (รอง ผบ.กรม ทพ.23) เป็น รอง เสธ.ร.6
พ.ต.ปรัชญา หล้าวิเศษ รอง ผบ.ร.6 พัน.3เป็น รอง ผบ.กรม ทพ.23 พ.ต.จิระกิจ จิตรภักดี รอง ผบ.รอง ผบ.ร.16 พัน.2 เป็น รอง ผบ.กรม ทพ.26
ทั้งนึ้ พันเอกธนะศักดิ์ ผบ.ร.6 และ สมาชิก สปท. บริจาคเงินเดือน สปท.3 ล้าน ร่วมกับเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ บริจาค ปูน ทราย มาก่อสร้าง ปราสาทพระวิหารจำลอง บนผามออีแดง. แต่ทาง ทบ. อ้างว่า กต.ท้วงติง และอาจกระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา จึงสั่งปิด ปราสาทจำลอง และย้าย พันเอกธนศักดิ์ ทั้งๆที่ปราสาทฯ นี้สร้างในดืนแดนประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. แต่อย่างใด
ทั้งนี้ มีข่าวสะพัดในพื้นที่ ด้วยว่า เป็นความขัดแย้งภายใน ด้วย เหตุเพราะผู้การไก่ ไม่ได้รายงาน พลตรีสนธยา ศรีเจริญ ผบ.พล.ร.6 ก่อน แม้รายงาน พลโท วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาค2 และ เรียน บิ๊กปัอม พลเอกประวิตร รมว.กลาโหม แล้วก็ตาม

นายกฯ แฉ“แม่จ่านิว” พูดมากกว่าคำว่า“จ้า”โดน ม.112 เผย ตั้ง 8-9 ประโยค ที่เขียนมา ผมรับไม่ได้



นายกฯ แฉ“แม่จ่านิว” พูดมากกว่าคำว่า“จ้า”โดน ม.112 เผย ตั้ง 8-9 ประโยค ที่เขียนมา ผมรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย ยันไม่ได้เอาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มารังแก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการจับกุมผู้มีข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจมีการชี้แจงหลักฐานมาแล้ว มีสื่อไหนลงหรือไม่ ก็ไม่มีหรือมีนิดหน่อย ไปดูหลักฐานสิ ซึ่งผมเปิดเผยไม่ได้ ให้ไปดูในศาล โดยศาลจะตัดสินเอง ฉะนั้นอย่ามาบิดเบือนกัน จะเป็นคุณแม่หรือคุณลูกทั้งนั้น
"เจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจนั้น ไม่ใช่แค่ “จ้า” คำเดียว แต่มีตั้ง 8-9 ประโยค และที่เขียนมา ผมรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วคนก็มาหาว่า ผมรังแก แล้วการเขียนแบบนั้นไม่ทำมันจะตายหรืออย่างไร เขียนว่าคนโน้นคนนี้
“ผมบอกแล้วรัฐบาลนี้ ผมไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ โดยเด็ดขาด ก็ทำมาตลอด พอเกิดปัญหา มาร่วมรับผิดชอบกับผมไหม มีแต่ติว่ากัน ทั้งๆที่รู้กฎหมายว่าอย่างไร การเปิดที่ต่างประเทศเขาทำอย่างไร เทคนิคการย้ายเป็นอย่างไร เขาทำกันแทบตายแล้วมาหาว่าไม่ทำอะไร
หาว่าเอาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มารังแกคน กลายเป็นว่าคนทำความผิดถูกรังแก และกลายเป็นว่ารัฐบาลหวังผลทางการเมือง มันจะหวังทางการเมืองอะไร ผมไม่ได้หวังการเมือง ผมหวังให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ให้ประชาชนมีงานทำ สร้างความสุขให้สังคม ไม่ใช่มีงานทำจากความขัดแย้ง แต่ถ้ามันไปไม่ได้จริงๆ วันหน้าลูกหลานก็อยู่ไม่ได้ เป็นเรื่องของพวกเธอ. ฉันไม่ยุ่งด้วย” นายกฯ กล่าว

โลกเตรียมรุมซักไทย ปมละเมิดสิทธิมนุษยชน กลางเวทียูเอ็น ปลัดยธ.นำคณะแจง

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีในวันที่ 11 พฤษภาคม คณะผู้แทนไทยนำโดยนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) จะนำเสนอรายงานการทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศตามกลไก Universal Periodic Review (ยูพีอาร์) รอบที่ 2 ในการประชุมคณะทำงานยูพีอาร์ สมัยที่ 25 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิสว่า เรื่องดังกล่าวจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 10 พฤษภาคม เพื่อขออนุมัติหลักการท่าทีที่จะนำเสนอรายงานผลการปฏิบัติงาน ภายหลังประเทศไทยส่งรายงานตามกลไก ยูพีอาร์ รอบที่ 2 ให้แก่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การรายงานครั้งนี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงประเทศไทยเพียงประเทศเดียว แต่เป็นการรายงานของทุกประเทศที่เป็นสมาชิก
“ที่ประชุม ครม.วันที่ 10 พฤษภาคม จะพูดคุยกันว่าเราจะชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างไร ผมคิดว่าสิ่งที่เรารายงานในที่ประชุมยูพีอาร์ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจริงๆ หากดูตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีเคยกล่าวไว้ จะเห็นว่าเรื่องบางเรื่องต่างประเทศยังคงเข้าใจเราผิด โดยเฉพาะหลักการทางสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เราก็คงจะถือโอกาสนี้อธิบายความข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
ทั้งนี้ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นำคณะประมาณ 30 คน จากไทย เพื่อรายงานและชี้แจง ในการประชุมทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศตามกลไก Universal Periodic Review (ยูพีอาร์) รอบที่ 2 ในการประชุมคณะทำงานยูพีอาร์ แห่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 25 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้
สมาชิกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) 14 ประเทศ ได้ยื่นคำถามเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในไทย ล่วงหน้า บางประเทศ อาทิ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรเลีย นอร์เวย์ ได้เสนอคำถามเกี่ยวกับม.112
ต่อไปนี้คือบางส่วนจากคำถามที่ได้ยื่นล่วงหน้า
เบลเยียม
รัฐบาลไทยจะให้สัตยาบันในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับที่ได้ลงนามไปเมื่อปี 2012 เมื่อใด? รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาที่จะให้สัตยาบันในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไม่?
รัฐบาลไทยพิจารณาที่จะยกเลิกคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 และจะรับรองว่าพลเรือนทุกคนจะถูกพิจารณาคดีในศาลพลเรือนและจะได้รับการเคารพสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ไอซีซีพีอาร์) หรือไม่?
รัฐบาลไทยพิจารณาที่จะตอบรับคำร้องขอในการเยือนจากคณะผู้เขียนรายงานพิเศษหรือไม่?
เบลเยียมยินดีที่กระทรวงยุติธรรมของไทยเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่น่าห่วงกังวลในการคุ้มครองนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน รัฐบาลไทยสามารถอธิบายถึงมาตรการคุ้มครองพิเศษดังกล่าวที่จะส่งผลและนำไปบังคับใช้อย่างไร?
สาธารณรัฐเช็ก
ไทยกำหนดกรอบเวลาที่จะให้การรับรอง อนุญาสัญญาป้องกันการทรมานและจัดตั้งกลไกระดับชาติเพื่อป้องกันการกระทำดังกล่าวหรือไม่
ไทยได้มีการดำเนินการที่จะยุติการข่มเหง สอดส่อง และการกระทำในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นการข่มขู่คุกคามนักเคลื่อนไหวต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนและการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ที่มุ่งป้องกันการเกิดความรุนแรงและการก่ออาชญากรรมต่อบุคคลเหล่านั้นหรือไม่?
รัฐบาลไทยจะทบทวนกฎหมายเพื่อรับประกันการเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมภายใต้ไอซีซีพีอาร์หรือไม่?
ภายใต้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว คสช.ได้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดต่อสถาบัน การก่อจลาจล ปลุกระดมฝูงชน สนับสนุนการแบ่งแยกและละเมิดคำสั่ง คสช.ในศาลทหารแทนศาลพลเรือน ในประเด็นนี้ไทยจะทบทวนแก้ไขกฎหมายเพื่อเป็นหลักประกันว่าพลเรือนทุกคนจะถูกพิจารณาคดีในศาลพลเรือนและได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม รวมถึงสิทธิในการประกันตัวภายใต้พันธกรณีของไทยที่มีต่อไอซีซีพีอาร์หรือไม่?
ขอให้รัฐบาลไทยช่วยให้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ค่ายปรับทัศนคติ และหลักสูตรปรับทัศนคติ และการปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของไทย
ลิกเตนสไตน์
จากที่ไทยกลับมาพิจารณาจะเข้าร่วมในศาลอาญาระหว่างประเทศ หากเป็นเช่นนั้น ไทยจะมีขั้นตอนดำเนินการอะไรบ้างในการรับรองธรรมนูญกรุงโรมฉบับปี ค.ศ.2010
เนเธอร์แลนด์
กรณีการพิจารณาในศาลทหาร
มีพลเรือนกี่รายแล้วที่ถูกพิจารณาคดีในศาลทหารนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2557 เป็นต้นมามีพลเรือนกี่รายที่ถูกเรียกตัวเข้าค่ายทหารหรือถูกเจ้าหน้าที่ทหารไปตรวจสอบยังบ้านพักนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2557
กรณีเสรีภาพในการแสดงออก
รัฐบาลจะให้การรับรองอย่างไรว่าทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญจะสามารถแสดงออกซึ่งความคิดเห็นต่อสาธารณะได้โดยปราศจากความกลัวว่าจะถูกตอบโต้ด้วยกำลังทหารหรือถูกลงโทษ เพื่อเป็นหลัก ประกันว่าจะสามารถอภิปรายโต้แย้งได้อย่างเปิดเผยและอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะมีการจัดลงประชามติว่าด้วยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือ
เหตุใดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงถูกนำมาใช้แทนที่จะเป็นกฎหมายหมิ่นประมาททางอาญา และ คณะตุลาการมีขอบเขตแค่ไหนในการใช้ดุลพินิจในคดีหมิ่นประมาท
แผนการใดที่รัฐบาลจะนำมาใช้เพื่อยุติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหารและการกักตัวในที่คุมขังของกองทัพ และในการโอนย้ายคดีทั้งหมดของพลเรือนที่เผชิญการพิจารณาคดีต่อศาลทหารมายังศาลพลเรือน และเพื่อปรับแก้กฎอัยการศึกและพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร เพื่อป้องกันการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร
ไทยมีมาตรการอย่างไรในการสอบสวนและป้องกันการข่มเหงหรือทารุณกรรมต่อผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมการประมงในอ่าวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานอพยพ
แผนการใดที่ไทยจะนำมาใช้ในการในการสอบสวนกรณีการทารุณกรรมทางภาคใต้ที่มีการ กล่าวหาว่ากระทำโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และหากข้อกล่าวหานั้นยังคงมีอยู่ จะมีมาตรการในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างไร
สหรัฐอเมริกา
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกข้อห้ามที่เกินกว่าเหตุในการแสดงออกถึงสิทธิพลเมืองและรับประกันถึงกระบวนการทางการเมืองที่เปิดกว้างและครอบคลุม ซึ่งยินยอมให้ทุกภาคส่วนของสังคมไทยมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ขอถามว่าไทยมีขั้นตอนอย่างไรในการรับรองว่าเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบจะได้รับการเคารพในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการลงประชามติในร่างรัฐธรรมนูญในเดือนสิงหาคมนี้ และมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างไรที่รัฐบาลจะดำเนินการให้ประชาชนทั่วไปสามารถอภิปรายหารือถึงคุณสมบัติของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ขอแสดงความกังวลต่อคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 13/2559 ในเรื่องการขยายขอบเขตอำนาจการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในของกองทัพ เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเพิกถอนคำสั่งและจำกัดการใช้อำนาจการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในเหล่านี้ไว้กับหน่วยงานของพลเรือนที่เหมาะสม ขอถามว่ามาตรการใดที่ไทยนำมาใช้เพื่อป้องกันการใช้อำนาจที่มีการขยายขอบเขตเหล่านี้โดยมิชอบ และรับรองว่าไทยจะเคารพพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
เรายังเป็นกังวลเกี่ยวกับข้อห้ามที่เกินกว่าเหตุในการรวมกลุ่มอย่างเสรี ซึ่งรวมถึงสิทธิในการประท้วง เช่นเดียวกับรายงานเรื่องการใช้แรงงานบังคับที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงบนเรือประมงและอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารทะเล ขอถามว่าไทยมีความคืบหน้าในการสอบสวน ดำเนินคดี และพิพากษาผู้กระทำความผิดรายบุคคลในเรื่องการใช้แรงงานบังคับมากน้อยแค่ไหน
เยอรมนี
เยอรมนียินดีที่ไทยให้ที่พำนักแก่ผู้อพยพ แต่ดูเหมือนมีความจำเป็นที่จะต้องให้สถานะทางกฎหมายแก่คนเหล่านี้ด้วย ดังนั้นแล้ว เราขอถามว่า ไทยมีความตั้งใจที่จะลงนามและให้สัตยาบันในอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยสถานะของผู้ลี้ภัย ค.ศ.1951 และออกกฎหมายกลางระดับประเทศที่ให้ความคุ้มครองทางกฎหมายที่เพียงพอต่อผู้อพยพ
สวีเดน
รัฐบาลไทยมีแผนการที่จะจัดการกับข้อกังวลต่อกฎหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก
ไทยยอมรับคำแนะนำในการพิจารณาสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของไทยครั้งแรกที่จะเชิญคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติ คำร้องขอดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อใดจึงจะมีการยื่นคำเชิญนี้มาอย่างเป็นทางการ
ไทยมีมาตรการอะไรบ้างที่มีแผนจะดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้เขียนรายงานพิเศษด้านสถานการณ์การค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ รวมถึงการขจัดสื่อลามกอนาจารเด็กและการค้ามนุษย์ที่แสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก
นอร์เวย์
เรารับทราบว่าไทยได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ โดยมีคำร้องขอให้มีการเยือนของผู้เขียนรายงานพิเศษด้านการส่งเสริมและปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกที่รอการตอบรับอยู่ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะกำหนดวันที่ชัดเจนในการให้ผู้เขียนรายงานพิเศษเยือนไทยได้เมื่อใด
รัฐบาลไทยจะมีมาตรการอย่างไรในการยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ขัดแย้งทางภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการรายงานเรื่องการทารุณกรรม การจำกัดเสรีภาพในการพูดและไร้ซึ่งการสอบสวนการหายตัวโดยถูกบังคับ
-รัฐบาลไทยจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างไรในการนำพิธีสารปาเลร์โมไปปฏิบัติใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้ติดตามและดำเนินคดีกับบุคคลที่แสวงหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์
สวิตเซอร์แลนด์
หลักปฏิบัติในการควบคุมตัวเพื่อปรับทัศนคติที่รัฐบาลไทยใช้คืออะไร รัฐบาลแน่ใจได้อย่างไรว่าหลักปฏิบัติในการปรับทัศนคติสอดคล้องกับพันธกรณีที่มีภายใต้ไอซีซีพีอาร์
รัฐบาลไทยจะรับประกันในหลักการที่จะไม่ส่งผู้อพยพและผู้ลี้ภัยกลับไปถูกดำเนินคดีในกรณีอย่างไร
สเปน
ภายใต้คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 13/2559 การป้องกันและปราบปรามเจ้าหน้าที่จับกุมบุคคลโดยปราศจากคำสั่งศาลและเจ้าหน้าที่เหล่านี้ยังได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีหากปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ รัฐบาลไทยจะป้องกันและมีบทลงโทษต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามอำเภอใจอย่างไร
การใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต รัฐบาลไทยจะส่งเสริมบทบาทของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในการส่งเสริมการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมอย่างไร ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยมีกลไกอะไรที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีการเยียวยาเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดดังกล่าวนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะมีบทลงโทษบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ กระทำผิดอย่างไร
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

ฟิลิปปินส์ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ “โรดริโก ดูเตอร์เต”

ฟิลิปปินส์ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ “โรดริโก ดูเตอร์เต”
แม้การนับคะแนนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์จะยังไม่เสร็จสิ้นลงอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต ฉายา “ดิกอง” นายกเทศมนตรีเมืองดาเวาวัย 71 ปี ผู้มีชื่อเสียงจากการปราบปรามอาชญากรรมจนราบคาบ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างแน่นอนแล้ว หลังมีคะแนนนำทิ้งขาดจากคู่แข่งคนสำคัญ
คณะเจ้าหน้าที่ผู้จัดการเลือกตั้งระบุว่า ชาวฟิลิปปินส์ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงถึงร้อยละ 81 ส่วนองค์กรเอกชน PPCRV ซึ่งทำหน้าที่จับตาตรวจสอบการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้แจ้งว่า มีการนับคะแนนเสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 90 ซึ่งในจำนวนนี้ นายดูเตอร์เตได้คะแนนเสียงถึง 14.8 ล้านคะแนน หรือราวร้อยละ 39 ของผู้ออกเสียงทั้งหมด ในขณะที่นายมาร์ โรซาสซึ่งเป็นคู่แข่ง ได้คะแนนเสียงเพียง 8.6 ล้านคะแนน ทำให้นายโรซาสได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้แล้ว
นายดูเตอร์เตกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เขาขอยอมรับชัยชนะในครั้งนี้ไว้ด้วยความถ่อมตนอย่างที่สุด แม้ว่าก่อนหน้านี้เขามีภาพลักษณ์ของนักการเมืองที่แข็งกร้าว โดยนายดูเตอร์เตเคยกล่าวระหว่างการหาเสียงว่า จะขจัดบรรดาอาชญากรและคนติดยาเสพติดให้หมดด้วยการสังหารหมู่ และหากรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับเขาในเรื่องใดก็ตาม เขาก็จะสั่งยุบสภาเสีย
อย่างไรก็ดี ผลงานความสำเร็จในการปราบปรามอาชญากรรมของนายดูเตอร์เตในอดีต โดยเฉพาะที่เมืองดาเวาทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมมาก่อน ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันยังคงตกอยู่ในวังวนปัญหาความยากจนและการทุจริตคอร์รัปชัน

บิ๊กตู่ ลั่น พร้อมสู้ตาย ไม่กลัวเส้นเลือดสมองแตก บอกแตกเพื่อชาติ พร้อมตาย10ครั้ง ถ้าทำให้ประเทศดีขึ้น



บิ๊กตู่ ลั่น พร้อมสู้ตาย ไม่กลัวเส้นเลือดสมองแตก บอกแตกเพื่อชาติ พร้อมตาย10ครั้ง ถ้าทำให้ประเทศดีขึ้น ลั่น จะโมโหก็เรื่องของผม แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโหก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมาไม่เป็นไร ผมทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัว สู้ตายอยู่แล้ว

พลเอกประยุทธ์ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ทำอย่างเต็มที่ ทำให้จนไม่มีเวลาทำ เพราะประเทศนี้เป็นของผมและทุกคนด้วย ไม่ใช่ของผมคนเดียว หากผม รัฐบาล คสช. ทำส่วนหนึ่งที่เหลือทำลายทั้งหมดแล้วมันจะเกิดอะไรได้หรือไม่

รวมถึงเรื่องที่มีข่าวว่าทหารไปเรียกงบประมาณเงินทอง มีการสั่งให้ตรวจสอบแล้ว อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อย ถ้ามีจริงให้ถ่ายรูปอัดเทปมา ผมจะปลดมันเดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีหลักฐานก็เขียนกันไปเรื่อย ตกลงประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือ แล้วผมไปจำกัดสิทธิสื่อตรงไหน ลองตอบมาสิ ว่าไม่มีเสรีภาพตรงไหนบ้าง เสรีภาพของท่านคือด่ารัฐบาลได้ตลอดเวลานั้นใช่หรือไม่ ก็ไปรอด่ารัฐบาลหน้าโน่น รัฐบาลผม ด่าได้แค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็ทนเยอะแล้ว

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับมาสอบสวนแล้วเป็นคนบ้า และมีเบอร์ทุกคน ซึ่งจิตแพทย์ได้ตรวจแล้วมันบ้าโรคจิต ครอบครัวเขายอมรับไม่ได้กินยา และไม่ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีคนอื่นกลัว
"ผมบอกแล้วไม่ต้องกลัว จะคุ้มครองให้ไปกลัวทำไม ถ้ากลัวเดี๋ยว จะจัดคนไปรักษาความปลอดภัย"
สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการปรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองวันนี้ทำให้เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ช่างการเมือง ตนไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ และไม่ทำให้เสียสมาธิต่อการทำงาน ซึ่งงานก็ทำเท่าเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
"จะโมโหก็เรื่องของผม แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโหก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมาไม่เป็นไร ผมทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัว สู้ตายอยู่แล้ว เอาไปพาดหัวได้เลย ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้ ทำเพื่อชาติจะท้อแท้ได้อย่างไร
ชีวิตผมยังให้ไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต 30 -40 ปี ยังไม่รู้เหรอ ผมเสียสละอะไรไปบ้าง ทหารตายไปแล้วกี่พันหมื่นคน"
เมื่อถามว่าการออกมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือเปล่า ทำวันนี้วันหน้าก็โดนจับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือประชามติ เข้าใจหรือยัง เรื่องพวกนี้ถ้าผมแยกแยะไม่ออก ก็ไม่ใช่คน ฉันแยกแยะออก สติปัญญาพอมี
เมื่อถามว่านายกฯเป็นห่วงในเรื่องใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง จะห่วงอะไร ที่หงุดหงิด เพราะหงุดหงิด ฉันก็หงุดหงิดของฉัน จะให้อารมณ์ดีทั้งวันเหรอ มันบ้าแล้วแบบนั้นไม่ต้องทำอะไรคอยยิ้มแย้มตบอดทั้งวันมันไม่ใช่ ซึ่งผมเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไปถามได้ในกองทัพบกเขาว่าอย่างไร ผมเป็นอย่างนี้ไม่เห็นมีใครเกลียดสักคน หรือเกลียดมันก็ไม่บอก แต่ก็อยู่กันมาสี่ปี กองทัพไม่เสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่าแล้วสื่อห่วงสุขภาพนายกฯบ้างไหม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ห่วงเส้นสมองนายกฯจะแตก พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้กล่าวว่า “ไม่แตก ไม่มีแตก ฉันแข็งแรงพอ
"จะแตกก็ให้มันรู้ไป แตกเพื่อชาติจะเป็นอะไรไป เธอเคยคิดไหม ต่อให้ตายสิบครั้งฉันก็ยอมตายถ้าประเทศมันจะดีขึ้น คิดกันแบบนี้เสียบ้าง คิดให้มันเกินๆ"

ศาลทหารให้ประกันตัว 8 แอดมิน ข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่นและผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

ศาลทหารให้ประกันตัว 8 แอดมิน ข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่นและผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ส่วนอีก 2 รายยังต้องรอประกันตัวข้อกล่าวหาผิดมาตรา 112
เมื่อเวลา 14:40น นายวิญญัติทนายความของผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งข่าวว่าศาลทหารกรุงเทพ ให้ประกันตัว 8 แอดมิน เพจ "เรารัก พล.อ.ประยุทธ์" ความผิดตามมาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว โดยใช้หลักทรัพย์ประกันคนละ 200,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้ผู้ต้องหา กระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ชักชวน ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง อันอาจก่อให้เกิดภยันตรายใดๆ กระทบต่อความเสียหาย หรือความสงบเรียบร้อย และห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
อย่างไรก็ตาม 2 แอดมินที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงถูกอายัดตัวเอาไว้ เพื่อขออำนาจศาลฝากขังอีกครั้ง
เช้านี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ 8 แอดมินเพจล้อเลียน “เรารักพลเอกประยุทธ์” เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นครั้งที่ 3 โดยเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวรายละ 200,000 บาท พร้อมร้องให้ถอนข้อกล่าวหาหมิ่นสถาบัน 2 แอดมินด้วย
ด้านผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์พร้อมพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้นำตัวมายังศาลทหารในช่วงเช้า ก่อนนำตัวกลับไปเรือนจำอีกครั้งในช่วงบ่าย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในชุดนักโทษ สวมกุญแจมือและเท้า
ผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย นายหฤษฏ์ มหาทน น.ส.ณัฎฐิกา วรธัยวิชญ์ นายนพเก้า คงสุวรรณ นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ นายโยธิน มั่งคั่งสง่า นายธนวรรธน์ บูรณศิริ นายศุภชัย สายบุตร และนายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา ถูกออกหมายจับในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายอาญา มาตรา 116 และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ 2 แอดมินคือ นายหฤษฏ์ และนางสาวณัฏฐิกา ว่ากระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบันตามมาตรา 112 ด้วย
ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยศาลพิเคราะห์ว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว จึงยังไม่มีเหตุผลสมควรให้ปล่อยตัวชั่วคราว และศาลปฏิเสธคำร้องอีกครั้งในวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา

ดวง ตำรวจถูกผ่าตัดใหญ่



ผู้เขียนขอย้ำคำทำนายเดิมที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ในหลายวาระ หลายโอกาส เช่นที่ล่าสุดไปร่วมเสวนาเรื่องการปฏิรูปตำรวจของมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ว่า ตำรวจเป็นอีกหนึ่งองค์กรสำคัญในเมืองที่เป้าหมายของการปฏิรูปเป็นอย่างน้อย แต่หากจะให้ถูกโฉลกต้องเป็นระดับปฏิวัติด้วยปรากฏการณ์ทางโหร ดังนี้

1.ดวงเดิมดวงเมือง ผู้เขียนใช้หนึ่งในความหมายของพระราหู (๘) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา เป็นตัวแทนตำรวจโดยรวม (โหรท่านอื่นอาจใช้ดาวดวงอื่นแทน)

โดยดวงเดิมดวงเมืองที่ลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟนั้นพระราหูถูกวางไว้ที่ราศีมีนภพที่สิบสองวินาสน์-ดวงเมือง คงเพื่อหวังสยบความร้ายกาจของพระราหู และทำให้ความลุ่มหลงมัวเมา การฉ้อราษฎร์บังหลวง (หนึ่งในความหมายของภพที่สิบสอง) หมดไป หรืออย่างน้อยก็ลดน้อยถอยลง

2.ชะตาจรดวงเมืองเกี่ยวกับตำรวจ ได้สำแดงอาการของการปฏิรปูที่เป็นลางมาเป็นระยะๆ คือ
2.1 ช่วงการชุมนุมของ กปปส.กดดันไปสู่หนึ่งในเป้าหมายที่ประกาศโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ คือปฏิรูปตำรวจ (ปรากฏการณ์ทางโหรในดวงเมือง คือ พฤหัสบดีหัวหน้าเทวดาประจำเมืองตรึงกับพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายเป็นการประลองกำลังระหว่างฝ่ายธรรมกับอธรรม)
2.2 ตั้งแต่หลัง 17 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเมือง ตั้งแต่วินมอเตอร์ไซค์-คิวรถตู้ไปถึงรัฐธรรมนูญ (ปรากฏการณ์ทางโหรในดวงเมือง คือ พระพฤหัสบดียุติการตรึงกับพระเสาร์ ความอึดอัดเริ่มจางลง จากการเข้ามาแทรก-รัฐประหารของ คสช.วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วการปฏิรูปต่างๆเพื่อเดินหน้าสู่สิ่งใหม่ก็เริ่มขึ้น)
2.3 เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นมา ลางของการปฏิรูปตำรวจรอบนี้ ปรากฏดวงเมืองครั้งแรก เป็นสัญญาณชัดเจนและเป็นไปถึง 16 มกราคม 2559 (พระราหูจรเจ้าของการเปลี่ยนแปลงเดินเข้าราศีกันย์เล็งใส่พระราหูดวงเดิมที่สถิตราศีมีน บ่งบอกว่าพระราหู คือตำรวจต้องเปลี่ยนแปลง)
2.4 หลังวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ลางของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวงการตำรวจปรากฏแทรกเข้ามา เป็นครั้งที่สอง ในดวงเมือง แต่เป็นไปในระยะที่วงการตำรวจยังเข้มแข็งอยู่จึงยังไม่มีอะไรมากนักแต่เริ่มออกอาการว่าสถานภาพเดิมเริ่มมีปัญหา (พระพฤหัสบดีจรเดินเข้าราศีกันย์ภพอริ-ปัญหาอุปสรรคดวงเมืองแล้ว สวนกับพระราหูจรบ่งบอกว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่เป็นปัญหาวงการตำรวจเกิดขึ้น)
2.5 หลังวันที่ 16 มกราคม 2559 เป็นต้นมา วงการตำรวจเริ่มอยู่ในภาวะอ่อนแอ อาภัพ ทำดีไม่ได้ดี ง่ายต่อการโจมตี ขุดคุ้ย จี้จุดอ่อน สถานการณ์นี้จะเป็นไปถึง 4 สิงหาคม 2560 (พระราหูจรยกเข้าและสถิตในราศีสิงห์ได้มาตรฐานปรเกษตร-อ่อนแออาภัพ)
2.6 ขณะที่วงการตำรวจอ่อนแออยู่ ครั้นหลังวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นมาปรากฏการณ์ข่าวใหญ่ในวงการตำรวจหรือที่ถูกโยงเข้ากับวงการก็ทยอยเกิดเป็นระยะ เช่นหลังจากเจนภพ วีระพรขับรถเบนซ์ชนสองศพ ความเดิมของลูกชายเครื่องดื่มทิงแดงขับรถชนตำรวจถูกทวงถามความคืบหน้า/เกิดคดีตำรวจพิษณุโลกสามคนยิงใส่รถนักศึกษาสถาบันราชภัฏพิบูลสงคราม/เหตุการณ์เผานั่งยางป่ากุดจับ บ้านผือ อุดรธานี 23 จุดมาอยู่ในความสนใจ/ลูกตำรวจรุมทำร้ายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ฯลฯ (พฤหัสบดีจรถอยหลังไปสวนกับพระราหูจรที่ราศีสิงห์ หลังการสวนเหตุการณ์ใหญ่เกี่ยวกับวงการตำรวจจะเกิดตามมา)
2.7 ขณะที่วงการตำรวจอ่อนแออยู่ครั้นวันที่ 6 มีนาคม 2559 เป็นต้นไปลางของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ระดับน้องๆ ปฏิรูป หรืออาจถึงขั้นปฏิวัติในเรื่องต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายในเมืองปรากฏ แล้วจะเป็นไปถึงประมาณกรกฎาคม 2565 (มฤตยูจรเดินเข้าราศีเมษทับลัคนาดวงเมือง)
2.8 ให้จับตาหลังวันที่ 17 มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับวงการตำรวจออกมา เพราะ ที่ผ่านมาก็ฝืนดวงชะตามาก แล้ว โดยคาดว่ามีแนวโน้มที่จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน หรือเกิดอาการแยกทางกันเดินอะไรทำนองนี้ (พระพฤหัสบดีจรที่เข้มแข็งสุดขีดสวนกับพระราหูจรในราศีสิงห์ ตำราบอกพระราหูจะถูกจักรพฤหัสบดีขาดเป็นสองท่อน)
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรแบบใดตำรวจก็คงอยู่ต่อไป(พระราหูดื่มน้ำอมฤต-ไม่มีวันตาย) เพียงแต่ควรจะชิงเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนที่จะถูกเปลี่ยน
เอาที่ง่ายๆ ก่อนก็ได้ คือ ขณะนี้ที่พระพุธตัวแทนเอกสารเป็นศรีหรือสิริมงคลดวงเมืองอยู่ การเริ่มจากสิ่งที่เรียกร้องมานานแต่ไม่ทำกันสักทีคือเปลี่ยนลงบันทึกประจำวันจากการเขียนด้วยมือเป็นระบบดิจิตอล จะนำไปสู่อะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่ทันสมัยมากขึ้น.