PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สถานการณ์ข่าว12/2/58

data12Feb15

"พล.ต.สรรเสริญ" ระบุ ยังไม่มีรายงาน "ยิ่งลักษณ์" ขอลี้ภัย ชี้ เป็นคดีอาญาไม่เกี่ยวกับการเมือง

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกระแสข่าวที่ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะขอลี้ภัยทางการเมือง โดยระบุว่า ให้ฝ่ายความ

มั่นคงเป็นผู้ชี้แจงในเรื่องนี้ เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีขณะนี้ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักจังหวัดเชียงใหม่ และไม่มีรายงานว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ทั้งนี้คดีความ

ของอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นคดีความอาญา ไม่เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม

--------------------

"พล.ต.สรรเสริญ" มอง USA เรียกร้องให้ไทย คืน ปชต.ตามบทบาท ย้ำ มีจุดยืนไม่ขัดแย้ง เชื่อกังวลรัฐประหารในอนาคตเข้าใจผิด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสที่ สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ประเทศไทยเข้าสู่ประชาธิปไตย โดยมองว่าเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นให้เป็นไป

ตามบทบาทและหน้าที่ในประเทศที่ปกครองโดยระบบประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา ได้แสดงความคิดเห็นถึงหลายประเทศเช่นกัน ขณะเดียวกัน ประเทศไทย มีจุดยืนและไม่มี
ความขัดแย้ง รวมถึงรักษาสัมพันธภาพกับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด

ส่วนกรณีที่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น ถึงการก่อการรัฐประหารในอนาคตนั้น อาจจะเกิดจากความ

เข้าใจผิด ซึ่ง นายกรัฐมนตรี เพียงสื่อว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทย มีปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มการเมือง จนทำให้รัฐบาลในขณะนั้น ไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศไทยได้ ทางคณะ

รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงกำหนดแนวทางการปฏิรูปให้มีความชัดเจน เพื่อให้ประเทศเดินทางเข้าสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รัฐบาลรับฟังทุกความคิดเห็น พร้อมบริหารประเทศตามกระบวนการของกฎหมาย โดยไม่ใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จในการบริหารประเทศ ซึ่งความหมายของนายกรัฐมนตรี คือ

หากไม่ต้องการให้ประเทศกลับเข้าสู่วงจรที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเดินหน้าตามโรดแมปที่ คสช. และรัฐบาลได้กำหนดไว้
----------------------------
นายกฯ ย้ำคดี "ยิ่งลักษณ์" ยึดตามกฎหมาย ลั่นเดินหน้าประเทศตามโรดแมป คาดเลือกตั้งได้ต้นปี 2559 ไม่ทะเลาะ USA

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับต่างประเทศว่าจะนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งต่างประเทศก็มีความเข้าใจ

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ขอทะเลาะกับสหรัฐอเมริกา โดยยืนยันจะเดินหน้าประเทศตามโรดแมป และอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2559 ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายร่วมหารือ
กันไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกในช่วงดังกล่าว และหลังการเลือกตั้งส่วนตัวคงจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว ส่วนเรื่องคดีของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องว่ากันตามกระบวนการ

ยุติธรรมและต้องอยู่ในกติกา ซึ่งที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ เคยเปิดเผยว่า พร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดี และให้เกียรติ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว
ว่าทางเจ้าหน้าที่มีการติดตาม นางสาวยิ่งลักษณ์ นั้นส่วนตัวไม่ทราบ ซึ่งมองว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยทุกฝ่ายอยู่แล้ว

////////////////////
นายกฯ

นายกฯ เปิดตลาดน้ำรอบคลองผดุงกรุงเกษม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานพิธีเปิด “ตลาดน้ำวิถีไทย คลองผดุงกรุงเกษม” ที่ บริเวณสะพานอรทัย ข้างทำเนียบ

รัฐบาล โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง รวมถึงผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร และประชาชน เข้าร่วมในพิธีอย่างคึกคัก ท่ามกลางมาตราการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหารและ

ตำรวจอย่างเข้มงวดรอบพื้นที่จัดงาน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลพยายามจัดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนรับรู้ความเป็นมา อีกทั้งยังใช้เป็นจุดเด่นการท่องเที่ยวที่ดึงดูดชาวต่างชาติ

เพราะประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่ดีงาม ซึ่งขอเชิญชวนประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาร่วมงานนี้

อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนมีความสามัคคีและต้องไม่มีการชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งอย่ากังวลในเรื่องกฎอัยการศึก และจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมป หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้

เดินเยี่ยมชมสินค้าและกิจกรรมภายในงานด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับกำหนดการจัดงานดังกล่าว จะมีการจัดให้มีพื้นที่ตลาดบกและตลาดน้ำ ตั้งแต่สะพานอรทัยถึงบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในระหว่างวันนี้ ถึง 1 มี.ค. 2558 ไม่มีวันหยุด

โดยตลาดบกเปิดให้บริการเวลา 11.00-20.00 น. และตลาดน้ำให้บริการ 15.00-20.00 น. ซึ่งนอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายด้วย
////////////////
ภาคใต้

คนร้ายวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ครูสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ขณะลาดตระเวน เจ็บ 1 นาย

ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.สากอ อ.สุไหงปาดี ซึ่งเป็นชุด รปภ.ครู และกำลังออกลาดตระเวนเส้นทาง

เบื้องต้นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขา เหตุเกิดบนถนนสายสากอ-แว้ง หมู่ 3 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี ล่าสุดกองกำลังผสม อ.สุไหงปาดี เดินทาง

พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกองวิทยาการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ปริศนา'ยิ่งลักษณ์'ขอลี้ภัยสหรัฐฯ 'ยะใส'เท้าความพาไปถึงบางอ้อ

ปริศนา'ยิ่งลักษณ์'ขอลี้ภัยสหรัฐฯ 'ยะใส'เท้าความพาไปถึงบางอ้อ
Cr:แนวหน้า
11 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก "สุริยะใส กตะศิลา" แสดงความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตการตอบคำถามของ นายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตรักษาการแทนสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีตอบข้อซักถามถึงข่าวลือที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อสหรัฐฯ ระบุข้อความดังนี้
ปริศนา! ว่าด้วยการขอลี้ภัยในสหรัฐของคุณยิ่งลักษณ์
วันนี้เห็นข่าวนายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยออกมาปฏิเสธข่าวสหรัฐฯให้ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปลี้ภัยที่สหรัฐฯ ทั้งนี้ข่าวยังค่อนข้างคลุมเครืออยู่ว่า ที่ไม่ได้ให้ลี้ภัยนั้น
เพราะว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอไป หรือยื่นไปแล้วแต่สหรัฐไม่อนุญาตหรืออย่างไร ดูเหมือนอุปทูตสหรัฐไม่ได้ตอบคำถามอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
ทั้งนี้ถ้าย้อนไปดูในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2555 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีเรื่องที่เกินความคาดหมายและไม่มีคำอธิบายที่แจ่มแจ้งใดๆ เลย ก็คือการปรากฎตัวของคุณทักษิณที่สหรัฐฯ ทั้งที่ แอลเอ แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ค และในอีกหลายๆเมือง
ทำเอาคนไทยทั้งในประเทศและในสหรัฐสงสัย เคลือบแคลงใจว่า คุณทักษิณเข้าสหรัฐไปได้อย่างไร ในเมื่อคุณทักษิณ หนีคดีทุจริตคอร์รัปชั่นและถือว่าพฤติกรรมของสหรัฐฯครั้งนั้นเป็นการละเมิด พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ไทยกับสหรัฐฯ ลงนามกันและประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533
และไทยยังลงนามกับสหรัฐฯ ในสนธิสัญญาว่าด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางอาญาอีกฉบับด้วย ซึ่งสนธิสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้ฝ่ายไทยเคารพและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เป็นไปอย่างมหามิตร เช่น กรณีที่ทางการไทยส่งตัวนายฮัมบาลี ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย นายวิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ
จนทำให้คนไทยในสหรัฐต้องประท้วงรัฐบาลสหรัฐว่าทำไมจึงปล่อยให้คุณทักษิณเข้าสหรัฐ และไม่นำส่งตัวคุณทักษิณให้กับทางการไทยตามสนธิสัญญาฯ ดังกล่าว
ผมจำได้ว่าตอนนั้นทูตสหรัฐประจำประเทศไทยบอกแต่เพียงว่าทางการไทย (รัฐบาลยิ่งลักษณ์) ไม่ทำเรื่องขอตัวคุณทักษิณไป ทางสหรัฐเลยทำอะไรไม่ได้ และพอไปทวงถามรัฐบาลไทยตอนนั้น นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศก็บอกว่ารัฐบาลไม่มีนโยบาย
มาครั้งนี้จึงน่าคิดครับว่าที่สหรัฐปฏิเสธข่าวการลี้ภัยของคุณยิ่งลักษณ์ หมายถึงสหรัฐไม่มีทางให้สิทธิลี้ภัย หรือเพราะคุณยิ่งลักษณ์ยังไม่ได้ทำเรื่องขอใช้สิทธิไปกันแน่...


ภาค ปชช.ยื่นค้านสัมปทานพลังงานรอบ 21 อีก 16 ก.พ. จี้ "บิ๊กตู่" ยกเลิก ชี้ไม่โปร่งใส ทำใช้ของแพง

ภาค ปชช.ยื่นค้านสัมปทานพลังงานรอบ 21 อีก 16 ก.พ. จี้ "บิ๊กตู่" ยกเลิก ชี้ไม่โปร่งใส ทำใช้ของแพง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
12 กุมภาพันธ์ 2558
ภาค ปชช.ยื่นค้านสัมปทานพลังงานรอบ 21 อีก 16 ก.พ. จี้ บิ๊กตู่ ยกเลิก ชี้ไม่โปร่งใส ทำใช้ของแพง
ภาคประชาชนเตรียมยื่นชื่อคัดค้านเปิดสัมปทานรอบที่ 21 เพิ่ม 16 ก.พ.นี้ ชี้ส่อสูญอธิปไตย ขัดรัฐธรรมนูญ ทำชาวบ้านใช้ของแพง ขาดความโปร่งใส แถมเสียโอกาสปฏิรูป โวย "ประยุทธ์" ทำเฉย จี้ยกเลิก ด้านอดีต ส.ว.สมุทรสงครามลั่นประชาชนควรได้ปกป้องสิทธิ์ "ปานเทพ" วอนชาวไทยลงชื่อค้าน ห่วงสูญโอกาสยาว 39 ปี
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฯ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคด้านพลังงาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 20 ม.ค. ที่เครือข่ายภาคประชาชนได้เข้าชื่อยื่นหนังสือให้ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 ต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื้อหาคือสนันบสนุนให้ดำเนินการตามมติสภาปฏิรูปแห่งชาติทีมีมติ 130 ต่อ 79 เสียงคือไม่เห็นด้วยกับการเปิดสัมปทานน้ำมันรอบที่ 21 ของคณะกรรมการปฏิรูปพลังงาน เนื่องด้วยเห็นว่า ระบบสัมปทานทำให้ผลประโยชน์ทางด้านพลังงานของไทยตกเป็นของบริษัทข้ามชาติและต่างชาติ ในส่วนของประชาชนนั้นในส่วนของค่าภาคหลวง ภาษีที่ว่าด้วยระบบไทยแลนด์ทรีพลัส ตามพ.ร.บ.ปิโตรเลียมปี 2514 ไม่ได้มีการคุ้มครองผู้บริโภคด้านราคาพลังงานเลย อาทิ มาตรการที่เพิ่มราคาก๊าซหุงต้ม ปัจจุบันราคา 24บาท ต่อกิโลกรัม หรือราคาก็าซหุงต้มถังละ 400-450 บาทต่อถัง ก็าซเอ็นจีวี มีการปรับขึ้น 1บาท ส่งผลให้รถเมล์ต้องปรับขึ้น หลายสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าภายใต้ระบบสัมปทาน รัฐบาลไม่สามารถต่อรองหรือเสนออะไรภายใต้ระบบนี้ได้เลย อีกทั้งอาจยังมีสัญญาผูกพันตาม พรบ.ปิโตรเลียมปี 2514 ต่อไปอีก 39 ปี ทำให้ประเทศไทยอาจขาดโอกาศด้านการปฏิรูปพลังงานไปอีกเป็นเวลานาน
"เครือข่ายภาคประชาชน จึงมีข้อเรียกร้องให้ช่วยยับยั้งสัมปทานรอบที่ 21 ด้วยเหตุผลดังนี้ ทำให้สูญเสียอธิปไตย ดินแดนพื้นที่ทับซ้อนไทยและกัมพูชา ขัดรัฐธรรมนูญและกติกาสากลที่ทรัพยากรควรเป็นกรรมสิทธิของประชาชน ผลตอบแทนของรัฐต่ำ ทำให้ประชาชนให้ก๊าซและน้ำมันในราคาแพง ขาดความโปร่งใสในการตรวจวัดปริมาณขุดเจาะ บริษัทสัมปทานส่วนใหญ่ จดทะเบียนที่เกาะเคย์แมนซึ่งเป็นที่ฟอกเงิน ถือเป็นคอรัปชั่นเชิงนโยบาย" นายอิฐบูรณ์ กล่าว
นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวภาคประชาชนได้ยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ ได้ทราบเรื่อง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับโดยลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด ซึ่งกระทรวงพลังงาน ประกาศว่าจะให้เอกชนสิ้นสุดยื่นขอสำรวจสัปมทาน รอบที่ 21 ภายในวันที่ 18 ก.พ. นี้ โดยทางภาคประชาชนจึงจะรวบรวมรายชื่อเพิ่มเติมอีก 3,000รายชื่อ พร้อมข้อเรียกร้องอื่นๆ อาทิ ให้ปตท.คืนท่อก๊าซให้ครบ คืนพื้นที่ 84 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่ได้ขุดเจาะ ก่อนเปิดสัมปทานรอบใหม่ ยกเลิกมาตรการที่อุ้มปิโตรเคมี ลดราคาก็าซแอลพีจี เอ็นจีวี ลงทันที 2 - 4บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนั้นขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้ยกเลิกสิ่งที่เกี่ยวกับการเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ที่ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 16 ก.พ. เวลา 10.00 น. โดยประชาชนที่ยังไม่ได้ลงชื่อสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มร่วมลงชื่อคัดค้าน ได้ที่เพจ ยกเลิกสัมปทานรอบที่ 21
ด้าน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า วันที่ 18 ก.พ.ที่จะมีการพิจารณาเรื่องเปิดสัมปทาน ไม่ว่าขณะนี้เราจะอยู่ภายใต้กฎหมายอัยการศึก แต่ประชาชนควรจะได้ปกป้องสิทธิของตนเอง เพราะพรบ.ปิโตรเลียม 2514 คือกฎหมายทาส ปัจจุบันราคาน้ำมันทั่วโลกลดลงมามาก แต่ด้วยกฏหมายนี้ทำให้เรายังใช้น้ำมันราคาแพงอยู่ จาก 100 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลงมาแต่ประเทศไทยกลับลดไปแค่นิดเดียว จึงเป็นกระบวนการที่ไม่เคยเป็นธรรม จึงอยากให้รัฐบาลและหัวหน้าคสช.ทบทวนให้ดีก่อนเปิดสัมปทานรอบใหม่
ขณะที่ พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี กล่าวว่า การเปิดสัมปทานรอบใหม่มีข้อเสียหลายเรื่อง อาทิอาจเกิดลัดขั้นตอนผิดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 23 เรื่องการทำสัญญากับต่างประเทศต้องผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อน หรือจะเป็นระบบตรวจสอบการรั่วไหลหรือการขุดเจาะไม่สามารถตรวจสอบได้ ไร้ความโปร่งใส ต่างจากบริษัทปิโตรนาส ของประเทศมาเลเซียที่ใช้ระบบแบ่งผันผลผลิต ที่สามารถตรวจสอบการใช้พลังงาน การขุดเจาะ การรั่วไหลของพลังงานที่ดีกว่า
ทางด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แนวร่วมกลุ่มปฏิรูปพลังงานภาคประชาชน กล่าวว่า อยากเชิญให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านการเปิดสัมปทานรอบที่ 21 เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของประวัติศาสตร์ในการปกป้องด้านพลังงานของประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาศทางด้านพลังงานไปอีก 39 ปี ซ้ำยังมีข้อสงสัยที่ยังตอบโจทย์ไม่ได้อีกหลายข้อ อาทิ การเปิดสัมปทานรอบที่21 ไม่สามารถตอบโจทย์ประโยชน์ของประชาชน ไม่สามารถตอบโจทย์ค่าตอบแทนที่รัฐบาลควรจะได้ ไม่ตอบโจทย์ความโปร่งใสในการขุดเจาะ การรั่วไหลของพลังงาน ไม่ตอบโจทย์การแข่งขันทางเสรีดด้านพลังงาน รวมไปถึงความโปร่งใสของการเปิดสัมปทานที่คนไทยไม่เคยได้รับรู้เท่าที่ควร
"ดังนั้นจึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ทำตามวาจาสัตย์ ที่ให้ไว้กับประชาชนในวันที่ 28 ต.ค.2557 ว่าจะทำตามมติของที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานกับการเปิดสัมปทานรอบที่ 21 จึงจะทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเป็นการคืนความสุขให้แก่ประชาชน"นายปานเทพ กล่าว

ลึกแต่ไม่ลับ: นัยยะจากคำพูด "ป๋าเปรม" ที่ถูกลดทอนโดยเสียงระเบิด

จรัญ พงษ์จีน

มติชนสุดสัปดาห์ 6-12 กุมภาพันธ์ 2558


ระยะนี้ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปูชนียบุคคลที่คนไทยยังให้ความเคารพนับถือ อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยเอกลักษณ์ของความซื่อสัตย์ และมี "ความจงรักภักดี" เหนือสิ่งอื่นใด เดินสาย "ปาฐกถา-ให้โอวาท" ค่อนข้างถี่ "ผิดปกติ" คอการบ้านการเมือง นำประโยคปริศนามาตีความ แปร "นัย-ยะ" จ้าละหวั่น

เป็นต้นว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ "ป๋าเปรม" เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" มี "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี "พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร" ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมตัวแทนเหล่าทัพเข้าร่วม โดยพูดให้เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและพุทธในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 240 คนฟัง

ตอนหนึ่ง "พล.อ.เปรม" ให้โอวาทว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนโครงการ ทั้งกองทัพ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย สำนักจุฬาราชมนตรี ที่ให้ความช่วยเหลือมาตลอด โดยเฉพาะ "พล.อ.อุดมเดช" ที่มาช่วยเหลือโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ นับตั้งแต่เป็นเสนาธิการทหารบก

ทั้งนี้ "ป๋าเปรม" เปิดประเด็นว่า "ขอพูดถึงความเป็นไทย และความเป็นธรรมอีกครั้ง เยาวชนทั้ง 240 คน เป็นคนไทยเหมือนกับผมเหมือนกับคนอื่นๆ เราเป็นเจ้าของประเทศนี้ ประเทศเป็นของพวกเราที่เป็นคนไทย ไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้น ทุกคนคงรักเมืองไทย มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ประเทศมีความร่มเย็นสงบสุข หากปล่อยให้ประเทศมีความบาดหมางกันคงไม่ดีแน่ จึงจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรบ้านเราจะมีความสงบสุข"

"เธอทั้ง 240 คนเนี่ยเป็นคนไทยนะครับ เป็นคนไทยเหมือนกับผม เหมือน ผบ.ทบ. เหมือนกับอธิบดีกรมการปกครอง เหมือนกับ ผอ.ศอ.บต. เราเป็นเจ้าของประเทศนี้นะครับ ประเทศนี้เป็นของเรา ไม่ใช่เป็นของคุณประยุทธ์หรอก เป็นของพวกเราที่เป็นคนไทย ไม่ว่านับถือศาสนาอะไร เพราะฉะนั้น ผมมั่นใจว่า คุณคงรักประเทศเหมือนผมรัก เหมือนคนอื่นเขารัก เธอทั้งหลายก็จำสำนึกว่า เธอมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ประเทศของเรามีความร่มเย็นสงบสุข เราจะปล่อยให้ประเทศของเรามีความหมาดบางกันไม่ดีแน่"



และล่าสุดเมื่อเช้าวันที่2กุมภาพันธ์ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ปาฐกถาพิเศษ ครั้งนี้พูดให้ "ผู้ใหญ่" ฟัง เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ครบรอบ 60 ปี ที่ วปอ. โดยกล่าวเปิดประเด็นอย่างร้อนแรงว่า

"ที่จริงผมอายุมากแล้ว เป็นคนโบราณด้วยซ้ำ แต่คงไม่แก่จนกระทั่งเรียกว่ารกแผ่นดิน"

จากนั้นร่ายยาวถึงปัญหาชาติบ้านเมือง มี 2 ปัญหา คือ 1.เรื่องของ "ความยากจน" ถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล รัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาล 2.เรื่อง "การโกงชาติ" เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องดูแลให้คนไทยโกงชาติให้น้อยลง สอนให้รู้จัก "ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" ซึ่งทำไม่ยาก ไม่ต้องลงทุน ไม่มีกำไรหรือขาดทุน คือการทำตัวให้เป็นคนดี หากคนในชาติเป็นคนดี ก็ไม่มีการโกงชาติ สิ่งที่เรียกว่าคนโกง ว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลก ไม่มีประเทศใดไม่มี เพียงแต่เขามีน้อย แต่ "ไทยมีมาก"

"ถ้าใครเห็นคนโกงไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน คุณไม่ต้องไปไหว้ ไม่ต้องไปแสดงความเคารพนับถือ ต่อให้มีบารมีมากแค่ไหนขอให้แสดงความขยะแขยงรังเกียจ รักษาระยะห่าง เพราะเชื้อโรคการโกงจะมาติดคุณ เคยได้ยินคำเย้ยหยันเขาเขียนว่าประเทศไทยมีดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวคือมีคนไทย เป็นคำประชดที่น่าอายมาก"

ทั้งหมด คัดลอกบางบท บางตอนถึงเนื้อหา อันเป็นปาฐกถาพิเศษของ "พล.อ.เปรม" 2 กรรม 2 วาระซ้อน ในเวลาไม่ถึง 10 วัน และโดยปกติแล้ว "ป๋า" เป็นคนพูดน้อยมาแต่ไหนแต่ไร สมัยดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เอกลักษณ์คือ "ถามคำตอบคำ"

เจอลูกตื๊อของกองทัพนักข่าว หนักๆ เข้าก็ลั่นสั้นๆ ว่า "กลับบ้านเถอะลูก" จนได้รับฉายาว่าเป็น "เตมีย์ใบ้"

วันไหนอารมณ์ดี ตอบคำถามสอง-สามประโยค นักข่าวถือว่า ถูกหวย "ดอกพิกุลร่วง" นี่คือเอกลักษณ์อันยั่งยืนของ "พล.อ.เปรม" พูดน้อยแต่มีน้ำหนัก

เหนือสิ่งอื่นใด เวลาจะให้สัมภาษณ์ หรือปาฐกถา หรือนัดหมายใครไปคุยเป็นกรณีพิเศษที่บ้านพักสี่เสาฯ "ป๋าเปรม" จะทำการบ้าน รู้เขารู้เราถึงแขกผู้มาเยือน จนทะลุ

การออกมาให้ 2 โอวาท-ปาฐกถา 2 ครั้งติดต่อกันของ "พล.อ.เปรม" จึงถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งเรื่อง ประเทศไทยไม่ใช่ของใครคนเดียว และแก่แต่ไม่ถึงกับ "รกแผ่นดิน"

"ป๋าเปรม" รัดกุม ไม่มีทาง และไม่เคยพูดแบบ "กลอนพาไป" แต่จงใจพูดตาม "สคริปต์" ที่ตระเตรียมเอาไว้ทุกประโยค

วันที่ปาฐกถาพิเศษให้นักศึกษา วปอ. ฟัง รายละเอียดของเนื้อหา ภาษาดุดัน น่าจะเป็นข่าวระดับ "พาดหัว"

แต่ถูกเบียดแทรกด้วยข่าว มือมืดวางระเบิดไปป์บอมบ์ป่วนกรุง ที่สยามพารากอน ข่าว "พล.อ.เปรม" เลยถูกลดโทนไปโดยปริยาย


ไม่เช่นนั้น คงนำมาแปรและตีความกันเป็นการใหญ่

โฆษกกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐ กังวลคำสัมภาษณ์ของผู้นำไทยที่ญี่ปุ่น



วันที่ 11 ก.พ. เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยข้อความแถลงข่าวประจำวัน เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่นว่า น.ส.เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า มีความกังวลต่อกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ของการก่อรัฐประหารในอนาคต หากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8-10 ก.พ.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนของสหรัฐซึ่งยังส่งกองกำลังทหารเข้าร่วมการฝึกคอบบร้าโกลด์ประจำปี2558ที่ประเทศไทย รวมถึงข้อคิดเห็นต่อประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น และการขาดซึ่งระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย โฆษกหญิงระบุว่า แม้จะส่งเจ้าหน้าที่ทหารร่วมฝึกคอบบร้าโกลด์ แต่รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาลดขนาดความร่วมมือในอนาคต ขณะที่กรณีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลไทยยังจำเป็นต้องปรับนโยบายทางการเมืองอีกหลายส่วน และบทสัมภาษณ์ที่อ้างถึงการก่อรัฐประหารนั้น แน่นอนว่าสร้างความวิตกให้กับสหรัฐ แต่ยังต้องตรวจสอบว่ามีหน่วยงานใดแสดงความกังวลต่อคำแถลงของรัฐบาลไทยหรือไม่