PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ต่อตระกูลทิ้งบอมบ์!ร่อนหนังสือจี้‘บิ๊กตู่’ตัดสินใจโดยด่วนปมนาฬิกาบิ๊กป้อม

ต่อตระกูลทิ้งบอมบ์!ร่อนหนังสือจี้‘บิ๊กตู่’ตัดสินใจโดยด่วนปมนาฬิกาบิ๊กป้อม

วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 07.00 น.
ประธานคตช.สุดทนทำหนังสือถึง“บิ๊กตู่” จี้ตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดโดยด่วนปมนาฬิกาหรู“บิ๊กป้อม” เหมือนอย่างที่เคยประกาศเจตนารมณ์ ระบุอนุกรรมการหลายคณะไม่สบายใจ ชี้ปัญหากระทบต่อความเชื่อมั่นขององค์กรตรวจสอบการทุจริตที่ คสช.ตั้งขึ้นมากับมือ โดยเฉพาะวิกฤติศรัทธาต่อนายกฯ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา นายต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานได้ทำหนังสือที่คตช.(อนปก) /15  ถึงประธานคตช.เรื่องขอแสดงความกังวลต่อบทบาทของคตช.ในสถานการณ์วิกฤติปัจจุบันกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรู
โดยหนังสือระบุว่า ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธาน คตช. อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่เป็นข่าวทางสื่อต่างๆว่า พล.อ.ประวิตร สวมใส่นาฬิกาและแหวนเพชรราคาแพง แต่ไม่ได้แสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 นั้น
“กระผมรองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค ในฐานะประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต และอนุกรรมการส่วนใหญ่  รู้สึกมีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความเลื่อมใสศรัทธาต่อคตช.ที่คสช. ได้แต่งตั้งขึ้นโดยมีนโยบายสำคัญและเร่งด่วนในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤติศรัทธาต่อพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และประธาน คตช. โดยตรง ดังนั้น ท่านควรพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเร็ว เพื่อเป็นแบบอย่างตามที่ท่านเคยประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริตอย่างจริงจัง รวมถึงเป็นนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญและเร่งด่วนของชาติด้วย” หนังสือระบุ
ทั้งนี้ ในท้ายหนังสือยัง ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ โปรดพิจารณาข้อกังวลดังกล่าวด้วย
ก่อนหน้านี้นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) นำรายชื่อที่รวบรวมผ่านเว็บไซต์กว่า 80,000 รายชื่อมาให้กับนายกฯเพื่อเพื่อเรียกร้องให้พล.อ.ประวิตร แสดงสปิริตลาออกมาแล้ว

ชัยชนะนี้เกิดจากคนไทยทั้งประเทศ โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า "รัฐบาลตาสว่างแล้ว"

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
3 ชม.
ชัยชนะนี้เกิดจากคนไทยทั้งประเทศ โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า "รัฐบาลตาสว่างแล้ว"
สำหรับผม ไม่อาจขอบคุณรัฐบาลได้ ที่ตัดสินยกเลิก EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา เพราะการที่รัฐบาลมาเจรจา จนได้ข้อสรุปพบกันครึ่งทาง ยอมหยุด EHIA ไม่ให้เดินต่อ ให้ศึกษาภาพรวมยุทธศาสตร์พลังงานก่อน แล้วค่อยทำ EHIA ใหม่ในอนาคต ที่ออกมาเป็นสูตรนี้ก็เพราะแรงกดดันมากมายของมหาชน
การที่ชาวบ้านเทพาถูกทุบสลายการเดินที่สงขลาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ทำให้ผู้คนเทใจให้เทพาอย่างมหาศาล เป็นต้นทุนสำคัญที่ทำให้คนไทยรู้จักและเข้าใจเห็นใจคนเทพา จนเมื่อชาวบ้านเทพาตัดสินใจขึ้น กทม.มานั่งอารยะขัดขืนอย่างสงบหน้าทำเนียบรัฐบาล การเยี่ยมเยือนให้กำลังใจมีอย่างต่อเนื่อง เมื่อทัพกระบี่มาเสริม แรงค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพาจึงเด่นชัดขึ้นอีก ผู้คนจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมมาให้กำลังใจ การมาเชียร์พี่น้องกระบี่เทพาก็เท่ากับเป็นการก่นด่ารัฐบาลที่ใจดำให้ชาวบ้านตากแดดดมควันรถ เพิกเฉยต่อทิศทางพลังงานสะอาดนั่นเอง
เมื่อถึงที่สุด ชาวบ้านกระบี่เทพาประกาศจะบุกประชิดรั้วทำเนียบในวันนี้(อังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561) สัญญาณความหวั่นไหวของรัฐบาลก็เริ่มปรากฏตั้งแต่วันจันทร์ เช่นนายทหารที่หายไปนานโทรมาหาผม เป็นต้น จากเดิมที่อดข้าวมาสิบวันไม่มีสีเขียวลายพรางโทรมาหาเลย
ไม่แปลกที่รัฐบาล คสช.จะหวั่นไหว เพราะเรื่องถ่านหินมีกระแสคัดค้านจากทั่วโลก คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการ การประชิดหน้าทำเนียบในช่วงที่จะมีการประชุม UN ที่กรุงเทพเรื่องพลังงานยั่งยืน ยิ่งทำให้รัฐบาลจะลงมือใช้ความรุนแรงก็ไม่ได้ ครั้นจะให้ชุมนุมประชิดหน้าทำเนียบอยู่นาน เดี๋ยวหากมีป้าย "อยากเลือกตั้ง" หรือ "มาชูสามนิ้ว" หรือ "มาไล่คนใส่นาฬิกา 25 เรือน" ซึ่งยากที่จะห้ามได้ รัฐบาลจะยิ่งเสียศูนย์
ในยามที่ง่อนแง่นเอาตัวไม่รอด จึงต้องยอมตัดไฟแต่ต้นลม รักษาสภาพรัฐบาลที่แผลเต็มตัวเอาไว้ก่อน ไม่พร้อมปะทะกับทีมชาวบ้านกระบี่เทพา การเจรจาและยอมลงนามข้อตกลงกับกลุ่มคัดค้านที่หน้า UN อย่าให้ได้เคลื่อนทัพมาทำเนียบรัฐบาลจึงเกิดขึ้น
ชัยชนะครั้งนี้จึงเกิดจากพี่น้องทั้งประเทศ ที่ช่วยกันกระแนะกระแหนหรือวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องจนอำนาจรัฐทหารเผด็จการที่มีอยู่เป็นขาลงอย่างหนัก จนไม่พร้อมจะเปิดศึกหลายด้าน รัฐบาลไม่ได้คิดจะยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้วหันมาสนับสนุนพลังงานสะอาดหรอก แต่ทำเพราะความจำเป็น สถานการณ์บังคับ
หากรัฐบาลตาสว่างจริง และมีจุดยืนสร้างประเทศไทยสู่การก้าวไปสู่พลังงานหมุนเวียนจริง ก็ต้องประกาศสนับสนุนการติดโซลาร์รูฟตามบ้านเรือนทุกหลัง เพื่อให้ประชาชนพึ่งตนเองด้วยพลังงานให้มากที่สุด สนับสนุนนโยบาย net-metering คือหากบ้านไหนผลิตไฟได้เกิน สามารถขายไฟเข้าสายส่งได้ ให้มิเตอร์หมุนกลับได้ รวมทั้งสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเป็นต้น นั่นหมายความว่า "renewable energy come first" หรือเลือกใช้เลือกผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนก่อน แต่นโยบายเช่นนี้ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรม
ชัยชนะในครั้งนี้ จึงเป็นชัยชนะจากกระแสหลากหลายที่วิพากษ์รัฐบาลของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ทั้งที่คัดค้านไม่เอาถ่านหิน หรือทั้งที่นินทาหรือต่อสู้กับอำนาจรัฐอันไม่ชอบธรรมในประเด็นอื่นๆมาตลอด จนทำให้อำนาจรัฐปวกเปียก และเกิดเป็นชัยชนะของพี่น้องกระบี่และเทพาในวันนี้
ภารกิจของภาคประชาชนยังมีอีกยาวไกล ความทุกข์ยากของพี่น้องคนไทยที่ถูกริดรอนสิทธิและถูกรุกรานแย่งชิงฐานทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัวยังมีอีกทั่วแผ่นดินไทย กระบี่-เทพาเป็นเพียงหนึ่งเรื่องร้อนของยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ภารกิจของประชาชนสามัญชนอย่างเราๆจึงยังต้องสามัคคีรวมพลังกันอีกยาวไกล....

อ้างชื่อ "ป.ป้อม"

อ้างชื่อ "ป.ป้อม"
"บิ๊กตู่ "เผย "บิ๊กป้อม" ประกาศ กลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถ้ามีใครอ้างชื่อ สั่งนั่นสั่งนี่ เรื่องผลประโยชน์ ให้รีบบอกท่านได้เลย อย่าไปเชื่อ ใครมาอ้าง ป.ปลา ป.แปะ บอกท่านเลย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในหลายจังหวัด ว่า เรื่องการทุจริตในเรื่องดังกล่าว พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รายงานให้ตนรับทราบ ว่ามีการตรวจสอบทุจริตตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งกำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ปรากฏว่าล่าช้า ก็ต้องไปดูว่าทำไมล่าช้าในเมื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ต้องไปดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง
โดยตนได้สั่งการไปว่าจะต้องลงโทษทุกคนที่มีหลักฐานเกี่ยวข้อง เรื่องที่เกิดเราก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องไปตรวจสอบ เพราะการเซ็นต์รับเงิน การเบิกจ่ายเงินนั้น ต้องทำเป็นกระบวนการและมีคนข้างในร่วมมือ สิ่งเหล่านี้เกิดมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะรัฐบาลนี้จะเข้ามา

"นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ปัญหา ทั้งรัฐบาล ส่วนราชการ หน่วยงานที่ตรวจสอบ ตัวผู้ปฏิบัติงานต้องมีจิตสำนึก ผมก็ไม่คิดว่าจะกล้าทำขนาดนี้ หากตรวจสอบพบตามหลักฐานที่มีอยู่ ใครที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หรือคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่หากปล่อยปละละเลยก็ต้องลงโทษทางวินัย ผมเตือนทุกกระทรวง
ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ประกาศในที่ประชุมครม. ว่าหากใครมาแอบอ้าง ป. ปลา ไปสั่งการโน่นนี่ แจ้งมาได้เลย หรือบอกไปที่ตัวพล.อ.ประวิตร เองได้เลย ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็จะดูแลและรักษาความลับให้ ฉะนั้นอย่าไปเชื่อ คนที่มาแอบอ้าง ป.ปลา ป.แปะ อะไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ควรให้กระทรวงพม.ปรับเปลี่ยนวิธีการเบิกจ่ายเงินหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปดู เพราะมีหลายส่วนร่วมกัน ทั้งข้าราชการเลวๆ ประชาชนกลุ่มหนึ่งที่อยากได้เงิน ตนไม่อยากจะพูด สมัยก่อนมีคนจากฝ่ายการเมือง เอาโครงการที่เขาอ้างว่าไปดูแลคนจน เอางบประมาณต่างๆ ลงไป ลงไปถึงตรงไหนก็ตรงนั้น ไม่ใช่แค่กระทรวงนี้ด้วย เอาโครงการลงไป แล้วไปหาคนที่อยากได้ก็เอาเข้ามาเสนองบ แล้วก็มีข้าราชการที่ไม่ดีร่วมมือ

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

"บิ๊กตู่" ชี้ยุคนึ้ 4.0 ติงสนใจแต่โหราศาสตร์
ฮวงจุ้ย โยง อ่างบัวแตก กับโคมจีน แก้เคล็ด ชี้เป็นอุบัติเหตุ ตำรวจถอยรถชน แปลกใจ มีใบขับขี่หรือเปล่า ฝากตำรวจไปถามสิ เกือบจะเรียกมาถามแล้ว ส่วน คนปักธูป36 ดอก หวังต่อต่อบ้านเมือง แต่ยัน ผมไม่ได้ สั่งให้มาปัก กระถางข่อยแตก เพราะเก่าแล้ว
พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช.ได้กล่าวถึงอ่างบัวแตก กระถางแตก รวมถึง การปักธูป36ดอกในทำเนียบรัฐบาล ว่า ขออย่าไปมองเรื่องไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ หรือ ฮวงจุ้ย อย่างเดียว
"วันนี้มัน4.0 แล้ว แต่เราไม่ได้ไปลบหลู่ เพราะถือเป็นเรื่องธรรมชาติ
"ผมว่าจะเรียกตำรวจ คนที่ถอยรถชนอ่างบัวมาถามแล้วว่า ถอยรถยังไง มีใบขับขี่หรือเปล่า อ่างบัวอยู่ห่างถนน ตั้งเกือบเมตรถอยไปชนได้ไง คงจะ ฝากตำรวจไปดูด้วยว่าสอบใบขับขี่มาได้อย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องอุบัติเหตุ"
ส่วนกรณีกระถางข่อย แตก เพราะ มันเก่าตั้งแต่ชาติไหนแล้ว กระถางเก่าพร้อมจะแตกอยู่แล้ว พอต้นข่อยเริ่มขยายมากขึ้นเรื่อยๆก็เป็นปัญหา ตนขอ โทษคนเปลี่ยนกระถางว่าทำไมไม่เปลี่ยนกระถางสักที มันก็เลยแตก
ส่วนเรื่องธูป ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำไปปัก ไว้หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ส่วนจะดูจาก กล้องวงจรปิด นั้น คนไปปักคงไม่มาปักธูปให้กล้องเห็น
ยืนยันผมไม่ได้จะไปสั่งให้ใครมาปักธูป ผมไม่สั่งอะไรแบบนี้หรอก "
สื่อต้องนึกถึงใจของคนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลบ้างว่า ข้าราชการหลายคนอยากให้บ้านเมืองไปได้ เขาอาจจะอธิษฐาน ไม่อยากให้มีชุมนุมอีก เพราะข้าราชการเคยไม่ได้ทำงานไปหลายเดือนในทำเนียบรัฐบาล
สื่อต้องมองอย่างนี้ หลายคนเจตนาดีต่อบ้านเมือง ใครนับถืออะไรก็ไหว้ไป เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่รัฐบาลไม่เคยไปสั่งให้ใครไปทำอย่างนี้ ขอให้สื่อรู้จักแยกแยะกันบ้าง

ฮือฮา!! 2 อีกา รุมทึ้ง ศพ "นกพิราบ" หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ไทยแลนด์ 4.0
ฮือฮา!! 2 อีกา รุมทึ้ง ศพ "นกพิราบ" หน้าตึกไทยคู่ฟ้า คล้อยหลัง "นายกฯบิ๊กตู่" เดินขึ้นตึกไปได้ไม่นาน...ตีความกันวุ่น.
เมื่อเวลา 14.25 น. ขณะที่ นักข่าว เพิ่งทำข่างนายกฯบิ๊กตู่ แถลงหลังประชุม ครม. และทีมโฆษกรัฐ แถลง ได้ไม่นาน
พบว่า ที่ถนน ทางขึ้น ตึกไทยคู่ฟ้า ปรากฏ อีกาดำ 2 ตัว กำลังรุมจิก นกพิราบ
ทั้งนี้ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ก่อนหน้านั้นว่า นกพิราบ ตายได้อย่างไร แต่จากสภาพศพ นกพิราบ หัวแบน เหมือนถูกรถทับ แต่ทว่า รถในทำเนียบฯ ก็ไม่แล่นเร็ว
หรือว่า นกพิราบ เสียชีวิต มาจากที่ใด แต่ก่อนหน้านั้น นายกฯ เพื่งเดินผ่าน ขึ้นตึกไป ไม่นาน
แต่ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ ตีความกันต่างๆนานา ว่า เป็นลาง หรือสิ่งไม่ดีหรือไม่
ทั้งนี้ ปกติ "นกพิราบ" เป็นสัญลักษณ์ ของทั้ง สันติภาพ ความสงบสุข และ การสื่อสาร หรือสื่อมวลชน
และ อีกา เทียบกับ สีดำ ส่วนพิราบ เทียบเป็นสีขาว
เชิญตีความเอาตามสะดวก!!
นายกฯเพิ่ง บ่นสื่อ โยง อ่างบัวแตก กับโคมจีน แก้เคล็ด ชี้เป็นอุบัติเหตุ ตำรวจถอยรถชน แปลกใจ มีใบขับขี่หรือเปล่า ฝากตำรวจไปถามสิ เกือบจะเรียกมาถามแล้ว ส่วน คนปักธูป36 ดอก หวังดีต่อบ้านเมือง แต่ไม่รู้ใคร แต่ยัน ผมไม่ได้ สั่งให้มาปัก ชี้ ไทยแลนด์4.0 อย่ามองแต่เรื่องไสยศาสตร์ อย่างเดียว ยันไม่ได้ลบหลู่

ผมจะรับผิดชอบเอง

ผมจะรับผิดชอบเอง
"บิ๊กป้อม" แฉ กลุ่มป่วน จ้องล้มรัฐบาล คสช. มีมากกว่า3 กลุ่ม สั่งจับตา ไม่สน7ล้านชื่อAmnesty International ยันตัองยึดกม.คุมม็อบ เคลื่อนไหว. ยังไม่มีข้อมูลเพิ่ม ท่อน้ำเลี้ยง ยันชุมนุม22กพ.ไม่มีปัญหา ผมจะรับผิดชอบเอง
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประกาศยกระดับการชุมนุมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่า ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย และต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงยังใช้มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเหมือนเดิม ไม่มีแผนเพิ่มมาตรการอื่นๆ
ส่วนแผนดาวกระจายของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไปจัดการชุมนุมต่างจังหวัด พลเอกประวิตร กล่าวว่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนการที่Amnesty International รวบรวมรายชื่อกว่า 7 ล้านคนทั่วโลกเพื่อคัดค้านรัฐบาลไทยดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม พลเอกประวิตร กล่าวว่า ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของเรา ต่างประเทศก็ทำอะไรไม่ได้ เราอยู่ด้วยกัน เรากำหนดกฎหมายขึ้นมา เราก็ต้องใช้กฎหมายของเรา
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่จะครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร พลเอกประวิตร กล่าวว่า จะไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะคนไทยรู้อยู่แล้ววว่า คสช. ทำทุกอยากให้เกิดความสงบ แต่ที่ไม่สงบเพราะสื่อถาม ตอนนี้ไม่มีอะไร ทุกอย่างสงบดี ประชาชนอยู่ดีกินดี
สำหรับการจับตา 3 กลุ่มการเคลื่อนไหว และท่อน้ำเลี้ยง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อมูล แต่อาจจะมีมากกว่า 3 กลุ่ม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ให้ความมั่นใจว่า จะรับผิดชอบเอง ไม่เป็นไร

"บิ๊กตู่"แช่ง คนโกหก มีผลชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า

"บิ๊กตู่"แช่ง คนโกหก มีผลชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า ถามไม่กลัวบาปหรือ? แนะมี"หิริ โอตัปปะ" ชี้ แนะบอก ตัวเองก็อย่าทำชั่ว
พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ เดินอีเว้นท์ ทำเนียบ ป้ายรณรงค์ เนื่องใน วันมาฆบูชา
ระบุว่า”โกหกไม่ดี เป็นบาปนะคะ”
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “ใช่แล้ว การโกหกเป็นบาป
ในวันนี้หลายคนก็โกหกด้วย อยากถามว่าไม่กลัวบาปหรืออย่างไร ซึ่งผลของการโกหก ก็จะเกิดในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า
ทุกคนต้องเกรงกลัวต่อบาป ประเทศไทยเองก็ต้องมี "หิริ โอตัปปะ" คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ตัวเองก็จะได้ไม่ทำความชั่ว ตัวเองไม่ต้องบอก คนอื่น ขอให้บอกตัวเอง”

ไหลมาถึงจุดได้เสียว

ไหลมาถึงจุดได้เสียว


กระถางต้นข่อยแตกซ้ำตามรอยอ่างบัวทำเนียบรัฐบาล
ทำเสียงร่ำลือรัฐบาลขาลงต่อเนื่อง
ล่าสุดแม้แต่เรื่องนักเรียนเซนต์คาเบรียลประท้วงไล่ผู้บริหารทุจริต ก็ยังไม่วายถูกโยงเป็นเกมซ้ำ ย้ำกระแสปมนาฬิกาของศิษย์เก่าคนดังอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม
ตามฉากที่ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตนายทหารคนสนิท “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการต่อต้านการทุจริตฯ โผล่มาร่วมแจมเวทีปราศรัย พูดเป็นนัยชื่นชมเด็กๆมีพลังและความกล้าในการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
จะทำให้ในอนาคต เราจะมีบุคคลที่มีคุณภาพในสังคมไทย ในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และการทุจริตคอร์รัปชัน
ทั้ง “สคริปต์” ทั้ง “ตัวละคร” มันก็เร้าสถานการณ์ตามท้องเรื่อง
ฟังยังไงมันก็โยงเข้าเหลี่ยมกระแทก “พี่ใหญ่” ทีมเสือตะวันออก
โดยรูปการณ์เร่งเครื่อง กะน็อก “บิ๊กป้อม” ให้ได้ใน 1–2 ยกนี้
ท่ามกลางเงื่อนไขสถานการณ์เขย่าแรงกระเพื่อม ก่อชนวนโหมเชื้อไฟ ตามการยกระดับความเคลื่อนไหวของขบวนการ “อยากเลือกตั้ง” ที่เป็นการสนธิกำลังกันระหว่างกลุ่ม Start Up People กลุ่ม We Walk แนวร่วมพันธมิตรฯอย่างนายวีระ สมความคิด และขุมข่ายเสื้อแดง นปช.อย่างนายสมบัติ บุญงามอนงค์
ตั้งธงระดมม็อบปักหลักถาวร กาง “โรดแม็ป” กดดันอย่างชัดเจน
เป็นอะไรที่ทำให้ท็อปบูตเริ่มนั่งกันไม่ติด
อาการแบบที่ “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และ “เสธ.ต๊อด” พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ต้องช่วยกันเคลียร์ปมล่อแหลมที่มีการแชร์คลิปในโซเชียลมีเดีย
โดยตัดต่อเหตุการณ์ตำรวจปะทะม็อบ กปปส.เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แล้วอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมของนักศึกษา ที่ทำกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังจังหวัดขอนแก่น
เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแผนของพวกที่ต้องการก่อไฟให้เกิดชนวน “น้ำผึ้งหยดเดียว”
สถานการณ์ไหลมาถึงจุดได้เสียว
“ศึกนอก” จ่อประชิด “ศึกใน” ก็จ้องหักลำ
ทำให้ “บิ๊กป้อม” ต้องขยับกระชับดาบอำนาจพิเศษในมือ
สั่งหน่วยงานความมั่นคงจับตาความเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวของ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย การปรากฏตัวของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ความเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำมวลชน รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
เบื้องต้นยุทธการไล่บี้ไล่เช็กเส้นทางท่อน้ำเลี้ยงยกระดับเข้มข้นแน่
และคนที่จะ “ถูกหวย” ก่อนใคร น่าจะรายของ “เสี่ยเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดมีการปล่อยกระแสออกมาจากคนในค่ายเดียวกัน
อ้างว่าเป็นชื่อที่ “นายใหญ่” เคาะโต๊ะ
มอบธงให้เป็นผู้นำ “ขัดตาทัพ” สลับฉากแทนตัวเต็งอย่าง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ที่โดนแรงเสียดทาน ยากจะฝ่าแรงต้านจากกลุ่มก๊วนในพรรคเพื่อไทย
ในสถานการณ์ช่างบังเอิญพอดิบพอดี
“เสี่ยเพ้ง” ถูกเพื่อน “ถีบ” ออกมารับบาทา
ตามอาการยั่วท็อปบูต แบบที่อดีตนายกฯทักษิณกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ บินโฉบออกจากฮ่องกงมาปักหลักอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ จ่ออยู่หน้าประตูประเทศไทยอีก 1 สัปดาห์
จัดโปรแกรมนัดพบปะนักธุรกิจ โชว์วิชั่นตามฟอร์ม “ยกตนข่ม” ไว้ก่อน
เพราะถึงตอนนี้อ่านไต๋กันได้ง่ายๆ “ทักษิณ” ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้กระแสไหลตามสภาพการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยภายใต้การนำของกัปตันทีมชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ที่กำลังไต่ระดับติดลมบน
ผู้คนเริ่มเชื่อมั่น นักลงทุนเชื่อมือ
ตามสถิติตัวเลขที่ยืนยันสวนทางกับที่นักการเมืองด่ากันลอยๆ
ล่าสุดคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 ของปี 2560 ที่ผ่านมา ขยายตัว 4 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยทั้งปี 2560 การเติบโตอยู่ที่ 3.9 เปอร์เซ็นต์ ตรงตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และคาดปี 2561 เศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4.1
ขนาดรุมเตะตัดขาเต็มที่ “สมคิด” ยังลากไปถึงจุดหมายจนได้.
ทีมข่าวการเมือง

จะเปลี่ยนเขาได้หรือ

เราจะเปลี่ยนแบบเขาหรือ ?

"บิ๊กตู่" เตือน อาจารย์ สอนนศ.ให้ทะเลาะขัดแย้งกัน  ชี้ อย่าเร่งเปลี่ยนแปลง  ยก ตปท.บาดเจ็บและสูญเสียไปเท่าไหร่ กี่แสนกี่ล้านคน ถาม แล้ว เราจะเปลี่ยนแบบเขาหรือ เชื่อเปลี่ยนแปลงในทางที่สงบได้ วอนอดทนหน่อย บ้านเมืองมีปัญหาพอสมควรแล้ว อย่าให้มีอีก/ ยัน ทำงานเพื่อชาติต่อ ใครไม่เห็นค่า ก็ช่างเขาเหอะ

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวในโอกาส สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2561ว่า สาระสำคัญของศาสนาพุทธคือ สังคมแห่งความปรองดอง สังคมแห่งสันติสุข ศาสนาพุทธสอนแบบนี้

"ไม่ได้สอนให้มาทะเลาะขัดแย้งกัน มีอะไรก็พูดจาหารือกันนั้นแหละสังคมไทย ใครที่ไม่ได้ทำให้สังคมเป็นแบบนี้ก็แย่ เข้าใจไหม 

ลุงก็ทำให้พวกเรา ไม่ได้ทำให้คนอื่น เรียนหนังสือเก่งแล้วก็ขอให้เป็นคนดีด้วย อดทนหน่อย บ้านเมืองมีปัญหาพอสมควรแล้ว อย่าให้มีอีกเลย"
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เด็กทุกคนเหมือนผ้าขาวที่พับไว้ โดยเป็นผ้าที่บริสุทธิ์ ซึ่งจะเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ผ่านการสั่งสอนจากครอบครัวและครูบาอาจารย์ 

"เพราะฉะนั้นครูอาจารย์ ก่อนที่จะสอนอย่างอื่น จะต้องสอนให้เด็กอยู่ในกรอบศาสนา อยู่ในศิล ในธรรม อย่าไปสอนเรื่องความขัดแย้งก่อน ไม่เช่นนั้นผ้าขาวจะไม่บริสุทธิ์ เพราะบางครั้ง พื้นฐานหลักคิดของเด็กยังมีไม่เพียงพอ ถ้าไปรับหรือสอนแนวคิดแบบต่างประเทศ ก็จะไปกันใหญ่ทั้งหมด เพราะเด็กคือพลังสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งจะต้องขับเคลื่อนในทางที่ถูกและดี "
 
“วันนี้ผมเป็นห่วงนักศึกษา ที่ออกมาเคลื่อนไหว ถามว่า การที่ไปเอาหลักการของต่างประเทศเข้ามา และต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่ลืมดูไปว่าตอนที่ต่างประเทศเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น มีการบาดเจ็บและสูญเสียไปเท่าไหร่ กี่แสนกี่ล้านคน แล้วเราจะเปลี่ยนแบบเขาหรือ เพราะเราเองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทางที่สงบ ในทางที่ไม่เกิดความขัดแย้งสูญเสีย  

ผมจึงขอฝากครูอาจารย์ที่ออกไปสนับสนุนด้วย อย่าสอนเด็กเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งหลายท่านเองก็ไม่เคยทำงานทำการ จบด้านวิชาการ ออกมาแล้วก็ไปสอน 

และขอฝากสื่อด้วยว่า อย่าไปขยายข่าวแบบนี้ให้มากนัก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ครูต้องสอนให้สังคมเกิดความสงบ จะใช้วิธีการใดนั้นผม ไม่รู้ อย่าเอาแค่แบบอย่างของต่างประเทศมาเท่านั้น เพราะเขาได้บาดเจ็บสูญเสียล้มตายไปเท่าไหร่ เนื่องจากความไม่พร้อม 

วันนี้ของเราพร้อมอยู่แล้วเราต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ที่ประเทศมีความสงบเรียบร้อย ซึ่งดีกว่าไม่ใช่หรือ ขอร้องว่าอย่าฝืนกฎหมายกันอีกเลย ขอให้ช่วยดูแลสังคม

ยัน ทำงานเพื่อชาติต่อ ใครไม่เห็นค่า ก็ช่างเขาเหอะ