PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

'ญาติวีรชน' เปิดเวทีสาธารณะรับฟังเสียงวิจารณ์ร่างนิรโทษฯ



กลุ่มญาติวีรชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม2553 จัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  ที่มีต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับญาติวีรชน 
 
 
นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อน้องเฌอ ระบุ  ญาติจำเป็นต้องร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ขึ้นมา  เนื่องจากร่างกฎหมายของนายวรชัย  เหมะ ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง ที่เสนอ และพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน  เข้าสู่ที่ประชุมสภานั้น  ในเนื้อหาของร่างกฎหมาย ไม่ได้กล่าวถึงทหารผู้ปฏิบัติการ  จึงเกรงว่าจะเป็นช่องว่างให้มีการนิรโทษกรรมทหารกลุ่มดังกล่าว  ที่เป็นต้นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 100 ราย  และบาดเจ็บกว่า  2 ,000 คน  กลุ่มญาติจึงจำเป็นต้องร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ขึ้น
 
 
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนอนวันอาทิตย์สีแดง ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญตินิรโทษกรรมว่า ทุกฝ่ายมีสิทธิ์เสนอเข้ามา  ขณะที่เขายังสนับสนุนร่างของนายวรชัย เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักคือช่วยเหลือประชาชนที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ทางการเมือง
 
 
จากการรับฟังความคิดเห็นในวันนี้  กลุ่มญาติวีรชนจะนำข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ไปปรับปรุงเพิ่มเติมในร่างพระราชญญัตินิรโทษกรรมฉบับญาติวีรชนให้สมบูรณ์ เพื่อผลักดันให้เกิดกฎหมายนิรโทษกรรมที่ชอบธรรมให้แก่ทุกฝ่าย

“สุรยุทธ์” เมิน “คลิปถั่งเช่า” แค่เรื่องเก่า-ไม่อยากรื้อฟื้น ยันไม่ได้หนุนม็อบโค่นระบอบทักษิณ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์25 กรกฎาคม 2556 14:07 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)

องคมนตรีปาฐกถาพิเศษงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ เผย “ในหลวง” รับสั่งดูแลโรงเรียนพื้นที่ชายขอบ สร้างเด็กอย่างไรให้เป็นคนดี พร้อมทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์นำไปปรับปรุงระบบการศึกษา อีกด้านเผยถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียง “ทักษิณ-ยุทธศักดิ์” แค่เรื่องเก่า ไม่อยากพูดถึง มองแค่รุ่นน้องที่ดี หนุนปรองดอง-ให้อภัย ยันไม่ได้อยู่เบื้องหลังม็อบโค่นทักษิณ
      
       

      
       วันนี้ (25 ก.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความซื่อตรง…กับทางรอดประเทศไทย” ระหว่างงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ตอนหนึ่งว่า ตนไม่ใช่นักวิชาการและไม่คิดว่ามีคุณธรรมสูงส่ง แต่อยากนำเสนอเรื่องราวในฐานะผู้ปฏิบัติและมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างชาติ สร้างไทย สร้างใจซื่อตรง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสแก่องคมนตรี เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ปีที่ผ่านมา เรื่องการแก้ไขปัญหาการศึกษาของไทยที่เป็นพื้นฐานสำคัญ โดยแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำเนินการต่อเนื่องคือการพัฒนาคนอย่างมาก โครงการอันสืบเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เป็นปัจจัยช่วยเสริมให้คนมีความพร้อม
      
       “ในหลวงห่วงใยเป็นอย่างมาก โดยมีรับสั่งโดยสรุปว่า 1. ทรงรับสั่งให้องคมนตรีดูแลโรงเรียนในพื้นที่ชายขอบ ที่มีมาตรฐานการศึกษาต่ำกว่าในชุมชนหรือเขตเมือง โดยจะทำอย่างไรให้ลดช่องว่างความแตกต่างลง 2. ทรงเน้นว่าจะสร้างเด็กอย่างไรให้เป็นคนดีก่อน และให้คนเก่งมาทีหลังก็ได้ 3. การจะสร้างเด็กให้เป็นคนดีได้นั้น ความสำคัญอยู่ที่ครู ต้องมีความพร้อม ทำอย่างไรจะให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู ให้เกิดความผูกพัน มีการอบรมสั่งสอน คุณธรรม จริยธรรมและความรู้ให้เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ที่รับสั่งว่าเป็นเงินของประชาชนที่พระราชทาน และพระองค์ทรงเก็บไว้และพระราชทานคืนผ่านองคมนตรี เพื่อนำไปปรับปรุงระบบการศึกษา จากนั้นได้พระราชทานแนวทางต่อคณะองคมนตรีจึงได้เชิญสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามมกุฎราชกุมารี เป็นที่ปรึกษาในกองทุนนี้ โดยดำเนินการในพื้นที่ภาคกลางก่อน 8 จังหวัด” พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว
      
       พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนั้นเรายังได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาครูขอย้ายกลับภูมิลำเนา หลังจากทำงานได้ 2 ปี เพราะจะทำให้เกิดปัญหาไม่ต่อเนื่องในการเรียนการสอน โดยเราได้ไปเข้าขอความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหลายแห่ง และไปพบนักศึกษาเพื่อดูความสมัครในการมาเป็นครูสอนในภูมิลำเนา โดยเราให้ทุนการศึกษาและสำเร็จการศึกษา โดยบรรจุเป็นครูอัตราจ้างในพื้นที่แล้วรวม 13 คน ซึ่งทำให้ลดปัญหาเรื่องบ้านพักครู ที่ขณะนี้พบว่ามีความแออัด และทรุดโทรม อย่างไรก็ตาม จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องการให้โรงเรียนมีความสำคัญ ถ้าทุกภาคส่วนช่วยกันก็จะทำให้เกิดสังคมคุณภาพ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพราะจะมีคนดีและมีความรู้ นำมาปรับใช้ในโรงเรียนต่างๆ นอกจากนี้ ต้องสอนให้เด็กเยาวชนรู้จักความหมายของคุณธรรม และจริยธรรมอย่างถูกต้อง ซึ่งหมายถึง คิดดี พูดดี ทำดี ขณะเดียวกัน คือ 3 สถาบันหลัก คือ ครอบครัว โรงเรียนและ วัด ต้องร่วมมือกันปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรม ควบคู่ไปด้วย
      
       จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.สุรยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกพาดพิงในคลิปเสียงคล้ายเสียงสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ว่าเป็นเรื่องเก่าในสมัยที่ตนยังรับราชการอยู่ ซึ่งผ่านมานานแล้ว และเป็นเรื่องที่ตนเองลืมไปแล้วไม่อยากพูดถึงอีก และไม่ควรฟื้นฝอยหาตะเข็บ ส่วนคลิปเสียงที่ออกมาจะกระทบต่อความสัมพันธ์กับผู้บัญชาการเหล่าทัพหรือไม่นั้น ตนไม่ได้ศึกษารายละเอียด แต่คิดว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าควรจะทำอย่างไรถึงจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและตัวเอง ถ้าทุกคนคิดอย่างนั้นก็จะเป็นประโยชน์ ส่วนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อเราจะแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งเป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
      
       เมื่อถามถึงข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถตอบได้ เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่มีโอกาสพบและพูดคุย แต่ในฐานะคนรู้จัก และ เขาเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง ก็เป็นเรื่องความผูกพันที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ตนไม่มีอะไรจะฝากไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคิดว่าทุกคนรู้ว่ามีหน้าที่จะต้องทำอะไร เมื่อถามถึงกระแสข่าวการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ตนพ้นมานานแล้ว และไม่ได้สนใจ อีกทั้งไม่ได้เข้าไปติดตาม ดังนั้นจึงให้คำตอบไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ติดตาม และยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด
      
       เมื่อถามถึงการสร้างความปรองดองด้วยการล้างผิดให้ทุกฝ่ายแล้วมาเริ่มต้นใหม่ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่งที่จะช่วยกันพิจารณา ส่วนวัฒนธรรมประเพณีของเรา เป็นเรื่องหนึ่งที่คิดว่าการปรองดองเป็นสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ สิ่งใดที่สามารถอภัยให้กันและกันได้ก็เป็นสิ่งทีดี เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีความวุ่นวายอยากจะขอร้องอะไรหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะขอร้อง เพราะตนมีหน้าที่ติดตามเท่านั้นในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีความรัก อยากเห็นบ้านเมืองของเราเจริญก้าวหน้าต่อไป ส่วนที่มีความคิดเห็นแตกต่างของหลายฝ่ายนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ ทุกสังคมมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่เฉพาะสังคมของเรา เช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีปัญหาเรื่องสีผิว ส่วนอียิปต์ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อ ซึ่งทุกประเทศมีปัญหาภายในของตนเอง แต่เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร นั่นคือเรื่องที่พวกเราควรพิจารณา
      
       เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มคณะเสนาธิการทหารร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบ หากการแสดงออกไม่ใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ตนไม่สามารถคาดเดาได้ ส่วนที่แกนนำกลุ่มดังกล่าวมี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียนทหารรุ่น 1 ร่วมอยู่ด้วยนั้น ตนไม่ได้พบ พล.ร.อ.ชัย มานานแล้ว ตั้งแต่เกษียณอายุราชการ แต่เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน ส่วนการทำงานทางการเมืองหรือการเคลื่อนไหวของ พล.ร.อ.ชัยเป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับตน ส่วนที่มีการพาดพิงว่าตนอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวนั้น ตนไม่มีอะไรชี้แจง ความจริงคือความจริง ตนมีงานและมีหน้าที่ของตน สิ่งที่ตนพูดคือสิ่งที่ตนทำอยู่ในขณะนี้ สำหรับที่มีการมองว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายการเมืองกลัวตนนั้นตนไม่ทราบ และไม่ต้องการทำให้ใครมากลัวตน สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้ปัญหาของชาติบ้านเมืองลดลง

“กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” ดีเดย์ม็อบ 4 สิงหา ที่บางกอก!! อุบจุดนัดพบ ลั่นไม่ปะทะแดง".

แนวร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ นัดเสนาธิการถกก่อนคลอดแถลงการณ์ สั่งตั้งมวลชนแต่ละจังหวัดเข้าชุมนุม กทม. “4 ส.ค.” ยังอุบเจอกันที่ไหน เตรียมใช้กฎหมายเล่นพวกสกัดม็อบ ยันไม่เผชิญหน้าแดง แต่เลื่อนเปิดตัวอดีตบิ๊กท็อปบูตร่วม

วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ห้องศิวะรา ราชตฤณมัยสมาคมฯ เมื่อเวลา 09.00 น. “แนวร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” ในแต่ละจังหวัด ร่วมประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนมวลชนในการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยมีกลุ่มเสนาธิการร่วม อาทิ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตแกนนำเครือข่ายคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน นายไทกร พลสุวรรณ เข้าร่วมเป็นแกนนำประชุม โดยใช้เวลาหารือประมาณ 5 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายไทกรได้อ่านแถลงการณ์กองทัพประชาชนฯ ระบุว่า ที่ประชุมวิเคราะห์สถานการณ์ที่รัฐบาลเคยใช้กลไกของหน่วยราชการ ทั้งตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ในการสกัดกั้นการชุมนุมของประชาชนที่ผ่านมา ซึ่งนำประสบการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่ม อพส.ที่ผ่านมามาเป็นบทเรียน เพื่อสรุปและวางมาตรการตอบโต้อย่างสันติและเป็นไปตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติร่วมกัน คือ 1. ให้กองทัพประชาชนฯ ในแต่ละจังหวัด จัดตั้งมวลชนเพื่อมาเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 4 ส.ค. และ 2. การชุมนุมครั้งนี้เป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณ จึงให้ในแต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อมสูงสุดในการระดมมวลชนเข้าร่วมเป็นระยะ

ส่วนที่กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้มีการจับตาการเคลื่อนไหวในพื้นที่นั้น นายไทกรกล่าวว่า กองทัพประชาชนฯเตรียมใช้มาตรการด้านกฎหมายกับข้าราชการคนใดที่ทำลายสิทธิของประชาชนในการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ เพราะทางกลุ่มกำหนดยุทธวิธีที่จะชุมนุมอย่างสงบและสันติ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 3 ส.ค.ที่หน้ารัฐสภานั้น ถือว่าเป็นสิทธิ เราก็จะทำของเราและเราจะไม่เผชิญหน้ากับใคร

เมื่อถามถึงสถานที่ชุมนุมในวันที่ 4 ส.ค.นั้น นายไทกรกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากการร่วมหารือกับกลุ่มเสนาธิการแล้วเห็นว่าหากเปิดเผยไปจะทำให้รัฐบาลวางแผนรับมือเพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหว จึงเสนอได้ได้เพียงยุทธศาสตร์ คือ โค่นล้มระบอบทักษิณเท่านั้น แต่จะไม่เสนอยุทธวิธี แต่ยืนยันว่าสถานที่ชุมนุมคือกรุงเทพมหานคร อีกทั้งการชุมนุมจะสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ถึงการเปิดตัวอดีตนายทหารที่จะสนับสนุนการชุมนุมตามที่ได้ระบุมาก่อนหน้านี้นั้น นายไทกรกล่าวว่า จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีอดีตนายทหารเข้าร่วมกว่า 30 นายนั้น ขณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ยังติดขัดเรื่องการประสานงานนัดหมาย จึงต้องเลื่อนออกไปและจะเปิดตัวให้ทราบเมื่อมีความพร้อ

มีรายงานว่า ระหว่างการประชุมได้มีการหารือถึงการระดมมวลชนในแต่ละจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น จ.นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี และกทม.ในเขตหนองจอก มีนบุรี ซึ่งมีแนวทางที่จะเข้าไปทำความเข้าใจ โดยใช้เรื่องปัญหาน้ำมันแพง และค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นเหตุผลในการชักจูงเข้าร่วมชุมนุม อีกทั้งจะมีการเปลี่ยนยุทธวิธี จากเดิมที่ใช้ขบวนแรลลี่ แจกใบปลิวทำความเข้าใจถึงการบริหารงานที่มีการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล เป็นการเดินเท้าเคาะประตูตามบ้าน รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย และโลกออนไลน์ ซึ่งจะไม่มีการแบ่งแยกสีเสื้อ หรือกลุ่มใด หากมีเป้าหมายเดียวกันก็จะชวนเข้าร่วมชุมนุม โดยตั้งเป้าว่าเมื่อเรียกระดมพลครั้งแรกในวันที่ 4 ส.ค.จะต้องมีมวลชนเข้าร่วมอย่างน้อย 3 หมื่นคน

ขณะที่นายสุทิน ธราทิน คณะทำงานกองทัพประชาชนฯ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมแกนนำในแต่ละอำเภอทั่วประเทศ ถึงความคืบหน้าในระดมมวลชนเข้าร่วมชุมนุม โดยในวันที่ 28 ก.ค.จะประชุมกลุ่มภาคเหนือตอนบนที่ จ.เชียงใหม่ ภาคอีสานตอนบนที่ จ.ขอนแก่น กทม. ภาคตะวันตกและภาคกลางที่ กทม. และภาคใต้ตอนบนที่ จ.สุราษฎร์ธานี และวันที่ 29 ก.ค.จะประชุมกลุ่มภาคเหนือตอนล่างที่ จ.พิษณุโลก ภาคใต้ตอนล่างที่ จ.สงขลา อีสานตอนล่างที่ จ.นครราชสีมา และภาคตะวันออกที่ จ.ระยอง

http://astv.mobi/AowEG2x

พ่อปันปัน ยอมรับ ลูกเสพยาจริง



ด้าน GTH ตัดบทHormones The Seriesปันปันออก

หลังจากที่มีภาพหลุดช็อคใจชาวเน็ตของ นักแสดงวัยใส 'ปันปัน สุทัตตา' สร้างความฮือฮาอยู่ในเวลานี้นั้น ความคืบหน้าล่าสุดทางผู้บริหาร GTH โดย 'สิน ยงยุทธ ทองกองทุน' รวมถึงผู้กำกับ 'ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์' ได้ออกแถลงข่าวกรณีดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นได้มีข้อสรุปออกมาว่า

     จะทำการตัด Hormones The Series ตอนที่น้องปัน ปันร่วมแสดงไป 1 ตอนตามความต้องการของคุณพ่อน้องปันปัน

     ทั้งนี้ทางด้านของ 'ย้ง ทรงยศ' ยอมรับตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการพูดคุยกับทางด้านของคุณพ่อน้องปันปันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คุณพ่อบอกว่าเขาอยากให้ลูกสาวคนเดิมของเขากลับมา อยากให้ทุกคนให้โอกาสน้อง ตอนนี้คุณพ่อน้องอยากให้น้องหยุดพักงานระยะหนึ่งก่อน ซึ่งทางเราเห็นตามความเหมาะสมของครอบครัวน้อง แต่อย่างไรก็ตามน้องเจอเรื่องมาเยอะ จึงขอให้กำลังใจน้องต่อไป

ปปส.ให้ครอบครัวติดต่อตรวจปัสสาวะ

ด้านพลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้สัมภาษณ์กับไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงข่าวของนักแสดงสาว" ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์" ยอมรับว่าเคยเสพยาไอซ์ระบุว่า ขณะนี้ปันปันยังไม่มีความผิดเพราะจากการให้สัมภาษณ์ของคุณพ่อปันปันระบุว่าเป็นการลองเสพแค่ครั้งเดียว หลังจากนี้แนะนำให้ครอบครัวพาปันปัน สุทัตตา มาตรวจปัสสาวะเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ที่คณะกรรมป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หากพบว่าปัสสาวะมีสีม่วงก็จะเข้าสู่กระบวนการบำบัด หากไม่ปรากฏสีม่วงถือว่าไม่เป็นผู้ติดยาเสพติด แต่ระหว่างนี้จะประสานกับครอบครัวปันปันเพื่อมาให้ข้อมูลว่ามียาเสพติดไว้ในครอบครองได้อย่างไร

รถไฟความเร็วสูงที่สเปน ตกรางขณะทำความเร็วที่ 190 กม./ชม. ผู้โดยสารเสียชีวิตกว่า 77 ศพ บาดเจ็บกว่า 140 คน

ขบวนรถไฟด่วนซึ่งประกอบด้วยตู้โดยสาร 8 ตู้ และตู้เครื่องยนต์ 2 ตู้ ที่เดินทางมาจากรุงมาดริดมุ่งหน้าไปยังเมืองเฟอร์รอล ประสบอุบัติเหตุตกรางใกล้กับเมืองซานเตียโก เด กอมโปสเตลา เมื่อเวลาราว 20.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น (01.42 น. วันที่ 25 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย) เป็นเหตุให้ตู้โดยสารเกยขึ้นซ้อนกันและเกิดเพลิงลุกไหม้

นายอัลแบร์โต นูเนซ เฟย์จู ประธานคณะผู้ปกครองแคว้นกาลิเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แถลงว่าขบวนรถไฟโดยสารบรรทุกผู้โดยสาร 222 คนและเจ้าหน้าที่ 4 คน ออกเดินทางจากกรุงมาดริด มุ่งหน้าเมืองเฟอร์โรล ตกรางขณะแล่นอยู่ก่อนถึงสถานีเมืองซันติอาโก เดอ กอมโปสเตลา เพียง 3 กิโลเมตร

พนักงานขับรถไฟ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุรถไฟแล่นด้วยความเร็ว 190 กม./ชม. ขณะที่ช่วงโค้งดังกล่าวควรชะลอความเร็วให้เหลือเพียง 80 กม./ชม. และมีรายงานว่าพนักงานขับรถทั้งสองรายลงไปช่วยเหลือผู้โดยสารด้วย

นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับรถไฟความเร็วสูงครั้งแรกของสเปน และเชื่อกันว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถไฟที่ร้ายแรงที่สุดในสเปนในรอบ 40 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมรถไฟเปิดเผยว่า เส้นทางรถไฟดังกล่าวได้รับการบูรณะใหม่เพื่อให้เหมาะสมต่อการให้บริการรถไฟความเร็วสูง แต่ไม่ได้ปรับปรุงระบบการให้สัญญาณ และไม่เชื่อว่ารถไฟตกรางเพราะวิ่งเกินความเร็วเท่านั้น

ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า รถไฟแล่นมาด้วยความเร็วสูงขณะเข้าโค้ง ก่อนที่จะตกรางและรถไฟบิดแล้วตู้ขบวนก็พลิกเกยกัน หลายคนถูกอัดไปที่ด้านล่าง ขณะที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บภายในก็เกิดเพลิงไหม้

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสฯนี้ถือเป็นวันหยุดสำคัญทางศาสนาประจำท้องถิ่น ทำให้ผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมายังเมืองซานเตียโก เด กอมโปสเตลาจำนวนมาก เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลเพื่อแสดงความเคารพต่อนักบุญเซนต์เจมส์ อย่างไรก็ดี สำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่นเปิดเผยว่า การเฉลิมฉลองในวันนี้จะถูกยกเลิกทั้งหมด

http://www.dailymail.co.uk/news/article-2377113/Spain-train-crash-At-77-people-killed-130-injured-Santiago-Compostela-derailment.html

http://youtu.be/o32nxuHshv4

by..@dailymail.co.uk/matichon


โปรดเกล้า พระราชกฤษฎีกา เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ

โปรดเกล้า พระราชกฤษฎีกา เปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป แล้ว เริ่ม ๑ ส.ค.๕๖