PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บิ๊กป้อม ถกGBC ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือความมั่นคงชายแดนไทย – ลาว ฉบับใหม่

บิ๊กป้อม ถกGBC ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือความมั่นคงชายแดนไทย – ลาว ฉบับใหม่ ระบุจะทำเส้นเขตแดน ให้เป็น "เส้นแห่งความร่วมมือ" ไม่ใช่อุปสรรค/ นายกฯลาว เข้าใจสถานการณ์ในไทย ลั่นจะไม่ยอมให้คนไม่ดี มาสร้างปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ จนเสียความเป็นพี่น้องระหว่างกัน
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรีและ รมว.กห.
พร้อมคณะ ประกอบด้วย พลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกลาโหม พลเอกสมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทสส. และผู้แทนเหล่าทัพ เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ
โดยมี พล.ท.แสงนวน ไซยะลาด รมว.กระทรวงป้องกันประเทศ สปป.ลาวและคณะ ให้การต้อนรับ ที่ กระทรวงป้องกันประเทศ นครหลวงเวียงจันทน์
โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือและเห็นชอบร่วมกัน ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ การฝึกศึกษา รวมทั้งความร่วมมือและการประสานงานกันในด้านต่างๆให้ใกล้ชิดมากขึ้น
พล.อ.ประวิตร ได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและความร่วมมือในการจัดระเบียบชายแดน เพื่อป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย รวมทั้งเสนอให้กองทัพทั้งสองประเทศ ร่วมกันทำเส้นเขตแดน ให้เป็น "เส้นแห่งความร่วมมือ" ไม่ใช่อุปสรรค เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศ ได้ไปมาหาสู่กันฉันท์บ้านพี่เมืองน้อง ด้วยความสะดวก ปลอดภัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตร่วมกันในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีชายแดนติดต่อกัน
จากนั้น พลเอกประวิตร.พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ นายทองสิง ทามะวง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวที่ ทำเนียบรัฐบาล โดยปรึกษาหารือร่วมกันที่จะเสริมสร้างมิตรภาพ ความเข้าใจของกองทัพและประชาชนทั้งสองประเทศให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
นายกฯ ลาว ได้กล่าวชมเชยและเชื่อมั่นในกองทัพไทยที่ได้ช่วยดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ควรร่วมกันแก้อย่างสันติวิธี โดยไม่ยอมให้คนไม่ดี มาสร้างปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ จนเสียความเป็นพี่น้องระหว่างกัน
พลเอกประวิตร ได้ใช้โอกาสนี้กล่าวแสดงความขอบคุณ ที่ นายกฯและรัฐบาลรวมทั้งประชาชนสปป.ลาว เข้าใจถึงสถานการณ์ของประเทศไทยและเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลในการบริหารประเทศ
หลังจากนั้นพลเอกประวิตร ประธานร่วมฝ่ายไทย พร้อมทั้ง รมว.ป้องกันประเทศสปป.ลาว /ประธานร่วมฝ่ายลาว ได้ประชุมคณะกรรมการกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนทั่วไป ไทย – ลาว ครั้งที่ 22 ( GBC 22 )
โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างซื่นมื่น ผลการประชุมมีความคืบหน้าในหลายประเด็นที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ร่วมกัน
โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย – ลาว ฉบับใหม่ สาระสำคัญ ยังคงยึดถือแนวทางตามความตกฉบับเดิมที่หมดอายุลง โดยปรับให้ทันสมัยและมีความอ่อนตัวมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถปรับปรุงผ่านกลไกทางการทูต
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมร่วมกันให้มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ สันติภาพ มิตรภาพและเสถียรภาพของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

คสช. เผย ส่งทหาร กกล.รส.-ตำรวจ ตรวจจับกุม โรงงานสินค้าประมง-อาหารทะเล ที่ทำผิด กม.แรงงาน ทั่วประเทศ


คสช. เผย ส่งทหาร กกล.รส.-ตำรวจ ตรวจจับกุม โรงงานสินค้าประมง-อาหารทะเล ที่ทำผิด กม.แรงงาน ทั่วประเทศ ตั้งแต่17ธค. เผย จับ โรงงานแกะกุ้ง สมุทรสาคร ที่ตกเป็นข่าวไปแล้ว ตั้งแต่9พย. ยันเพิ่มความเข้นข้น ตรวจจับ เพื่อไม่ให้ คนส่วนน้อย ทำเสียภาพลักษณ์การแก้ปัญหา ประมงผิดกม. ที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก เมื่อเทียบกับในอดีต
พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช.กล่าวขณะนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)ร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้เริ่มเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายผู้ประกอบการสินค้าประมง ที่อาจกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้
หลังจากที่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีผู้ประกอบการบางรายเริ่มจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 9 พ.ย.58 หรือเมื่อเดือนที่แล้ว จนท.โดยทาง DSI ร่วมกับ จนท.3ฝ่าย ได้เข้าตรวจ โรงงานแกะกุ้ง ที่ มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบมีผู้การกระทำความผิดจำนวน 4คน หลบหนีได้ 1 คน ฐานช่วยเหลือซ่อนเร้นให้พักอาศัยแก่บุคคลเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามความผิดของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน
หลังจากนี้ คสช.โดย กกล.รส.จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรามากยิ่งขึ้น หลังจากพบพฤติกรรมของผู้ประกอบการบางรายเริ่มเปลี่ยนแปลงไม่เชื่อฟัง และไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการเหมือนช่วงที่ผ่านมา
"คสช.จำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการที่อาจเหลืออยู่ส่วนน้อยมาก ที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ ไปมีผลต่อภาพลักษณ์การแก้ปัญหาในภาพรวม เพราะข้อมูลล่าสุดต่อการแก้ปัญหาในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับอดีต ในหลายๆปีที่ผ่านมา"

"สมเด็จฮุนเซน"เยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ12ปี ในโอกาสครบ65ปีการสถาปนาความสัมพันธ์การฑูต


"สมเด็จฮุนเซน"เยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ12ปี ในโอกาสครบ65ปีการสถาปนาความสัมพันธ์การฑูต เตรียมถก ครม.ร่วม พรุ่งนี้ และลงนามMOU4ฉบับความร่วมมือแรงงาน-จ้างงาน-ขจัดค้ามนุษย์-พัฒนาจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอียน-สตึงบท แถลงการณ์ร่วมยืนยันเจตนารมณ์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้การต้อนรับ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและคณะ รวมทั้ง พลเอกเตียบันห์ รองนายกฯ/รมว.กลาโหม และ นาย ฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศ
ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของทางรัฐบาลระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 12 ปี
โดยรัฐบาล ได้จัดแถวทหารกองเกียรติยศ ผสม3 เหล่าทัพ ต้อนรับ ที่สนามหญ้า ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนหารือทวิภาคีแบบเต็มคณะ
ในเวลา 15.00น. สมเด็จฯ ฮุน เซน จะพบปะพูดคุยกับคณะนักธุรกิจไทย-กัมพูชา เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันของทั้ง 2ประเทศ ที่โรงแรมดุสิตธานี
จากนั้น ช่วงค่ำ พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และในฐานะเพื่อเป็นการฉลองการครบรอบ 65ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตของไทย-กัมพูชา ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
แล้วในวันที่ 19 ธ.ค.สมเด็จฯฮุนเซน และคณะจะเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชาอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2
จากนั้นนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2ประเทศ จะร่วมเป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านแรงงาน ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย-กัมพูชา ขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอียน-สตึงบท รวมถึงแถลงการณ์ร่วมเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกัน ก่อนที่อาจจะมีการแถลงข่าวร่วมกันของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2ประเทศ
โดยสมเด็จฯฮุน เซ็น จะเดินทางกลับกัมพูชาในช่วงบ่าย19ธค.

บิ๊กตู่-ฮุนเซน ปิ้ง ไอเดีย จัดฟุตบอลกระชับมิตร 65ปี ไทย-เขมร ถ่ายทอดสด2ประเทศ


บิ๊กตู่-ฮุนเซน ปิ้ง ไอเดีย จัดฟุตบอลกระชับมิตร 65ปี ไทย-เขมร ถ่ายทอดสด2ประเทศ ตกลงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ในลักษณะ package tour และ long stay กระตุ้นการท่องเที่ยวภูมิภาค หนุนเที่ยวทะเลและชายฝั่งไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ใช้เรือสำราญ /ฮุนเซน เผย สมเด็จพระเทพราชสุดาฯ จะเสด็จฯ เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า วางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีพระราชทานที่ กัมปงสปือ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ สมเด็จ อัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ที่เกี่ยวข้อง เช่น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตองรองนายกรัฐมนตรี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี
ส่วน ฝ่ายกัมพูชา ได้แก่ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา นายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีกัมพูชา พลเอก เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลการหารือว่า พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาที่ครบ 65 ปี บนพื้นฐานของการพึ่งพาและผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนต่อไป พร้อมขอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ
ด้าน สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ขอบคุณการต้อนรับอันอบอุ่น พร้อมกล่าวแสดงความซาบซึ้ง
สมเด็จฮุนเซน เผยว่า ตนเองพร้อมถวายการต้อนรับและเข้าเฝ้าฯด้วยตนเอง ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีพระราชทานที่จังหวัดกัมปงสปือและเยี่ยมชมโครงการพระราชทานของพระองค์ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและวิชาการพระราชทานความช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ของกัมพูชาตลอดระยะเวลาผ่านมา
พลตรี วีรชน กล่าวว่า ในด้านความสัมพันธ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา รัฐบาลไทยและกัมพูชา รวมถึงภาคประชาชนจะร่วมกันจัดกิจกรรมและการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างไทยและกัมพูชา
โดยนายกรัฐมนตรีไทย ได้มอบหมายให้รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้แทนพิเศษนายกรัฐมนตรีร่วมงาน
สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้มีถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อร่วมเป็นสัญลักษณ์ความผูกพันระหว่างประชาชนของสองประเทศร่วมกันด้วย
ส่วนด้านเศรษฐกิจ นั้น นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายขยายปริมาณมูลค่าการค้าและการลงทุนของ 2 ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในช่วง5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 5,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยจะเชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.สระแก้ว- จ.บันเตียเมียนเจย การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและการเพิ่มปริมาณการเดินรถ การเชื่อมโยงทางบกและเส้นทางรถไฟ เพื่อมีส่วนผลักดันให้ปริมาณการค้าสินค้าของสองประเทศเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนของทั้งสองฝ่าย แสวงหาลู่ทางลงทุนเพิ่มในแต่ละประเทศด้วย
การท่องเที่ยว พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน ในลักษณะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ในลักษณะ package tour และ long stay เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของภูมิภาค ซึ่งในขณะนี้ ไทยยังได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่งระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ทั้งท่าเรือ และท่าเรือสำราญ เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลที่เพิ่มขึ้น
ด้านพลังงาน สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวขอบคุณไทยที่ให้ไฟฟ้าให้กับกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง
ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาแบ่งปันทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ
ด้านแรงงาน พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรียินดีที่จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานและข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย – กัมพูชา ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เนื่องจากบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงทั้งสองฉบับนี้ จะช่วยยกระดับความร่วมมือที่ไทยกับกัมพูชามีต่อกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่าง ไทยและกัมพูชายืนยันที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและต่อต้านกระบวนการค้ามนุษย์ โดยจะเร่งรัดการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกกฎหมาย เพื่อให้แรงงานกัมพูชาได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยโดยสมบูรณ์
ส่วนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและพหุภาคี นั่น นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชายินดีที่ไทยและกัมพูชากำลังจะมุ่งหน้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้เตรียมความพร้อม สำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว และหวังว่า ภายหลังจากเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนไทยกับกัมพูชาจะมีความร่วมมือร่วมกันมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการเชื่อมโยง ต่อไป
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ประชาคมอาเซียน
ด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมทั้งการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค้าและเชื่อมโยงกับตลาดสินค้า ขณะเดียวกัน ก็เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสินค้าเกษตรที่ยังมีปัญหาระหว่างกัน
ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ นายกรัฐมนตรีไทย ได้เสนอที่จะฝึกอบรมบุลากรด้านสาธารณสุขแก่กัมพูชา พร้อมจะศึกษาการจัดสรรทุนแพทย์แก่กัมพูชา เพื่อประโยชน์ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ในช่วงท้าย พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาปัจจุบันนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดียิ่งตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน เพิ่มการค้าและการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาในมิติต่างๆ ภายใต้แนวคิดและนโยบาย Thailand + 1 เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้น โดยอาเซียนกำลังจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 600 ล้าน โดยไทยจะร่วมมือกับกัมพูชาในลักษณะเกื้อกูลส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับไทย กัมพูชา และประชาคมอาเซียนร่วมกัน

เคลื่อนไหวโลกกรณีซาอุฯ

Oopz! ซาอุดิอาระเบียมั่วนิ่มแหกตาชาวโลกกรณีก่อตั้งกองกำลังพันธมิตรอิสลามต่อต้านขบวนการก่อการร้าย มีหลายประเทศถูกแอบอ้างชื่อโดยไม่รู้เรื่องด้วยเลย งานเข้า!
---------

และแล้วก็ความแตกจนได้ มาอ่านข่าวดูนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น วันที่ 16 ธ.ค.58 RT news พาดหัวข่าวว่า "บทบาทของกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดิอาระเบียก่อให้เกิดคำถามขึ้นในประเทศสมาชิกบางรายที่ปฏิเสธเข้ามีส่วนร่วมด้วย" (Role of Saudi-led ‘military alliance’ put to question as some members reject participation) ส่วนสำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "พันธมิตรต่อต้านดาอิชของซาอุดิอาระเบียก่อให้เกิดความสับสนไปทั่ว แม้กระทั่งในกลุ่มสมาชิกด้วยกันเอง" (Saudi Anti-Daesh Coalition Sparks Widespread Confusion, Even Among Members) กรรม!

รายงานข่าวจาก RT บอกว่าประชาคมนานาชาติได้แสดงการต้อนรับกับแนวความคิดริเริ่มของซาอุดิอาระเบียในการก่อตั้งกองกำลังพันธมิตรต่อต้านขบวนการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม บทบาททางกองทัพและอุดมการณ์ของพันธมิตรกลุ่มนี้ได้ก่อให้เกิดความสับสนแม้กระทั่่งในกลุ่มประเทศสมาชิกด้วยกันเอง บางประเทศไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกนำชื่อไปรวมอยู่ในกองกำลังพันธมิตรชุดใหม่นี้

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศเปรี้ยงป้างถึงการก่อตั้ง "พันธมิตรทางทหารของอิสลาม" (Islamic military alliance) โดยมีภารกิจเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย เจ้าชาย Mohammed bin Salman รองมกุฏราชกุมารกล่าวว่า พันธมิตรรัฐอิสลามจำนวน 34 ประเทศจะต่อสู้ไปทั่วอิรัค ซีเรีย ลิเบีย อียิปต์ และอัฟกานิสถาน

ประเทศสมาชิกของพันธมิตรกลุ่มนี้จะแชร์ข้อมูลข่าวกรอง การฝึกกำลังพล ติดอาวุธ และมีความเป็นไปได้ถึงแม้กระทั่งการให้การสนับสนุนด้านกองทัพเพื่อต่อสู้กลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง เช่นพวกไอซิส อัลเคด้า นาย Adel al-Jubeir รมว.ต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียกล่าว

Adel al-Jubeir กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปปฏิบัติการว่า "ไม่มีอะไรอยู่นอกโต๊ะการเจรจา (Nothing is off the table หมายความว่าทุกอย่าง ทุกตัวเลือก เป็นไปได้ทั้งนั้น)"

+ ปากีสถานเพิ่งจะรู้ตัวเองว่ามีส่วนร่วมด้วยผ่านรายงานข่าวจากสื่อฯ (Pakistan got to know of its participation via news)
---------
คราวนี้มาดูท่าทีของบางประเทศที่ซาอุดิอ้างว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของ "กองกำลังพันธมิตรอิสลามต่อต้านขบวนการก่อการร้าย" บ้างนะครับ รายงานข่าวบอกว่า หนึ่งวันหลังจากที่กรุงริยาดห์ได้ประกาศการจัดตั้งกองกำลังพันธมิตร ประเทศสมาชิกบางส่วนได้กล่าวว่ารับมุกไม่ทันและไม่เคยเห็นด้วยกับการมีส่วนร่วมในพันธมิตรดังกล่าวเลย [โอหละพ่อ! โอหละแม่! ไ
เป็นงั้นไปได้หละนี่? - ผู้แปล]

ปากีสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกพันธมิตรที่ประกาศโดยซาอุดิอาระเบีย ได้ออกมาปฏิเสธการมีส่วนร่วมของตนเอง Aizaz Chaudhry รมว.ต่างประเทศของปากีสถานได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เขาเพิ่งจะรับรู้เรื่องกองกำลังพันธมิตรผ่านรายงานข่าวจากสื่อฯ ปากีสถานไม่ได้รับการปรึกษาหารือในเรื่องนี้เลย หนังสือพิมพ์ Dawn รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Aizaz Chaudhry กล่าวอีกว่า กรุงอิสลามาบัด (Islamabad) กำลังหารายละเอียดเกี่ยวกับความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ [เพี๊ยะ! ซาอุดิอาระเบียหน้าแตกครั้งที่1 - ผู้แปล]

+ มาเลเซียรีบออกมาปฏิเสธการมีส่วนร่วม (Malaysia denies taking part)
---------
มาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศมุสลิมที่ถูกกรุงลิยาดห์แอบใส่ชื่อลงไปในรายชื่อสมาชิก 34 ประเทศ ก็ได้ออกมาปฏิเสธการมีส่วนร่วมในกองกำลังพันธมิตรดังกล่าวด้วย Datuk Seri Hishammuddin Hussein รมว.กลาโหมของมาเลเซียได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) จะไม่เข้าร่วมกับกรุงริยาดห์ อย่างไรก็ตาม มาเลเซียจะยังคงเดินหน้าเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้นานาชาติต่อต้านขบวนการก่อการร้ายต่อไป หนังสือพิมพ์ Rakyat Post รายงาน [เพี๊ยะๆ! ซาอุดิอาระเบียหน้าแตกครั้งที่2 - ผู้แปล]

+ อินโดนีเซียตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ "พันธมิตรทางทหาร" (Indonesia skeptical about ‘military alliance’)
---------
อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับความร่วมมือในการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียต้องการรายละเอียดก่อนทีจะพิจารณาเข้าร่วมใน "พันธมิตรทางทหาร" (/กองกำลังพันธมิตร/military alliance)

Armanatha Nasir โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับอินโดนีเซียที่จะได้รับรายละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจให้การสนับสนุน" ต่อการดำเนินการทางทหารใดๆ

อย่างไรก็ตาม Luhut Pandjaitan รมว.กลาโหมของอินโดนีเซีย ได้กล่าวในภายหลังซึ่งอ้างคำพูดโดยสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า "พวกเราไม่ได้ต้องการที่จะเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารเลย" (We don't want to join a military alliance) [เพี๊ยะๆๆ! ซาอุดิอาระเบียหน้าแตกครั้งที่3 - ผู้แปล]

+ สหรัฐฯแบ่งรับแบ่งสู้ สหรัฐฯต้องการที่จะรู้ (รายละเอียด) มากกว่านี้ (US wants to know more)
---------
สหรัฐฯซึ่งกำลังนำแคมเปญจ์การทิ้งระเบิดของตนเองในซีเรียมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงไอซิส ได้ต้อนรับแนวความคิดริเริ่มนี้ (ของซาอุดิอาระเบีย) อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ากรุงวอชิงตันจะสับสนนในเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำเนินงานในปฏิบัติการของพันธมิตรชุดใหม่นี้

"พวกเรากำลังมองไปข้างหน้าเพื่อศึกษาให้มากขึ้นเกี่ยวกับสิงที่ซาอุดิอาระเบียเก็บไว้ในใจในความหมายของพัมธมิตรนี้" Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา [ก็แสดงว่า ขนาดสหรัฐฯเองก็เหมือนกับเล่นละครว่าไม่แน่ใจเช่นกันว่าพันธมิตรชุดใหม่ที่ซาอุดิอาระเบียอ้างนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง - ผู้แปล]

+ รัสเซียคาดหวังในรายละเอียด (Russia expects details)
---------
ทางรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียคาดหวังในรายละเอียดมากว่านี้จากแนวความคิดริเริ่มของซาอุดิอาระเบีย "พวกเราคาดว่าจะได้รับรายข้อมูลที่ละเอียดมากกว่านี้ จากการริเริ่มของกระบวนการนี้ ซึ่งรวมถึงว่าพวกเราจะต้องรู้มากกว่านี้เกี่ยวกับสิ่งมีได้มีการหารือกันที่กรุงปารีสเมื่อวานนี้" คุณ Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าว ซึ่งอ้างคำพูดโดยสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน อิตาลี ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอร์แดน กาตาร์ และตุรกีได้ไปพบกันที่กรุงปารีสเมื่อวันจันทร์ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิกฤตซีเรีย ก่อนการประชุมที่จะจัดขึ้นในนครนิวยอร์ก ซึ่งคาดว่าจะมีรัสเซียเข้าร่วมด้วย

[แต่การประชุมที่ปารีสในครั้งนั้นไม่ได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมด้วย หลังจากที่เดอะแก๊งคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งนายจอห์น แคร์รี่กับคณะเข้ามาคุยกับกรุงมอสโคว์ ทางรัสเซียรู้ทันแผนของเดอะแก๊งจึงจัดกองทัพนักข่าวเป็นจำนวนมากเอาไว้ต้อนรับ โดยไม่มีการประชุมลับอะไรทั้งนั้น สหรัฐฯอยากจะพูดอะไรกับรัสเซีย อยากจะต่อรองอะไร ก็ให้พูดกันต่อหน้านักข่าวที่เข้ารับฟังการประชุมในครั้งนี้ด้วยเลย เล่นเอาคุณแคร์รี่กับคณะไปไม่เป็นเลย และรมว.ต่างประเทศของรัสเซียก็ออกมาพูดว่า ที่นี่พวกเราทำกันแบบเปิดเผย ไม่แอบประชุมกันลับหลังเหมือนบางประเทศ ฮ่าๆๆ ให้รู้ซะมั่งว่าคุณกำลังเล่นกับใครอยู่ - ผู้แปล]

+ ตุรกียินดีต้อนรับกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยกรุงริยาดห์ (Turkey welcomes Riyadh-led military coalition)
---------
กรุงอังการา ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้เพียงประเทศเดียวที่รวมอยู่ในพันธมิตรนี้ ได้ตกลงที่จะมีส่วนร่วมในความคิดริเริ่มนำโดยซาอุดิอาระเบีย

"การตอบสนองที่ดีที่สุดให้กับความมุ่งมั่นต่อการเชื่อมโยงขบวนการก่อการร้ายและอิสลาม สำหรับกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเพื่อแสดงถึงเสียงที่เป็นเอกภาพต่อต้านขบวนการก่อการร้าย" นาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกีกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามบทบาทของตุรกีในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิสได้ก่อให้เกิดคำถามขึ้นมา เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า กรุงอังการาเป็นผู้บริโภคน้ำมันเถื่อนของพวกไอซิสรายใหญ่ที่ปล้นไปจากซีเรียและอิรัค และปธน. Recep Tayyip Erdogan ของตุรกี และครอบครัวของเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจผิดกฎหมายที่เป็นอาชญากรรมด้วย

ในขณะเดียวกันนาย Eren Erdem ส.ส.ของตุรกีก็บอกกับสำนักข่าว RT ว่า พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียได้รับทรัพยากรที่จำเป็นทั้งหมดในการผลิตแก๊สพิษมรณะซาริน (deadly sarin gas) ผ่านตุรกีด้วย

[ต่อมาอัยการของตุรกีก็ตั้งข้อหากบฎ/ทำลายประเทศต่อส.ส.คนดังกล่าว ใครที่ออกมาพูดข่าวหรือให้ข้อมูลที่เป็นลบต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของตุรกี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงสามนาย นักข่าว และนักการเมือง ก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด บ้างก็มีมือที่มองไม่เห็นไปยิงปืนข่มขู่สำนักงานใหญ่ของสื่อฯที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวด้วย สื่อฯและรัฐบาลตะวันตกพันธมิตรของตุรกีต่างก็พากันหุบปากเงียบกริ๊บ แต่หันมาเล่นงานประเทศไทยในเรื่องต่างแทน ตลก! - ผู้แปล]

ทางกรุงวอชิงติน (ทำทีเป็น) ออกมาเรียกร้องให้กรุงอังการารักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดนเมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนในการควบคุมไอซิสทางฝั่งซีเรียได้ อย่างไรก็ตามตุรกีได้แสดงท่าทีที่น่าสงสัย โดยกล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง

[แปลว่า ตุรกีจะไม่ปิดพรมแดนของตนเองฝั่งซีเรีย แม้ว่านานาชาติจะแสดงความกังวลว่ากลุ่มก่อการร้ายไอซิสจะใช้ช่องทางดังกล่าวผ่านเข้าออกไปในซีเรียโดยผ่านประเทศตุรกีก็ตาม นี่ถ้าตุรกีเป็นประเทศไทยอยู่ตรงนั้น คิดว่าไทยจะโดนสหรัฐฯและอียูแซงชั่นกดดันด้านต่างมากขนาดไหน? แต่นี่เนื่องจากตุรกีเป็นพันธมิตรของนาโต้และอียู ไม่มีทางที่สหรัฐฯและอียูจะแซงชั่นตุรกี นั่นคือมาตรฐานของตะวันตกหละ - ผู้แปล]

+ อิหร่าน อิรัค และซีเรีย ไม่ได้รับเชิญจากซาอุดิอาระเบียให้เข้าร่วมกลุ่มด้วย (Iran, Iraq, Syria not invited by Saudi to the block)
---------
แม้ว่าการริเริ่มของกรุงริยาดห์ ในการรวมกองทัพภาคพื้นดินของพันธมิตรที่อาจจะเป็นไปได้ในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิสก็ตาม แต่ อิรัค (อิหร่าน) และซีเรียไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในกลุ่มนี้ด้วย

ทางอิรัคกล่าวว่า ตนเองสับสนกับบทบาทของพันธมิตรในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายในภูมิภาค "เรื่องนี้ได้ทำให้พวกเราสับสนเป็นอันมาก ใครจะเป็นผู้นำในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายในภูมิภาค?" Nasser Nouri โฆษกกลาโหมของอิรัคตั้งคำถาม ซึ่งอ้างโดยนิตยสาร  The Wall Street Journal ของสหรัฐฯเมื่อวันอังคารนี้ "มันจะใหญ่โตกว่าพันธมิตรนานาชาติหรือไม่? และหากเป็นเช่นนั้น อะไรคือประเด็นที่มีพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก?"

[จบข่าวเรื่องพันธมิตรต่อต้านการก่อการร้ายของซาอุดิอาระเบีย สรุป ณ ขั้นตอนนี้ เป็นเพียง "กองกำลังพันธมิตรลม" หรือ "กองกำลังพันธมิตรผี" เท่านั้น ยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมอะไร ฝ่ายต่างๆที่ถูกพาดพิงชื่อโดยตรงก็เริ่มออกมาปฏิเสธและคัดค้าน ไม่เห็นด้วยและไม่ขอเข้าร่วมกับซาอุดิอาระเบีย 

สหรัฐฯก็มีพันธมิตรของตนเองในตอนแรกไม่ได้รับอนุมัติจากยูเอ็นและรัฐบาลท้องถิ่นของซีเรียในการเข้าไปบอมบ์ซีเรีย รัสเซียก็มีพันธมิตรของตนเองแต่ได้รับการอนุมัติและความร่วมมือจากรัฐบาลซีเรีย อิรัค และอิหร่านในการเข้าไปปราบปรามไอซิสในซีเรีย ต่อมาฝรั่งเศสก็ขอให้ยูเอ็นอนุมัติให้มีการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียและอิรัคในนามของพันธมิตรนานาชาติ แต่ทางตะวันตกบอกว่าพันธมิตรชุดนี้นำโดยสหรัฐฯ 

สรุปเป็นแก๊งเดียวกันกับพันธมิตรตะวันตกนำโดยสหรัฐฯที่เข้าไปถล่มซีเรียเป็นแรมปีโดยไม่ได้รับอนุมัติจากยูเอ็น งานนี้เป็นเพียงการย้อมแมวเท่านั้นเอง จากนั้นซาอุดิอาระเบียที่รุกรานเยเมนและกำลังถูกกองทัพของเยเมนและนักรบชนเผ่าฮูติแห่งเยเมนรุกเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียได้ถึง 3 จังหวัด แพ้ฮูติไม่เป็นท่า กลับออกมาประกาศว่าจะต่อตั้งพันธมิตรอิสลามต่อต้านขบวนการก่อการร้ายเฉยเลย ใครจะยอมส่งทหารของตนเองไปให้นักรบฮูติเด็ดหัวแทนกองทัพซาอุดิอาระเบียและยูเออีบ้าง? - ผู้แปล]

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช 
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
--------------
https://www.rt.com/news/326161-saudi-military-coalition-questioned/
http://sputniknews.com/middleeast/20151217/1031867775/saudi-coalition-confusion.html