PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

พระองค์ภาฯระทานสัมภาษณ์สด การจัดงานเทศกาลไทย (Thai Festival) กับโทรทัศน์ Markiza กรุงบราติสลาวา

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้เสด็จไปยังสถานีโทรทัศน์ Markiza กรุงบราติสลาวา เพื่อทรงประทานสัมภาษณ์สดเกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลไทย (Thai Festival) ในรายการ Teleráno ซึ่งเป็นรายการสารพันข่าวเช้า โดยมีเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอซอร์ และเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ เข้าร่วมด้วย โดยในโอกาสนี้ ได้ทรงเชิญชวนให้คนท้องถิ่นทั้งที่พำนักในสโลวะเกียและประเทศใกล้เคียง ตลอดจนผู้ที่สนใจเดินทางมาเยี่ยมชมงาน Thai Festival ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2557 ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ Incheba Exhitbition Center, Hall B กรุงบราติสลาวา เพื่อเรียนรู้และทำความรู้จักประเทศไทยในหลากหลายมิติทั้งศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว องค์ความรู้ในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ โดยกิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย การสาธิตการปรุงอาหารไทย การสาธิตการสอนแกะสลักผักและผลไม้ การออกร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าจากผู้ประกอบการไทยจากหลากหลายธุรกิจ อาทิ เครื่องประดับ สินค้าประดับและตกแต่งบ้าน สุขภาพและความงาม ฯลฯ
( ขอบคุณภาพจาก : Royal Thai Embassy Vienna )

"ชัยเกษม" รมว.ยุติธรรม ชี้หากเกิดสุญญากาศ จะเสนอรบ.ทูลเกล้าตาม ม. 7 เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย

"ชัยเกษม" รมว.ยุติธรรม ชี้หากเกิดสุญญากาศ จะเสนอรบ.ทูลเกล้าตาม ม. 7 เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงทางออกหากเกิดสุญญากาศทางการเมือง กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคำร้องให้นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาฯสมช.ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพและคณะรัฐมนตรีถูกถอดถอน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 แต่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องอยู่รักษาการณ์ มาตรา 181 หากศาลไม่ให้นายกรัฐมนตรีและคณะอยู่รักษาการ ถือว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถกระทำตามได้เพราะผิดกฎหมาย และหากครม.ลาออกก็เสี่ยงต่อการถูกแจ้งความดำเนินคดีได้ หากเป็นเช่นนี้จะเสนอรัฐบาลให้ทูลเกล้า ตามมาตรา 7 เพื่อขอให้พระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ชี้แนะว่าจะทำอย่างไร ซึ่งไม่ใช่การกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและดึงท่านลงมาเล่นการเมือง แต่เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัยให้มาช่วยแก้การเมือง เพื่อไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง และไม่ว่าใครจะเสนอขอทูลเกล้าฯ ก่อนหรือหลังก็เป็นพระราชวินิจฉัย โดยขั้นตอนเหล่านี้จะเกิดต่อเมื่อศาลมีคำวินิจฉัย ซึ่งตนคาดการณ์ไปไกลก่อน ในท้ายที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ได้วินิจฉัยในทางที่เราคาดการณ์ว่าจะไม่เป็นประโยชน์กับรัฐบาลก็เป็นได้

"หากศาลมีสายตายาวไกลก็ไม่ควรรับเรื่องนี้เอาไว้เพราะรู้อยู่แล้วว่านายกฯต้องรักษาการแม้จะพ้นสภาก็ตาม อีกทั้งคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดระบุว่านายกฯ ใช้ดุลพินิจไม่ชอบนั้น ต่างจากประเด็นก้าวก่ายแทรกแซง ที่ศาลรัฐธรรมนุญจะวินิจฉัย และฝากไปถึงศาลให้คำนึงถึงจริยธรรมศาลและคำปฎิญาณตนที่เคยกล่าวไว้ " นายชัยเกษม กล่าวhttp://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU56SXlNVEkzTXc9PQ%3D%3D&subcatid


ไพศาล พืชมงคล:การรดน้ำป๋าเปรมวันนี้ของผบ.เหล่าทัพและรมช.กห.เป็นการลับกัน"ปู"รู้

เป็นแฟนเพลงกันก็ต้องบอกครับ งานขอพรสงกรานต์ป๋าเปรมวันนี้เป็นดังนี้ครับ
๑ กองบัญชาการกองทัพไทยและทุกเหล่่าทัพ รวมทั้งตำรวจนัดหมายกันเฉพาะและลับมีหนังสือขอเข้ารดน้ำอวยพรโดยไม่มีฝ่ายการเมือง ป่๋าอนุญาตและเนื่องจากคนมากจึงต้องไปจัดที่สโมสรทหารบกเก่าที่อยู่้ติดกันดังที่เห็น
๒ สมาคมชาวสงขลาบ้านเกิดป๋า และมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับป๋าและคนใกล้ชิด ขอรับพรและอวนพรป๋าที่บ้านสี่เสา

๓ รมช กลาโหม ขอเข้าอวยพรในนามของกรรมการโอลิมปิค 
เป็นอันว่าพลเอกยุทธศักดิ์ไม่ไปกับปู มาอวยพรป๋าแต่มาในฐานะเอกชนคือกรรมการโอลิมปิค
ดังนั้นบรรยากาศในท่ามกลางเหล่าทหารจึงชื่นมื่นและมีความหมายยิ่ง
ก็ดูกันเองว่าไผเป็นไผ ไผอยู่ข้างไหน "น่าเกรมขามแก่คนที่จะมาคิดค้ายต่อชาติบ้านเมืองของเรา" ไหมคร้าบเจ้านาย

(คลิป)ผบ.เหล่าทัพ รดน้ำป๋าเปรม เมษา 57





พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดโอกาสให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำผู้บัญชาการเหล่าทัพพร้อมดัวยผู้บัญชากา­รตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจทหารชั้นผู้ใหญ่ เข้ารดน้ำอวยพร เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ หรือ ปีใหม่ไทย เมื่อ 11 เมษายน ที่สโมสรกองทัพบก สี่เสาเทเวศน์



26 สิงหาคม ปีนี้ ป๋าเปรม -พลอากาศเอก เปรม ติณสูลานนท์ อายุครบ 94 ปีแล้ว


ป๋าเปรม  จัดว่าเป็น แหล่งข่าว  ที่อายุมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การทำข่าวการเมืองของนักข่าวไทย


เริ่มเป็นที่รู้จักเป็น แหล่งข่าว  ตั้งแต่ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ยศพลตรี เมื่อ พ.ศ. 2511


ขยับเป็น แม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคอีสานเมื่อ พ.ศ. 2517  เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง


ก่อนได้เลื่อนยศเป็นพลเอก ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2520


ถัดมา อีก 1 ปี  ก้าวขึ้นสู่ ผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ. 2521


บทบาท ป๋าเปรม  เริ่มจากยุคท็อปบู๊ต สู่ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ 

บทบาทของป๋าเปรม ยิ่งใหญ่สุด   เมื่อ ป๋าเปรม ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ระหว่างปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2531


ตลอด 8 ปี  บนเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี   ป๋าเปรม อยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์มาโดยตลอด


เพราะความที่ป๋า พูดน้อย  นักหนังสือพิมพ์เรียกพลเอกเปรมว่า  เตมีย์ใบ้


บางครั้ง ป๋าเปรม  ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์นักข่าว  ป๋าจะตัดบทแบบง่ายๆ ว่า กลับบ้านเถิดลูก 


และฉายาหนึ่งที่นักข่าวรุ่นใหม่ ไม่ค่อยรู้จัก คือ ฉายา  นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากเหตุการณ์กบฏเมษาฮาวายและกบฏ 9 กันยา


หลังพ้นตำแหน่งนายกฯ  ปี 2531  กับคำพูดที่ว่า "ผมพอแล้ว"


เมื่อพ้นตำแหน่ง ในกองทัพมา 30 ปี  ในตำแหน่งปัจจุบัน คือ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ


บารมีของ ป๋าเปรม ก็ยังไม่หมดไป


ทุกวิกฤตการเมือง ชื่อของ ป๋าเปรม โผล่ขึ้นมาเสมอ 


ทั้งในฐานะ รัฐบุรุษผู้รักชาติ หรือ มือที่มองไม่เห็น



ล่าสุด ชื่อของ ป๋าเปรม ติดรายชื่อสำนักโพล บุคคลสำคัญที่อยากให้ทำหน้าที่คนกลาง เจรจาระหว่าง"ยิ่งลักษณ์"กับ"กำนันสุเทพ"


นักข่าวที่ทำข่าวป๋าเปรม ตายไปก็เยอะ เกษียณไปก็มาก  แต่ป๋ายังคงอยู่


เปรียบเทียบกับ คุณยุวดี ธัญญสิริ  ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประจำทำเนียบรัฐบาล ทำข่าวป๋าเปรม ตั้งแต่เป็นสาว

จนปัจจุบัน เจ๊ยุ เกษียณไปจากบางกอกโพสต์แล้ว 


วันนี้ ป๋ายังอยู่    เจ๊ยุ ก็ยังอยู่

จะว่าไป เจ๊ยุ  ทำข่าวป๋าเปรม มาตลอด ครึ่งศตวรรษ


ขณะที่นักข่าวรุ่นใหม่ ที่เข้าสู่วงการ อายุต่ำสุด  ประมาณ 22-23 ปี


วันนี้ ป๋าเปรมอายุ 93  นักข่าวรุ่นใหม่อายุยี่สิบกว่า  ต้องเรียกว่า   เจ้าคุณปู่


นี่คือ ตำนานของ ทหารแก่ ไม่มีวันตาย

ที่มา : มติชน

ตำรวจขอให้ศาลอนุมัติหมายจับโกตี๋ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ เรดการ์ด ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งได้มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความไว้เป็นจำนวนมากซึ่งความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงนี้ ผู้กระทำความผิดจะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี
....ทั้งนี้ศาลจึงได้พิจารณาสำนวนคดี รวมทั้งพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สืบสวนนำมาแสดง และเห็นพ้องกันกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ เรดการ์ด ได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จริง ศาลจึงเห็นสมควรให้อนุมัติหมายจับนายโกตี๋ได้ทันที...


ปอกเปลือก โกตี๋ สัมพันธ์ลึก แดงใต้ดิน


ก่อนที่ "โกตี๋" จะดำดินในเวลานี้ มีความเคลื่อนไหวในจังหวัดทางภาคเหนือเมื่อไม่นานมานี้

ปลายเดือนมีนาคม 2557 โกตี๋มีแผนจะเปิดสถานีวิทยุเพื่อมวลชนคนแม่สอด ที่สถานีขนส่งของเอกชน แต่ถูกมวลชน กปปส.แม่สอด รวมตัวต่อต้านอย่างหนัก

ตามมาด้วยเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงสถานีวิทยุชุมชนแห่งนั้น จึงทำให้ โกตี๋ สั่งยุติแผนการก่อตั้งสถานีวิทยุที่แม่สอด พร้อมให้ลูกน้องรื้อเสาอากาศลง และขนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดไปเชียงราย

5 เมษายน 2557 โกตี๋เดินทางไปเชียงราย เตรียมการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน เพื่อสานต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย โดยมี สุรชัย แซ่ด่าน และ ลุงยิ้มตาสว่าง เข้าร่วมในกิจกรรมระดมทุนครั้งนี้ด้วย
ถัดจากนั้น ก็มีคลิปโกตี๋ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวจากแคนาดา และถ้อยคำบางตอนในคลิปดังกล่าว กลายเป็นประเด็น "โกตี๋จาบจ้วงเบื้องสูง" ที่ถูกแชร์สนั่นโซเชียลมีเดีย

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จึงเปิดการแถลงข่าวกรณีโกตี๋ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว VICE News ว่า "เป็นเรื่องของภัยความมั่นคงอย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐควรเร่งจัดการ เพราะหากปล่อยให้มีกระบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศย่อมเกิดความไม่มั่นคงในเรื่องการเมืองการปกครองอย่างแน่นอน"

ด้านฟากรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงมีบัญชาให้ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ มีหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอและคลิปที่มีลักษณะที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ต่อกรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจพบการเผยแพร่คลิปวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตเมื่อวันที่ 8 เมษายน ซึ่ง "โกตี๋" วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยมีข้อความเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อันเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันฯ และกองบังคับการกองปราบปรามได้รับคดีและคาดว่าจะขอศาลอนุมัติหมายจับได้ภายในวันที่ 11 เมษายนนี้

ย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของ "โกตี๋" แกนนำเสื้อแดงกลุ่ม "เรดการ์ด เรดิโอ" ที่เป็นกลุ่มเล็กๆ มีฐานมวลชนไม่ได้มากมาย แต่เหตุใดสื่อในโลกตะวันตก จึงให้ความสนใจและเดินทางมาสัมภาษณ์โกตี๋บ่อยครั้ง

นอกจากการเป็นดีเจวิทยุชุมชนเสื้อแดงแล้ว ต้องยอมรับว่า โกตี๋เป็นพวก "นักรบไซเบอร์แดง" ที่เผยแพร่ข่าวสารและแนวคิดผ่านวิทยุออนไลน์ จึงทำให้คนเสื้อแดงในยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา รู้จักชื่อเสียง "โกตี๋ แดงนอกคอก"

ยิ่งโกตี๋มาจับมือกับ "ลุงยิ้มตาสว่าง" ผู้ช่ำชองโซเชียลมีเดีย ยิ่งทำให้โกตี๋เป็นที่รู้จักของสาวกแดงฮาร์ดคอร์มากขึ้น

ที่สำคัญ โกตี๋ได้ทำงานร่วมกับ "กลุ่มมหาวิทยาลัยประชาชน" ที่มี ดร.เพียงดิน รักไทย และ ชูพงษ์ ถี่ถ้วน เป็นหัวขบวน

หลายคนน่าจะจำได้ ชูพงษ์ ถี่ถ้วน อดีตสานุศิษย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร, อดีตนักเคลื่อนไหวแรงงาน และผู้ปลูกฝังแนวคิดต้านอำมาตย์ในกลุ่มแท็กซี่หมอชิต ตั้งแต่ปี 2549 โผล่ขึ้นมาเป็นแกนนำเสื้อแดงยุค นปก.

ก่อนหนีจากเมืองไทย ราวปี 2551 ชูพงษ์ก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชนคนรู้ใจ อยู่แถวเมืองนนท์ ตั้งตัวเป็น "ศาสดา" เหมือนอาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร

ต้นปี 2554 ในการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ชูพงษ์ปราศรัยจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงมีคนร้องเรียนให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ดำเนินการกับชูพงษ์อย่างเด็ดขาด

8 มีนาคม 2554 ศาลออกหมายจับชูพงษ์ คดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์โดยการปราศรัยและมีปรากฏในเว็บไซต์ยูทูบ จากนั้นเขาก็กบดาน และหลบหนีออกนอกประเทศ

8 ตุลาคม 2555 ดร.เพียงดิน รักไทย ประธานภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และกลุ่มแกนนำ นปช. USA ได้จัดงานต้อนรับ ชูพงษ์ ถี่ถ้วน สู่ซานฟรานซิสโก และชูพงษ์ เข้าร่วมการเปิดตัวองค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (TAHR) อย่างเป็นทางการ

จากนั้นบรรดาแฟนคลับ "แดงใต้ดิน" ก็ได้ฟังชูพงษ์ หรือดีเจวิทยุออนไลน์ในนาม "ชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ" ส่งเสียงข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงเมืองไทย

ชูพงษ์มุ่งมั่นในยุทธศาสตร์ "เปลี่ยนระบอบ" โดยการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ และวันที่ชูพงษ์ร่วมกับมิตรสหาย เปิดตัวมหาวิทยาลัยประชาชน จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติประชาธิปไตย โดยมีกิจกรรมให้ความรู้ผู้สนใจผ่านสื่อออนไลน์

มหาวิทยาลัยประชาชนของชูพงษ์ ได้เชื่อมต่อกับวิทยุชุมชนเสื้อแดง โดยเฉพาะคลื่นเรดการ์ดเรดิโอของโกตี๋ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารกันระหว่างในและนอกประเทศ

รูปธรรมแห่งสภาประชาชน ได้เกิดความร่วมมือกันของ สถานีวิทยุเรดการ์ด ของโกตี๋ กับ มหาวิทยาลัยประชาชน ของชูพงษ์ เปิดประเด็นเรื่อง "พลังงานและความมั่งคั่งของประชาชน"

การที่โกตี๋ไปสัมพันธ์กับกลุ่มชูพงษ์ ทำให้กลุ่มวิทยุชุมชนบางปีกถอยห่าง เนื่องจากทราบถึงเบื้องลึกของ "แดงใต้ดิน" ที่เคลื่อนไหวชูธง "เปลี่ยนระบอบ" อยู่ในต่างประเทศ

โดยเฉพาะ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ที่ปฏิเสธแนวทางของ "นปช.USA" มานานแล้ว เนื่องจากแกน นปช.มองเห็นว่า แดงนอกเป็นพวก "โรคไร้เดียงสา-ล้ำหน้ามวลชน" และไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมืองไทย

ขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มแดงใต้ดินในเมืองไทยเข้าไปหนุนโกตี๋ เพราะเห็นว่าเป็นคนกล้าเล่นเกมเสี่ยง และใช้สื่อเป็น ด้วยเหตุนี้โกตี๋จึงมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และประเมินว่า "บารมีนายตำรวจใหญ่" จะคุ้มหัวคุ้มเกล้าได้

สุดท้าย "ปลาหมอตายเพราะปากฉันใด" โกตี๋ก็ตายเพราะปาก เพราะสื่อ(นอก)ฉันนั้น

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

ปชช.มหาสารคามแห่แจ้งความเอาผิดตามม.112ก้าวล่วงสถาบันฯ

11เม.ย.57 :16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนมวลชน กปปส.จำนวนมากเดินทางไป ที่ สถานีตำรวจสภอ.เมือง มหาสารคาม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตามข้อหา ม.112 อาญาแผ่นดิน กับผู้ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ 


"ป๋าเปรม"ย้ำกองทัพต้องเป็นที่พึ่งประชาชน

พล.อ.เปรม เปิดให้ ผบ.เหล่าทัพ -ขรก. เข้ารดน้ำขอพรสงกรานต์ แนะทุกฝ่ายรู้จักหน้าที่ ย้ำกองทัพต้องเป็นที่พึ่งประชาชน

ปธ.องคมนตรี เปิดให้ผบ.เหล่าทัพตบเท้ารดน้ำขอพรรับสงกรานต์ ยกเป็นการรักษาประเพณี สบายใจเหล่าทัพเป็นมิตรแท้ ร่วมกันพร้อมเพรียงสร้างความเกรงขามแก่คนคิดร้ายชาติ ยกพระบรมราโชวาท ต้องรู้จักหน้าที่ ชี้ ถ้าทำพร้อมเพรียงเป็นที่พึ่ง ปชช.ก็รักนับถือ เผยพระสยามเทวาธิราช คงเห็นว่าทำอะไร ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง-ไร้เงา "นายกฯ-ปลัดกห." แถมไม่ได้ทำหนังสือแจง

วันนี้ (11เม.ย.57) ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดโอกาสให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศรัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะนายทหาร ตำรวจระดับสูงเข้ารดน้ำเพื่อขอพร เนื่องในโอกาสเทศกาลวันสงกรานต์ โดยพล.อ.เปรม กล่าวให้โอวาทว่า การรักษาประเพณีไทย การรักษาวัฒนธรรมไทย คือการรักษาชาติ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีประเพณีที่เป็นสมบัติของชาติ การที่พล.อ.ธนะศักดิ์ และพวกเรามากัน เพื่อให้ศีลให้พรวันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนอื่นๆ ตนเกษียณอายุราชการมา 33 ปี แต่ยังได้รับความเมตตา ความเอาใจใส่ดูแล ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากกองทัพไทย เหล่าทัพทั้ง 3 และตำรวจอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาด นับเป็นสิ่งที่ดีมากๆ และแสดงออกถึงความเป็นมิตรแท้ระหว่างกันและกัน โอกาสนี้ที่ตนมีมิตรแท้เป็นกองทัพไทย เหล่าทัพทั้ง 3 และตำรวจ ตนถึงอยู่ด้วยความสบายใจที่เห็นพวกเราพร้อมเพรียงกัน

“ถ้าพวกเราพร้อมเพรียงกันอย่างนี้จะมีความมั่นคง ความน่าเกรงขามแก่คนที่จะมาคิดร้ายต่อชาติบ้านเมืองของเรา ผมจำได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเคยพระราชทานพระบรมราโชวาทว่า คนเราต้องรู้จักหน้าที่และทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และต้องดูแลคนรอบข้างให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และรู้จักหน้าที่ ขณะนี้พวกเราก็กำลังทำแบบนั้นอยู่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ผบ.เหล่าทัพและตำรวจกำลังมีงานหนัก งานยาก งานมากที่จะต้องทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นถ้าเราพร้อมเพรียงกันแบบนี้ ทำหน้าที่ของตน ดูแลคนอื่นให้ทำหน้าที่ของตนเอง เราก็จะประสบความสำเร็จเป็นที่พึ่งของประชาชน และประชาชนก็จะเคารพรัก นับถือและไว้วางใจแก่กองทัพและตำรวจ” พล.อ.เปรม กล่าว

พล.อ.เปรม กล่าวว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้กรุณาชวนเพื่อนมาวันนี้ต้องถือว่าได้ทำหน้าที่ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งพระราชทานพระบรมราชโอวาทให้แก่พวกเรา ในโอกาสวันสงกรานต์นี้ คิดว่าสิ่งที่พวกเราทำ พระสยามเทวาธิราชคงจะได้เห็น และรู้ว่า เรากำลังทำอะไรให้แก่ชาติบ้านเมือง และคงพอใจการกระทำของพวกเรา ปกป้องคุ้มครองให้มีความปลอดภัย ความสำเร็จในการทำหน้าที่ ส่วนตัวเราเองจะทำหน้าที่เป็นมิตรที่ดีของกองทัพไทย 3 เหล่าทัพและตำรวจ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดลบัลดาลให้พวกเราและครอบครัว ผู้ที่เรารักและเคารพ มีความปรารถนาดี ได้ปกป้องคุ้มครองทหารของกองทัพไทย ทหาร 3 เหล่าทัพ และตำรวจได้ทำหน้าที่ด้วยความองอาจกล้าหาญและประสบผลสำเร็จ ขอให้พระสยามเทวาธิราชปกป้องคุ้มครองพวกเราให้อยู่รอดปลอดภัยตลอดไป