PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

นักเลือกตั้งได้เฮ!'วิษณุ'เผยกรอบเวลาหาเสียง ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีประเทศไทย

13 ก.ย. 61 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภายหลัง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. มีผลบังคับใช้แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเดินหน้ากระบวนการสรรหา เข้าใจว่า กกต.ทำปฏิทินการสรรหาไว้แล้ว โดยจะดำเนินการเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งกลุ่มเป็นสาขาอาชีพและสมัครเข้ามาคัดเลือกกันเอง และส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้เลือกในขั้นสุดท้ายให้เหลือ 50 คน จากนั้นอีก 200 คน คสช. จะกำหนดกฎเกณฑ์กติกาคัดเลือกต่อไป โดยต้องได้ ส.ว. 250 คน 15 วันก่อนการเลือกตั้ง
นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลบังคับใช้หลังจากนี้อีก 90 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 10 ธ.ค. โดยใน 90 วันนี้ ยังไม่สามารถทำกิจกรรมตามกฎหมายดังกล่าวได้ ต้องรอให้มีคำสั่ง คสช.ที่จะออกมาเพื่อคลายล็อกให้ทำกิจกรรมบางอย่างก่อน ซึ่งในกรอบ 90 วันนั้น เราจะแบ่งเพื่อความสะดวกให้ 60วันแรก ใช้สำหรับแบ่งเขตเลือกตั้ง และอีก 30 วันจะใช้ในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ คำสั่ง คสช.เพื่อคลายล็อกจะออกมาเร็วๆ นี้ และไม่จำเป็นต้องมีการประชุม คสช.เพื่อให้ความเห็นชอบแล้ว เพราะคำสั่ง คสช.เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเมื่อมีการคลายล็อกแล้ว ทราบว่า กกต.จะนัดประชุมพรรคการเมืองทั้งหมดในวันที่ 28 ก.ย.นี้ เพื่อซักซ้อมและตอบคำถามที่พรรคการเมืองสงสัย และหลังจากนั้นจะมีการประชุมร่วมระหว่าง คสช. และพรรคการเมือง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธาน  
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบเวลาเลือกตั้งขณะนี้ยังเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เคยมีใครพูดเป็นอย่างอื่น ต่อข้อถามว่า ฝ่ายการเมืองเคยออกมาวิจารณ์ว่ากรอบเวลาหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้น้อยเกินไป นายวิษณุ กล่าวว่า “กรอบเวลาหาเสียงครั้งนี้ถือว่านานที่สุดที่เคยมีในประเทศไทย เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยให้เลือกกันภายใน 90 วันหลังยุบสภา แม้ฟังดูเหมือนจะนาน แต่ยังไม่สามารถเลือกได้ ยังต้องไปออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ต้องรับสมัคร กว่าจะรู้หมายเลขผู้สมัคร แล้วเริ่มหาเสียง ไม่เคยมีนานถึงขนาดนี้ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมา”
เมื่อถามว่า อายุของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีถึงเมื่อใด นายวิษณุ กล่าวว่า สนช.จะสามารถทำงานต่อไปได้จนถึง 1 วัน ก่อนวันเปิดสภาผู้แทนราษฎร และเขาสามารถได้รับเลือกเป็น ส.ว. ได้ เพราะไม่มีอะไรห้าม

‘อภิสิทธิ์’ จี้ คสช.-รบ.เร่งคลายล็อกหลังกม.ลูกประกาศใช้ครบ

‘อภิสิทธิ์’ จี้ คสช.-รบ.เร่งคลายล็อกหลังกม.ลูกประกาศใช้ครบ



เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกาศใช้แล้ว ว่า จะทำให้ตารางเวลาเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานของพรรคการเมือง และการเลือกตั้งมีความชัดเจนขึ้น เพราะว่าเมื่อประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งก็จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน แล้วก็หลังจากนั้นไม่เกิน 150 วันตามรัฐธรรมนูญก็จะต้องมีการเลือกตั้ง ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลก็ได้พูดเอาไว้ว่าเมื่อมีการประกาศใช้กฎหมาย จะมีการคลายล็อก ความหมายก็คือคงยังไม่ยกเลิกคำสั่งที่ห้ามทำกิจกรรมทั้งหลาย แต่ว่าจะผ่อนคลายเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำบางสิ่งบางอย่างได้ เพราะต้องทำให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองได้ สำคัญที่สุดคือการประชุมใหญ่เพื่อสามารถที่จะแก้ข้อบังคับของพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ได้ เพราะว่ากฎหมายใหม่ก็จะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องสมาชิก การตั้งสาขา รวมถึงต้องมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ทั้งหมดนี้ต้องทำให้เสร็จภายใน 90 วันอยู่แล้ว นับจากวันที่คลายล็อก

“ดังนั้นสิ่งที่ผมเตรียมการไว้ก็คือต้อง 90 วันนี้ พรรค ปชป.ก็ต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เสร็จ ก็เรียนให้ทราบเลยว่า หลักๆ ข้อบังคับซึ่งจะต้องมีการเขียนเรื่องอุดมการณ์ เรื่องนโยบายเข้าไปด้วย ขณะนี้ได้มีการร่างเอาไว้เพื่อที่จะเสนอคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ แล้วก็ตัวนโยบาย เบื้องต้นจะออกมานี้ ค่อนข้างจะเป็นฉบับย่อ เพราะเราคิดว่าก่อนถึงการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะเมื่อมีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ก็จะทำนโยบายอีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะปรับเข้าสู่สถานการณ์ของการเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

“ทูตสหรัฐฯ” ทิ้งทวน ....สะกิดไทย เปิดเสรี การแสดงความเห็น สู่เลือกตั้ง ที่ Free and Fair

“ทูตสหรัฐฯ” ทิ้งทวน ....สะกิดไทย เปิดเสรี การแสดงความเห็น สู่เลือกตั้ง ที่ Free and Fair หวังไทย Strong งดวิจารณ์ หาก “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯ อีก ...ครวญ เสียใจ ที่ต้องกลับ หลังอยู่มา3ปี ในประเทศที่งดงาม
Glyn T. Davies อำลา "บิ๊กป้อม” ก่อนกลับสหรัฐฯปลาย กย.นี้ หลัง นั่งครบเทอม 3 ปี ชี้ หลังโปรดเกล้าฯกม.ลูก 2 ฉบับ ถือ จุดเริ่มต้นสู่เลือกตั้ง หวังไทยแข็งแกร่งรุ่งเรือง และ Elected Civilian government ปัด คอมเม้นท์ หาก”บิ๊กตู่" กลับเป็นนายกฯอีกสมัย หลังเลือกตั้ง ชี้ ไม่สามารถทำนายอนาคตไทยได้ แต่จะรอดู อนาคตไทย

ที่กระทรวงกลาโหม นาย Glyn T. Davies เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าอำลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมในโอกาสจะพ้นจากหน้าที่ ว่า ได้คุยกันในหลายเรื่องที่มีความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ
และขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร สำหรับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านทหารทั้งสองประเทศที่ดีเสมอมา
นอกจากนี้ได้มีการพูดถึงที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางไปสหรัฐฯ และขอขอบคุณท่านที่ให้โอกาสสหรัฐฯให้มาช่วยทีมฟุตบอลหมูป่า ติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้
เมื่อถามถึงกรณี กรณีที่มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 นาย Glyn T Davies กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสำคัญ ทำให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง และเจริญรุ่งเรืองและเกิดการเลือกตั้งในปีหน้า
สหรัฐฯเป็นเพื่อนกับไทยมากว่า 200 กว่าปี อยากเห็นประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง อิสระ มีเสรีภาพ มีความเจริญรุ่งเรือง
อยากเห็นคนไทยมีส่วนร่วมทางการเมือง มีการอภิปรายอย่างเปิดกว้าง และเมื่อเกิดการเลือกตั้งแล้วจะมี รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาในฐานะที่เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่เก่าแก่ คิดว่าระบอบนี้จะประสบความสำเร็จและตัวตนเองได้เดินทางทั่วประเทศไทยมากกว่า 45 จังหวัดได้เรียนรู้ว่าคนไทยรักประเทศชาติของตัวเอง อยากเห็นประเทศตัวเองมีความเจริญรุ่งเรืองและคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ free and fair เสรีและยุติธรรม
สำหรับประเทศไทยและคนไทยได้มีส่วนร่วมในการอภิปราย ถึงอนาคตของประเทศไทย และอยากให้มีเวทีที่เปิดกว้างเสรี สำหรับให้คนทั่วไปที่ออกมาพูดคุย รวมถึงเสรีภาพในการรวมตัว และเสรีภาพของสื่
เมื่อถามคยามเห็น หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง หลังการเลือกตั้ง นั้น นายDavies กล่าวว่า ตนไม่สามารถจะคาดการณ์อนาคตประเทศไทย ได้ แต่ สิ่งที่สำคัญคือขั้นตอนกระบวนการ ตอนนี้เป็นบวกและทำให้เกิดอนาคตที่ดี ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไร ขึ้นในอนาคต

ก็บอกไปตั้งนานแล้วว่า เลือกตั้ง 24กพ.62

ก็บอกไปตั้งนานแล้วว่า เลือกตั้ง 24กพ.62
“บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร ยัน มีเลือกตั้ง 24 กพ. 62 เผย ยืนยันไปตั้งนาน หลายครั้งแล้ว หลัง โปรดเกล้าฯ พรป.เลือก สส.และ พรป.การได้มาซึ่ง สว. เมื่อ12 กย.61 แต่อย่าเพิ่งถาม เพราะตัองรอ คสช.ประชุม ก่อน แต่ยังไม่รู้ว่า จะประชุม อังคารหน้า หรือไม่ เตรียม ออก ม.44 คลายล็อค พรรคการเมือง

“โอตะ ตู่”

“โอตะ ตู่”
“นายกฯบิ๊กตู่” เปิด ตึกไทยคู่ฟ้า ต้อนรับ “AKB 48” ทั้ง6 จากญี่ปุ่น ที่มาเมืองไทย ร่วมรายการ”I can see your voice “...... พร้อม โอตะ .....มีแด้นซ์ ให้ชม และ ทำท่า “โอนิกิริ” และ ท่ารำไทย ด้วย
ตบท้าย นายกฯ ให้เดินเที่ยวชม ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมแจก กระเป๋าตึกไทยคู่ฟ้า ที่มีอายุครบ100 ในปีนี้

เห็นอยู่มันน่าเสียดาย

เห็นอยู่มันน่าเสียดาย



ฉุดลากเศรษฐกิจก็เหนื่อยแล้ว ต้องออกแรงตีปี๊บยิ่งเหนื่อยกว่า
ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ประกาศลั่นบนเวทีปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทยแรงขับเคลื่อนใหม่แห่งเศรษฐกิจเอเชีย”
เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวและเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆในทุกมิติ จีดีพีครึ่งปีแรก 4.8 เปอร์เซ็นต์ บอกให้เห็นชัดว่า ถ้าเศรษฐกิจโตต่อเนื่องโดยมีเสถียรภาพแบบนี้ไม่ธรรมดา
พื้นฐานแข็งแกร่งทำให้ไม่ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากภาวะผันผวนการเงินโลก
แน่นอนว่า ลำพังแค่นี้ หนีไม่พ้นเสียงโห่ฮาอยู่ดี
นักการเมืองอาชีพยี่ห้อประชาธิปัตย์ ยี่ห้อเพื่อไทย รวมถึงนักวิชาการสายหมั่นไส้ ต้องมาสคริปต์เดียวกัน รุมด่า “สมคิด” คุยโม้ สร้างภาพไปวันๆ
มันเป็นแบบฟอร์มบังคับ การเมืองแบบไทยๆต้องแฝงเหลี่ยมดิสเครดิตคู่แข่งไว้ก่อน
ยิ่งตอนเข้าโหมดเลือกตั้ง “สมคิด” โดนดักเตะตัดขาทุกจังหวะอยู่แล้ว
แต่เรื่องของเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน มันก็มีบทวิเคราะห์จากมืออาชีพอย่างนายโรเบิร์ต ซับบาราแมน นักวิเคราะห์ตลาดเกิดใหม่ของบริษัท โนมูระ โฮลดิ้งส์
ฟันธงประเทศไทยไม่เสี่ยงพิษวิกฤติค่าเงิน เป็น 1 ใน 8 ชาติกลุ่มเสี่ยงต่ำสุด จากวิกฤติตลาดเปิดใหม่ วัดจากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราทุนสำรองระหว่างประเทศ ระดับหนี้ อัตราดอกเบี้ย และมูลค่าการนำเข้า
สอดรับกับมือระดับโลก นายเอ็ดวิน กูเตียร์เรซ นักวิเคราะห์ของบริษัท อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสต์เมนต์ส มองว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับวิกฤติค่าเงินบาทน้อย
เพราะมีสถานะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและทุนสำรองระหว่างประเทศสูง
ทิศทางเดียวกับ “บลูมเบิร์ก” สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่สำทับสถานการณ์ของไทยซึ่งเคยเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินโลกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กลับกลายเป็นชาติที่ไม่ได้รับความเสี่ยงจากวิกฤติตลาดเกิดใหม่ในปีนี้ โดยค่าเงินยังแข็งค่ามากกว่า เมื่อเทียบกับค่าเงินของชาติกำลังพัฒนาหลายชาติที่ได้รับผลกระทบจากอาร์เจนตินาและตุรกี
นี่ต่างหากสถานการณ์ที่ “โลกมองเรา” แบบไม่มีวาระแฝง
มันการันตีรัฐบาล คสช.ลากเข็นเศรษฐกิจที่ติดลบมาอยู่ในจุดแข็งแกร่ง ผิดฟอร์มรัฐบาลทหาร
โดยภาพรวมมันไม่ได้เกินเลยไปกว่าที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. แสดงความกังวล หากปลดล็อกแล้วบ้านเมืองจะกลับมาวุ่นวาย
เสียดายหากเศรษฐกิจที่กำลังติดเครื่อง จะติดชะงัก
ตามเค้าลางแบบที่เห็นกันตรงหน้า แค่ประชาธิปัตย์พรรคเดียวจะทำวุ่นกันทั้งประเทศ
แบบที่เดาได้ ไม่ว่าใครขึ้น พรรคเละแน่
สภาพของพรรคประชาธิปัตย์ในสายตาของโคตรเซียนการเมือง ที่แกะรอยตามแรงสั่นสะเทือนจากยุทธการโค่นเก้าอี้ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค
ส่งสัญญาณยกระดับเกมหักดิบกันแบบแรงๆ
ตามจังหวะ “เขี่ยลูก” ของ “เสี่ยจ้อน” นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธาน สปท. ที่แบไต๋แบบไม่กั๊ก มีคนในพรรคเชียร์ให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ประมุขค่าย ปชป.
โดน “วัชระ เพชรทอง” องครักษ์ “อภิสิทธิ์” ป้ายสีทันทีเป็นนอมินี คสช.ส่งมายึดพรรค
ต่อเนื่องกับคิวที่ “หมอผี” นายสัมพันธ์ ทองสมัคร แกนนำรุ่นเดอะ ออกมาเสนอให้ “เดอะมาร์ค” ไขก๊อกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรค เปิดทางให้ปรมาจารย์ชวน หลีกภัย รักษาการแทน เพื่อความเป็นเอกภาพของพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้ง ตอกย้ำ “อภิสิทธิ์” คือตัวปัญหา
ด้วยอารมณ์แบบนี้ หนีไม่พ้นต้องฟัดกันพังไปข้าง
ตามสไตล์ประชาธิปัตย์ ล่อกันเองต้องถึงขั้นพรรคแตก
และด้วยสถานะของประชาธิปัตย์คือ “ตัวแปร” สมการรัฐบาลหลังเลือกตั้ง
ถ้า “อภิสิทธิ์” ไม่ออกซ้าย หนุน “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ ตามเงื่อนไขที่ตั้งแง่หากไม่ได้เสียงข้างมากของ ส.ส.ในสภา ขณะเดียวกันก็ไม่กล้าไปขวา สวิงขั้วไปแท็กทีม “ทักษิณ” จัดรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยตามที่พูดมัดคอตัวเองไว้ เป็นปลาคนละน้ำ “กั๊ก” อยู่ตรงกลางหวัง “ส้มหล่น”
นั่นหมายถึง “อภิสิทธิ์” จะทำการเมือง “ติดล็อก” เดินต่อไม่ได้
และคนที่เซ็งกว่าใครก็คือ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ ผบ.ทบ. เบอร์หนึ่งคุมกำลังความมั่นคง
ตามสถานะของคนที่ต้องออกแรงผ่าทางตัน.
ทีมข่าวการเมือง