PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

โฆษก กอ.รมน. โต้ รายงานการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมในชายแดนภาคใต้ เป็นข้อมูลเก่า

โฆษก กอ.รมน. โต้ รายงานการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมในชายแดนภาคใต้ เป็นข้อมูลเก่า คำบอกเล่าฝ่ายเดียว ทำให้ตปท.เข้าใจคาดเคลื่อน ยันทหารมีการปรับแก้การทำงานมานานแล้ว ถาม"มูลนิธิผสานวัฒนธรรม" เป็น องค์กรที่มีสถานะตามข้อกฎหมายภายในประเทศฉบับใด เตือนอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท
พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น
หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ตระหนักและระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในมุมมองด้านสิทธิมนุษยชนเสมอมา
ปัจจุบันสภาพแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่องค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรยังคงใช้ลักษณะการขับเคลื่อนองค์กรแบบเดิมๆ โดยไม่มีท่าทีในการปรับบทบาท
พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกต 4 ประการ ต่อรายงานสถานการณ์ทรมานฯ
ตามที่ปรากฏข่าวท"มูลนิธิผสานวัฒนธรรม"และองค์กรเครือข่าย ได้เปิดเผยรายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2557-2558 เมื่อวันที่ 10 ก.พ.59 โดยอ้างการใช้กฎหมายพิเศษทำให้เกิดอุปสรรคในการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกที่เป็นอิสระ และนำข้อมูลจากคำบอกเล่าฝ่ายเดียวของผู้ร้องเรียนระหว่างปี 2547 จนถึงปัจจุบัน รวมจำนวน 54 ราย ประกอบด้วยการกระทำทรมานทางจิตใจและทางร่างกาย พร้อมนำนิยามศัพท์ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่จำกัดเฉพาะเป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลที่ใช้อำนาจรัฐมาอ้างอิงในรายงานนั้น
พลตรีบรรพต ชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ภายใต้นโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องตามสถานการณ์ อันเป็นผลทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบันมีแนวโน้มคลี่คลายไปสู่การแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งร่วมกันตามแนวทางสันติวิธี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน
สังเกตได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงเริ่มบรรเทาเบาบางลงไปอย่างเห็นได้ชัด จนอาจกล่าวได้ว่า สภาพแวดล้อมในพื้นที่ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว ทุกภาคส่วนได้ตระหนักรู้ถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเครือข่ายภาคประชาสังคมส่วนใหญ่ตื่นตัวจัดการระดมความคิดเห็นเตรียมการรองรับในหลากหลายรูปแบบ
แต่ขณะเดียวกันองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรยังคงใช้ลักษณะการขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิธีการแบบเดิมๆ โดยไม่มีท่าทีในการปรับบทบาทตามเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่
แม้แต่การกำหนดชื่อองค์กรหรือวัตถุประสงค์ที่ยังขัดแย้งกันในตัวเอง ในรายงานข้างต้นนี้อาจเข้าใจได้ว่า องค์กรฯ เขียนโครงการไปขอรับการสนับสนุนเงินทุนจากต่างประเทศ แต่เมื่อเหตุรุนแรงลดลงจึงจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเก่านำมารายงานใหม่ให้สมกับเงินทุนที่ได้รับมา
ที่น่ากังวลคือ รายงานฉบับดังกล่าวเมื่อถูกเผยแพร่ออกไปต่างประเทศอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงได้ สอดคล้องกับข้อสั่งการของ พลเอกประยุทธ์ นายกฯ/ผอ.รมน. เมื่อวันที่ 10 ก.พ.59 ถึงรายงานข้อมูลเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่องค์กรระหว่างประเทศได้รับ ไม่ตรงตามสถานการณ์ที่เป็นจริง และขอให้ช่วยกันชี้แจงแก้ไข
โดยเฉพาะการจัดอันดับประเทศที่มีภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ด้วยการนำสถิติเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปเหมารวมเป็นความเสี่ยงของภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในภาพรวมของประเทศ
การปฏิบัติงานที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้จัดการอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ตระหนักรู้และสร้างความเข้าใจ
รวมทั้งความพยายามทั้งปวงในการระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในมุมมองด้านสิทธิมนุษยชนเสมอมา
ทั้งนี้ ได้อาศัยความร่วมมือของผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน เครือญาติ และหน่วยงานภายนอกต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับ มาร่วมกันเป็นสักขีพยานในทุกขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย หรือในภายหลังหากมีข้อสงสัยประการใดหน่วยงานในพื้นที่ก็พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน
กอ.รมน. มีข้อสังเกต 4 ประการ ประการแรกคือ บรรดาองค์กรที่จัดทำรายงานฉบับนี้มีสถานะเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ และถ้าหากมีอำนาจหน้าที่แล้ว องค์กรมีสถานะตามข้อกฎหมายภายในประเทศฉบับใด
ประการที่สองคือ การจัดทำรายงานห้วงระหว่างปี 2557-2558 ปรากฏมีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือไม่
ประการที่สามคือ ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องเก่าจากคำบอกเล่าเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงใช่หรือไม่
ประการที่สี่คือ เหตุใดจึงอ้างข้อกฎหมายระหว่างประเทศโดยละเลยต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยกลไกตามกฎหมายพื้นฐานภายในประเทศ จึงอาจสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทต่อหน่วยงานของรัฐได้

นายกฯ บิ๊กตู่ โชว์ โรดแมพ แผนผังทำงานแม่น้ำ5สาย



นายกฯ บิ๊กตู่ โชว์ โรดแมพ แผนผังทำงานแม่น้ำ5สาย "นี่เขาทำงานกันแบบนึ้ ไม่ใช่ถามคำตอบคำ ประเทศเดินแบบนี้"เผยเตรียมแจกจ่ายพรุ่งนี้..เหน็บสื่อตัด ไม่สนใจหรอก สนใจแต่ว่า จะเลือกตั้ง เมื่อไหร่ ประชามติเมื่อไหร่ /นายกฯ เริ่มกลับมาให้สัมภาษณ์ แม้จะพูดสั้น แค่ 4นาที เศษ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ สั้นๆ หลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาลิขสิทธิ์ โดยยืนยันว่า จะปราบปราม และหนุน ทำสินค้าOtop ให้เทียมเท่า แบรนด์เนม เชื่อเราทำได้ และ ปลุกจิตสำนึกคนไทย อย่าใช้ของปลอม
จากนั้น สื่อถาม เรื่อง วันประชามติ31 กค.2559 นี้ว่า รับทราบแล้ว แต่ปฏิเสธ ที่จะให้สัมภาษณ์ต่อ แต่ได้หยิบ แผนผัง การทำงานของแม่น้ำ5 สายจาก นายทหารฝ่ายเสธ. มาโชว์สื่อ พร้อมระบุว่า นี่เขาทำงานกับแบบนี้ ไม่ใช่ถามคำตอบคำ ประเทศเขาเดินกันแบบนี้
เมื่อสื่อ ร้องขอ แผนผังนี้ พลเอกประยุทธ์ กล่างว่า จะแจกจ่ายพรุ่งนี้ ก่อนตัดพ้อสื่อว่า พวกเธอคงไม่สนใจหรอก สนใจแต่ว่า จะเลือกตั้ง เมื่อไหร่ ประชามตื เมื่อไหร่ แค่นั้น ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ไป

ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอกจำนำข้าว


อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ในช่วงเวลาเดียวกันกับหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว สรุปผลการสอบสวนว่า โครงการนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดในการกำกับดูแล 
.
สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล รายงานบทสัมภาษณ์นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.59) เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังถูกตรวจสอบในขณะนี้ 
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุว่า ผู้มีอำนาจคิดว่าเธอคือต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง เธอจึงพยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยืนยันว่าโครงการการรับจำนำข้าว เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมา แต่เธอกลับกำลังถูกดำเนินคดีจากนโยบายที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้ และผ่านการนำเสนอกับสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย
.
การให้สัมภาษณ์นี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว สรุปผลการสอบสวนว่า แม้โครงการจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดในการกำกับดูแล
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ ย้ำกับสำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ว่าการกระทำแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เธอยืนยันไม่เคยคิดจะหนี ตั้งแต่การรัฐประหารก็ตาม แต่เห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เธออยู่อย่างเงียบ ๆ มานานเกินพอแล้ว จึงถึงเวลาที่จะลุกขึ้นพูดบ้าง
.
สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ยังสัมภาษณ์อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงพันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ด้วย โดยอาจารย์ปวินให้ความเห็นว่า รัฐบาลและคสช .ต้องหาเหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร แต่เขามองว่า จากกรณีนี้ รัฐบาลและคสช.อาจจะโดนกระแสต่อต้านจากผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี และการดำเนินคดี อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองระลอกใหม่
.

แล้วทักษิณก็กลับมายึดประเทศอีก

โดย สุรวิชช์ วีรวรรณ  
11 กุมภาพันธ์ 2559 14:24 น.
        ทักษิณประกาศชัดเจนว่าไม่ว่ารัฐธรรมนูญออกมาแบบไหนพรรคของเขาจะชนะอีก กลับมาบริหารประเทศอีก ซึ่งเราคงต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทักษิณพูดนั้นมีโอกาสเป็นความจริงสูงยิ่ง
       
       แม้ว่าทักษิณจะหนีคุกเป็นนักโทษร่อนเร่อยู่ในต่างประเทศ แต่เขาเป็นคนหนีคุกคนเดียวที่อยู่อย่างเปิดเผยเปิดตัว มีเสรีภาพยังมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองไทยได้ มีโอกาสพบตัวแทนของรัฐ เช่น เอกอัครราชทูตในต่างประเทศ และบางครั้งก็ใช้ศาลที่เขาไม่ยอมรับคำพิพากษานั่นแหละฟ้องร้องใครต่อใครได้อีก แถมศาลไทยก็ยอมให้เขาทำแบบนั้นได้
       
       ทักษิณยังควบคุมพรรคการเมืองที่ชอบด้วยกฎหมายผ่านนอมินี เขาสร้างคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนเขาแล้ว 3 คน แม้กระทั่งส่งคนโง่มาเป็นตัวแทนก็ได้รับเลือกจากคนส่วนใหญ่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ใครจะเป็นนายกฯ ไม่สำคัญคนบริหารก็คือทักษิณ
       
       หลังทักษิณออกมาพูดตัวแทนของทหารออกมาบอกว่า “นายทักษิณ อยู่ในสถานะของนักโทษ แต่ยังไม่ได้เดินทางมารับโทษ การแสดงความคิดเห็นใดๆ ผมเชื่อว่าประชาชนมีความรู้วิจารณญาณว่าควรรับฟังหรือไม่ ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ เราต้องการความร่วมมือปรองดองไม่ต้องการการมายุแหย่ การแตกความสามัคคี การแบ่งแยก ฉะนั้นอยากให้พิจารณาถึงสถานะของนายทักษิณ กับสถานะผู้ที่กำลังบริหารราชการแผ่นดิน”
       
       แล้วที่พูดนั้นจริงไหมมีกี่คนที่มีวิจารณญาณรู้ว่าสิ่งที่ทักษิณพูดไม่ควรฟัง แล้วคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ที่มีสิทธิไปเลือกตั้งเขาฟังและเชื่อทักษิณหรือไม่
       
       ถามว่า คสช.นี้ได้ทำอะไรที่บั่นทอนสถานะของทักษิณหรือยัง คำตอบก็คือยังมองไม่เห็น สถานะของทักษิณก็คือเขายังอยู่ในหัวใจของมวลชนระดับล่างในภาคเหนือและอีสานซึ่งรวมแล้วเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ระบอบประชาธิปไตยแบบวันแมนวันโหวตนั่นแหละที่ทำให้ทักษิณยังมั่นใจว่าอย่างไรเสียพรรคของเขาก็จะกลับมาบริหารประเทศอีก เพราะคนเหล่านั้นยังรักทักษิณและเชื่อว่าทักษิณไม่ผิดแต่ถูกกลั่นแกล้ง เพราะทักษิณทำให้คนยากจนอยู่ดีกินดีขึ้น
       
       ตั้งแต่ คสช.เข้ามาเคยออกไปบอกมวลชนรากหญ้าที่รักทักษิณหรือไม่ว่า ทักษิณมีอำนาจแล้วฉ้อฉลอย่างไร ทำไมทักษิณติดคุก ทำไมต้องยึดทรัพย์ทักษิณสี่หมื่นกว่าล้าน แล้วทักษิณเอาเงินจากไหนไปแจกคนจน
       
       วันก่อนได้ยินพล.อ.ประยุทธ์พูดว่า “กลับมาสู้ในกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่เป็นธรรมไม่ถูกต้องกลับมาสิครับ ไม่ใช่ต่อสู้อยู่ข้างนอกแบบนี้ บ้านเมืองก็เสียหาย แล้วผมถามท่านนับถือคนแบบนี้อีกหรือ ผมไปผมอายเขานะ ผมอายเขาที่มีคนระดับใครก็แล้วแต่ที่หนีไปต่างประเทศแล้วประจานประเทศตัวเองแบบนี้”
       
       แม้จะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็หมายถึงทักษิณนั่นแหละ แล้วถามว่า ท่านมีคนมีเครื่องมือสื่อสารเคยบอกประชาชนไหมว่า ทักษิณและระบอบทักษิณชั่วร้ายอย่างไร พูดแต่ว่าเข้ามาเพราะคนสองฝ่ายทะเลาะกัน เครื่องมือสื่อสารที่มีอยู่ท่านทำอะไร วันนี้พอนายกฯ บอกชอบฟังเพลงคนดีไม่มีวันตาย ก็ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ 6 โมงเย็นเปิดเพลงนี้ให้คนไทยฟังทุกวัน
       
       โลกก็ติเตียนว่า รัฐบาลประยุทธ์เป็นรัฐบาลที่ใช้ปืนมายึดอำนาจ ทำลายระบอบประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลไม่กล้าพูดอะไรที่กระทบกระเทือนทักษิณ ไม่กล้าพูดว่าทักษิณถึงมาจากการเลือกตั้ง แต่ใช้อำนาจอย่างมิชอบอย่างไร
       
       เขาว่ากันว่า ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับมีชัยที่กำลังร่างอยู่นั้น ก็เพื่อให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้ง ลองไปดูนะครับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เลือกตั้งอย่างไรแล้วจะทำให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้งได้จริงหรือ
       
       ผมลองคิดให้ดูนะครับ การลงคะแนนครั้งนี้จะใช้บัตรใบเดียวคือบัตรที่เลือก ส.ส.เขต ส.ส.เขตทุกพรรคจะได้รับเลือกตั้งในเขตหรือไม่ก็ตาม จะเอาคะแนนที่ได้รับทุกเขตมารวมกันแล้วรวมเป็นคะแนนพรรค
       
       ผมไม่มีคะแนนครั้งที่แล้ว (เลือกตั้ง 2554) ว่า 2 พรรคได้คะแนน ส.ส.เขตรวมกันเท่าไหร่ เลยสมมติเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ 2 พรรคได้รับมาแทนคะแนนเขตของทั้งสองพรรค
       
       ครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยได้ 15,744,190 คะแนน และรองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ 11,433,501 คะแนน สมมติว่านี่เป็นคะแนนเขตรวมก็แล้วกัน ครั้งนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 75.03% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน
       
       เท่ากับพรรคเพื่อไทยได้ 48.41% ประชาธิปัตย์ได้ 35.15% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 เพื่อไทยได้ผู้แทน 2 ระบบรวม 264 คนคือ จากระบบเขต 203 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 61 คน ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 2 ระบบรวมกัน 161 คน ได้ ส.ส.เขต 117 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 44 คน
       
       แต่ถ้าคำนวณตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่มาตรา 86 เพื่อไทยมีสิทธิได้ ส.ส.2ระบบรวม 242 คน ประชาธิปัตย์มีสิทธิ คสช.เองได้ผู้แทน 2 ระบบรวม 177 คน เกินจากนี้ไม่ได้
       
       เช่นสมมติว่าถ้า 2 พรรคได้ ส.ส.เขตเท่าเดิมคือ เพื่อไทยได้ 203 คน คิดแบบใหม่เพื่อไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มอีก 39 คน รวมเป็น 242 คน ประชาธิปัตย์ถ้าได้ ส.ส.เขตเท่าเดิมคือ 117 คน ประชาธิปัตย์จะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มอีก 60 คน รวมเป็น 177 คน
       
       คือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ออกแบบให้พรรคที่ได้ ส.ส.เขตมากจะได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง แต่จะทำให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้งไหม ก็ยังไม่เห็นหนทางนะ เพราะอย่างไรก็ยังกวาด ส.ส.เขตแบบถล่มทลายในภาคเหนือและอีสานซึ่งมีปริมาณมากกว่าทุกภาค ตราบเท่าที่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าทักษิณเป็นคนดี
       
       ดังนั้น เปลี่ยนวิธีเลือกตั้งก็ชนะพรรคของทักษิณไม่ได้
       
       แล้วเลือกตั้งแบบนี้อะไรเกิดขึ้นทราบไหมครับ ก็คือ ทุกพรรคจะต้องส่งผู้สมัครลงให้ได้ทุกเขต ต้องลงหาเสียงทุกเขต ต่างกับเมื่อก่อนเขตไหนไม่มีโอกาสก็ไม่ค่อยทุ่มคนและเงินลงไป แต่คราวนี้ต้องทุ่มเงินและคนลงไปทุกเขต สิ่งที่ตามมาก็คือ จะต้องใช้เงินในการเลือกตั้งที่สูงขึ้น
       
       ยิ่งใช้เงินมากใครได้ประโยชน์ละครับ ผมว่าพรรคที่รวยยิ่งได้เปรียบนะ แล้วใครมีเงินเยอะก็พรรคของทักษิณใช่ไหม แล้วระบบนี้จะสกัดพรรคของทักษิณได้ไหม คำตอบคือไม่มีทางเลย เพราะเมื่อทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากันแบบวันแมนวันโหวตยังไงพรรคของทักษิณก็ต้องได้เสียงข้างมากอีก
       
       บางคนบอกว่าโอกาสที่จะได้คะแนนเกินครึ่งน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ และถึงไม่ได้เกินครึ่ง เมื่อได้เสียงข้างมาก ก็ไม่ยากอะไรที่จะดึงพรรคเล็กเข้าร่วม ไม่ว่าพรรคของบรรหารหรือพรรคของสุวัจน์ พวกนี้พร้อมจะเป็นพันธมิตรกับทักษิณอยู่แล้ว หรือทักษิณจะสร้างพรรคขึ้นมาสำรองสัก 2-3 พรรคก็ได้
       
       ผมคิดว่าคนที่ไม่เอาทักษิณก็เชื่อที่ทักษิณพูดว่า พรรคของเขาจะกลับมาบริหารประเทศอีก คนพวกนี้จึงกลัวเลือกตั้งคิดอยากให้ประยุทธ์อยู่ไปนานๆ ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นไปไม่ได้ ประยุทธ์เองก็รู้ว่าวันหนึ่งต้องไป
       
       เชื่อเถอะว่า สุดท้ายแล้วพรรคของทักษิณกลับมาบริหารประเทศแบบที่ทักษิณพูดอีกแน่ๆ สิ่งที่ประยุทธ์ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า เพราะสิ่งที่ควรทำคือให้ชาวบ้านรู้ความชั่วช้าของทักษิณ ประยุทธ์ยังไม่ได้ทำอะไรเลย