ทักษิณประกาศชัดเจนว่าไม่ว่ารัฐธรรมนูญออกมาแบบไหนพรรคของเขาจะชนะอีก กลับมาบริหารประเทศอีก ซึ่งเราคงต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทักษิณพูดนั้นมีโอกาสเป็นความจริงสูงยิ่ง แม้ว่าทักษิณจะหนีคุกเป็นนักโทษร่อนเร่อยู่ในต่างประเทศ แต่เขาเป็นคนหนีคุกคนเดียวที่อยู่อย่างเปิดเผยเปิดตัว มีเสรีภาพยังมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองไทยได้ มีโอกาสพบตัวแทนของรัฐ เช่น เอกอัครราชทูตในต่างประเทศ และบางครั้งก็ใช้ศาลที่เขาไม่ยอมรับคำพิพากษานั่นแหละฟ้องร้องใครต่อใครได้อีก แถมศาลไทยก็ยอมให้เขาทำแบบนั้นได้ ทักษิณยังควบคุมพรรคการเมืองที่ชอบด้วยกฎหมายผ่านนอมินี เขาสร้างคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนเขาแล้ว 3 คน แม้กระทั่งส่งคนโง่มาเป็นตัวแทนก็ได้รับเลือกจากคนส่วนใหญ่ให้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ใครจะเป็นนายกฯ ไม่สำคัญคนบริหารก็คือทักษิณ หลังทักษิณออกมาพูดตัวแทนของทหารออกมาบอกว่า “นายทักษิณ อยู่ในสถานะของนักโทษ แต่ยังไม่ได้เดินทางมารับโทษ การแสดงความคิดเห็นใดๆ ผมเชื่อว่าประชาชนมีความรู้วิจารณญาณว่าควรรับฟังหรือไม่ ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ เราต้องการความร่วมมือปรองดองไม่ต้องการการมายุแหย่ การแตกความสามัคคี การแบ่งแยก ฉะนั้นอยากให้พิจารณาถึงสถานะของนายทักษิณ กับสถานะผู้ที่กำลังบริหารราชการแผ่นดิน” แล้วที่พูดนั้นจริงไหมมีกี่คนที่มีวิจารณญาณรู้ว่าสิ่งที่ทักษิณพูดไม่ควรฟัง แล้วคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ที่มีสิทธิไปเลือกตั้งเขาฟังและเชื่อทักษิณหรือไม่ ถามว่า คสช.นี้ได้ทำอะไรที่บั่นทอนสถานะของทักษิณหรือยัง คำตอบก็คือยังมองไม่เห็น สถานะของทักษิณก็คือเขายังอยู่ในหัวใจของมวลชนระดับล่างในภาคเหนือและอีสานซึ่งรวมแล้วเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ระบอบประชาธิปไตยแบบวันแมนวันโหวตนั่นแหละที่ทำให้ทักษิณยังมั่นใจว่าอย่างไรเสียพรรคของเขาก็จะกลับมาบริหารประเทศอีก เพราะคนเหล่านั้นยังรักทักษิณและเชื่อว่าทักษิณไม่ผิดแต่ถูกกลั่นแกล้ง เพราะทักษิณทำให้คนยากจนอยู่ดีกินดีขึ้น ตั้งแต่ คสช.เข้ามาเคยออกไปบอกมวลชนรากหญ้าที่รักทักษิณหรือไม่ว่า ทักษิณมีอำนาจแล้วฉ้อฉลอย่างไร ทำไมทักษิณติดคุก ทำไมต้องยึดทรัพย์ทักษิณสี่หมื่นกว่าล้าน แล้วทักษิณเอาเงินจากไหนไปแจกคนจน วันก่อนได้ยินพล.อ.ประยุทธ์พูดว่า “กลับมาสู้ในกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่เป็นธรรมไม่ถูกต้องกลับมาสิครับ ไม่ใช่ต่อสู้อยู่ข้างนอกแบบนี้ บ้านเมืองก็เสียหาย แล้วผมถามท่านนับถือคนแบบนี้อีกหรือ ผมไปผมอายเขานะ ผมอายเขาที่มีคนระดับใครก็แล้วแต่ที่หนีไปต่างประเทศแล้วประจานประเทศตัวเองแบบนี้” แม้จะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็หมายถึงทักษิณนั่นแหละ แล้วถามว่า ท่านมีคนมีเครื่องมือสื่อสารเคยบอกประชาชนไหมว่า ทักษิณและระบอบทักษิณชั่วร้ายอย่างไร พูดแต่ว่าเข้ามาเพราะคนสองฝ่ายทะเลาะกัน เครื่องมือสื่อสารที่มีอยู่ท่านทำอะไร วันนี้พอนายกฯ บอกชอบฟังเพลงคนดีไม่มีวันตาย ก็ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ 6 โมงเย็นเปิดเพลงนี้ให้คนไทยฟังทุกวัน โลกก็ติเตียนว่า รัฐบาลประยุทธ์เป็นรัฐบาลที่ใช้ปืนมายึดอำนาจ ทำลายระบอบประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลไม่กล้าพูดอะไรที่กระทบกระเทือนทักษิณ ไม่กล้าพูดว่าทักษิณถึงมาจากการเลือกตั้ง แต่ใช้อำนาจอย่างมิชอบอย่างไร เขาว่ากันว่า ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับมีชัยที่กำลังร่างอยู่นั้น ก็เพื่อให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้ง ลองไปดูนะครับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เลือกตั้งอย่างไรแล้วจะทำให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้งได้จริงหรือ ผมลองคิดให้ดูนะครับ การลงคะแนนครั้งนี้จะใช้บัตรใบเดียวคือบัตรที่เลือก ส.ส.เขต ส.ส.เขตทุกพรรคจะได้รับเลือกตั้งในเขตหรือไม่ก็ตาม จะเอาคะแนนที่ได้รับทุกเขตมารวมกันแล้วรวมเป็นคะแนนพรรค ผมไม่มีคะแนนครั้งที่แล้ว (เลือกตั้ง 2554) ว่า 2 พรรคได้คะแนน ส.ส.เขตรวมกันเท่าไหร่ เลยสมมติเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ 2 พรรคได้รับมาแทนคะแนนเขตของทั้งสองพรรค ครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยได้ 15,744,190 คะแนน และรองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ 11,433,501 คะแนน สมมติว่านี่เป็นคะแนนเขตรวมก็แล้วกัน ครั้งนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 75.03% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน เท่ากับพรรคเพื่อไทยได้ 48.41% ประชาธิปัตย์ได้ 35.15% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 เพื่อไทยได้ผู้แทน 2 ระบบรวม 264 คนคือ จากระบบเขต 203 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 61 คน ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. 2 ระบบรวมกัน 161 คน ได้ ส.ส.เขต 117 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 44 คน แต่ถ้าคำนวณตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่มาตรา 86 เพื่อไทยมีสิทธิได้ ส.ส.2ระบบรวม 242 คน ประชาธิปัตย์มีสิทธิ คสช.เองได้ผู้แทน 2 ระบบรวม 177 คน เกินจากนี้ไม่ได้ เช่นสมมติว่าถ้า 2 พรรคได้ ส.ส.เขตเท่าเดิมคือ เพื่อไทยได้ 203 คน คิดแบบใหม่เพื่อไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มอีก 39 คน รวมเป็น 242 คน ประชาธิปัตย์ถ้าได้ ส.ส.เขตเท่าเดิมคือ 117 คน ประชาธิปัตย์จะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มอีก 60 คน รวมเป็น 177 คน คือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ออกแบบให้พรรคที่ได้ ส.ส.เขตมากจะได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง แต่จะทำให้พรรคของทักษิณแพ้เลือกตั้งไหม ก็ยังไม่เห็นหนทางนะ เพราะอย่างไรก็ยังกวาด ส.ส.เขตแบบถล่มทลายในภาคเหนือและอีสานซึ่งมีปริมาณมากกว่าทุกภาค ตราบเท่าที่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าทักษิณเป็นคนดี ดังนั้น เปลี่ยนวิธีเลือกตั้งก็ชนะพรรคของทักษิณไม่ได้ แล้วเลือกตั้งแบบนี้อะไรเกิดขึ้นทราบไหมครับ ก็คือ ทุกพรรคจะต้องส่งผู้สมัครลงให้ได้ทุกเขต ต้องลงหาเสียงทุกเขต ต่างกับเมื่อก่อนเขตไหนไม่มีโอกาสก็ไม่ค่อยทุ่มคนและเงินลงไป แต่คราวนี้ต้องทุ่มเงินและคนลงไปทุกเขต สิ่งที่ตามมาก็คือ จะต้องใช้เงินในการเลือกตั้งที่สูงขึ้น ยิ่งใช้เงินมากใครได้ประโยชน์ละครับ ผมว่าพรรคที่รวยยิ่งได้เปรียบนะ แล้วใครมีเงินเยอะก็พรรคของทักษิณใช่ไหม แล้วระบบนี้จะสกัดพรรคของทักษิณได้ไหม คำตอบคือไม่มีทางเลย เพราะเมื่อทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากันแบบวันแมนวันโหวตยังไงพรรคของทักษิณก็ต้องได้เสียงข้างมากอีก บางคนบอกว่าโอกาสที่จะได้คะแนนเกินครึ่งน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ และถึงไม่ได้เกินครึ่ง เมื่อได้เสียงข้างมาก ก็ไม่ยากอะไรที่จะดึงพรรคเล็กเข้าร่วม ไม่ว่าพรรคของบรรหารหรือพรรคของสุวัจน์ พวกนี้พร้อมจะเป็นพันธมิตรกับทักษิณอยู่แล้ว หรือทักษิณจะสร้างพรรคขึ้นมาสำรองสัก 2-3 พรรคก็ได้ ผมคิดว่าคนที่ไม่เอาทักษิณก็เชื่อที่ทักษิณพูดว่า พรรคของเขาจะกลับมาบริหารประเทศอีก คนพวกนี้จึงกลัวเลือกตั้งคิดอยากให้ประยุทธ์อยู่ไปนานๆ ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นไปไม่ได้ ประยุทธ์เองก็รู้ว่าวันหนึ่งต้องไป เชื่อเถอะว่า สุดท้ายแล้วพรรคของทักษิณกลับมาบริหารประเทศแบบที่ทักษิณพูดอีกแน่ๆ สิ่งที่ประยุทธ์ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า เพราะสิ่งที่ควรทำคือให้ชาวบ้านรู้ความชั่วช้าของทักษิณ ประยุทธ์ยังไม่ได้ทำอะไรเลย |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น