PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

โมซุลเดือด! กองกำลังอิรักปะทะไอเอส ยึดพื้นที่คืนเพิ่ม

โมซุลเดือด! กองกำลังอิรักปะทะไอเอส ยึดพื้นที่คืนเพิ่ม
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. กองกำลังอิรักได้ปะทะอย่างรุนแรงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในนครโมซุล และยึดคืนเขตอุตสาหกรรมและพื้นที่ใกล้เคียงได้ภายในหกวัน เพื่อยึดคืนพื้นที่ทางตะวันออกของนครโมซุลอย่างต่อเนื่อง
กองกำลังพิเศษต่อต้านก่อการร้าย (CTS) ได้เดินหน้าต่อสู้และรุกคืบเพื่อยึดคืนเขตอุตสาหกรรมและปักธงประเทศอิรักบนตึกต่างๆ
กองกำลังดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยเครื่องบินของกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งในวันนั้นได้ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส และคร่าชีวิตกองกำลังของไอเอสไป 75 นาย อีกทั้งยังทำลายรถที่วางทุ่นระเบิด 3 คัน ตลอดจนเข้ายึดแหล่งผลิตระเบิดได้สองแห่ง
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) นายกรัฐมนตรีอิรักประกาศว่า จะรุกคืบเพื่อยึดคืนนครโมซุลครั้งใหญ่ ซึ่งนครโมซุลนับเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองกำลังอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากกองพันธมิตรระหว่างประเทศ ก็ได้รุกคืบพื้นที่ทางตะวันออกของโมซุล และเปิดเส้นทางรอบๆ เมือง
ทั้งนี้ นครโมซุลตั้งอยู่ทางเหนือห่างจากกรุงแบกแดด ที่เป็นเมืองหลวงของอิรัก ราว 400 กิโลเมตร โดยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอเอสตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014 ในขณะที่กองกำลังรัฐบาลอิรักวางอาวุธและละทิ้งพื้นที่ไป ทำให้กลุ่มไอเอสเข้ายึดพื้นที่ทางตะวันตกและเหนือของอิรักได้ในที่สุด

เลื่อนโรดแมปเลื่อกตั้ง

รบ. ไม่เลื่อนเลือกตั้งไปปี 61 ยันดำเนินการตามโรดแมป - นายกฯ สั่งเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในชายแดนใต้

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณีกระแสข่าวการเลื่อนการเลือกตั้งจากปลายปี 60 ไปปี 61 ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ออกมาจากรัฐบาล และไม่ได้แสดงท่าทีหรือมีความเห็นต่อประเด็นเลื่อนโรดแมปแต่อย่างใด โดยยืนยันจุดยืนยังเหมือนเดิมตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ ซึ่งเชื่อว่ากระแสข่าวเกิดจากความวิตกกังวลและการคาดเดาของฝ่ายต่าง ๆ เท่านั้น ทั้งนี้ รัฐบาลไม่มีความกังวลกับกระแสข่าวดังกล่าวและมั่นใจว่าจะไม่ทำให้กลายเป็น
ข้ออ้างให้มีการปลุกระดมมวลชน เนื่องจากทุกภาคส่วนได้พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้

พร้อมกันนี้ พล.ท.วีรชน กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียด้วย
--
นายกฯ แต่งเพลง "สะพาน" ให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก้าวสู่ความมั่นคง - เตรียมหารือช่วยเหลือน้ำท่วม 3 จังหวัดชายแดนใต้

บรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ปี 2560 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุมนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่แก่สื่อมวลชนทุกคนที่มาติดตามทำข่าวในวันนี้

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยภายหลังถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรี ชุดที่ 4 ของรัฐบาลชุดนี้ ว่า ได้มีการแต่งเพลง "สะพาน" ให้แก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อก้าวข้ามไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ร่วมกัน

สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจในวันนี้ คาดว่า ที่ประชุมจะมีการรายงานเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในช่วงวันหยุดยาว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา และการเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนรถกระบะ ที่ จ.ชลบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 25 ราย รวมถึงรายงานสถานการณ์น้ำท่วม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และ
พบว่าบริเวณลุ่มน้ำปัตตานี, สายบุรี และ โก-ลก ยังมีปริมาณน้ำมาก โดยเฉพาะที่ลุ่มน้ำสายบุรี เพื่อหาแนวในการแก้ไขและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

นอกจากนี้ ที่จะประชุมจะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีเยียวยาให้ทหารและตำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน รวมทั้งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก แก้ไขเพิ่มโทษ ทั้งการเมาสุรา และแข่งรถบนถนนสาธารณะ
-------
"วัฒนา" โพสต์เฟซบุ๊ก เดินทางเยี่ยม "ทักษิณ" ที่ดูไบ สวัสดีปีใหม่ 2560 เชื่อเป็นห่วง - ไม่คิดทำร้ายประเทศไทย

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" ว่า ได้เดินทางไปดูไบเพื่อกราบสวัสดีปีใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เกือบไม่ได้เดินทาง เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าถูกคำสั่งศาลอาญา กรุงเทพใต้ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จึงได้แจ้งว่าศาลพิพากษายกฟ้อง และให้เลขาฯ ส่งเอกสารคำพิพากษาให้ทางไลน์เพื่อนำมาแสดง จนสามารถเดินทางได้ ซึ่งเมื่อได้พบ นายทักษิณ ในวัย 67 ปี รู้สึกว่าใจเย็นลงมาก แต่ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง และตื่นตัวตลอดเวลา และยังเป็นคนเดิมที่ชอบอ่านหนังสือหาความรู้ ทั้งยังติดตามความเป็นไปของโลกและของประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ นายวัฒนา กล่าวว่า นายทักษิณ ได้พูดถึงบ้านเมืองด้วยความห่วงใย และส่วนตัวเชื่อว่า นายทักษิณ ไม่เคยคิดร้ายกับประเทศไทย เพราะธุรกิจและบุคคลในครอบครัวล้วนอยู่เมืองไทย ดังนั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศชาติก็ย่อมจะได้ความเสียหาย หรือหากคิดไม่ดีกับบ้านเมืองคนที่จะได้รับผลร้าย ซึ่งเสมือนเป็นตัวประกันที่อยู่ในเมืองไทยก็คือ บุตร ภรรยา และญาติพี่น้องที่รัก
-----------
"ดอน" ชี้แจง ต่างประเทศ กรณีกระแสข่าวเลื่อนโรดแมป ยันเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ เชื่อต่างชาติเข้าใจ

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่มีต่างชาติใด สอบถามเรื่องการเลื่อนโรดแมปแล้ว เพราะได้เห็นกระบวนการและทิศทาง หลังจากที่ประเทศไทยผ่านการทำประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคม ว่า จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ แต่ยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ อาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีแผนงานทั้งหมดไว้อยู่แล้วเพื่อเดินหน้า แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์วันที่ 13 ตุลาคมขึ้น ซึ่งโรดแมป อาจจะมีบวกลบบ้าง แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะปรับอย่างไร ก็จะไม่กระทบกับความเชื่อมั่น เพราะเมื่อมีรัฐธรรมนูญทุกอย่างก็ต้องเดินตามนั้น โดยต่างชาติเข้าใจในเรื่องนี้ดี
-----------
นายกฯ ย้ำโรดแมปตามขั้นตอน เมินใช้ ม.44 นิรโทษกรรม ชี้หากต้องการเสนอ ก็ให้เสนอมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ถึงกระแสข่าวที่จะมีการเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งไปปี 2561 ว่า ขอให้เข้าใจขั้นตอนของโรดแมปที่จะต้องมีรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก และถึงจะมีการการเลือกตั้ง โดยยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและสถานการณ์

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงข้อเสนอให้ใช้ ม.44 ในการนิรโทษกรรมนักการเมือง ว่า ไม่ใช่เรื่องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากผู้ใดต้องการที่จะเสนอ ก็ให้หาวิธีเสนอมา แต่ขอมาอย่ายุ่งกับ ม.44 และสิ่งสำคัญจะต้องขึ้นอยู่กับสังคม และประเทศไทยด้วยว่าจะยอมรับได้หรือไม่
------------
นายกฯมอบคำขวัญวันเด็ก ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง - แต่งเพลงสะพานสร้างความเข้าใจประชาชน ข้าราชการ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเรื่องคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2560 ว่า ได้เน้นเรื่องการพัฒนาประเทศทั้งหมด โดยคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2560 คือ "เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง"

ส่วนการแต่งเพลง สะพาน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการแต่งเพลงเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน และข้าราชการ เนื่องจาก ปี 2560 เป็นปีที่สำคัญต่อการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นข้าราชการการเมืองจะต้องทำตัวเป็นเหมือนสะพาน เพื่อให้ประชาชนก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง
ทั้งหมดไปได้ ซึ่งการแต่งเพลงนี้เพื่อมอบให้ประชาชนทั้งประเทศ และต้องการให้ทุกคนทำงาน
--------
นายกฯ ขอโทษส่งตำรวจดู "ยิ่งลักษณ์" ชี้ห่วงความปลอดภัย - ยัน ปม พระธัมมชโย เป็นตามกฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนอกเครื่องแบบ ติดตามระหว่างเดินทางไปพักผ่อน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า เพียงเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น พร้อมขอโทษที่เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกับครอบครัวเยอะเกินไป

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ขอให้เป็นเรื่องของคดีความ ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะดำเนินการจับกุมทันที พร้อม
ขอร้องพุทธศาสนิกชน ให้พิจารณาว่าสิ่งใดผิดหรือถูก และขอให้เห็นใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่สามารถดำเนินคดีกับประชาชนได้ครั้งละ 4 - 5 พันคน และขอให้สังคมเข้าใจด้วย
///
อย่าทวงสัญญา
ดู...บิ๊กตู่ โวย ขอ อย่ามาทวงสัญญาผม เรื่องเป็นประชาธิปไตย.ที่ขอเวลาอีกไม่นาน ถาม แล้วมันเสร็จรึยัง. ผมสัญญาว่าจะ คืนความสุขเร็ว หรือ ช้า ขึ้นอยู่กับโรดแมพ มีขั้น ตอน ไม่ต้องไปฟังใครกี่เดือนกี่ปี...
เผย ได้ใส่ ไปในเนื้อเพลง "สะพาน" ด้วย ดังนั้น ไม่ต้องมาทวงสัญญา
-----
"ประยุทธ์4"....สะพานสู่ ฝัน‬
‪นายกฯบิ๊กตู่ พร้อม 12ครม.ใหม่ ที่เป็น7รมต.เก่า สลับเก้าอี้ และ4 รมต.หน้าใหม่ ถ่ายภาพร่วมครม.ครั้งแรก...วันนี้ นายกฯ เลยเปิดตัว เพลง"สะพาน" ที่แต่งให้‬ ครม. เพื่อนำประชาชน ก้าวข้ามแม่น้ำ

อันเชี่ยวกราก อุปสรรค นานา สู่ ฝันที่เป็นจริง
-----------
Bridge....ครม."สะพาน"
บิ๊กตู่ เปรียบ ตนเองและครม.เป็น"สะพาน" "ที่จะนำประเทศ และประชาชนข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ข้ามอุปสรรค สู่ฝันอันยิ่งใหญ่
"Bridge over troubled water"
-----------
‪ฟัง...เพลง"สะพาน"ที่ นายกฯบิ๊กตู่ แต่งเพลง ให้ เป็นเพลง ประจำ ครม ที่เปรียบเสมือน ครม. ทุกคน จะทำหน้าที่ เป็น"สะพาน" พาพี่น้องประชาชน ผ่านภาวะ ที่ลำบาก เหมือนเป็นสะพานพา

ประชาชน ข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ไปสู่ทางที่ดีกว่า และ พบเจอกับสิ่งใหม่ ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป
เพลงสะพาน
https://www.youtube.com/watch?v=pzgaTIEg440&feature=youtu.be
คาด นายกฯได้แรงบันดาลใจจากเพลง Bridge over troubled water เพลงโปรด นั่นเอง

"วันนั้นอีกไม่ไกล จะกลายเป็นจริง...ตามที่สัญญา
พร้อมจะเป็นสะพานเพื่อให้เธอก้าวไป ปลายทางที่ฝันดังตั้งใจ
ข้ามสู่ความร่มเย็นสดใส
วันนั้นอีกไม่ไกลสิ่งที่ฝันไว้จะกลายเป็นจริง
---"เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา"
///
เผยแพร่เมื่อ 3 ม.ค. 2017

เพลงสะพาน ประพันธ์โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเพลงประจำคณะรัฐมนตรี ที่เปรียบเสมือนคณะรัฐมนตรีทุกคน จะทำหน้าที่เป็นสะพานพาพี่น้องประชาชนผ่านภาวะ ที่

ลำบาก (เหมือนเป็นสะพานพาคนข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก) ไปสู่ทางที่ดีกว่า และพบเจอกับสิ่งใหม่ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป // 4 มกราคม 2560

ประพันธ์คำร้องโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เรียบเรียงคำร้องและทำนองโดย วิเชียร ตันติพิมลพันธ์
เรียบเรียงเสียงประสานโดย พันตรี สุระชัย ถวิลไพร
ขับร้องโดย จ่าสิบเอก พงศธร พอจิต

อาจจะนานที่สุดเพื่อเธอ เพื่อแผ่นดินที่แสนรักมั่น นานแค่ไหนรู้ไว้ไม่หวั่นหัวใจ
เมื่อต้องเจอเเม่น้ำเชี่ยวกราก อุปสรรคที่แสนยิ่งใหญ่ จะพาเธอให้พ้นทุกข์ภัยเช่นไร

อย่าเพิ่งท้อแท้ เพราะฉันไม่เคยจะท้อถอย สองมือจะไม่ปล่อย ขอจงอย่าหวั่นใดใด

ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามไป ปลายทางที่ฝัน จะพาถึงฝั่ง ดั่งที่ตั้งใจ
ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามสู่ความร่วมเย็นสดใส ปลายทางที่ฝัน จะพาถึงฝั่ง ดั่งที่ตั้งใจ
วันนั้นอีกไม่ไกล สิ่งที่ฝันไว้... จะกลายเป็นจริง

สิ่งที่ในวันนั้นสัญญา ที่ผ่านมายังสู้ด้วยใจ ต่อให้ล้มยังลุกขึ้นใหม่ทุกครา
เกิดมามีชีวิตเพื่อเธอ เพื่อแผ่นดินที่แสนมีค่า จะตอบแทนจะสู้จนกว่าจะสิ้นใจ

เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา
ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามไป ปลายทางที่ฝัน จะพาถึงฝั่ง ดังที่ตั้งใจ
ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามสู่ความร่วมเย็นสดใส
วันนั้นอีกไม่ไกล สิ่งที่ฝันไว้...จะกลายเป็นจริง
https://www.youtube.com/watch?v=pzgaTIEg440&feature=youtu.be

////////
ยึดปฏิทิน...ยึดโรดแมพ

นายกฯ บิ๊กตู่ ยันไม่เลื่อนโรดแมพ ชี้ การเลือกตั้ง เป็นไปตามปฏิทินเลือกตั้ง ...แต่ถาม แล้วถ้าให้หาเสียง วันนี้เอามั้ย ก็ด่ากัน ตั้งแต่วันนี้ มีมั้ยที่ไม่ด่ากัน....ขอ อย่ามาทวงสัญญาผม เรื่องเป็นปชต. ที่ขอ

เวลาอีกไม่นาน แล้วมันเสร็จรึยัง. ผมสัญญาว่าจะ คืนความสุขเร็ว หรือ ช้า ขึ้นอยู่กับโรดแมพ ไม่ต้องไปฟังใครกี่เดือนกี่ปี...เปรย ถ้าอยากเร็ว ก็ต้องช่วยผม จะได้เร็ว
------------
เสียงดัง...ยังไม่ตาย ง่ายๆหรอก5555
‪วันนี้ นายกฯบิ๊กตู่ แถลงข่าว เสียงดัง ออกแนวฉุน ....แต่เจ้าตัว ยันไม่ได้อารมณ์เสีย แต่อารมณ์ดี.... "วันนี้ เสียงดัง หน่อย เพราะไม่ได้พูดมา 4วัน ได้แต่เขียนออกมา"....555‬....เผยเป็นหวัด ยังไม่หาย

แค่หูอื้อ แต่ยังไม่ตายหรอก. ยังทำงานได้ จะเป็นไรไป ทำความดีแล้วตาย ดีกว่าพวกที่ไม่ได้ทำความดี....แล้วยังไม่ตาย
-----------
‪ม.44 ของพ้มมมม..!!!!‬
‪นายกฯ บิ๊กตู่ ยันไม่เคยคิดใช้ มาตรา44 ออก "นิรโทษกรรม" ยันไม่คิดจะใช้ ลั่น "อย่ามายุ่งกับ มาตรา44 ของผม"‬
------------
อย่า ถ่ายรูป"ยิ่งลักษณ์"มากนัก
‪นายกฯบิ๊กตู่ ขออภัย "ยิ่งลักษณ์"ที่ตำรวจตาม เตือนตร.อย่าไปถ่ายรูปท่านมากนัก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นส่วนตัว แต่เพราะต้องดูแลความปลอดภัย เดี๋ยวเกิดอะไรจะหาว่ารัฐบาลไม่ดูแล เผย‬ ผมบอกฝ่าย

ความมั่นคงไปแล้วว่า ตำรวจก็อย่าไปถ่ายรูปมากนัก ชี้อันไหนที่ผมรับได้ ก็รับ
-------
หวั่น "มือที่3"
บิ๊กป้อม ยอมรับ ตำรวจตามดูแล อดีตนายกฯ"ยิ่งลักษณ์" เพื่อให้ปลอดภัย ชี้หากเป็นอะไรไป รัฐบาล ก็เดิอดร้อน เราไม่รู้หรอก อาจมี"มือที่สาม" มาทำไม่ดีอะไร ป้องกันไว้ก่อน ยันตร.ไม่ได้ไปทำ

อะไร ไปตามดูอะไร แค่ป้องกันไม่ให้เกิดอะไรขึ้น เพราะท่านเป็นอดีตนายกฯ เราต้องดูแล เผยจะให้ ตำรวจ ทั้ง ในและนอกเครื่องแบบ ตามไปดูแลทุกที่ ป้องกันเกิดปัญหา เราไม่มีเจตนาไปจ้องอะไรท่าน
------------
"พล.อ.ประวิตร" ยอมรับ ส่งตำรวจตาม "ยิ่งลักษณ์" ดูความปลอดภัย ปัดเจตนาแอบแฝง ย้ำเลือกตั้งตามโรดแมป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตาม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงปีใหม่ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แต่เพื่อติดตามและป้องกัน ดูแลรักษาความปลอดภัย ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุมือที่สาม ที่ไม่หวังดี ที่อาจจะก่อความไม่สงบได้ พร้อมกันนี้ ยังระบุอีกว่า ต้องติดตามทุกที่ ซึ่งจะมีทางเจ้าที่ตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบในการดูแล

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยืนยันโรดแมปของรัฐบาล และ คสช. ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม ซึ่งข้อเสนอของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นเพียงข้อสันนิษฐานและการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น พร้อมย้ำรัฐบาลยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมีขั้นตอน และระเบียบการปฏิบัติ ตามระยะเวลาที่กำหนด ขอทุกฝ่ายอยากคิดหรือมโนเอาเอง
-----------------
ขอเล่าเรื่อง "ทักษิณ" (1)
วานนี้ (3 มกราคม) ผมเดินทางไปดูไบเพื่อกราบสวัสดีปีใหม่ท่านนายกทักษิณ ผมเลือกเดินทางด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 351 ซึ่งมีกำหนดออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 06.45
นาฬิกา ผมไปถึงสนามบินตั้งแต่เวลา 05.15 นาฬิกา แต่เกือบไม่ได้เดินทางเพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าผมถูกคำสั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ผมแจ้งว่าคดีของผมศาล

พิพากษายกฟ้อง ดังนั้น คำสั่งห้ามจึงสิ้นผลและผมเชื่อว่าศาลน่าจะมีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ขอให้ผมนำคำพิพากษามาแสดง ผมต้องโทรศัพท์ไปปลุก
เลขาแต่เช้ามืดให้ส่งให้ผมทางไลน์ ผมเสียเวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกว่าจะได้รับอนุญาตให้เดินทางในเวลา 06.40 นาฬิกา ทุลักทุเลกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง วันนี้ผมจะให้ทนายความไปตรวจสอบเรื่อง
นี้จากศาล

ผมไปถึงดูไบตามเวลาท้องถิ่น 10.35 นาฬิกา ท่านนายกส่งคนมารับผมที่สนามบินพาไปพบท่านที่บ้าน ท่านในวัย 67 ปีใจเย็นลงมากแต่ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉงและตื่นตัวตลอดเวลา ท่านยังเป็นคนเดิมที่ชอบอ่านหนังสือหาความรู้ ทั้งยังติดตามความเป็นไปของโลกและของประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ ท่านนายกเลี้ยงข้าวกลางวันผมที่บ้านพัก จากนั้นพาผมไปทานกาแฟและหาซื้อหนังสือที่ดูไบมอลล์ซึ่งยังมีคนมาขอถ่ายรูปกับท่านอย่างสม่ำเสมอ ท่านให้ความรู้ผมหลายเรื่องโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจรวมถึงความเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งผมคงต้องใช้เวลาถ่ายทอดให้แฟนเพจผมฟังหลายตอน ท่านนายกพูดถึงบ้านเมืองด้วยความห่วงใยและผมเชื่อว่าท่านไม่เคยคิดร้ายกับประเทศไทย เพราะธุรกิจและบุคคลในครอบครัวของท่านล้วนอยู่เมืองไทยกันหมด ดังนั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศชาติท่านก็ย่อมจะได้ความเสียหาย หรือหากท่านคิดไม่ดีกับบ้านเมืองคนที่จะได้รับผลร้ายซึ่งเสมือนเป็นตัวประกันที่อยู่ในเมืองไทยก็คือลูกเมียและญาติพี่น้องที่ท่านรัก ใครมีสติปัญญาคงพอคิดออก คราวหน้าจะเล่าเรื่องที่คุยกับท่านให้ฟังอีกครับ
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
4 มกราคม 2560
---------------------
โรดแมป คสช.กับการเลือกตั้งปี 2560
30/12/59
กระบวนการประกาศบังคับใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติทำให้โรดแมปสู่การเลือกตั้งของ คสช.ต้องขยับออกไปอีก 1-2 เดือน ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน ทำให้เริ่มมีข้อ
สงสัยมากขึ้นว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในปี 2560 ตามโรดแมปหรือไม่

(29 ธ.ค.2559) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่นำคณะเข้าอวยพรปีใหม่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ว่า นายกฯ เหนื่อยมา 2-3 ปีแล้ว และยังต้องเหนื่อยต่อไป ซึ่งมีนัยว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องอยู่บริหารประเทศต่อไป

ขณะนี้โรดแมป คสช.เดินทางมาถึงระยะที่ 3 ตอนต้น นั่นคือ การประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งนายกฯ ได้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวยเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2559 ซึ่งมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันนับแต่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการจัดการเลือกตั้ง มีผลบังคับใช้ และผูกพันอยู่กับมาตรา 267 ที่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ 240 วัน นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

ถ้ายึดตามโรดแมป รัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเวลานี้ขยายออกมาราว 2 เดือน แต่ระหว่างนี้ กรธ.ก็เดินหน้ายกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ
ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้แล้ว โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยืนยันว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และคาดว่าจะให้ความเห็นชอบไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2560

ดังนั้นตามกรอบเวลาในการจัดการเลือกตั้งจะต้องไม่เกินเดือนธันวาคม ปี 2560 และใน 60 วันต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อได้ว่าจะมีการประชุมรัฐสภานัดแรก และมีรัฐบาลจากเลือกตั้งไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 แต่รายละเอียดทั้งหมดนี้ยังไม่นับเงื่อนไขใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บ้านเมือง รวมไปถึงต้องไม่เกิดปัจจัยอื่นให้โรดแมปต้องขยับออกไปอีก
-------
คลื่นความถี่แรงรับศักราชใหม่ ตามสัญญาณเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้ง
(ไทยรัฐ หน้า3/4ม.ค.60)

เบื้องต้นเลยให้จับตารัฐธรรมนูญใหม่ที่ครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้

สถานการณ์น่าจะเป็นคำตอบถึงความเป็นไปหลังจากนั้น

แต่ ณ ห้วงนี้ เมื่อยังไม่มีอะไรชัดเจน ก็ต้องถือเอาสัญญาประชาคมที่ นายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ประกาศให้ได้ยินทั่วโลก

เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต่างชาติยึดเป็นเกณฑ์พิจารณาสถานการณ์เมืองไทย

ในมุมเดินหน้าตามโรดแม็ปสู่การเลือกตั้งตามโปรแกรม

ตามแผนที่กะเกณฑ์กันไว้ ประเมินสัญญาณจากฝ่ายยุทธศาสตร์ทีมงานรัฐบาล คสช.

พรรคการเมือง นอมินีทหารต้องเกิดขึ้นแน่

เพื่อเป็นต้นทุนประกันความปลอดภัยให้ นายกฯลุงตู่ ในฐานะเต็งหามนายกฯคนนอก

เพราะลำพัง 250 เสียงของ ส.ว.ลากตั้งมีพลังแค่ตอนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากนั้นเป็นเกมที่ นายกฯลุงตู่ ต้องมาโดนไล่บี้ไล่ต้อนในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันร่าง พ.ร.บ.

งบประมาณ ร่างกฎหมายสำคัญ หรือแม้กระทั่งกระทู้ถามปกติทั่วไป

โดยเฉพาะคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ยังไงก็หนีไม่ออก

ในยามที่ บิ๊กตู่ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ ไม่มีกระบองยักษ์มาตรา 44 ไม่สามารถไว้ใจนักการเมือง เชื่อมั่นพรรคร่วมรัฐบาลได้เต็มที่ ทั้งยี่ห้อประชาธิปัตย์ ค่ายภูมิใจไทยของเสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล และ

พรรคชาติไทยพัฒนาในยุคลูกหลานตระกูลศิลปอาชา

พลิกเหลี่ยมการเมืองมาขี่คอผู้นำทหารได้ทุกจังหวะ

ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่ส่งเสียงเร่งเร้าให้รัฐบาลทหารปล่อยไฟเขียวลงสนามเลือกตั้งตามโรดแม็ป ตีปี๊บมั่นใจกระแส ทักษิณ ที่ยังตีกินได้สบายๆ

เลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็กลับมาเป็นรัฐบาลได้แบบเสียงถล่มทลาย

แต่ลึกๆปัญหาภายในพรรคยังกั๊กกันไม่จบ กับเครื่องหมายคำถาม ใครจะเป็น แม่ทัพเข้ามาขัดตาทัพ ภายใต้เงื่อนไขตระกูลชินโดนพันธนาการ

โฟกัสไปที่ตัวเต็งอย่างเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองหลวง

ที่ข่าวแว่วๆได้ตั๋วจาก นายหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว

แต่ล่าสุดเสียงชัดๆจากปากอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้กุมกระแสความนิยม ยังแทงกันตีกั๊กแค่ว่า ต้องรอให้เป็นมติของสมาชิกและคณะกรรมการบริหารพรรค

เจ๊หน่อย ยังต้องเผชิญด่านสำคัญ และไม่ว่าใครจะเข้ามานั่งเป็นหัวขบวน โดยสถานะของพรรคเพื่อไทยที่ยังจัดอยู่ในโซนต้องห้ามของฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทย

ไม่มีทางจะปล่อยให้เดินหมากเลือกตั้งง่ายๆ

ถึงจะฝ่าด่าน โกยเสียงเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ตามเงื่อนไขยังไงก็ต้องอยู่ภายใต้เงาทหารบริหารได้ภายใต้ข้อจำกัดที่ถูกล็อกไว้ในกติการัฐธรรมนูญใหม่

ในสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจที่ติดล็อกทั้งภายใน ภายนอกประเทศ ต่อให้ยี่ห้อทักษิณก็ยากที่จะเสกคาถาให้เศรษฐกิจไหลลื่น ฟื้นกลับมาในเร็ววัน

เผลอๆทำไม่ดี จุดขายยี่ห้อทักษิณสิ้นราคา สถานการณ์จะยิ่งขาดทุนยับไปกันใหญ่

เดาทางพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งรอบหน้าก็คงมุ่งไปที่การจองที่นั่งเป็นฝ่ายค้าน คอยกระตุกแข้ง กระตุกขารัฐบาลทหาร ลากจังหวะให้ท็อปบูตแพ้ภัยตัวเอง

รอคนเบื่อทหาร คะแนนจะไหลไปที่ยี่ห้อ ทักษิณ

เพื่อไทยก็แค่ขยับขอคืนพื้นที่ในสภาให้ลูกทีมได้มีน้ำเลี้ยงประทังชีวิตเท่านั้น

เหนืออื่นใด นักเลือกตั้งอาชีพ ใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาถอนทุน คงต้องชะงักไปตามๆกัน

ประเมินสัญญาณการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ ที่มุ่งเน้นการจัดระเบียบประเทศ กระตุกสังคมไทยที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ ฉกฉวยผลประโยชน์ส่วนตนจนรัฐเกือบล่มสลาย

ยาแรงไล่ล้างเชื้อโกง ยุทธการปราบคอร์รัปชันเข้มข้นแน่

นักการเมืองพันธุ์เก่าที่คิดจะหากินแบบเดิมๆ เสี่ยงโทษถึงประหารชีวิต

สรุปเอาเป็นว่า ทุกป้อมค่ายยังติดล็อกเงื่อนพันธนาการรัฐธรรมนูญใหม่และกฎหมายลูก ในจังหวะยังก้าวไม่พ้นช่วงเปลี่ยนผ่าน

ต่อให้ไม่โดนเซ็ตซีโร่ ถึงจะได้ไฟเขียวปล่อยลงสนามเลือกตั้ง

แต่เอาเข้าจริงนักการเมืองอาชีพก็ยังไม่พร้อมเดินเกมเต็มสูบ.

ทีมข่าวการเมือง
------------------------------
ปฏิบัติการข่าวสาร เลื่อน “โรดแมป” “โหร” นำร่อง “เนติบริการ” ตามติดๆ
3ม.ค.60
หากฟังเสียงจาก นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประสานกับเสียง นาย

วิษณุ เครืองาม ในเรื่อง “โรดแมป”

ก็จะถึง “บางอ้อ”

บางอ้อว่าที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ออกมาพูด

เสมอเป็นเพียง “กิระดัง ได้สดับมา”

เมื่อ “กิระดัง ได้สดับมา”  จึงต้องเสาะหา “ข้อมูล” และ”เหตุผล” มารองรับ

น้ำหนักจึงวางอยู่กับ “กฎหมายลูก”

เมื่อน้ำหนักวางไปยัง “กฎหมายลูก” จึงเท่ากับมิได้เป็นการรั้งดึงและเตะถ่วงโดย “สนช.”

หากแต่มาจากปัจจัย”อื่น”มากกว่า

พลันที่ฟัง นายวิษณุ เครืองาม ผนวกเข้ากับฟัง นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ก็ต้องยอมรับว่า “กระจ่าง”

รับรองได้เลยว่า “โรดแมป”ต้องเป็น “โรคเลื่อน”

กระบวนท่าอันมาจาก นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางด้านข่าวสารแน่นอน

อย่างที่เรียกว่า Information Operation

แม้ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ จะเป็น”พลเรือน” แต่อย่าลืมว่าเขาเป็น “โหร”

ทั้งยังเป็น “โหร” ที่อาศัยนั่ง “ทางใน”

มิได้มีการดูผ่านไพ่ทาโรต์ มิได้เป็นการผูกดวง คำนวณชะตาไปตามเส้นโคจรแห่งดวงดาว

ตรงกันข้าม เป็นการรับ”สาร”มาจาก “ฤาษี”

และฤาษีท่านนี้ คือ “ฤาษีเกวาลัน” ก็มิได้บำเพ็ญเพียรอยู่บนยอดดอยอินทนนท์

หากแต่สถิตอยู่ ณ หิมพานต์ อันไกลโพ้น

นี่จึงเป็นปฏิบัติการทางด้าน “การข่าว” ซึ่งแม้จะอยู่ในยุคประ เทศไทย 4.0

แต่ก็ย้อนสู่ “ประเทศไทย 1.0” ได้อย่างสดใส ไพจิตร



ความจริง ไม่จำเป็นต้องพึ่งบริการจาก นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย หรือแม้กระทั่ง พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ก็ย่อมได้

เพียงแต่ท่านเล่นบท “สมิงพระราม” เอง

เหมือนกับที่คนอย่าง นายวันชัย สอนศิริ หรืออย่าง นายเสรี สุวรรณภานนท์ เคยกระทำมาก่อนหน้านี้

กระทั่งได้ฉายา “คุณห้อย คุณโหน”ไป

หากศึกษากระบวนการทางการเมืองหลังยุครัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็จะมองออก

1 มอบหมาย “โหร” เล่นบท “นำร่อง”

ขณะเดียวกัน 1 จากนั้น บรรดาเหล่า “เนติบริกร” ก็ออกมาแจกแจง

“โรดแมป” จึงแปรเป็น “โรคเลื่อน”โดยประการละฉะนี้
-----------
รองนายกฯ ยืนยันการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็พ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (4 ธ.ค.) ถึงกรณีที่ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่าอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นช่วงกลางปี 2561 เนื่องจากต้องพิจารณา

กฎหมายจำนวนมากนั้น ต้องเรียนว่าเรื่องนี้ยาว จะพูดสั้นไม่ได้ ต้องมาคุยกันอีกครั้ง เพราะถ้าพูดตอนนี้อาจเกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ตนขอยืนยันยังเป็นไปตามโรดแม็พเหมือนเดิม
เมื่อถามว่ากฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่ในสนช. มีเป็นจำนวนมากหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ถ้ากฎหมายค้างก็เร่งพิจารณา
การเลือกตั้งImage copyrightWASAWAT LUKHARANG / BBC THAI
ด้านมติชนออนไลน์รายงานอ้างอิง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง การชี้แจงกรณีดังกล่าวกับต่างประเทศด้วยว่า ไม่มีชาติไหนมาถามแล้ว เพราะเขาเห็น

กระบวนการ และทิศทางแล้วหลังจากที่ไทยผ่านการทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี นายดอน ยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ อาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีแผนงานทั้งหมดไว้อยู่แล้วเดินหน้า แต่ไม่คิดว่าจะเกิด

เหตุการณ์วันที่ 13 ตุลาคมขึ้น ซึ่งโรดแมปอาจจะมีบวกลบบ้าง แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะปรับอย่างไร ก็จะไม่กระทบกับความเชื่อมั่น เพราะเมื่อมีรัฐธรรมนูญทุกอย่างก็ต้องเดินตามนั้น ต่างชาติเขาเข้าใจใน

เรื่องนี้ดี

นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)

ด้านไทยรัฐออนไลน์รายงานด้วยว่า นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า กรธ. เตรียมดำเนินการในส่วนรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่าง

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่า ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2560 โดยจะจัดเวทีรับฟังความเห็นต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ในพื้นที่ 4

ภูมิภาค โดยจะนำเนื้อหาของร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่ง กรธ.ได้พิจารณาจัดทำแล้วเบื้องต้นแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ขณะที่เนื้อหาเบื้องต้นจะยึดตามบทบัญญัติของร่าง

รัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ อาทิ การเลือกตั้ง ส.ส.จะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ขณะที่การได้มาซึ่ง ส.ว.จะแบ่งการได้มาเป็นกลุ่มต่างๆ และกำหนดหลักเกณฑ์ต่อการเลือกกันเองระดับอำเภอ

ระดับจังหวัด และระดับประเทศ
---------------
////////

Thanapol Eawsakul
6 นาที ·
ทำไมการเลื่อนเลือกตั้ง ไปปี 2561 ของคณะรัฐประหารจึงทำให้คนโกรธมากกว่า เลื่อนปี 2558 2559 2560
เพราะคนจำนวนมากเชื่อว่า ลงประชามติ 2559 แล้วจะมีเลือกตั้ง 2560
ดังนั้นการสรุปหลังประชามติว่า คน 16 ล้านคน ยอมรับระบอบรัฐประหาร น่าจะสรุปเกินจริง
คนจำนวนมากที่โหวตรับ ก็เพื่อให้มีการเลือกตั้ง2560
////////////
นิพิฏฐ์ ชี้!! หากเลื่อนโรดแมป ถือว่าไม่เป็นตาม รธน.ฉบับลงประชามติ
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเดินหน้าตามโรดแมปเลือกตั้งของรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะ

รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้นั้น ทุกวันนี้มีชาวบ้านเจอหน้าตนแล้วถามกันมาก ว่าโรดแมปเลือกตั้งจะเป็นไปตามเดิมหรือไม่ แต่ต้องทำความเข้าใจกับเขาก่อน เพราะคนที่ถามส่วน

มาก 90 เปอร์เซ็นต์ไม่เข้าใจคำว่าโรดแมปคืออะไร แต่พูดต่อๆ กันมาตามคนอื่น เราบอกชาวบ้านว่า โรดแมปคือระยะเวลา ว่าจะทำอะไรเมื่อไหร่ ซึ่งรายละเอียดถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ที่ผ่านการลงประชามติแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามโรดแมปเดิม คือไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ลงประชามติ
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนอีกเหตุผล ที่จะทำให้โรดเเมปเลือกตั้งไม่เหมือนเดิม คือต้องชะลอการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติออกไป แต่ตนยังไม่เห็นว่า จะชะลอการบังคับใช้ได้อย่างไร

ตนไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเรื่องเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่ตอบตามมุมเหลี่ยมของรัฐธรรมนูญว่าต้องเดินไปตามกฎหมาย ดังนั้น ผู้ที่บอกว่าอาจจะไม่เป็นไปตามโรดแมปต้องออกมาอธิบาย

ให้ชัดเจนว่าจะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเพราอะไร และจะทำอะไร อย่างไร ส่วนตัวตนยังคิดไม่ออกว่าจะเป็นแบบไหน
/////////////
ข่าวเดือน ตุลาคม59

วิษณุยันไม่เลื่อนโรดแมปเลือกตั้ง
Wed, 2016-10-26 13:18

26 ต.ค. 2559 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องโรดแมปเลือกตั้งในขณะนี้ยังไม่ถือว่ามีการเลื่อนใดๆ เกิดขึ้น เพราะถ้าไม่ยึดตามนี้จะมีคนคอย อยากเลื่อน ซึ่งยืนยันว่าไม่เลื่อน ส่วน

กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญร่างรัฐธรรมนูญ คือมีเวลา 90 วัน เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแล้วเสร็จก่อนส่งมายังรัฐบาล รัฐบาลก็ยังมีเวลา 20 วัน ในการนำความขึ้นกราบบังคมทูล

จึงไม่มีปัญหา

"ตรงนี้มีการประสานเป็นการภายในแล้วว่ากิจการใดเร่งด่วนให้เสนอไปตามขั้นตอน หากไม่เร่งด่วนก็ทำตามกรอบเวลา" วิษณุ กล่าว

โดยวานนี้ (25 ต.ค.59) ศ.กิลเลียน ทริกส์ (Prof. Gillian Triggs) ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เข้าพบ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง ตึกบัญชาการ 1

ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทยระหว่างวันที่ 25– 27 ต.ค. 2559 เพื่อเข้าร่วมการประชุม Asia – Pacific Forum on National Human Rights Institutions – NHRIs

ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เข้าพบ วิษณุ เครืองาม (ที่มาภาพ เว็บทำเนียบรัฐบาล)

วิษณุ ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์เมืองไทยและการดำเนินการตาม Roadmap พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าตามกรอบเวลาที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้เป็นระยะเวลาพิเศษ จึงจำเป็น

ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศ ซึ่งฝ่ายออสเตรเลียเข้าใจสถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ สำหรับประเด็นที่ฝ่ายออสเตรเลียให้ความสนใจ คือ

ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนด้านสังคม (Social Human Rights) การต่อต้านการค้ามนุษย์และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ พร้อมชื่นชมบทบาทของไทยและแสดงความต้องการที่จะสนับสนุน

ความร่วมมือระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ในระดับภูมิภาคภายใต้กรอบอาเซียนด้วย

นอกจากนี้ ศ.กิลเลียน ทริกส์ ได้กล่าวถึง ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออสเตรเลียและไทย โดยการเดินทางมาเยือนไทยครั้งนี้ เพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างสอง

องค์กรผ่านการทำ work shop  ทั้งนี้ ในปัจจุบัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ต้องการส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนกับภาคธุรกิจ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องนี้

เนื่องจาก พบว่า ในหลายกรณีมีการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อลูกจ้างทั่วโลก ทั้งจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในส่วนของประเทศไทย รองนายก

รัฐมนตรีกล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยเป็นองค์กรอิสระที่ทำงานเชิงรุก โดยในช่วงทีผ่านมา รัฐบาลได้รับฟังข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการฯ ในหลายโอกาส และพลเอก

ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเอง ก็ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ และได้เคยสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐของไทยทำงานร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอย่างใกล้ชิดเพื่อรับฟังความต้องการ

และชี้แจงการทำงานระหว่างกัน โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดการประชุมระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไทยด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ

ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนทางสังคม (Social Human Rights) โดยเฉพาะแก่ผู้ด้อยโอกาส สิทธิเด็กและสตรี คนทุพพลภาพ รวมถึงสิทธิของผู้สูงอายุ ซึ่งออสเตรเลียเห็นพ้องและชื่นชมบทบาทของไทย

ในด้านนี้
2222222222

29/159

แม้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแถลงชี้แจงกำหนดการเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากกลางปี 2560 ไปเป็นปลายปี แต่ภาคธุรกิจยังมันใจการลงทุนในประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ นางสุวรรณา

พุทธประสาท กรรมการบริษัท แอลแอนด์เอช โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า แม้โรดแมปเลือกตั้งจะถูกขยายออกไปเป็น ปลายปี 2560 ไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ การลงทุน โดยเฉพาะการ

ท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่ปัจจัยที่จะกระทบมากที่สุดคือความไม่สงบ ซึ่งหลังจากที่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารประเทศปัญหาความสงบที่มีก่อนหน้านั้นก็หมดไป นางสุวรรณายังกล่าวอีกว่า หากปีนี้

ไม่มีปัจจัยลบด้านอื่นๆที่เหนือความคาดหมายที่กระทบต่อการลงทุน เชื่อว่าธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเห็นได้จากอัตราการใช้บริการห้องพักของโรงแรมทั้ง

3 แห่งในกรุงเทพมหานคร ยังมีอัตราการเข้าพักอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น อินเดียและเกาหลีใต้ ทั้งนี้คาดการว่าในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทก็จะเดิน

หน้าลงทุนโดยอย่างต่อเนื่อง ติดตามเราได้ที่ Website : Facebook : Twitter : Instagram : Youtube Channel :
/////////////////////////
เปิด Road Map สูตร 6+4+6+4=20 คาดเลือกตั้ง มิ.ย.60 - ก.ค.60 ตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน 1 เดือน
โดย MGR Online    
15 กันยายน 2558 18:43 น

        เปิด Road Map สูตร 6+4+6+4 = 20 ไทม์ไลน์ ก.ย.-ต.ค. 58 ตั้ง กรธ.จำนวน 21 คน, เม.ย. 59 ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จภายใน 6 เดือน, ส.ค. 59 ทำประชามติภายใน 4 เดือน พิมพ์เอกสารร่างรัฐ

ธรรมนูญแจกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ 40 ล้านกว่าคน ก.ย. 59 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ก่อน ต.ค. 59 ยกร่างกฎหมายลูกภายใน 2 เดือน, ม.ค. 60 สนช.ผ่านกฎหมายลูก ภายใน 3 เดือน, ก.พ. 60 ส่ง

กฎหมายลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบภายใน 1 เดือน เพื่อพิจารณาตรวจสอบว่ากฎหมายลูกขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่, มี.ค. 60 ประกาศใช้กฎหมายลูกและเริ่มรณรงค์หาเสียงได้, มิ.ย. 60 เลือกตั้ง

ภายใน 3 เดือน, คาด ก.ค. 60 ตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน 1 เดือน
     
       วันนี้ (15 ก.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ ว่า วันนี้ได้มีการประชุมร่วม

ระหว่างคณะรัฐมนตรีกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติแล้ว ดังนั้น วันที่ 22 กันยายน 2558 ซึ่งเดิมได้กำหนดให้มีการประชุมร่วมดังกล่าวก็จะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ ส่วนการ

ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไปซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายน 2558 ก็จะเลื่อนไปประชุมในวันพุธที่ 30 กันยายน 2558 แทน เนื่องจากคณะรัฐมนตรีหลายท่านติดภารกิจ
     
       พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเกี่ยวกับ Road Map ของการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปในฐานะของ ครม.และคสช. ให้ประธานสภา

นิติบัญญัติแห่งชาติ และรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเข้าร่วมประชุมในวันนี้รับทราบด้วย โดยขณะนี้อยู่ใน Road Map ช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา คือ การบริหาร

ราชการโดยรัฐบาลชุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจนถึงปัจจุบัน และจะขยายต่อไปจนถึงวันเลือกตั้ง (ช่วงที่ 1 เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมาที่

เป็นการบริหารราชการในนามรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
     
       ทั้งนี้ สาเหตุการขยายเวลาของรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะให้ขยายเวลาดังกล่าว แต่เป็นไปตามหลักการข้อกฎหมายและตาม Road Map โดยมีการยืดหยุ่นได้ตาม

ความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ขอเรียนด้วยความจริงใจว่ารัฐบาลไม่มีความประสงค์ที่จะขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปแต่อย่างใด แต่ดำเนินการด้วยความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาและทำทุกอย่างให้

เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดบนพื้นฐานของความเรียบร้อย ปราศจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ขณะที่ช่วงที่ 3 คือ ระยะที่มีการเลือกตั้งใหม่ในวันข้างหน้าเรียบร้อยแล้วเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นขณะนี้จึงอยู่ใน

ช่วงที่ 2 ตาม Road Map ที่ได้กำหนดไว้
     
       สำหรับเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จำนวน 247 คน รวมทั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 36 คน ได้สิ้นสุดสภาพลงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2558 ภายหลังร่างรัฐ

ธรรมนูญไม่ได้รับความเห็นชอบ (ตกไป) จาก สปช. เพราะฉะนั้น การที่จะทำประชามติซึ่งใช้เงินถึง 3,000 กว่าล้านบาท รวมถึงเรื่องประเด็นรองอื่นๆ ที่คาดหวังจะสอบถามในการทำประชามติ จึง

ไม่เกิดขึ้น
     
       จากนั้นสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แจงมติ สปช.ไปยังรัฐบาลและ คสช. โดยขั้นตอนจากนี้ คสช.จะต้องแต่งตั้งประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 1 คน และกรรมการร่างรัฐ

ธรรมนูญไม่เกิน 20 คน ภายใน 30 วัน (5 ตุลาคม 2558) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรนูญ (กรธ.) ต้องร่างให้เสร็จภายใน 6 เดือน แล้วนำไปลงประชามติ (ใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน) พร้อมทั้ง นายก

รัฐมนตรี ได้มอบหมายส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำเสนอข้อมูลตัวเลือกต่างๆ มาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
     
       ทั้งนี้ ส่วนกรณีที่มีคำถามจากสังคมเกี่ยวกับสูตร 6+4+6+4=20 โดยเฉพาะมีข้อสงสัยว่าทำไมต้องขยายเวลาไปถึง 20 เดือน นั้น เพราะการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนไม่สามารถทำให้เสร็จภายใน

ระยะเวลาอันรวดเร็วได้ เนื่องจากในแต่ละขั้นตอนมีความยาก แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านความเห็นชอบของ สปช. สูตรการดำเนินการก็ไม่ต่างจากนี้ คือต้องมี 4+6+4 เพราะต้อง

มีการทำประชามติ ทำกฎหมายลูก และมีการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน สปช.ก็เพิ่มเข้ามาเพียง 6 เท่านั้น เพราะฉะนั้นขอให้พิจารณาอย่าไปคิดเพียงว่าทั้งหมดขยายไป 20 เดือน แต่ต้อง

พิจารณาดูว่าของเดิมถ้าผ่าน สปช.ก็จะมี 4+6+4 วันนี้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็เพียงเพิ่มเข้ามาอีกแค่ 6 และใน 6 นั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า 6+4+6+4 คือ เป็นการกำหนดเพดานไว้สูงสุดที่

จะมีความเป็นไปได้ แต่หากสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าที่กำหนดก็เป็นสิ่งที่ดี ทั้งหมดดังกล่าวเป็นแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้มอบไว้ให้เป็นแนวทางปฏิบัติ โดยย้ำให้ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งใจ

ทำให้ดีที่สุดภายในระยะเวลาที่มีอยู่ และหากดำเนินการได้เร็วกว่าเดิมได้ก็เป็นสิ่งที่ดี
     
       สำหรับสูตร 6+4+6+4=20 ของรัฐบาล มีดังนี้ กันยายน - ตุลาคม 2558 ตั้ง กรธ. จำนวน 21 คน, เดือนตุลาคม 2558 - เดือนเมษายน 2559 ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จภายใน 6 เดือน, เดือนเมษยาน-

สิงหาคม 2559 ทำประชามติ ภายใน 4 เดือน จะมีการพิมพ์เอกสารร่างรัฐธรรมนูญแจกให้แก่ประชาชนผู้มีสิทธิที่จะออกเสียงลงคะแนนประมาณ 40 ล้านกว่าคน เพื่อให้สามารถศึกษาข้อมูลต่างๆ

เหล่านั้นในการที่จะใช้ดุลพินิจในการลงประชามติโดยปราศจากการชี้นำแบบมีนัยของกลุ่มต่างๆ จากนั้นเดือนกันยายน 2559 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
     
       ต่อจากนั้น เดือนกันยายน-เดือนตุลาคม 2559 ยกร่างกฎหมายลูก ภายใน 2 เดือน, เดือนตุลาคม 2559 - เดือนมกราคม 2560 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านกฎหมายลูก ภายใน 3 เดือน, เดือน

กุภาพันธ์ 2560 ส่งกฎหมายลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ภายใน 1 เดือน เพื่อพิจาณาตรวจสอบว่ากฎหมายลูกขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
     
       ในเดือนมีนาคม 2560 ประกาศใช้กฎหมายลูกและเริ่มรณรงค์หาเสียงได้, เดือนมีนาคม-เดือนมิถุนายน 2560 เลือกภายใน 3 เดือน, เดือนกรกฎาคม 2560 ตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน 1 เดือน
     
       พร้อมกันนี้ รัฐบาลยืนยันว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นตาม Road Map ดังกล่าว ไม่ใช่เพราะรัฐบาลต้องการยืดระยะเวลาออกไปหรือต้องการสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด เพราะนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำคณะ

รัฐมนตรี เสียสละและทำงานเต็มกำลังความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน โดยไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งเช่นในอดีตเกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่

ดำเนินการทั้งหมดก็เพื่อกำไรของประเทศชาติและประชาชน
     
       ทั้งนี้ การดำเนินงานของรัฐต่อจากนี้จะมี 2 ส่วนที่จะทำงานคู่ขนานกันไป คือ คณะรัฐมนตรีกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยในระหว่างนี้จะมีการแต่งตั้งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป

ประเทศ (สปท.) ไม่เกิน 200 คน โดยมีไม่นำความกราบบังคมทูลฯ ภายใน 30 วัน (5 ตุลาคม 2558) ทำหน้าที่ดำเนินการให้มีการปฏิรูปต่อจาก สปช. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสมาชิกสภาขับเคลื่อน

การปฏิรูปประเทศ (สปท.) นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักการเบื้อต้นว่าจะต้องประกอบด้วย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ดังนี้ 1) ข้าราชการ ทั้งที่ยังรับราชการอยู่และเกษียณอายุราชการไปแล้ว

เพราะข้าราชการเป็นคนปฏิบัติงานแทนรัฐบาลและใกล้ชิดกับประชาชน 2) นักกฎหมาย 3) นักวิชาการทุกกลุ่มที่มาจากนักคิดและนักปฏิบัติงานจนเป็นที่ยอมรับ
     
       4) ตัวแทนภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคประชาชน ประชาสังคม เกษตร อุตสาหกรรม และภาคส่วนอื่นๆ 5) กลุ่มนักการเมือง และพรรคการเมือง และ 6) กลุ่มส่วนความมั่นคง โดยมั่นใจรัฐบาลจะทำ

ทุกอย่างที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีคุณภาพและจะพยายามไม่ให้เกิดความขัดแย้งโดยไม่ให้มีมาตรฐานที่แตกต่างกันโดยเด็ดขาด
     
       สำหรับโครงสร้างของรัฐจากกันยายน 2558 - กรกฎาคม 2560 มีดังนี้
     
       1. คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.1 ) งานด้านการบริหาร จะมีคณะรัฐมนตรี มีระบบราชการ คณะกรรมการขับเคลื่อนที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไว้ และมี สนช.ร่วมอยู่ในส่วนนี้ เพราะบางกรณีที่

ต้องขับเคลื่อนบริหารราชการอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายมารองรับเรื่องเหล่านั้น โดยวิธีการในการบริหาร นายกรัฐมนตรี เน้นว่าจะต้องบริหารราชการแผ่นดินไปตามข้อกฎหมาย

และนโยบาย และต้องขจัดความขัดแย้งไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
     
       1.2) การปฏิรูป ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี ระบบราชการ คระกรรมการยุทธศาสตร์ สปท. และ สนช. โดยวิธีการปฏิบัติงาน จะต้องดำเนินการปฏิรูปทันทีระยะต่อไปและระยะที่จะต้องยั่งยืน

ส่วนที่จะต้องดำเนินการทันทีเพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะส่งเรื่องปฏิรูปทั้งหมดไปให้รัฐบาลชุดต่อไป เพราะจะเป็นข้อครหาได้ว่าทำไมรัฐบาลชุดนี้ไม่ดำเนินการเอง ดังนั้น ในระยะเวลาที่รัฐบาล

ชุดปัจจุบันอยู่จึงต้องดำเนินการทุกอย่างให้เป็นแบบอย่างแก่คนอื่นก่อนที่จะไปฝากชีวิตไว้กับคนอื่นในเรื่องการปฏิรูป รัฐบาลก็ต้องดำเนินการในระยะที่ 1 ให้ได้ด้วยเช่นกัน และต้องไม่อยู่บนพื้น

ฐานของความขัดแย้ง
     
       1.3) การปรองดอง จะมีคณะรัฐมนตรี ระบบราชการ และ สนช. โดยมีวิธีการดำเนินการต่างๆ เช่น การปรองดองโดยสันติ การเยียวยา การอภัยโทษเมื่อยอมรับผิดแล้ว ใช้หลักศาสนา การพัฒนา

การสร้างความเป็นธรรมขจัดเรื่องต่างๆ ที่เป็นสองมาตรฐาน โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด
     
       2. คสช.จะเน้นภารกิจในเรื่องของความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ที่ขณะนี้ คสช.ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปแล้ว 27 ครั้ง โดยเรื่องที่ใช้มาตรา

44 จะเป็นเรื่องในเชิงสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อให้ความขัดแย้งต่างๆ คลี่คลายและสงบลง ตลอดจนการใช้ในเรื่องของการตั้งศูนย์แก้ปัญหา ICAO และเรื่องการถอดยศ รวมทั้งเป็นกลไกให้

ครม.ในการบริหาร การปฏิรูป และการสร้างความปรองดอง เป็นต้น