PR
วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558
แถลงการณ์จากกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยตอบโต้แถลงการณ์ฝ่ายการนักศึกษา
รัสเซียยิงจรวดมิสซายด์ใส่IS
ปูตินกล่าวพร้อมเสริมว่า“อาวุธเหล่านี้สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบธรรมดาและพิเศษแม้แต่หัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์จริงๆแล้วอาวุธเช่นนี้ไม่จำเป็นจะต้องนำมาใช้ในการสู้ก่อการร้ายและผมหวังว่าจะไม่จำเป็นต้องใช้มันอีก”
เก็บตก นายกฯปรี๊ด สื่อวันวาน
"แล้วทำไมผมจะแสดงอารมณ์ของผมเองไม่ได้รึไง จะต้องให้อารมณ์ดีทั้งวันเลยหรือ ไปหากันมาเองแล้วกัน นายกฯ อารมณ์ดี ไม่ต้องทำอะไร หรือทำน้อยๆ ไปหามา"
โดยในตอนท้าย ก็กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องขอโทษที่เสียงดัง ไม่มีอะไร ปวดหัวไปหน่อย หลายวันมาแล้วที่ต้องเคลียร์ปัญหาของประเทศนี้ ตอนนี้อารมณ์ดีแล้ว
ไม่เชื่อจะให้ผมเอาหนังสือพิมพ์มากางให้ดูหรือไม่เล่า ดูสิว่าของใคร หัวหนังสือพิมพ์ไหน ผู้จัดการ มติชน ข่าวสด ไทยรัฐ เดลินิวส์ บางคอลัมน์ เอาหรือไม่เล่า ไม่ต้องมาบอกให้ผมพอ ทีเวลาเขียนด่าผม ผมไม่เห็นว่าอะไรพวกท่านเลย ให้ความเป็นธรรมกับผมบ้างสิ ทีมข่าวการเมืองมันเก่งอะไรนักหนา มาเป็นนายกฯ สิ มาเลยไอ้พวกคอลัมนิสต์ต่างๆ สมัครเข้ามาเป็นรัฐมนตรี สมัครคราวหน้าผมจะเลือกให้ ปัดโธ่ ! คิดเป็นแต่ปัญหา คิดแต่ต้องการอะไร มีอยู่แค่นี้ แล้วก็ด่าคนอื่นเขาไปทั่วทั้งหมด แล้วมันใช่หรือไม่ แล้วประเทศจะเด้นหน้ากันได้อย่างไร วันนี้ถ้าประเทศเป็นปกติ ผมไม่ว่า เหมือนที่เขาเจริญแล้วมันถือเป็นเรื่องธรรมดา สื่อจะพูดอะไรก็พูดไม่มีใครไปยุ่ง
วันนี้บ้านเมืองจะล่มอยู่แล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้กันอยู่แล้วมันจะไปอย่างไร ข้าราชการก็ท้อแท้หัวใจ
ผมไม่ท้อแท้อยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าโมโห แต่ไม่มีท้อแท้ ไม่มีถอยอยู่แล้ว สู้ทุกอย่างอยู่แล้ว พอพูดอย่างนี้ก็ไปเรียกมากันอีก ให้มาสู้กับผมอีกสิ หาว่าท้าทาย โว ปัด คำแบบนี้ไม่พูดไม่ได้หรือว่ะ การชี้แจงก็หาว่าโว คำพวกนี้ไปพูดกันในวงเหล้าเถอะ อย่ามาใช้กับผม ผมมีเกียรติ ไม่ใช่กุ้ยที่ไหน ผมไม่ใช่กุ้ย คำว่า โว ปัด ฟุ้ง อย่ามาใช้กับผม โดยเฉพาะคำว่า ฟุ้ง มันเป่าขี้เถ้าหรือยังไง"
ว่าด้วยกระแสข่าวปรับครม.กับคำปฏิเสธของนายกฯวันวาน
ประวิตร ด่าพวกเคลื่อนไหวตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์
นศ.ราม บุกทำเนียบให้กำลังใจ"บิ๊กตู่"ซัดกลุ่มจ่านิว หยิบ"ราชภักดิ์"มากดดันรัฐบาล
บิ๊กป้อม เรียกผู้ว่าฯภาคเหนือ ผบ.หน่วย ทหาร-ตำรวจ สั่งการ รับมือภัยมี่นคง ที่ซับซ้อน มีมติเชื่อมโยง ไน-นอกประเทศ
FCCTเผย ถูกตร.ไทยขอให้ร่วมมือสอบทูตสหรัฐฯขัด112 ด้าน"ศานิตย์"ปัดยังไม่ดำเนินคดี
วันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยหรือ FCCTเปิดเผยโดยยืนยันว่าได้รับการติดต่อจากตำรวจไทยให้ร่วมมือกับการสอบสวนว่า ความเห็นของ นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่สมาคมฯ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีมีสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่ามีการสอบสวนดำเนินคดี นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ตามความผิดประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112 ว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการดำเนินคดีใดๆตามที่เป็นข่าว |
"บิ๊กตู่"ลั่นต้านคอร์รัปชั่น ระบุมายืนตรงนี้เพราะมีคนโกง แนะอย่านับถือคนรวยทุจริต
"บิ๊กตู่" ประกาศเจตนารมณ์วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ย้ำบังคับใช้ก.ม.จริงจัง ทำหน้าที่นำคนทุจริตเข้าสู่กระบวนการ เล็ง รื้อระบบบรรจุข้าราชการ ต้องตรงกับพันธกิจงาน หวังอนาคตเป็นมืออาชีพ ชี้ อย่านับถือคนรวยที่ไม่สุจริต ระบุไม่มายืนตรงนี้ หากไม่มีคนโกง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล วันที่ 9 ธันวาคม 2558 โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่รุนแรงมากขึ้นในประเทศไทย โดยดูจากที่มูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยได้เปิดเผยการจัดอันดับดัชนีชี้วัดการคอรัปชั่น พ.ศ. 2557 พบว่า ประเทศไทยได้คะแนน 38 คะแนน จาก 100 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 จากการจัดอันดับทั้งหมด 175 ประเทศทั่วโลก จึงแสดงให้เห็นว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศต้องเร่งแก้ไข สำนักงานป.ป.ช.คาดหวังว่าความร่วมมือระหว่างองค์กรกับภาคีทุกภาคส่วนในการป้องกันการทุจริต จะเป็นการกระตุ้นเตือนให้สังคมตระหนักในผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นการสร้างกลุ่มเครือข่ายป้องกันทุจริตที่ยั่งยืน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศ อันจะส่งผลให้ค่าคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของไทย ถึง 50 คะแนน ในปี 2560
ขณะนี้เรากำลังเดินเข้าสู่โรดแมป ระยะ ที่ 2 เดินหน้าประเทศไทย ทุกอย่างจะเดินตามขั้นตอน ตามโรดแมป โดยรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของทุกคน ในโรดแมประยะที่ 2 มีเวลาถึงเดือนกรกฎาคม ปี 60 เรามีเวลาเท่านี้ตามโรดแมปที่วางไว้ และขอเรียนต่างประเทศต่างๆ ให้เข้าใจว่า ยืนยันตนจะเดินหน้าตามโรดแมป และเรื่องการทุจริตเป็นหัวข้อหนึ่งในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งจะต้องมีส่งต่อรัฐบาลต่อไป ไปแต่หากไม่ทำต่อก็เป็นเรื่องของประชาชนที่ไปเลือกมา จึงขอฝากด้วยและต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้เขาทำกันต่อไป อะไรไม่ดีก็ไม่ต้องทำ อะไรดีก็ต้องทำให้ได้
ขณะนี้สังคมต้องรับรู้ และที่ตนพูดมากเพื่อให้สังคมรับรู้ และตนไม่ได้ปกปิดอะไรทั้งสิ้น เรื่องที่ประชาชน ข้าราชการ ต้องรับทราบ ตนก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดแล้วใครจะพูด ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาอย่างอื่น ในหัวใจของตนมีแต่คำว่าประเทศไทยเท่านั้น และประเทศคือเสาหลักที่ทุกคนต้องยึดเหนี่ยว ทุกคนเป็นคนกำหนดว่าประเทศจะเป็นอย่างไรในอนาคตไม่ใช่นักการเมือง จึงต้องเลือกคนที่ดีเข้ามาเพื่อรับผิดชอบแผ่นดินนี้ ดังนั้นแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย เรื่องต้องทำให้โปร่งใสให้ได้รับความน่าเชื่อถือ ไม่ถูกกล่าวอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง คนเลวมันพูดทุกอย่างอยู่แล้ว เราพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเราไม่สามารถพูดนอกกรอบเหมือนบางคนวันนี้ แนวทางการใช้กฎหมายในการป้องกันการทุจริต สำนักงานป.ป.ช. และหน่วยงานที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายจะต้องจริงจัง เคร่งครัด ต่อเนื่อง ซึ่งจากการพูดคุยกับประธานป.ป.ช.ยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ ที่สำคัญอำนาจรัฐต้องไม่ไปทับซ้อน วันนี้ปัญหาคือการบริหารที่เข้าไปทับซ้อน แต่ตนมาอย่างนี้จะไม่ไปทับซ้อน แม้จะมีอำนาจอย่างไรก็ตาม เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในฐานะองค์อิสระต่างๆ สำหรับตนมีหน้าที่ในการนำเข้าสู่กระบวนการ
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของปปช. จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกกต. สตง. ปปท. ปปง. สตช. ดีเอสไอ ทั้ง 7 องค์กรนี้ถือเป็นองค์กรหลักโดยตรงในการปราบปรามการทุจริต และสำนักงานอัยการสูงสุด จะรับต่อช่วงจาก 7 องค์กรนี้ ในการทำงานปราบปรามการทุจริตมาบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ฉะนั้นจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน ซึ่งวันนี้ก็ทำกันอยู่แล้ว
"แต่จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมไม่ล่าช้า และไม่เร็วจนเกินไป ตรงนี้สำคัญ แต่ทำอย่างไรคนก็ไม่ทันใจหรอก ใจมันเร็วนึกอะไรก็ไปนู่นแล้ว ฉะนั้นต้องตั้งสติให้ดี เข้าใจขั้นตอนการทำงาน และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ถ้าอยากให้มันจบเร็วก็มีเรื่องทุกที แต่จะต้องไม่ช้าจนเกินไป ให้ความเป็นธรรม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนรับไม่ได้กับความไม่ถูกต้อง แต่ก็ให้กระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบไป ทุกเรื่องตนพูดหมดแล้ว พูดทุกวัน จะให้ตนพูดน้อยลง ตนก็อยากพูดน้อยเหมือนกันแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่พูดคนก็ไม่เข้าใจกัน กฎหมายคือกฎหมาย โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นธรรมเท่าเทียมอย่างแท้จริง ทุกประเทศเป็นประชาธิปไตยหรอ ไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตยที่ไม่นึกถึงประชาชนทั้งประเทศ ตนถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ตนนึกถึงประชาชน 70 ล้านคนที่จะต้องเดินหน้าไปได้ เราเหน็ดเหนื่อยกันมากมากเพียงพอแล้วกับความขัดแย้ง มากเพียงพอแล้วกับการพัฒนาประเทศที่ล่าช้า ฉะนั้นเวลาช่วงนี้เท่านั้นที่จะทำได้ เราจะได้มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ไม่อายเขา บังคับต่างประเทศได้ แต่จะต้องทำตามพันธะสัญญาระหว่างประเทศด้วย เราต้องรักกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่เป็นมิตรกับเรา เราทะเลาะกับใครไม่ได้ ไม่เคยไปโกรธ ไม่เคยไปขัดแย้งกับใคร เพราะเราเป็นประเทศเล็ก สิ่งที่เรามีอยู่คือศักดิ์ศรีความเป็นประเทศไทย และคำว่าคนไทยต้องไม่ลืมคำนี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ประชาชนต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ต่างประเทศ นี่คือโอกาสของพวกเรา หากเราไม่ทำในวันนี้วันหน้าจะล้มเหลวทั้งหมด ประเทศไทยจะถูกลบเลือนหายไปทั้งหมดซึ่งการทุจริตเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำลายชาติอย่างมหาศาล ต้องมีการร่วมมือกันเป็นประชารัฐในทุกมิติ ถ้าประชาชนเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง ต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ซึ่งรัฐบาลกำลังทำเรื่องประชารัฐอยู่ ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบวันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นสากล ขอให้พวกเราทุกคนร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ รณรงค์สร้างชาติ ตามหลักธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นไปพร้อมๆ กัน
“ข้าพเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอประกาศเจตนารมณ์ว่าจะประพฤติปฏิบัติตนในสัมมาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นหลักสำคัญมั่นคง ดำรงตนอยู่ด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยึดความยุติธรรมความเป็นธรรมเป็นที่ตั้ง จะยับยั้งชั่งใจ ไม่กระทำการโกงกินแผ่นดิน หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์ บนความทุกข์ยากของประชาชน จะเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และยืนเคียงข้างสุจริตชน ร่วมสร้างเยาวชนให้โตไปไม่โกง เพื่อจรรโลงและนำพาประเทศไทยให้รุ่งเรืองสืบไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอให้ร่วมมือกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โตไปไม่โกง ขอยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมเคียงข้างทุกประเทศในโลก ตามพันธะสัญญาที่มีอยู่ เพียงแต่ขอเวลาทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งไปพร้อมๆ กันด้วย
‘ภุชงค์’แฉยับ5เสือกกต.ล้วงลูกแต่งตั้งจนท. ขึ้นเงินเดือนที่ปรึกษา จ่ออุทธรณ์ศาลปค.
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมกรรมการ กกต.มีมติเลิกจ้าง เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินนั้นว่า หลังจากนี้ตนจะยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกกต. ภายใน 15 วัน แต่หากกกต.ยังยืนยันมติเดิมตนก็จะยื่นต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพราะต้องการให้เป็นบทเรียนแก่องค์กร และยืนยันว่าตนไม่ต้องการกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการกกต.อีกต่อไป
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเชื่อมั่นว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่าน แต่การทำงานกับคณะกรรมการกกต. ชุดนี้ตลอด 2 ปีนั้นมีการล้วงลูกการทำงานภายในสำนักงาน ทั้งๆที่เป็นอำนาจของเลขาธิการ ซึ่งต่างจากกรรมการชุดก่อนหน้าที่ให้เกียติการทำงานของสำนักงานมาโดยตลอด กลายเป็นว่ากรรมการอยากทำอะไรก็ได้ เพียงแค่มีมติ กกต.มีการเข้ามาล้วงลูกการทำงาน โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ มีการตั้งขึ้นเงินเดือนที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญประจำตัวกกต.แต่ละคน ทำให้แต่ละเดือนกกต.ต้องจ่ายเงินให้กับคนเหล่านั้นถึง 2 ล้านบาท เป็นเงิน 24 ล้านบาทต่อปี ทำให้ขณะนี้งบของ กกต.ร่อยหรอลงมากนอกจากนั้นการดำเนินงานในโครงการต่างๆ จนเป็นผลให้มีความล่าช้า เพราะทุกโครงการถูกกรรมการกกต.สั่งรื้อ ถูกสั่งให้แก้ไข และบางโครงการกรรมการกกต.ก็มีคำสั่งให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการออกไปเองและบางโครงการ กรรมการกกต.ก็มีการสั่งระงับโครงการ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ และในการประเมินผลการทำงานที่ผ่านมาก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตนเข้าไปชี้แจงเลย
“ผมไม่น้อยใจที่โดนทำแบบนี้ ที่โดนปลดกลางอากาศ แต่ขอเรียกร้องให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยเฉพาะนายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต ประธาน กกต.และนายประพันธ์ นัยโกวิท อดีต กกต.เขียนรัฐธรรมนูญกำหนดโครงสร้างขอบเขตอำนาจของกรรมการกกต. กับ สำนักงานกกต. ให้มีเส้นแบ่งที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการล้วงลูกอย่างที่เกิดขึ้น ถึงแม้ กรธ.จะให้คณะกรรมการชุดนี้มีวาระอยู่อีก 7 ปีก็ไม่เป็นไร แต่ต้องเขียนกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการล้วงลูก และไม่ให้มีเจ้าหน้าที่ถูกกระทำเหมือนผมอีก”นายภุชงค์กล่าว
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า หลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้ ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน กกต.ต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดพิมพ์เอกสารร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 20 ล้านฉบับ ซึ่งในขณะนั้นมีใบสั่งเรื่องเกี่ยวกับโรงพิมพ์สะพัด ทั้งที่ กกต.อยากให้มีโรงพิมพ์ทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมพิมพ์ไม่ใช่ให้โรงพิมพ์เดียวมารับงาน และอยากให้จับตาดูการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ว่าจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์นายภุชงค์มีน้ำตาคลอเบ้า ตาแดงกล่ำ หลังจากการให้สัมภาษณ์ก็มีเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.หลายคนมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้นายภุชงค์ด้วย ก่อนที่นางพรวรินทร์ นุตราวงศ์ ภรรยานางภุชงค์จะโผเข้ากอดเพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่นายภุชงค์จะเดินทางไปเก็บของในห้องทำงาน
"บิ๊กตู่" ท้า คนด่าข้าราชการ ให้มาด่าผมคนเดียว ผมสู้
ทุกอย่างจะเดินตามขั้นตอน ตามโรดแมป โดยรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของทุกคน ในโรดแมประยะที่ 2 มีเวลาถึงเดือนกรกฎาคม ปี 60 เรามีเวลาเท่านี้ตามโรดแมปที่วางไว้
"เรื่องต้องทำให้โปร่งใสให้ได้รับความน่าเชื่อถือ ไม่ถูกกล่าวอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง คนเลวมันพูดทุกอย่างอยู่แล้ว เราพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเราไม่สามารถพูดนอกกรอบเหมือนบางคน
บิ๊กป้อม ควง บิ๊กโด่ง-บิ๊กหมู แทคทีม เดินสายถกผบ.หน่วย มั่นคง ทหาร-ตร.-ผู้ว่า เหนือ สยบข่าวร้าว
จับถึงบ้าน!! หนุ่มโพสต์ผังราชภักดิ์ แจ้งข้อหาผิดพ.ร.บ.คอมพ์ ส่งทหารจัดการต่อ
ทบ.ไม่ให้ข้อมูลสร้าง‘อุทยานราชภักดิ์’ กับ‘อิศรา’อ้างรอ สตง.สอบ
“หม่อมกร” ขอบคุณบิ๊กตู่ตีกลับ กม.ปิโตรเลียมฯ หนุนร่าง สนช.ชูตั้งบรรษัทฯ
9 ธันวาคม 2558 11:03 น. (แก้ไขล่าสุด 9 ธันวาคม 2558 11:09 น.)manager |
|
มธ. ออกแถลงการณ์ ขอ น.ศ.หยุดเคลื่อนไหว หวั่นขัดแย้ง ให้หันมาปรองดอง
ฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่แถลงการณ์ กรณีนักศึกษาเคลื่อนไหวทางการเมืองภายนอกมหาวิทยาลัย ว่า สืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่มีนักศึกษาธรรมศาสตร์ได้มีการแสดงออกทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่อ้างถึงเสรีภาพในการแสดงออกตามหลักประชาธิปไตยสากล โดยปราศจากมุมมองที่รอบด้านในบริบทประเทศไทยปัจจุบัน ที่กำลังอยู่ในช่วงการปฏิรูปเปลี่ยนผ่านและต้องการสร้างความปรองดองนั้น ฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่าการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าวที่กระทำในนามนักศึกษาธรรมศาสตร์ เป็นการมุ่งทำให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่เป็นไปโดยมั่นคงราบรื่น อีกทั้งกลุ่มผู้ร่วมเคลื่อนไหวทั้งหมดไม่ใช่นักศึกษาธรรมศาสตร์ หรือไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แต่ประการใด จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมว่า เป็นความคิดเห็นของประชาคมธรรมศาสตร์ และอาจสมประโยชน์กลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีต่อประเทศชาติ หรือนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมในวงกว้าง และทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อนักศึกษาธรรมศาตร์ได้ ฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมีความเห็นว่า ขอเรียกร้องให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เคลื่อนไหวดังกล่าว หยุดการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือกระทบต่อความปลอดภัยของนักศึกษาธรรมศาสตร์ และหันมาใช้แนวทางสมานฉันท์อย่างสร้างสรรค์ เพื่อร่วมเสนอแนะทางออกแก่ประเทศชาติ ภายใต้สภาวะวิกฤตินี้และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยศาสตร์ ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของธรรมศาสตร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ตลอดมาทุกยุคทุกสมัยและมีความปรารถนาที่จะเห็นสังคมที่เป็นธรรม ประชาชนมีโอกาสเท่าเทียมและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเร็ววันโดยไม่ปิดกั้นการแสดงออกของนักศึกษาที่มีความแตกต่างหลากหลาย บนพื้นฐานของศีลธรรมอันดีและเป็นไปโดยบริสุทธิ์ใจเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่งเสริมการใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ และคำนึงถึงผลกระทบต่อส่วนรวมอย่างรอบด้านทั้งระยะสั้นและระยะยาว
หุ้นไทยดิ่งลึกสุดใจ! ร่วงแรง 26.59 จุด
ผลจากที่ประชุมโอเปคไร้ข้อสรุปตัวเลขเพดานกำลังผลิตน้ำมัน ประกอบกับไม่มีปัจจัยบวก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ปิดตลาดร่วงลงแรงถึง 26.59 จุด อยู่ที่ 1,306.98 จุด ซึ่งนับเป็นการทำสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบปี
ดัชนีหุ้นไทยร่วงตั้งแต่ตลาดเปิดภาคเช้าและภาคบ่ายเปิดมาก็ยังลงต่อเนื่อง จนดัชนีเกือบปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 1,306.98 จุด ลดลง 26.59 จุด หรือร้อยละ 1.99 มูลค่าการซื้อขายกว่า 36 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวลง ทำสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบปี โดยได้รับแรงปัจจัยกดดันหลักมาจากหุ้นกลุ่มใหญ่ อาทิ หุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงแรง เพราะราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง
หลังกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโลก หรือ โอเปก ที่คงกำลังการผลิต ประกอบกับความต้องการขายในสหรัฐฯยังคงล้นตลาด อีกทั้งประเทศอิหร่านยังเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากบรรลุการคว่ำบาตรจากประเทศมหาอำนาจ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังปรับปรับตัวแดนลบเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากธนาคารกลาง(สหรัฐ)ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ อีกทั้ง ยังมีผลต่อนักลงทุนต่างชาติให้เกิดแรงเทขายเพื่อหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเตรียมเม็ดเงินสำหรับลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตสูงอย่างสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ต่างชาติยังไม่มีสัญญานซื้อที่ชัดเจนในเร็วๆนี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ธ.ค.) คาดว่าดัชนีปรับตัวแดนลบ โดยประเมินแนวรับ 1290-1300จุด และแนวต้าน 1320-1325จุด มีผลมาจากราคาน้ำมันที่ภาพรวมยังคงปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง
ไทยเคยสร้างเครื่องบินรบเอง ๒๐๐ ลำ ทำสงครามเวหาครั้งแรกในประวัติศาสตร์!!
เรียกว่าขึ้นสังเวียนครั้งแรก ก็ชนกับแชมป์โลกเลย
ความจริงไทยเราเริ่มสร้างเครื่องบินรบใช้เองมาตั้งแต่ปี ๒๔๕๘ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ แล้ว และสร้างจนเป็นชาติที่มีเครื่องบินรบมากที่สุดในเอเชีย รวมทั้งมีนักบินมากที่สุดด้วย
ประวัติศาสตร์การบินของไทยเริ่มตั้งแต่ปี ๒๔๕๒ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อ นายแวน เดอบอร์น ชาวเบลเยี่ยม ได้นำเครื่องบินปีก ๒ ชั้นแบบเออร์วิลไรท์ มาบินโชว์ที่สนามม้าปทุมวัน ซึ่ง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน และ สมเด็จเจ้าฟ้าจักพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสนาธิการทหารบก ทรงสนพระทัย ทดลองขึ้นบินทั้งสองพระองค์
เมื่อซื้อเครื่องบินมาศึกษาได้ ๒ ปี ไทยก็แสดงฝีมือทันที โดยในปี ๒๔๕๘ สมัยรัชกาลที่ ๖ กองโรงงาน กองบินทหารบก ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีทหารอากาศ ก็สร้างเครื่องบินแบบเบรเกต์นี้ขึ้นเองเป็นเครื่องแรก โดยสั่งเครื่องยนต์มา แล้วสร้างปีกกับลำตัวเอง ใบพัดนั้นทำด้วยไม้โมกมัน ให้ชื่อว่า “ขัติยะนารี ๑” ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในสภาพดี เก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ และเปิดให้ประชาชนชมทุกวัน
ตอนนั้นถือกันว่าฝรั่งเศสเป็นจ้าวเวหาของยุโรป มีความเชี่ยวชาญในการรบทางอากาศมาก ทั้งสมรรถภาพเครื่องบินก็เหนือกว่าไทย ฝรั่งเศสได้ส่งเครื่องบินขับไล่แบบโมรันและเครื่องบินทิ้งระเบิดฟาร์มัง ซึ่งเป็นทันสมัยทั้งคู่มาประจำในอินโดจีน แต่นักบินไทยก็สู้ด้วยหัวใจของนักรบ ที่ต้องปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของชาติ จนได้สร้างวีรกรรมให้จดจำกันมากมายในสงครามครั้งนี้
หนึ่งในจำนวนนี้ที่คนไทยยุคนั้นรู้จักกันดี ก็คือ “ศานิต นวลมณี” ซึ่งเข้าสงครามครั้งนี้ในยศ เรืออากาศตรี และได้สร้างวีรกรรมประทับใจไว้หลายครั้ง จนได้เลื่อนยศเป็น เรืออากาศโท เรืออากาศเอก และนาวาอากาศตรี ภายในปีเดียว แต่แล้วในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๘๓ได้รับคำสั่งให้ไปโจมตีสนามบิน เวียงจันทน์ ถูกปืนกลจากพื้นดินยิงต่อต้านอย่างหนัก แต่ น.ต.ศานิต นวลมณี ก็ฝ่าห่ากระสุนเข้าไปโจมตีเป้าหมายจนสำเร็จ แม้จะถูกยิงถังน้ำมันทะลุไฟไหม้ ถูกไฟลวก และถูกกระสุนที่เข่า ก็ประคองเครื่องกลับเข้าเขตไทยได้ และกระโดดร่มชูชีพออกจากเครื่อง แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคมในขณะอายุเพิ่ง ๒๓ ปี
ฉากการรบครั้งนี้จะสนุกแค่ไหน ร.ต.ประเสริฐ สุดบรรทัด ซึ่งต่อมาเป็น ส.ส.จังหวัดสระบุรี ผู้เข้าสมรภูมิภาคพื้นดินและเห็นเหตุการณ์ด้านหนึ่ง ได้บันทึกไว้ว่า
เครื่องบินที่เราคิดว่าต้องตกมาแหลกนั้น เมื่อร่วงลงมาจะถึงยอดไม้ กลับเบนหัวตั้งหลักได้อย่างประหลาด ยิ่งกว่านั้นยังเร่งเครื่องกระหึ่มอย่างแรง เชิดหัวโยนบอมบ์เข้าไปที่จุดหนึ่งจุดใดที่เสืออากาศของเราได้เห็นแล้ว ตูมเดียวควันดำก็คลุ้มเป็นกลุ่มขึ้นไปในอากาศ เครื่องบินที่คิดว่าจะตกของเรากลับมีลูกเล่นอย่างไม่มีใครคาดฝันสักคนเดียว เสียงร้องไชโยราวกับนัดกันไว้”
เมื่อจำต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระหว่างปี ๒๔๘๔-๒๔๘๘ การสร้างเครื่องบินของไทยก็ต้องชะงักลง มาฟื้นฟูกันใหม่ในปี ๒๕๐๐ แต่ก็ตามไม่ทันเทคโนโลยีการสร้างเครื่องบินที่ไปไกลแล้ว ขืนสร้างขึ้นมาก็เอาไปรบกับใครไม่ได้ จึงหันไปศึกษาเครื่องบินแบบฝึกบิน โดยซื้อแบบจากต่างประเทศมา แล้ววิจัยสร้างแบบขึ้นมาเอง
การสร้างเครื่องบินฝึกของกองทัพอากาศ ได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน นอกจากสร้างขึ้นใช้เองแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างเครื่องบินแบบนี้ออกจำหน่ายด้วย
การเริ่มต้นการบินของไทยเรานับว่าสดใสไม่น้อย แต่ต้องชะงักไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเพราะเป็นประเทศที่ยากจน ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณศึกษาวิจัยในด้านนี้มากนัก กิจการสร้างเครื่องบินของไทยจึงล้าหลังไป แต่กระนั้นในด้านนักบิน คนไทยก็มีฝีมือเป็นนักบินเครื่องบินโดยสารของสายการบินใหญ่ๆอยู่หลายสาย ไม่น้อยหน้านักบินชาติใดในโลก
แต่อย่าเผลอไปมีลูกเล่นเหมือนตอนถล่มศรีโสภณเข้าล่ะ!
“ประชาธิปก” เครื่องบินขับไล่ที่ไทยออกแบบและสร้างเองฝ
คอร์แซร์ ที่เหลือหนึ่งเดียวในโลก
ฮอล์ค ๓ ที่เหลือเครื่องเดียวในโลกเช่นกัน
************************