PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

‘ภุชงค์’แฉยับ5เสือกกต.ล้วงลูกแต่งตั้งจนท. ขึ้นเงินเดือนที่ปรึกษา จ่ออุทธรณ์ศาลปค.

วันที่ 09 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13:01 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 4471 คน

 

 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมกรรมการ กกต.มีมติเลิกจ้าง เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินนั้นว่า หลังจากนี้ตนจะยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกกต. ภายใน 15 วัน แต่หากกกต.ยังยืนยันมติเดิมตนก็จะยื่นต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพราะต้องการให้เป็นบทเรียนแก่องค์กร และยืนยันว่าตนไม่ต้องการกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการกกต.อีกต่อไป

 

 นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเชื่อมั่นว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่าน แต่การทำงานกับคณะกรรมการกกต. ชุดนี้ตลอด 2 ปีนั้นมีการล้วงลูกการทำงานภายในสำนักงาน ทั้งๆที่เป็นอำนาจของเลขาธิการ ซึ่งต่างจากกรรมการชุดก่อนหน้าที่ให้เกียติการทำงานของสำนักงานมาโดยตลอด กลายเป็นว่ากรรมการอยากทำอะไรก็ได้ เพียงแค่มีมติ กกต.มีการเข้ามาล้วงลูกการทำงาน โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ มีการตั้งขึ้นเงินเดือนที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญประจำตัวกกต.แต่ละคน ทำให้แต่ละเดือนกกต.ต้องจ่ายเงินให้กับคนเหล่านั้นถึง 2 ล้านบาท เป็นเงิน 24 ล้านบาทต่อปี ทำให้ขณะนี้งบของ กกต.ร่อยหรอลงมากนอกจากนั้นการดำเนินงานในโครงการต่างๆ จนเป็นผลให้มีความล่าช้า เพราะทุกโครงการถูกกรรมการกกต.สั่งรื้อ ถูกสั่งให้แก้ไข และบางโครงการกรรมการกกต.ก็มีคำสั่งให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการออกไปเองและบางโครงการ กรรมการกกต.ก็มีการสั่งระงับโครงการ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ และในการประเมินผลการทำงานที่ผ่านมาก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตนเข้าไปชี้แจงเลย


 “ผมไม่น้อยใจที่โดนทำแบบนี้ ที่โดนปลดกลางอากาศ แต่ขอเรียกร้องให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยเฉพาะนายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต ประธาน กกต.และนายประพันธ์ นัยโกวิท อดีต กกต.เขียนรัฐธรรมนูญกำหนดโครงสร้างขอบเขตอำนาจของกรรมการกกต. กับ สำนักงานกกต. ให้มีเส้นแบ่งที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการล้วงลูกอย่างที่เกิดขึ้น ถึงแม้ กรธ.จะให้คณะกรรมการชุดนี้มีวาระอยู่อีก 7 ปีก็ไม่เป็นไร แต่ต้องเขียนกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการล้วงลูก และไม่ให้มีเจ้าหน้าที่ถูกกระทำเหมือนผมอีก”นายภุชงค์กล่าว


 นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า หลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้ ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน กกต.ต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดพิมพ์เอกสารร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 20 ล้านฉบับ ซึ่งในขณะนั้นมีใบสั่งเรื่องเกี่ยวกับโรงพิมพ์สะพัด ทั้งที่ กกต.อยากให้มีโรงพิมพ์ทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมพิมพ์ไม่ใช่ให้โรงพิมพ์เดียวมารับงาน และอยากให้จับตาดูการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ว่าจะเป็นอย่างไร


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์นายภุชงค์มีน้ำตาคลอเบ้า ตาแดงกล่ำ หลังจากการให้สัมภาษณ์ก็มีเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.หลายคนมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้นายภุชงค์ด้วย ก่อนที่นางพรวรินทร์ นุตราวงศ์ ภรรยานางภุชงค์จะโผเข้ากอดเพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่นายภุชงค์จะเดินทางไปเก็บของในห้องทำงาน

 


ไม่มีความคิดเห็น: