PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

ทรงรับสั่ง ให้ 5 องคมนตรี ร่วม "บิ๊กตู่" ปล่อยขบวนรถสิ่งของบริจาค ยังชีพ ลงใต้

ทรงรับสั่ง ให้ 5 องคมนตรี ร่วม "บิ๊กตู่" ปล่อยขบวนรถสิ่งของบริจาค ยังชีพ ลงใต้
พลเอกประยุทธ์ เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมอบหมาย องคมนตรี. นำโดย นายพลากร สุวรรณรัฐ. บิ๊กหนุ่ย พลเอกดาว์พงษ์รัตนสุวรรณ. บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย นาควานิชบิ๊กต๊อก พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา. และบิ๊กโชย พลเอกกัมปนาท. รุดดิษฐ์ เป็นผู้แทนพระองค์ ปล่อยขบวนรถช่วยเหลือประชาชน น่ำท่วมใต้ ที่ลานพระรูปทรงม้า และ ติดตามการประชุม รมว.มหาดไทย วันนี้ ชี้เป็นภัยพิบัติระดับ3. ชี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยในประชาชนอย่างมาก
5องคมนตรี-นายกฯบิ๊กตู่ ร่วมเป็นประธานปล่อยคาราวานอาชีวะ ช่วยน้ำท่วมใต้ "บิ๊กตู่" ถือเป็น "ทูตปรองดอง"ของรัฐบาล /อ่าน ลายพระหัตถ์ ในหลวง ให้ฟัง เผยทรงห่วงใย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยองคมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และนายพลากร สุวรรณรัฐ ร่วมเป็นประธานปล่อยขบวนคาราวาน "รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลือประชาชน" จำนวนกว่า 900 คัน ที่พระลานพระราชวังดุสิต
พร้อมจัดทีมนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาที่จะไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยประมาณ 300 ทีม โดยขบวนคาราวานจะออกเดินทางระหว่างวันที่ 14-21 ม.ค.นี้ คาดว่าจะมีประชาชนได้รับการช่วยเหลือ 1.5 แสนครัวเรือน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ เป็นการแสดงพลังของคนไทยที่จะช่วยเหลือดูแลทุกข์สุขของประชาชนไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม มันเป็นการแสดงถึงน้ำใจที่เรามีให้ต่อกัน นั่นคือความเป็นคนไทย ความเป็นอนุรักษ์ไทยทั้งหมด สิ่งที่อยากกราบเรียนให้ที่ประชุมตรงนี้ทราบ
วันนี้เราอยู่ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์คือลานพระราชวังดุสิต ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่บริเวณนี้ เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ตนและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยระดับ 3 ฉะนั้นเป็นเรื่องของการบูรณาการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพระองค์ท่านทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีมาร่วมตรงนี้ด้วย และวันนี้จะมีการประชุมที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริงและทั่วถึง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระองค์ท่านยังพระราชทานลายพระหัตถ์มาให้นายกฯ เพื่อมาพูดกับพวกเรา และได้สนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ที่ทรงรับสั่งคือ เรื่องความห่วงใยประชาชนและสิ่งสำคัญคือการเร่งรัดช่วยเหลือดูแลฟื้นฟูให้ได้โดยเร็วในทุกกิจกรรม
วันนี้ถือว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลแก้ไขปัญหาให้ทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติ สิ่งที่ตนอยากจะฝากพวกเราคือ ขอให้ทุกคนนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านและพระบารมีของพระองค์ท่านไปให้พี่น้องชาวใต้ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย และขอให้ทำหน้าที่เป็นทูตปรองดองของรัฐบาล คำว่าปรองดองของรัฐบาลก็คือเราไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความแตกต่างในเรื่องอัตลักษณ์ สิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือการที่พวกเราต้องปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ เหมือนกับที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับสั่งไว้ว่า เราต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
ฉะนั้น เราต้องเข้าใจอัตลักษณ์ประชาชนในจังหวัดภาคใต้ อย่าทำอะไรที่ผิดเพี้ยนและอย่าทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาโดยเด็ดขาด ทำตัวให้คนใต้รักเรา เพราะจะทำให้การปรองดองนั้นไปทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกิจกรรมนี้ที่รัฐบาลทำให้เกิดขึ้น
"การปรองดองคือการที่ทุกคนช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มีจิตสำนึกเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่สร้างปัญหาใหม่ ไม่มีแบ่งแยก ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็คนไทยทั้งสิ้น เราต้องรวมพลังความรัก ความสามัคคีทั้ง 70 ล้านคนให้ได้ ขณะเดียวกันขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า สถานการณ์อาจจะมีพายุที่ก่อตัวในประเทศเพื่อนบ้านและจะเคลื่อนเข้ามาในไทย หวังว่าจะไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เราต้องช่วยกันอธิษฐาน ขณะเดียวกันทุกคนต้องระมัดระวังตัวให้ปลอดภัย "

“ขอให้ทุกคนที่เดินทางไปปลอดภัยและเป็นกำลังใจให้กันและกัน รัฐบาลจะติดตามการทำงานตรงนี้ สิ่งสำคัญขอให้ทุกคนสำนึกว่า พระองค์ท่านทรงห่วงจริงๆ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีมาร่วมและจะหารือประสานกันในการช่วยเหลือ
และขอให้ช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลก็จะนำมาปฏิบัติ ซึ่งหลายอย่างควรที่จะปฏิบัติได้นานแล้ว ปัญหาของเรามันเยอะมาก เราก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นปัญหาอีก แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เว้นแต่พวกเราร่วมมือกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาน้ำรัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น รวมถึงทุกคนต้องรู้เส้นทางน้ำผ่านว่าอยู่ตรงไหนบ้างในทุกจังหวัด คนที่อยู่บริเวณนั้นต้องระมัดระวังตัวเอง ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ แต่รัฐบาลจะพยายามทำไม่ให้ใครเดือดร้อนมากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทีมองคมนตรี

เดอะ ทีม‬
ออกงานร่วมกัน ครั้งแรก 5องคมนตรีใหม่
ทั้ง นายพลากร สุวรรณรัฐ. บิ๊กหนุ่ย พลเอกดาว์พงษ์. รัตนสุวรรณ. บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย นาควานิช. บิ๊กต๊อก พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายาและบิ๊กโชย พลเอกกัมปนาท. รุดดิษฐ์ ที่ล้วนเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยกับพลเอกประยุทธ์มาทั้งสิ้น
ร่วมกับพลเอกประยุทธ์ ปล่อยขบวนคาราวาน ช่วยเหลือชาวใต้น้ำท่วม จากลานพระบรมรูปทรงม้า‬

ความเคลื่อนไหวการเมือง

นายกฯเป็นประธานพิธีวันสถาปาครอบรอบ 107 ปี กองทัพภาค 1นายทหารระดับสูง อดีต แม่ทัพเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีวันสถาปนากองทัพภาคที่1 ประจำปี2560 ครบรอบ 107 ปี ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่1 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่1 รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผู้แทนเหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เดินทางเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ ก่อนจะเดินทางเข้าไปในห้องอเนกประสงค์ กองบัญชาการกองทัพภาคที่1 เพื่อร่วมประกอบพิธีสงฆ์ต่อไป โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาร่วมงานสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 107 ปี ซึ่งตนภาคภูมิใจที่เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาในหน่วยนี้ เพราะความเจริญเติบโตของกองทัพภาคที่ 1 มีมากว่า 100 ปี มาจากการนำพาของอดีตผู้บังคับบัญชา และได้รับความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งนายทหาร นายสิบ ตลอดจนลูกจ้าง พนักงานที่ร่วมมือกัน เพื่อดูแลทุกข์สุขของครอบครัวของเราให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ตนขอย้ำว่าเป็นความภาคภูมิใจที่เคยรับราชการอยู่หน่วยนี้

อย่างไรก็ตามกองทัพภาคที่1 ได้สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่13 มกราคม 2453 ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดกองพลเป็นกองทัพภาคที่ 1 ดังนั้นกองทัพภาคที่ 1 จึงกำหนดให้วันที่ 13 มกราคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนา
กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งปัจจุบันมีพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนที่ 50
--
สนช.เตรียมพิจารณาแก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราว 3 วาระรวด ใน 2 ประเด็นสำคัญ "รองฯวิษณุ" เป็นตัวแทน รัฐบาลเข้าชี้แจง 

ความเคลื่อนไหวที่อาคารรัฐสภาในวันนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เรียกสมาชิกประชุมครั้งที่2 / 2560 เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนการปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวพุทธศักราช 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีนายวิษณุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายจะเป็นผู้แทนเขาชี้แจงหลักการและเหตุผลของการแก้ไขต่อสนช. และในวันนี้จะเป็นการพิจารณา 3 วาระรวดในคราวเดียว เนื่องจากการขอปรับแก้ไขถ้อยคำในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวสนช.จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคสช.และครม. จึงจะใช้วิธีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเต็มสภาและให้นายวิษณุ ตัดสินใจว่าจะประบแก้ไขตามข้อเสนอห รือไม่ในทันที เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในพิจารณา

ทั้งนี้สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว มีสาระสำคัญ 2 ประเด็น คือ เรื่องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และระยะเวลาในการทูลเกล้าทูลกระหม่อม และพระราชทานรัฐธรรมนูญกลับคืนมา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อหมวดอื่นแต่อย่างใด
---
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชนน้ำท่วม พร้อมพระราชทานลายพระหัตถ์ เป็นกำลังใจ ขอมีร่างกาย จิตใจเข้มแข็ง เพื่อความสุข มั่นคงของชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ให้ตนเองและคณะผู้เกี่ยวข้อง เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา โดยได้ถวายรายงานเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งพระองค์ทรงมีความห่วงใย และทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยหลายประการ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วและดีที่สุด และให้ดำเนินการเตรียมแผนงานระยะยาวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคใต้ และให้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาทบทวน

พร้อมกันนี้ พระองค์ยังทรงพระราชทานลายพระหัตถ์ถึงประชาชนทุกคนว่า ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อขวัญที่ดี จิตใจ และร่างกายที่เข้มแข็ง นำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงห่วงใยในทุกเรื่อง รวมถึงเป็นกำลังให้กับประชาชนทุกคน มีความอดทน และมีความเข้าใจว่าจะอยู่กับน้ำได้อย่างไร ขณะที่ในส่วนของสถานการณ์บ้านเมืองนั้น ก็ขอให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคี อยู่ในความสงบ ทำให้บ้านมีความปลอดภัยยั่งยืน เป็นที่เชื่อมั่นของนานาประเทศ
--------
นายกฯ พร้อม 5 องคมนตรี ร่วมปล่อยขบวนคาราวานช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ยกเป็นทูตปรองดอง ขอ ปชช. ร่วมมือกับรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ, พล.อ.ธีรชัย นาควานิช, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา, พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ และ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมปล่อยคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 12 จังหวัด กว่า 900 คัน

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแสดงพลังน้ำใจของคนไทยด้วยกันเองในวันนี้ เป็นทำงานแบบบูรณาการเพื่อลดการซ้ำซ้อน พร้อมขอให้ร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงาน และขอให้ทุกคนที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ช่วยเป็นทูตในการสร้างความปรองดองกับประชาชน โดยให้ปรับตัวเข้ากับพื้นที่ อย่าสร้างปัญหาใหม่

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะมีการหาแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างยั้งยืน ทั้งการระบายน้ำสู่ทะเลให้ได้มากที่สุด และการแก้ปัญหารเรื่องสร้างสิ่งปลูกสร้างกรีดขวางทางน้ำไหล จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน
-------
สนช. เริ่มการประชุมแล้ว พิจารณาวาระเร่งด่วนแก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราว "วิษณุ" ชี้แจงหลักการเหตุผล

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้ เริ่มเวลา 10.00 น. โดยมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่ คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นผู้เสนอ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา เพื่อร่วมกันพิจารณาใน 3 วาระรวด โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้แทน คสช. และ ครม. เข้าร่วมการประชุมและมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ โดย นายวิษณุ ระบุว่า ร่างแก้ไขร่างรับธรรมนูญ ฉบับขั่วคราว เป็นการเพิ่มข้อความในมาตรา 3 วรรค 2 เรื่องเกี่ยวข้องกับการตั้งแต่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในบางกรณี และแก้ไขมาตรา 39/1 ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญกลับมาแก้ไขตามที่ทรงมีข้อสังเกต

ซึ่งสาเหตุที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว เนื่องจากหากรอให้ร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ การจะแก้ไขบทบัญญัติในหมวดพระมหากษัตริย์ และหมวดอื่น ๆ ตามที่กำหนดจะต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อน จึงดำเนินการแก้ให้เกิดความชอบธรรมให้กับนายกรัฐมนตรีในการรับร่างรัฐธรรมนูญกลับมาแก้ไข
-------------
"จาตุรนต์" FB ม.44 กับการจัดการศึกษา แก้ปัญหาได้จริงหรือ ชี้จะทำให้เกิดปัญหาที่ยากจะแก้ไขในอนาคต 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Chaturon Chaisang" ว่า การใช้ ม.44 กับการจัดการศึกษา แก้ปัญหาได้จริงหรือ
เพราะก่อนหน้านี้ มีการใช้มาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดได้มีการเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2560 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการ มีใจความสำคัญว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน จึงจําเป็นต้องกําหนดให้กระทรวงศึกษาธิการ มี อ.ก.พ. ขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทําหน้าที่ อ.ก.พ. กระทรวงเพียงคณะเดียว ซึ่งการเปลี่ยนจากการมี อ.ก.พ. 5 คณะ มาเหลือเพียงคณะเดียวอย่างนี้ ต้องถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการบริหารงานในกระทรวงศึกษาอย่างมาก แต่ปัญหาที่คงยังไม่มีใครตอบได้ คือ ความลักลั่นที่กระทรวงศึกษายังคงมีองค์กรหลักอยู่ 5 องค์กร หรือที่เรียกว่า 5 แท่ง แต่การจัดการบริหารงานบุคคลซึ่งครอบคลุมทั้งการแต่งตั้งโยกย้าย การสอบข้อเท็จจริงการสอบสวนและการลงโทษทางวินัยกลับจะทำโดยองค์กรเดียว

ดังนั้น การใช้ ม.44 กับกระทรวงศึกษาในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา รวมถึงครั้งล่าสุดนี้ มีลักษณะเหมือนกับว่าคิดอะไรได้ก็สั่ง ๆ ไปก่อน ภาพรวมหรืออนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรยังไม่ได้คิดให้ชัดเจน ทั้งยังมีเป็นการให้ความสำคัญไม่ตรงจุด คือ ไปเน้นเรื่องโครงสร้างมากกว่าการจะให้ความสนใจในเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอน การทดสอบวัดผล การผลิตและพัฒนาครู การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นต้น

ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ ทิ้งท้ายว่า คสช. และรัฐบาลมักอวดอ้างว่าจะปฏิรูป จะกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ดูจากที่ทำกับการศึกษา ไม่เห็นว่าจะเป็นการปฏิรูปหรือทำอะไรอย่างมียุทธศาสตร์หรือมีความเข้าใจในภาพรวมเลย ที่ใช้คำสั่งเด็ดขาดครั้งแล้วครั้งเล่านี้ ยิ่งทำให้ยากสำหรับการแก้ไขในวันข้างหน้า
-------------
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกรายงานไทยล้มเหลวด้านสิทธิมนุษยชน ในปี 2559 ไม่ทำตามคำสัญญากับสหประชาชาติที่จะฟื้นประชาธิปไตย

องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ เผยแพร่รายงาน ระบุ ในพี 2559 รัฐบาลไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มเหลวต่อเนื่องในการที่จะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ที่จะเคารพหลักสิทธิเสรีภาพและฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย โดยอธิบายว่าก่อนหน้าการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเมื่อ 7 ส.ค. 2559 คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ปิดกั้นการใช้สิทธิในการแสดงออก การชุมนุมโดยสงบ ด้วยการใช้กฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายประชามติ กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานยุยงปลุกปั่น และคำสั่ง คสช. ฉบับต่าง ๆ ทำให้บุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและรณรงค์ "โหวตโน" ถูกจับกุมอย่างน้อย 120 คน

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังคงปิดกั้นการแสดงออก อาทิ กรณีกลุ่มแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต้องยกเลิกการแถลงข่าวในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดตัวรายงานว่าด้วยการทรมานในประเทศไทย, กรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กดดันให้โทรทัศน์ พีซทีวี ระงับออกอากาศเป็นเวลา 30 วัน และวอยซ์ทีวีกับสปริงนิวส์ งดนำเสนอความเห็นของนักวิเคราะห์ข่าวที่วิจารณ์รัฐบาล หรือแม้กระทั่ง การนำกฎหมายว่าด้วยความผิดฐานยุยงปลุกปั่นมาใช้อย่างกว้างขวาง เช่น กรณี "จับขันแดง" หรือการดำเนินคดีประชาชนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมถึงยังขอให้ประเทศต่างๆ ส่งตัวบุคคลผู้ขอลี้ภัยกลับมาดำเนินคดีในประเทศในข้อหาหมิ่นสถาบันด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการยกเลิกคำสั่ง คสช. 3 ฉบับ ที่กำหนดให้พลเรือนขึ้นศาลทหารในคดีความมั่นคง แต่ไม่มีผลย้อนหลัง จึงไม่ได้เป็นคุณแก่คดีที่ขึ้นศาลทหารแล้วกว่า 1,800 คดี และในเวลานี้ยังมีพลเรือนถูกควบคุมตัวภายในกรมทหาร โดยไม่มีกลไกป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้ต้องหาด้วย
--------------
มติ สนช. ผ่าน วาระ 3 แก้ ไข รธน.ชั่วคราว 2557 เพื่อเปิดทาง แก้ รธน.ฉบับประชามติ แล้ว นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 15 วัน 

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีมติเป็นเอกฉันท์ 228:0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะรัฐมนตรี เสนอ จากนี้นานกรัฐมนตรีจะต้องนำร่างที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมให้ทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 15 วัน หรือก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสามารถขอพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญที่นำขึ้นทูลเกล้าไปแล้ว กลับมาแก้ไขเพิ่มเติมตามประเด็นที่ทรงมีข้อสังเกตได้ทันตามกรอบเวลา 90 วัน ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
-------------------
นายกฯ ต้อนรับเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ แจงโรดแมป สร้างความเชื่อมั่นให้ต่างประเทศ - ทำเนียบเตรียมวันเด็ก

ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมหารือร่วมกัน ซึ่งคาดว่า นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงถึงสถานการณ์ประเทศไทย และโรดแมปของรัฐบาล ที่จะนำสู่ความเป็นประชาธิปไตยแบบสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ต่างประเทศ

ขณะบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 ในวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.) โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. ภายใต้แนวคิด

“ดินแดนแห่งความสุข ตามศาสตร์พระราชา” โดยจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างความรู้และความสนุกสนานเพลิดเพลินให้แก่เด็กที่มาร่วมงาน โดยไฮไลต์สำคัญ นอกจากการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ภายในห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว เด็ก ๆ ที่มาร่วมงาน ยังจะได้เรียนรู้จากกิจกรรมที่จัดไว้ให้ โดยเฉพาะศาสตร์พระราชา หรือแนวทางพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9
-------------------
"มีชัย" โยนรัฐบาลดูคณะกรรมการพิเศษแก้ร่างรัฐธรรมนูญ ภายใน 30 วัน ย้ำ เดินหน้าตามโรดแมป

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษ ดำเนินการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามข้อสังเกตพระราชทาน ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องประสานกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งส่วนตัวคาดว่ารัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นผู้ที่รู้ถึงข้อสังเกต และส่งให้คณะกรรมการชุดพิเศษ เป็นผู้พิจารณาตามบันทึกที่รัฐบาลส่งมาให้ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมภายใน 30 วัน ตามกรอบเวลาที่กำหนด ส่วนจะแก้ประเด็นใดบางส่วนตัวไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามการพิจารณาของ สนช. แต่ นายมีชัย ยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังคงเดินหน้าไปตามโรดแมปเดิม เนื่องจากจะเริ่มต้นนับหนึ่งหลังจากร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 2562 นายมีชัย ไม่สามารถยืนยันได้ แต่เชื่อว่า กรธ. จะไม่อยู่ถึงในเวลานั้น พร้อมกันนี้ นายมีชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะประสานมายัง กรธ. ขอให้ส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้ สนช. ศึกษาล่วงหน้าอย่างไม่เป็นทางการก่อน ว่า สามารถทำได้ เพราะไม่มีความลับอะไร
----------------------
นายกฯ ขอทุกคนเร่งช่วยน้ำท่วมใต้ ยกเป็นวาระแห่งชาติ เตรียมจัดงาน "ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้" ขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. นี้

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ 12 จังหวัด ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงอยากให้ทุกคนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ และควรเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในลักษณะประชารัฐ ดังนั้น ได้ให้จัดงานภายใต้ชื่อ "ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้" ขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 20.00 น. โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แทนรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยในช่วงแรกจะเชิญนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี มารับโทรศัพท์ในการรับบริจาค 5 คู่สาย และคณะรัฐมนตรี ศิลปิน ดารา นักแสดงอีก 25 คู่สาย ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ขณะเดียวกัน เบอร์สายด่วน 1111 นั้น ยังสามารถโทรมาได้ตามปกติ เพื่อรับแจ้งปัญหาต่าง ๆ
     
อย่างไรก็ตาม จะเน้นการบริจาคเงินเพื่อสะดวกในการส่งมอบแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ตามความต้องการของประชาชน โดยยืนยันว่าการใช้เงินรัดกุมไม่รั่วไหล และตรวจสอบได้อย่างชัดเจน อีกทั้งการจัดการกิจกรรมดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นและให้กำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน โดยระดมความช่วยเหลือทุกทางเพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นระบบมากที่สุด
---------
นายกฯ ให้บุตรหลานข้าราชการทำเนียบได้เยี่ยมชมห้องทำงาน พร้อมจับสลากแจกของขวัญ - เลี้ยงอาหารก่อนวันเด็กแห่งชาติ

บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เปิดโอกาสให้บุตรหลานของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ประจำ

ทำเนียบรัฐบาล ได้เข้าเยี่ยมชมห้องทำงาน และนั่งเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งถ่ายภาพร่วมกับนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งมีการจับสลากแจกของขวัญ และ
เลี้ยงอาหารให้แก่เด็ก ก่อนที่จะถึงวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลต้องมาปฏิบัติหน้าที่ เนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติ

ซึ่งบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ก็เป็นไปอย่างคึกคัก เด็ก ๆ และผู้ปกครองต่างตั้งหน้า ตั้งตารอเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยความตื่นเต้น สำหรับเด็กและเยาวชนที่มาลงทะเบียนนั้น จะได้รับถุงผ้าที่มี

การสกรีนเป็นรูป ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และภายในถุงผ้านั้น มีกระบอกบรรจุน้ำ กล่องข้าว และตุ๊กตา ซึ่งมีทั้งหมด 3,000 ชุด

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เด็กและเยาวชนจะได้เข้าไปภายในห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี จะมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น