PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

หมากตาแรกของรัฐบาลประยุทธ์‬

หมากตาแรกของรัฐบาลประยุทธ์‬

เปลว สีเงิน

เดือนกันยานี้ เป็น "เดือนสุดท้าย" ของพิธีกรรมในการเข้าสู่กระบวนการ "อำนาจปฏิบัติ" รัฐบาล คสช.ยังไม่ได้ทำงานเป็นโล้เป็นพาย เดือนหน้านั่นแหละ
พอ ๑ ตุลาปุ๊บ....หมดขั้นตอนพิธีกรรม

"รัฐบาลปีเดียว" ของนายกฯ ประยุทธ์ ต้องจ้ำ "เกียร์กระโดด" ตะลุยทันที!
ไม่งั้น...ด้วยอายุ "ปีเดียว" มัวไต่ระดับเกียร์ ๑ เกียร์ ๒ รอศึกษางานก่อน รอหมดแขกแสดงความยินดีก่อน
แป๊บเดียว.....อ้าว ตุลา ๕๘ มาถึงแล้ว
นั่นคือ "รัฐธรรมนูญ-เลือกตั้ง" ดังสัญญา มาถึงซะแล้ว!
ดูท่านายกฯ ประยุทธ์ก็คงคำนึงถึงเทอมเวลา "ตามสัญญา" อยู่เหมือนกัน สังเกตจากปฏิทินงานกับตารางเวลาของท่าน ฉะนั้น พูดได้ว่า
รัฐบาลชุดนี้...ไม่มีเวลาให้ฮันนีมูน!

หลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนวันไหนแล้ว ต่อด้วยแถลงนโยบายต่อ สนช.สัปดาห์หน้า สัปดาห์ถัดไปประมาณ ๑๗ ก.ย. พ.ร.บ.งบประมาณปี ๕๘ ที่เสร็จในขั้นกรรมาธิการ เข้าพิจารณาในสภาฯ วาระ ๒-๓
จากนั้น...แถลงนโยบายต่อสภาฯ ก็ ปะ-ฉะ-ดะ ทันที!
เรียกว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องทำงานกันชนิด ตัวเป็นเกลียว-หัวเป็นสว่านไฟฟ้า จี๊ด..จี๊ด..ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ทางที่ดี รัฐมนตรี "นอกแถวทหาร" ๒๐ ท่าน น่าจะไปให้มด-ให้หมอตรวจเช็กสุขภาพให้พร้อม เพื่อความไม่ประมาท

เพราะดูๆ แล้ว คละอายุรัฐมนตรีพลเรือน ถึงไม่แก่เฒ่า แต่ตกเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ๖๕ นั่นแน่ะ!
โดยเฉพาะ "กระทรวงเศรษฐกิจ" ช้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว เพราะทุกอย่างภายใต้คำว่า "เศรษฐกิจ" กำไร-ขาดทุน คิดกันเป็นวินาที ตอนนี้ชีพจรประเทศไทย มันเต้นแผ่วเหลือเกิน
รายได้หลักอยู่ที่ "ส่งออก" เมื่อทั้งโลกเป็นอย่างที่เห็น ยิ่งตลาดใหญ่ ทั้งยุโรป-ญี่ปุ่น-สหรัฐ มีแต่ "ฟื้นเทียม" พลเมืองเขาต้องอยู่เขียม-กินเขียม
เรา-ผู้ผลิต ก็เตรียมตัวกันเถอะ!

ที่ซ้ำร้าย และรัฐบาล คสช.ต้อง "คิดให้หนัก" ในประเด็นรายได้หลักอีกตัวของไทยเราคือ "การท่องเที่ยว" ที่คาดกันว่า ไตรมาส ๓ ไตรมาส ๔ น่าจะดีขึ้น
มันก็ไม่ดี เท่าที่ "ควรจะดี"!
บอกตรงๆ สาเหตุหนึ่งที่เข้ามาผสม มาจากนโยบาย คสช.ที่ประกาศ "ไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก" แม้มีรัฐบาลแล้วนั่นแหละ
ก็เข้าใจ "ความมั่นคง-ความสงบสุข" ต้องมาก่อน!
แต่นั่น คสช.ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ทัศนคติต่อคำว่า "กฎอัยการศึก" ของคนต่างชาติ และกฎระเบียบการท่องเที่ยว ระบบประกันภัย ตลอดถึงที่พักอาศัย
มันเป็นต้นทุนบวก "ความเสี่ยง" ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว ต้องจ่าย ต้องแบกรับภาระ "สูงขึ้นมาก"
โดยไม่จำเป็น!

เหตุนี้ บริษัททัวร์ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งขยาด ทั้งไม่แนะนำให้เดินทางมา และทั้งการประชุม-สัมมนาต่างๆ ที่องค์กรต่างชาตินิยมใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงาน
เขาก็ไม่เสี่ยงมาจัด!
มีแต่คนในภูมิภาคเดียวกันนี่แหละ พอเข้าใจ "ปฏิวัติ-กฎอัยการศึก" แบบไทยๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว
เมื่อวาน (๑ ก.ย.) กกร.เขาประชุมประเมินสภาวะเศรษฐกิจกันมิใช่หรือ เห็นมีข้อสรุปออกมาว่า ที่หัวใจเต้นช้าครึ่งปีแรก และคิดว่าครึ่งปีหลังจะเต้นแรงขึ้น แต่เอาเข้าจริง ถึง ณ ขณะนี้
ใช้คำพูดแบบถนอมน้ำใจกันก็ว่า...เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ
ทั้งปี จีดีพี ขยายตัวได้สูงสุด ไม่น่าเกิน ๒%!
๒% นี่ ก็พูดแบบประโลมใจกันเท่านั้น เพราะถ้าจะพูดกันตรงๆ มันจะหดหู่-ห่อเหี่ยวมากไป คือแค่ได้ ๑-๑.๕% ก็ถือว่าเทวดา คสช.มาโปรดแล้ว
ลองส่งออกกับท่องเที่ยว "ตัวเลขไม่ผงกหัว" เศรษฐกิจไทยก็แทบ "ตราสัง" เหลือหวังทางเป่าตูด-กระตุ้นชีพจรให้เต้นอยู่ทางเดียวคือ
"การลงทุนภาครัฐ"!
นั่นก็ต้องดูว่า "กระทรวงเศรษฐกิจ" ภายใต้การคุมทิศ-คุมทางของขุนพลเศรษฐกิจ คสช.อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร
และคุณสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวฯ คุณณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ คุณปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ คุณจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม
จะใช้วิสัยทัศน์ บนอำนาจค่อนข่างเบ็ดเสร็จ ปลุกชีพจรเศรษฐกิจไทย ให้ จีดีพี ปี ๕๘ เป้าหมาย "มีชีวิต-ชีวา" ซัก ๓-๕% ได้หรือไม่....
ในภาวะเศรษฐกิจและสังคมการเมืองโลก....วิกฤติ?
ก็เห็นแต่การลงทุนโครงการใหญ่ๆ ภาครัฐที่รอ "จ่อ" อยู่เท่านั้น จะเป็นพระเอกกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภาคประชาชน ด้วยเม็ดเงินสู่เม็ดงานผ่านโครงการ ไม่ว่ารถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ถนนหนทาง ประมูล ๔ จี โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่คารา-คาซังอยู่
น่าเร่งได้ เพราะ "หัว" คือนายกฯ ประยุทธ์ประกาศชัด "ไม่ทุจริต" และชาวบ้านก็เชื่อใจ-ไว้ใจพลเอกประยุทธ์ในประเด็นนี้มาก
เมื่อ "หัว" ไม่ส่าย บรรดา "หาง" ทั้งหลาย ก็ไม่น่า (กล้า) กระดิก เมื่อไม่กระดิก ด้วยเทอมอำนาจปีเดียว ต้องรีบทำ
แต่จะรีบได้แค่ไหนไม่รู้ เพราะเริ่มต้น วันก่อน เรื่องรถไฟทางคู่ ได้ยินคำว่า "ตั้งที่ปรึกษาโครงการ" ไปศึกษาความเป็นไปได้อีกแล้ว!?
โครงการเดียวกัน แต่เปลี่ยนรัฐบาล-เปลี่ยนรัฐมนตรีทีไร เป็นต้องศึกษาความเป็นไปได้ใหม่ทุกที
เห็นศึกษามาตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน ๑ ที่พันเอกวินัย สมพงษ์ ริเริ่มทำรถไฟทางคู่ ร่วม ๒๐ ปีแล้วมั้ง
พอจะลงมือทำวันนี้...ศึกษาแม่งมันอีกแล้ว!?
แผนเศรษฐกิจวันนี้ เฉพาะไทยประเทศเดียวไม่ได้ ถ้าไม่ใช้พื้นที่ ๑๐ ประเทศอาเซียนเป็นพื้นที่ในแผน
อย่างน้อย ก็ต้องใช้พื้นที่ ๖ ประเทศในกลุ่มอนุภาคลำน้ำโขง จีนตอนใต้-ญวน-ลาว-เขมร-เมียนมาร์-ไทย
ผนึกเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ในแผนบริหารของเรา!
ผมว่า "ด้านต่างประเทศ" น่าพอใจและสบายใจมากที่สุด แค่เมื่อวาน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.ปุ๊บ
รุ่งขึ้น นายกฯ ประยุทธ์ มอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศ "พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร" เป็นตัวแทน นำคณะบินไปกัมพูชา กระชับมิตรภาพเพื่อนบ้านระดับทวิภาคีทันที
เราให้เกียรติกัมพูชาด้วยจริงใจขนาดไหน?
ขนาดรัฐบาลยังไม่สมบูรณ์แบบ พลเอกประยุทธ์จะไปเองในฐานะนายกฯ ยังไม่เหมาะสมนัก แต่ด้วยความเร่าร้อนในมิตรภาพที่จริงใจ
ส่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศไปทันที ไม่ได้ไปคนเดียว ยกทีม คสช.ไปเลย มีทั้ง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงพร้อมพรั่ง
ที่สะดุดตาเป็นพิเศษ คือ....
นายกฯ ประยุทธ์ ส่ง "พลเอกอุดมเดช สีตบุตร" ว่าที่ ผบ.ทบ.ร่วมไปกับคณะกระชับมิตรไทย-กัมพูชาด้วย
โบราณว่า ๑ ตัวอย่าง ดีกว่า ๑๐๐ คำพูด!
การส่งตัวแทนไปสันถวไมตรีกับกัมพูชาเป็นประเทศแรกในทันทีนี้ เป็นคำอธิบายถึงความจริงใจ-ให้เกียรติเพื่อนบ้านที่ "หัวกระไดชนกัน" ระหว่างไทย-กัมพูชา ชนิดที่
"สมเด็จฯ ฮุน เซน" ต้องปริ่มปลื้ม.....
ชนิด "ลืมทักษิณ" ไปชาติหนึ่งทันทีเลย!
อะไรที่ไม่น่าเป็นปัญหา แต่เป็นปัญหา ต้องพูดจากันด้วยลูกปืนมาก่อนหน้านี้นับจากนี้ไป....
พลเอกเตีย บัณห์ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา บอกกับพลเอกธนะศักดิ์ รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศไทยว่า
-เรื่องเป็นแหล่งพักพิงพวกกบฏชาติ ก็ดี
-เรื่องพื้นที่ ๔.๖ ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร ก็ดี
ต่อจากนี้..ไม่มี และไม่เป็นปัญหาที่ต้องกังวลกันอีกต่อไป!
นโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนายกฯ ประยุทธ์จัดลำดับความสำคัญ และเทกแอกชัน "ทันแต้ม" อย่างนี้ พูดได้คำเดียวว่า
พาสชั้นเป็นศาสตราจารย์ "สถาบันนายกรัฐมนตรี" สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่า ผ่านการเมืองระดับไหนๆ มาก่อนหรือไม่
ทำได้งามงอน "เหนือชั้น" นักการเมืองอาชีพด้วยซ้ำ!
ยิ่งเลือกมือต่างประเทศอย่าง "คุณดอน ปรมัตถ์วินัย" นักการทูตสามัญชนแต่สูงศักดิ์มาเป็นรัฐมนตรีช่วยด้วยแล้ว การเมืองระหว่างประเทศ "ระดับโลก"
ก็...โล่งไปเยอะ!
แต่ระดับโลกด้าน "เศรษฐกิจ-การค้า" นายกฯ ประยุทธ์วางไว้กับใคร-ตรงไหน สงสัยยังอุบไต๋ไว้กระมัง เพราะยังไม่เห็นตัว?
ครับ...๑ ปีนี้ ก็ต้องให้กำลังใจทำงานกันไปในภาวะ "การเมืองและเศรษฐกิจโลก" ไม่เอื้ออำนวยให้กับใครทั้งนั้น
คอการเมืองข้างถนน และคนหากินทางเคลื่อนไหว พวกเอ็นเล็ก-เอ็นใหญ่-เอ็นจีโอ พวกไม่ได้ดังใจ และพวกสิทธิมนุษยชน "เพื่อบางคน" ทั้งหลาย อดใจซักพัก คงไม่ถึงลงแดง
รอดูรัฐบาลประยุทธ์เขาแก้ "เงื่อนตาย" ให้ประเทศซัก ๒-๓ เดือนก่อน จะเชือด-จะเฉือนอย่างไร ก็ค่อยว่ากันไปจากนั้น.