PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

หน่วยรักษาพระองค์ ขน รถถัง รถเกราะ เข้ากรุงฯ วันนี้

ตกใจได้ นิดหน่อย!!..แต่ไม่มีอะไร
ทบ. เผย หน่วยรักษาพระองค์ ขน รถถัง รถเกราะ เข้ากรุงฯ วันนี้ ... ยัน ขนกลับที่ตั้ง ..ไม่มีอะไร อย่าตกใจ กลับจากการฝึก ลพบุรี.... บางส่วน กลับไป ปราจีนฯ สระบุรี ชลบุรี และกรุงเทพฯ พหลโยธิน
ทบ.แจ้งว่า วันนี้ (21 กพ.62) เวลา 1100 - 1600น.จะมีการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร พร้อมยุทโธปกรณ์จากการฝึก หน่วยทหารรักษาพระองค์ร่วมเหล่าทัพ (พื้นที่ฝึก จ.ลพบุรี) กลับที่ตั้งปกติของหน่วย
โดยใช้เส้นทางดังนี้
1. ลพบุรี - ปราจีนบุรี
(ถ.พหลโยธิน - หินกอง - ถ.สุวรรณศร - ปราจีนบุรี)
2. ลพบุรี - สระบุรี (ถ.พหลโยธิน)
3. ลพบุรี - กรุงเทพ (ถ.พหลโยธิน)
4. ลพบุรี - ชลบุรี (ถ.พหลโยธิน - ถ.วงแหวนบางปะอิน - ถ.มอเตอร์เวย์)
รถปืนใหญ่ รถบรรทุกกำลังพล รถถัง M60A3, รถถัง OPLOT
รถเกราะ BTR, รถสายพานลำเลียงพล M113, รสพ.T-85 และ รถสะเทินน้ำสะเทินบก AAV ของ นย.

แทบทุกพรรคแจมตัดงบกห.ทำได้

เกิดมีสงครามเพลง เปิดโต้ตอบกันสนุก มาร์คชวนบิ๊กตู่ดีเบต พรรคไทยรักษาชาติย้อนศรใส่กกต.

“อภิสิทธิ์” หนุนตัดงบฯกลาโหม มีเหตุผลปรับลดได้ สมัยเป็นนายกฯหั่นมาแล้ว “เสรีพิศุทธ์” จองกฐินยุบทิ้ง บก.ทหารสูงสุด-ศาลทหาร โยกงบฯกห.โปะการศึกษาสาธารณสุข พท.โต้เสนอทางเลือกไม่ได้คิดร้ายกองทัพ “หมวดเจี๊ยบ” ฉะคนจ้องล้มกระดานเลือกตั้งหนักแผ่นดินตัวจริง โฆษกอนาคตใหม่หยัน ผบ.ทบ.แค่อธิบดีไม่มีอำนาจจุ้นการเมือง “สนธิรัตน์” ป้องกองทัพอย่าดึงเอี่ยวการเมือง “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” บุก บก.ทบ. ต้านเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” จวก “อภิรัชต์” จุดไฟเกลียดชัง “เอกชัย” เปิด “ประเทศกูมี” เจอ ตร.ใช้เพลง “ความฝันอันสูงสุด” กลบเสียง โฆษก กห.แจงได้รับจัดสรรงบฯเพิ่มตามการเติบโตของประเทศ ไม่มีนัยแอบแฝง ทษช.ยื่นแก้ข้อกล่าวหายุบพรรค ยันไม่เจตนาเป็นปฏิปักษ์การปกครองฯ ตลบกลับ กกต.กระทำมิบังควร แอบอ้างขยายพระราชโองการสร้างฐานความผิดใหม่

หลังจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ออกมาระบุให้พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหมไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ล่าสุดมีพรรคการเมืองอื่นแสดงท่าทีเห็นด้วยที่จะปรับลดประมาณของกองทัพไปพัฒนาปรับปรุงคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน เช่น พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเสรีรวมไทย

“มาร์ค” หนุนตัดงบ กห.มีเหตุผลลดได้

เมื่อเวลา 06.40 น.วันที่ 20 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร (ตั๊น) ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำนายสมชาย เวสารัชตระกูล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 11 สายไหม เดินพบปะพี่น้องประชาชนในตลาดวงศกร มีแม่ค้าพ่อค้าประชาชนมอบดอกไม้ ขอกอดและขอถ่ายรูปด้วยคึกคัก จากนั้นนายอภิสิทธิ์ขึ้นรถแห่จากหน้าตลาดวงศกรไปตามถนนสายไหมเคลื่อนไปยังตลาดวัดเกาะ เขตสายไหม

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงของพรรคการเมืองขณะนี้ว่าไม่ควรโจมตีกัน ประเด็นเห็นแตกต่างพูดคุยในเชิงนโยบายได้ ไม่มีปัญหาอะไร เช่น งบกระทรวงกลาโหม เป็นสิทธิแต่ละพรรคจะเสนอแต่อยากให้อยู่ในบรรยากาศที่ว่าตามข้อเท็จจริงและเหตุผล เช่น ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมางบกลาโหมจะมีลดลงอยู่ยุคหนึ่ง คือปีที่ตนเป็นนายกฯและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม แสดงว่าปรับลดได้ เพียงแต่ต้องมีเหตุผลว่าปรับลดด้วยเหตุการณ์และสถานการณ์อะไร ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะปรับลดงบกระทรวงกลาโหม แต่ต้องให้เหตุผล ไม่ควรนำไปสู่ประเด็นความขัดแย้ง


ชวน “บิ๊กตู่” ดีเบตสมกับเป็นผู้นำ ปชต.

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า งบประมาณภาพรวมพรรคประชาธิปัตย์จะนำเสนอช่วงต้นเดือน มี.ค.เพื่อให้เห็นภาพใหญ่การบริหารเศรษฐกิจการเงินการคลัง พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าหาเสียงด้วยนโยบาย เพราะประชาชน อยากให้มั่นใจว่าเลือกตั้งแล้วสงบ เดินหน้าแก้ปัญหาพื้นฐานได้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เลือกตั้งแล้วต้องกลับมาสู่จุดนี้อีก นายกฯเมื่อลงสมัครเป็นนายกฯด้วยควรร่วมวงสนทนาแลกเปลี่ยนกันได้ ถ้าอยากกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยควรได้ผู้นำที่มีลักษณะความเป็นประชาธิปไตย ลักษณะสำคัญคือต้องแลกเปลี่ยน ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ แสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับคนอื่นได้ ถ้าไม่สร้างค่านิยมแบบนี้ สุดท้ายจะได้ผู้นำแบบอำนาจนิยม เมื่อถามว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนเริ่มสับสนว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนหวั่นไหวหรือเสียสมาธิ
วันที่ 24 มี.ค. เป็นโอกาสที่ประชาชนจะนำประเทศชาติหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันให้ได้

จวกเฟซ “ลุงตู่ตูน” แพร่ข้อมูลเท็จ

เมื่อเวลา 11.30 น. นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าขอให้เพจเฟซบุ๊ก “ลุงตู่ตูน” หยุดเผยแพร่ให้ข้อมูลเท็จสร้างความสับสนในสังคม ที่ให้ข้อมูลว่าพรรคประชาธิปัตย์อนุมัติงบประมาณกองทัพและกระทรวงกลาโหมมากที่สุดในรอบ 16 ปี ตั้งแต่ปี 2547-2562 โดยเฉพาะการจัดทำงบกลาโหมปี 2552-2554 ปี 2552 จัดทำโดยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลประชาธิปัตย์จัดทำปี 2553 และ 2554 เมื่อดูตัวเลขงบกลาโหมปี 2553 อยู่ที่ 154,032 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2552 อยู่ที่ 170,157 ล้านบาท ลดงบ ได้ถึง 1.6 หมื่นล้านบาท และงบ ปี 2554 อยู่ที่ 168,502 ล้านบาท ต่ำที่สุดนับจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ขอให้เพจ “ลุงตู่ตูน” ถอนข้อมูลเท็จทางระบบคอมพิวเตอร์และยุติการเผยแพร่ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่ตนแถลงข่าว ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย


“เสรีพิศุทธ์” จ้องยุบ บก.สส.–ศาลทหาร

ที่ตลาดฉัตรชัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่มาจับจ่ายใช้สอย โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ทหารคือปัญหาของบ้านเมือง 4-5 ปีที่ผ่านมา ถ้ามีโอกาสบริหารบ้านเมือง ต้องไม่มีเกณฑ์ทหาร ต้องยุบหน่วยทหารที่ไม่จำเป็น กองบัญชาการทหารสูงสุดต้องยุบ กองทัพน้อยต้องยุบ ศาลทหารไม่มี พรรคเสรีรวมไทยจะใช้นโยบาย 6 หยุดคือ 1.หยุดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำของคนในชาติ 2.หยุดคอร์รัปชัน นำงบ มาพัฒนาประเทศ 3.หยุดปัญหายาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก 4.หยุดเผด็จการ ปฏิรูปทหาร 5.หยุดไฟใต้ สร้างสันติสุขสมานฉันท์ 6.หยุดสงครามสีเสื้อ


โยกงบฯกองทัพโปะการศึกษา–สธ.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า นอกจากนโยบาย 6 หยุดแล้ว พรรคเสรีรวมไทยยังมีนโยบายพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น อาทิ ด้านการศึกษาจะให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ยกเลิกหนี้กู้ยืมกองทุนเพื่อการศึกษา ด้านสาธารณสุข บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลรัฐฟรี ภายใต้โรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน แพทย์ดี พยาบาลเยี่ยม เครื่องมือแพทย์ทันสมัย ด้านการเพิ่มรายได้ ปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างโอกาสกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ประชาชนมากที่สุด และข้าราชการเกษียณอายุ 65 ปี มอบบำนาญประชาชนที่ไม่มีรายได้หลังอายุ 65 ปี คนละ 3,000 บาท แม้ต้องใช้เงินเยอะ แต่โยกย้ายได้ โดยเฉพาะงบฯจากกองทัพ สิ่งเหล่านี้คือความมุ่งมั่นตั้งใจที่อาสาเข้ามาเพื่อชาวไทยทุกคน

พท.โต้ตัดงบฯ กห.ไม่ได้คิดร้ายกองทัพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ผบ.ทบ.บอกให้พรรคที่เสนอตัดงบกระทรวงกลาโหมไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ว่าเราไม่อยากเห็นใครหยิบยกประเด็นที่ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นมา บทเรียนเมื่อปี 19 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การทำให้คนอยู่ในอารมณ์เกลียดชังกันไม่เกิดประโยชน์ ผบ.ทบ.ควรวางตัวเป็นกลางอยู่เหนือการเมือง การเสนอนโยบายของพรรคการเมืองเป็นการเสนอทางเลือก ไม่ใช่คิดร้ายต่อกองทัพ สถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไม่แข็งแรง การเอางบฯไปจัดสรรให้เหมาะกับสถานการณ์ปรับปรุงชีวิตคนทั้งประเทศควรทำได้ และตั้งแต่เปิดนโยบายมาประชาชนตอบรับอย่างดี อยากให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ปัญหา เพราะมั่นใจผลงานที่เคยทำไว้ตอนเป็นรัฐบาลทุกครั้ง ภูมิใจที่ประชาชนเห็นเพื่อไทยเป็นความหวัง อีก 1-2 สัปดาห์จะเปิดนโยบายเพิ่มเติม เรานึกถึงปัญหาและงบฯที่จะนำมาใช้ ไม่ใช่นึกอะไรออกก็พูด แต่พิจารณาโดยละเอียดที่ผ่านมา เราคิดแล้วทำมากว่าที่ได้พูดด้วยซ้ำ

ฉะคนจ้องล้มกระดานหนักแผ่นดิน

ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความไม่พอใจของคนในสังคมต่อท่าทีของ ผบ.ทบ. เรื่องเพลงหนักแผ่นดิน สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่กองทัพเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง การปฏิรูปกองทัพต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดของทหารให้เข้าใจบทบาทของตนเอง จะได้วางบทบาทได้เหมาะสม และเคารพเสียงประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาคัดเลือกนายทหารที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้บังคับหน่วย ควรพิจารณาปูมหลังความคิดทางการเมืองด้วยว่าเป็นอันตรายหรือเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะเป็นบุคคลอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อการยึดอำนาจได้เมื่อสบโอกาส น่าจะช่วยป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารได้ทางหนึ่ง เริ่มมีคนกังวลว่าสถานการณ์ตอนนี้จะบานปลายและถูกใช้เป็นข้ออ้างล้มกระดานเลือกตั้ง ใครคิดเช่นนั้นต้องทบทวนให้ดี ถ้าล้มกระดานสมควรถูกประณามว่าหนักแผ่นดินของจริง

อนค.ซัดเลือกปฏิบัติเร่งคดี “ธนาธร”

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงความคืบหน้าคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายไกลก้อง ไวทยาการ นายทะเบียนพรรคและ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรคถูก คสช.แจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) จัดไลฟ์สดในรายการคืนวันศุกร์ให้ประชาชน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ว่า ตามที่คาดว่าช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งจะมีการเร่งรัดคดี ติดต่อมาที่ทนายความว่าจำเป็นต้องสรุปคดีให้เสร็จภายในวันที่ 22 ก.พ. สะท้อนชัดว่ามีการเร่งรัดมาให้สรุปคดีก่อนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ทั้ง 3 คนจะไปพบอัยการสูงสุดวันที่ 27 ก.พ. เวลา 09.00 น. ต้องลุ้นว่าจะฝากขังหรือไม่ หากฝากขังจะสะท้อนชัดถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตของ คสช. ใช้อำนาจโดยมิชอบผ่านกระบวนการยุติธรรม ปิดปากฝ่ายตรงข้าม

จับขังซ้ำรอย ลต.เขมรโลกไม่ยอมรับ

น.ส.พรรณิการ์กล่าวอีกว่า ถ้าฝากขังยิ่งสะท้อนว่า คสช.มั่นใจในอำนาจบาตรใหญ่ การฝากขังหัวหน้าพรรคการเมืองจะไม่ต่างจากเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ได้รับการยอมรับจากสากล ยิ่งมีข่าวโจมตีออกมาเยอะ ยิ่งเลี้ยงกระแสของพรรคให้อยู่ในสังคมอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าประชาชนจะยิ่งตื่นตัว ไปเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ส่งผลกับความเชื่อมั่นของ คสช. สะท้อนให้เห็นว่าเลือกปฏิบัติดำเนินคดี ทั้งที่เป็นเรื่องปกติที่สังคมวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง สาเหตุที่ถูก คสช.แจ้งความคาดว่าเกิดจากอนาคตใหม่เป็นพรรคแรกที่พูดเรื่อง การปฏิรูปกองทัพ เสนอตัดลดงบประมาณกองทัพ กล้าพูดไปถึงต้นตอปัญหา วิจารณ์บุคลากรในกองทัพที่เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ทุจริตจัดซื้อในกองทัพ เอาทหารออกจากการเมืองกระทบผลประโยชน์มหาศาลของ คสช.

ผบ.ทบ.แค่อธิบดีอย่าจุ้นการเมือง

น.ส.พรรณิการ์ยังกล่าวถึงท่าทีของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ที่ถอนคำสั่งเปิดเพลงหนักแผ่นดินทั้ง 126 สถานีของกองทัพว่าสะท้อนว่าสังคมไทยอยู่ในมิติเก่า ผบ.ทบ.ของประเทศเจริญแล้ว จะไม่มีอำนาจพูดถึงเรื่องการเมือง เพราะมีอำนาจเท่ากับอธิบดีกรมอื่นๆ เท่านั้น แต่ประเทศไทยพิเศษ ผบ.ทบ.มีอำนาจรัฐประหาร การไล่คนไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน สะท้อนว่า ผบ.มีอำนาจพิเศษบางอย่างควบคุมสังคม แต่เมื่อมีการต่อต้านมหาศาลต้องถอย คำสั่งเปิดเพลงต้องถูกระงับ ต่อให้มีปืนไม่มีกระสุนพอยิงคนทั้งประเทศ เมื่อประชาชนไม่พอใจ ผบ.ทบ.ต้องยอมถอย

“ธนาธร” ไม่หวั่นโดนคดีเล่นงาน

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สยามสแควร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พบปะประชาชน มีผู้สนับสนุนมารอรุมล้อมขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก นายธนาธรกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้ กำลังใจจากกรณีอัยการเร่งรัดคดี คสช.แจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่ได้ทำให้เสียขวัญกำลังใจยืนยันพรรคไม่ขอตอบโต้การโจมตีใส่ร้ายป้ายสีทางโซเชียลมีเดีย เรามีจุดยืนชัดเจนจะนำเสนอความจริงต่อประชาชน การใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามคือต้นเหตุทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณในการรับข่าวสาร


“อนุทิน” ขอเป็นตัวเลือกคน กทม.

เช้าวันเดียวกัน ที่สวนลุมพินี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. อาทิ นายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล นายศิลปชัย บุญราย ลงพื้นที่พบปะประชาชน ได้รับความสนใจมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจ นายอนุทินกล่าวว่า การเลือกตั้งใน กทม. แต่ไหนแต่ไรเป็นเรื่องของพรรคใหญ่ ยกเว้นครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยขอเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สร้างความเปลี่ยนแปลง ถ้าชอบแบบเดิมก็เลือกเหมือนเดิม ถ้าเบื่อแล้วพอแล้วเลือกพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องกระแส แต่เชื่อการทำงานหนัก และเราทำงานหนักต่อเนื่องมาตลอด มาถึงตอนนี้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ยิ่งถ้ามาบอกว่าคนกรุงเทพฯเลือกแต่พรรคใหญ่ สเกลของภูมิใจไทยก็ใหญ่พอตัว ล่าสุดส่งผู้สมัครครบ 500 คน ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ เป็นจุดบ่งชี้ความใหญ่และความจริงจังของพรรค ที่สำคัญการเลือกตั้งอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล พรรคทุ่มเต็มที่ ผลจะออกมาอย่างไร ไม่มีเสียดาย

เลื่อน ลต.ผู้นำรับผิดชอบไม่ไหวแน่

นายอนุทินกล่าวถึงกระแสการเลื่อนเลือกตั้งว่า ถ้ายังไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.มั่นใจว่าผู้มีอำนาจอาจรับผิดชอบไม่ไหว จากการลงพื้นที่ภาคใต้ชาวบ้านอยากไปเลือกตั้ง ปัญหาที่พบคือกฎระเบียบจำนวนมาก ขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน อาจเพราะรัฐบาลเกรงใจต่างชาติ หากภูมิใจไทยได้เข้าไปทำงานหลังเลือกตั้ง เรามีความชอบธรรมในการ เจรจาต่อรอง จะเร่งแก้ไขเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสทำงานหารายได้ นอกจากนั้น แนวทางของพรรคภูมิใจไทยมุ่งแก้ปากท้อง ไม่เอาความขัดแย้ง ล้วนถูกใจประชาชนทั้งสิ้น

พปชร.เปิดแคมเปญแบงคอกโอเค

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ร้าน SNP อาคาร FYI ถนนพระราม 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพ แถลงเปิดนโยบายเศรษฐกิจ กทม.ภายใต้แคมเปญ “Bangkok OK” คือ 1.ให้มีซุปเปอร์สปีดไวไฟ 5 จี นำร่อง 9 พื้นที่หลัก กทม.คือบางขุนเทียน สีลม จตุจักร เยาวราช ดอนเมือง เจริญนคร เจริญกรุง ลาดกระบังและสยาม-ราชประสงค์ ก่อนขยายทั่วประเทศ 2.เว็บไซต์แบงคอกโอเคช็อป (Bangkok Ok Shop) นำสินค้าคน กทม.เข้าสู่เว็บไซต์เป็นดิจิทัลมาร์เกต เชื่อมโยงเว็บไซต์ระดับโลก 3.ถนนคนเดิน 50 สาย 50 เขตใน กทม. 4.สนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพให้ขออนุมัติจดทะเบียนในวันเดียว และ 5.ติดปีกธุรกิจสตาร์ตอัพ จัดหากองทุนสนับสนุนไอเดีย

ป้องกองทัพอย่าดึงเอี่ยวการเมือง

จากนั้นนายสนธิรัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงความนิยมพรรคขณะนี้ว่ากระแสดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะ กทม.กระแสดีวันดีคืน ส่วนที่หลายพรรคเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะพรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ ขึ้นเวทีดีเบต พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อยู่ กฎหมายไม่อนุญาตให้มาดีเบตเพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค คนไทยรู้จักท่านดีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพรรคเตรียมข้อมูลอะไรไว้ชี้แจงกรณีถูกร้องยุบพรรคแล้วหรือยัง นายสนธิรัตน์ตอบว่าไม่ต้องเตรียมอะไร แค่เตรียมความจริงข้อเท็จจริง การเมืองมักสร้างประเด็น มั่นใจพรรคไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ส่วนที่หลายพรรคชูนโยบายปฏิรูปกองทัพ กองทัพไม่ได้ปฏิเสธเรื่องปฏิรูป เพียงแต่ที่พูดกันตอนนี้ไปหยิบเรื่องตัดงบฯ ยกเลิกเกณฑ์ทหารมาพูดกันไม่ใช่หัวใจการปฏิรูปที่แท้จริงเป็นการเมืองมากกว่า วันนี้การปฏิรูปกองทัพยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน อยากให้เอาเวลาไปแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองที่จำเป็นเร่งด่วนจะดีกว่า อย่าดึงกองทัพมาโยงเป็นประเด็นการเมือง ที่ระบุจะปฏิรูปกองทัพเพื่อป้องกันรัฐประหารนั้น รัฐประหารทุกครั้งเกิดจากนักการเมือง ไม่ได้เกิดจากกองทัพ ทุกครั้งที่รัฐประหารล้วนเกิดจากความล้มเหลวของฝ่ายการเมืองเอง

พช.แนะเปิดเพลงคืนความสุขแทน

นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ให้พรรคที่หาเสียงตัดงบกระทรวงกลาโหมไปฟังเพลงหนักแผ่นดินว่าแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการเข้าสู่อำนาจของ คสช.เพื่อผลประโยชน์ของกองทัพ การนำเสนอนโยบายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพรรค การเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพจะมาห้าม ไม่ให้ใครวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ การแสดงความคิดเห็นของ ผบ.ทบ.ต้องระมัดระวังว่าจากนี้ไปรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ต้องอยู่เหนือกองทัพ เพลงที่ควรนำมาเปิดตอนนี้คือเพลงคืนความสุข เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าสิ่งที่รัฐบาลทหารพูดและสัญญาไม่เป็นจริง จะตอกย้ำว่าควรคืนความสุขให้ประชาชนโดยเร็วผ่านการเลือกตั้งได้แล้ว อย่าผิดคำพูดบ่อยๆ

ท้า พปชร.ไม่ได้ 126 ส.ส. “บิ๊กตู่” ถอนตัว

เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ท่าน้ำปากเกร็ด นายวิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อชาติเดินพบปะประชาชนที่ลานท่าน้ำปากเกร็ด ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงไปตลาดดวงแก้ว ตลาดประชานิเวศน์ และตลาดท่าน้ำนนท์ โดยนายจตุพรว่าวันสุดท้าย การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ลงทะเบียนกว่า 5 แสนคน เป็นสัญญาณว่าประชาชนต้องการเลือกตั้ง จึงขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.ไม่ถึง 126 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องประกาศอย่างลูกผู้ชายว่าขอถอนตัวออกจากแคนดิเดตนายกฯ จบบทบาททุกอย่างและสื่อสารไปยัง ส.ว. 250 ให้ทำตามเจตนารมณ์ ส.ส.ด้วย

จี้ กกต.ส่งศาล รธน.ยุบ พปชร.

นายจตุพร กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ปกป้อง ผบ.ทบ.ที่ออกมาพูดถึงเพลงหนักแผ่นดินว่า การสนับสนุนเรื่องเพลงหนักแผ่นดิน แสดงว่าเป็นคนรู้ประวัติศาสตร์ว่าเพลงนี้เอาไว้ปลุกปั่นให้คนฆ่ากัน วันนี้ต้องการให้คนไทยฆ่ากันอีกหรือ เพลงที่เหมาะที่สุดในเวลานี้คือเพลงคืนความสุข ที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่ง ส่วนกรณีหลายฝ่ายยื่นเรื่องให้ยุบพรรค พปชร.เคยบอกแล้วว่ารัฐธรรมนูญออกแบบลักลั่น ความเป็นจริง หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรคในพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถลงส.ส. ได้แม้แต่คนเดียว จึงสอดคล้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐและหัวหน้า คสช.ให้คุณให้โทษครบถ้วนและมีสถานะตามกฎหมาย วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสองสถานะผิดกฎหมาย กกต.ต้องทำหน้าที่เป็นไปรษณีย์ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยความรวดเร็วว่าการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทุกอย่างจะจบ

ทษช.ส่งทีมแจงศาลสู้คดียุบพรรค

เมื่อเวลา 15.55 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายสุรชัย ชินชัย และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมทีมกฎหมาย นำเอกสารเข้าชี้เเจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรค บัญชีพยาน และสำเนาเอกสารส่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 ชุด เพื่อแก้ข้อกล่าวหายุบพรรค ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (2) ฐานกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ

นายสุรชัยให้สัมภาษณ์ว่ายื่นแก้ข้อกล่าวหาไป 3 ประเด็น 1.เรายืนยันเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาพิเศษมุ่งหวังให้เป็นอย่างอื่น เชื่อว่าทำได้อย่างบริสุทธิ์ ใจ เป็นไปตามความประสงค์และความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ 2.เรื่องเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก้ข้อกล่าวหาว่าความหมายของคำว่าปฏิปักษ์ ตามพจนานุกรมให้ความหมายว่าเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม น่าจะหมายถึงการนำระบอบคอมมิวนิสต์ มาใช้ปกครองในประเทศไทย หรือการเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 3.ที่ กกต.มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ปฏิบัติไม่ เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ข้ามขั้นตอนการเสนอคำร้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ยื่นบัญชีพยานบุคคลเป็นกรรมการบริหารพรรค 14 คน พยานคนกลางซึ่งเป็นบุคคลภายนอก 5 ปาก

อุบไต๋ไม่ตอบพยานคนสำคัญ

เมื่อถามว่าพยานที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตก่อนหน้านี้หรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่นำเสนอต่อศาลไม่สามารถเปิดเผยได้ เมื่อถามต่อว่า มองว่าการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญควรเสร็จก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า ถ้ามีโอกาสควรให้ ประชาชนได้ลงคะแนนวันที่ 24 มี.ค. ก่อนจะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง ตนเชื่อมั่นในความยุติธรรมที่ศาลจะเมตตาต่อเรา

ยก รธน.–ก.ม.ลูกถือว่าไม่มีการเสนอชื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพยานบุคคลภายนอก 5 ปากที่พรรคไทยรักษาชาตินำเสนอ ไม่มีรายชื่อของบุคคลที่พรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯก่อนหน้านี้ โดยข้อต่อสู้มีใจความว่า “ยืนยันพรรคทำตามประสงค์และความยินยอมของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญและข้อบังคับพรรค ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ทูลกระหม่อมหญิงฯดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกฯ เข้าใจโดยสุจริตว่าการเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ ให้สภาฯพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกฯเป็นการกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ เมื่อมีพระราชโองการ พรรคได้แถลงโดยทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อน้อมรับพระราชโองการด้วยความจงรักภักดี แสดงเจตนารมณ์โดยชัดเจนว่าพรรคฯไม่ติดใจในการเสนอชื่อนายกฯ การกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และมาตรา 89 ประกอบมาตรา 87 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 13 และมาตรา 14 ให้ถือว่าการเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายดังกล่าวให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น จึงไม่เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์”

ตอก กกต.ไม่ควรแอบอ้างราชโองการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำโต้แย้งยังระบุด้วยว่า “คำว่า “ปฏิปักษ์” ให้ความหมายว่า ฝ่ายตรงกันข้าม ข้าศึก ศัตรู แต่การกระทำของผู้ถูกร้อง ได้กระทำการเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นความประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ ที่อาสา และยินยอมให้ผู้ถูกร้องเสนอชื่อ มิใช่เป็นการแอบอ้างโดยพลการ กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่นำพระราชโองการมาขยายความกล่าวหาพรรคฯว่ากระทำผิดตามมาตรา 92 พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง คำขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เป็นการขยายความของพระราชโองการที่เป็นโทษ เป็นเรื่องที่มิบังควร และไม่ถูกต้องอย่างยิ่งอันเป็นการนำ พระราชโองการมาแอบอ้างใช้อย่างมีเจตนาไม่สุจริต เป็นการกล่าวหาโดยสร้างฐานความผิดใหม่ ซึ่งไม่มีฐานกฎหมายใดๆบัญญัติไว้ มติ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไม่เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่มีการสืบสวน ไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พรรคฯมีหลักฐานนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป” ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดพิจารณากรณีดังกล่าวในวันที่ 27 ก.พ.

“จาตุรนต์” มั่นใจมี 24 มี.ค. เลือกตั้ง

เมื่อเวลา 16.40 น. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรค ลงพื้นที่ช่วย ม.ล.ณัฏฐพล เทวกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2 หาเสียง สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ก่อนเดินย่านถนนสีลม มีคนตะโกนเชียร์ “สู้ๆไทยรักษาชาติ” และมอบดอกกุหลาบแดงให้เป็นระยะ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคจะไม่ทำอะไรเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง คิดแทบไม่ออกถึงเหตุผลที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป มั่นใจจะได้ไปกาบัตรวันที่ 24 มี.ค.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่าคดียุบพรรคกรรมการบริหารพรรคจะต่อสู้ตามกระบวนการในศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อมั่นว่าไม่น่าจะมีสถานการณ์แทรกซ้อนใดๆ จึงแจ้งให้ทีมงานรณรงค์หาเสียง เตรียมพร้อมจัดเวทีปราศรัยเริ่มวันที่ 25 ก.พ.ที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท วันที่ 26 ก.พ. อ.เมือง จ.นครปฐม

“เทือก” ขุดปมซัดพี่น้องผีไม่มีศาล

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทำ พิธีเปิดที่ทำการสำนักงานพรรคแม่ฮ่องสอนเขต 1 ก่อนเดินหาเสียงช่วยนายสมจิต สุวรรณบุษย์ ผู้สมัคร ส.ส. โดยกราบสักการะพระธาตุดอยกองมู ก่อนเดินพบปะประชาชนในตัว อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา คนมีเงิน มีทองต้องการมีอำนาจทางการเมือง ลงทุนตั้งพรรคถึงมีการทุจริตกันมาก ที่ด่ากันว่าโคตรโกง

โกงทั้งโคตร “ทักษิณ” ใหญ่โตคับบ้านคับเมืองรวยมากมีอิทธิพลขนาดนั้นเจอพลังของประชาชนเข้าไป ทั้งพี่ทั้งน้องกลายเป็นสัมภเวสีผีไม่มีศาล ตอนร่างรัฐธรรมนูญ 2560 มี 2 พรรคใหญ่บอกไม่เอา แต่แพ้ประชาชน 16 ล้านคนลงประชามติรับนี่คือปาฏิหาริย์ที่สร้างได้ เราไม่ร่วมกับพรรคระบอบทักษิณ แต่เปิดกว้างที่จะร่วมกับคนอื่น หลังเลือกตั้งอาจจะเป็นรัฐบาลผสม 2-3 พรรค

“ไพโรจน์” เข้าหาชาวบ้านไม่ทิ้งกัน

ที่ จ.ลำปาง นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 2 หมายเลข 7 พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่เขต 2 อ.แจ้ห่ม อ.งาว อ.วังเหนือ และ อ.เมืองปาน โดยลงพบประชาชนแบบพอเพียงเน้นเข้าถึงตัวชาวบ้านตามบ้านเรือนโดยตรง นายไพโรจน์กล่าวว่า “ผมลงพื้นที่ไม่คิดหาเสียงแข่งกับพรรคไหนทั้งสิ้น พบปะชาวบ้านแบบเงียบๆ ไม่หวือหวา จากที่ลงพื้นที่พบคนเฒ่าคนแก่ที่เคยรู้จักกันมาก่อนทั้งนั้น เพราะเป็นอดีต ส.ส.ลำปาง ถึง 7 สมัย ทุกคนพบผมต่างดีใจได้เจอหน้ากัน ตอนแรกจะไม่หวนกลับมาเล่นการเมืองอีกแล้ว อายุ 83 ปี จะย่างเข้า 84 ปี สุดท้าย ต้องกลับมาเล่นการเมืองจนได้เพราะเดิมที่พื้นที่เขต 2 เป็นพื้นที่ของนายวาสิต พยัคฆบุตร อดีต ส.ส. ลำปาง 3 สมัย พรรคเพื่อไทย แต่มีปัญหาสุขภาพไม่ขอลง เลยต้องลงแทน การลงพื้นที่ถือเป็นเรื่องปกติ แม้ไม่มีการเลือกตั้งก็ไม่เคยทิ้งชาวบ้าน”

“กอบศักดิ์” ชูดาบย่าโมออกศึก

ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล แกนนำพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรคภาคอีสานและผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เข้ากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถวายผ้าสไบคาดองค์ เครื่องบวงสรวงพร้อมดาบ ก่อนท่องคาถาบูชาคุณย่าโมแล้วชักดาบออกจากฝักยกขึ้นชี้ฟ้า ประกาศก้อง “ย่าโมออกศึก พรรคพลังประชารัฐสู้ๆ” แล้วขึ้นไปกราบแทบเท้า ถวายพานบายศรี แล้วชักดาบอีกครั้ง พร้อมพากันชูมือตะโกนคำว่า สู้ๆ พร้อมใช้มือเก๊กท่าหล่อแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกฯของพรรค แล้วไปพบนักธุรกิจ กลุ่มหอการค้า กลุ่มสภาอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน

บุก บก.ทบ.ต้าน “หนักแผ่นดิน”

ส่วนความเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณเกาะกลางถนนด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน กลุ่มคนอยากเลือกตั้งนำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง พร้อมเพื่อนนักศึกษา 4 คน เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขอให้ยกเลิกเปิดเพลงหนักแผ่นดิน ในสถานีวิทยุเครือข่ายกองทัพบกและเสียงตามสายในหน่วยทหาร โดยไม่สามารถเดินเข้าไปถึงบริเวณหน้า บก.ทบ.ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารได้นำแผงเหล็กมากั้นป้ายกองทัพบกไว้ ห้ามไม่ให้กลุ่มบุคคลเข้าไปบริเวณดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 50 นายเฝ้าสังเกตการณ์ ห้ามไม่ให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไปยังบริเวณด้านหน้า บก.ทบ.

อัดดูถูกเพื่อนร่วมชาติก่อไฟเกลียดชัง

นายพริษฐ์อ่านจดหมายเปิดผนึกถึง ผบ.ทบ.ว่า พล.อ.อภิรัชต์พูดถึงเพลงหนักแผ่นดินและสั่งการให้เปิดเพลงดังกล่าว รู้สึกว่า พล.อ.อภิรัชต์ไม่เข้าใจเนื้อหาเพลงดังกล่าว เพราะเป็นเพลงไม่สร้างสรรค์อาจสร้างความขัดแย้งให้สังคม ที่ผ่านมาสร้างบาดแผลให้สังคมเป็นอันมาก

“เพลงหนักแผ่นดินมีเนื้อหาโจมตีผู้เห็นต่างทางการเมืองว่าเป็นผู้บ่อนทำลายสังคมดูถูกเพื่อนร่วมชาติว่า รับใช้อิทธิพลจากต่างประเทศ ทั้งที่ความจริงการที่มีความคิดเห็นแตกต่างถือเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เนื้อหาของเพลงก่อให้เกิดความเกลียดชังมีเป้าประสงค์เพื่อชี้ชวนให้ผู้เห็นต่างเป็นพวกหนักแผ่นดินบั่นทอนความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมชาติ อาจก่อให้เกิดความรุนแรงได้ ที่ผ่านมาเพลงดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างบรรยากาศให้เกิดความเกลียดชังและความรุนแรงในหลายเหตุการณ์ ขอให้ ผบ.ทบ.ยกเลิกการเปิดเพลงดังกล่าว” นายพริษฐ์กล่าว จากนั้นจึงนำจดหมายเปิดผนึกไปติดที่ป้ายบริเวณเกาะกลางถนนแทน ก่อนนำกระดาษขนาดใหญ่ระบุข้อความ “เพลงหนักแผ่นดิน สร้างความเกลียดชัง ความรุนแรง ความเจ็บปวดในสังคม” วางบนพื้นเกาะกลางถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวนายพริษฐ์พร้อมพวกขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังไปให้ข้อมูลที่ สน.นางเลิ้ง

“เอกชัย” อัด ผบ.ทบ.ฟังเพลงเชยล้าสมัย

จากนั้นเวลา 09.30 น. นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ได้เดินทางมาทำกิจกรรมต่อเนื่อง โดยนายเอกชัยกล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์เคยบอกว่าเป็นกลางทางการเมืองแต่พฤติกรรมหลายอย่างตรงกันข้าม ล่าสุด ให้ฟังเพลงหนักแผ่นดิน ที่เปิดก่อนเกิดเหตุการณ์นองเลือดวันที่ 6 ต.ค.2519 ขณะนั้น พล.อ.อภิรัชต์อายุประมาณ 15-16 ปี น่าจะเคยฟังและรับรู้เหตุการณ์มาก่อนอาจเกิดความรู้สึกบางอย่างหรือประทับใจ จนกระทั่งวันที่ 23 ก.พ.2534 พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผบ.ทหารสูงสุดทำรัฐประหารวันที่ 23 ก.พ. จะครบรอบ 28 ปีพอดี เหตุการณ์วันนั้นนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แม้ 2 เหตุการณ์จะไม่ได้เกี่ยวกับ พล.อ.อภิรัชต์ โดยตรงแต่อาจรู้สึกประทับใจกับเหตุการณ์เหล่านี้ พล.อ.อภิรัชต์ไม่ควรฟังเพลงประเภทนี้เพราะเชยและล้าสมัย

เปิด “ประเทศกูมี” ปะทะ “ความฝันสูงสุด”

จากนั้นนายเอกชัยและนายโชคชัย พร้อมสมาชิก อีก 1 คนที่สวมหน้ากากกันฝุ่นละอองนำตุ๊กตาหมีขนาดใหญ่ และเก้าอี้พับมาตั้งไว้บนฟุตปาทใต้ต้นมะขาม เกาะกลางถนน นำเชือกฟางสีขาวมาพันรอบคอตุ๊กตาหมี แล้วเปิดเพลง “ประเทศกูมี” จากเครื่องขยายเสียงที่นำติดตัวมา จากนั้นสมาชิกในกลุ่มได้เตรียมนำตุ๊กตาหมีขึ้นผูกบนต้นไม้ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาห้ามให้หยุด พร้อมนำกำลังมาล้อมเป็นวงกลม 2 ชั้น ทำให้นายเอกชัยใช้เก้าอี้พับที่เตรียมมาจำลองเหตุการณ์ ทำท่าตีที่นายโชคชัยแทน ประกอบเพลงประเทศกูมี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้ใช้เครื่องขยายเสียงควบคุมฝูงชนแบบติดตามตัวที่เสียงกว่า เปิดเพลงความฝันอันสูงสุดกลบเสียงเพลงประเทศกูมี ก่อนเชิญกลุ่มบุคคลทั้งหมด พร้อมอุปกรณ์ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังของ สน.นางเลิ้ง ขณะเดียวกัน กลุ่มนายอนุรักษ์ ฟอร์ด เจนตวนิชย์ แกนนำเสื้อแดงราชประสงค์ พร้อมสมาชิก 20 คนมาสนับสนุนการต่อต้าน พล.อ.อภิรัชต์ ที่ให้เปิดเพลงหนักแผ่นดินก่อนจะสลายตัวไป หลังจากนายเอกชัยและพวกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว

ตร.แจ้งข้อหาชุมนุมไม่ขออนุญาต

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน.นางเลิ้ง นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน มาเป็นทนายความให้กลุ่มบุคคลที่ทำกิจกรรมหน้าบก.ทบ.โดยพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด 4 รายคือ 1.นายเอกชัย หงส์กังวาน 2.นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ 3.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ 4.นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย ในข้อหาไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานทราบภายใน 24 ชม.ก่อนการชุมนุม มีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ หลังสอบปากคำเสร็จทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะทำเรื่องส่งสำเนาฟ้องศาลต่อไป สำหรับนายเอกชัยและนายโชคชัยถูกแจ้งข้อหาเพิ่มอีกคนละ 1 ข้อหา คือใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และได้เปรียบเทียบปรับ 200 บาท

วิ่งหนี ตร.จากโรงพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอกชัยและนายโชคชัยมาถึง สน.นางเลิ้ง ช่วงที่กำลังควบคุมตัวทั้ง 2 คนลงจากรถควบคุมผู้ต้องหา นายโชคชัยได้อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้า สน.นางเลิ้ง ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง 15 คน เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้ง 4 คน หลังเสร็จสิ้นทั้ง 4 คน ได้ถ่ายรูปร่วมกันที่ด้านหน้าป้าย สน.นางเลิ้ง โดยหลังออกจาก สน.นางเลิ้งแล้วทางกลุ่มเดินทางไปยื่นหนังสือถึงตัวแทนสหภาพยุโรป (EU) เรื่องเรียกร้องคัดค้านการยุบพรรคไทยรักษาชาติ และขอเรียกร้องอียูมาร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม


“บิ๊กป้อม” รู้อยู่แล้วโจมตีกองทัพ

ช่วงสาย ที่ กอ.รมน.สวนรื่นฤดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 5 (กชป.5) ภายหลังการประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงนี้หลายพรรคการเมือง มีนโยบายโจมตีกองทัพจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.ประวิตร ตอบสั้นๆว่า ก็รู้อยู่แล้วยังจะถามอีก เมื่อถามว่ามีเพลงที่อยากแนะนำให้ไปฟังหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า รู้อยู่แล้ว ยังจะถามอีก


โฆษก กห.แจงงบฯเพิ่มตามจีดีพี

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่างบฯกลาโหมพูดกันแค่มุมเดียว ไม่ได้เปรียบเทียบกับภาพรวมของประเทศที่เติบโตขึ้น สัดส่วนที่ได้รับจัดสรรจึงโตขึ้น ไม่นัยอะไรแอบแฝงซ่อนเร้น กองทัพไม่ได้มีงบฯ ลับอะไร การจัดหายุทโธปกรณ์เป็นไปตามแผนพัฒนากองทัพ พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่อยากให้พูดแบบลอยๆ หากนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มีข้อเสนอมาพร้อมฟัง ส่วนแนวคิดยุบ บก.กองทัพไทย และตั้งกรมเสนาธิการร่วมขึ้นมาแทนให้มานั่งคุยกับตน ไม่อยากให้พูดผ่านสื่อ ทุกอย่างเป็นไปได้ต้องศึกษาให้ดี ไม่อยากให้ไปพูดโจมตีแบบไม่ครบถ้วน ยืนยันว่าโปร่งใสไม่มีมุบมิบ งบฯ กลาโหมปี 57 ได้รับ 183,819 ล้านบาท ปี 58 ได้รับ 192,949 ล้านบาท ปี 59 ได้รับ 206,461 ล้านบาท ปี 60 ได้รับ 213,544 ล้านบาท ปี 61 ได้รับ 218,503 ล้านบาท และปี 62 ได้รับ 227,126 ล้านบาท ทั้งนี้ วันที่ 25 ก.พ. จะชี้แจงถึงเรื่องการเกณฑ์ทหาร ส่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ การปฏิรูปกองทัพ อาจมีการชี้แจงเป็นห้วงๆไป

กกต.ฟันซ้ำ 40 ผู้สมัครเปลี่ยนข้อมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต.ได้ตรวจ สอบพบว่า ในจำนวนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 389 รายที่ กกต.ไม่ประกาศรับรองรายชื่อนั้น มี 38 ราย ที่พรรคต้นสังกัดของผู้สมัครเข้าไปแก้ไขระยะเวลาการเข้าเป็นสมาชิกพรรคของผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค หลังปิดรับสมัครเพื่อให้เป็นผู้มีคุณสมบัติ ได้แก่ พรรคเพื่อแผ่นดิน 8 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 2 คน พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน พรรค ครูไทยเพื่อประชาชน 4 คน พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน พรรคประชาชนปฏิรูป 1 คน พรรคประชาธรรมไทย 1 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 11 คน พรรค พลังปวงชนไทย 3 คน พรรคภารดรภาพ 1 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน ขณะเดียวกันในส่วนผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อ 107 คน ในจำนวนนี้มี 2 คน จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่เข้าไปแก้ไขข้อมูล ย้อนหลังในฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง

ส่อเชือดข้อหาหนักพ่วงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวอย่างที่มีการแก้ไข ที่สำนักงาน กกต.ตรวจพบ เช่น ผู้สมัครรายหนึ่งของ พรรคพลังปวงชนไทย มีชื่อในระบบฐานข้อมูลพรรคเดิมเป็นสมาชิกพรรควันที่ 22-01-2019 พบแก้ไข เป็น 22-11-2018 และพบวันที่ทำเหตุการณ์แก้ไขข้อมูลในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง 13 ก.พ.2019 เวลา 18:47:35 นอกจากนี้ ยังพบว่าอาจมีการฮั้วกันของพรรคการเมือง เข้าไปแก้ไขการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิม และไปสังกัดพรรคใหม่เพื่อให้ไม่เป็นสมาชิกซ้ำซ้อน และมีระยะเวลาสังกัดพรรคใหม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด สำนักงานได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ ผอ.การเลือกตั้งประจำเขตใช้ชี้แจงสู้คดีต่อศาลฎีกา ขณะเดียวกันกำลังพิจารณาจะเอาผิดกับผู้สมัครหรือพรรคการเมืองในความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม และนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี มีโทษจำคุกด้วย

เผยยอดขอใช้สิทธิล่วงหน้า 2.7 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.-19 ก.พ. มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง ในกรุงเทพฯและ 76 จังหวัด จำนวน 2,632,935 คน ส่วนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำนวน 119,184 คน รวมผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งสิ้น 2,752,119 คน

คนไทยในสหรัฐฯลงทะเบียนทะลุเป้า

นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับสำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา หรือวีโอเอ ภาคภาษาไทย หลังครบกำหนดปิดรับการลงทะเบียนเลือกตั้งชาวไทยในสหรัฐฯ วันที่ 19 ก.พ.ว่ายอดผู้มาลงทะเบียนคาดทะลุ 15,000 คน เพราะช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 19 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทยนับได้ถึง 14,554 คน ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจในความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของชาวไทยในสหรัฐฯ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นช่วงสำคัญที่ผู้ลงทะเบียนจะได้รับเอกสารการลงคะแนนทางไปรษณีย์ ผู้ใช้สิทธิจำเป็นต้องส่งกลับไปยังสถานทูตและสถานกงสุลให้ทันก่อนวันที่ 15 มี.ค. จะมีซองสำหรับส่งกลับให้ อย่าไปใช้ซองอื่น และหลังได้รับเอกสาร เจ้าหน้าที่สถานทูตและสถานกงสุลทั้ง 4 แห่งในสหรัฐฯจะเป็นผู้รวบรวม คัดแยกเอกสารส่งกลับประเทศไทยให้ทันเวลาที่กำหนด มีการระดมเจ้าหน้าที่เตรียมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

บช.น.สั่งเช็กกลุ่มผู้มีอิทธิพล

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เผยถึงความพร้อมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจัดการเลือกตั้งว่า บช.น.มั่นใจดูแลพื้นที่ กทม.ให้เรียบร้อย สั่งการทุกพื้นที่ทำข้อมูลของทุกกลุ่มที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเลือกตั้ง หรือเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงช่วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่มาจากอาการเมาสุรา คึกคะนองและปัญหาสุขภาพจิต ไม่ได้เจาะจงพรรคใดหรือเบอร์ใด


“บิ๊กตู่”บินตรวจงานสมุย-กระบี่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 21 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์มีภารกิจลงพื้นที่ตรวจราชการจ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ โดยจะไปยังท่าเทียบเรือ เกาะสมุย อ.เกาะสมุย ทำพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลสู่เกาะสมุย เป็นสักขีพยานมอบหนังสือโครงการป่าชุมชน บ้านธารน้ำร้อน และสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินส.ป.ก. 4-01 เยี่ยมชมสวนลางสาด ช่วงบ่ายไป จ.กระบี่ มอบธงสัญลักษณ์การจัดงานการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, 2020 ให้ จ.นครราชสีมา เป็นสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมอบหนังสือโครงการป่าชุมชนบ้านคีรีวง ชมนิทรรศการภาพถ่าย Thailand Biennale, Krabi 2018 พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน และประติมากรรมปูดำ

กลุ่มเกษตรกรยื่นค้าน พ.ร.บ.ข้าว

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายมงคล ด้วงเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก และ น.ส.ทัศนีย์ วีระกันต์ สมาชิกเครือข่ายฯ ยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่าน พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ ที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าว ขอให้ชะลอพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าว โดย น.ส. ทัศนีย์กล่าวว่า เป็นห่วงในมาตรา 27/2 ที่ส่งเสริมและสนับสนุนเฉพาะพันธุ์ข้าวที่ประกาศรับรองพันธุ์โดยกรมการข้าวเท่านั้น ทั้งที่พันธุ์ข้าวของชาวนารายย่อยควรได้รับการสนับสนุนส่งเสริมแต่ไม่ กำหนดไว้ ควรฟังความเห็นประชาชน ควรให้เป็นหน้าที่รัฐสภาหลังการเลือกตั้ง ไม่ควรออกกฎหมายที่เป็นน้ำตาของชาวนา

สนช.เลื่อนวาระร้อนถก 26 ก.พ.

ต่อมาเวลา 14.30 น.หลังจากที่ประชุม สนช. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผังเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามวาระจะต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าวในวาระ 2-3 เป็น ลำดับต่อไป แต่ปรากฏว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.ประธานที่ประชุม ได้สั่งปิดการประชุม สนช.ทันที ขณะที่ พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ข้าว แถลงว่า ที่ประชุม สนช.เลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าวออกไปเป็นวันที่ 26 ก.พ. เพราะจะนำข้อเรียกร้องและคัดค้านจากฝ่ายต่างๆมาทบทวน เช่น การซื้อขายข้าวตามวิถีชุมชน ที่ประธาน สนช.ขอให้ทบทวนเนื้อหาตามที่เครือข่ายชาวนาท้วงติง ให้รอบคอบเป็นประโยชน์ต่อชาวนาทุกกลุ่ม

ศาลไต่สวนคดีสั่งวอยซ์จอดำ

เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนในคดีที่บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. ต่อศาลปกครองกลางว่าเจตนาจงใจกลั่นแกล้งสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีวอยซ์ทีวี 15 วัน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และสั่งเพิกถอนหนังสือข้อตกลงระหว่างสำนักงาน กสทช.กับวอยซ์ทีวีวันที่ 4 มิ.ย.2557 หรือประกาศให้หนังสือข้อตกลงดังกล่าวไม่มีผลบังคับผูกพันทางกฎหมาย หลังใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงองค์คณะตุลาการยุติการไต่สวนและให้โอกาสคู่กรณีส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมภายในวันที่ 21 ก.พ.

ในมุมผู้ถูกเลือกแล้ว

ยกระดับเกมยั่ว กระตุกหนวดกันรายวัน

ตามฉากล่าสุดที่นักกิจกรรมขาประจำฝ่ายต้านทหาร คสช. บุกถึงหน้าถ้ำเสือ กองบัญชาการกองทัพบก พยายามจัดฉากแขวนคอหมีใต้ต้นมะขาม เปิดเพลง “ประเทศกูมี” ดังลั่น

แข่งกันกับเสียงตามสายใน บก.ทบ.ที่เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ปลุกใจ

สุดท้ายก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเพลง “ความฝันอันสูงสุด” เพื่อกลบเสียงเพลงประเทศกูมี ก่อนคุมตัวนักเคลื่อนไหวทั้งหมดขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังนำตัวไป สน.นางเลิ้ง

ยังเป็นแค่ “อีเวนต์” ลองเชิง แหย่กันตามฟอร์มขาประจำ

แต่ที่มาแรงเลยก็คือ ปรากฏการณ์แบบที่ “เว็บไซต์ผี” โพสต์ข่าวเต้า

“บิ๊กแดงแจงปมบ้านหรู 3 ไร่ ทำงานแลกมา ลั่นเงินเดือนทหารมันเยอะ พวกหนักแผ่นดินไม่ควรรู้”

แค่อ่านผ่านตายังรู้สึกโดยสัญชาตญาณทันทีเลยว่า “หมั่นไส้”

ในภาพประกอบข่าวจงใจใส่ข้อมูลเท็จ ให้ร้าย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก มีบ้านหรู 3 ไร่ มูลค่า 240 ล้านบาท โดยอ้างนักข่าวสายทหารที่ชื่อว่า “กำจาย ศรีแผ่นดิน” เป็นผู้ขุดข้อมูล แต่นักข่าวสายทหารตัวจริงเสียงจริงยืนยันว่าไม่มีนักข่าวชื่อนี้อยู่ในสารบบ

พบว่าเป็นเว็บเจ้าเก่า ปล่อยข่าวปลอมเรียกยอดไลค์ แต่ก็ยังมี “ขามั่ว” ติดตามเป็นขาประจำ

คอมเมนต์ กดแชร์ แห่ด่ากันสนั่นโซเชียลมีเดีย

อารมณ์แห่กระแสมาก่อนเหตุผล สะท้อนคุณภาพการเลือกตั้งในยุค “เกรียนออนไลน์” ทรงอิทธิพล

มันคือปัจจัยที่แปรผันตรง หากจะเกิดเหตุ “ล้มกระดาน”

ฝ่ายคุมเกมคงไม่ปล่อยให้จังหวะ “การเปลี่ยนผ่าน” สำคัญของประเทศต้องเสี่ยง

ในสถานการณ์ที่นักเลือกตั้งอาชีพเพิ่งตั้งสติได้ เผลอแห่ตามเกมยั่วท็อปบูต จนถึงจุดที่ “จอมแสบ” อย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต้องโผล่หน้าออกมากระตุกแกมแหย่

อย่าไปยั่ว เดี๋ยวทหารมี “น้ำโห”

นักการเมืองจะหาเสียงกันฟรี แล้วจะหาว่าไม่เตือน

และเหมือนจะใจตรงกันโดยมิได้นัดหมาย อาการแบบที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเชื่อมั่น จะไม่มีปัจจัยอะไรที่จะ ทำให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองสูงมาก และรอคอยการเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ เพื่อนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า

ลีลาสไตล์จอมห้าวหาญอย่าง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย ก็ทักดักทาง ถ้ายังไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้

มั่นใจว่าผู้มีอำนาจอาจรับผิดชอบไม่ไหว

แม้แต่มือจุดชนวนกระแส “หนักแผ่นดิน” อย่าง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ดูจากกระแสรวมถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า สะท้อนว่าประชาชนฝากความหวังไว้ที่การเลือกตั้ง

ขาใหญ่เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ต้องหันกลับมารวมพลังกันประคอง “ลู่วิ่ง”

ตามสิ่งบอกเหตุ เกมยังพลิกไปตามสถานการณ์

“เลือกตั้ง” ไม่มีจุด “สิ้นสุดทางเลื่อน”

โดยเงื่อนไข “ผู้เล่น” ที่อดอยากปากแห้งมาหลายปี จำเป็นต้องพึ่งสนามเลือกตั้งในการดำรงชีพทางการเมือง เดือดร้อนกว่าแน่ ถ้าหากคิวเลือกตั้งลากออกไป

ในอารมณ์ที่พวกยั่ว “ล้มกระดาน” ไม่ใช่คนที่ลงแข่งซะเมื่อไหร่

อะไรไม่เท่ากับ “เจ้าของพรรค” ชักเกิดอาการกล้าๆกลัวๆ

ไม่ควักจ่ายน้ำเลี้ยง เพราะไม่อยากเสี่ยง ไม่ชัวร์กับกระแสล้มกระดาน เลื่อนคิวกาบัตร แหยงหมดตูดฟรีๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากไม่มีปมหนักแผ่นดิน กระแสยั่วล้มกระดาน

น่าจะเป็นอะไรที่ถูกหยิบยกมาโฟกัส ตามประโยคชัดๆล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี

พูดกันชัดเป็นนัย ต่างประเทศเขายอมรับในสถานะผู้นำเปลี่ยนผ่าน

“แต่เขามองว่า ผมมาอย่างนี้เขาก็มีความรู้สึกว่า ผมมาอีกทางตามรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ผ่านการเลือกตั้งตามกฎหมาย ผมก็มาตามนั้น ถ้ามันได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือจบแค่นั้น”

แปลไทยเป็นไทย จะลากต่อเลยก็ได้ แต่เมื่อมีโอกาสตีตั๋วต่อแบบธรรมชาติจะสวยงามกว่า

จังหวะที่เลือกเล่นได้ของ “ผู้ถูกเลือก” แล้ว.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ชาวอยุธยาแห่ฟังปราศรัย พท.ล้นสนาม ‘อดิศร’ จวกผบ.ทบ. ไล่คนอื่นฟัง ‘หนักแผ่นดิน’ สร้างความอาฆาต

ชาวอยุธยาแห่ฟังปราศรัย พท.ล้นสนาม ‘อดิศร’ จวกผบ.ทบ. ไล่คนอื่นฟัง ‘หนักแผ่นดิน’ สร้างความอาฆาต



เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ใช้พื้นที่หน้าสนามกอล์ฟราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคเพื่อไทย พบมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมฟังการปราศรัย โดยเฉพาะเก้าอี้ที่มีการเตรียมไว้มากถึง 6,000 ที่นั่ง ต่อมาพบว่าเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้มีประชาชนนั่งเต็มพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากมายืนรับฟังเวทีปราศรัย คาดเกือบ 10,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มจากช่วงเย็นมีการปราศรัยเพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ครบทั้ง 4 เขต นำโดย นายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งลงสมัครในเขต 3 อยุธยา จากนั้นเป็นการปราศรัย เช่น นายนพดล ปัทมะ, นายโภคิน พลกุล, นายปลอดประสบ สุรัสสวดี, นายชัชชาติ สิทธิพันธ์, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง โดยการปราศรัยส่วนใหญ่พาดพิงถึงรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากการทำรัฐประหาร และเข้ามาบริหารประเทศชาติ จนเกิดคนยากจนจำนวนมาก และประเทศชาติสูญเสียโอกาสมากมาย รวมถึงความพยายามที่รัฐบาลชุดนี้จะสืบทอดอำนาจต่อไป



จากนั้น นายอดิศร เพียงเกษ อดีตส.ส.ขอนแก่นพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นปราศรัยและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากมาก โดยกลาวตอนหนึ่งว่า “ทหารที่จะสืบทอดอำนาจเป็นทหารหลงยุค มัวเมาในอำนาจจากปากกระบอกปืน ส่วนผบ.ทบ.เป็นทหารที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม การให้คนอื่นฟัง เพลงหนักแผ่นดินแบบนี้ มีแต่จะสร้างความอาฆาตต่อกัน และบ้านนี้ตั้งแต่รุ่นพ่อจนมาถึงรุ่นลูกก็นิยมการทำรัฐประหาร โดยในการเลือกตั้งที่ 24 มีนาคมนี้ ขอให้ประชาชน ใช้ปากกาในคูหาเลือกตั้ง กากบาทเลือกผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทั้งประเทศ เพื่อฆ่าอำนาจเผด็จการ และเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้ง ให้กลายเป็นหีบศพเพื่อมอบแก่รัฐบาลชุดนี้”


กระทั่งเวลา 20.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นปราศรัยและได้รับเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม โดยได้ปราศรัยเน้นว่า “พรรคเพื่อไทยจะแจกบัตรคนรวย แก่ประชาชนทุกคนทั่วประเทศ คือทำให้ทุกคนร่ำรวย ด้วยการประกอบอาชีพ การค้าขาย เป็นความร่ำรวยถาวร ยั่งยืน และยาวนาน ร่ำรวยจากการทำมาหากิน ไม่ใช่มารอของแจกเหมือนเช่นในปัจจุบันนี้ และเมื่อรากหญ้าร่ำรวย การค้าชายในชุมชน ในจังหวัดและระดับประเทศ จะเกิดการผลิต การค้า การลงทุน มีเงินสะพัดหมุนเวียนทั้งระแบบ แต่หากรากหญ้ายากจน ทุกอย่างจบสิ้น”

‘ชวน’ นำทัพปราศรัยอยุธยา ชู ‘ปชป.’ เป็นรบ.ไม่เคยถูกทหารยึดอำนาจ เพราะไม่โกง

‘ชวน’ นำทัพปราศรัยอยุธยา ชู ‘ปชป.’ เป็นรบ.ไม่เคยถูกทหารยึดอำนาจ เพราะไม่โกง



เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเวทีปราศรัยเพื่อชี้แจงนโยบายพรรค ซึ่งเวทีปราศรัยครั้งนี้มีบุคคลสำคัญและแกนนำพรรคร่วมขึ้นปราศรัย โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.

โดยนายชวน กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเองเคยมาช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง มีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันหลายคน มาทุกครั้งจะได้พบได้เจอเพื่อน แต่มาครั้งนี้ไม่ได้เจอเพื่อนหลายคนเพราะเสียชีวิตไปแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ตนอยากฝากพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าไปสนับสนุนนักการเมืองที่ซื้อเสียง รวมถึงหาก ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์คนไหนที่ไปใช้เงินซื้อเสียงก้อย่าไปเลือก เพราะนั้นเท่ากับการสนับสนุนให้เข้าไปคอรัปชั่น เพราะเขาลงทุนมาก เป็นไปไม่ได้ที่นักการเมืองจะลงทุนมากมายเพื่อหวังจะเข้าไปรับเงินเดือนหนึ่งแสนบาทต่อเดือนเพราะการคอรัปชั่นจะมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมือง


“หลายคนไม่ชอบการยึดอำนาจของทหาร ในการยึดอำนาจแต่ละครั้งผู้ที่ยึดอำนาจจะบอกเหตุผลหนึ่งของการยึดอำนาจ คือนักการเมืองรัฐบาลคอรัปชั่น พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่เป็นรัฐบาลแล้วไม่มีการยึดอำนาจ เพราะประชาธิปัตย์ไมไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดการยึดอำนาจ ประชาธิปัตย์ไม่โกง” นายชวน กล่าวและว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ทุกอย่างต้องทำได้จริง ตนได้กำชับผู้สมัครส.ส.ทุกคนอย่าให้สัญญาในสิ่งที่ทำไม่ได้ ดังนั้น อย่าโกหกประชาชน หากโกหกประชาชนก็อย่าเลือก และเมื่อมาหาเสียงครั้งหน้า ประชาชนสามารถทวงถามได้ว่าทำไมทำไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่กับความจริง ถึงอยู่มาได้ยาวนานขนาดนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสที่จะตั้งรัฐบาล ซึ่งตนเองไม่เคยประมาทคู่แข่งและบอกคนในพรรคทุกคนด้วย

‘สุริยะ’ โวกวาดส.ส.อีสาน 60 ที่นั่ง อ้อนเลือก ‘พปชร.’ ชี้ นายกคืนปชต.ให้ปชช.แล้ว

‘สุริยะ’ โวกวาดส.ส.อีสาน 60 ที่นั่ง อ้อนเลือก ‘พปชร.’ ชี้ นายกคืนปชต.ให้ปชช.แล้ว



เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีศรีพิพัฒน์อินเตอร์ อ.กุดชุม จ.ยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยโสธรเพื่อพบปะสมาชิกพรรคและขึ้นเวทีปราศรัยช่วย ดร.พิกิฏ ศรีชนะ ผู้สมัครส.ส.ยโสธร เขต 3 โดยมี ดร.สนุก สิงห์มาตร เขต 1 นายรณฤทธิชัย คานเขต เขต 2 และประชาชนกว่า 6000 คนเข้าร่วมฟังผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายสุริยะเดินทางมาถึงได้เดินทักทายสวัสดีพี่น้องประชาชน โดยมีประชาชนนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวให้และนำพ่วงมาลัยที่ทำจากดอกจาน (ทองกวาว) มาคล้องคอให้ ก่อนขึ้นปราศรัย

นายสุริยะ กล่าวว่า พี่น้องชาวจังหวัดยโสธรที่เคารพรักทุกท่าน เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตนได้มาที่ยโสธรกับท่านทักษัณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สมัยนั้นมาในนามพรรคไทยรักไทย ปัญหาเมื่อ 20 ปีก่อนนั้นเมื่อมาพบปะกับชาวบ้านที่นี้ปัญหาหลักก็คือ ทุกคนมีหนี้สินมาก วันนี้ 20 ปีผ่านไปแล้ว ตนได้รับข้อมูลจากผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร ว่าปัญหาของพี่น้องเป็นเป็นหาเกี่ยวกับหนี้สินเช่นเดิม ตนมีวิธีที่แก้หนี้ให้ โดยท่านต้องทราบว่าที่ผ่านมานั้น การที่ท่านมีหนี้สินจำนวนมากมายนั้นเกิดจากที่รัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองพรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคไทยรักไทย ต่อมาก็เป็นเพื่อไทย ตนเชื่อว่าพี่น้องคงเลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นตัวแทนของท่าน แต่การเมืองสองขั้วนั้น ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันไป ไม่มีเวลาที่จะมาแก้ไขปัญหาความยากจนให้พี่น้องได้ ตนเองได้เลิกเล่นการเมืองไปแล้วเกือบ 20 ปี ต้องกลับมาทำการเมืองใหม่เพราะอยากเขามามีส่วนช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเข้ามาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับพี่น้อง
นายสุริยะ กล่าวว่า สิ่งแรกที่ตนอยากเสนอให้พี่น้องหากพี่น้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเข้ามา คือ จะเสนอให้มีการช่วยเหลือในการแก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน ขอถามพี่น้องว่าใครเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านบ้าง (เสียงตอบกลับคือ เป็น) ดังนั้นเกือบทุกคนเป็นหนี้ ท่านอยากให้พักหนี้และพักดอกเบี้ยบ้างไหม เอาสัก 3 ปีพอไหม (เสียงตอบกลับคือ พอ) ดังนั้น หากพลังพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้งเข้าไปสิ่งแรกที่ทำคือการพักหนี้ให้ 3 ปี และเชื่อว่าทีมงานเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถเข้าไปทำให้ประเทศชาติมีรายได้เพิ่มเติมขึ้น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น หนี้ที่พักไว้จะเสนอให้ยกเลิกไว้เลยดีไหมครับ ยกเลิกก็ยังไม่พอเพราะท่านหมดหนี้แต่ก็ไม่มีเงินใหม่เข้ามา ตนจะเสนอให้มีเงินกองทุนประชารัฐ ซึ่งกองทุนนี้พี่น้องสามารถกู้มาทำธุรกิจและนำมาใช้ดูแลลูกหลานของตัวเองเอาไหม

“ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าทำแบบนี้ชาวบ้านทั้งหลายจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนั้น ผมถามพี่น้องที่ไปทำงานในกรุงเทพฯหรือภาคตะวันออกไหม (เสียงตอบกลับว่าเยอะ) ท่านคิดเขาไหม ผมเองมีลูกไปเรียนที่ต่างประเทศยังได้โทรศัพท์คุยกันทุกวัน แต่ได้เพียงคุยไม่สามารถจับต้องกันได้ ผมยังคิดถึงเขาเลย ดังนั้น พี่น้องต้องคิดถึงญาติพี่น้องที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ผมเสนอว่าจะทำให้พี่น้องของท่านกลับมาอยู่ที่จังหวัดยโสธร โดยจะมีการสร้างโรงงานขึ้นที่ยโสธร ตอนนี้พี่น้องท่านทำงานที่กรุงเทพฯ มีรายได้ที่เยอะก็จริง แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่า ค่าเช่าบ้าน อาหาร แต่ถ้ามีโรงงานเกิดขึ้นที่ยโสธร พี่น้องของท่านอาจมีรายได้น้อยลงแต่ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ได้กินอาหารที่บ้าน สิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องจังหวัดยโสธรจะต้องเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 คนเข้ามาให้ครบทั้ง 3 เขต เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐมีเสียงข้างมากในสภา เพื่อสามารถเป็นรัฐบาลกำหนดนโยบายที่จะมาแก้ปัญหาความยากจนของพี่น้องชาวยโสธรได้” นายสุริยะ กล่าว

จากนั้นนายสุริยะได้เดินทางลงมาจากเวทีเพื่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว นายสุริยะ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่มาตลอด วันนี้มาที่ จ.ยโสธร ขนาดมาถึงเมื่อค่ำแล้ว ชาวบ้านหิวข้าวแต่เขาก็ยังรอฟังนโยบายจากพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น กระแสแบบนี้แสดงให้เห็นชัดว่าทางภาคอีสานนั้นมีคะแนนเสียงตอบรับที่ดี ตนจึงมั่นว่าทางอีสานพรรคพลังประชารัฐจะมี ส.ส.ในแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ รวมกันไม่ต่ำกว่า 60 ที่นั่ง ช่วงนี้ตนจะลงพื้นที่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นจ.นครราชสีมา ชัยภูมิ อุดรธานี และอุบลราชธานีที่เป็นเมืองสำคัญของภาคอีสาน

เมื่อถามว่าคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐมากจากนโยบาลของรัฐบาลในขณะนี้ นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคการอื่นจะโยงเกี่ยวกับเรื่องสืบทอดอำนาจ ความจริงตนคิดว่าตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้คืนระบอบประชาธิปไตยให้กับประชาชนแล้ว ดังนั้น พรรคแต่ละพรรคควรเสนอนโยบายเพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน แทนที่จะไปพูดถึงอดีตแล้วสร้างความขัดแย้ง ประชาชนเขาเบื่อมากเรื่องแบบนี้ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐจะเขาไปร่วมในเรื่องสร้างความขัดแย้ง แต่พรรคต้องการพาประชาชนออกจากความขัดแย้งเพื่อไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อถามอีกว่ามีความเป็นห่วงหรือไม่ที่มีหลายฝ่ายไปยื่นหนังสื่อต่อ กกต.ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐทำทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย มีนักกฎหมายคอยดูแล สิ่งใดที่ขัดต่อหลักกฎหมายจะไม่ทำแน่นอน ส่วนพรรคใดก็แล้วแต่ที่ไปยื่นหนังสื่อให้ กกต.ยุบพรรคพลังประชารัฐ ตนเชื่อมั่นว่าทาง กกต.จะให้ความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายสุริยะขึ้นเวทีปราศรัยมีประชาชนจำนวนหนึ่งต่างทยอยลุกจากที่นั่งเดินออกไปนอกงานเพื่อกลับบ้าน ต่อมาเมื่อนายสุริยะพูดปราศรัยเสร็จโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีประชาชนที่มานั่งฟังนโยบายได้ลุกเดินทางกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์การเมืองไทย กับบทพิสูจน์ความตงฉินของกกต. : โดย รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

ปรากฏการณ์การเมืองไทย กับบทพิสูจน์ความตงฉินของกกต. : โดย รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร




ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบ้านเราทุกครั้งความสนใจของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกเหนือจากจะเพ่งไปที่ตัวผู้สมัคร และนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ แล้ว กกต.หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งก็เป็นหนึ่งในกระแสของความสนใจเช่นเดียวกัน

กกต.หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่กำเนิดมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปีพุทธศักราช 2540 หรือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งสาระสำคัญของการก่อเกิดองค์กรดังกล่าวคงจะเป็นผลมาจากวิกฤตทางการเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 อันนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง

รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหรือฉบับการปฏิรูปการเมืองเนื้อหาสาระที่สำคัญได้มีการปรับปรุงแก้ไขออกแบบโครงสร้างการเมืองให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มกลไกการตรวจสอบอำนาจรัฐและนักการเมือง ที่น่าสนใจยิ่งรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน

มิติของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ส่งผลต่อการเมืองไทยมาจนถึงปัจจุบันคือการบัญญัติให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นองค์กรอิสระทำหน้าที่ควบคุมและจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมแทนกระทรวงมหาดไทยที่มีบทบาทในการจัดการมาอย่างยาวนาน ซึ่งคณะกรรมการชุดแรกได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2540

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่มีคณะกรรมการการเลือกตั้งจากชุดแรกถึงปัจจุบันจะพบว่าคณะกรรมการแต่ละชุดจะมีกระแสที่สังคมต้องจับตาในลักษณะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล รูปแบบ ลีลาหรือสีสันในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่เป็นไปตามกฎหมายหรือการใช้เทคนิคในการก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบจนส่งผลให้มีการฟ้องร้องจนถึงขั้นเข้าห้องขังมาแล้วก็มี

คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบันประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องแสดงออกให้เห็นถึงความรู้ ความสามารถ และการแบกรับกับปรากฏการณ์ทางการเมืองไทยที่กำลังอยู่ในห้วงเวลาที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ

ตลอดระยะเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้รับความสนใจจากสังคมและสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่หนึ่งในปรากฏการณ์ที่ กกต.จะต้องพิสูจน์ในความรู้ความสามารถและเข้าสู่การจับตาของสังคมไทยและต่างชาติซึ่งถือได้ว่าเป็นโจทย์หรือการบ้านข้อแรกที่มีความสำคัญและส่งผลต่อการเมืองคงจะหนีไม่พ้นปรากฏการณ์อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 และจากปรากฏการณ์ดังกล่าว กกต.ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ในการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติที่เสนอชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรีขัดต่อ พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

จากการบ้านหรือโจทย์หินข้อแรกผ่านไปได้ไม่นาน กาลเวลาล่วงมาถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 โจทย์หรือการบ้านข้อที่สองที่ถูกโยนเข้าสู่ กกต.ก็ตามมาติดๆ เมื่อเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ยื่นคำร้องเรื่องขอให้พิจารณาและวินิจฉัยว่าการกระทำเข้าข่ายกระทำความผิดต่อกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ และให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ

สาระสำคัญของการยื่นเรื่องเพื่อให้พิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ ผู้ยื่นได้ชี้ให้เห็นถึงการทำผิดกฎหมายของพรรคดังกล่าวทั้งก่อนและหลังพระราชกฤษฎีกาจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 เป็นการทั่วไป โดยมีรายละเอียด 4 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ความเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอจัดตั้งพรรคการเมืองในลักษณะที่ผิดกฎหมาย 2.กลุ่มบุคคลเข้าครอบงำการจัดตั้งพรรค พปชร.ได้กระทำผิดกฎหมายโดยเรียกหรือรับผลประโยชน์อื่นใดเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.

3.กลุ่มบุคคลเข้าครอบงำการจัดตั้งพรรค พปชร.ได้กระทำผิดกฎหมายโดยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และ 4.พรรค พปชร.กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในตอนท้ายของคำร้องได้ระบุไว้ว่า หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือกระทำความผิดต่อกฎหมายขอให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรค พปชร. และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. รวมทั้งบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย (มติชน 16 กุมภาพันธ์ 2562 หน้า 2)


การยื่นคำร้องเพื่อให้พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำของพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ หากไปศึกษาในรายละเอียดของสาระสำคัญแห่งมูลเหตุ และเปรียบเทียบกับการกระทำของคณะกรรมการบริหารของพรรคไทยรักษาชาติที่ กกต.ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปก่อนหน้านี้นั้น เชื่อว่าคงจะเป็นที่สนใจและติดตามจากสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะความเท่าเทียมและบรรทัดฐานทางกฎหมาย

อย่างไรก็ตามถ้าจะมองด้วยความเป็นธรรมก็คงจะต้องให้ความเห็นใจ กกต.เช่นเดียวกัน เพราะประเด็นหรือสาระที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งตลอดจนเรื่องการร้องเรียนคงจะมีหลากหลาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กกต.ก็จำเป็นที่จะต้องเร่งหรือแสดงให้สังคมเชื่อมั่นในเชิงประจักษ์ว่าองค์กรนี้พร้อมจะเป็นที่พึ่งและความหวังของคนไทยที่จะนำมาซึ่งความโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ด้านพรรคพลังประชารัฐในกรณีเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบในการเลือกตั้งนั้น นายวิเชียร ชวลิต ในฐานะนายทะเบียนสมาชิกพรรค กล่าวตอนหนึ่งว่า “ที่ประชุมพรรคได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส. ผู้ช่วยหาเสียง และสมาชิกทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยพรรคจะจัดทำประกาศเพื่อแจ้งเตือนผู้เกี่ยวข้องและจะติดประกาศไว้ที่พรรคเพื่อให้สาธารณชนรับทราบทั่วกันด้วย พปชร.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและครรลองของกฎหมายโดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และพรรคเน้นย้ำให้ทุกพรรคการเมืองช่วยกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ปฏิบัติตามกฎหมาย และเคารพกติกาทางการเมือง” (มติชน 16 กุมภาพันธ์ 2562 หน้า 10)

สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำหนดไว้ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น เชื่อว่าก่อนจะถึงวันนั้นนับจากนี้ไปนอกจากพรรคการเมืองจะระดมสรรพยุทธ์และกลวิธีต่างๆ เพื่อให้ชนะใจประชาชนเจ้าของอำนาจอันแท้จริงแล้ว กรณีการเรียกร้องก็คงจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ กกต.ต้องรับหน้าเสื่อในการพิจารณาดำเนินการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เพื่อด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจของคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 คน ที่เสนอตัวเข้ามาเพื่อทำงานที่ถือได้ว่าเป็นงานสำคัญของประเทศคงจะพร้อมแล้วกับการที่จะแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ให้เดินไปสู่เป้าหมายภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง กรณีศึกษาและบทเรียนในอดีตที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรุ่นพี่ได้ดำเนินการไว้คงจะเป็นองค์ประกอบหรือแนวทางที่สำคัญสำหรับการนำไปสู่การปฏิบัติหน้าที่เพื่อการเมืองไทย และคนไทยทั้งประเทศ

เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องของการใช้กฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นและความศรัทธาของสังคมและประชาชนนั้นถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรอิสระอย่าง กกต.จะพึงนำไปสู่การปฏิบัติ

กรณีที่ว่าด้วยการนำกฎหมายไปสู่การปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2520 ความตอนหนึ่งว่า “กฎหมายทั้งปวงจะธำรงความยุติธรรมและความถูกต้องเที่ยงตรงมีความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมหรือไม่เพียงไรนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้ หากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์หรือด้วยเจตนาไม่สุจริตต่างๆ กฎหมายก็เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นภัยต่อประชาชน”

เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดซึ่งจะส่งผลให้การเลือกตั้งโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม หาก กกต.ทั้งคณะมีการน้อมนำพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวปฏิบัติด้วยแล้วเชื่อว่าประโยชน์ทั้งมวลก็จะตกแก่ประชาชนและประเทศชาติได้อย่างอเนกอนันต์

รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร