PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

มินอ่องหล่าย ลูกบุญธรรมป๋าเปรม

มินอ่องหล่าย ลูกป๋าเปรม? 

ผบ.สูงสุดพม่า โพสต์เฟซบุ้คเรื่อง 2 แรงงานพม่าถูกประหารแล้วก็ออกหน้าประสานตรงมายังกองทัพไทย ... นี่เป็นกระบวนท่าทางการเมืองที่เฉียบขาดมาก ได้ใจคนพม่าไปพอสมควร วันนี้จึงมีข่าวกลุ่มผู้เรียกร้องให้ช่วย 2 แรงงานเดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจาก อองซานซูจี อีกคน ... ประเดี๋ยว NLD คงมีท่าทีออกมา คอยดูกัน ! 

มินอ่องหล่ายเป็นหนึ่งในสามผู้มีอำนาจสูงสุดของพม่าเวลานี้ ในระดับเดียวกับ เต็งเส่ง ประธานาธิบดี แล้วก็อองซาน ซูจี ผู้มีเสียงสนับสนุนจากประชาชนในมือ

การเมืองพม่าที่กำลังเปลี่ยนผ่าน จะออกหัวก้อย ส่งมอบอำนาจกันราบรื่นแค่ไหน หน้าตาส่วนผสมเป็นยังไง ก็มินอ่องหล่าย ผบ.สูงสุดทหารพม่าคนนี้แหละที่จะมีส่วนด้วย รัฐธรรมนูญพม่ากำหนดให้ทหารไปมีส่วนในการบริหารกิจการความมั่นคง ต่อให้ซูจีถล่มทลายมายังไงแต่ไปก้าวก่ายกระทรวงกลาโหมและกิจการมั่นคงภายในไม่ได้ ไปยุ่มย่ามเปลี่ยนทิศทางยุทธศาสตร์เจรจาและจัดการชนกลุ่มน้อย ก็ไม่ได้ 

มินอ่องหล่าย เป็นผู้นำทหารที่โหงวเฮ้งดีมาก สำหรับผมแล้วเขามีบุคลิกหน้าตาดีกว่าบรรดาผู้นำทหารพม่าแทบทั้งหมดนับจากยุค อองซาน เนวิน มาเลย.... มินอ่องหล่ายเป็นสลอร์คแถวสอง พอคลื่นลูกแรก อันได้แก่ ตันฉ่วย หม่องเอ ขิ่นยุ้นต์ หมดไป ... ก็มี เต็งเส่ง ฉ่วยมาน แล้วก็ มินอ่องหล่ายนี่แหละที่ขึ้นมาแทน

ตันฉ่วย เป็นผู้นำเผด็จการพม่าที่หวังจะล้างอาถรรพ์ผู้นำสูงสุดคนแรกที่วางมือ ล้างในอ่างทองคำอย่างสงบราบรื่น เพราะคนก่อนๆ จบไม่สวยทั้งนั้น... แผนการปฏิรูปปี 2010 เปลี่ยนพม่าไปเป็นประชาธิปไตยเลือกตั้ง เป็นตันฉ่วยนี่แหละที่ทุบโต๊ะเดินหน้า  จากนั้นก็วางตัวคนที่เหมาะสมลงตำแหน่งและบทบาทต่างๆ  มินอ่องหล่าย เป็นนักการทหาร/คิดและพูดแบบทหาร คำพูดของเขาก็ชัดเจนไม่ต้องอ้อมค้อมว่า จะเลือกตั้งยังไงก็เหอะ แต่ปัญหาชนกลุ่มน้อยความมั่นคงทั้งหลายต้องเป็นไปตามแบบเดิม 

ผมเชื่อว่าอองซานซูจีและพรรค NLD เลือกเดินตามยุทธศาสตร์ปรองดองแบบที่ ตันฉ่วย/คณะทหาร กำหนดไว้  หน้าตาของรัฐบาลไปจนถึงยุทธศาสตร์นโยบายยังเป็นตามทหารเป็นสำคัญ 

ดังนั้นมินอ่องหล่าย จะกลายเป็นขั้วอำนาจหลักสำคัญในโครงสร้างการเมืองพม่าที่กำลังจะแปลงร่างสวมเสื้อประชาธิปไตยในตอนนี้ ต่อให้เต็งเส่งถอยลงจากเวที ฉ่วยมานกลายเป็นผู้กว้างขวางนักการเมืองแบบใหม่มากกว่านายทหาร  แต่มินอ่องหล่ายต้องเดินอยู่ตรงจุดเดิม 

ไทยรัฐเคยมีสกู๊ปเมื่อปี 2557 บอกว่า มินอ่องหล่าย เป็นลูกบุญธรรมของป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะเมื่อปี 2555 ได้ประสานขอเข้าพบ แล้วก็ขอฝากตัวเสมือนบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง ป๋าก็อนุญาต จากนั้นเวลาเขามาไทยแต่ละครั้งก็ต้องเข้าพบบิดาบุญธรรมอยู่เสมอ 

เฉพาะเรื่องนี้ แสดงว่าลีลาการเมืองระหว่างประเทศขั้นเทพของมินอ่องหล่าย ไม่ธรรมดาเลย 

การออกมาแสดงบทบาทนำในกรณี 2 แรงงานพม่าต้องโทษประหารของมินอ่องหล่ายรอบนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน  

ปรากฏการณ์แรงงานพม่าที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมา 3-4 วัน ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าอะไรเกิดขึ้นดับไป/อะไรที่จุดแล้วยุบไปพอเป็นพิธี /อะไรที่เดินหน้าต่อ/ อะไรที่ตื่นตูม เอะอะก็เล่นงิ้วออกบทแบบอัตโนมัติ / ฯลฯ ก็เห็นๆ กันอยู่ตามประสาสังคมไทย อย่าไปรื้อฟื้นอะไรเลย เพราะคนไทยเคยชินกับออกงิ้วลิงค่างตามสถานการณ์เร้าแบบนี้อยู่เสมอ 

แว่นสายตาที่เราสวมใส่ บางทีจำกัดให้เราคิดและเชื่อไปตามประสาสีแว่น การแสดงออกของเราบางทีก็เป็นไปตามข้อสรุปตายตัวแบบที่เรากอดเอาไว้ โดยไม่ต้องพักมองหรือฟังเรื่องอื่นอีกแล้ว  

สำหรับคนไทยบางกลุ่มคนเชื่อว่านี่เป็นการเมืองของไทยที่ไปอยู่เบื้องหลัง... ขณะที่คนพม่าอีกกลุ่มหนึ่งมองปรากฏการณ์นี้คาบเกี่ยวกับการฉวยโอกาสช่วงชิงสถานะในเวทีการเมืองของพม่า  หึหึ!  

งวงช้าง หรือหางช้าง เป็นส่วนหนึ่งของช้าง ใครแยกแยะได้ก็จำเริญสติ ใจร่มสบายไป...ส่วนบางพวก เขาบอกว่างวงช้างเป็นแบบนี้  กลับเดือดดาลกระเหี้ยนกระหือรือ เถียงอยู่นั่น ไม่ใช่ๆๆๆๆ   ต้องยาวๆ ตรงปลายมีขน โบกได้... เขาว่าอย่าง ไอ้นี่ก็หมกมุ่นเถียงไปอีกอย่าง สนุกดี 

ตลอดสองสามวันมานี้ ปรากฏการณ์ข่าวแรงงานพม่าสะท้อนภาพอะไรต่อมิอะไรของสังคมการเมืองไทยได้ดีระดับหนึ่งทีเดียว 

เก๊าะไงล่ะ...แล้วไงล่ะ....เอาเป็นว่า...เอาตามที่พี่สบายใจเห๊อะ!
///
Fb บัณรสบัวคลี่

นักข่าวทำเนียบงดตั้งฉายารัฐบาล

นักข่าวสายทำเนียบฯ ออกแถลงการณ์ งดตั้งฉายา ‘รัฐบาล-นายกฯ-รมต.’ ยุค บิ๊กตู่" เพราะเป็นธรรมเนียม ไม่ตั้งฉายารัฐบาลจากการรัฐประหาร  และไม่ต้องการให้ นำประเด็นนี้ ไปขยายความขัดแย้ง หรือเป็นเครื่องมือทางการเมือง
 
       
นักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจง กรณี งดตั้งฉายา รัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี  ชุดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปีนี้

โดยระบุว่าตามที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล มีธรรมเนียมปฏิบัติในการตั้งฉายาของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ในช่วงปลายปี เพื่อสะท้อนการทำงานของคณะรัฐมนตรีในรอบปีที่ผ่านมา โดยปฏิบัติสืบเนื่องกันมากว่า 20 ปี
 แต่เนื่องจากคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ด้วยวิธีพิเศษ ไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามกลไกปกติในระบอบประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลจึงมีมติว่าจะ “งด” ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2558 

เนื่องจากเป็นหลักปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลยืดถือสืบเนื่องกันมา ว่าจะไม่ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ใน 3 กรณี 1. กรณีรัฐบาลรักษาการ ภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา หรือกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จนรัฐบาลยังทำงานไม่ครบปี 2.กรณีรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร และ 3.กรณีสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ
  
ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ยังมีความเห็นร่วมกันว่า ไม่ต้องการให้การงดตั้งฉายาของรัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2558 ครั้งนี้ ถูกนำไปใช้ขยายความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ในสังคมไทย หรือถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มบุคคล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
  
อนึ่ง การงดตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง อาทิ ในปี2549-2550 รัฐบาล พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาจากการรัฐประหาร ในปี 2551 รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในปี 2556 รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากมีการประกาศยุบสภา ในปี 2557 รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาจากการรัฐประหาร เป็นต้น
 
      ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล
      28 ธันวาคม 2558
 

Sent from my iPhone

บิ๊กป้อมเห็นผลสอบราชภักดิ์แล้ว

บิ๊กปัอม เห็นผลสอบ"ราชภักดิ์"แล้ว แต่อุบไต๋ ไม่รู้พบใครทุจริต  ระบุให้สอบข้อเท็จจริง ไม่ใช่สอบหาคนผิด ใครผิดมีหลักฐาน สตง.-ปปง.ก็สอบต่อ เผยกรรมการฯจะแถลงละเอียด ตัวเลขงบฯบริจาต ใช้ไปเท่าไหร่ กี่โครงการ

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ/รมว.กลาโหม กล่าวถึง ผลสอบสวนของคณะกรรมการสอบ"อุทยานราชภักดิ์" ของกห. ทร่จะแถลง 30 กค. นึ้ว่า   เราจะเอาเริ่องจริงมาพูด   เพราะเป็นการสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้สอบว่า ส่วนจะถูกจะผิด  ไปว่ากันในอีกขั้นหนึ่ง

 "เพราะผมก็ไม่รู้ว่า ผิดหรือเปล่า เพราะผมไม่ใช่อัยการ หรือผู้พิพากษาจะไปชี้ว่าใครผิดใครถูก  กรรมการจะชี้แจงในรายละเอียดเลยว่า  เงินอะไรบ้าง เงินมีเท่าไหร่ ใช้อะไรไปบ้าง มีกี่โครงการ"

ส่วนสรุปผลสอบ ที่ส่งถึงท่านแล้ว พบมีทุจริตหรือไม่ นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ผมดูไม่เป็น

"ผมบอกแล้วว่า ผมตรวจสอบข้อเทจจริง ไม่ได้บอกว่า สอบ เพื่อตรวจหาคนทุจริต  เรื่องคนทุจริตถ้ามี  เขาก็จะดูหลักฐานว่า จะเกี่ยวข้องงอะไรกับใคร  เดี๋ยว สตง. ปปช. เขาก็ตรวจสอบ" พลเอกประวิตร กล่าว

ของขวัญ3อย่างจากกลาโหม

กลาโหม มอบของขวัญปีใหม่ 3 ชิ้น ให้ประชาชน ดูแลความสงบ-อำนวยการจราจร-เปิดหน่วยทหารให้เที่ยว พักผ่อนราคาถูก  เผยทหารไม่ได้หยุดปีใหม่ ดูแลพื้นที่ วอน ปชช.ส่งสคส.ถึงทหารชายแดน "เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร”

พลตรี คงชีพ  ตันตระวาณิชย์  โฆษกกลาโหม  กล่าวว่า  ปีใหม่นี้ กลาโหม มีของขวัญปีใหม่ มามอบให้กับประชาชน
ในชื่อ “เติมความสุข ให้คนไทย จากใจทหาร”

ในช่วงเวลาแห่งความสุขของประชาชน ที่ทุกคนจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวตลอดเทศกาลปีใหม่  โดยเราคำนึงถึงศักยภาพและขีดความสามารถของกห. ที่มีอยู่ และสามารถทำได้ตามกำลัง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มงานหลัก ได้แก่ งานการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน งานช่วยเหลือประชาชน และงานให้บริการต่างๆ

ของขวัญชิ้นที่  1  : กห.ขอมอบการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
ทหารได้ร่วมกันติดตามข่าวสารและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งชายแดนและภายในเมือง โดย กกล.ป้องกันชายแดน และกองร้อยรักษาความสงบทั่วประเทศ ตลอด 24 ชม. ฝ

ขณะเดียวกันก็ร่วมกับตร.ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่จัดงานใหญ่ในทุกจังหวัด

ของขวัญชิ้นที่  2  : กห.ขอมอบการดูแลช่วยเหลือประชาชน
- อำนวยความสะดวกการสัญจรและความปลอดภัย เพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสียของพี่น้องประชาชนโดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดรับแจ้งเหตุร่วมกับตร. จุดบริการหน้า หน่วยทหารตามเส้นทางหลวงทั่วประเทศ เพื่อการผ่อนคลายระหว่างเดินทาง ( น้ำ ซ่อมรถ การแพทย์ )

พร้อมเตรียมการและความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน จากภัยธรรมชาติและอุบัติภัยที่เกิดขึ้น (จัดชุดกู้ภัย ชุดบรรเทาสาธารณภัย)

การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย  ด้วยการเปิดหน่วยทหาร ให้การบริการ
จำหน่ายสินค้าราคาถูก/ธงฟ้า โดยชุมชนรอบหน่วยทหาร
 
ของขวัญชิ้นที่  3  :  ขอมอบความสะดวกสบายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั่วประเทศ
- การเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในหน่วยทหารให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยพื้นที่เขตทหารมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีความหลากหลายทั้งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ การผจญภัย และกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งมีความปลอดภัยสูง และมีความเป็นมาตรฐาน เช่น รร.นายร้อย จปร. ฐานทัพเรือสัตหีบ อ่าวมะนาว ฯลฯ
 
- การจัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เพื่อดูแลความปลอดภัยและ
ให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดยกองทัพเรือ
- จัดกิจกรรมทำความสะอาดศาสนสถาน ทั้งวัดและมัสยิดกว่า 400 แห่งทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนมาร่วมทำบุญปีใหม่และสวดมนต์ข้ามปีได้อย่างสะดวกและมีความปลอดภัยร่วมกับครอบครัว
 
นอกจากนึ้ ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมส่งกำลังใจให้ทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนทั่วประเทศ
 
ขณะที่พี่น้องประชาชนกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว ในวันหยุดยาวแห่งช่วงเทศกาลปีใหม่  ยังมีพี่น้องพวกเราบางส่วนที่เป็นทหาร เขาเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่เป็นรั้วของประเทศ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามป่าเขา  เพื่อดูแลรักษาอธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์ตามแนวชายแดน ให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข มีความปลอดภัย  
อยากถือโอกาสนี้ เชิญชวนประชาชน ได้ร่วมส่งจดหมายหรือไปรษณียบัตร ไปตามกองกำลังป้องกันชายแดนทั่วประเทศ เพื่อให้กำลังใจทหาร ตำรวจ ตามแนวชายแดน ที่ต้องห่างไกลครอบครัวและ กำลังทำหน้าที่เป็นรั้วประเทศ ท่ามกลางความเงียบ หนาว ดูแลรักษาอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศ ได้อยู่อย่างปกติสุข
 

ที่ตั้งหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน

กองกำลังบูรพาต.ห้วยโจด  อ.วัฒนานคร  จว.สระแก้ว.  27160

กองกำลังสุรสีห์ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จว.กาญจนบุรี 71190

กองกำลังสุรนารีค่ายวีรวัฒน์โยธิน  ต.นอกเมือง  อ.เมือง  จว.สุรินทร์  32000

กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีต.โนนสูง  อ.เมือง  จว.อุดรธานี  41330

กองกำลังเทพสตรีค่ายเทพสตรีศรีสุนทร  ต.กะปาง  อ.ทุ่งสง  จว.นราธิวาส  80310

กองกำลังผาเมือง182/3  ถ.โชตนา  ต.ช้างเผือก  อ.เมือง  จว.เชียงใหม่  50300

กองกำลังนเรศวรค่ายวชิรปราการ  ต.ไม้งาม  อ.เมือง  จว.ตาก.  63000

คุณทองแดงเสียชีวิต คณะสัตวแพทย์ฯ ม.เกษตร ออกแถลง


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ได้แจ้งรายงานการเสียชีวิตคุณทองแดง จาก ศ.นสพ.ดร.อภินันท์ สุประเสริฐ คณบดีคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความว่า ตามที่คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมดูแลรักษาสุนัขหลวงคุณทองแดง ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง และจนปัจจุบันคุณทองแดงอายุ 17 ปี 1 เดือน 19 วัน (เกิดวันที่ 7 พฤศจิกายน 2541) ถือเป็นสุนัขที่มีอายุยืนยาว ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา คุณทองแดงมีปัญหาโรคชราที่เกี่ยวข้องกับโรคระบบประสาท โรคระบบกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ ทั้งอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต เสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น ทางคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เฝ้าติดตามให้การรักษาดูแลใกล้ชิดอย่างดีมาตลอด ขณะคุณทองแดงนอนหลับพักผ่อน ได้สิ้นลมหายใจอย่างสงบ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2558 เวลา 23.10 น. ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บานปลาย! พระสงฆ์ ลุกฮือ ประท้วงหน้าสถานทูตไทยในศรีลังการ้องปล่อยตัวนักโทษเกาะเต่า




http://www.matichon.co.th/online/2015/12/14512988791451298993l.jpg
(Photo:AFP)

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พระภิกษุสงฆ์จำนวนหนึ่งจากประเทศเมียนมารวมตัวถือป้ายประท้วงบริเวณภายนอกสถานทูตไทยในกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เพื่อคัดค้านคำตัดสินคดีเกาะเต่า

กลุ่มพระภิกษุสงฆ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มต้องการให้รัฐบาลไทยปล่อยตัว นายซอ ลิน และนายเว พิว วัย 22 ปี แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาที่ถูกศาลชั้นต้นของไทยพิพากษาโทษประหารชีวิตคดีร่วมกันฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่หลายพื้นที่ในประเทศเมียนมาและไทยโดยเฉพาะในนครย่างกุ้งมีผู้ประท้วงออกมาบนท้องถนนเป็นจำนวนหลายร้อยคนเพื่อคัดค้านคำตัดสินศาลไทย

อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยยืนยันว่า จะไม่มีการทบทวนคดีอีก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ล้มเหลวในการเก็บหลักฐานและดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุอย่างเหมาะสม

ศาลยุติธรรม เปิดลิงค์อ่านคำพิพากษา "คดีเกาะเต่า" ฉบับเต็ม 63 หน้า



จากกรณีที่ศาลจังหวัดสมุย สุราษฎร์ธานี มีคำพิพากษาประหารชีวิต 2 ชายชาวเมียนมา จำเลย คดีฆ่าข่มขืนนักท่องเที่ยวอังกฤษ บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งภายหลัง ชาวเมียนมา รวมตัวกันบริเวณด่านพรมแดน เพื่อขอความยุติธรรมในการดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในการพิพากษาคดีของศาลจังหวัดสมุย ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นนั้น ได้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีตามพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งหลังจากมีคำตัดสินแล้ว ศาลยุติธรรมได้จัดทำสรุปคำพิพากษาทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อให้ตรวจสอบได้ และสาธารณชนยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จากคำพิพากษาฉบับเต็มด้วยว่าการพิจารณาศาลได้วินิจฉัยประเด็นใดบ้าง

นายสืบพงษ์โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวย้ำว่า ในชั้นพิจารณาจำเลยมีทนายความดูแลคดีตามกฎหมายและศาลชั้นต้น ได้พิจารณาพยานหลักฐานตามสำนวนครบถ้วนขณะที่คำพิพากษา คดียังไม่สิ้นสุดเพียงแค่ศาลชั้นต้นนี้ เพราะตามกฎหมายจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาและถ้าคดีจะถึงที่สุดในชั้นฎีกาตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว จำเลยอาจยื่นขออภัยโทษต่อไป ซึ่งสามารถยื่นได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลยุติธรรมได้นำคำพิพากษาคดีเกาะเต่าฉบับเต็ม ซึ่งจำนวนทั้งสิ้น 63 หน้า เผยแพร่ในเว็ปไชต์

อ่านคำพิพากษาคดีเกาะเต่า (ฉบับเต็ม) ได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม
http://news.coj.go.th/document/25122015170806kao%20tao.pdf

ดุดันอย่างมีอารมณ์ขัน!รวมวาทะปูตินปี 2015


ดุดันอย่างมีอารมณ์ขัน!รวมวาทะปูตินปี 2015
เมี่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียได้รวบรวมคำพูดเด็ดๆในปี 2015 ของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียที่กล่าวถึงประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในปีนี้
【เหตุการณ์ตุรกียิงเครื่องบินรบ Su-24 ตก】
“ความสูญเสียของเราในวันนี้เกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนก่อการร้ายที่แทงเราจากข้างหลัง ผมไม่สามารถใช้คำพูดอื่นมาอธิบายเหตุการณ์ในวันนี้ได้”(ปูตินกล่าวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนในขณะพบปะกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2แห่งจอร์แดน)
“ดูท่าแล้ว อัลเลาะห์คงจะได้ตัดสินใจลงโทษกลุ่มผู้ปกครองในตุรกีเสียแล้วเพราะพระองค์ได้พรากเอาสติปัญญาและความมีเหตุผลของพวกเขาไป”
“เราไม่ได้มีแผนการเตรียมอวดแสนยานุภาพ แต่ถ้าหากมีใครที่คิดว่าเมื่อตัวเองทำในสิ่งที่ต่ำช้าหรือสังหารคนของเราแล้วจะได้เจอกับการห้ามนำเข้ามะเขือเทศ หรือว่าการจำกัดด้านการก่อสร้างบางอย่างแล้วล่ะก็พวกเขานั้นคิดผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว” (ปูตินกล่าวเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมในงานการปราศัยประจำปี)
【ยูเครน】
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในท้ายที่สุดรัสเซียและยูเครนได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องมีอนาคตร่วมกัน” (ปูตินกล่าวเมื่อวันที่ 6 เดือนมิถุนายนขณะสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์Corriere della Seraของอิตาลี)
"เมื่อพูดถึงยูเครนและภูมิภาคอื่นๆทั้งหมดหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย ผมเชื่อว่าจุดยืนของพันธมิตรตะวันตกนั้นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของการปกป้องผลประโยชน์ของยูเครน แต่เป็นไปเพื่อการสกัดกั้นการฟื้นตัวของสหภาพโซเวียต แต่กลับไม่มีใครเต็มใจที่จะเชื่อว่าเราไม่ได้มีเป้าหมายที่จะฟื้นสหภาพโซเวียตขึ้นมา " (ปูตินกล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ในสารคดีเรื่อง”การจัดระเบียบโลก”)
【ไครเมีย】
“เราเคยพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่านโยบายการคว่ำบาตรและโดดเดี่ยวนั้นไม่มีผลใดใดในโลกยุคปัจจุบันและมันมักจะไม่ประสบผลสำเร็จ และสำหรับประเทศอย่างรัสเซียนโยบายนี้ยิ่งไม่ส่งผลเข้าไปใหญ่ แค่ดูจากแผนที่ก็รู้แล้ว” (ปูตินกล่าวเมื่อวันที่29 กันยายน ขณะตอบคำถามผู้สื่อข่าวในงานการประชุม 70 ปีสมัชชาสหประชาชาติ)

ทหาร ยึดแล้ว กว่า100 คัน พวก"เมาขับ"

ทหาร ยึดแล้ว กว่า100 คัน พวก"เมาขับ"
"วินธัย" เผยตั้งจุดตรวจร่วม เข้มถนนทุกสาย พบ “เมาแล้วขับ” ยึดรถ-คุมตัว ตามนโยบาย คสช.ทั่วประเทศแล้ว ให้รับคืนได้หลัง 4 มกราคม2559

พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่า ขณะนี้หน่วย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย.(กกล.รส.) ทั่วประเทศ กำลังปฎิบัติมาตรการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่ พลเอกธีรชัย นาควานิช ผบทบ./เลขาฯคสช. ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งจุดตรวจรถอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 25 ธค. จนหมดช่วงเทศกาล
โดยเน้นถนนสายรองภายในหมู่บ้าน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ดื่มสุรา เจ้าหน้าที่จะพิจารณายึดรถไว้ก่อน แล้วหลังเทศกาลปีใหม่ ทางเจ้าของรถสามารถติดต่อขอคืนได้
โดยตัวเลขล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2558 จนถึงคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2558 พบที่ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดราว 100 ราย จากทั่วประเทศ
เป็นการรวบรวมจากทุกกองทัพภาค โดยแบ่งเป็นจักรยานยนต์ 50 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 50 คัน และยึดใบอนุญาตขับขี่ 38 ราย
โดยกองทัพภาคที่ 2 สามารถยึดได้ 36 ราย
ขณะที่กองทัพภาคที่ 3 สามารถยึดได้ 64 ราย
ทั้งนี้ก่อนการประกาศใช้มาตราการดังกล่าว ทางจังหวัดและทุกกองทัพภาค ได้ทำการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า พร้อมทั้งใช้การขอความร่วมมือ และ ให้ประชาคมหมู่บ้านเป็นผู้ช่วยดำเนินการ ควบคู่กับการใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติจราจรทางบก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่บุคคลที่ถูกยึดรถ ก็เข้าใจในมาตรการเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ผู้ขับขี่ที่ถูกยึดรถ สามารถนำใบที่ออกให้มาแสดงตัวและรับรถกลับได้ หลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่
ทั้งนี้ในทุกกองทัพภาคจะให้ความสำคัญเส้นทางรอง ซึ่งมีสถิติการเกิดอุบัติเตุมากที่สุด จึง คสช. สั่งกำชับที่ตั้งด่านตรวจร่วม หรือ ด่านชุมชน เส้นทางรอง โดยอาศัยการทำงานเชิงรุก
ขอความร่วมมือกับทางจังหวัด เพื่อทำงานร่วมกัน ทั้งจุดตรวจหน้าค่ายทหารให้ บริการประชาชน และหากพบผู้ขับขี่มีอาการล้า สามารถให้พักผ่อน ก่อนค่อยเดินทางต่อได้ ซึ่งจุดตรวจจะพยาบาลและการบริการทางการแพทย์ คอยให้บริการทุกจุดเหมือนกันทุกกองทัพภาค ตามนโยบายคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ

สารจากกรรมการตรวจสอบ ซีพีออลล์ ส่งกลต.รับได้ผู้บริหารผิดแต่เก่ง



คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ ของบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พิจารณา กรณีนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล และนายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ ถูกสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับ ข้อหาใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้น
       
       ที่ประชุมรับทราบว่านายก่อศักดิ์ นายพิทยา และนายปิยะวัฒน์ ได้ยอมรับในคำตัดสินของสำนักงาน ก.ล.ต.โดยได้รับการเปรียบเทียบปรับแล้ว และได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงการลงโทษของสำนักงาน ก.ล.ต.ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดจนพฤติกรรมและผลงานในอดีต รวมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์อันโดดเด่นของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหาทดแทนได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับผลกระทบและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ และเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระจึงลงความเห็นว่า ยังสมควรที่จะให้บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
       
       กรรมการตรวจสอบ นอกจากมีหน้าที่ สอบทาน งบการเงิน รายงานข้อมูล ให้ถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่ รับผิดชอบ สอบทานให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท
       
       หลักการ แนวความคิด ของการตั้งกรรมการตรวจสอบ ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ เพื่อให้บริษัทมีธรรมาภิบาล หรือ การกำกับกิจการที่ดี การที่ กรรมการตรวจสอบ ต้องเป็นกรรมการอิสระ เท่านั้น คือ ไม่ใช่ผู้บริหาร ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น ก็เพื่อให้ กรรมการมีอิสระในการ ทำหน้าที่ ตรวจสอบ สอบทาน ผู้บริหาร
       
       ความเห็นของ คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ บมจ. ซีพีออลล์ จึงควรจะจำกัดเพียงแค่ว่า เมื่อกรรมการและผู้บริหารของซีพีออลล์ ทำผิดมาตรา 241 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 ยังจะมีคุณสมบัติของการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ตามกฎของ ก.ล.ต. และตามนโยบายเรื่องกรรมการและผู้บริหารของ ซีพีออลล์เองหรือไม่
       
       การพิจารณาว่า บุคคลที่ทำผิดกฎหมายเหล่านั้น มีผลงานที่ดี มีความเก่งกล้าสามารถ ไม่อาจหาใครมาทดแทนได้ จึงสมควรให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ควรจะเป็นความเห็นของฝ่ายผู้ถือหุ้น และผู้บริหาร ซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรงกับ การบริหารงาน มากกว่า 
       
       มติของคณะกรรมการตรวจสอบซีพีออลล์ เป็นการเห็นแก่ประโยชน์ในทางธุรกิจองบริษัทซีพีออลล์ มากกว่า หลักการกำกับกิจการที่ดี ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการส่งสารต่อสังคมว่า คนทำผิด หรือ ทุจริต อาจได้รับการให้อภัย เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ผิดหรือโกงไม่เป็นไร ถ้าเป็นคนเก่ง 
       
       คณะกรรมการตรวจสอบ 3 คน ของ ซีพีออลล์ ประกอบด้วย นายโกเมน ภัทรภิรมย์ อดีตอัยการสูงสุด ตุลาการรัฐธรรมนูญ และ กรรมการร่างฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ นายปรีดี บุญยัง อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร และกรมธนารักษ์ นายผดุง เตชะศรินทร์ อดีตกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย
       
       กรรมการอิสระอีก 2 คนคือ นายศุภชัย พิศิษฐวานิช อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
       
       รายงานประจำปีของ บมจ.ซีพีออลล์ ประจำปี 2557 เรื่องค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงินของ คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ เปิดเผยข้อมูลว่า ในปี 2557 นายโกเมน ได้รับค่าตอบแทน 1,200,000 บาท ได้ โบนัส 4,465,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ห้าล้านแปดแสนบาท
       
       นายปรีดี และนายผดุง ได้รับ ค่าตอบแทนคนละ 1,080,000 บาท โบนัสคนละ 4,020,000 บาท รวมห้าล้านหนึ่งแสนบาท
       
       นายศุภชัย ซึ่งเป็น กรรมการอิสระเพียงตำแหน่งเดียว ไม่ได้เป็นกรรมการตรวจสอบด้วย ได้ค่าตอบแทน 720,000 บาท โบนัส 2,680,000 บาท รวมสามล้านสี่แสนบาท
       
       พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กรรมการอิสระ ได้รับ ค่าตอบแทน 720,000 บาท โบนัส 2,457,000 บาท รวม สามล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท
       
       ยกเว้นพลตำรวจเอกพัชรวาท ซึ่งเพิ่งเป็นกรรมการอิสระ เมื่อต้นปี 2556 กรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระคนอื่นๆ ล้วนอยู่ในตำแหน่งคนละหลาย ๆ ปี
       
       นายศุภชัย เป็นกรรมการอิสระ ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน รวม 6 ปี นายโกเมน เป็นกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระตั้งแต่ปี 2548 นายปรีดี และนายผดุง เป็นกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2542 รวมแล้วนานถึง 16 ปี

หมายโผล่! เหมืองเลยแจ้งความหมิ่นประมาท-สน.มีนบุรีเรียก ‘เยาวชนนักข่าวพลเมือง’ สอบสิ้นปีนี้



หมวดหมู่: ข่าว | รายงานโดย  เมื่อ 23 Dec 2015 - 21:51
23 ธ.ค. 2558 กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด อ.วังสะพุง จ.เลย แจ้งข้อมูลว่า เยาวชนนักข่าวพลเมืองได้รับหมายเรียกของสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ออกหมายวันที่ 14 ธ.ค. 2558 ให้ไปที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีในวันที่ 30 ธ.ค. 2558 เวลา 10.00 น. โดยมีญาติรับไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค. 2558)
หมายเรียกดังกล่าวเป็นคดีความอาญา โดย นายฐปนรรฆ์ คามวัลย์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ทุ่งคำ จำกัด กล่าวหาเยาวชนนักข่าวพลเมือง ว่า หมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพระบายสี ภาพยนตร์ฯ
20152312214713.jpg
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เยาวชนนักข่าวพลเมืองคนดังกล่าว ถูกบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ดำเนินการฟ้องร้องฐานคดีหมิ่นประมาท จากการรายงานข่าวนักข่าวพลเมือง ตอน ค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ออกอากาศเมื่อวันพุธที่ 1 ก.ย. 2558 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเกี่ยวกับการออกค่ายเยาวชนฮักบ้านเกิดเจ้าของ ตอน นักสืบลำน้ำฮวยแท้ๆ แน๊ว ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. 2558 ที่วัดโนนสว่าง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย
บริษัท ทุ่งคำ จำกัด อ้างว่า การรายงานข่าวดังกล่าวเป็นไปในลักษะหมิ่นประมาท ใส่ความบริษัทฯ ว่า “ลำน้ำฮวยได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำ โดยลำน้ำฮวยมีสารปนเปื้อน ทำให้ใช้ดื่มใช้กินไม่ได้” โดยระบุว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ เพราะเหมืองแร่ดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อนและลำน้ำฮวยไม่ได้ไหลผ่านเหมืองแร่
ขณะนี้ กระบวนการทางคดีดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เลย ซี่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจดูแลในพื้นที่ว่าจะอนุญาตให้บริษัทเหมืองทองฟ้องคดีหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 
20152312214746.jpg

20152312214915.jpg
ลำดับเหตุการณ์: บริษัททุ่งคำฟ้องหมิ่นประมาทเยาวชนนักข่าวพลเมือง
1 ก.ย. 2558 
นักข่าวพลเมือง ตอน ค่ายเยาวชนฮักบ้านเกิดเจ้าของ ออกอากาศในช่วงข่าวค่ำ เกี่ยวกับ "ค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ตอน นักสืบลำน้ำฮวยแท้ๆ แน๊ว" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-30 ส.ค. 2558 ที่วัดโนนสว่าง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย
4 ก.ย. 2558 
เยาวชนนักข่าวพลเมือง ให้ข้อมูลว่า หลังเลิกเรียน สุภาพ พรมมณี ผู้ใหญ่บ้านภูทับฟ้าพัฒนา ได้มาหาที่บ้าน โดยขอดูบัตรประชาชนและถ่ายรูปเก็บไว้ พร้อมชี้แจงว่าจะต้องเอาไปส่งให้ทางบริษัททุ่งคำดู เนื่องจากบริษัทเตรียมที่จะฟ้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดค่ายเยาวชน และการรายงานข่าวดังกล่าว
6 ก.ย. 2558 
เวลา 11.00 น. เยาวชนนักข่าวพลเมือง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีสงคราม และสมาชิกในครอบครัว ไปพบกับบ้านผู้ใหญ่บ้านภูทับฟ้าพัฒนา ตัวแทนของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด 3 คน และรองนายก อบต.เขาหลวง เนื่องจากการรายงานข่าว 
อ่านเพิ่มเติม: http://prachatai.org/journal/2015/09/61319
14 ก.ย. 2558
เครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม คณะผู้จัดค่าย จัดแถลงข่าวที่มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ประกาศปกป้องเด็กพร้อมตั้งคำถามกับสังคมไทยว่า หากการจัดค่ายเยาวชน ที่มีเจตนาและวัตถุประสงค์ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาเยาวชน ให้รักถิ่นฐานบ้านเกิด กลับถูกคุกคาม คัดค้าน โดยผู้มีอำนาจ แล้วสังคมไทยจะหลงเหลือเสรีภาพให้ทำอะไรอย่างอื่นอีกได้บ้าง
อ่านเพิ่มเติม: http://www.citizenthaipbs.net/node/6577
19 พ.ย. 2558
เจ้าหน้าที่ไทยพีบีเอส ได้รับหมายนัดไต่ส่วนมูลฟ้อง ลงวันที่ 12 พ.ย. 2558 คดีหมายเลขดำที่ อ.3756/2558 ซึ่งบริษัท ทุ่งคำ จำกัด โดยนายสมชาย ไกรสุทธิวงศ์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ ได้ยืนฟ้อง นางสาววิรดา แซ่ลิ่ม ผู้ดำเนินรายการช่วงนักข่าวพลเมือง และพวกรวม 5 คน ประกอบด้วย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย นายสมชัย สุวรรณบรรณ นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ และนายโยธิน สิทธิบดีกุล ตามลำดับ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารและโทรทัศน์ เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท นัดไต่สวนมูลฟ้อง 21 มี.ค. 2558
12 ธ.ค. 2558
เยาวชนนักข่าวพลเมือง และผู้ปกครอง ได้หนังสือ ลงวันที่ 8 ธ.ค. 2558 จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย ขอเชิญไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานคุมประพฤติ โดยได้ส่งหนังสือแนบมาด้วยคือ หนังสือของอนุญาตฟ้องเด็กและเยาวขนคดีอาญา ลงวันที่ 27 พ.ย. 2558
15 ธ.ค. 2558
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์กรณี บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเยาวชนนักข่าวพลเมือง เสนอทบทวนการฟ้องคดีเยาวชน ให้เหลือเฉพาะในส่วนของไทยพีบีเอสและคณะ
อ่านเพิ่มเติม: http://www.citizenthaipbs.net/node/7333
นอกจากนี้ อัญชนา จ้อนเมือง นักพัฒนาสังคมชำนาญพิเศษ รักษาราชการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เลย และเจ้าหน้าที่อีก 4 นาย ได้ลงพื้นที่ไปบ้านของเยาวชน เพื่อสอบถามและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น พบว่าไม่อยู่บ้านไปเรียนหนังสือ มีแต่พ่อและแม่ซึ่งมีอาการเคร่งเครียด สีหน้าไม่สู้ดี มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด และไม่ขอพูดถึงกรณีที่เกิดขึ้น
อ่านเพิ่มเติม: http://www.thairath.co.th/content/549502
16 ธ.ค.2558
คณะทำงานด้านเด็ก 22 องค์กร ออกแถลงการณ์ หนุนสถานพินิจฯ -โรงเรียนคุ้มครองเด็กโดยไม่ถือว่าสิ่งที่เด็กทำเป็นความผิด พร้อมเสนอให้บริษัทเหมืองยกฟ้องและเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อสาธารณะ 
อ่านเพิ่มเติม: http://www.citizenthaipbs.net/node/7332
18 ธ.ค.2558 
สมเกียรติ จันทรสีมา ผู้อำนวยการสำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะลงพื้นที่พร้อมทนายความพูดคุยกับเยาวชนนักข่าวพลเมือง ที่บ้านนาหนองบง จ.เลย
ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ทุ่งคำ ให้ถ้อยคำ ต่อผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เลย กรณียื่นคำร้องเพื่อขออนุญาตฟ้องเยาวชนหญิงวัย 15 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังรายงานข่าวตอน "นักสืบลำน้ำฮวย" ในช่วงนักข่าวข่าวพลเมือง โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เลย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ บริษัท ทุ่งคำ ยื่นฟ้องเยาวชนได้หรือไม่ โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
วันเดียวกัน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 22 คน ที่ถูกบริษัท ทุ่งคำ และ อบต.เขาหลวง อ.วังสะพุง ยื่นฟ้องในข้อหาสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะ เมื่อปี 2556 เข้าพบอัยการจังหวัดเพื่อนัดหมายฟังคำพิพากษา หลังอัยการจังหวัดส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะเห็นชอบตามสำนวนคำฟ้องของอัยการจังหวัดหรือไม่
21 ธ.ค.2558 
เยาวชนนักข่าวพลเมืองและครอบครัวไม่ต้องไปที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เลย
23 ธ.ค. 2558 
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง กรณีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจของเด็ก ในกรณีเยาวชนชั้น ม.4 สื่อสารเรื่องราวของชุมชนในฐานะนักข่าวพลเมือง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแล้วถูกบริษัทเหมืองแร่ในพื้นที่ อ.วังสะพุง จ.เลย ดำเนินการฟ้องหมิ่นประมาท 
อ่านเพิ่มเติม: http://www.citizenthaipbs.net/node/7345
 ที่มา : http://www.citizenthaipbs.net/node/7349

ปูด กกต.สมชัย ตั้งลูกเลขาฯส่วนตัว-เบิกเงินดูงาน เจ้าตัวยันใช้คนไว้ใจ ทำถูกต้อง

ปูด กกต.สมชัย ตั้งลูกเลขาฯส่วนตัว-เบิกเงินดูงาน เจ้าตัวยันใช้คนไว้ใจ ทำถูกต้อง

เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 28 ธันวาคม 2558 เวลา 12:30 น.
เขียนโดย
isranews
1388745534 newsimg552 o
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ตรวจสอบพบหนังสือสำนักเลขานุการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ฝ่ายกิจการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558 เรื่อง ขออนุมัติให้ที่ปรึกษา ผู้ช่วยเลขานุการ ประจำกรรมการการเลือกตั้ง เดินทางไปปฏิบัติงานในต่างจังหวัด ส่งถึงนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง
โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ท่าน (นายสมชัย) มีกำหนดการเดินทางตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี และสระบุรี ระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2558 และมีบัญชาให้ น.ส.บุญชิรา ภู่ชนะจิต ที่ปรึกษา นายปริญ ศรีสุทธิยากร และ น.ส.สิริยากร เหลืองเพชรงาม ผู้ช่วยเลขานุการ ประจำกรรมการการเลือกตั้ง (นายสมชัย ศรีสุทธิยากร) เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปด้วย นั้น
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ประจำประธานกรรมการการเลือกตั้งและกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2556 ข้อ 23 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน ให้นำระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานมาใช้บังคับกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานของที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ตามระเบียบนี้โดยอนุโลม โดยให้ประธานกรรมการหรือกรรมการเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติการเดินทางไปปฏิบัติงาน
ให้ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญมีสิทธิเบิกค่าใช่จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานเช่นเดียวกับพนักงานบริหารระดับสูง เลขานุการมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานเช่นเดียวกับพนักงานบริหารระดับกลาง และผู้ช่วยเลขานุการมีสิทธิเบิกค่าใช่จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานเช่นเดียวกับพนักงานปฏิบัติงานระดับกลาง
สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงเห็นควรเรียนมาเพื่อขออนุมัติให้ น.ส.บุญชิรา ภู่ชนะจิต ที่ปรึกษา นายปริญ ศรีสุทธิยากร และ น.ส.สิริยากร เหลืองเพชรงาม ผู้ช่วยเลขานุการ ประจำกรรมการการเลือกตั้ง (นายสมชัย ศรีสุทธิยากร) เดินทางไปปฏิบัติงาน ณ จังหวัดปทุมธานี และสระบุรี ระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2558 และให้ได้รับสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553
ทั้งนี้ นายปริญ ศรีสุทธิยากร เป็นบุตรชายของนายสมชัย ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสม เรื่องการนำบุตรชายเข้ามาทำหน้าที่เป็นเลขานุการส่วนตัว 
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ยอมรับว่านายปริญ ศรีสุทธิยากร เข้ามาดำรงตำแหน่งเลขานุการของตน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 เมื่อตนจะเดินทางไปราชการก็จำเป็นต้องนำเลขานุการไปด้วย และมีสิทธิที่เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ด้วย แต่ยืนยันว่าการเดินทางไปราชการครั้งนี้นายปริญไม่ได้เดินทางไปด้วย
“ผมเดินทางไป 5 คน รวมทั้งที่ปรึกษาของผมด้วย ซึ่งก็สมควรเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ จึงทำเอกสารเพื่อให้เกิดความถูกต้อง คนปล่อยข่าวว่านายปริญเดินทางไปด้วยคงไม่รู้จริง” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งนายปริญ ซึ่งเป็นบุตรชายมาดำรงตำแหน่งเลขานุการดำเนินการถูกต้องหรือไม่ กกต.รายนี้ ระบุว่า “ผมดำเนินการแต่งตั้งถูกต้องตามขั้นตอน และเป็นปกติที่คนทำงานจะแต่งตั้งให้ผู้ช่วยที่ไว้วางใจมาทำงานด้วยกัน ไม่เห็นแปลกอะไร เข้ามาโดยความชอบธรรม คนปล่อยข่าวก็คงน่ารักดี”

วิพากษ์จุดสิ้นสุด GTH ใครใส่หน้ากาก? ใครพยายามรปห. ยึดบริษัท?

"ฟ้า พูลวรลักษณ์" วิพากษ์จุดสิ้นสุด GTH ใครใส่หน้ากาก? ใครพยายามรปห. ยึดบริษัท?

Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 27 ธ.ค. 2558 เวลา 20:02:00 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์ หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๐) มติชนสุดสัปดาห์ 25-31 ธันวาคม 2558




บทความบทที่ ๑๐๐ ฉันขออนุญาตคุยเรื่อง GTH เพราะฉันต้องการบันทึกประวัติศาสตร์ ก่อนที่มันจะถูกลืม ไม่ให้การสร้างภาพมาบิดเบือนความจริง ในยุคสมัยที่ผู้คนถนัดในการสร้างภาพ มันคงยากลำบากไม่น้อย ที่จะเอาความจริงมาสู้กับการสร้างภาพ



ต้นกำเนิดของGTH เกิดจากการรวมตัวของสามบริษัท คือ แกรมมี่ ไทเอนเตอร์เทนเม้นท์ กับ หับโห้หิ้น ในสัดส่วนการลงทุน แกรมมี่ ๕๑% ไท ๓๐% และหับ ๑๙% พวกเขามีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกัน


กล่าวคือ แกรมมี่ มีเงินและเพาเวอร์ แต่ในสมัยนั้น แกรมมี่ก็ทำหนังแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะมีทั้งเงินและเพาเวอร์ ก็ทำไม่ขึ้น

ส่วนไท เป็นบริษัทเล็ก มีเงินทุนน้อย แต่ก็มีชื่อเสียงที่สุด เพราะทำหนังประสบความสำเร็จมาหลายเรื่อง คุณวิสูตรมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้อำนวยการสร้างที่เก่งที่สุด และเก่งในการตลาด แต่กระนั้น เพราะการทำหนังไทย เป็นอะไรที่ทำยาก และเขาทำงานด้วยตัวคนเดียว ไม่กล้าลงทุนมาก แม้จะมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ค่อยมีเงิน

ส่วนหับ เป็นบริษัทเล็ก เงินน้อย ยังไม่มีชื่อเสียง แต่มีจุดแข็งคือมีผู้กำกับฯ หนุ่มไฟแรงหลายคนในสังกัด


การรวมตัวกันครั้งนั้นก็เป็นไปตามความสมัครใจ ต่างพอใจในสัดส่วนของตน ไม่มีการบังคับ ไม่มีการหลอกลวง และที่จริงก็ไม่รู้ว่า GTH จะไปรอดไหม ในสองสามปีแรกๆ ก็ขาดทุน และตั้งท่าจะไปไม่รอดเหมือนกัน แต่ค่อยๆ ดีขึ้น จนในหลายปีให้หลัง ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ยิ่งเพราะตลาดหนังไทยซบเซา ยิ่งทำยาก ค่ายนี้ยิ่งโดดเด่น

จนกลายเป็นสุดยอดในวงการ



พวกเขาปิดบริษัท เพราะหับถือหุ้นน้อยที่สุด แต่ทำงานมากที่สุด ในที่สุดก็สะสมความไม่พอใจ จนเกิดเรื่อง แต่เดิมทีก็ยังไม่ใช่เช่นนั้น แต่เดิมทียังมีทีมของไท ทีมของหับ แต่เหมือนเจอแรงโน้มถ่วง ยิ่งนานไป ทีมของไทก็หดเล็กลงจนหายไป เหลือแต่ทีมของหับ ที่ใหญ่ขึ้น จนครอบทั้งบริษัท


โดยแก่นของเรื่องก็คือ มันเกิดจากหับ ในที่สุดเขาคิดว่า GTH ที่จริงก็คือหับนั่นเอง เรียกได้ว่างานเกือบทั้งหมด เกิดจากหับ ดังนั้น ทำไมถึงได้ผลประโยชน์น้อยกว่าเพื่อน อย่างนี้ไม่ยุติธรรม พวกเขาจึงเดินเข้ามาหาไท แล้วขอซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของไท ในราคาพาร์ มันเป็นการยื่นคำขาด เหมือนจี้ด้วยปืน นี้คือการทำรัฐประหาร กระทำโดยกลุ่มคนที่คุมกำลังพล


Plan A ของหับ คือการซื้อหุ้นจากไทและแกรมมี่ เพื่อทำให้สัดส่วนของตัวกลายมาเป็นอันดับหนึ่ง นั่นคือการทำให้ GTH เป็นของหับ แต่พวกเขาไม่ยอม fair play


ที่จริงหากพวกเขาต้องการเพิ่มสัดส่วนของหุ้น ด้วยการซื้อในราคาที่ยุติธรรม ตามผลประกอบการ ก็ยังพอคุยกันได้ และมีความเป็นสุภาพบุรุษ เพราะอย่างน้อยก็ทำงานด้วยกันมา ๑๑ ปี แต่นี่พวกเขาต้องการยึดอำนาจ การยื่นคำขาดอย่างนี้ เพราะพวกเขาไม่กลัวการปิดบริษัท เพราะเชื่อว่า พวกเขาจะเปิดใหม่ได้ เนื่องจากทีมงานทั้งหมด เป็นของหับ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ


ฉันพอเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ ว่าดังแล้วแยกวง หรือเมื่อประสบความสำเร็จติดๆ กันหลายครั้ง ก็เกิดความยโส

แต่ฉันรับไม่ได้กับความไม่เป็นสุภาพบุรุษ การไม่ fair play


๑๐

ตอนนั้นคุณวิสูตรทำผิดครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยความใจอ่อนและโง่เขลา เขาคิดว่าเมื่อต้องปิดบริษัท เขาเสนอไอเดียให้ออกข่าวดังนี้ว่า ไทต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนหับยังไม่พร้อม อาจต้องรออีกหลายปี ส่วนแกรมมี่บอกว่ายังไงก็ได้ แล้วแต่พวกคุณตกลงกัน หากตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องปิดบริษัท นี้คือข่าวที่สังคมข้างนอกรับรู้

ฉันถามคุณวิสูตรว่าทำไมตัดสินใจอย่างนั้น เขาบอกว่าเป็นห่วงภาพลักษณ์ของแกรมมี่ แต่ทำไมไม่ห่วงตัวเอง นี้คือความ sentimental ของเขา เป็นความคนใจอ่อนแบบผู้หญิง ยิ่งมาบวกกับความอ่อนแอและโง่เขลา มันกลายเป็นสามความผิด

๑๑

หากคุณวิสูตรมีสติ เขาไม่ควรสร้างภาพ หลอกลวงประชาชน พวกเขาควรจะพูดความจริง แล้วให้ประชาชนตัดสิน หรือหากต้องการรักษาหน้ากันไว้ ก็เพียงแค่ประกาศว่า เราต้องการแยกทางกัน ด้วยเหตุผลส่วนตัว ที่ไม่สะดวกในการเปิดเผย เหมือนคู่ชีวิตที่ต้องการหย่ากัน แต่ไม่จำเป็นต้องบอกสาเหตุ เป็นการไปอย่างเงียบๆ และกลับมาใหม่อย่างเงียบๆ ฉันยังพอรับได้

แต่การสร้างข่าวไม่จริงนั้น มีผลร้ายกว่า และผิดนั้นมาจากฝ่ายไท ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ

๑๒

ภาพที่ออกมาคือ ไทเป็นคนโลภและโง่เขลา เพราะหากไทต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำไมเลือกทางที่ตัวเองหมดโอกาสเกือบสิ้นเชิง แทนที่จะรออีกหน่อย กลายเป็นรออีกนานเท่าไรไม่รู้ และกลับไปสร้างภาพให้หับเป็นพระเอก ผู้ประกาศว่ายังไม่อยากเข้า เพราะกลัวว่างานศิลป์ของตนจะด้อยค่าลง

ส่วนแกรมมี่ก็ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดี เป็นกลาง ยังไงก็ได้ ซึ่งไม่จริงทั้งสิ้นทั้งปวง

เรื่องจริงคือหับไม่เป็นสุภาพบุรุษ หักหลังเพื่อน แต่ความโง่เขลาของคุณวิสูตรทำให้ภาพออกมาเป็นตรงกันข้าม


๑๓

ต่อให้คุณไม่มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับธุรกิจก็ต้องสังเกตออกได้ว่าหากบริษัทหนึ่งต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯหุ้นส่วนบอกว่ายังไม่พร้อม ขอเวลาอีกหน่อย บริษัทแรกก็เลยบอกว่างั้นเรามาปิดบริษัท มันผิดเหตุผล ผิดสามัญสำนึกขนาดไหน เพราะหากทำเช่นนั้น บริษัทแรกก็ยิ่งหมดโอกาสเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จากการรอสามสี่ปี กลายเป็นรอหนึ่งร้อยปี หรือแม้เขาจะไปเปิดบริษัทใหม่ ก็ยากจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงอย่าง GTH ซึ่งมีผลงานมา ๑๑ ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย ไม่มีคนสติดีที่ไหน จะแก้ปัญหาแบบนี้แน่

ดังนั้น ข่าวดังกล่าวจึงเป็นข่าวปลอม เป็นเพียงการสร้างภาพ หากเป็นพล็อตเรื่องหนัง ก็น่าพิศวงว่า ทำไมคิดพล็อตเรื่องได้ไม่น่าเชื่อปานนี้

๑๔

สื่อที่เป็นกลางหากอยากรู้ ก็เพียงไปสัมภาษณ์คนที่เคยทำงาน GTH ในอดีต คนที่ออกมาแล้ว และกลายเป็นอนุมูลอิสระ พวกเขาไม่มีเหตุผลอะไรจะโกหก พวกเขาจะรู้ดีว่าใครซื่อตรง ใครมีเล่ห์เหลี่ยม เราไม่อาจสัมภาษณ์คนที่กำลังทำงานอยู่ในบริษัท เพราะจะมีการเลือกข้าง นี้คือความจริงที่คนวงในล้วนตระหนักรู้ หรือหากไม่รู้ ก็ตรวจสอบได้ เพราะมันเป็นจริง ปัญหาคือคนในสังคม มีความเห็นอย่างไร มีจิตสำนึกในความถูกต้อง หรือจริยธรรมแบบไหน

๑๕

หากจากวันนี้ไป พวกเขาแยกทางกัน ต่างคนต่างไป เหมือนยุคแรก ก็ยังเป็นภาพที่สง่างามใช้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะหับมี plan B พวกเขาก็ไม่ฉายเดี่ยว พวกเขาจะกลับไปหุ้นกับแกรมมี่ใหม่ คราวนี้ ขจัดไทออกไปได้

ในความรู้สึกของพวกเขา เห็นว่าคุณวิสูตรเป็นเสือเฒ่าที่หมดเขี้ยวเล็บ หมดประโยชน์ อยู่ไปก็รังแต่จะเป็นเหลือบ เกาะกินส่วนแบ่งกำไร

๑๖

แกรมมี่เป็นพ่อค้า แม้เขาจะรู้ว่าหับเป็นฝ่ายหาเรื่อง แต่พ่อค้าจะคำนึงถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้า เขาคงไม่มาสนใจหลักจริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องนามธรรม แม้เขาจะรู้ว่า คนที่หักหลังเพื่อนได้ ก็ย่อมจะหักหลังเพื่อนได้อีก แต่วันนั้นยังมาไม่ถึง วันนี้คุยเรื่องผลประโยชน์ตรงหน้า


๑๗

จุดหักเหสำคัญคือแม่นาค มันเป็นหนังที่ทำเงินมาช้านาน นับแต่อดีต แต่เหมือนมีอาถรรพ์ เหมือนมีคำสาป ที่ว่าแม้หนังแม่นาคมักจะทำเงินจริง มันเป็นตัวเปลี่ยนยุคของคำว่าหนังทำเงิน แต่คนทำมักหมดตัวในกาลต่อมา แต่ความเย้ายวนใจของเงิน ทำให้คนจำนวนมากก็ไม่กลัว เพราะมันไม่มีเหตุผล มีเพียงสถิติ มีเพียงข้อสังเกต เราอาจคิดไปเองก็ได้

๑๘

หับสะสมความไม่พอใจมานานแต่ยังไม่รุนแรง เพราะหนังก็ยังทำเงินไม่มาก และหากมีบางเรื่องขาดทุน แทรกสลับไปมา ยิ่งไม่เกิดเรื่อง เพราะเวลาขาดทุน ผู้ถือหุ้นน้อยก็เจ็บตัวน้อย ที่จริงคนทำงาน มีค่าจ้าง เช่น ผู้กำกับฯ ก็มีค่ากำกับฯ ผู้เขียนบทก็มีค่าเขียนบท ฯลฯ คนทำงานมากก็ได้มาก ทุกอย่างยังดำเนินต่อไปได้ดีพอควร แต่พ่อมากทำเงินมหาศาลถึงพันล้าน มันเป็นความยิ่งใหญ่อลังการ เพราะบัดนี้ผลกำไรคือหลักร้อยล้าน เงินจำนวนร้อยล้าน ทำให้ดวงตาเปลี่ยนไป จิตใจก็เปลี่ยน

๑๙

ในวันที่พ่อมากทำเงินถึงพันล้าน ซึ่งหนังไทยไม่เคยทำได้ ผู้คนมากมายมาร่วมแสดงความยินดี แต่หากมีใครคนหนึ่ง ที่ผ่านโลกมามาก แต่งชุดดำ เขาเดินมาแสดงความเสียใจ บอกว่า พี่มากคือจุดจบของ GTH คงแปลกมาก เขาช่างเป็นคนขวางโลก แต่มองลึกลงไปจะเห็นความจริง

๒๐

หนังอย่างพี่มาก ทำให้หับนอนไม่หลับ ไม่ใช่กลัวผี แต่เพราะเสียดายเงิน ทำไมงานอย่างพี่มาก เป็นงานของหับ แต่ต้องมาแบ่งผลประโยชน์ให้ไท ที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย คุณวิสูตรมีความรอบรู้เกี่ยวกับหนังจริง แต่ทำงานกันมา ๑๑ ปี ทีมงานของหับคิดว่าพวกเขาก็เรียนรู้มาจนหมดแล้ว ศาสตร์นี้พวกเขาก็รู้ครบถ้วน และอาจเหนือกว่า ทำไมต้องแบ่งให้ด้วย

๒๑

ประหลาดยิ่งนัก GTH ทำกำไรติดกันหลายปี ตามกติกาของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทนั้นต้องมีผลประกอบการมีกำไรติดกันอย่างน้อยสามปี ซึ่งเท่ากับว่า GTH มีคุณสมบัติเข้าไปได้ และนำผลประโยชน์มหาศาลสู่สามหุ้นส่วน แต่เพราะความโลภ จึงปิดบริษัท

๒๒

เมื่อเปิดใหม่ เกิดความไม่แน่นอน หากชนะทั้งสามบริษัท ก็เป็นคุณประโยชน์กับวงการหนัง เพราะทำให้หนังไทยเกิดความหลากหลาย แต่หากแพ้หนึ่ง ชนะสอง หรือแพ้สอง ชนะหนึ่ง ก็น่าเศร้า เพราะถึงอย่างไร ก็สู้การไม่ปิดบริษัทไม่ได้ แต่หากแพ้หมดทั้งสามบริษัท

ก็น่าตกตะลึง ว่าความโลภทำไมทำให้คนเราหน้ามืดได้ถึงปานนี้


๒๓

นี้เป็นcase study สำหรับวิชา risk management เป็นตัวอย่างคลาสสิค ให้คนรุ่นหลังอย่าเอาเยี่ยงอย่าง คนภายนอก แม้แต่คนที่ไม่จำเป็นต้องฉลาดอะไรมาก ก็มองออกว่า บริษัทที่ผลประกอบการกำลังรุ่งขีดสุด กลับมาปิดบริษัท คือการทำร้ายตัวเอง เป็นความไร้เหตุผล ยังมีทางออกอีกมากมายให้เลือก

๒๔

ที่จริงทั้งสามบริษัทล้วนมีคนเก่งมีคนฉลาด มีคนมีไหวพริบ แต่ทำไมเกิดความมืดบอดได้ขนาดนี้

คำอธิบายหนึ่งเดียวที่ฉันพอนึกออกคือ พวกเขาถูกผ้าถุงนางนาคคลุมหัว ทำให้ตกอยู่ในความมืด

๒๕

ผลที่ออกมา อาจเป็นไปได้ว่าบริษัทใหม่ของหับไม่ประสบความสำเร็จ และไทที่กลับมาสร้างหนังใหม่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเช่นนั้น แสดงว่าวิญญาณแม่นาคเฮี้ยนมาก มืออันแสนยาวของเธอ ได้เอื้อมมาหยิบเงินคืน

๒๖

หรือบริษัทใหม่ของหับประสบความสำเร็จก็น่าสนใจยิ่งนัก แสดงว่าอาถรรพ์แม่นาคไม่เป็นความจริง และกฎแห่งกรรมก็ไม่ค่อยมีความหมาย แม้แต่หลักจริยธรรมก็ไม่สำคัญ กลายเป็นหลักเกณฑ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน ฉันว่าแปลกดี และน่าจับตายิ่งนัก

๒๗

หากคุณวิสูตรแพ้ ก็สรุปได้ว่า เขาคือนักกีฬาที่ขาดซ้อม และอายุมากแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎแห่งสังขาร ที่จริงไทเคยได้มาจากแม่นาคยุคก่อน สมัย นนทรีย์ นิมิบุตร กำกับฯ ตัวนนทรีย์ยังไปไม่รอด ฉันเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเขา หลังหนังเรื่องปืนใหญ่โจรสลัด ที่เขาหมดตัว ต้องเอาบ้านไปจำนอง เงินกำไรที่ได้จากแม่นาคต้องคืนกลับไปหมด

ฉันยังแปลกใจว่าทำไมคุณวิสูตรรอด อาจเป็นเพราะเขามีภูมิต้านทานนางนาค แต่หากคราวนี้แพ้ แสดงว่าครั้งนั้น เขาเพียงฟลุก แต่หากเขาชนะอีก ก็แสดงว่าเขามีภูมิต้านทานนางนาคจริงๆ ซึ่งประหลาดยิ่งนัก และคนอะไรจะมีอึดปานนั้น แม้แต่ตัวฉันยังไม่อยากเชื่อเลย

๒๘

หนังเป็นสิ่งแปลก มันไม่มีกฎตายตัว ใครคิดว่ากินชัวร์ ก็คือหลงผิด เตรียมตัวตาย แม้ GTH จะรวมตัวเหมือนเดิม ก็ยังไม่มีหลักประกันใดว่าเรื่องต่อไปจะประสบความสำเร็จ หรือหากประสบความสำเร็จ ยังได้อีกกี่เรื่อง เราไม่รู้จริงๆ นี้เป็นความเร้นลับของหนัง

๒๙

ต่อนี้ไป ใครแพ้ใครชนะไม่สำคัญ เพราะชีวิตก็ต้องมีขึ้นมีลง มีแพ้มีชนะ แต่ขอให้สู้กับแบบเปิดหน้า อย่าใส่หน้ากากแอบแฝง อย่าสร้างภาพมากจนเกินไป จนกลายเป็นความอำมหิตเงียบ

๓๐

โดยส่วนตัวฉันเชื่อในจริยธรรม แม้มันจะดูเหมือนไม่มีค่า ส่วนทรัพย์สมบัตินั้น สำหรับฉัน ที่สุดมันคือธุลีดิน แต่แน่ละ ท้ายที่สุดนี้ เราต่างล้วนรู้ว่า เราอยู่ในโลกมายา คำถามคือโปรแกรมต่อไปคืออะไร มันคือวิญญาณแม่นาคคะนอง หรือสามแพร่งตอนใหม่ หรือการกลับมาใหม่ของ Rocky


ที่มา มติชนสุดสัปดาห์