PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

มินอ่องหล่าย ลูกบุญธรรมป๋าเปรม

มินอ่องหล่าย ลูกป๋าเปรม? 

ผบ.สูงสุดพม่า โพสต์เฟซบุ้คเรื่อง 2 แรงงานพม่าถูกประหารแล้วก็ออกหน้าประสานตรงมายังกองทัพไทย ... นี่เป็นกระบวนท่าทางการเมืองที่เฉียบขาดมาก ได้ใจคนพม่าไปพอสมควร วันนี้จึงมีข่าวกลุ่มผู้เรียกร้องให้ช่วย 2 แรงงานเดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจาก อองซานซูจี อีกคน ... ประเดี๋ยว NLD คงมีท่าทีออกมา คอยดูกัน ! 

มินอ่องหล่ายเป็นหนึ่งในสามผู้มีอำนาจสูงสุดของพม่าเวลานี้ ในระดับเดียวกับ เต็งเส่ง ประธานาธิบดี แล้วก็อองซาน ซูจี ผู้มีเสียงสนับสนุนจากประชาชนในมือ

การเมืองพม่าที่กำลังเปลี่ยนผ่าน จะออกหัวก้อย ส่งมอบอำนาจกันราบรื่นแค่ไหน หน้าตาส่วนผสมเป็นยังไง ก็มินอ่องหล่าย ผบ.สูงสุดทหารพม่าคนนี้แหละที่จะมีส่วนด้วย รัฐธรรมนูญพม่ากำหนดให้ทหารไปมีส่วนในการบริหารกิจการความมั่นคง ต่อให้ซูจีถล่มทลายมายังไงแต่ไปก้าวก่ายกระทรวงกลาโหมและกิจการมั่นคงภายในไม่ได้ ไปยุ่มย่ามเปลี่ยนทิศทางยุทธศาสตร์เจรจาและจัดการชนกลุ่มน้อย ก็ไม่ได้ 

มินอ่องหล่าย เป็นผู้นำทหารที่โหงวเฮ้งดีมาก สำหรับผมแล้วเขามีบุคลิกหน้าตาดีกว่าบรรดาผู้นำทหารพม่าแทบทั้งหมดนับจากยุค อองซาน เนวิน มาเลย.... มินอ่องหล่ายเป็นสลอร์คแถวสอง พอคลื่นลูกแรก อันได้แก่ ตันฉ่วย หม่องเอ ขิ่นยุ้นต์ หมดไป ... ก็มี เต็งเส่ง ฉ่วยมาน แล้วก็ มินอ่องหล่ายนี่แหละที่ขึ้นมาแทน

ตันฉ่วย เป็นผู้นำเผด็จการพม่าที่หวังจะล้างอาถรรพ์ผู้นำสูงสุดคนแรกที่วางมือ ล้างในอ่างทองคำอย่างสงบราบรื่น เพราะคนก่อนๆ จบไม่สวยทั้งนั้น... แผนการปฏิรูปปี 2010 เปลี่ยนพม่าไปเป็นประชาธิปไตยเลือกตั้ง เป็นตันฉ่วยนี่แหละที่ทุบโต๊ะเดินหน้า  จากนั้นก็วางตัวคนที่เหมาะสมลงตำแหน่งและบทบาทต่างๆ  มินอ่องหล่าย เป็นนักการทหาร/คิดและพูดแบบทหาร คำพูดของเขาก็ชัดเจนไม่ต้องอ้อมค้อมว่า จะเลือกตั้งยังไงก็เหอะ แต่ปัญหาชนกลุ่มน้อยความมั่นคงทั้งหลายต้องเป็นไปตามแบบเดิม 

ผมเชื่อว่าอองซานซูจีและพรรค NLD เลือกเดินตามยุทธศาสตร์ปรองดองแบบที่ ตันฉ่วย/คณะทหาร กำหนดไว้  หน้าตาของรัฐบาลไปจนถึงยุทธศาสตร์นโยบายยังเป็นตามทหารเป็นสำคัญ 

ดังนั้นมินอ่องหล่าย จะกลายเป็นขั้วอำนาจหลักสำคัญในโครงสร้างการเมืองพม่าที่กำลังจะแปลงร่างสวมเสื้อประชาธิปไตยในตอนนี้ ต่อให้เต็งเส่งถอยลงจากเวที ฉ่วยมานกลายเป็นผู้กว้างขวางนักการเมืองแบบใหม่มากกว่านายทหาร  แต่มินอ่องหล่ายต้องเดินอยู่ตรงจุดเดิม 

ไทยรัฐเคยมีสกู๊ปเมื่อปี 2557 บอกว่า มินอ่องหล่าย เป็นลูกบุญธรรมของป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะเมื่อปี 2555 ได้ประสานขอเข้าพบ แล้วก็ขอฝากตัวเสมือนบุตรบุญธรรมคนหนึ่ง ป๋าก็อนุญาต จากนั้นเวลาเขามาไทยแต่ละครั้งก็ต้องเข้าพบบิดาบุญธรรมอยู่เสมอ 

เฉพาะเรื่องนี้ แสดงว่าลีลาการเมืองระหว่างประเทศขั้นเทพของมินอ่องหล่าย ไม่ธรรมดาเลย 

การออกมาแสดงบทบาทนำในกรณี 2 แรงงานพม่าต้องโทษประหารของมินอ่องหล่ายรอบนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน  

ปรากฏการณ์แรงงานพม่าที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมา 3-4 วัน ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าอะไรเกิดขึ้นดับไป/อะไรที่จุดแล้วยุบไปพอเป็นพิธี /อะไรที่เดินหน้าต่อ/ อะไรที่ตื่นตูม เอะอะก็เล่นงิ้วออกบทแบบอัตโนมัติ / ฯลฯ ก็เห็นๆ กันอยู่ตามประสาสังคมไทย อย่าไปรื้อฟื้นอะไรเลย เพราะคนไทยเคยชินกับออกงิ้วลิงค่างตามสถานการณ์เร้าแบบนี้อยู่เสมอ 

แว่นสายตาที่เราสวมใส่ บางทีจำกัดให้เราคิดและเชื่อไปตามประสาสีแว่น การแสดงออกของเราบางทีก็เป็นไปตามข้อสรุปตายตัวแบบที่เรากอดเอาไว้ โดยไม่ต้องพักมองหรือฟังเรื่องอื่นอีกแล้ว  

สำหรับคนไทยบางกลุ่มคนเชื่อว่านี่เป็นการเมืองของไทยที่ไปอยู่เบื้องหลัง... ขณะที่คนพม่าอีกกลุ่มหนึ่งมองปรากฏการณ์นี้คาบเกี่ยวกับการฉวยโอกาสช่วงชิงสถานะในเวทีการเมืองของพม่า  หึหึ!  

งวงช้าง หรือหางช้าง เป็นส่วนหนึ่งของช้าง ใครแยกแยะได้ก็จำเริญสติ ใจร่มสบายไป...ส่วนบางพวก เขาบอกว่างวงช้างเป็นแบบนี้  กลับเดือดดาลกระเหี้ยนกระหือรือ เถียงอยู่นั่น ไม่ใช่ๆๆๆๆ   ต้องยาวๆ ตรงปลายมีขน โบกได้... เขาว่าอย่าง ไอ้นี่ก็หมกมุ่นเถียงไปอีกอย่าง สนุกดี 

ตลอดสองสามวันมานี้ ปรากฏการณ์ข่าวแรงงานพม่าสะท้อนภาพอะไรต่อมิอะไรของสังคมการเมืองไทยได้ดีระดับหนึ่งทีเดียว 

เก๊าะไงล่ะ...แล้วไงล่ะ....เอาเป็นว่า...เอาตามที่พี่สบายใจเห๊อะ!
///
Fb บัณรสบัวคลี่

ไม่มีความคิดเห็น: