PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สถานการณ์ข่าว29/12/57

Jab29Dec14
ในหลวง

ในหลวง เสด็จลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช มีประชาชนมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

วันนี้ (29ธ.ค.) เวลา 16 นาฬิกา 19 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินจากโรงพยาบาลศิริราช ไปโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงเปลี่ยนพระ

อิริยาบท มีคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ทราบข่าวเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหันพระพักต์ ทอดพระเนตรและแย้มพระสรวลให้กับ

ประชาชนที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ประชาชนทุกคนต่างปลื้มปิติ และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ นับเป็นมงคลยิ่ง ที่ได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

โอกาสนี้ได้ทอดพระเนตรกิจการของร้านโกลเด้นเพลส สาขาที่ 10 ตั้งอยู่ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ทรงเลือกซื้อสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เช่น นมเปรี้ยว

จิตรลดา นมจืดจิตรลดา ไอศกรีม และผลไม้ต่างๆ

จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปยัง ชั้น 7 สถาบันแพทย์แผนไทย เสวย พระสุธารส ตามพระราชอัธยาศัย พร้อมทอดพระเนตรริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและทัศนียภาพโดยรอบ ก่อนที่จะเสด็จพระ

ราชดำเนินกลับไปประทับ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราชในเวลา 17 นาฬิกา
///////////////////
รธน.

"มานิจ" ยันเนื้อหา รธน.ใหม่ ไม่ถอยหลังลงคลอง พร้อมรับข้อห่วงใย นักการเมือง-ปชช.มาพิจารณาปรับปรุงใหม่

นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 2 เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ภายหลังจากมีการเสนอกรอบกว้างๆ ซึ่งเป็นมติของ กมธ.ยกร่างฯ เกี่ยวกับรูปแบบ ที่มา

ของนายกฯ และ ส.ส.ทำให้พรรคการเมืองออกมาแสดงความคิดเห็น แสดงความวิตกกังวลนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะว่ายังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งหมด ซึ่งข้อคิดเห็น ข้อห่วงใยดังกล่าวนั้น

กมธ.ยกร่างฯ ก็จะรับฟัง และนำมาปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียดเพื่อทำให้ รธน.ฉบับใหม่ มีความสมบูรณ์มากที่สุด ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นการ "ถอยหลังลงคลอง" เพราะมีการระบุให้

นายกฯ มาจากคนนอก และ ส.ส.ไม่สังกัดพรรค ก็อาจจะพูดได้ แต่ยืนยันในรายละเอียดจะมีการเขียนอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือน ในอดีตที่ผ่านมาอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ รองประธาน กมธ.ยกร่าง รธน. คนที่ 2 ยังกล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องคุณสมบัติของ ส.ส. เกี่ยวกับวุฒิการศึกษานั้น ยังไม่ได้มีการหารือ คาดจะชัดเจนในขั้นรายมาตรา ที่จะเริ่มเขียน ในวันที่ 5-11 ม.ค.

58 ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.ชุดใหญ่ ในวันที่ 12 ม.ค. 58 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการเชิญทูตต่างประเทศ รวมถึงสื่อไทย และต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังด้วย
---------------
สปช. ทยอยถึงสภา เตรียมประชุม เพื่อพิจารณารายงานศึกษาเรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก

บรรยากาศล่าสุดที่อาคารรัฐสภา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ในขณะที่ สมาชิก สปช. ทยอยเดินทางมาร่วมประชุม ตามที่ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (

สปช.) มีคำสั่งนัดสมาชิก ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยมีระเบียบวาระเพื่อพิจารณารายงานศึกษาเรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามัน เป็นเขตมรดกโลก ที่คณะกรรมาธิการปฏิรูป

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาเสร็จแล้ว เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม สปช.อีกทั้ง ยังเป็นเรื่องที่อยู่ในโครงการปฏิรูปเร็ว หรือ QUICK WIN ที่สามารถผลักดันได้ทันที โดยไม่

ต้องรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
----------------
สปช. "จรัส" อภิปรายสนับสนุน เสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามัน เป็นเขตมรดกโลก ชี้ ส่งผลดีด้านวิชาการ-ท่องเที่ยว

บรรยากาศการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีระเบียบวาระเพื่อพิจารณารายงานศึกษาเรื่อง การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก ที่คณะกรรมาธิการปฏิรูป

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาเสร็จ ล่าสุด อยู่ในระหว่างเปิดให้สมาชิกอภิปราย โดย นายจรัส สุทธิกุลบุตร สมาชิก สปช. กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะเสนอพื้นที่ดังกล่าวเป็นมรดกโลก
เพราะจะส่งผลให้การดำเนินการจัดการดูแลควบคุมเป็นระบบมากขึ้น ต่างชาติจะให้ความสนใจและให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ ยังส่งผลดีในเรื่องการศึกษาด้านวิชาการ เพราะพื้นที่อนุรักษ์ในทะเล

อันดามัน นั้น มีความหลากหลายทางชีวภาพ และที่สำคัญที่สุด เมื่อเป็นพื้นที่มรดกโลก จะทำให้ชาวต่างชาติ ให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่
เพียง 6 จังหวัด ในพื้นที่อนุรักษ์เท่านั้น แต่จะเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

นอกจากนี้ นายจรัส ยังกล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ จ.พะเยา เพื่อเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นของกรรมาธิการปฏิรูปแรงงาน ซึ่งได้ถามประชาชนในพื้นที่ว่า เห็นด้วยกับการเสนอพื้นที่อนุรักษ์ทะเล

อันดามัน เป็นพื้นที่มรดกโลก หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ นั้น ยินดีและสนับสนุน
---------------------
"พรเพชร" ป้องนายกฯ เชื่อใช้ ม.44 เมื่อจำเป็น ใช้เฉพาะเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น หรือกรณีใช้กฎหมายปกติไม่ได้เท่านั้น

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2557 (ชั่ว

คราว) ปิดสื่อที่สร้างความแตกแยกให้กับประเทศ ว่า เจตนารัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องดังกล่าว แต่จำเป็นต้องให้อำนาจพิเศษของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หาก

มีปัญหาที่กฎหมายปกติ ไม่สามารถแก้ไขได้

ทั้งนี้ ทราบว่า นายกฯ จะใช้มาตราดังกล่าวกับเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยจะยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ก่อนหน้านี้ ที่ระบุให้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 สั่งให้สมาชิกท้องถิ่น ที่กำลังจะหมดวาระในต้นปี

2558 อยู่รักษาการตำแหน่งต่อไป โดยไม่มีการสรรหาหรือจัดการเลือกตั้งตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กำลังมีแนวคิด
-------------------
"วิษณุ" ชี้ ปมนายกรัฐมนตรีคนนอก แค่โยนหินถามทาง ยังไม่ตกผลึก ต้องกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสรุป

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงข้อเสนอในชั้นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่มาของนายกรัฐมนตรีคนนอก เป็นการโยนหินถามทาง โดยส่วนตัวได้คุย

กับกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2-3 คน บอกว่า ยังไม่ใช่ข้อสรุปอะไรส่วนการเสนอรูปแบบวุฒิสภานั้น ยังจับประเด็นไม่ได้ว่า สุดท้ายกรรมาธิการฯ จะยึดตามที่เสนอออกมาในขณะนี้หรือไม่ ทั้งนี้

ไม่อยากให้วิจารณ์กรรมาธิการฯ มากนัก เพราะข้อเสนอทั้งหลายยังไม่ตกผลึก และเชื่อว่าทุกคนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่อาจมีความรู้สึกคนละแบบ สำหรับเรื่ององค์กรอิสระ ต้องดู 3 ข้อหลัก คือ

1.ที่มาต้องสมเหตุสมผลเพื่อรองรับการมีอำนาจ 2.จำนวน หากน้อยไป แต่มีอำนาจเด็ดขาดก็จะลำบาก 3.อำนาจ บางครั้งกำหนดให้อำนาจองค์กรอิสระไปทั้งหมด
///////////////
เคลื่อนไหวนายกฯ
นายกรัฐมนตรี เตรียมนำ ครม. คสช. เข้าอวยพรปีใหม่ พลเอกเปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

ความเคลื่อนไหวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เช้านี้ เวลา 08.00 น. เตรียมนำคณะรัฐมนตรีและคสช. เข้าอวยพรปีใหม่ พลเอก

เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ จากนั้น เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี เป็นจะประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านฮาลาล ณ ห้องประชุม

บางกอกคอนเวนชั่นเซนเตอร์ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ใน

ฐานะ ผู้บัญชาการทหารบก จะนำคณะนายทหาร เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
------------------
นายกรัฐมนตรี เปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านฮาลาล ร่วมประกาศศักยภาพฮาลาลไทยที่หนึ่งในโลก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านฮาลาล ณ ห้องประชุมบางกอก

คอนเวนชั่นเซนเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ที่จัดขึ้นโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมาการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและสถาบัน

มาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อแสดงศักยภาพของกิจการฮาลาลประเทศไทย ที่เชื่อถือในตลาดโลก พร้อมเป็นการเปิดตัว

สัญลักษณ์ Thailand Dimon Halal สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ส่งออกและผู้บริโภค ได้ประกาศศักยภาพที่สุดแห่งฮาลาลไทย อีกทั้ง ได้รับรู้ถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นในระบบและกระบวนการดำเนิน

งานภายใต้หลักการศาสนาและวิทยาศาสตร์รับรอง
----------------------
มาสเตอร์โพล ประเมินผลงานรัฐบาลสอบผ่านถึงร้อยละ 97.4 นายกฯ คะแนนสูงสุด ขณะกระทรวงเกษตรฯ-ศธ.-พาณิชย์ มีภาพลักษณ์ต้องแก้ไข

ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน "มาสเตอร์โพล" เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ครม.ประยุทธ์ 1 กับผลการประเมินเป็นรายบุคคล จากแกนนำชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 602 ชุมชน ในระหว่างวันที่

24-27 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 97.4 ประเมินว่าในการทำงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้ คณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สอบผ่าน มีเพียง ร้อยละ 2.6 ที่ระบุว่า สอบไม่ผ่าน

โดย 5 อันดับแรกที่สอบผ่าน และมีคะแนนสูงสุด ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 97.8 , นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและ

กีฬา ร้อยละ 96.7 ,  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 95.4 , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 95.3 , นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง

มหาดไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า กระทรวงที่มีผลงานน่าประทับใจที่สุด 3 อันดับแรก ร้อยละ 49.1 กระทรวงกลาโหม , ร้อยละ 26.1 กระทรวงมหาดไทย และร้อยละ 15.2 กระทรวงยุติธรรม ส่วนกระทรวง

ที่มีภาพลักษณ์ต้องแก้ไข ร้อยละ 28.3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 24.4 กระทรวงศึกษาธิการ และร้อยละ 11.7 ระบุ กระทรวงพาณิชย์
--------------------
ม.ล.ปนัดดา พอใจผลงานศูนย์บริการ ปชช. มีเรื่องร้องเรียน 111, 399 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.2 เท่า แก้ไขไปแล้วร้อยละ 90

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการสรุปข้อมูลดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ของศูนย์บริการประชาชน ว่า ในช่วงที่คณะรักษาความสงบ

สุขแห่งชาติ (คสช.) และต่อเนื่องรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. - 26 ธ.ค. 2557 โดยเปิดช่องทางในการร้องเรียน 5 ช่องทาง รวมทั้งสิ้น 151,778 ครั้ง จำนวน 111,399 เรื่อง

หากเปรียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา สูงขึ้นถึง 3.2 เท่าตัว ทั้งนี้ ผลดำเนินการไปแล้ว ร้อยละ 90.2 รอผลการพิจารณา ร้อยละ 9.8 ซึ่งเป็นเรื่องของกลุ่มมวลชนที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา เช่น

ที่ดินทำกิน หนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ และการจัดระเบียบชุมชน สังคม

อย่างไรก็ตาม ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า พอใจกับผลสรุป แต่ขอให้ประชาชนระวังเรื่องของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งไม่ต้องการให้ถูกหลอก และในปี 2558 จะเพิ่มช่องทางในการยื่นเรื่องร้องทุกข์ และติดตาม

ผลด้วยตนเองผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
----------------------
นายกรัฐมนตรี หวังเหตุบ้านเมืองยุติโดยเร็ว ยันรัฐบาลเร่งรัดแก้ปัญหา พร้อยลุยปฏิรูปประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ชี้แจงถึงการเข้ามาบริหารงานของรัฐบาลภายในงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านฮาลาล ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับชาวมุสลิมโดย

ตรง ในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลยืนยันจะขับเคลื่อนประเทศ เร่งรักษาความสงบในพื้นที่ภาคใต้ และการปฏิรูปประเทศ พร้อมให้คำมั่นต่อ โอไอซี ว่า รัฐบาลจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด พร้อม

หวังให้เหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมืองยุติโดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้เป็นไปตามกลไกกฎหมายโลก ยึดหลักสากล ทั้งนี้ เห็นว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มาจากรายได้และอาชีพที่ทำให้

เกิดความเหลื่อมล้ำ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง อาจมีความรุนแรงเกิดขึ้นบ้าง แต่ยืนยันจะทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อคืนความสุขให้คนไทย ทั้งไทยพุทธ-ไทยมุสลิม โดยหากมีสิ่ง

ใดที่ติดค้างในใจขอรับไว้แต่เพียงคนเดียว และขอให้เวลาที่เหลือร่วมกันเดินหน้าประเทศต่อไป คืนดินแดนที่สุขสงบและสันติ
-------------
นายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติภารกิจทำเนียบรัฐบาลแล้ว หลังเปิดงานฮาลาล ยันเตรียมพร้อมสู่ประชาชคมอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านฮาลาล พร้อมระบุว่า

การจัดงานครั้งนี้แสดงให้เห็นศักยภาพ และยกระดับอาหารฮาลาลไทยไปสู่นานาชาติ ซึ่งไทยมีความสามารถในการผลิตอาหาร รวมถึงสินค้าเกษตร หากได้รับการพัฒนาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

และเมื่อเกิดการแข่งขันเราจะต้องตระหนักถึงการเป็นหุ้นส่วนทางด้านการค้า ทั้งนี้ ในปี 2558 จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ถือเป็นตลาดใหญ่ รัฐบาลจึงเตรียมความพร้อมเร่งขับเคลื่อนให้ทัน

เวลา เน้นการสร้างความเชื่อมโยง รวมกลุ่มให้เกิดความสามัคคีในอาเซียนทั้งหมด หากทำได้ทัน จะสามารถรองรับชาวมุสลิมที่มีอยู่ในอาเซียน 300 ล้านคน โดยขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบจะต้องถูก

หลักศาสนาให้ได้มาตรฐานสากล
////////////////
ป๋าเปรม

พล.อ.ประวิตร เตรียมนำ ผบ.เหล่าทัพ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เข้าอวยพร-รับพรปีใหม่จาก พล.อ.เปรม ขณะสื่อรอแน่น

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก พลเอกศิริ

ชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลอากาศเอกตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลเรือเอกไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ

พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพ เข้าเยี่ยมคำนับ อวยพรและรับพร เนื่องในวันปีใหญ่ จาก พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธาน

องคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ ขณะที่มีสื่อมวลชนมาคอยติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ
-----------------
นายกฯ นำคณะรัฐมนตรี คสช. และ ผบ.เหล่าทัพ เข้าอวยพรปีใหม่ ขอพรจาก พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง

กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงการต่างประเทศ และ คสช. ตลอดจนผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพรปีใหม่ 2558 และขอพรปีใหม่จาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดย

รัฐบาลตระหนักดีว่า พล.อ.เปรม มีคุณูปการด้านผู้นำต่อประเทศชาติ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และด้วยเกียรติประวัติ จะขอยึดถือเป็นแบบอย่างในการบริหารราชการแผ่นดิน นำ

พาประเทศเดินหน้า มั่นคงและยั่งยืน พร้อมขอให้สุขภาพแข็งแรง

ในโอกาสนี้ พล.อ.เปรม ได้มอบหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นบ้านเกิด พ.ศ. 2557 แก่นายกรัฐมนตรี ครม. และเหล่าที่เข้าร่วมอวยพรด้วย
-------------------
พล.อ.เปรม ขอบคุณนายกฯ ทำประเทศเกิดความสงบ ขอกองทัพช่วยรัฐบาลเต็มที่ อวยพรให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการเพื่อสนองคุณชาติ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่มาอวยพรปีใหม่ พร้อมกับชื่นชมที่ได้เข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ ทำให้ประเทศมีความสงบ

เรียบร้อย ไม่ต้องทะเลาะกัน ซึ่งวันนั้น เป็นวันที่แสดงให้เห็นว่า ทหารกับกองทัพ เมื่อถึงคราวที่จำเป็นก็ต้องออกมาทำหน้าที่ดูแลชาติบ้านเมือง จึงควรภูมิใจในสิ่งต่างๆ ที่ได้กระทำ ถือเป็นการ

กระทำที่ยิ่งใหญ่ ตอบแทนคุณบ้านเมือง เป็นการแสดงความจงรักภักดี ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย และภูมิใจกับการกระทำของนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ได้ขอให้ทุกกองทัพให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล พร้อมอวยพรให้ นายกรัฐมนตรี และคณะ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการทำเพื่อสนองบุญคุณชาติ

ถวายความจงรักภักดีให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอให้สิ่งที่ทำเพื่อชาติประสบความสำเร็จ มีความปลอดภัยและได้รับความร่วมมือ
จากทุกส่วน
---------------------
พล.อ.เปรม ชื่นชมการตัดสินใจของนายกฯ แสดงให้เห็นว่า ไม่ทอดทิ้งประชาชน ขอคนไทยร่วมมือ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวในโอกาสเปิดบ้านให้นายกรัฐมนตรี และคณะ เข้าอวยพรปีใหม่ ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเคยได้พูดกับนายกรัฐมนตรี เป็นการส่วนตัว

ถ้าออกมาแล้ว คงถอยกลับไม่ได้ และต้องเดินหน้าอย่างกล้าหาญ เป็นสุภาพบุรุษ ที่มีความเป็นไทยอยู่ในสายเลือด ซึ่งถือว่าครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่แสดงให้เห็นว่าเราไม่ทอดทิ้งประชาชน และถือเป็น

โอกาสที่เสี่ยงที่สุดที่เราจะได้แสดงให้เห็นว่า เมื่อไรบ้านเมืองมีวิกฤตินั้น ทหารจะเข้าไปดูแลบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กำลังทำอยู่ จึงอยากให้คนไทย มอง

เรื่องนี้ว่า เป็นหน้าที่โดยตรงของทหาร และให้ความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรี

พร้อมกันนี้ พล.อ.เปรม ยังกล่าวว่า รู้ว่าทุกคนเหนื่อย แต่เหนื่อยเพื่อชาติ เพื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อคนไทย ให้นึกถึงสิ่งเหล่านี้ ก็จะทำให้หายเหนื่อยและเป็นกำลังใจในการสู้ต่อไป
///////////////
คดีพงษ์พัฒน์

//////////////
ความมั่นคง

ผบ.ทบ. ย้ำทุกหน่วยเข้มงวดช่วงปีใหม่ การข่าวยังไม่พบอะไรน่าเป็นห่วง แต่ห้ามประมาท อวยพรปีใหม่ ให้ ปชช. มีความสุข สมปรารถนา

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจงและสั่งการแก่ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 1/2558(วาระพิเศษ) ว่า

ในวันนี้ได้เน้นย้ำกับผู้บังคับหน่วยให้เข้มงวด ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ แต่จากการข่าวสถานการณ์ในขณะนี้ ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ประมาท

พร้อมกับได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไปตรวจดูสถานที่จัดงานในช่วงปีใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดอันตราย และให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย รวมถึง

ได้อวยพรปีใหม่ให้กับประชาชน โดยขอให้ประชาชน มีความสุข สมปรารถนา และให้มั่นใจว่า ทาง กองทัพบก จะดูแลความสงบสุขของประเทศชาติต่อไป

นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าวถึงคำอวยพรปีใหม่จาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อเช้าว่า ถือเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป ให้กับตนเองและทุกคนที่ได้รับพร
------------------
ผบ.สส. เป็นประธานในพิธีมอบของขวัญวันขึ้นปีใหม่ ให้กับประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ พร้อมอวยพรปีใหม่กำลังพล

พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีมอบของขวัญวันขึ้นปีใหม่ให้กับประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และให้พรกำลังพล เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ณ ห้องนเรศวร กอง

บัญชาการกองทัพไทย

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดมาจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณความกดดันอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศ จึงทำให้มีประชาชนประสบภัยพิบัติ ภัยหนาว และอุทกภัยในหลาย

พื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความห่วงใยในความทุกข์ยากของประชาชน จึงมอบผ้าห่มและถุงยังชีพเป็นของขวัญปีใหม่แก่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อนำไปมอบให้กับ

ประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่ได้รับความทุกข์ยาก เนื่องจากภัยพิบัติ และฝากความห่วงใยถึงประชาชนด้วย

นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พล.อ.วรพงษ์ จึงได้มอบพรปีใหม่ให้กับกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งได้ปฏิบัติงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

อ้างหลาน"บิ๊กป๊อก"ตุ๋นร้อยล้าน

แจ้งจับหนุ่มสกุล"เผ่าจินดา" อ้างหลาน"บิ๊กป๊อก"ตุ๋นขายหุ้น 100 ล้าน
Cr:ผู้จัดการ
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.อัจฉรา สุริยเรืองเวท อายุ 36 ปี พร้อมพวกอีกกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมมาตร เผ่าจินดา อายุ 35 ปี ในข้อหา "ฉ้อโกง" หลังถูกนายสมมาตรหลอกขายหุ้น IPO มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยนำข้อความที่แชทสนทนาผ่านโปรแกรมไลน์ระหว่างกลุ่มผู้เสียหายกับนายสมมาตร มามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.อัจฉรา กล่าวว่า รู้จักกับนายสมมาตร มากว่า 10 ปี เพราะเป็นเพื่อนเรียนร่วมรุ่นกันมา และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายสมมาตรได้มาเสนอขายหุ้น IPO กับเพื่อนร่วมรุ่นอีกกว่า 30 คน โดยพยายามสร้างความน่าเชื่อถือว่ารู้จักกับผู้ใหญ่หลายคน และแอบอ้างว่าเป็นหลานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พวกตนจึงหลงเชื่อซื้อหุ้นดังกล่าว ไปจำนวนมากโดยตนสูญเงินไปกว่า 5 ล้านบาท
น.ส.อัจฉรา กล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินปันผล นายสมมาตร พยายามบ่ายเบี่ยงว่าเงินติดการตรวจสอบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง. ) ทำให้จ่ายเงินล่าช้า และมีการเสนอขายหุ้นตัวใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหลายตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายปาณสาร หรือมีน สมชีวิตา อายุ 33 ปี บุตรชายนายสันทัด สมชีวิตา คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) และอดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม หลังจากหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันกว่าเกือบ 30 คน ซึ่งตนทราบมาตลอดว่านายปาณสาร มีความสนิทสนมกับนายสมมาตร ตนจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเช่นเดียวกัน
น.ส.อัจฉรา กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นตนก็พยายามติดต่อไปยังนายสมมาตรแต่กลับถูกอ้างว่า กำลังพยายามหาเงินมาให้ หากแจ้งความจะไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้ารอจะได้เงินต้นและดอกเบี้ยคืน ตนและเพื่อนจึงตัดสินใจรอ แต่ร่วมเดือนก็ไม่ได้รับการเจรจาไกล่เกลี่ยหรือดำเนินการใดๆ โดยเมื่อเช้าตัดสินใจโทรไปถามนายสมมาตรอีกครั้งว่าจะเอายังไง เขากลับบอกว่าเขาเตรียมทนายไว้แล้ว และจะไม่เจรจาและไม่มีการจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าอยากได้ก็ให้ฟ้องเอา พวกเราเลยตัดสินใจรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดี เพื่อยืนยันว่าหลังจากนี้พวกเราก็จะไม่ยอมความ และจะไม่มีการเจรจาใดๆ พร้อมทั้งจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้าน ร.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป


ผู้ต้องหา อาบูบาก้า มอบตัวเพิ่ม4คน

ตร.ผู้ต้องหาคดีอาบูบาก้า ก๊วน “พงศ์พัฒน์” เข้ามอบตัวเพิ่มอีก 4 นาย
Cr:ผู้จัดการ
นายตร. สังกัดกองปราบ ผู้ต้องหาคดีบ่อนออนไลน์อาบูบาก้า ก๊วน “พงศ์พัฒน์” เข้ามอบตัวที่ สน.พหลโยธิน เพิ่มอีกราย 4 ราย พร้อมนำหลักทรัพย์เพื่อวางประกันตัวรายละ 600,000 บาท โดยทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนถูกนำตัวไปค้นห้องพัก บช.น.ขีดเส้นผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือหากยังหลบหนีเจอชุดไล่ล่า
วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน ความคืบหน้ากรณีคดีบ่อนพนันออนไล์อาบูบาก้า เครือข่ายของ พล.ต.ท.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ซึ่งได้ออกหมายจับทั้งสิ้น 14 ราย เป็นพลเรือน 1 รายว่า พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ ผกก.ทุ่งครุ รรท.ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ท.สมนึก สันติภาตะนันท์ พนักงานสอบสวนผู้ขำนาญการพิเศษ สน.พหลโยธิน ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวของ พ.ต.ท.วัฒนา ผลงานดี อดีตสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.3 บก.ป.) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2347/2557 ลงวันที่ 24 ธ.ค.57 พ.ต.ต.อภิสิทธิ์ เมฆประยูร อดีตสารวัตรปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.ปพ.บก.ป.) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2350/2557 ลงวันที่ 24 ธ.ค.57 ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร อดีตรองสารวัตรปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (รอง สว.กก.ปพ.บก.ป.) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2344/2557 ลงวันที่ 24 ธ.ค.57 และ ร.ต.อ.ศักรินทร์ เกษรเทียน รองสารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (รอง สว.กก.4 บก.ปคม.) ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาที่ 2348/2557 ลงวันที่ 24 ธ.ค.57 ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ และร่วมกันเป็นเจ้าหนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีรับสินบนระหว่างปฎิบัติหน้าที่ปราบปรามการพนันฟุตบอลออนไลน์ หรืออาบูบาก้า เมื่อปี 2552 พร้อมนำหลักทรัพย์มาประกันตัวในวงเงิน 600,000 บาทต่อคน
ด้าน พ.ต.อชยุต มารยาท รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้ติดต่อเข้ามอบตัวที่ สน.พหลโยธิน พร้อมทั้งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นบ้านพัก จากนั้นจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ส่วนผู้ต้องหาที่ยังไม่มาติดต่อขอมอบตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เวลาถึงวันที่ 29 ธ.ค.57 นี้เท่านั้น แล้วจะดำเนินการจับกุมตามหมายจับทันที
ด้าน ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาให้รับทราบ พร้อมทั้งดำเนินคดีในมาตรา157 ที่ระบุว่า เป็นเจ้าพนักงาน และมาตรา 148 ที่ระบุว่าเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ ทั้งนี้ ทางผู้ต้องหายังไม่ได้ยื่นหลักฐานเพื่อขอประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนขั้นตอนการสอบสวนพบว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว จะทำการสืบสวนติดตามเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดประสานไปยังต้นสังกัดของข้าราชการตำรวจที่มีชื่อในหมายจับเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า ให้มามอบตัวตามระยะเวลาที่กำหนด


เบื้องหลังเดลินิวส์ประกาศ16พนง.สิ้นสภาพศึกในตระกูล เหตระกูล

เบื้องหลัง!เดลินิวส์ ประกาศ16พนง. สิ้นสภาพ -ศึกสายเลือด "เหตระกูล" ระอุ

เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม 2557 เวลา 13:14 น.
เขียนโดย
isranews
"..พนักงานบางส่วนที่ถูกประกาศให้พ้นสภาพ เป็นบก.ข่าว ที่ผันตัวมาช่วยงานทีวี NEW)TV แต่ผู้บริหารระดับสูงระหว่างคนในตระกูลเหตระกูลด้วยกัน ที่ดูแลหนังสือพิมพ์ กับ ทีวี มีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ก็เลยประกาศตัดขัดไม่ยุ่งเกี่ยวกัน.." 
pedddddcccchhh
สร้างความฮือฮา! ให้กับคนในวงการสืออีกครั้ง เมื่อ "หนังสือพิมพ์เดลินิวส์" ฉบับวันที่ 28 ธ.ค.2557 ได้เผยแพร่ประกาศรายชื่อบุคคล ซี่งพ้นจากสภาพการเป็นพนักงาน ของ บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด และบริษัทในเครือ จำนวน 16 คน 
พร้อมระบุว่า "โดยบุคคลดังกล่าว ได้พ้นจากการเป็นพนักงานตั้งแต่วันที่ระบุข้างต้น ดังนั้น การกระทำใดของบุคคลดังกล่าว นับแต่วันที่บุคคลดังกล่าวพ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน ถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทอีกต่อไป"
(ดูรูปประกอบ)
peccfghghjhjhj
คำถามที่น่าสนใจ คือ พนักงานทั้ง 16 รายนี้ ทำความผิดอะไร ถึงทำให้ต้องถูกออกประกาศแจ้งให้พ้นสภาพความเป็นพนักงาน จากบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด (เดลินิวส์) แบบ "ตัดบัวไม่เหลือใย" แบบนี้ 
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยังหนึ่งในพนักงาน 16 คน ที่ถูกประกาศพ้นสภาพดังกล่าว เพื่อสอบถามความจริง แต่ได้รับการปฏิเสธ 
พร้อมระบุว่า "เรื่องนี้ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปสนใจเลย"
เมื่อถามว่า ทำไมถึงถูกออกประกาศให้พ้นสภาพความเป็นพนักงาน พนักงานรายนี้ ตอบว่า "ไม่ทราบเหมือนกัน ตอนนี้เรามาทำงานทีวี ลาออกจากหนังสือพิมพ์มานานแล้ว"
เมื่อถามว่า สรุปยังเป็นพนักงานในเครือเดลินิวส์หรือไม่ พนักงานรายนี้ ตอบว่า "มาทำอยู่ทีวี ทำนานแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกัน เพิ่งเห็นลงประกาศพ้นสภาพในหนังสือพิมพ์เหมือนกัน"
"อย่าไปสนใจมากเลยเรื่องนี้ เรื่องของผู้ใหญ่เขา เราเป็นพนักงานเราไม่รู้อะไรมากหรอก"
แหล่งข่าวระดับสูงในเดลินิวส์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า  พนักงานบางส่วนที่ถูกประกาศให้พ้นสภาพ เป็นบก.ข่าว ที่ผันตัวมาช่วยงานทีวี NEWTV ส่วนเหตุผลที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผู้บริหารระดับสูงระหว่างคนในตระกูล "เหตระกูล" ที่ดูแลหนังสือพิมพ์ กับ ทีวี มีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ก็เลยประกาศตัดขัดไม่ยุ่งเกี่ยวกัน 
"เมื่อ นสพ.ไม่นับ NEW)tv เป็นเครือญาติ จึงต้องทางใครทางมัน พนักงานบางส่วนที่ถูกประกาศให้พ้นสภาพก็เป็นพนักงานขายโฆษณา และเมื่อ NEW)tv ทำแท็บลอยด์ "new)108" เป็นหนังสือพิมพ์ไลฟ์สไตล์รายวันน้องใหม่ ออกทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ ( ยกเว้นวันหยุดนักขตฤกษ์) แจกฟรีตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 100 จุด) ทำให้เกิดศึกแย่งชิงโฆษณากัน เมื่อมีการทับไลน์เกิดขึ้น ยักษ์ใหญ่สีบานเย็นเลยไม่ยอม จึงเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น"
จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด รับผิดชอบธุรกิจหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2506 ทุนปัจจุบัน 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 1/4 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ขายหนังสือพิมพ์รายวัน ขายโฆษณา - ผู้ผลิต,ค้าปลีก,ค้าส่ง
ปรากฎชื่อ นางประไพ เหตระกูล ,นายประชา เหตระกูล ,พลตำรวจโท ประเสริฐ เหตระกูล , นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด , นางประทิน เหตระกูล, นางประพิณ รุจิรวงศ์ , นายปารเมศ เหตระกูล ,นายพิสิฐ เหตระกูล , นายกิตติพันธุ์ เหตระกูล ,นายภาสภณ เหตระกูล  และนางสาวผวราภรณ์ ปุ้ยพันธวงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ 
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 เมษายน 2557 มี 25 ราย  ประกอบไปด้วย 
1 บริษัท แสงเอ็นเตอร์ไพรส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 534,400 หุ้น มูลค่า 534,400,000 บาท 
2 นายประชา เหตระกูล  ถืออยู่ 38,800 หุ้น มูลค่า 38,800,000 บาท 
3 นางประทิน เหตระกูล ถืออยู่ 38,800 หุ้น มูลค่า 38,800,000 บาท
4 นางประไพ เหตระกูล ถืออยู่ 38,800 หุ้น มูลค่า 38,800,000 บาท
5 พล ต.ท.ประเสริฐ เหตระกูล ถืออยู่ 38,800 หุ้น มูลค่า 38,800,000 บาท
6 นายพิสิฐ เหตระกูล ถืออยู่ 38,800 มูลค่า หุ้น 38,800,000 บาท
7 นางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์ ถืออยู่ 20,800 หุ้น มูลค่า 20,800,000 บาท 
8 นายประพันธ์ เหตระกูล ถืออยู่  20,013 หุ้น มูลค่า 20,013,000 บาท 
9 นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่ 19,399 หุ้น มูลค่า  19,399,000 บาท 
10 นางสาววิรณี เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่ 19,393 หุ้น มูลค่า 19,393,000 บาท 
11 นางสาวขวัญจิต เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท 
12 นางณัฐา คุณปิติลักษณ์ ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า  7,760,000 บาท 
13 นายนต รุจิรวงศ์ ถืออยู่ 7,760  หุ้น มูลค่า  7,760,000 บาท 
14 นายนนท์ รุจิรวงศ์ ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
15 นายนพดล เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
16 นางสาวนลิน รุจิรวงศ์ ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
17 นายปฏิฎาณ เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
18 นางประพิณ รุจิรวงศ์ ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
19 นายประสงค์ เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
20 นางสาวปริยสุดา เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
21 นายปารเมศ เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
22 นางปารวดี เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
23 นายปิฏก เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
24 นางสายฝน เหตระกูล ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
25 นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ ถืออยู่ 7,760 หุ้น มูลค่า 7,760,000 บาท
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบธุรกิจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ระบุว่ามีรายได้รวม 1,901,743,421.17 บาท  กำไรสุทธิ 295,914,393.71 บาท  
ส่วน บริษัท แสงเอ็นเตอร์ไพรส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2536 ทุนปัจจุบัน 840,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 1/4 หมู่ที่ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ บริการจัดซื้อ จัดหากระดาษ วัสดุการพิมพ์
ปรากฎชื่อ  นางประไพ เหตระกูล, นายประพันธ์ เหตระกูล ,นายประสงค์ เหตระกูล, นางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์, พลตำรวจโทประเสริฐ เหตระกูล ,นางประภา เหตระกูล ศรีนวล,นางประทิน เหตระกูล และนางประพิณ รุจิวงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ  นายประชา เหตระกูล  นางประทิน เหตระกูล  นางประไพ เหตระกูล  พลตำรวจโทประเสริฐ เหตระกูล  นายพิสิฐ เหตระกูล ถือหุ้นใหญ่ คนละ 70,000 หุ้น มูลค่า  70,000,000 บาท 
ล่าสุด นำส่งงบการเงิน ณ วันที่  31 ธันวาคม 2556 แจ้งมีรายได้รวม 50,749,806.83 บาท ขาดทุนสุทธิ 6,019,944.93 บาท  
บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด รับผิดชอบธุรกิจทีวี “new) tv”
จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2556 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 1/4 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ ปรากฎชื่อ นาย ภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ปารเมศ เหตระกูล เป็นกรรมการ 
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มี 3 ราย นางปารวดี เหตระกูล ถือหุ้นใหญ่สุด 11,900,000 หุ้น มูลค่า  29,750,000 บาท  นายปารเมศ เหตระกูล และนายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่ 11,550,000  หุ้น มูลค่า 28,875,000 บาท 
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ วันที่ 31 ธ.ค.57 ระบุว่า มีรายได้อื่น  34,419.65 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 3,075,536.65 บาท ขาดทุน สุทธิ 3,248,082.75 บาท 
บริษัท ดีเอ็น มีเดีย จำกัด รับผิดชอบธุรกิจหนังสือพิมพ์ แท็บลอยด์new)108  
เพิงจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 1/4 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร  แจ้งประกอบธุรกิจกิจการ ดำเนินการซื้อ จัดหา สื่อโฆษณา รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ปรากฎชื่อ นางปารวดี เหตระกูล นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด น.ส.วิรณี เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นกรรมการ 
รายชื่อ ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 11 กันยายน 2557 มีจำนวน 10 ราย  
1 นางปารวดี เหตระกูล ถือหุ้นใหญ่สุด 16,667 หุ้น  มูลค่า  41,667.50 บาท 
2 นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่ 11,112 หุ้น มูลค่า 27,780 บาท 
3 นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่ 11,111 หุ้น มูลค่า 27,777.50 บาท 
4 นางวิรณี เหตระกูล ศรีนวลนัด ถืออยู่  11,111 หุ้น มูลค่า  27,777.50 บาท 
5 นางประไพ เหตระกูล ถืออยู่ 8,334 หุ้น มูลค่า  20,835 บาท 
6 นางสาวชนาทิพย์ เหตระกูล ถืออยู่  8,333 หุ้น มูลค่า 20,832.50 บาท 
7 นางสาวชนินทร เหตระกูล ถืออยู่ 8,333 หุ้น มูลค่า  20,832.50 บาท 
8 นายปฎิภาณ เหตระกูล ถือยู่  8,333 หุ้น มูลค่า 20,832.50 บาท 
9 นางสาวปริยดา เหตระกูล ถืออยู่ 8,333 หุ้น มูลค่า  20,832.50 บาท 
10 นายศุภฤกษ์ เหตระกูล ถืออยู่  8,333 หุ้น มูลค่า  20,832.50 บาท
-ยังไม่แจ้งผลประกอบการธุรกิจ- 
ทั้งนี้ จากข้อมูลโครงสร้างธุรกิจ และรายชื่อผู้บริหารที่รับผิดชอบดูแลงานสื่อแต่ละประเภทที่ปรากฎออกมา
คงพอเดากันไม่ยากว่า ศึกสายเลือด "เหตระกูล" ที่กำลังเดือดระอุอยู่ในขณะนี้ 
ใครอยู่ฝ่ายไหนกันบ้าง?