PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

มึนกล้อง13ตัวรพ.พระมงกุฎฯขัดข้อง-แฉจม.ลึกลับถึงผอ.สถาบันมะเร็งฯ เตือนก่อการร้ายขบวนการBRN

มึนกล้อง13ตัวรพ.พระมงกุฎฯขัดข้อง-แฉจม.ลึกลับถึงผอ.สถาบันมะเร็งฯ เตือนก่อการร้ายขบวนการBRN

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายวางระเบิดห้อง”วงษ์สุวรรณ”โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม แหล่งข่าวจากทีมสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า สำหรับการแสวงหาพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลไม่สามารถเก็บพยานหลักฐานตัวบุคคลต้องสงสัยได้ เนื่องจากกล้องทั้ง 13 ตัวที่ติดตั้งไม่สามารถเก็บกู้ได้ สาเหตุเกิดจากกล้องขัดข้อง
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน บริเวณหน้ากองสลาก(เดิม)กับหน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ทั้งสองเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพียงต้องการเกิดเสียง น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ครั้งที่สามที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯนั้น คนร้ายต้องการหวังผลให้มีคนเจ็บและเสียชีวิต สันนิษฐานว่าเป็นคนละกลุ่ม ขณะที่ภาพจากกล้องโทรศัพท์ที่มีผู้ถ่ายขณะพาญาติมารับการรักษา แล้วมีการเผยแพร่ชายสวมหมวกเป็นบุคคลต้องสงสัยนั้น ทางชุดสืบสวนพบตัวแล้วเป็นนายทหารผู้ป่วยที่เข้ามารอรับการรักษาซึ่งเป็นผู้มีรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่าเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีจดหมายถึงผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยระบุเนื้อว่า “ท่านผู้อำนวยการ ทราบโปรดฟัง ภายในปีนี้ขอให้ท่านระวัง จะมีก่อการร้ายภายในโรงพยาบาลของรัฐแถวนี้ สามแห่งจากขบวนการBRN IS เข้ามาแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน จากมาเลย์ ให้ระวังผู้หญิงโพกผ้า สะพายเป้ และระวังให้ดี โดยลงชื่อท้ายจดหมายโจรกลับใจ” จากการตรวจสอบผู้ที่ลงลายมือชื่อพบว่ามีทั้งหมด 75 คน ที่มีชื่อสกุลตรงกัน และมีการติดตามตัวพบ 1 คน เชิญตัวมาสอบสวนแล้ว ทั้งนี้จดหมายดังกล่าวระบุผู้ฝากส่งจากเขตปทุมวัน ทั้งนี้ภายหลังจากผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ รับจดหมายดังกล่าวแล้วมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท

เช็ควงจรปิดจุดบึ้มรพ.พระมงกุฎพบเสีย9จาก13ตัว

เช็ควงจรปิดจุดบึ้มรพ.พระมงกุฎพบเสีย9จาก13ตัว

23 พฤษภาคม 2560
 22,721
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดรพ.พระมงกุฎในจุดเกิดเหตุพบเสีย 9 ตัวจากทั้งหมด 13 ตัว เผยไอซีไทม์เมอร์คนละชนิดกับภาคใต้ เชื่อแฝงตัวมาช่วง 08.00-10.00 น.
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้องที่เกิดเหตุระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าแล้ว พบว่า มีกล้องทั้งหมด 13 ตัว แต่เสียไปแล้วกว่า 9 ตัว ส่วนภายนอกห้องดังกล่าวมีทั้งหมด 64 ตัว อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทุกทางเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้ 

สำหรับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่า ตัวอุปกรณ์ไอซีไทม์เมอร์ที่ใช้หน่วงเวลานั้นมีจำนวน 16 ขา ซึ่งมีความสามารถในการตั้งเวลาเพื่อจุดระเบิดให้ทำงานได้สูงสุด 4-6 ชั่วโมง ทำให้เพียงพอที่คนร้ายจะใช้เวลาหลบหนีได้อย่างสบาย ทั้งนี้ตัวไอซีไทม์เมอร์ดังกล่าวจากการนำไปเปรียบเทียบกับชนิดที่คนร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้หรือไม่นั้น ปรากฎว่าเป็นคนละชนิดกัน ส่วนวัตถุพยานอีกอย่างที่สำคัญ ที่พบในจุดเกิดเหตุนั้น คือ ดินดำที่ใช้เป็นส่วนผสมในการประกอบระเบิดมีจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้สะเก็ดระเบิดที่พบในจุดเกิดเหตุนั้นคือตะปู กระจายทำลายล้างโดยดินดำที่พบนั้นใช้ในอุตสาหกรรมระเบิดภูเขาหิน ที่ใช้ในการประกอบระเบิดทั่วไป 

ทั้งนี้ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่าคนร้ายหวังเอาชีวิตในระยะประชิด ซึ่งมีการประกอบระเบิดที่ใช้เพียงน้ำหนักปอนด์เดียว เนื่องจากมีอุปสรรคคือการบรรจุลงในแจกันที่มีขนาดเล็กเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ หากใช้อันใหญ่จะสะดุดสายตาและจะถูกจับได้ง่าย แต่หากมีน้ำหนักมากจะมีอนุภาพการทำลายล้างสูง 

อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่า ทางชุดสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยรู้ตำแหน่งของแต่ละห้องในตัวอาคาร และทราบดีว่าทางโรงพยาบาลจะเปิดให้คนไข้เข้ามาในพื้นที่ก่อนเวลา 08.00 น. ซึ่งจากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทำให้ทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำแจกันที่บรรจุระเบิดมาวางหรือแขวนไว้จุดดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.-10.00 น. ซึ่งจะมีผู้ป่วยทยอยเข้ามานั่งรอ และคนร้ายเข้ามาปะปนอยู่ด้วยเพื่ออำพรางสายตาเจ้า