PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

ลูกดร.ป๋วยถามแทงใจดำ 'อนาคตใหม่'

ลูกดร.ป๋วยถามแทงใจดำ 'อนาคตใหม่' บริษัทซัมมิทของธนาธรเคยปราบปรามสหภาพแรงงานขัดแย้งกับนโยบายพรรคหรือไม่?
15 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16:39 น.
15 มี.ค. 61 - นายใจ อึ๊งภากรณ์ นักเคลื่อนไหวทางวิชาการและการเมือง บุตรชายคนสุดท้องของ ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความเรื่อง "คำถามคาใจกับการก่อตั้งพรรคคนรุ่นใหม่ของปิยบุตรกับธนาธร" เผยแพร่ในhttps://turnleftthai.wordpress.com มีรายละเอียดดังนี้
การที่ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศตั้งพรรคแนวทางใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่ชูแนวคิดพรรคซ้ายใหม่ในยุโรป เป็นการเริ่มต้นที่ดี และคนจำนวนมากก็คงตั้งความหวังไว้กับการสร้างพรรคนี้
อย่างไรก็ตามผมมีคำถามคาใจหลายประเด็น ที่ผมอยากจะถาม เพื่อให้พวกเราที่รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมร่วมกันพิจารณา
การที่ อ.ปิยบุตร เอ่ยถึงพรรคซีรีซา(Syriza)ของกรีซ พรรคโพเดมอส(Podemos)ของสเปน และพรรคห้าดาวของอิตาลี่ ในแง่หนึ่งก็ดีเพราะกล้าพูดถึงฝ่ายซ้ายหรือพรรคทางเลือกใหม่อย่างเปิดเผย
แต่พรรคที่ อ.ปิยบุตร เลือกมานี้ล้วนแต่มีปัญหาที่ชวนให้เราตั้งคำถามต่อไป
พรรคซีรีซาชนะการเลือกตั้งและสร้างความหวังกับประชาชนธรรมดาในกรีซจำนวนมาก แต่ในไม่กี่เดือนก็หักหลังประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ยกเลิกนโยบายรัดเข็มขัดตามแนวเสรีนิยม(Neoliberal) ซึ่งนโยบายดังกล่าวองค์กรระหว่างประเทศในอียูบังคับให้ทำ ตอนนี้รัฐบาลซีรีซาตัดสวัสดิการคนชรา ตัดการบริการของรัฐ และกดค่าแรงหรือปลดคนงานออกในระดับที่รุนแรงกว่าพรรคอนุรักษฺนิยมในอดีต ประเด็นคือถ้า อ.ปิยบุตร เสนอว่าจะต้านนโยบายเสรีนิยม ซึ่งเป็นเรื่องดี พรรคคนรุ่นใหม่ของไทยจะคัดค้านนโยบาย “การรักษาวินัยทางการคลัง” ที่รัฐบาลทหารและรัฐบาลประชาธิปัตย์ใช้มาตลอดอย่างไร? นโยบายดังกล่าวถูกบรรจุในยุทธศาสตร์แห่งชาติของเผด็จการด้วย พรรคคนรุ่นใหม่จะเสนอให้มีการเพิ่มบทบาทและงบประมาณรัฐในการพัฒนาระดับความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ทำงานหรือไม่? จะเสนอให้สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าแบบยุโรปหรือไม่? และจะมีการเพิ่มรายได้รัฐผ่านการเก็บภาษีจากคนรวยและบริษัทใหญ่ในอัตราก้าวหน้าหรือไม่? เพราะการต่อต้านแนวเสรีนิยมต้องมีองค์ประกอบดังกล่าว
แล้วการที่รองประธานบริษัทซัมมิท ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนนำสำคัญของพรรค จะทำให้พรรคไม่เสนอนโยบายการเก็บภาษีก้าวหน้าหรือไม่?
พรรคซิรีซา และพรรคซ้ายอื่นๆ ในยุโรปมีความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ กับขบวนการสหภาพแรงงาน ผมหวังว่าพรรคคนรุ่นใหม่ในไทยจะขยันในการสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพแรงงาน เรื่องนี้สำคัญเพราะพรรคกระแสหลักเก่าๆ ของไทยล้วนแต่เป็นพรรคของชนชั้นนายทุนทั้งสิ้น สหภาพแรงงานเป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีความสำคัญ และเป็นการจัดตั้งของคนชั้นล่าง ผมหวังว่าการที่ อ.ปิยบุตร เคยพูดว่า “ชนชั้นไม่ใช่ประเด็นในไทย” ไม่ได้เป็นการจงใจปิดหูปิดตาถึงความเหลื่อมล้ำและความขัดแย้งทางชนชั้นที่ดำรงอยู่ เพื่อสร้างแนวร่วมกับนายทุนบริษัทซัมมิท
ในปี 2549 พนักงานบริษัทไทยซัมมิท อีสเทิร์น ซีบอร์ด ออโต้พาร์ท อินดัสตรี จำกัด จำนวน 260 คน ถูกเลิกจ้างงานเพราะได้ไปสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้าประเทศไทย ต่อมาในปี 2557 บริษัทซัมมิทมีการกดดันให้พนักงานทำงานล่วงเวลา แทนที่จะจ่ายค่าจ้างในระดับเพียงพอและรับสมัครคนงานเพิ่ม และบริษัทก็ลงโทษพนักงานที่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานล่วงเวลา นอกจากนี้ทางบริษัทได้ออกคำสั่งให้กรรมการสหภาพ 4 ท่าน คือ ประธาน รองประธาน กรรมการพื้นที่แหลมฉบัง และกรรมการพื้นที่ระยอง หยุดปฏิบัติงาน เพื่อหวังปลดออก สรุปแล้วบริษัทซัมมิทของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีประวัติการปราบปรามสหภาพแรงงาน และละเมิดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานในการรวมตัวกันของลูกจ้าง สิ่งเหล่านี้จะขัดแย้งกับนโยบายของพรรคคนรุ่นใหม่ที่ประกาศว่าจะพาคนไทยออกจากยุคเผด็จการหรือไม่? หรือพรรคจะไม่สนใจประชาธิปไตยในสถานที่ทำงาน? นอกจากนี้พรรคจะมีนโยบายที่ดีกว่ารัฐบาลอื่นๆ ในเรื่องการขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำหรือไม่? จะมีนโยบายในการลดชั่วโมงการทำงานของคนทำงานเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตหรือไม่?
พรรคโพเดมอสของสเปนเป็นพรรคที่อ้างว่ามีประชาธิปไตยภายในระดับสูงและในรูปแบบใหม่ๆที่อาศัยอินเตอร์เน็ท แต่การที่พยายามปฏิเสธโครงสร้างรวมศูนย์ที่มีผู้แทนพรรคในระดับต่างๆ และการเลือกตั้งภายในจากการประชุมพรรค ทำให้แกนนำที่ปรากฏหน้าบ่อยๆในสื่อ และมี “บารมี” กลายเป็นแกนนำที่ถูกตรวจสอบยากและมีแนวโน้มตัดสินใจทุกอย่างแทนสมาชิก
การที่ อ.ปิยบุตร เสนอว่าพรรคคนรุ่นใหม่จะเน้นการกระจายอำนาจ ไม่รวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลาง กระจายงานภารกิจไปให้กลุ่มต่างๆ พื้นที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ จะทำให้สมาชิกธรรมดาสามารถควบคุมตรวจสอบผู้นำพรรคในระดับประเทศได้หรือไม่? หรือจะกลายเป็นว่าคนที่มีความมั่นใจสูงและมีชื่อเสียงจะมีอิทธิพลสูงไปโดบปริยาย? โครงสร้างแบบนี้จะทำให้สมาชิกธรรมดากำหนดนโยบายระดับชาติได้ง่ายหรือยาก?
พรรคโพเดมอสใช้ความคิดชาตินิยมจนมีบทบาทในการสนับสนุนการปกป้องรัฐสเปนจากการแบ่งแยกที่อาจเกิดขึ้นจากขบวนการอิสรภาพของคาตาโลเนีย ดังนั้นเราต้องถามว่าในกรณีสังคมเรา พรรคคนรุ่นใหม่จะมีท่าทีอย่างไรต่อความต้องการที่จะปกครองตนเองของชาวปาตานี?
พรรคห้าดาวของอิตาลี่ เป็นพรรคที่เกือบจะไม่มีนโยบายอะไรนอกจากการประกาศว่าพรรคไม่เหมือนพวกนักการเมืองรุ่นเก่า ในอดีตประเทศไทยก็เคยมี “พรรคพลังใหม่” หลังการลุกฮือ 14 ตุลา พรรคนี้ก็เกือบจะไม่มีนโยบายอะไรที่จับต้องได้นอกจากการพูดว่าเป็นพรรคเอียงซ้ายของคนรุ่นใหม่ พรรคของปิยบุตรกับธนาธรจะออกมาในรูปแบบคล้ายกันหรือไม่ ผมหวังว่าคงไม่ แต่ไม่แน่ใจ
แต่ในแง่หนึ่งพรรคห้าดาวของอิตาลี่มีนโยบายแย่มากคือต่อต้านผู้ลี้ภัยและคนที่พยายามย้ายถิ่นมาอยู่ในยุโรป ซึ่งเป็นนโยบายเหยียดสีผิวกับเชื้อชาติ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรรคคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะตั้งขึ้น จะส่งเสริมสิทธิของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในไทยและสิทธิของคนที่เกิดในไทยแต่ยังไม่มีสัญชาติ
การพาสังคมไทยออกจากเผด็จการมีอีกหลายประเด็นที่สำคัญที่ต้องพูดถึง เช่นการยกเลิกกฏหมาย112 การปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน การลดบทบาทและงบประมาณทหาร การส่งเสริมพลังงานทางเลือกเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม และในการยกเลิกเผด็จการของพวกหัวอนุรักษ์นิยมต่อสิทธิเสรีภาพของสตรี ต้องมีการพูดถึงสิทธิที่จะทำแท้งซึ่งเป็นสิทธิเหนือร่างกายตัวเอง
แน่นอนพรรคใหม่นี้คงไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้หลังการเลือกตั้งครั้งแรกเพราะคงใช้เวลาที่จะได้รับการนิยมในสังคม และ อ.ปิยบุตร ได้เสนอว่าพรรคมุ่งหมายทำงานระยะยาวและต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ประเด็นคือจะมีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางสังคมในเรื่องสำคัญๆ โดยไม่เน้นรัฐสภาอย่างเดียวหรือไม่.

“ธนาธร-ปิยบุตร” นำทัพ พรรคอนาคตใหม่ ลุยศึกเลือกตั้ง ลั่นไม่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตย

“ธนาธร-ปิยบุตร” นำทัพ พรรคอนาคตใหม่ ลุยศึกเลือกตั้ง ลั่นไม่สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตย
เปิดตัวก่อนไปจดแจ้งชื่อพรรคเรียบร้อย สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ พูดกันตรงๆตลอดการพูดคุยกับสื่อมวลชนตามที่นัดมา กินกาแฟกับธนาธร มีหลายประเด็นแหลมคมจนเสียวว่าอาจเข้าข่ายถูกตีความว่าพูดถึงนโยบายพรรคการก่อนที่คสช.จะเป่านกหวีดเริ่มต้น แต่ก็คิดว่าทางผู้ก่อตั้งน่าจะศึกษารายละเอียดทุกอย่างมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
อย่ารอช้า ว่ากันเลย...มีหลายประเด็นน่าสนใจ เริ่ม!!
ธนาธร ประกาศชัดเจน ว่า ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ลงเล่นการเมือง ยืนหยัดจะทำเพื่อประชาธิปไตยและประชาชน พร้อมกล่าวว่า กล้าสู้กับองค์กร สถาบัน ที่เป็นปฎิปักษ์กับประชาธิปไตย
ซึ่งนอกจาก อ.ปิยบุตร ที่ถูกเปิดหน้าไปก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ธนาธรยังเปิดตัวผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ทั้งหมด 26 คน มาจากหลากหลายวงการ ทั้งนักกฎหมาย อาจารย์ นักเขียน นักแปล นักสิทธิมนุษย์ชน นักธุรกิจ ยาวไปจนถึง นักปรุงเบียร์ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และ เป็นหน้าใหม่ในสนามการเมือง ที่แม้ใครจะบอกว่านี่เป็นจุดอ่อน แต่ธนาธร ยืนยันว่า พลังคนรุ่นใหม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด บางช่วงบางตอน ธนาธร พูดว่าเขาภูมิใจกับทีมก่อตั้งพรรคนี้ และมองเห็นศักยภาพของคนรุ่นใหม่
ธนาธร ยืนยันว่า ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก และหากสุดท้ายบ้านเมืองเดินไปถึงทางที่ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอก เขาและพรรคจะไม่ขอมีส่วนร่วม
ส่วนกรณีที่ถูกโจมตีว่าเคยเป็นกลุ่มที่เลือกข้างมาก่อน ธนาธร ตอบด้วยน้ำเสียงดังชัดเจน ว่า ไม่ได้เลือกข้าง แต่มีอุดมการณ์ที่ยืดถือ ที่ผ่านมาเมื่อฝ่ายใดกล่าวล้ำเส้นอุดมการณ์ พวกเขาก็ออกมาโจมตีโดยตลอด พร้อมให้คำมั่นว่าหากอนาคต มีการถือข้างไหนโดยก้าวข้ามอุดมการณ์ “เขาจะลาออกเป็นคนแรก”
เรื่องเงินเป็นอีกเรื่องที่ถูกพูดถึง ธนาธร ตอบชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้พรรคมีรายได้มาจากเงินทุนของเขาเพียงอย่างเดียว และจะจัดหาแนวทางระดมทุนจากภาคประชาชน ให้ได้แบบในต่างประเทศ เพื่อให้ทุกการกระทำของพรรคยึดโยงกับประชาชน
สำหรับข้อครหาสำคัญที่ พรรคอนาคตใหม่ ถูกโจมตี คือ การที่ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อตั้งพรรคจำนวนหนึ่งเคยมีเคลื่อนไหวเคลื่อนไหวทางการเมือง และ ผลักดันการแก้ไขกฎหมายมาตรา112 ประเด็นเหล่านี้ พวกเขาอ้างว่า เป็นแนวคิดส่วนตัว แต่เมื่อหันมาทำการเมืองภายใต้ระบบพรรคการเมือง จึงจำเป็นต้องฟังเสียงของสมาชิกพรรคและประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีแนวคิดอย่างไร

ธนาธร-ปิยบุตร ตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ประกาศไม่รับทุกส่วนประกอบ "อประชาธิปไตย"

ธนาธร-ปิยบุตร ตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ประกาศไม่รับทุกส่วนประกอบ "อประชาธิปไตย"


พรรคอนาคตใหม่Image copyrightJIRAPORN KUHAKAN/BBC THAI
คำบรรยายภาพพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 58 ที่ยื่นจดแจ้งพรรคต่อสำนักงาน กกต. หลังเปิดให้กลุ่มบุคคลเข้ายื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคได้ตั้งแต่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา
ธนาธร-ปิยบุตร เปิดตัวผู้ก่อตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ก่อนยื่นจดแจ้งพรรคต่อ กกต. ลั่นไม่ใช้ทุนส่วนตัวทำพรรค พร้อมประกาศไม่รับนายกฯ คนนอก
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร ไทยซัมมิท กรุ๊ป และ ผศ.ดร. ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงเปิดตัวพรรค "อนาคตใหม่" (Future Forward Party) ก่อนนำทีมคณะผู้ก่อตั้งพรรค 26 ชีวิตยื่นจดแจ้งพรรคต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยตั้งเป้าหมายเป็นพรรค "ทางเลือกใหม่" ในภาวะ "ทางตัน" ทางการเมือง ก่อนพัฒนาเป็น "ทางหลัก" ในการนำพาสังคมกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งพรรคมี 3 ประการคือ 1. ช่วยกระตุกความคิดของคนในสังคมให้กลับสู่การเมืองแบบประชาธิปไตย 2. เปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดีกว่าที่เป็นอยู่และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้แก่ประเทศ และ 3. เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทยใหม่
บีบีซีไทยสรุปสาระสำคัญของการวาดภาพอนาคตประเทศไทยและพรรคอนาคตใหม่ ในระหว่างนายธนาธรและ ผศ.ดร. ปิยบุตร ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ดังนี้
ภาพลักษณ์พรรคนายทุน
- พรรคนี้จะเป็นโมเดลใหม่ของสังคม "อนาคตใหม่" ไม่ใช่อนาคตของธนาธรหรือปิยบุตร แต่จะทำให้ประชาธิปไตยอยู่ในทุกกระบวนการตัดสินใจในทุกระดับ
- ผม (นายธนาธร) ไม่ต้องการให้พรรคนี้เติบโตและอยู่ต่อไปด้วยเงินในกระเป๋าผม และเชื่อว่าพรรคที่ตั้งอยู่บนเงินสนับสนุนของประชาชนเป็นไปได้ จะไม่มีใครสักคนที่แข็งแรงและอยู่เหนือสมาชิกพรรค
ปิยบุตร ธนาธรImage copyrightJIRAPORN KUHAKAN/BBC THAI
คำบรรยายภาพธนาธรบอกว่า พรรคอนาคตใหม่คือพื้นที่สำหรับคนที่ไม่ยอมจำนนกับสภาวการณ์ปัจจุบัน
จุดยืนของพรรคต่อการปฏิรูป ม.112
- การเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ร่วมกับนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ของผม (ผศ.ดร.ปิยบุตร) ตั้งอยู่บนหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ ไม่ว่าบุคคลใดต้องไม่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาทำลายล้างศัตรูทางการเมืองของตน ซึ่งในบทบาทนั้นถือเป็นเกียรติที่ได้ร่วมต่อสู้และมีความภาคภูมิใจที่ได้จัดทำข้อเสนอจำนวนมากบนพื้นฐานประชาธิปไตย ส่วนถามว่าพรรคอนาคตใหม่จะเอาอย่างไร ผมตอบไม่ได้ เพราะพรรคนี้ไม่ใช่ของผม หรือธนาธร การตัดสินใจเรื่องนโยบายต้องเกิดจากความเห็นร่วมกันของสมาชิก
การต่อสู้กับพรรคอื่นทั้งพรรคใหญ่และพรรคทหาร
- ในอนาคตพรรคนี้จะไม่ใช่พรรคทางเลือก แต่เป็นทางหลักในการแก้ปัญหาและนำสังคมสู่ประชาธิปไตย เราจะเป็น "พรรคทางหลัก" เราจะต่อสู้ในทุกสนามเลือกตั้ง ทุกเขตเลือกตั้ง ทุกชนชั้นอาชีพ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเกรียน ถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองของเรา
พรรคอนาคตใหม่Image copyrightJIRAPORN KUHAKAN/BBC THAI
ประกาศพาสังคมออกจากความขัดแย้ง แต่แกนนำพรรคส่วนหนึ่งถูกมองว่าเลือกข้างและเป็นคู่ขัดแย้งของอีกฝ่าย (ฝ่ายอนุรักษ์นิยม) เช่นกัน
- (ธนาธรตอบสวนทันควัน) เราไม่ได้เลือกข้าง แต่เรามีจุดยืน ถ้าข้ามเส้นนี้มา เราพร้อมต่อต้านและโจมตี ไม่ว่าคุณทักษิณ ชินวัตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าข้ามเส้นอุดมการณ์ที่เรายึดถือ เราจะต่อต้านและโจมตี อุดมการณ์จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะ "ถือหาง" ข้างไหนเมื่อไร และเราไม่ประนีประนอมกับจุดยืนนี้ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ประนีประนอมกับจุดยืนนี้เมื่อไร ผมเป็นคนแรกที่จะลาออกเอง
พรรคคนรุ่นใหม่ที่ขาดประสบการณ์การเมืองแบบคนรุ่นก่อน
- ไม่เคยสงสัยในความเป็นไปได้ในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมก่อตั้งพรรคเลย มันเป็นความเชื่อที่ผิดว่าปัญหาจะถูกแก้ได้ด้วยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เยอะ
จะสร้างฐานเสียงจากไหน ชูใครเป็นนายกฯ และสนับสนุนนายกฯ คนนอกหรือไม่
- (ธนาธรทำท่าปาดเหงื่อก่อนตอบ) เราต้องการพรรคทางเลือกที่นำนโยบายไปปฏิบัติได้จริง ดังนั้นเราไม่ได้หวังเป็นพรรคเสียงส่วนน้อย เรามองทุกพรรคเป็นศัตรูทางการเมืองหมด
- ส่วนเรื่องนายกฯ ยังอีกไกล แต่ที่แน่ ๆ พรรคนี้ไม่รับนายกฯ คนนอก ไม่รับส่วนประกอบที่เป็น "อประชาธิปไตย"
มุมมองต่อการรัฐประหาร
- ประเทศไทยเสียเวลาทางเศรษฐกิจมหาศาล เพราะทั้งสังคมเอาพลังทางสังคม พลังความศรัทธา เอาองค์กรอิสระต่าง ๆ ไปเอาชนะทางการเมือง รัฐบาลทหารปกครองมา 4 ปี เท่ากับรัฐบาลเลือกตั้ง 1 เทอม เราเห็นขีดความสามารถในการแข่งขันด้านใดบ้าง ผมคิดว่าผมไม่เห็น... เราเสียต้นทุนความสงบสุขไปเยอะ ซึ่งต้องจ่ายด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน
สมาชิกพรรคอนาคตใหม่Image copyrightJIRAPORN KUHAKAN/BBC THAI
คำบรรยายภาพอายุเฉลี่ยของคณะผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 26 คน อยู่ที่ 31 ปีเท่านั้น โดยคนที่อายุน้อยสุดคือ 20 ปี และสูงสุดคือ 60 ปี
ก่อนหน้านี้ คณะผู้ก่อตั้งพรรคมีแนวคิดจะใช้ชื่อพรรค "พลเมืองใหม่" (New Citizen party) แต่ ผศ.ดร. ปิยบุตรบอกกับบีบีซีไทยว่ามีผู้ใช้คำว่า "พลเมือง" ในการยื่นจดแจ้งแล้ว เช่น พรรคพลังพลเมือง ของนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีต ส.ส. เกรงว่าประชาชนจะเกิดความสับสน จึงเลือกชื่อ "อนาคตใหม่" เป็นชื่อพรรคในที่สุด

แม่ก็ยังเป็นแม่

การเปิดแถลงข่าวในบทบาทใหม่ ที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เชื่อว่าจะ "เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล" มีสมาชิกในครอบครัวบางส่วนมาให้กำลังใจ ณ เวทีแถลงข่าวอย่างเงียบ ๆ
แม้คนสำคัญที่สุดในชีวิตคือ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ผู้เป็นประธานกลุ่มไทยซัมมิท และได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 25 ของไทย ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 2.34 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2556 ไม่ได้เดินทางมาร่วมในนาทีสำคัญของบุตรชาย แต่ ธนาธรบอกกับบีบีซีไทยว่าเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) แม่ได้นำส้มมาให้เขา ตามความเชื่อของชาวจีน ส้มหมายถึงการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ
ทว่าไม่มีคำอวยพรใด ๆ ออกจากปากผู้เป็นแม่ นอกจากสายตาที่ห่วงใย
"ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหน แม่ก็จะเห็นว่าเราเป็นเด็กอยู่เสมอ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเราเข้ามาตรงนี้แล้วต้องเจอกับอะไร" ธนากรบอก
ก่อนหน้านี้เมื่อ 11 มี.ค. ธนาธรเคยโพสต์ภาพสมพรในเฟซบุ๊ก พร้อมเล่าว่าตัวเองถูกแม่ยิงคำถามใส่ว่า "ไทยซัมมิทหรือประเทศไทย อย่างไหนสำคัญกว่ากัน" เมื่อคำตอบจากบุตรชายคืออย่างหลัง สมพรมีสีหน้าผิดหวัง แม้ไม่เห็นด้วย-ไม่อวยพร-แต่ก็ไม่ห้ามปราม

5 เรื่องน่ารู้ของ “ไพร่หมื่นล้าน”

  • 39 ปี อายุในปัจจุบัน
  • 3 สาขา ป.โท กฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ, การเงินระหว่างประเทศ, เศรษฐศาสตร์การเมือง
  • 3 ตำแหน่ง รองประธานไทยซัมมิทกรุ๊ป, กรรมการ บมจ.มติชน, กรรมการ สอท.
  • 4 ฉบับ นสพ. ที่ขาดไม่ได้ทุกวัน – นิวยอร์ก ไทมส์, ไฟแนนเชียล ไทมส์, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน
  • 25 อันดับความมั่งคั่งที่ดีที่สุดของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์
ฺBBC Thai
เฉกเช่นคืนสุดท้ายก่อนที่ธนาธรจะก้าวเข้าสู่แวดวงการเมืองอย่างเต็มขั้น-เปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีคำทักท้วงใด ๆ
"สำหรับแม่ผม การไม่คัดค้าน ก็แปลว่าการอนุมัติ" ธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

พรรคอนาคตใหม่

Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์
6 ชม.
โดยมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งทั้งหมด 26 คน ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อยกว่า 30 ปี
.
นายธนาธรระบุว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนหลากหลายองค์การ เช่น นักวิชาการด้านการศึกษา ผู้พิการ นักเขียน เกษตรกร แรงงาน และกลุ่มนักศึกษา เป็นต้น
.
โดยเชื่อว่าพรรคจะเป็นความหวังใหม่ให้กับประชาชนที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน และเบื่อหน่ายกับการเมืองแบบเก่า ทั้งนี้นโยบายของพรรคจะมุ่งเน้นเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น โดยวิธีการรูปแบบใหม่ของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งประชาชนยังเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน ผ่านการระดมสมองและการระดมทุน
.
สำหรับประเด็นที่มีผู้สบประมาทว่าเป็นคนรุ่นใหม่ มีประสบการณ์น้อยกว่า นายธนาธรตอบคำถามนี้ว่า ตนเชื่อว่าเป็นความเชื่อผิดๆ ว่าการแก้ปัญจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การแก้ เพราะเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ก็สามมารถระดมความคิดแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน
.
รายชื่อผู้ร่วมก่อตั้งพรรคทั้ง 26 คนประกอบไปด้วย
.
กฤตนัน ศิษฐบรรจง แกนนำกลุ่มเยาวชนอาสา ทำงานกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
.
กันต์พงศ์ ทวีสุข ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อต่างประเทศก้อปันปัน
.
กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ นักวิชาการอิสระด้านการศึกษา
.
ไกลก้อง ไวทยาการ ผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยี จากสถาบันเทคโนโลยีเพื่อสังคม
.
คริสต์ โปตระนันทน์ นักธุรกิจ-นักกฎหมาย
.
เคท ครั้งพิบูลย์ นักปกป้องสิทธิของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ
.
ชำนาญ จันทร์เรือง อาจารย์พิเศษด้านการเมืองและกฎหมาย
.
โชติรส นาคสุทธิ์ นักเขียนเรื่องความสัมพันธ์เชิงอำนาจของมนุษย์ เรื่องเพศและสิทธิเหนือร่างกาย
.
ไชยวัฒน์ วรรณโคตร นักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ.
.
ฑิตฐิตา ซิ้มเจริญ นักเขียน นักแปลอิสระ
.
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นักปรุงเบียร์ นักธุรกิจ มุคคุเทศก์อิสระ
.
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
.
ธัญญานันต์ คูอนุพงศ์ Content creator
.
ธารารัตน์ ปัญญา นักปกป้องศิทธิผู้หญิง
.
นลัทพร ไกรฤกษ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวคนพิการ ThisAble.me
.
ปรัชญา เพชรวิสิทธิ์ คนทำหนัง นักศึกษา
.
ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ
.
เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนายการองค์กร Newground
.
ฟารีด ดามาเร๊าะ ประธานสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม
.
ภูวกร ศรีเนียน นักจัดรายการทีวีและนักรณรงค์การเมือง
.
วรกร ฤทัยวาณิชกุล ผู้บริหาร Hello Filmmaker
.
วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ผู้ก่อตั้ง thaiconsent.org นักออกแบบสื่อเพื่อสังคม
.
ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์มหาวิทยาลัย-นักกิจกรรมทางการเมือง
.
สุรินทร์ คำสุข ประธานสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์
.
อนุกูล ทรายเพชร เกษตรกรยุคดิจิตอล นักธุรกิจเพื่อสังคม
.
อลิสา บินดุต๊ะ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

'บนวิบากกรรมพลเอกประวิตร'


      วานซืน..........
      "พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ" นั่งหัวโต๊ะ
      ประชุม "คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน" คณะที่ ๕
      "เห็นชอบ"
      จัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพิ่มให้ "ศูนย์ ศรชล." ทั้ง ๓ เขต
      ใช้ตรวจติดตามเรือประมงที่ผิดกฎหมายนอกน่านน้ำ!
      ที่แถลงมีเท่านี้ แต่อ่านแล้ว ฮะแฮ้มมม...
      "ซื้ออีกแล้วหรือ?"
      อะไรคือ "ระบบอากาศยานไร้คนขับ"?
      จะซื้อแบบ-ระบบไหน, กี่เครื่อง, ซื้อจากไหน, ราคาเท่าไหร่, ใครเป็นคนซื้อ และจะซื้อเมื่อไหร่?
      เหล่านี้ ซ่อนเม็ด-ซ่อนเงื่อน ไม่มีรายละเอียด บอกเพียง "ที่ประชุมเห็นชอบ" ให้จัดหาเท่านั้น
      "จัดหา" ก็คือ "ซื้อ"
      ไม่ใช่ไปเก็บเอาตามป่า-ตามเขาเหมือนเก็บเห็ด!
      ความจริง "ระบบอากาศยานไร้คนขับ" (Unmanned Aerial Vehicle=UAV) พูดให้เห็นภาพ
      ก็คือ โดรน (Drone) นั่นแหละ
      ต่างกันตรง UAV เป็นระบบอากาศยานไร้คนขับหรือเครื่องบิน บินอัตโนมัติ
      ไม่ต้องมีนักบิน ตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติระยะไกล
      ไปได้สุดหล้า-ฟ้าเขียว เป็นสิบ, เป็นร้อย, เป็นพันกิโลเมตร ได้ทั้งนั้น
      สุดแต่ขนาด-แบบ-ระบบ ของ UAV ที่จัดหา!
      จะติดอาวุธ ติดจรวด ติดกล้อง หรือจะนำอะไรขึ้นไปกับ UAV ได้ทั้งนั้น
      เรียกว่า UAV เป็นอินทรีปีกแข็ง บินได้ไกลสุดสายตา คนละชั้นกับโดรน ซึ่งเป็นกระจิบ-กระจอก
      ใช้แค่ใบพัด ขึ้น-ลงแนวดิ่ง บินได้เท่าระยะสายตาเห็น!
      เกี่ยวกับ "ยุทธศาสตร์ด้านมั่นคงทางทะเล" นั้น............
      "พลเอกประวิตร" ซื้อ "เรือดำน้ำ" จากจีน ๑ ลำไปแล้ว มูลค่า ๑๓,๕๐๐ ล้านบาท
      งวดแรก ปี ๒๕๖๐ จ่ายแล้ว ๗๐๐ ล้าน เหลืออีก ๖ งวด ๖ ปี
      ก็ค่อนขอดกันขรม ไม่จำเป็นต้องซื้อ งานนี้ "เงินทอน" จมหู
      สำหรับผม "สนับสนุน" มีเรือดำน้ำ
      ส่วนเรื่องมี "นอก-ใน" สไตล์โกงเอาไปแบ่งกัน ถ้ามี...ขอให้มันฉิบหาย-ตายโหง!
      แต่วันนี้-ยุคนี้ ความมั่นคงไทยทางทะเล.........
      มิติมันกว้างจาก "การทหาร" เพื่อความมั่นคงประเทศ ขยายออกไปถึง "การประมง" เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
      จึงมี "ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" เรียกย่อว่า "ศรชล." ขึ้น ๓ เขต 
      เป็นปฏิบัติการร่วม "กองทัพเรือ, ตำรวจน้ำ, กรมศุลกากร, กรมเจ้าท่า, กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง"
      เขต ๑ รับผิดชอบบริเวณอ่าวไทยตอนบน
      เขต ๒ รับผิดชอบบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง
      ตั้งแต่เส้นแนวรอยต่อ ระหว่างชุมพร-สุราษฎร์ฯ ลงมาถึงชายแดนทางทะเล ติดต่อมาเลเซีย
      เขต ๓ รับผิดชอบด้านฝั่งทะเลอันดามัน
      เนี่ย......
      ก็ปูพื้นให้ทราบ ซึ่งวันก่อน คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ที่พลเอกประวิตร เป็นประธาน เห็นชอบให้ซื้อ UAV
      แต่รายละเอียดไม่มีบอก บอกแต่ว่า ให้จัดหา.......
      "เพิ่มให้" ศรชล.ทั้ง ๓ เขต!
      คำว่า "เพิ่มให้" หมายความว่า ตอนนี้ก็มีอยู่บ้าง แต่ต้องการเพิ่ม ด้วยวัตถุประสงค์
      "ใช้ตรวจติดตามเรือประมงที่ผิดกฎหมายนอกน่านน้ำ"
       เมื่อวัตุประสงค์เพื่อการใช้เป็นอย่างนี้..........
      แบบ UAV และระบบ ที่จัดหา ก็น่าจะเพื่อติดกล้องถ่ายภาพกลางวันและกล้องอินฟราเรด
      ขึ้นบินสำรวจ แล้วบันทึกภาพระยะไกลๆ ส่งสัญญาณกลับมาเข้าจอภาพ ที่สถานีภาคพื้นดิน
      ดูแล้วก็มีเหตุผลในการจัดหา!
      แต่ที่มะลำ-มะเลือง ไม่มีรายละเอียดให้ประชาชนได้รู้เลยนี่ซี
      เป็นเหตุให้กังขา...........
      มันจะซ้ำรอย "เรือเหาะ" ยุคพลเอกอนุพงษ์ ที่เป็น "เรือเหี่ยว" อีกหรือไม่?
      ความจริง "อากาศยานไร้คนขับ" หรือ UAV นี้ สมัยพลเอกประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ.
      ก็จัดซื้อ "มินิ-ยูเอวี" จากอิสราเอลมาครั้งหนึ่ง ๑๒๐ ระบบ ระบบละ ๑๖ ล้าน รวม ๑,๙๒๐ ล้านบาท
      ก็ใช้ในราชการกองทัพบก รวมทั้งที่ ๓ จังหวัดใต้ 
      นี่ก็ยกมาให้เห็น ว่า UAV ไม่ใช่ของใหม่-เรื่องใหม่ มีใช้มาแต่ยุคสงครามโลกที่ ๑-๒ แล้ว
      พัฒนาด้วยวิทยาการแต่ละยุค-สมัยต่อมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้
      จุดเด่นก็คือ "ไม่ต้องใช้นักบิน"
      ใช้สอดแนม จารกรรม สำรวจ-ตรวจตรา ค้นหาเป้าหมาย นำอาวุธขึ้นไปถล่มอีกฝ่าย ดีนัก!
      ประเด็นมันเกิดตรงที่ว่า "พลเอกประวิตร" เป็นบุคคลที่ "สังคมไม่เชื่อถือ" ด้านสุจริต-โปร่งใส
      ก็เกรงว่า ถ้าแจงไม่ชัด ปัญหาจะเกิดอีก
      เพราะ "อากาศยานไร้คนขับ" นั้น ถ้าจะซื้อ ไม่ต้องไปซื้อจากเมืองนอก-เมืองนาหรอก
      ซื้อจากคนไทย "ผลิตเอง" ในเมืองไทยนี่ก็ได้
      ขณะนี้ คนไทยเรา ผลิต UAV ได้ดี-ได้มาตรฐาน ไม่จำเป็นต้องไปซื้อของต่างชาติ
      เท่าที่ผมทราบ "ภาครัฐ" ร่วม "ภาคเอกชน" วิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ ก้าวหน้าไปถึงขั้น
      ผลิตขาย "ตลาดโลก" ได้แล้ว!
      หน่วยราชการหลายแห่งก็ใช้ อย่าง "กรมแผนที่ทหารบก" เป็นต้น
      เนี่ย เราจะไป ๔.๐ กันแล้ว...........
      การศึกษาต้องสนใจ เลิกสร้างค่าคนด้วยกระดาษที่เรียก "ใบปริญญา" ได้แล้ว
      ไปมุ่งเน้น "ปัญญาวิเคราะห์" ผลิตขุนพลอาชีวะ สร้างชาติ-สร้างอนาคตใหม่
      สู่สังคม EEC ที่โลกจะหมุนด้วยนวัตกรรมไปทางนั้น!
      ทำไม "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี" ที่โคราช ระดับคนไทยไม่ค่อยรู้จัก?
      แต่ "ระดับสากล" รู้จัก ยกให้เป็นมหาวิทยาลัยมีคุณภาพ "ติดอันดับโลก"!
      เพราะเขาเน้นสร้างคุณค่านักศึกษาที่ "ปัญญาประดิษฐ์"
      ไม่ใช่ "กระดาษประดิษฐ์" ออกมาเป็นบัณฑิต
      ในขณะที่บางมหาวิทยาลัย ที่คนไทย "หลงชื่อ"........
      แต่ละสัปดาห์ พวกอาจมเอาแต่นำฝูงศิษย์เขาอ่อน "และเล็มหญ้า" ตามสนาม
      เข้มอยู่วิชาเดียว คือวิชา "รับจ้างชังชาติ"
      คน "กระดาษประดิษฐ์" จากสถาบันประเภทนี้ อนาคตอันใกล้จะถูกจัดอยู่ในประเภท "กระดาษชำระ"
      รอ...รีไซเคิล!
      "กองทัพเรือ" ให้ความสำคัญการวิจัยและพัฒนา "อากาศยานไร้คนขับ" นี้มาก
      ร่วมวิจัยและพัฒนา UAV กับภาคเอกชนไทย ผลิตออกใช้ในกองทัพหลายเครื่องแล้ว
      ทางทะเล คือทางของ "กองทัพเรือ" เมื่อศูนย์ ศรชล.ต้องการ UAV เพิ่ม คำถามจากผม จึงมีว่า
      ปรึกษา "กองทัพเรือ" เขาหรือยัง?
      และบอกรายละเอียดเพิ่มอีกนิดได้ไหม ที่จะซื้อ ระบบอะไรใช้งบเท่าไหร่ ซื้อของไทยร่วมกองทัพวิจัย-พัฒนา?
      ทหารเรือนี่ จุดเด่น-จุดแข็งมีอยู่อย่าง ต้องเจ๋งจริง-รู้จริง จับต้องได้ทางปฏิบัติ
      "ประดู่" ดอกนั้น จึงจะบานได้!
      ประเภท "จับสลาก" ขึ้นมา ยากนัก-ยากหนา และแทบไม่ปรากฏ!
      พูดแล้วนึกถึง "พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย" ซึ่งน่าเสียดาย
      ท่านเป็น "สุภาพบุรุษทหารเรือ"
      เรื่องคุณภาพภูมิไม่ต้องพูดถึง สังเกตช่วงท่านร่วม ครม.ต้องเรียกว่า "ท่านเจ้าคุณละเอียด"
      ท่านทำงานแบบคนมีภูมิ ไม่กระหายความใหญ่โต เท่ากับเคร่งครัด ด้านซื่อสัตย์-สุจริต
      พูดถึงสุจริต...........
      ขอเอ่ยถึงคนในรัฐบาล คสช.อีกซักคน คือ "นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์" รัฐมนตรีคลัง
      นายกฯ ประยุทธ์ต้อง "หนีบใส่สะเอว" ไว้เลย ตอนเป็นรัฐมนตรีคลังใหม่ๆ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง มาบอกผม
      "เป็นวาสนาของนายกฯ"
      เพราะสมัยที่นายอภิศักดิ์เป็นใหญ่อยู่กรุงไทย นักธุรกิจคนหนึ่ง ไปกู้เงิน ก็ระดับพันล้าน
      "ใต้โต๊ะ-บนโต๊ะ" ไม่มีเลย!
      คนอย่างนี้ คือคนมี "ต้นทุนทางความเชื่อถือ" หายากในทุกวันนี้ เมื่อมี ต้องส่งเสริม ถนอมรักษา และหามาเสริม-มาใช้
      ไม่ใช่เอาไปเก็บ......
      แล้วเอาคน "ล้มละลาย" ทางซื่อสัตย์-สุจริตมาทำงาน
      รองนายกฯ ประวิตร นั้น บุญเก่า-วาสนาเก่าดี
      แต่ "กรรมปัจจุบัน" จากนาฬิกา มันมา "ตัดรอน"
      ไม่ว่า "จะพูด-จะทำ" อะไร ดี ก็เป็นร้าย, ร้ายก็จะร้ายทวี แม้กระทั่งที่จะซื้อ UAV
      เมื่อพะยี่ห้อ "ประวิตร" ก็จงระวัง.......
     "เชื้อเก่าจะกำเริบ"!