"บิ๊กป๊อด" ...ไม่ป๊อด ?!
ถือเป็นครั้งแรก ที่"สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก" (สวพ.ทบ.) แจ้งความฟ้องร้อง เอกชน ที่ทำโครงการวิจัย หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร หลังพบว่ามีการใช้เอกสารปลอม และไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
บิ๊กป๊อด พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก (สวพ.ทบ.) จึงมาแถลงต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม
และที่ต้องฟ้อง ไม่ใช่เพราะกลัวว่าโครงการวิจัยนี้จะสำเร็จแล้วทหาร เสียผลประโยชน์ เพราะเราต้องการให้ทำสำเร็จ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อของต่างประเทศ เราสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอยู่แล้ว นี่คือหน้าที่สำคัญของสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก
แต่เราก็ต้องการของที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองจริงๆไม่ใช่ใช้เอกสารปลอม
ทั้งนี้หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร จะแตกต่างกับหน้ากากอนามัย ตรงที่"ไส้กรอง" จะต้องสามารถกรองสารพิษสำหรับสงครามนิวเคลียร์เคมีชีวะNBC ได้. ไม่ใช่แค่หน้ากากกรองอากาศ เพราะมันหมายถึงชีวิตคน ชีวิตทหารที่ใช้หน้ากากนี้
1. โครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารเพื่อใช้ภายในประเทศเป็นโครงการตาม MOU ระหว่าง ทบ. โดย สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก สวพ.ทบ. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัยจาก สถาบันการศึกษารวมถึง เป็นการนำผลการวิจัยไปสู่การผลิตแบบพึ่งพาตนเองในประเทศ ประหยัดงบประมาณ
2. ในระหว่างการวิจัย ทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้นำผลการวิจัยไปสู่การผลิตชิ้นงาน สนับสนุนนโยบายการใช้ยางพาราภายในประเทศ ทบ. ได้ดำเนินกรรมวิธี นำผลงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตตามขั้นตอนของทางราชการ โดยมีกระบวนการวิเคราะห์ ประเมินผลโครงการวิจัย ซึ่งเป็นการประเมินผลทั้งทางด้านเอกสารรายงานและผลงานวิจัยที่ได้รับ ตลอดจนการทดสอบโดยคณะกรรมการต่าง ๆ ของกองทัพบก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกองทัพบกและได้รับอนุมัติให้นำผลงานวิจัยนั้นไปผลิต
ทั้งนี้โครงการวิจัย ไม่ว่าจะได้ทุนจากแหล่งทุนใด หากจะนำมาผลิตเพื่อใช้งานในกองทัพบกก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ โครงการหน้ากากป้องกันสารพิษฯ เมื่อได้ปิดโครงการกับ สกอ.แล้ว ก็เข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว
ในระหว่างกระบวนการวิเคราะห์และประเมินผลโครงการคณะนักวิจัยได้นำส่ง เอกสารรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้ สวพ.ทบ. พิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับ ทบ. ทำการประเมินผลงานวิจัย
ในระหว่างกระบวนการวิเคราะห์และประเมินผลโครงการคณะนักวิจัยได้นำส่ง เอกสารรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้ สวพ.ทบ. พิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับ ทบ. ทำการประเมินผลงานวิจัย
ภายหลังปรากฏว่าใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากแบบเต็มหน้า เป็นเอกสารปลอม
กองทัพบกจึงได้ยุติโครงการและได้มอบอำนาจให้ ผอ.สวพ.ทบ. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยของ ทบ. โดยตรง ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
รวมทั้งเป็นการป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับการนำไปใช้งานทางราชการ หากมีการนำเข้าสู่กระบวนการผลิตในลำดับขั้นต่อไป ที่สำคัญเป็นการยับยั้งมิให้เอกสารที่เป็นเท็จไปสู่กระบวนการบริหารงานราชการ
ส่วนการอ้างถึงว่ารายงานตอนไปขอปิดโครงการฯ กับ สกอ.ระบุเป็นเรื่องหน้ากากชีวอนามัย ไม่เกี่ยวกับหน้ากากด้านทหารเลยนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะเงื่อนไขข้อกำหนดในการวิจัยครั้งนี้ ระบุให้ผู้วิจัยต้องดำเนินงานวิจัยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของ ทบ. เท่านั้น
สำหรับ กรณีกล่าวหาว่า จนท.ทหาร แทรกใบรับรองมาตรฐานปลอมเข้ามาในเอกสารงานวิจัยฉบับสมบูรณ์นั้น จากการตรวจสอบขอเรียนว่า มีการยื่นใบรับรองมาตรฐาน จำนวน 4 ครั้ง โดย หัวหน้าโครงการวิจัย โดยเป็นการยื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง 4 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม สวพ.ทบ. ในฐานะที่เป็นหน่วยดูแลด้านการวิจัยและพัฒนากองทัพบก ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก ทบ. จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เกิดความกระจ่างในทุกแง่มุมที่สังคมสงสัย และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของงานวิจัยที่จะนำไปใช้ในการผลิตเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพบกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น