PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

"บิ๊กป๊อด" ...ไม่ป๊อด ?!

"บิ๊กป๊อด" ...ไม่ป๊อด ?!
ถือเป็นครั้งแรก ที่"สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก" (สวพ.ทบ.) แจ้งความฟ้องร้อง เอกชน ที่ทำโครงการวิจัย หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร หลังพบว่ามีการใช้เอกสารปลอม และไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
บิ๊กป๊อด พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก (สวพ.ทบ.) จึงมาแถลงต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม
และที่ต้องฟ้อง ไม่ใช่เพราะกลัวว่าโครงการวิจัยนี้จะสำเร็จแล้วทหาร เสียผลประโยชน์ เพราะเราต้องการให้ทำสำเร็จ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อของต่างประเทศ เราสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอยู่แล้ว นี่คือหน้าที่สำคัญของสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก
แต่เราก็ต้องการของที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองจริงๆไม่ใช่ใช้เอกสารปลอม
ทั้งนี้หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร จะแตกต่างกับหน้ากากอนามัย ตรงที่"ไส้กรอง" จะต้องสามารถกรองสารพิษสำหรับสงครามนิวเคลียร์เคมีชีวะNBC ได้. ไม่ใช่แค่หน้ากากกรองอากาศ เพราะมันหมายถึงชีวิตคน ชีวิตทหารที่ใช้หน้ากากนี้
1. โครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารเพื่อใช้ภายในประเทศเป็นโครงการตาม MOU ระหว่าง ทบ. โดย สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก สวพ.ทบ. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัยจาก สถาบันการศึกษารวมถึง เป็นการนำผลการวิจัยไปสู่การผลิตแบบพึ่งพาตนเองในประเทศ ประหยัดงบประมาณ
2. ในระหว่างการวิจัย ทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้นำผลการวิจัยไปสู่การผลิตชิ้นงาน สนับสนุนนโยบายการใช้ยางพาราภายในประเทศ ทบ. ได้ดำเนินกรรมวิธี นำผลงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตตามขั้นตอนของทางราชการ โดยมีกระบวนการวิเคราะห์ ประเมินผลโครงการวิจัย ซึ่งเป็นการประเมินผลทั้งทางด้านเอกสารรายงานและผลงานวิจัยที่ได้รับ ตลอดจนการทดสอบโดยคณะกรรมการต่าง ๆ ของกองทัพบก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกองทัพบกและได้รับอนุมัติให้นำผลงานวิจัยนั้นไปผลิต
ทั้งนี้โครงการวิจัย ไม่ว่าจะได้ทุนจากแหล่งทุนใด หากจะนำมาผลิตเพื่อใช้งานในกองทัพบกก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ โครงการหน้ากากป้องกันสารพิษฯ เมื่อได้ปิดโครงการกับ สกอ.แล้ว ก็เข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว
ในระหว่างกระบวนการวิเคราะห์และประเมินผลโครงการคณะนักวิจัยได้นำส่ง เอกสารรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้ สวพ.ทบ. พิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับ ทบ. ทำการประเมินผลงานวิจัย
ภายหลังปรากฏว่าใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากแบบเต็มหน้า เป็นเอกสารปลอม
กองทัพบกจึงได้ยุติโครงการและได้มอบอำนาจให้ ผอ.สวพ.ทบ. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยของ ทบ. โดยตรง ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
รวมทั้งเป็นการป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับการนำไปใช้งานทางราชการ หากมีการนำเข้าสู่กระบวนการผลิตในลำดับขั้นต่อไป ที่สำคัญเป็นการยับยั้งมิให้เอกสารที่เป็นเท็จไปสู่กระบวนการบริหารงานราชการ
ส่วนการอ้างถึงว่ารายงานตอนไปขอปิดโครงการฯ กับ สกอ.ระบุเป็นเรื่องหน้ากากชีวอนามัย ไม่เกี่ยวกับหน้ากากด้านทหารเลยนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะเงื่อนไขข้อกำหนดในการวิจัยครั้งนี้ ระบุให้ผู้วิจัยต้องดำเนินงานวิจัยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของ ทบ. เท่านั้น
สำหรับ กรณีกล่าวหาว่า จนท.ทหาร แทรกใบรับรองมาตรฐานปลอมเข้ามาในเอกสารงานวิจัยฉบับสมบูรณ์นั้น จากการตรวจสอบขอเรียนว่า มีการยื่นใบรับรองมาตรฐาน จำนวน 4 ครั้ง โดย หัวหน้าโครงการวิจัย โดยเป็นการยื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง 4 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม สวพ.ทบ. ในฐานะที่เป็นหน่วยดูแลด้านการวิจัยและพัฒนากองทัพบก ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก ทบ. จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เกิดความกระจ่างในทุกแง่มุมที่สังคมสงสัย และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของงานวิจัยที่จะนำไปใช้ในการผลิตเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพบกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: