PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561

กำลังใจ

“ถ้าวันไหน ไม่มีกำลังใจให้ผม ทำเลย ผมก็จะไป....
”คนที่จะทำต่อไป ไม่จำเป็นต้องเป็น “ผม”....

“บิ๊กตู่”อ้อน  เผย ถ้าย้อนเวลา กลับมา ถ้าเราดีเลิศแล้วก็ ไม่ต้องรัฐประหาร ออกตัว การที่ผมเข้ามา ไม่บอกว่า ผิดหรือถูก  แต่4ปี ต่างชาติ เชื่อมั่น

พลเอกประยุทธ์ กล่าวในงาน72 ปี Bangkok Post  ตอนหนึ่งว่า  วันนี้โลกเปลี่ยนทุกวัน กติกา สัญญาเปลี่ยน เราทำเป็นหนึ่งเดียวตามรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดแย้ง ไม่มีปัญหาการเมือง ไม่อย่างนั้นโอกาสจะหายไปเลย กลายเป็นประเทศไทย คนไทย รับกรรม 

โดยคนที่จะทำต่อไป ไม่จำเป็นต้องเป็นผม ใครก็ได้ทำให้ยั่งยืน และการที่ผมเข้ามาไม่บอกว่าผิดหรือถูก 

แต่เข้ามา 4 ปีได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนและต่างประเทศ พอสมควร 
 “ถ้าวันไหนไม่มีกำลังใจให้ผมทำเลย ผมก็จะไป “

ต้องเลือกตั้ง

ปีหน้า ยังไง ก็ต้องเลือกตั้ง เว้นแต่ มันจะตีกัน จนเลือกไม่ได้

“บิ๊กตู่” เตือน เป็น นักการเมือง ตัองบริสุทธิ์ใจ อยากได้คนรุ่นใหม่ ยัน มี ม.44 ก็ไม่ได้ใช้กับ “ทางโน้นเขา”แต่ยึดกระบวนการยุติธรรม

พลเอกประยุทธ์ กล่าว ในงาน 72ปี หนังสือพิมพ์ บางกอก โพสต์ ว่า  คนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมือง ต้องบริสุทธิ์ใจ ให้ประชาชนไว้วางใจ 

วันนี้เราต้องการคนรุ่นใหม่  ผมเชื่อมั่นรัฐมนตรี เชื่อมั่นรัฐบาล เพราะทุกคนเข้ามาไม่ได้หวังอะไร ผมไปเชิญเขามาเอง บางคนไม่เข้ามาด้วยซ้ำ เพราะเขาทำธุรกิจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง

"ผมบอกแล้วไม่ยุ่งกับกระบวนการยุติธรรม ท่านต้องทำหน้าที่ของท่าน เพราะเป็นหนึ่งในอำนาจที่สำคัญ บริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ 

ถึงแม้ผมจะมีมาตรา 44 ผมก็ไม่ใช้กับทางโน้นเขา เพราะให้เกียรติ และเชื่อมั่นว่าประเทศไทย อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะกระบวนการยุติธรรม จะถูกจะผิดก็ไม่รู้"

นายกฯกล่าวว่า พวกเราทุกคนจะต้องร่วมมือและช่วยกัน อย่าทำหรือคิด ที่จะทำให้เกิดความเสียหายให้เกิดขึ้นอีก 

“จะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ยังไงมันก็ต้องเลือกของมันอยู่แล้ว ปีหน้าก็ต้องเลือก ยังไงก็ต้องเลือก เว้นแต่มันจะตีกันจนเลือกไม่ได้ หรือจะตีกันแล้วก็เลือกตั้งกันไป เลือกก็เลือกซิ 

คราวก่อนก็ตีกันมา ครั้งหนึ่งแล้ว ผมก็หวังว่ามันจะไม่มีเกิดขึ้นอีก เพราะผมก็ไม่ได้จะอยากให้เลือกตั้ง อยากจะเลือกก็เลือกกันไป”

คสช.ฟ้องอนาคตใหม่

ไม่เรียกปรับทัศนคติ  ยึด ปรองดอง

คสช. ฟ้อง เพจ”พรรคอนาคตใหม่” เพราะ บิดเบือนข้อมูล กระทบความมั่นคง ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ทำตามกฎหมาย / ยัน มีเลือกตั้ง/โต้ "หมวดเจี๊ยบ" ปูดข่าวส่งทหารประกบ ยันไม่ทำนอกลู่นอกทาง

 

พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์  ผบ.มทบ.11 และทีมโฆษก คสช. ชึ้ ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความให้เอาผิดเฟสบุ๊ค พรรคอนาคตใหม่-the future we want และเฟสบุ๊กเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
ฝ่ายความมั่นคงตรวจพบว่า ส่อไปในทางผิดกฎหมายและกระทบความมั่นคงก็ให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.ดำเนินการแจ้งความต่อ ปอท.   เพราะมีการพาดพิง และมีบางข้อมูลที่บิดเบือน ทางฝ่ายกฎหมาย คสช.พิจารณาแล้วว่าจะมีผลกระทบจึงดำเนินการแจ้งความ  เพราะมีการเผยแพร่ทางคอมพิวเตอร์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้  

ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คสช.ยืนยันว่าไม่สามารถทำอะไรนอกอำนาจหน้าที่ และกฎหมายได้ เราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม หรือทำให้เกิดความรู้สึกไม่สร้างความสงบเรียบร้อย คสช.จะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด

ทั้งนี้ อาจมีบางบุคคล บางพวก บางกลุ่มที่พยายามสร้างกระแส บิดเบือนข้อเท็จจริง นำไปสู่ความเข้าใจผิด รวมถึงสร้างความตื่นตระหนก คสช.ต้องออกมาสร้างความเข้าใจเป็นระยะ

พร้อมยืนยันว่า ตอนนี้โรดแมพ ที่นำไปสู่การเลือกตั้ง ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  

         
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงหากเกิดความขัดแย้งการเลือกตั้งอาจจะไม่เกิดขึ้น ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า อะไรก็ตาม ถ้าไม่สุขสงบ ไม่ร่มเย็นจะเป็นปัญหาที่ซ้อนขึ้นมา เราไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ในเวลานี้ ทุกคน ทุกฝ่าย ต้องร่วมแรงร่วมใจ นำพาบ้านเมืองก้าวพ้นความยากลำบาก และทำให้บ้านเมืองเดินตามกรอบโรดแมพ นำไปสู่การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

         
ร่วมกันสร้างบรรยากาศความปรองดอง หรือความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน เราควรยืนด้วยหลักการเหตุผล และเอาประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อเดินหน้าร่วมกัน
          
เมื่อถามอีกว่า คสช.มีแนวทางส่งทหารไปพูดคุยทำความเข้าใจนักการเมืองมาปรับทัศนคติ หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า "ช่วงนี้ยังไม่มี เพราะบรรยากาศตอนนี้คือการสร้างความปรองดอง ดังนั้นอะไรที่กระทบความรู้สึก หรือขัดกับการปรองดอง คสช.จะไม่ทำทั้งสิ้น"

          
ส่วนที่นายพิชัย และร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีนายทหารยศพันเอกติดตามความเคลื่อนไหวนั้น พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร  เท่าที่ทราบทหารไม่ทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง

ม้ามืดมาแรง

ม้ามืดมาแรง



ขอต้อนรับ ประธาน กกต.คนใหม่ ที่จะมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน พรรคการเมืองทุกพรรค ในศึกเลือกตั้งใหญ่ที่เหลือเวลาวอร์มอัพอีก 7 เดือน
เพราะประธาน กกต.จะมีบทบาทสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
หรือถ้าพูดตรงๆเป็นกล่องดวงใจในช่วงสืบทอดอำนาจ คสช.
ประธาน กกต.คนใหม่ที่จะเสียบแทน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.คนเดิมที่โดนเซ็ตซีโร่ยกเข่งคือ นายอิทธิพร บุญประคอง อายุ 62 ปี
เป็นอดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงต่างประเทศ
เป็นอดีตเอกอัครราชทูตไทยกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เป็นอดีตเอกอัครราชทูตไทยกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
และเป็นอดีตรองหัวหน้าทีมไทยในศาลโลก คดีพิพาทปราสาทพระวิหารเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา
แถมยังเป็นมือกีตาร์ขาร็อก เคยขึ้นเวทีคอนเสิร์ต แจมวงพีสะเดิดมาแล้วนะคุณโยม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการประชุม กกต.ชุดใหม่ 5 คน เพื่อเลือกประธาน กกต.เมื่อวานซืน ได้มีมติเสียงข้างมากเลือก “นายอิทธิพร” เป็นประธาน กกต.คนใหม่แบบพลิกล็อกถล่มทลาย
เพราะตัวเก็ง 2 คนที่มีข่าวว่าจะได้รับเลือกเป็นประธาน กกต.คนใหม่คือ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาซึ่งมาจากสายศาลยุติธรรม
และ นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตผู้ว่าฯระยอง เพชรบูรณ์ และลำปาง และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งมาจากสายมหาดไทย
ปรากฏว่าทั้ง 2 ตัวเก็งเต็งหามไม่มีใครเข้าวิน
กลายเป็น “นายอิทธิพร” สวมวิญญาณม้ามืดสะง่อมเก้าอี้ประธาน กกต.คนใหม่ไปได้อย่างสะดวกโยธิน
อืมม์...ท่านมายังไง? ท่านมาสายไหน? ทำไมแหกโผเข้าป้าย อย่างสบายแฮ หน่วยเจาะข่าวลึกล้วงข่าวลับยังหาคำตอบไม่เจอ
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการโผล่ขึ้นมาเป็นม้ามืดของ “นายอิทธิพร” ประธาน กกต.คนใหม่ ถือว่าไม่ธรรมดา
ถ้าจำไม่ผิด นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ลากตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหา กกต.เคยพูดถึงประเด็นคุณสมบัติ กกต.ว่าอดีตเอกอัครราชทูต ก็มีคุณสมบัติเป็น กกต.ได้ตามรัฐธรรมนูญ
ปรากฏว่า มีอดีตเอกอัครราชทูต ผ่านการสรรหา เป็น 1 ใน 5 กกต. ได้จริงๆ
เป็นสายทูตคนแรกที่ผ่านตะแกรงร่อนมาเป็น กกต.
แถมปาดหน้าคว้าเก้าอี้ประธาน กกต.คนใหม่ สมใจนึกบางลำพู
ข้อสำคัญ ถ้าย้อนกลับไปดูผลโหวตเห็นชอบว่าที่ กกต. 5 คน และโหวตไม่เห็นชอบ 2 คน ในที่ประชุม สนช.
นายอิทธิพร บุญประคอง ได้รับคะแนนเห็นชอบจาก สนช.ลากตั้งมากที่สุดในบรรดา กกต.ทั้ง 5 คน
ได้คะแนนเห็นชอบ 186 คะแนน ไม่เห็นชอบ 10 คะแนน
ดังนั้น ถ้าวัดจากการลงคะแนนลับในที่ประชุม สนช. นายอิทธิพร เป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่ในมุ้งด้วยซํ้าไป
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่าท่านประธาน กกต.คนใหม่ จะปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากรรมการการเลือกตั้งอย่างสุจริตเที่ยงธรรม
ใช้อำนาจให้คุณให้โทษด้วยความรอบคอบโปร่งใสตรงไปตรงมา
เพื่อให้ กกต.ชุดนี้เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน
ปล.ยังมีโควตาเก้าอี้ กกต.ว่างล่อตะเข้อีก 2 ตัว
ท่านผู้ใดอยากเป็นกรรมการ กกต.รับเงินเดือนเป็นแสน แถมอยู่ในตำแหน่งยาวรากงอก 7 ปี โปรดเตรียมยื่นใบสมัครรับการสรรหาเป็น กกต.ตามกติกา
ขอให้โชคดีทั่วกันทุกท่านเทอญ.
"แม่ลูกจันทร์"

เกมไวโหมดเลือกตั้ง

เกมไวโหมดเลือกตั้ง



ม้ามืดแหกโผเข้าวิน เซอร์ไพรส์กันตั้งแต่ต้น
ล่าสุด ได้ตัวว่าที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คนใหม่ถอดด้าม คือนายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย 1 ใน 5 กกต.ที่ได้รับการโหวตจากที่ประชุม สนช.
ทำการเลือกกันเองในหมู่ 5 เสือ กกต.ที่ยังไม่ครบ 7 คน
ภายหลัง “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่งซิกนำร่องเองเลยว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายก็บอกโต้งๆ หากสรรหา กกต.ได้ครบ 5 คน ก็ให้เลือกคนหนึ่งเป็นประธาน ถ้าไม่รีบร้อนจะรอจนครบ 7 คนก็ได้ แต่นี่ก็จะเลือกตั้งอยู่รอมร่อ ถ้าไม่เลือกประธาน กกต.ก็นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯไม่ได้ กกต.ชุดเก่าก็จะพะว้าพะวังอยู่ไปก็ทำงานไม่ได้
“ปลดล็อก” เส้นทางไปสู่การเลือกตั้ง
“มีชัย” ออกโรงเคลียร์เหลี่ยมกฎหมาย ไม่ให้สะดุดรัฐธรรมนูญ
ตามรูปการณ์ที่สังเกตได้ถึงการเร่งรัด กระบวนการกำเนิด กกต.ชุดใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็วว่องไว
ในมุมเดียวกับกระบวนการโยกย้ายขุนทหารประจำปีที่ชัดเจนเร็วกว่าทุกรอบ ตามสถานการณ์นิ่งๆอยู่ที่ชื่อของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ขึ้นเป็นจ่าฝูงกองทัพบกคนใหม่
แบบไร้คลื่นลมแปรปรวน
โดยปรากฏการณ์ชัดๆโผเดียว สื่อรายงานตรงกันหมดทั้งแผง
เบื้องต้นแสดงถึง “เสถียรภาพอำนาจ”
ตามสถานการณ์ที่ประเมินได้ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป “บิ๊กแดง” น้องรัก จะเป็นเบอร์หนึ่งคุมกำลังความมั่นคงคุ้มกัน
หลังให้ “พี่ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช.
เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง หนุนหลังให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตีตั๋วต่อในห้วงเปลี่ยนผ่าน
ภายใต้บรรยากาศที่กำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมชาติ
กับรายการอัดโปรโมชันเป็นชุด รัฐบาล “ลุงตู่” ปล่อยของ “เก็บแต้ม” รายวันเลย
ล่าสุด “นายกฯลุงตู่” เป็นประธาน กดปุ่มเปิดโครงการประชารัฐสวัสดิการกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บัตรคนจนได้ซื้อสินค้าราคาถูก ผ่านระบบที่ง่ายคล่องมือทั้งผู้ซื้อผู้ขาย
ซื้อใจผู้ใช้บัตรสวัสดิการประชารัฐทั่วประเทศกว่า 11 ล้านคน
ไล่หลังแค่วันเดียวจากคิวที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบ 1.6 หมื่นล้านบาท ชดเชยดอกเบี้ยโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร 3.81 ล้านครัวเรือน
ต่อเนื่องจากที่ประชุม ครม.สัญจรจังหวัดอุบลราชธานี อัดฉีดงบ 9.7 หมื่นล้านบาท อุดหนุนมาตรการดูแลข้าวปี 2561/62 กำหนดราคาจำนำยุ้งฉางและช่วยเหลือเก็บเกี่ยวปรับปรุงคุณภาพข้าว ดันตัวเลขข้าวหอมมะลิขึ้นไปอยู่ที่ตันละกว่า 17,000 บาท ลดหลั่นกันลงมากับข้าวเปลือกเหนียว ข้าวหอมปทุมธานี
กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก มุ่งประคองภาวะปากท้องผู้มีรายได้น้อย
โคตรเซียนการตลาดยี่ห้อ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ วางหมากให้ “ลุงตู่” เดินหน้าเก็บแต้มในเชิงปฏิบัติ
อัดมาตรการที่ชาวบ้านสัมผัสแตะต้องได้
เทียบเคียงกับ “ลมปาก” นักการเมืองที่กระพืออุปาทานหมู่ภาวะเศรษฐกิจ ดิสเครดิตรัฐบาล คสช.
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ลูกทีม “นายใหญ่” ที่ยังเล่นบทนกแก้วนกขุนทอง ท่องแผ่นเสียงตกร่อง
โหมความเชื่อ กระแส “ทักษิณ” ยังชนะขาด
“ตีขลุม” กินบุญเก่าในภาคอีสาน ภาคเหนือ ในสถานการณ์สวนทางกับโลกแห่งความจริง คนพรรคเพื่อไทยต้องแหงนคอ ชะเง้อรอหัวจ่ายไม่เดิน น้ำเลี้ยงเหือดแห้ง
แนวโน้ม “เลือดไหล” ยังอุดไม่อยู่
และถึงตรงนี้ ไม่ใช่แค่ ส.ส.เกรดเอเท่านั้น โดยเงื่อนไขมันลามไปถึงเบอร์ใหญ่ๆ
จับตากระบวนท่า “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย ที่ซุ่มโป่งในช่วงหลังๆ ตามรายงานข่าวว่าบินไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์ “ทักษิณ” ที่ลอนดอน อังกฤษ
แต่ผิดหวัง กับอาการยึกยักของ “นายใหญ่” ยังไม่เคาะโต๊ะ
แถมแนวโน้มยังได้จังหวะอิงกับเงื่อนไขขบวนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายเสื้อแดงในพรรค เสนอให้ใช้ระบบ “โปลิตบูโร” หรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองของรัสเซีย มาใช้ในการเลือกหัวหน้าพรรค
นั่นก็ทำให้โอกาสสูงขึ้นเรื่อยๆที่เจ้าแม่เมืองกรุงจะถอยออกจากเพื่อไทย
ชิ่ง “นายใหญ่” ไปตั้งป้อมค่าย ลุยสู้ตายดาบหน้า.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน